ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพบุตรหน้ากากสิงห์ ตอน ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!

    ลำดับตอนที่ #10 : หลุมพรางแห่งรัก (ภาคอดีต) กิ่งทิพย์ - หทัยภัทร

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 470
      0
      17 ต.ค. 63


    ตอน หลุมพรางแห่งรัก (ภาคอดีต)

    คำโปรย : เป็นการเล่าถึงอดีตในวัยเรียนของดรีม หทัยภัทรพอรู้ลางๆ ถึงความสัมพันธ์ของดรีมและกิ่งทิพย์ จึงอยากเตือนเพื่อนรักด้วยความหวังดีว่าเขากำลังเล่นกับไฟ และ ความไม่จริงใจของกิ่งทิพย์ แต่ดรีม อลงกต ก็รู้สึกว่าใจตัวเองรักกิ่งทิพย์ เข้าให้แล้ว แต่ก็ยังตัดใจจากคุณมิ้นท์ไม่ขาด พยายามจะวนเวียนมาดักรอเจออยู่เสมอ แต่ก็ไม่ผิดหวัง เพราะคุณมิ้นท์หลบหน้า ไม่ยอมพบเขา!

    ตัวละครเด่นในฉากนี้  กิ่งทิพย์ - หทัยภัทร - ดรีม อลงกต





    วันนี้กิ่งทิพย์เรียนไม่มีสมาธิเอาเสียแล้ว หงุดหงิดกระวนกระวายใจมาตั้งแต่ช่วงบ่าย เมื่อได้ยินจากเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งของเธอในโรงเรียน เล่าให้ฟังว่า ณรงค์ พี่ชายตัวดีของเธอทำพิษ เขาไม่ยอมเข้าชั้นเรียน มีสารวัตรนักเรียนเห็นว่าปีนรั้วออกไปมั่วสุมอยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์หลังตลาด ในเมืองและมีเรื่องยกพวกตีกับเด็กช่างกลของโรงเรียนอีกแห่งด้วย จนครูใหญ่ต้องมีจดหมายไปถึงผู้ปกครอง ซึ่งก็คือคุณลุงของเธอนั่นเอง และคาดโทษว่า หากพี่ชายของเธอเกเร โดดเรียนอีก ก็จะมีการทำทัณฑ์บนไว้ และถ้าละเมิดกฎโรงเรียนอีก จนครบ 3 ครั้ง พี่ชายของเธอก็จะโดนย้ายโรงเรียนหรือโดนไล่ออกทันที....

           เมื่อเจ้ารงค์กลับมาถึงบ้านก็เสียงดังเอะอะโวยวาย โยนกระเป๋า เข็มขัด ถุงเท้าไปทาง ถอดเสื้อผ้านักเรียนกองเอาไว้ให้เธอเป็นคนซักให้อีกตามเคย หันไปคว้าผ้าขาวม้ามาคาดเอวแทนกางเกง เจ้ารงค์มันเป็นหนุ่มรุ่นกระทง กำลังห้าว ชอบการตีรันฟันแทง และเลือดร้อนเป็นนิสัย

    “เบื่อโว้ย...กลับมาบ้านไม่มีอะไรกินเลย เซ็งว่ะ” สบถอย่างหัวเสีย เมื่อเปิดตู้กับข้าว ไม่พบว่ามีอาหารมื้อเย็นทำเสร็จใหม่ๆ รอไว้ให้มันกินเหมือนประจำทุกวัน

    “อีกิ่ง ไปทอดไข่เจียวให้กูกินหน่อยสิวะ” หันมาสั่งน้องสาว ซึ่งเพิ่งกลับมาถึงจากโรงเรียนเช่นกัน

    “ฉันเหนื่อย เหนียวตัวด้วย ขอไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายก่อนไม่ได้เหรอพี่”

    “ไม่ได้ !! กูหิว จะกินเดี๋ยวนี้ ไปตีไข่เลย เร็วๆ ” เจ้ารงค์ตะโคกกลับ สายตาขุ่นเคือง

    “ฉันรำคาญพี่จริงๆ เลย เอาแต่ใจที่สุด ใจร้อนนักก็นู่น หน้าปากซอย ร้านข้าวแกง”

    “ถุ๊ย! ฝีมือห่วย ทำกินไม่ได้ รสชาติยังกะน้ำล้างตีน กูกินไม่ลงหรอกว่ะ” เจ้ารงค์ทำปากเหยียด

    กิ่งทิพย์เบือนหน้าหนีจากพี่ชาย ยิ่งนานวัน เธอก็เริ่มอิดหนาระอาใจในตัวเขามากขึ้นทุกที พอห่างพ่อห่างแม่ เจ้ารงค์มันก็ใช้อำนาจของความเป็นพี่เข้าข่มน้องสาว ประกอบกับคุณลุงของเธอ ซึ่งอยากได้ลูกชายใจจะขาด แต่เป็นหมันมีไม่ได้ พอรับเจ้ารงค์มาเลี้ยง ก็เอาอกเอาใจเข้าข้างมันจนมันเสียเด็ก รีบหันไปคว้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่หน้าห้อง แล้วตรงรี่จะเข้าห้องน้ำ ไปอาบน้ำเสียให้นานๆ ให้สบายใจสบายตัว อย่างน้อยๆ ก็เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ต้องปะทะคารมกับเขาชั่วครู่

    “อีกิ่ง นี่ไม่ฟังกูเลยเหรอวะ กูบอกให้ไปหุงข้าว ทอดไข่” เห็นน้องสาวทำเป็นไม่สนใจ เจ้ารงค์เลยชักพาลรีพาลขวาง เดินปราดเข้ามาประชิดตัว  ดันหลังน้องตัวให้เดินเข้าไปในครัวอย่างทุลักทุเล

    “อุ๊ยว้าย!..ตาเถร” ผู้เป็นน้องอุทานอย่างตกใจ เจ้ารงค์มันกำลังโมโหหิว ตาลาย เลยเผลอเดินไปชนน้องตัวเองเข้าอย่างจัง จนเซถลา ล้มไปโดนโต๊ะที่ใช้วางจานกินข้าวและเครื่องครัวที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบ หกระเนเกลื่อนพื้น

    “ขอฉันอาบน้ำก่อนละกัน เดี๋ยวทำให้ ใจเย็นๆ ได้ไหม”

    “กูจะรีบกิน แล้วรีบไป นัดกับเพื่อนไว้ค่ำนี้”  มันยืนกราน

    “พี่ก็ดีแต่ใจร้อน ถือว่าฉันเป็นน้องล่ะสิ เลยได้ใจ จิกหัวใช้เอา รำคาญนะจะบอกให้”

    “หนอย...กูเป็นพี่แท้ๆ แต่ใช้ไม่ได้ ต้องผัวสินะ ถึงใช้ได้น่ะ อีกิ่ง”

    เจ้ารงค์มันรีบประชด เพราะรู้ข่าวลือมาจากเพื่อนของมันอีกคนที่อยู่โรงเรียนเดียวกับกิ่งทิพย์ คลับคล้ายคลับคลาว่าน่าจะเป็นแฟนใหม่ของน้องมัน แต่มันเองก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเจ้าหมอนี่อย่างถนัดถนี่  

    “ใช่.. ขืนด่ามากๆ ฉันก็จะหนีไปหาผัวเสียเท่านั้น ให้ผัวใช้ ยังสบายใจกว่าจะมาทนฟังเสียงพี่ตัวเองบ่นว่า”

    “อ๋อ...อีกิ่ง นะ หน้าด้าน กระแตมาบอกได้ว่าเป็นผัว กูจะเอาเรื่องนี้ไปบอกไอ้ชัด ผัวมึงให้หมด”

    “กรุณาอย่าเรียกไอ้ชัดว่าผัวได้ไหมพี่รงค์  พี่ก็รู้ว่าฉันกับมันน่ะเราเลิกกันไปตั้งนานแล้ว มันหน้าด้านมาตื๊อฉันเอง”

    “แต่ยังไงมันก็เคยเป็นผัวเก่ามาก่อน กูรู้สันดานมันดี คนอย่างไอ้ชัดมันไม่ยอมปล่อยง่ายๆ หรอกจำไว้ ” ว่าพลางย้ำนิ้วจิ้มที่หน้าผากน้องสาวคนสวย  

    “ก็ตอนนี้ฉันมีผัวใหม่แล้ว ถ้าพี่เจอตัวมัน ก็ฝากบอกมันด้วยนะว่า อย่ามาวุ่นวายกับฉันอีก รำคาญ”

    “เออแน่ะ...ผัวใหม่ ใช่ไอ้เด็กหลังวัดคนนั้นหรือเปล่าฮึ ท่าทางอ้อนแอ้นดีนี่ จะปกป้องอะไรได้เล่า ฮ่าๆๆ” เจ้ารงค์มันหัวเราะอย่างดูถูก

    “อ้อ....ใช่สิ  ถึงเขาจะเป็นเด็กวัดก็จริงอยู่ แต่เขาก็เรียนเก่ง นิสัยดี เรียบร้อยกว่าพี่ละกันน่า”

    “ชิชะ นังนี่ โดนเดี๋ยวตบ ทำตีฝีปากใส่กูนะอีกิ่ง กูอ่ะเกลียดเด็กวัด อย่าให้เจอนะ จะแกล้งจับแก้ผ้าซะให้เข็ด”

    เพื่อจะดักคอ และปรามๆ ความคึกคะนองของคนพี่ไว้ครึ่งหนึ่ง จึงตอบไปว่า

    “อย่านะ...พี่ทำอะไรเขาไม่ได้หรอกน่า.. ดรีมเขามีเพื่อนเยอะ ถ้าพี่ทำเขา ระวังพี่จะโดนรุมนะ” สาวน้อยนิ่งตรองอยู่ครู่ ก่อนจะเอ่ยต่อ

    “อ่อ...แล้วนี่นะ ฉันจะบอกให้ ขนาดกะเทยในโรงเรียนยังรักเขาเลย อีกอย่างดรีมก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ ที่ใครจะมารังแกง่ายๆ ฉันเคยได้ยินคนเขาพูดกันนะว่า ดรีมเขามีฉายาว่า  “ไอ้สิงโตหลังโบถส์”

    เจ้าคนพี่นึกประหลาดใจ มันคิดอย่างทื่อๆ ว่าได้ยินชื่อเสียงเรียงนามว่า ไอ้ดรีมมันเป็นคนขี้ขลาดมาแต่ไหนแต่ไร ช้ำยังมีแต่โรคร้ายประดาตัว จะตายวันตายพรุ่งอยู่รอมมะร่อ จนป้ามันต้องไปบนบานเจ้าพ่อไทรขอชีวิต จนชาวบ้านเขาหัวเราะกันทั้งบาง จะอย่างไรก็คือไอ้ขี้โรควันยังค่ำ จะมาเก่งกว่าคนอย่างมันได้อย่างไร

    “อืม...ฉายานี้กูก็เคยได้ยินว่ะ แต่จะเก่งสักแค่ไหน มันก็คงไม่เหนือตีน หมัดศอก กูไปได้หรอก โดนชกหน้าทีก็คงคว่ำ จนลุกไม่ขึ้นแล้ว”

    “พี่นี่มันเถื่อนถ่อยได้ใจจริงๆ เลยนะ พูดจากระด้างหู หยาบคายก็เท่านั้น ถ้าดรีมรู้ว่าฉันมีพี่ชายที่มีนิสัยเยี่ยงนี้ล่ะก็ ฉันคงได้ขายหน้าจนแทรกดินหนี  ยังไงพี่ก็อย่าไปรังเกียจเขานะ ทำตัวดีดีหน่อยเวลาเจอเขา ถือว่าเห็นแก่ฉันที่เป็นน้องละกันนะพี่นะ” ขอร้องจนแทบจะกลายเป็นวิงวอน

    “หมายความว่า ต่อไปจะให้ไอ้ดรีมอะไรนี่ มาเป็นน้องเขยกูเหรอวะ อีกิ่ง นี่ชักเพี้ยนไปกันใหญ่ แปลกคน สวยก็สวยแต่โง่ ผู้ชายเต็มอัฐอย่างไอ้ชัด ทะลึ่งไม่เอา ดันไปคว้าไอ้ขี้แยมาทำผัว อีบ้า!”

    “หึ...อยากด่าอะไรก็ด่าไปเลย แต่พี่ห้ามฉันไม่ได้หรอก เรารักกัน ตั้งแต่คบกัน ฉันเพิ่งรู้ว่าคนอย่างเขาน่ะดีกว่าผู้ชายเลวๆ อย่างไอ้ชัดมันตั้งเยอะ”

    “โอ๊....อย่างนั้นเชียวรึ  ผัวของนี่คงจะวิเศษมาจากไหนสินะ กูชักอยากเจอตัวมันใกล้ๆ ซะแล้วว่ะ”

    “หล่อมากๆจ๊ะ  หล่อกว่าพี่ร้อยเท่า และที่สำคัญคือเขาชอบกิ่งมากด้วย”

    “อย่าเอามันมาเหยียบบ้านกูละกัน บัดสีความจน  มีน้องสาวกะเขาคนหนึ่ง ก็ไปคว้ายาจกมาทำผัว”

    “กูจะบอกให้นะ อย่างไอ้ดรีมเนี่ย มันสู้ของไอ้ชัดไม่ได้หรอกโว้ย..อย่างมากก็แค่ล่มปากอ่าวให้อารมณ์ค้าง ใครๆ ก็รู้ว่ามันไก่อ่อน ไร้น้ำยา”

    “นั่นปากเหรอน่ะ อย่ายั่วฉันนักนาพี่ จะบอกให้ ถ้าฉันทนไม่ไหว หนีกลับไปอยู่กับพ่อที่ปราจีนขึ้นมาล่ะก็ พี่จะลำบากนะ ใครจะคอยดูแล ซักผ้า ทำกับข้าวให้พี่กิน และฉันก็จะรายงานนิสัยพี่ให้พ่อได้รู้ให้หมด จากนั้นพี่จะก็อดเงินรายเดือนจากพ่อ อดซื้อมอเตอร์ไซด์คันใหม่ อดอะไรดีดีอีกหลายๆ อย่าง เชอะ!”  คราวนี้เจ้าคนน้อง สาธยายต่อไปอย่างได้เปรียบ ทำให้เจ้ารงค์เริ่มสำนึกตัวได้บ้าง

    “อิน้องขี้ฟ้อง ไป๊ ! รีบไปอาบน้ำเร็วๆ แล้วมาทอดไข่เจียวให้พี่กิน ด่วน...” มันสั่งเร็วปร๋อ เสียงที่เคยกร้าวแข็งเริ่มอ่อนลง

    “แทนตัวเองว่าพี่เป็นด้วยเหรอไง” กิ่งทิพย์แอบทุบเบาๆ ที่ไหล่ของพี่ชายจอมหัวรั้นอย่างหมั้นเขี้ยว

    “นี่...พี่รงค์จะบอกให้...ถ้าพี่อยากให้ฉันทำงานบ้าน ทำกับข้าวกับปลาให้พี่นะ พี่ก็อย่าดุ อย่าตะคอกฉันสิ ฉันเป็นน้องนะ ไม่ใช่ทาสพี่ พูดดีดีก็เป็น แต่ไม่ทำ”    
          
    อาหารมื้อเย็นของกิ่งทิพย์และเจ้ารงค์ ผ่านพ้นไปอย่างง่ายๆ  และรวดเร็ว มีไข่เจียว ผักน้ำพริก และปลาทูนึ่ง เจ้าคนพี่สวาปามอย่างเอร็ดอร่อย พ้นไปสองจาน ส่วนน้องสาวก็ได้แต่นั่งมองดูพี่กินและตัวเองก็กินไปด้วยอย่างภูมิใจ

    “เป็นไงละพี่ ขนาดทำแบบลวกๆ นะเนี่ย ยังอร่อยใช่ไหมละ ดูท่าทางพี่รงค์จะชอบไข่เจียวนะเนี่ย” กิ่งทิพย์ว่าพลางใช้ช้อนกลางตักไข่เจียวอีกคำใส่จานข้าวให้พี่ชายอย่างเอาใจ

    “เออ....ยอมรับว่าอร่อยมากจริงเชียว” เจ้ารงค์พยักหน้า พลางยกนิ้วให้ นัยว่าชื่นชมในฝีมือของน้องมัน

    “อย่างนี้แหละพี่ เขาเรียกเสน่ห์ปลายจวักค่ะ ต่อไปผัวจะรักผัวจะหลง” เจ้ารงค์ฟังน้องมันพร่ำแล้ว ก็ได้แต่หัวเราะหึหึ

    “ขอให้มันจริงดังว่าเหอะวะ ไอ้พวกเด็กวัดเนี่ยนะ มันเสเพลกันจะตาย ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ค่ำไหนนอนนั่น ไม่ต้องรับผิดชอบ ระวังนะอีกิ่ง ถ้ามันเกิดเบื่อขึ้นมาวันไหน จะโดนทิ้งกลายเป็นหมาหัวเน่า ร้องไห้มาฟ้องกู ก็จะตบซ้ำให้ เพราะถือว่าสอนแล้วไม่จำ อินังน้องไม่รักดี”

    “ดรีมเขาไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกพี่ เขารักจริง เชื่อฉันเหอะ ฉันมั่นใจว่าสยบเขาได้ แต่ตอนนี้ก็กังวลอยู่ เพราะคู่แข่งหัวใจฉันน่ะ ทั้งสวย รวย เรียนเก่ง แต่พี่เชื่อเหอะว่าน้องสาวพี่น่ะ ชนะขาดลอย ไม่เป็นสองรองใครแน่ๆ”

    “มั่นใจเหลือเกินนะอีกิ่ง แล้วกูจะคอยดู ว่าไอ้ดรีมจะไล่ตาม หรือจะไล่ตามมัน”

    “ปากคอพี่น่ะให้มันเพลาๆ ลงหน่อย สองคำอีสามคำ ฉันละเบื่อ จริงๆ พี่ก็รูปหล่อมีเสน่ห์นะ แต่ไม่ไหวอ่ะ ดุชะมัดเลย ผู้หญิงเป็นแฟนคงกลัว”

    “กูไม่สนใจเรื่องผู้หญิงยิงเรือหรอก เอ่อ...เห็นลุงบอกว่า จะเรียนต่อด้านภาษา ไปสอบเป็นแอร์ไม่ใช่เหรอ”

    “จ๊ะ ฉันจะเรียนต่อด้านไก๊ส์ เน้นภาษา อยากเป็นแอร์ใจจะขาด คงได้ทำฝึกอาหารอร่อยๆ แบบนี้บนเครื่องบินด้วย ให้ฉันทำเป็นหลายๆ อย่างก่อน จะกลับมาทำให้พี่กินบ่อยๆ นะ” เจ้ารงค์ยิ้ม รวบช้อนส้อมเข้าหากัน

    “อ้าว...อิ่มแล้วรึ  ไม่กินต่ออีกจานล่ะ เห็นว่าหิวจัดมา”

    “ไม่ล่ะ จะรีบไป นัดเพื่อนไว้”  เจ้ารงค์เดินไปเปิดตู้เย็น รินน้ำดื่มแก้กระหาย

    “เพื่อนพี่สำคัญมากขนาดนั้นเลย เย็นมาถึงอยู่ไม่เคยติดบ้าน จะกลับอีกทีก็ตีหนึ่งยันตีห้า ครูใหญ่เขาฝากเตือนฉันกับลุงมาแล้วนะว่าให้คาดโทษพี่ จะไล่ออก” คำว่าไล่ออกไม่ทำให้เจ้ารงค์สะทกสะท้าน ด้วยสันดานที่รักในทางนักเลงของมัน ทั้งใจมันเองตอนนี้ก็ไม่คิดอยากเรียนต่ออยู่แล้ว

    “ถ้าพี่เรียนไม่จบแล้ว พี่จะออกมาทำอะไรฉันอยากรู้ ริเป็นพวกหัวไม้ มันได้เงินใช้หรือไง” คนน้องทักท้วงอย่างนึกห่วง

    “แล้วมันธุระกงการอะไรของเอ็งวะอีกิ่ง กู..เฮ้ย..พี่ โตแล้วโว้ย...ได้ต้องยุ่งหรอกน่า” พอนึกมาได้ว่าน้องสาวไม่ชอบคำหยาบ เลยเปลี่ยนสรรพนามทันท่วงที

    “ฝากล้างจานด้วยนะ ขอบใจ ไปละ”  เจ้ารงค์พออิ่มได้ทีก็ทำท่าจะผละหนีไปดื้อๆ

    กิ่งทิพย์กำลังสาละวนอยู่กับการเก็บล้างถ้วยชามในครัวที่เพิ่งกินเสร็จ ฮัมเพลงไปด้วยอย่างมีความสุข เพราะทำไปก็นึกถึงแต่คนหน้าเจ้าดรีมคนรักไป เลยอารมณ์ดีขึ้นมาเป็นพิเศษ  ขณะที่เจ้ารงค์ รีบสวมรองเท้าหนังคู่เก่ง คว้ามีดพกคู่ใจ ที่เหน็บไว้ข้างฝาบ้านถอดออกจากฝัก

    “ช่างน่าครั่นคร้ามเสียจริง มีดลงอาคมของไอ้รงค์”
    เจ้ารงค์เอ่ยพลางชูมีดขาวปลาบแวววาวในมือขึ้นดู กระหยิ่มใจว่าวันนี้ฤกษ์ดี คงได้ใช้งานมันครั้งแรก พอเดือนขึ้น มีดเล่มนี้คงได้แสดงอิทธิฤทธิ์ดังคาถาที่ปลุกเสกเอาไว้ แล้วเจ้าหนุ่มผู้คลั่งในไสยเวทย์และเชื่อในอภินิหารแห่งชายชาตรี ก็นั่งก้มหน้าก้มตาลับมีดกับหินขัดอยู่ครู่หนึ่ง เอามือจับคมดู รู้สึกหนับๆ จึงพอใจ แล้วเก็บมีดซ่อนซุกไว้ที่เอวของมันอย่างมิดชิด

    “วันนี้ล่ะ ใครหน้าไหนมาทำซ่าส์กับกูเหอะ ได้มีเจ็บ มีหามกันบ้างล่ะวะ ฮ่าๆ” เจ้ารงค์หัวเราะในลำคออย่างแค้นๆ พลันความเดือดดื้อมุทะลุในนิสัยก็พุ่งขึ้นมา กระโจนขึ้น สตาร์ทมอเตอร์ไซด์เสียงดังกระหึ่ม กลิ่นควันรถลอยขโมงไปถึงในครัว อารามด้วยความตกใจ คนเป็นน้องสาวจึงรีบวิ่งแจ้นออกมาดูพี่ชายที่หน้าบ้าน


    “เดี๋ยวก่อน ไอ้พี่รงค์ พี่จะออกไปไหนอีก จะไปตีกับใคร กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ลุงบอกให้อยู่บ้าน ถ้ากลับมาไม่เจอ พี่โดนลุงเล่นงานแน่”

    กิ่งทิพย์ยืนมองพี่ชายตัวเองแล่นรถจากไปอย่างรวดเร็วจนลับตา จะห้ามปรามอะไรก็ไม่ทันได้  สาวน้อยได้แต่ยืนถอดถอนใจ ก่อนจะบ่ายหน้ากลับเข้าประตูบ้านไปตามเดิม เปรยขึ้นด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ

    “เฮ้อ...พี่รงค์ เมื่อไหร่พี่จะเลิกทำตัวเกเรซะทีนะ ฉันละเบื่อจริงๆ”

     

    +++++++++++++++++++++++++++






    หลังจากอ้างว่าตัวร้อนไม่สบายแล้ว เจ้าดรีมก็หาเหตุให้แฟนสาวรีบกลับบ้านไปก่อน ส่วนตัวมันแอบนั่งหลบมุมอยู่ใต้ศาลาพักร้อนของโรงเรียนที่ข้างสนามบาส กำลังเหม่อลอยอยู่ด้วยความตันอก พยายามหักใจให้คิดถึงแต่เรื่องอื่น แต่ก็ไม่วายนึกถึงสาวน้อยคนงามที่แอบรัก และมีหวังว่าจะได้เห็นคนที่มันอยากพบ อยากเจอ รอแล้วรอเล่า ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา และเมื่อนานจนผิดสังเกต ก็ทำให้เจ้าดรีมเริ่มกลัดกลุ้มใจ นั่งอยู่ไม่เป็นสุข  เดินวกไปวนมา อย่างกระอักกระอ่วนใจ

    “แปลกจริงๆ เลย ทำไมวันนี้ถึงไม่มาให้เราเห็นหน้านะ”

    เจ้าดรีมบ่นลอยๆ สายตามองไปที่หน้าอาคารเรียนหลังใหญ่สุด ซึ่งตั้งเด่นตระหง่านอยู่ใกล้ต้นหูกวาง อาคารนี้จัดว่าสร้างขึ้นอย่างสวยและดูดี ใหม่เอี่ยมกว่าอาคารเรียนอื่นๆ ข้างในยังมีห้องอย่างหรูเฉพาะครูระดับผู้บริหารของโรงเรียน ส่วนห้องถัดๆ มา แยกไว้สำหรับเป็นห้องเก็บเอกสารสำคัญ และห้องอื่นๆ อีกที่ใช้ในกิจกรรมสำคัญๆของทางโรงเรียน ปกติท่านประธานคนสวยของมันจะต้องลงมาทำธุระที่อาคารนี้หลังเลิกเรียนเป็น ประจำ เพราะหน้าที่ของหัวหน้านักเรียนอีกอย่างที่เจ้าดรีมรู้คือ ต้องส่งเอกสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเพื่อนนักเรียนในโรงเรียน ให้ท่านผอ.ให้ตรวจเช็คในแต่ละวัน ว่าแล้วเลยหันมาปรับทุกข์กับเพื่อนสาวคนสนิทอย่างหทัยภัทร

    “กวาง.. ทำไมพักนี้ ดรีมไม่เห็นคุณมิ้นท์เขาเลยอ่ะ เซ็ง....”

    “คุณมิ้นท์เธองานเยอะน่าดูนี่คะ ดรีมก็รู้นี่ว่าคนเป็นประธานน่ะ ความรับผิดชอบเพียบแค่ไหน”

    “ไหนเธอจะต้องท่องหนังสือสอบ ไหนจะช่วยงานอาจารย์ กิจกรรมต่างๆ โอย...สารพัดจะทำ คงไม่มีเวลาจะมานั่งเพ้อถึงหนุ่มๆ แถวนี้หรอกค่ะ”
    “ก็เข้าใจนะ แต่ก็น่าจะปลีกตัวมาคุยกันบ้างนะ อยากรู้ว่าทำอะไรอยู่ ที่ไหน คือดรีมเป็นห่วง”

    เจ้าดรีมชักเคืองใจ คุณมิ้นท์ของมัน จะเรียบร้อยเกินไปไหม เท่าที่รู้พอเลิกเรียนก็รีบกลับบ้านไปเรียนพิเศษต่อ เขาไม่เคยเห็นเธอไปยืนอ้อล้ออ้อยอิ่งกับใคร ที่หน้าโรงเรียนเหมือนพวกเพื่อนผู้หญิงคนอื่นๆ เลย  

    “คุณมิ้นท์เขามาเรียนค่ะ ไม่ได้มาจ้องหาแฟนเหมือนใครบางคน” หทัยภัทรกล่าว นึกค่อนขอดเจ้าเพื่อนรักไปด้วยในตัว

    ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าเจ้าดรีมมันหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องผู้หญิงเกินไป กลัวว่าการเรียนของมันจะถอยลงไปในเทอมนี้

    “จะว่ากระทบดรีมเหรอกวาง ดรีมเอาตัวรอดได้หรอกน่า” เจ้าดรีมว่า

    “แต่เธอควรจะหันกลับมาท่องหนังสือสอบได้แล้วนะ ใกล้สอบแล้ว เดี๋ยวไม่ทันการ มัวคิดถึงแต่ผู้หญิงอยู่ได้”

    “กำลังใจของดรีม ก็คือคุณมิ้นท์ ดรีมต้องมีคุณมิ้นท์คอยเป็นติวเตอร์อยู่ข้างๆ ไม่งั้นดรีมก็ไม่อยากอ่านหนังสือ”

    “จะบ้าเหรอ อยู่ก็คนละห้อง เรียนคนละสาย ถ้าคุณมิ้นท์จะช่วยเธอได้คงเป็นแค่วิชาคณิต เพราะใช้ข้อสอบชุดเดียวกัน แต่วิชาอื่นๆ เธอก็ต้องไปหาอ่านเอาเองนะ”

    “มานั่งติวกับกวางนี่ก็ได้มา เอาวิชาบัญชีก่อนเลยนะ เพราะเธออ่อนมาก แต่บอกไว้ก่อนนะ ถ้าติวก็ติวจริงๆ ห้ามเล่น ห้ามแหย่ ห้ามชวนคุยเรื่องอื่น กวางอยากมีสมาธิ ที่สำคัญคือห้ามจีบ!”

    ประโยคท้ายทำให้เจ้าดรีมตาวาวขึ้นมาทันที มันรีบนั่งลงข้างๆ เพื่อนสาว ส่วนมืออีกข้างก็โอบเอวอีกฝ่ายเข้าทันใด หทัยภัทรไม่ทันตั้งตัว ด้วยความที่มันตัวใหญ่และหนากว่า และเธอเองก็นั่งติดอยู่สุดมุมกำแพงพอดี ก็จนปัญญาจะถอยหนีเจ้าหนุ่มตัวเขื่อง เลยปล่อยให้ทำเอาตามใจ

    “ชี้โพรงให้กระรอกแท้ๆ ยัยกวาง” เจ้าผู้เพิ่งสวมวิญญาณนักรักมือใหม่ได้ไม่นาน หัวเราะอย่างได้ใจ แสยะยิ้มที่มุมปาก ก้มหน้าลงมาใกล้ๆ จนเกือบถึงซอกคอเพื่อนสาว

    “ดรีม อลงกต ทำไมเธอนี่นับวันยิ่งเจ้าเล่ห์ กะล่อนชีกอ มากขึ้นทุกที แต่ก่อนไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลย”

    “โห...ด่าเป็นชุดเลยนะ แต่เอาเถิด ให้อภัย เพราะกวางสวยขึ้นทุกวันต่างหาก...ดรีมก็เลยอยากอยู่ใกล้ๆ นี่นา จะได้มีแรงใจอ่านหนังสือเยอะๆ ไง” มันยิ้มกริ่ม

    แทบไม่น่าเชื่อ ตั้งแต่คบยัยกิ่งภายเวลาไม่กี่เดือน เจ้าดรีมมันจะกลายเป็นคนใจแตกเสียแล้ว ไหนจะยังเจ้าจินเหอเพื่อนตัวแสบ พ่อสื่อจอมยุอีกคน

    “อาเชงเขาสอนอะไรเธอบ้างนะดรีม นอกจากวิชาจีบสาวกับวิชานักเลงน่ะ”

    “ไอ้ตี๋มันทำให้ดรีมได้ค้นพบอะไรใหม่ๆ ในตัวเอง มันบอกว่าพวกผู้หญิงน่ะเป็นอาหารหวาน ยิ่งชิมก็ยิ่งอร่อยลิ้น แล้วก็สอนอีกว่า เกิดมาเป็นชายทั้งที มีศักดิ์ศรี  ถ้าโดนรังแกก่อน ก็ให้จ้ำกันไปข้าง ให้มันรู้กันไปเลย อย่าไปกลัวใคร” เจ้าดรีมกล่าวอย่างทะนง

    “ช่างเป็นเพื่อนที่แสนดี เธอก็เลยลองชิมตามที่เขาบอกงั้นเหรอ จานแรกคือแอบจับมือคุณมิ้นท์ จานต่อมาก็แอบแต๊ะอั๊งกวางหลายครั้งตอนเผลอ  แล้วพอไม่อิ่มก็ชิมจานสุดท้าย ต่อ คือจีบยัยกิ่งจนติดหนึบหนับภายในอาทิตย์เดียว โอว...พ่อคาสโนวามือใหม่ เก่งจริงๆ เลย ขอนับถือที่ผ่านหลักสูตร”

    "แต่มันยังไม่จบง่ายๆ หรอก เพราะอาหารจานที่สามมันน่ากลัวบอกไว้เลย"  หทัยภัทรประชด รู้ดีว่าคนอย่างกิ่งทิพย์คงไม่ยอมให้เจ้าดรีมรักแล้วทิ้งไปง่ายๆ จากที่คุยกันไม่กี่คำ ก็เห็นว่าหล่อนรอบจัดพอตัวอยู่

    “แต่ชีวิตแบบนี้มันก็ดีกว่าแบบเก่าไม่ใช่เหรอ ตื่นเต้นดีออก แบบเดิมแสนจะเหงาเดียวดาย เย็นชาไร้รสชาติสิ้นดี”

    “แล้วต่อไปเธอจะรู้ว่ามันไม่ได้สนุกอย่างที่เธอคิดหรอก ผู้หญิงน่ะ ไม่ใช่ของเล่นนะ จะบอกให้ ระวังให้ดีเหอะ”

    “ดรีมก็ไม่เคยเห็นใครเป็นของเล่นอยู่แล้ว” เจ้าดรีมตาหวาน รีบค้าน

    “ถ้าอย่างนั้น ก็รีบลุกออกไปห่างๆตัวกวาง กวางจะได้นั่งอ่านหนังสืออย่างสบาย ไม่อึดอัด เพราะดรีมมานั่งเบียด”

    “กิ่งเขาไปพูดอะไรให้กวางฟังเหรอ ถึงได้กลับมางอนดรีมต่ออีกรอบ”

    “แน่ล่ะ เขามาหาว่าเราเป็นแฟนกัน มองกวางไม่เป็นมิตร พูดง่ายๆ คือ เขากลัวกวางจะมาแย่งดรีมไปจากเขา”

    “เฮ้อ....ขนาดนั้นเชียว”

    “เริ่มเห็นแล้วใช่ไหมว่าการทำเจ้าชู้ ก้อร่อก้อติกกับคนอื่นไปทั่วนะ มันไม่ได้สนุกอย่างที่เธอคิด ที่แน่ๆ คือยัยกิ่งคงไม่สนุกไปกับเธอด้วยหรอก และเราทั้งคู่อยู่ห่างๆ กันไว้ก็ดี คุยเท่าที่จำเป็น กิ่งจะได้ไม่เข้าใจผิด กวางไม่ชอบปวดหัวกับเรื่องรักๆ ของเธอเลยนะดรีม”

    “อืม...รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียนสินะ จะคอยดู ขึ้นคานขึ้นมา จะหัวเราะให้ฟันหัก”

    “โอย...ตาย พ่อคุณ ทำแช่งฉันนะ อย่างกวางมีปัญญาหาแฟนได้หรอกย่ะ”

    “ไม่แน่หรอก บางทีผู้หญิงที่เก็บตัว-เรียบร้อยเกินไปอย่างกวาง คนเขาก็เบื่อเอาได้นะ”

    “ไม่ต้องห่วง กวางเป็นคนช่างเลือก เลยต้องเฟ้นคนดีดีสักหน่อย สมัยนี้ผู้ชายดีดีมันหายาก ที่มีอยู่ก็ไม่เข้าตา”

    เจ้าดรีมนั่งนิ่งสงบ เหมือนฟังโอวาทยังไงยังงั้น ว่าแล้วเจ้าหนุ่มน้อยก็วกกลับมาคุยเรื่องท่านประธานของมันต่อ….

    “กวาง อย่าเอาเรื่องของดรีมกับกิ่งไปพูดให้คุณมิ้นท์ฟังมากนะ ไม่ดีหรอก”

    “เป็นไงกลัวกิ่งจะแหกอกเธอเอาเหรอไง” เจ้าดรีมพยักหน้าแล้วรีบตอบว่าใช่

    “คุณมิ้นท์เขารู้แล้ว เขาลือกันออกทั้งโรงเรียนเรื่องตาดรีมมีแฟนเป็นหลานผู้ช่วย ผอ.”

    “จริงเหรอ ?”  เจ้าดรีมหน้าเสีย

    “เพราะโชคชะตาแท้ๆ ถึงทำให้ดรีมต้องห่างคุณมิ้นท์ มาคบกับกิ่งจนได้” พูดกลบเกลื่อนอย่างจะแก้ตัว

    “พูดมาได้ชะตา ในโลกนี้มันไม่มีหรอก ชะตาคือดรีมกำหนดเอง พรหมลิขิตคือเธอเลือกเขา เธอเต็มใจจีบเขา โดยไม่มีใครบังคับ จูงมือถือแขนกิ่งให้คุณมิ้นท์เขาเห็นคาตา แล้วเขาก็เข้าใจตามนั้นแล้ว ว่าเธอเองก็มีใจให้อีกฝ่ายด้วย”

    ข้อนี้เห็นจะจริง เจ้าดรีมได้แต่นิ่งฟัง ไม่กล้าปริปากเถียง หทัยภัทรจึงถือโอกาสพูดต่อ

    “ของแบบนี้ ปรบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกนะดรีม..ตอนนี้กิ่งเขาชอบเธอแล้ว เกาะแจไม่ไปไหน เพราะเธอไปให้ความหวังเขาก่อน อย่าคิดหน่ายหนี ทำอะไรรับผิดชอบด้วยนะ อย่าเคลิ้มคิดไปว่าผู้หญิงเป็นของเล่นสวยงาม เป็นดอกไม้จะเด็ดดมแล้วทิ้ง ทุกคนมีหัวใจเหมือนกันหมด คุณมิ้นท์ก็ด้วย”

    “ก็ดรีมรอคุณมิ้นท์ไม่ไหวแล้วนี่ คนอะไรอยู่สูงดั่งเดือนดาว ยิ่งเอื้อมยิ่งไกล แต่กิ่งเขารักตอบดรีมโดยไม่ต้องขอ.....มันหยุดคิดนิดหนึ่ง อึกอักข้างในใจ แล้วเอ่ยต่อ  "ว่าแต่ทำไมดรีมถึงรู้สึกไม่เป็นตัวเองอย่างไรก็ไม่รู้ เวลาที่อยู่กับกิ่ง”

    “สมน้ำหน้า...ต่อไปจะรู้ฤทธิ์ พวกผู้ชายก็แบบนี้ มักใจร้อน ชอบคว้าของที่กินง่ายเข้าปาก จะติดคอสำลักตายสักวัน จีบไม่ดูตาม้าตาเรือ”

    “ถ้าโลกนี้ถือว่าความรักเป็นเกมส์ ดรีมก็คงจะให้คุณมิ้นท์ชนะใครต่อใครอยู่แล้ว คุณมิ้นท์คือยอดดวงใจ ไม่มีใครแทนได้”
    หทัยภัทรเลี่ยนคำหวานเจ้าดรีมนัก แต่ก็ทนฟังไป
    "คุณมิ้นท์จะเป็นจันทร์เพ็ญที่ส่องสว่างกลางใจดรีมตลอดไป"

    “แต่ตอนนี้คุณมิ้นท์กำลังจะเป็นผู้แพ้ เพราะเธอลำเอียง เธอไปเลือกอยู่ข้างอีกคน ทิ้งคุณมิ้นท์ให้ต่อสู้อยู่คนเดียว เธอคิดอะไรอยู่เหรอดรีม ถึงไปคบกับกิ่งทิพย์ เธอรู้จักนิสัยใจคอผู้หญิงคนนี้ดีพอแล้วเหรอ รู้จักดีกว่าคุณมิ้นท์ ที่คบกันเป็นเพื่อนมาตั้ง 3 ปีเต็มเชียวหรือดรีม”

    “ลึกๆ แล้ว ดรีมก็ชอบคุณมิ้นท์มาก กวางเองก็รู้ไม่ใช่เหรอ แต่คงไม่มีสิทธิ”

    “ชอบแล้วทำไมถึงไม่รอ ของดีมีค่าอยากได้ ต้องอดใจสิ อะไรกันวะ แค่จีบไม่ถึงเดือน ก็มาด่วนบอกว่าผู้หญิงเขาไม่สนตัว ทำอดอยากปากแห้งไปหาหญิงอื่น อกมันแล้งนักหรือไง ผู้หญิงที่ดีน่ะ เขาไม่ได้ฟรีกันง่ายๆ หรอกนะดรีม มันก็ต้องมีเล่นตัวกันบ้าง แต่ถ้าเธอได้มาแล้ว เธอก็จะโชคดีไปตลอดชาติ ไม่ต้องห่วงกลัวว่าเขาจะนอกใจวันไหน เพราะความคิดแบบนั้น คนเป็นผู้หญิงดีดีเขาไม่ทำกัน เข้าใจไหม ไอ้ซื่อบื้อ”

    “คุณมิ้นท์เขาดีกับทุกคน ดรีมมันก็แค่เพื่อนคนหนึ่งที่เธอมีน้ำใจให้ แค่นี้ก็โชคดีจะตายไป” มันพยายามฝืนยิ้มแต่ในใจห่อเหี่ยว

    “อืม...คุณมิ้นท์อาจจะกำลังดูๆ เธออยู่ก็ได้นะ ไม่แน่หรอก ของแบบนี้มันไม่ได้เกี่ยวที่ฐานะชาติตระกูลอะไร แต่มันอยู่ตรงนี้ ที่หัวใจต่างหากเล่า” หทัยภัทรว่าพลางจิ้มนิ้วน้อยๆ ไปที่อกหนาๆ ข้างซ้ายของเจ้าดรีม  

    “จะว่าไป ดรีมก็เหมาะสมกับคุณมิ้นท์ดีนะ คนเก่งของโรงเรียนทั้งคู่ ข้างเธอก็เป็นเด็กกิจกรรมได้หลายรางวัล ทั้งงานแข่งขันดนตรี วาดภาพ แต่งกลอน ส่วนอีกฝ่ายเขาก็เพียบพร้อมจนไม่มีอะไรจะเปรียบ ใครๆ เห็นเข้า ก็อิจฉาจะตายไป”

    “แต่คงจะไม่ถึงขนาดกิ่งทองใบหยก เหมือนพี่อาร์ทของเธอกับคุณมิ้นท์หรอกมั้งนะ”มันประชด

    ลมหึงกำลังก้าวออกจากสายตาของเจ้าหนุ่มดรีมทุกขณะ ด้วยวัยวุฒิและสถานภาพที่เหนือกว่า ทำให้เจ้าอาร์ทได้มีโอกาสใกล้ชิดคุณมิ้นท์มากกว่ามัน !

     

    ++++++++++++++++++++++++

     

    สถานที่บรรยายฉาก โรงเรียนทวีศิลป์ (ตั้งฮั้วหมิน)





    คำโปรย : ดรีมพบความแปรปรวนทางด้านจิตใจของตัวเองอย่างหนัก  ซึ่งแม้แต่หทัยภัทรเองก็ ตกใจ ว่าทำไมดรีมถึงเปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนเดิมที่เธอเคยรู้จักเลย ทั้งความคิดและสภาพอารมณ์ของเขาที่โลเล ไม่มั่นคงเอาเสียเลย และทั้งคู่เอง แอบมีความรู้สึกที่ดีต่อกันอยู่ลึกๆ แต่ในใจของเขาและเธอ ก็ยังไม่มั่นใจว่า "มันใช่รักเกินเพื่อน" หรือเปล่า ความรู้สึกของทั้ง 2 ถูกเก็บงำ ซ่อนไว้ในใจ ในขณะที่ ดรีม อลงกต เริ่มแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัว หทัยภัทร มากขึ้นเรื่อยๆ ดรีมยังรักคุณมิ้นท์ แต่เธอเหมือนดอกฟ้า ที่เขาเอื้อมไม่ถึง จนหมดปัญญา ส่วนกิ่งทิพย์ ก็เริ่มรุกคืบความสัมพันธ์กับดรีมอย่างร้อนแรง เพราะเธอต้องการทำคะแนนนำหน้าคุณมิ้นท์ โดยจับเอาจุดอ่อนของดรีม ที่ไม่เคยได้สัมผัสและลิ้มรสในสตรีเพศ มาทำให้เขาหลงใหลในตัวเธอ ส่วนดรีมก็เริ่มหวั่นไหวไปกับความสวย คำหวาน เนื้อตัวหอมกรุ่น และ มารยาหญิง ที่กิ่งทิพย์กำลังหยิบยื่นให้เขาอย่างเต็มใจ!






    “เอาเลย อยากเชียร์พี่ตัวเองก็ตามสบาย ไอ้เรามันก็แค่เด็กรุ่นน้อง จนก็จน คงผิดนักล่ะสิ หากจะไปจีบแข่งกับเขา !” เจ้าดรีมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ ใจขุ่นเสียยิ่งกว่าน้ำในคลองหน้าแล้ง

    “คนอย่างคุณมิ้นท์ ใครบ้างไม่อยากได้เป็นพี่สะใภ้ กวางก็คนหนึ่งที่อยากได้ อยากม้าก...มาก”

    เหมือนจะยั่วยุให้อีกฝ่ายเคือง เจ้าดรีมกำหมัดแน่น แต่แล้วค่อยคลาย เมื่อคิดถึงฐานะแห่งตัว ในใจก็กลับท้อและฝ่อลงเสียเดี๋ยวนั้น ปลงตกว่า วาสนาของมันคงมีเท่านี้

    “จะว่าไปคู่นี้เขาก็เหมาะสมกันดีนะว่าไหมกวาง” กระแสเสียงที่เศร้าแลน้อยใจของเจ้าดรีม ทำให้หทัยภัทรนึกสงสารขึ้นมา จึงตอบและเล่าไปตามจริง    

    “ถึงพี่อาร์ทจะเป็นพี่กวางก็จริงอยู่ และเขาก็ดีพอจะวัดกับดรีมได้สบายๆ เผลอๆ อาจดีกว่ามากด้วยซ้ำไป แต่เรื่องแบบนี้กวางไม่เข้าข้างพี่ตัวเองหรอกค่ะ ของแบบนี้มันขึ้นอยู่ที่ตัวผู้หญิง ถ้าผู้หญิงไม่สนใจ ไม่เล่นด้วยซะอย่าง ต่อให้ตื๊อแค่ไหนก็เท่านั้น”

    “หมายความว่า คุณมิ้นท์ไม่ได้ชอบพี่อาร์ทแบบคู่รักเหรอ” เจ้าดรีมรีบถาม ฉีกยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย

    “ไม่รู้สิ แต่กวางเห็นเขางั้นๆ ก็คงคิดกันแบบเพื่อนกระมัง พี่อาร์ทพยายามเอาใจคุณมิ้นท์ทุกทาง ซื้อดอกไม้ซื้อขนมให้ แต่อย่างมากคุณมิ้นท์ก็แค่ขอบใจ ยิ้มให้ หรือบางทีก็แทบจะไม่รับของที่พี่อาร์ทให้เลยด้วยซ้ำ เธอบอกว่าที่ทนรับไว้ เพราะความเกรงใจต่างหาก”

    “แต่กับอีตาดรีม คุณมิ้นท์เขาถามกวางว่า คิดว่าดรีมเป็นคนนิสัยยังไง น่าคบหามั้ย?”
    “แล้วกวางบอกคุณมิ้นท์ไปว่าไง” ้ เจ้าดรีมรีบคาดคั้นถาม หัวใจเต้นโครมคราม อยากฟังคำตอบที่มันฝันไว้

    “ก็บอกไปแล้วว่าดรีมกะล่อน หลายใจ โลเลที่หนึ่ง” หทัยภัทรตอบเนือยๆ  นึกถึงพฤติกรรมของเจ้าดรีมแล้วยิ่งระอาใจ

    “โธ่เอ๋ย...หมดกัน ยัยกวาง ไม่ได้ลุ้นเลย” เจ้าดรีมตบเข่าตัวเองอย่างเจ็บใจ พลางส่ายหน้าปลงๆ

    “ทำไงได้ กวางหมั่นไส้ความใจง่ายของดรีมนี่ ก็เลยพูดไปแบบนั้น แต่อย่าฝันเลย ตอนนี้คะแนนรักเธอหล่นฮวบมาอยู่อันดับท้ายๆ แถวแล้วละ เมื่อวาน กวางเห็นลูกชายอัยการหล่อมาก รวยมาก เท่ห์มาก เขานั่งรถมาด้วยกันกับคุณมิ้นท์และพ่อของเธอ คงจะไปเที่ยวที่ไหนกันสักแห่ง”

    “หวังว่าคุณมิ้นท์คงไม่ชอบอีตาคนนั้นหรอกนะ หรือว่าพ่อเขาจะจับลูกสาวตัวเองคลุมถุงชนกับคนรวยๆ ด้วยกัน มีการตีตราจองตัวกันไว้ก่อนล่วงหน้า และเมื่อเรียนจบก็อาจจะหมั้นหมายหรือแต่งงานกันเลย ถ้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นดีเห็นงามด้วย เท่าที่ดรีมรู้มา พวกคนรวยๆ เขามักทำกันแบบนี้แหละ สมบัติมรดกจะได้ไม่รั่วไหลไปไหน มีหรือเขาจะให้คนจนๆ อย่างเราไปชายตาแลลูกสาวเขา เพราะกลัวจะมาเกาะกินเสียมากกว่ากระมัง”

    “ไม่รู้สิ ใจคุณมิ้นท์เดายากยิ่งกว่าไพ่เสียอีก แต่ตัวเธอเลิกฝันเสียเถอะ ดิ้นให้ตายยังไง ตอนนี้ยัยกิ่งคงไม่ยอมแน่ๆ”

    “ทำไมการที่จะทำให้คนน่ารักอย่างคุณมิ้นท์มารักเรามันถึงยากนักนะ” ดรีมเอ่ยเศร้า

    “จริงๆ มันก็อาจจะไม่ยากนะ ว่าแต่ตาดรีม มีดีพอที่จะได้หัวใจคุณมิ้นท์แล้วเหรอ ” หทัยภัทรย้อนกลับ

    “จ๊ะ ข้อนั้นรู้ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าไอ้หมาวัดตัวนี้ มันก็มีหัวใจเหมือนกัน !”  เขาประชด

    “แน้...เดี๋ยวนี้หัดเรียกร้องสิทธิทางหัวใจเป็นแล้วเหรอตาดรีม แล้วถ้าเจอตัวคุณมิ้นท์ กวางจะบอกให้นะว่ามีคนคิดถึง”

    “อืม...แล้วถ้ารู้ว่าคุณมิ้นท์อยู่ไหน มีกิจกรรมอะไร ก็อย่าลืมคาบข่าวมาให้ดรีมรู้บ้าง จะได้ตามไปเจอให้หายคิดถึง”

    “เหรอยะ..เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าตอนนี้ หากคุณมิ้นท์จะทำอะไร ต้องบอกนายดรีมคนนี้ด้วย”
    “เออน่า...รบกวนหน่อย สนิทกันไม่ใช่หรือ เดี๋ยวดรีมให้ค่านายหน้ากวางเอง ไม่ต้องห่วง”

    ค่านายหน้าของเจ้าดรีม ก็คือ ขนมที่ป้ามันทำขาย กิ๊บติดผม โบว์ผูกผมบ้าง หรือกำไลข้อมือสวยๆ สุดแท้แต่มันจะหามาได้

    “อีตาดรีม ฉันรู้นะว่า นายไปเอากิ๊บติดผมสีชมพูนั่นมาจากไหน จากยัยแว่นปากจัดใช่มั้ยล่ะ ไปแอบขโมยใต้โต๊ะเขามาอีกล่ะสิ”

    “โธ่...ก็ยัยแว่นน่ะ ขี้งกจะตาย มีตั้งไม่รู้กี่อัน บางอันก็เก่าจวนจะทิ้งขยะได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังหวง วันนั้นดรีมยืมปากกาแค่ด้ามเดียว ยังทวงซะครึ่งวัน เลยเจ็บใจแอบขโมยโบว์ผูกผมมาซะหน่อย เค้าหมั้นไส้น่ะตัว”

    หทัยภัทรฟังแล้วอดหัวร่อออกมาไม่ได้ นึกขันในความทึ่มและซื่อของเจ้าดรีม เธอรู้ว่าเจ้าดรีมได้อัฐมากินขนมแค่เพียงวันละ 20 บาทเท่านั้น แล้วเขาจะเจียดเงินที่ไหนมาซื้อของฟุ่มเฟือยให้เธอ ถ้าไม่แอบจิ๊กเพื่อนคนอื่นมา

    “ดรีม อย่าหัดเป็นคนขี้ขโมยนะ มันไม่ดี ถึงของจะเก่าก็จริง แต่เจ้าของเขาไม่อนุญาตนี่”
    “ย่ะ! แม่คนดีศรีโรงเรียน พรุ่งนี้ดรีมจะรีบเอาไปคืนแต่เช้าเลย”

    เจ้าดรีมกับยัยแว่น ฉายาจอมงกประจำห้อง เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เรียน ม.4 โดยนิสัยเจ้าดรีม เป็นคนขี้เล้นทะเล้น ส่วนยัยแว่นเองก็เป็นคนไม่ยอมใคร พอโดนเจ้าดรีมแกล้งทีไร ไอ้คนที่แพ้ภัยตัวเอง โดนเขาหยิกเขาตบข่วนเอา ก็มักจะไม่พ้นเจ้าดรีมคนเก่งของเธอนั่นเอง แต่ดรีม อลงกต มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ในนิสัย มันไม่เคยสู้หรือตบตีกับเพื่อนนักเรียนหญิงคนไหนในห้องเลย เว้นแต่ว่าจะโดนเพื่อนนักเรียนชายด้วยกันรังแกเข้าก่อน เจ้าดรีมก็จะออกลีลาพะบู๊สิงร่างขึ้นมาเป็นครั้งคราวไป ฉายา “สิงโตหลังโบถส์” จึงได้มาด้วยประการฉะนี้

    “ระวังยัยแว่น จะล้อว่าเธอเป็นตุ๊ดนะ เที่ยวไปขโมยโบว์เขามาให้กวางน่ะ”
    “ก็ดี ล้อมากๆ จะได้จีบซะเลย ยัยแว่นเรียนเก่งจะตาย ดรีมจะจีบเอาไว้ลอกการบ้านกับไว้ลอกข้อสอบ”

    ตั้งแต่สนิทเจ้าตี๋ หทัยเริ่มรู้สึกว่าใจเจ้าดรีมมันชักกำเริบรัก กู่ไม่กลับ หูตาแพรวพราว เห็นใครเป็นจีบดะ ไม่เว้นแม้แต่ยัยแว่น คู่ปรับที่อ้วนเป็นตุ่ม ชั้นเชิงจีบสาวของไอ้ตี๋เหลี่ยมจัดนัก คงได้ถ่ายทอดให้เจ้าดรีมหมดแล้วทั้งสิ้น คอยดูเหอะ สบโอกาสวันไหน หทัยภัทรเจอ จะสวดให้ยาว ข้อหาทำเจ้าดรีมของเธอเสียคน....

    “เอาเป็นว่า กวางเบื่อละ ของพวกนั้นอ่ะ ดรีมไม่ต้องลำบาก เราซื้อเองได้”

    หทัยภัทรก้มหน้าท่องหนังสือต่อไป สังเกตว่าเจ้าดรีมเริ่มมีอาการแปลกๆ อีกครั้ง เขาจ้องหน้าเธอนิ่งนาน สาวน้อยพลันหลบหลีกสายตาไม่ให้พบกับเจ้าดรีม ด้วยกลัวใจตัวเองอยู่ด้วยเป็นหลัก

    “งั้นๆ ดรีมให้ค่านายหน้ากวาง เป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม เป็นแลกจูบสักครั้ง พอใจไหม”  พูด ตะกุกตะกักแต่มือไม้ดันไวกว่า คว้าแขนแม่เพื่อนรักคนดีขึ้นมาจับ มาลูบไล้ หทัยภัทรตัวสั่นเทิ้ม หน้าชาเป็นสีแดงระเรื่อ รู้สึกร้อนผะผ่าวตามเนื้อตัวเหมือนจะเป็นไข้ หรือเพราะเขาเป็นชาย เราเป็นหญิง เลยรู้สึกขนลุกซู่แปลกๆ แต่ทำไมกับเพื่อนชายคนอื่นอย่างเจ้าก้องก็จับมือเธอออกบ่อยเช่นกัน กลับไม่ใจเต้นรัวเท่าครั้งนี้

    หทัยภัทรพยายามหาเหตุผลให้ดูน่าเชื่อ เธอยอมรับว่ากายภาพของเจ้าดรีมนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง จากเด็กตัวผอมโกร่ง ฟันหลอ หน้าเยินเป็นแผลเพราะชอบเล่นซนโลดโผน ที่เธอมักชอบล้อเขาบ่อยๆ ตอนประถมว่าเป็น “ไอ้หน้าแมวผี” แต่พอมันเริ่มโต ก็กลายเป็นหนุ่มรูปงาม ที่มีหน้าตางดงามคมสัน ท่าทีสง่าองอาจ เสียงเจ้ามีกังวานหวานหูน่าฟัง มีคมกวีอันจับใจไพเราะเป็นเลิศ  คุณสมบัติเหล่านี้ ล้วนต้องตาต้องใจคนเป็นผู้หญิงทั้งสาวน้อยสาวใหญ่อยู่ใช่น้อยทีเดียว เชียว....

    “ดรีมจ๋า... คือว่าเราก็โตๆ กันแล้วนะ เธอจะมาเล่นจับมือถือแขนเราเหมือนตอนเด็กได้ยังไง คนเห็นจะเข้าใจผิด”  สาวน้อยพูดพลางแกะมือเขาออก แต่เจ้าดรีมไม่สนใจฟัง แกล้งพูดเฉไฉไปว่า
    “ก็ช่างเขาประไร จะว่าไป กวางยิ่งโตก็ยิ่งสวยนะ ดูสิ แขนก็เรียว ผิวก็ดี ขาวกว่าดรีมอีก”

    แต่ก่อนนั้น ใครๆ ก็ว่าหทัยภัทรสวยน่ารัก และต่างอิจฉาเจ้าดรีมที่ได้ชิดเชย แต่เจ้าดรีมก็ไม่เคยนึกไปในทางชื่นชม เพราะเห็นว่าเป็นของใกล้ตัว เจอหน้ากันแทบทุกวัน แต่นานวัน กลับพบว่าใจคอเริ่มหวั่นไหว ยิ่งโตเป็นสาว หทัยภัทรยิ่งสวยหวานล้ำเข้าตา มีเสน่ห์อยู่ในท่าทางที่แช่มช้อยอ่อนโยน และมีใจที่ปราณีต่อมันอย่างไม่มีใครเสมอเหมือน เจ้าดรีมก็เริ่มรู้สึกอบอุ่น จนแทบจะกลายเป็นโหยหาในบางคราว

    ริมฝีปากรูปกลีบดอกไม้ที่สวยได้รูปน่าจุมพิต แม้ไม่แดงจัดและผิวไม่เป็นสีขาวไข่ปลอกขนาดคุณมิ้นท์ เพราะหทัยภัทรยังมีเชื้อไทยผสมอยู่มาก แต่คิ้วที่หรูอย่างหนึ่งไม่มีสอง และผิวงามผ่องค่อนไปทางเหลือง เป็นผิวสีน้ำผึ้งที่เนียนละเอียดอ่อนระเรื่อตาน่ามอง เส้นผมยาวดำสนิทตรงเป็นมันราวกับเส้นไหม ที่เจ้าดรีมเผลอไผลไปสัมผัสเข้าบางครั้งก็นุ่มมือน่าจับเสียจนไม่อยากปล่อย หุ่นสมส่วนบอบบางสะโอดสะองที่น่ากอดน่าถนอม จนถูกเพื่อนเลือกให้เป็นนางรำแถวหน้าของโรงเรียน ก็ไม่มีใครค้าน ทำให้เจ้าดรีมต้องหันกลับมาเพ่งเล็งเพื่อนสาวของมันคนนี้มากกว่าเก่า !

    “แล้วถ้า....ต่อไป ดรีมกับกิ่ง นิสัยเข้ากันไม่ได้ล่ะ เลิกกัน ดรีมจะบาปไหม แล้วมาคบกับคนใกล้ๆ ตัวแทน”
    เจ้าดรีมอึกอัก ในขณะที่ในใจกลับรู้สึกหวั่นไหวจนแทบจะกลายเป็นกระวนกระวาย ด้วยอากัปกริยาฉับพลัน เขาเผลอไผลตะปบกุมมือเธอไว้แน่น เหมือนจะสื่อให้รู้ว่าเขาหมายถึงเธอ หทัยภัทรเลยคืนสติให้ ด้วยการหยิกเข้าที่ต้นแขนเจ้าดรีมแรงๆ พอมันเจ็บจึงยอมปล่อย ร้องโอดโอย....นั่งมองเธอตาปริบๆ

    “นี่อย่างไร คนใกล้ตัว อยู่ในใจที่นี่” เจ้าดรีมย้ำ เอามือตบอกข้างซ้ายตัวเอง“

    “ใกล้ตัวเหรอ ไหนๆ ไม่เห็นมีสักคนเลยที่อยากคบกับตาดรีม”  สาวน้อยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บุ้ยปาก ชี้ไปที่จิ้งจกที่นอนนิ่งอยู่ข้างฝา

    “นั่นไง จุ๊ๆ ไอ้เจ้าตัวนี้เอง ที่อยากเป็นแฟนกับตาดรีม” เจ้าดรีมทำหน้าแหย เมื่อเห็นเพื่อนสาวแกล้งหยิบซากจิ้งจกตายโยนใส่เขา

    “เย้ย!..ผู้หญิงอะไรชอบเล่นกับจิ้งจก ไม่เอา อี๊ส์ ขยะแขยง”

    “แล้วเธอจะทำอย่างไรกับแม่หวานใจของเธอต่อไปล่ะ” เมื่อเห็นดรีมเงียบไป เลยชวนคุยต่อ

    “ไม่รู้สิ คงจะต้องตามใจเขา แต่ตอนนี้ชักหลงรักคนใกล้ตัวมากกว่า ชอบคนปากดี มือหนักๆ”

    เจ้าดรีมมันโน้มหน้าเข้าไปใกล้ รวบตัวหทัยภัทร เข้ามากอดไว้ในซอกแขนอันอบอุ่น ยิ้มให้อย่างละมุนละไม สายตาลึกซึ้งและคารมของมันทำอีกฝ่ายหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่แล้วก็รั้งใจกลับ กล่าวแก้ด้วยน้ำเสียงที่รู้ทันว่า

    “ยอมรับนะว่าดรีมเองก็น่ารักบางครั้ง แต่ถ้าให้เป็นแฟนละก็ กวางคงต้องคิดแล้วคิดอีก คิดจนโดดน้ำตายเลยดีกว่า”

    หันมาประสานตา พลางแลบลิ้นไส้เจ้าเพื่อนรักอย่างล้อๆ เหมือนเคย ก่อนจะดันอกเขาออกห่างตัว ฝ่ายเจ้าดรีมที่ถืออีโก้จัด กลัวเสียฟอร์มนักรัก เลยทำทีเป็นบ่ายเบี่ยงพูด

    “แน่ะ! ยัยขี้ตู่ เค้าหมายถึงผู้หญิงคนอื่นต่างหาก ไม่มียัยหทัยภัทรรวมอยู่ในนั้น รับรองได้” มันพูดหน้าตาเฉย ทำให้หทัยภัทรนึกหมั้นไส้หนัก อยากจะซัดเจ้าคนปากแข็ง เข้าให้แรงๆ

    “ย่ะ! พ่อหัวใจหลายเสี้ยว พ่อรถมือสอง กวางเองก็อยากได้คนโสดๆ ไม่เคยผ่านมือหญิงมาก่อนอ่ะนะ ฉะนั้นดรีมไม่อยู่ในสเปคของกวางแน่  ยิ่งเห็นยัยกิ่งทิพย์ทำท่าหวงก้างแฟน ด้วยแล้ว ก็ยิ่งขนลุก อี๊ยส์! บอกตรงๆ กวางไม่อยากโดนตบ” หทัยภัทรทำท่าขนลุกเมื่อนึกถึงกิ่งทิพย์ !




    “นั่นดูยัยกวางพูดเข้า คนย่ะ! ไม่ใช่รถ จะได้มีมือสอง” เจ้าดรีมประชดลอยๆ

    “พี่อาร์ทเคยสอนกวางว่าพวกผู้ชายน่ะ เหมือนกังหัน เวลาลมมันพาไปทางไหน มันก็พัดไปทางนั้นล่ะ กวางถึงได้กลัวนักล่ะ” ว่าพลางส่ายหน้าปรับทุกข์กับตัวเอง

    “ยิ่งกวางกลัวมันมาก แล้วมันจะมาได้กับอกตัวเองเสียล่ะ โบราณว่าเกลียดอย่างไหนมักได้อย่างนั้น กวางเกลียดคนเจ้าชู้ บอกพี่อาร์ทอยู่ทุกวันอย่าริไปเกี้ยวใครหากไม่รักจริง แต่ตัวกวางเองก็กำลังเจอคนบางคนที่คิดทำอย่างนี้กับกวางอยู่เหมือนกัน”
    เจ้าคนเป็นเพื่อนพอฟังก็นึกฉงน ไม่เข้าใจ คิดเขวไปต่างๆ แต่แล้วก็จับเค้าได้ว่าหทัยภัทรคงจะหมายถึงมัน เลยทำเป็นยกเรื่องขึ้นแก้ต่าง

    “ด้วยเหตุนี้เองน่ะหรือ กวางถึงไม่ยอมมีแฟน กลัวคนอื่นจะมาหลอกกิน คนที่รักจริงก็มีนะจ๊ะกวาง เคยได้ยินไหมเขาว่า มีผู้ชายอยู่คนหนึ่งแสนรักจริงและตายแทนได้” เสียงมันหวานระรื่นหู ทั้งหว่านทั้งล้อมไปตามประสาคนเจ้าคารมดี

    “แต่คงไม่ใช่ตาดรีม อลงกต แน่ๆ ฟันธง”  ฝ่ายเพื่อนสาวรีบตอบทันใจ

    ทีนี้ฝ่ายเจ้าดรีมชักเริ่มฉุน พลันลุกพรวดขึ้นอย่างเร็ว ยืดอก มือเท้าสะเอว ตอบกลับเสียงแข็งทันท่วงที

    “เอาเหอะ! สักวันกวางจะเข้าใจว่าดรีมจริงใจ..ไม่ได้ลวงรักใครเลย แม้แต่กวางเองก็เหอะ ดรีมก็ไม่เคยลวง แล้วก็..เอ่อ...” เขายังพูดไม่จบ ก็ถูกหทัยภัทรสวนขึ้น

    “แล้วไง...แล้วก็จริงใจกับผู้หญิงทุกคนที่เล่นด้วยกับเธอ ใครให้ก็เอา รีบคว้าไว้ ว่างั้น หรือว่าใจจริงอยากจะทดลองอะไรใหม่ๆ ที่มันซาบซ่านซู่ซ่ากันแน่ฮึ!”

    “อึ๊ย!..ไอ้เรื่องนั้นน่ะเหรอ  มันยังไม่ไปไกลถึงขั้นนั้นหรอก ดรีมยังไม่กล้าพอหรอกจ๊ะ ขืนแอบมีล่ะก็ ป้ารู้คงตีตาย”  

          เจ้าดรีมยิ่งคิดยิ่งเสียวใจ ยังจำได้ดีเมื่อช่วงวันหยุดที่แล้ว กิ่งทิพย์ชวนมันไปอ่านหนังสือสอบที่บ้าน ในวันที่ป้าของเขาไปดูงานที่ต่างจังหวัด ชะรอยว่าพอฝนตกหนัก ไฟฟ้าเกิดดับวูบลง มันก็รีบหาเทียนไขมาจุดให้สว่าง เห็นหน้าสาวคนรักสวยเด่นอยู่ในความมืดสลัวที่บรรยากาศโรแมนติค ตอนนั้นฝ่ายสาวเองก็เพิ่งอาบน้ำ กระโจมอกออกมาจากห้องแต่งตัว หยาดน้ำยังเกาะพราว อยู่ที่ไหล่ขาวนวลเนียนอมชมพู ซ้ำได้กลิ่นเนื้อสาวสดและหอมกรุ่นด้วยสบู่น้ำนมโชยเข้าจมูกมา เล่นเอาเจ้าหนุ่มชักใจระรัวขึ้นมาดั่งกลองเพล มันเริ่มสั่นไหว เหมือนอะไรบางอย่างมาสิงในอกตัว ทำอารมณ์สะท้านไหวเยือกยิ่งกว่าฟ้าที่ตั้งครึ้มภายนอก ให้วาบหวิว ปริวิตกอยู่เป็นนานสองนาน

          ยิ่งเห็นสาวน้อยคนรักรีบโผเข้าไปกอดรัดเขาไว้แนบแน่น ทรวงสมบูรณ์อวบอิ่มละลานตากลางแสงเทียนสัมผัสเคล้าคลึงอยู่ที่หน้าอกหนาของ มันเต็มๆ และเนิ่นนาน พลางได้ยินคำพรอดรัก พิรี้พิไรที่สาวเจ้าเอื้อนเอ่ยวจีมา กระซิบรำพัน อยู่ข้างๆ หู ยิ่งฟังยิ่งหวามใจหนัก เจ้าดรีมมันก็ยิ่งนึกกระสันสวาท เคลิบเคลิ้มในกายตน ละล้าละลังใจหนักขึ้นทุกที  ดั่งมนต์ดลจิต ผีครอบผีอำ เผลอก้มหน้าก้มตาลงจูบที่แก้ม หน้าอกและที่คางเธอ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ขัดขืนใดใด มันก็ยิ่งจูบวนเวียนซ้ำไปมาอย่างย่ามใจ จากจูบที่แผ่วบางอ่อนโยนตอนต้น จนถึงแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนในตอนท้าย แล้วฝ่ายนังผู้หญิงเองก็สนองจุมพิตกลับมาอย่างสนิทแน่นดุจเดียวกัน

          ทีนี้ฝ่ายเจ้าผู้ชาย ด้วยความไม่เคยหญิง จึงเกิดความตระหนกและเดียงสาจนไม่อาจทำอะไรที่ไม่บังควรได้เลยในเวลานั้น เพราะแต่ไรมา เกิด-ลืมตา ก็มิเคยถูกเนื้อแนบตัวเปล่ากับนารีเพศแบบเต็มรักเต็มใบเท่าครั้งนี้  ซ้ำใน บ้านก็แสนจะเงียบเชียบเป็นใจ อยู่ดีดีสาวเจ้าก็โดดขึ้นไปนอนแน่วนิ่งอยู่บนเตียง กล่าวเสียงเชิญชวน บอกมันให้เข้าไปกอดหน่อย อ้างว่ากลัวความมืดจะกลืนเธอ แล้วถือเอาตอนเผลอ ดึงมือเจ้าดรีมตะปบลงไปที่หน้าอกหน้าใจแบบเต็มๆ ครั้นพอเจ้าดรีมตกใจรีบชักมือกลับ กิ่งทิพย์กลับจงใจยึดมือเขาไว้มั่น เหมือนต้องการจะให้อีกฝ่ายขยำขยี้ลงไปเสียแรงๆ มากกว่าการสัมผัสเพียงแผ่วเบา

    “ดรีม! เข้ามากอดกิ่งแน่นๆ หน่อยสิคะ มืดจัง กิ่งกลัวค่ะ”
    เสียงออดอ้อนของกิ่งทิพย์ที่เรียกเขาคืนนั้น ยังก้องอยู่ในหัวจนบัดนี้ แต่ครั้นพอไฟติด สว่างแล้ว ถือว่าโชคยังพอมีบ้าง เจ้าหนุ่มน้อยผู้ใจซื่อ มันจึงรอดพ้นจากชะตาอันคับขันนั้นไปได้อย่างกระท่อนกระแท่น  

         เขาเล่าให้หทัยภัทรฟัง ถึงคราวที่อยู่กันสองต่อสองกับกิ่งทิพย์อย่างไม่ปิดบัง ฝ่ายเพื่อนสาวพอฟังความจบ ก็นึกเป็นห่วงเจ้าเพื่อนรักขึ้นมาตะหงิดๆ กิ่งทิพย์คงไม่ยอมรามือง่ายๆ จนกว่าจะสมปรารถนาแห่งความใคร่ของหล่อนในคืนหนึ่งบนเตียงนอนกับเขานั่นแหละ คือจุดหมาย เกิดไปผิดพ้องกันขึ้นมาล่ะจะยุ่ง เธอคงไม่ยอมปล่อยเจ้าดรีมหลุดมือเป็นแน่ หล่อนจะถือเอาข้อที่เสียสาวให้เจ้าดรีมแล้ว ขึ้นตั้งหน้า เล่นแง่กับเขาตามใจชอบ ถึงเวลานั้นเจ้าดรีมจะต้องกลายเป็นแกะน้อยตัวอ่อนที่ถูกกิ่งทิพย์ เคี้ยวอย่างง่ายดาย เมื่อรักโดดเข้าสิงใจแล้ว เจ้าหนุ่มน้อยผู้เพิ่งรู้รสชาติผู้หญิง มันก็จะเชื่องเป็นลิ่วล้อที่ยอมฟังทุกอย่าง สุดแท้แต่เจ้าหล่อนจะจับเขาหันไปทางไหน หทัยภัทรรู้ดีว่าเจ้าดรีมอ่อนใน มารยาหญิง ยิ่งมีคู่แข่งทางหัวใจที่น่าท้าทายอย่างเช่นคุณมิ้นท์ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ฝ่ายนั้นนึกทะยานใจ ด้วยความอยากเอาชนะ เพื่อจะได้เจ้าดรีมมาครอบครองให้ได้ทั้งตัวและหัวใจ

    “แล้วเธอเข้าไปตะโบมหน้าอกเขาอย่างที่เขาต้องการหรือเปล่าล่ะดรีม” แกล้งถามเพื่อหยั่งใจ

    “ไม่หรอกจ๊ะ ดรีมห้ามใจเอาไว้ทัน” เจ้าดรีมขมวดคิ้วเข้าหากัน ริมฝีปากรูปคันศร เม้มสนิทเป็นเส้นตรง ก่อนเอ่ยต่อ

    “ดรีมนึกถึงคำพูดของกวางตลอด ว่าอย่าใจเร็วด่วนได้ เพราะยังเป็นแค่เด็กมัธยม ยังเรียนไม่จบ”

    “เรื่องมีเซ็กส์กับเพศตรงข้ามน่ะ ไม่ต้องรีบหรอก เธอเป็นชาย ยังไงสักวันก็ต้องมีจนได้ล่ะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ รอเรียนจบ หางานทำให้ได้ก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องนี้ก็ได้นะดรีม”

         เธอตระหนักดีว่าเจ้าดรีมมันเป็นคนใฝ่ดี ต่างกับเพื่อนของมันหลายคนที่เธอเคยรู้จัก เธอเองก็หวังจะให้เขาดีต้นจรดปลายอยู่แบบนั้นได้นานที่สุด ถ้าเจ้าดรีมจะหัดรู้จักยับยั้งความต้องการที่เป็นธรรมชาติของผู้ชายไว้ได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีและควรสนับสนุน อีกทั้งป้าของเจ้าดรีมเอง ก็ฝากฝังเธอให้ดูแลและควบคุมนิสัยที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยของมันให้จงได้ เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนรัก คงตักเตือนกันได้ และเจ้าดรีมเองก็คงจะฟังหทัยภัทรมากกว่าใครๆ

    “แต่ดูเหมือน กิ่งเขาจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เลยนะ พอดรีมทำเฉยๆ เขาก็เริ่มรำคาญ ขอตัวกลับบ้านซะงั้น”

    “ช่างใจเขาเหอะน่า อย่าไปแคร์ อย่าไปคิดมากเลย” ตบไหล่เพื่อนเบาๆ อย่างปลอบใจ

    “ใจจริงดรีมก็สงสารเขาเหมือนกันล่ะ กิ่งบอกว่าสักวันจะทำให้ดรีมยอมกิ่งให้ได้”

    “อย่างนี้แหละนะ เขาเรียกเจอของจริงเข้าให้แล้ว อีตาดรีมเอ๋ย...นายตายแน่  ระวังตัวหน่อยก็ดี”

         คำพูดของเพื่อนรัก ทำให้เจ้าดรีมเริ่มรู้สึกว่า ตัวมันเขลาลงไปถนัด แต่กิ่งทิพย์เป็นผู้หญิงที่ใจไวจริงหรือ ถึงกระนั้นแล้วเจ้าดรีมเองมันก็ยังรักและอาลัย เพราะถือว่าคบหากันได้ครึ่งทางใจแล้ว ไอ้ครั้นจะทิ้งเสีย ก็จะกลายเป็นความโลเลอย่างน่าละอาย จะพาให้คนเขาลอบชำเลืองซุบซิบนินทาเอาได้ ผิดความตั้งใจที่เคยปฏิภาณตนไว้ในโบถส์ว่าจะเป็นคนรักเดียวใจเดียว ไม่รักผู้หญิงแต่เพียงชั่วแล่น ให้เสียชื่อเสียเกียรติของคนอย่างมัน ใจพี่ไม่บัดซบถึงปานนั้นหรอก กิ่งเอ๋ย...จงวางใจเถิด พี่ถือสัจวาจา ไม่ทิ้งเจ้าแน่  แม้จะรักคุณมิ้นท์อย่างสุดชีวีก็ตามที เจ้าดรีมนึกในใจ...ล่องลอยไปในภวังค์ความคิดของมันคนเดียว พลันน้ำตาจะหลั่งเพราะความตื้นใจในรักที่ตั้งมั่น....

    “คงปฏิเสธใจตัวเองไม่ได้สินะว่าลึกๆ แล้วก็อยากมีผู้หญิงข้างกายอยู่มากหรอก” หทัยภัทรเปรยเหมือนรู้ใจเพื่อน ด้วยกำลังอยู่ในวัยที่สดใส คิดใคร่อยากลอง สิ่งแปลกใหม่ เจ้าดรีมมันต้องการเพศตรงข้ามที่สวยน่ารักมาฉอเลาะออเซาะแนบกาย เคล้าเคลีย เหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ อย่างที่เห็นที่เป็นกัน และเมื่อกิ่งทิพย์ผ่านเข้ามาในเส้นทางชีวิต มันก็รีบคว้าไว้อย่างใจ....

           สำหรับเจ้าดรีมแล้ว เพศตรงข้าม คือเพศที่อยู่กันอีกซีกโลก ยากจะมาบรรจบและเข้าใจ รอบกายเจ้าดรีมจึงล้วนมีแต่บรรดาเพื่อนชาย ส่วนเพื่อนผู้หญิงที่สนิทชิดเชื้อ ก็มีแค่ หทัยภัทร คนเดียว !

    “ถ้าลองมีอะไรกับผู้หญิงไปแล้ว เราจะหลงเขามากมายขนาดนั้นเลยเหรอ ดรีมเคยได้ยินเพื่อนดรีมมันบอกอย่างนั้น”

            เจ้าดรีมมันเห็นตัวอย่างมาจากเจ้าก้อยเพื่อนมัน แต่เดิมแล้วเจ้านี่ก็ดูดี เป็นตัวของตัวเอง แต่พอได้เสียเมียคนแรกไอ้หมอนี่ก็เปลี่ยนไปเป็นเห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อน และตอนนี้มันไม่ต่างอะไรกับทาสในเรือนเบี้ยของเธอ ดูราวกับขี้ข้าคนหนึ่ง เดินตามผู้หญิงต้อยๆ ถูกใช้งานจนหลังแอ่น ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้ก็เป็นไม้เสียสิ้น ดังนั้นบางทีมันจึงกลัวพวกผู้หญิงนักล่ะ เคยอ่านหนังสือว่าสตรีคืออสรพิษร้ายทางใจ มันก็เกือบๆ จะเชื่อไปในทางนั้น

    “ไม่รู้สินะ กวางเองก็ไม่เคยมีอะไรกับใคร แต่ถึงมีก็คงอธิบายให้ดรีมฟังไม่ได้ เพราะชายกับหญิงมันต่างกัน”

    “ทำไมผู้หญิงถึงชอบใช้งานแฟนตัวเองล่ะ ทำเองไม่เป็นเหรอ” หทัยภัทรขำ เจ้าดรีมมันช่างซื่อได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู น่าบิดแก้ม

    “ก็เป็นธรรมดา ผู้หญิงเป็นเพศอ่อนแอ ต้องการเอาใจใส่ปกป้อง เมื่อรักกันแล้ว ก็ต้องดูแล ช่วยเหลือกันบ้างสิ มันเป็นหน้าที่ของผู้ชาย เธอจะเปลี่ยนกฎใหม่เหรอ ให้ผู้หญิงเป็นผู้นำ แล้วให้ผู้ชายเป็นผู้ตาม”

    “เป็นชายก็ลำบากเหมือนกันนะ หทัยภัทร” เถียงคอเป็นเอ็น

    “เป็นหญิงลำบากกว่า เอาง่ายๆ ถ้ามีอะไรกัน ใครเป็นฝ่ายเสียเปรียบ”

    “ก็เสียทั้งคู่สิ” เจ้าดรีมตอบ

    “ไม่หรอก ผู้ชายน่ะไม่ท้อง จึงร่อนเร่ไปเรื่อย  รักได้หลายๆ คน จะไปนอนกับผู้หญิงกี่คน ก็ไม่มีเสีย ดูอย่างดรีมก็ได้ จะลมเพลมพัด เกี้ยวคนนั้นทีคนนู้นที เพื่อนชายก็แทบจะยอไม่หยุด ชอบใจบอกเก่งมีเสน่ห์  แล้วถ้ากวางทำอย่างดรีมบ้างล่ะ จะถูกมองว่าเป็นคนอย่างไร แรดใช่ไหมล่ะ” หทัยภัทรยกตัวอย่างและเธอพูดตรงเสียจนเจ้าดรีมสะดุ้ง

    “เออ...จริงของเธอ กวางพูดต่อสิจ๊ะ ดรีมอยากฟัง”
    เจ้าดรีมคะยั้นคะยอถาม รู้ดีว่าหทัยภัทรฉลาดกว่ามันมากโข สิ่งที่เธอพูดออกมา ได้สอนใจเขามากขึ้นเรื่อยๆ

    “รู้มาอีกอย่าง คือผู้ชายแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนได้แล้วลึกซึ้งฝังใจรักจริง แต่บางคนก็คงคิดว่า เป็นของสนุกชั่วคราว เพราะแค่อยากลองมั้ง”

    “ไม่มีอะไรจะบอกมากกว่านี้แล้วเหรอ  แม่คนช่างพูด"  เอื้อมมือไปบิดที่ปลายจมูกเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู รักใคร่

    “ค่ะ กวางคงช่วยดรีมได้แค่นี้จริงๆ ถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้ ก็ลองไปถามเพื่อนที่เคยมีประสบการณ์สิ“ หทัยภัทรตัดบท

    “ดรีมอยากจะหนีไปให้ไกลคนบางคน ชักกลัวๆ หวาดๆ” เจ้าดรีมมันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

    “คงไม่ทันแล้วล่ะ นอกเสียจากเธอจะกลายเป็นตุ๊ดที่ชอบผู้ชาย” เจ้าดรีมฟังแล้วหัวเราะร่าขึ้นทันทีทันใด

    “ไอ๊หยา! กะเทยอย่างนั้นล่ะสิ  ผมไม่ตุ๊ดไม่เกย์ครับ รับรองได้ มั่นใจ” ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่น

    “แต่ตอนนี้เธอกำลังลองเล่นกับไฟ เธอก็ต้องดับมันให้ได้ด้วยตัวเองนะ ถ้าดับไม่ได้ สักวันไฟมันก็จะลามจนเผาตัวเธอตาย วันใดวันหนึ่งแน่นอน !!”

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++
     

    เพลงประกอบปิดท้ายตอน


     

    หลังจากเจ้าดรีมตัดสินใจคบกับกิ่งทิพย์อย่างจริงจังแล้ว จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในชีวิตของเขาบ้าง บางเรื่องอาจเป็นสิ่งที่เกินคาดถึง และ ดรีมจะมีวิธีสานความสัมพันธ์อันดีของเขาและสองเพื่อนรักที่หวังดี อย่าง คุณมิ้นท์ และ หทัยภัทร ให้ยาวนานต่อไปได้อย่างไร ส่วนคุณมิ้นท์จะมีความรู้สึกตอบโต้อย่างไรกับคนอย่าง'ดรีม อลงกต' หลังจากเหตุการณ์ถัดไปต่อจากนี้ ! หทัยภัทรจะรอดพ้นจากความเจ้าชู้ และ อ่อนไหวของดรีม ได้หรือเปล่า ?





     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×