ตอนที่ 9 : ตอนที่ 8 ต่อให้ต้องขายชีวิต
ตอนที่ 8
ต่อให้ต้องขายชีวิต
ตกลงค่ะพี่ป้อ...ดาวพร้อมรับงานนี้...ขอให้ได้เงินมาเร็วที่สุด...อาการของพ่อรอต่อไปไม่ได้แล้ว เธอรับข้อเสนอจากป้ออย่างไม่มีข้อลังเลสงสัยใดๆอีก
ก็อย่างที่บอกสาวรุ่นพี่ไป ต่อให้ขายชีวิต เธอก็ยอม
ป้อยื่นมือมาจับมือเล็กเรียวสวยจนหล่อนยังต้องอิจฉา บีบเบาๆ ให้กำลังใจ คนกตัญญูรู้คุณพ่อแม่อย่างเธอต้องได้ดีในวันหน้าแน่ๆดาวพี่แน่ใจ...แล้วถ้าหมดสัญญาหกเดือนนี่แล้ว โลลิต้าก็ยังยินดีจะต้อนรับเธอเหมือนเดิมนะ
เคียงดาวยิ้มอย่างโล่งอกออกมาได้เป็นครั้งแรก เมื่อปัญหาการเงินที่หนักอึ้งมีทางออกแล้ว
แต่ถึงเวลานั้น เธอก็คงเป็นเศรษฐีน้อยๆ ไม่ต้องกลับมาเต้นกินรำกินอีกแล้วกระมัง
ดาวไม่รู้จะขอบคุณพี่ป้อยังไง?
ป้อยิ้มให้เธอ...แม้รู้สึกผิดเล็กๆกับค่านายหน้าที่ได้มา แต่ว่าหล่อนมีเจตนาช่วยเหลือนี่นา
ไม่เป็นไรดาว อะไรที่ช่วยได้พี่ยินดี
ทั้งสองยิ้มให้กันด้วยไมตรีจิตที่ดี ป้อนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนที่มาติดต่อแล้วอมยิ้มในหน้าไม่หุบ ยื่นหน้ามากระซิบกระซาบ
ดูท่านายจ้างเธอ จะทั้งหล่อทั้งรวย แถมเขายังชื่นชอบเธอเป็นพิเศษ ถึงกับรีเควซเจาะจงโดยตรง ทุ่มค่าจ้างแสนแพงอีกต่างหาก สบโอกาสยังไง ก็จับให้อยู่หมัดเลยนะยัยดาว จะได้สบายไปทั้งชาติ
เคียงดาวสะอึกต่อคำแนะนำของป้อ เอ่อ...ดาวคงไม่ สั่นหน้าน้อยๆ
หรือว่าคิดกับนายพิทมากกว่าเพื่อน บอกพี่มาเสียดีๆนะ ชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างจับผิด
ดวงหน้าสั่นน้อยๆ ยิ่งสั่นแรงขึ้น ดาวกับพิทเป็นเพื่อนกันจริงๆค่ะพี่ป้อ น้ำเสียงหนักแน่นยืนยัน เจ๊ป้อเลยพยักหน้าจำยอมจะเชื่ออย่างที่เจ้าตัวพูด
มองตามหลังร่างบางอรชรที่ลุกจากไปอย่างแสนเสียดาย เป็นฉันหน่อยไม่ได้...สวยโสดโดดเด้งอย่างเธอ จะคว้าให้หมด ทั้งไทยทั้งเทศเลยนะยัยดาว...เสียดายจริง...จิ๊ง...ฉันรึอุตส่าห์ ไปกรีดตา งัดดั้ง ตึ๊งหนังหน้าให้ตึงเปรี๊ยะเป็นหนังกลองแต๊ก...กลับไม่มีผู้ชายตาถึงซักคนจะมาเสย...นี่แหละน๊า...วาสนาคนเรา เจ๊ป้อบ่นพึมกับตัวเองอย่างปลงอนิจจังสังขาร
เธอตกลงค่ะ
น้ำเสียงตื่นเต้นของนายหน้าหรือนางนกต่อแล้วแต่จะเรียกที่แจ้งความคืบหน้าการเจรจาผ่านโทรศัพท์ให้ได้ได้ยินนับเป็นข่าวดีครั้งแรกของการมาเมืองไทยหนนี้
ดีมาก ใบหน้าที่ตีเรียบเฉย แฝงแววกระวนกระวายมาแต่บ่ายรอฟังความคืบหน้าของข้อเสนอที่ให้ไป นึกกลัวใจว่าจะถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ...ถ้าไม่ได้วิธีนั้น เห็นทีอาจจะต้องมีการลักพาตัวกันแน่ๆ
แต่แล้วปลาก็กระโดดฮุบเหยื่อชิ้นเบ้อเริ่มที่จะทำให้อิ่มหมีไปอีกหลายวัน...ธาตุแท้ของผู้หญิงหิวเงินอย่างเธอ มันจะยากลำบากกว่ากันแค่ไหน...แก้ผ้าอยู่ที่เมืองไทย ได้ค่ายางอายไม่กี่บาท กับการเดินทางไปขุดทองแดนไกลตามข้อเสนอของเขา
โดยไม่รู้ว่า...มีอะไรรออยู่ข้างหน้า...
พรุ่งนี้ผมจะส่งคนของผมให้ไปทำสัญญา ชีคนัจมฺอัลดินกรอกเสียงเข้มลงไป
แต่เธอมีข้อเสนอขอพบนายจ้างก่อนค่ะ ป้อรีบท้วงเสียงดัง ก่อนที่เขาจะทันได้วางโทรศัพท์
ทำไม?...หรือเธอไม่มั่นใจว่าผมมีเงินจ่ายจริงๆ น้ำเสียงขึ้งเครียดชัดเจน จนอีกฝ่ายปลายสายคอหด
เอ่อ....เปล่าหรอกค่ะ แต่ยัยดาวอยากได้ความมั่นใจ โดยคำรับรองจากเจ้าของงานว่า เธอจะทำหน้าที่แค่นางโชว์อย่างเดียวเท่านั้น
ริมฝีปากหยักคม เม้มแน่น ดวงตาสีเขียววาบวาว...ฮึ! ทีอย่างนี้โชว์ความฉลาดขึ้นมาเชียว
ได้...ตกลง พรุ่งนี้เที่ยงตรง ผมจะไปพบเธอ เพราะยังไงเขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ
พิทไม่เห็นด้วยนะดาว พิทยาคัดค้านทันทีที่เคียงดาวเล่าจบ
คนต้องการความเชื่อมั่นจากใครซักคน ไม่ใช่คำทัดทานเสียงแข็งเช่นนี้ เริ่มไม่สบายใจ ใบหน้าฉายริ้วรอยกังวลขึ้นมาเมื่อโดนทักท้วง...งานนี้เหมือนฟ้ามาโปรดแท้ๆ แม้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างข้องใจเธอนัก แต่เคียงดาวก็นึกไม่ออกว่าจะหาเงินมาจากไหนในตอนนี้ ให้พอกับค่ารักษาตัวของบิดา...อย่างน้อยก็มัดจำครึ่งหนึ่ง...ล้านห้าอย่างที่ป้อบอก...คงพอเพียงกับค่าผ่าตัดรักษา ส่วนหกเดือนหลังจากนั้น เธอหวังไปตายเอาดาบหน้า
ดาวไม่มีทางเลือกไหนดีไปกว่านี้แล้วนะพิท...แค่งานแสดงโชว์ เงินเดือนตั้งห้าแสน
มันจะแค่แสดงโชว์อย่างเดียวจริงหรือดาว...มีคนยอมจ่ายเงินมากขนาดนี้ เพื่อจะให้ดาวไปเต้นโชว์ให้เขาดูอย่างเดียวอย่างนั้นหรือ? มันออกจะเหลือเชื่อไปหน่อยสำหรับพิท
แต่พี่ป้อบอกว่าเขาเป็นมหาเศรษฐี
ที่มันอาจจะหวังเคลมดาวด้วย พิทยาฮึดฮัด อกร้อนรุ่มดังไฟสุมทีเดียว...จะให้เขานึกดีอะไรออกเล่า ในเมื่อเงินห้าแสนสำหรับเขา อาจต้องใช้เวลาหาเป็นปีทีเดียว...เงินไม่ใช่น้อยๆ แล้วมาจ่ายมากขนาดนี้ เพียงหวังแค่อาหารตา...เพียงแค่นั้นหรือ...เขาเป็นผู้ชาย ทำไมจะคิดอะไรอย่างที่ผู้ชายด้วยกันคิดไม่ออก
โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่สวยสดฉ่ำร่างงามแบบบางอรชร สัดส่วนโค้งเว้าเย้ายวนใจอย่างเคียงดาว...แม้จะไม่ได้ดูโชว์ต้นเหตุที่ก่อให้เกิดความสนใจในตัวเธออย่างที่หญิงสาวเล่าให้ฟัง...แต่เขาก็จินตนาการได้ว่ามันเซ็กซี่เร่าร้อนขนาดไหน
เคียงดาวชักสีหน้าไม่พอใจกับคำสันนิษฐานของเพื่อนหนุ่ม พิท เธอเรียกชื่อเขาเสียงดัง
พิทคิดอย่างที่ผู้ชายดิบๆทั่วไปคิดเลยนะดาว...ไม่มีเสียล่ะที่เขาจะไม่หวังอะไรมากกว่านั้น
แต่ดาวตัดสินใจแล้วนะ เธอยืนยันความคิด
ดาว พิทยายื่นมือมากุมมือบอบบางไว้ พิทสัญญานะว่าจะช่วยดาวหาเงินทุกทาง เพื่อมารักษาอาเดชา...แต่อย่าไปเลยนะ งานนี้มันเสี่ยง
เคียงดาวพลิกฝ่ามือขึ้นมากุมมืออีกฝ่าย จับเขย่าเบาๆ ขอความเชื่อมั่น ไว้ใจดาวสิพิท...ดาวดูแลตัวเองได้ และอีกอย่างนี่มันเป็นหน้าที่ของดาว...หน้าที่ของลูก พิทไม่เกี่ยวข้องต้องมาเดือดร้อนเรื่องเงินกับดาวเลยซักนิด แค่พิทเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับดาวตลอดมา...และตลอดไป ดาวก็ไม่รู้จะขอบคุณพิทยังไงแล้ว
พิทยาสะอึก...เมื่อเคียงดาวยืนยันคำว่า เพื่อน ตลอดมา...และตลอดไปอย่างนั้นเหรอ?
แต่ว่า...
เถอะน่าพิท...ดาวเชื่อพี่ป้อ...เขาหวังดีกับดาวมาตลอด คงไม่แนะนำงานนี้ให้ดาวถ้าเห็นว่ามันอันตรายและต้องไปเสี่ยงมากมายอย่างที่พิทกลัว
ดาว พิทยาเรียกชื่อเธออย่างอ่อนใจ ยังไงพิทก็ห้ามดาวไม่ได้ใช่มั้ย?
ดวงหน้านวลฉายยิ้มจืดจาง ดวงตาอิดโรยวาบไปด้วยประกายแห่งความมุ่งมั่น...คาดหวัง
พรุ่งนี้นายจ้างจะเอาสัญญาไปให้เซ็นต์ที่โลลิต้า...พิทไปช่วยดาวดูสัญญา...ไว้ถ้ามันไม่เข้าท่าอย่างไร เราค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้
พิทยานิ่งไป เมื่ออีกฝ่ายขอร้อง ยังไงพิทก็เปลี่ยนใจดาวไม่ได้ใช่มั้ย?
คำตอบคือความเงียบงัน ในดวงตาโรยล้าเหมือนมีเรื่องราวมากมายอยู่ในนั้น และหนึ่งวาบวาวในแววตาที่ทำให้พิทยาตกใจ...ก็คือความคาดหวังถึงบางสิ่ง
มันทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจ...ว่าเธอมีอะไรปิดบังเขาอยู่...และการปล่อยให้เคียงดาวไปเผชิญโชคตา ณ ต่างแดนในครั่งนี้ บางทีเขาอาจจะเสียเธอไปตลอดกาล
รัศมีร้อนแรงบางอย่างจากกายคนในชุดโต๊ปขาวรูปร่างใหญ่โตที่ปิดบังใบหน้าไว้มิดชิด มีเพียงแค่ดวงตาสีเขียวกระจ่างที่โผล่พ้นผืนผ้าขาวสบกับเธอเวลานี้...ก็มีอำนาจให้เคียงดาวขนลุกเกรียวกรูชูชันไปทั้งร่าง
โดยเฉพาะดวงตาของเขา...เหมือนกับดวงตาคู่หนึ่งที่เธอคุ้นเคยเหลือเกิน
นี่สัญญา เสียงที่ถูกดัดให้ทุ้มใหญ่ ฟังดูมีอำนาจกังวานไปทั้งห้องทำงานของเจ๊ป้อบอก พร้อมเลื่อนกระดาษขนาดเอสี่มาตรงหน้า
เจ๊แก่มองผู้ชายแต่งเนื้อแต่งตัวมิดชิด โพกหน้าปิดบัง อย่างไม่แน่ใจว่าจะใช่คนเดียวกับที่เคยมาเจรจาเธอหรือไม่...การแต่งกายไยถึงได้ผิดแผกจากวานนี้ลิบลับ...ส่อความหมายมีลับลมให้เธอไม่สบายใจไปด้วย
คุณพูดไทยได้ เคียงดาวออกอาการประหลาดใจ
นิดหน่อย ชีคนัจมฺอัลดินพยายามประหยัดถ้อยคำที่สุด
พิทยาที่มองดวงตาดุคมวาวสีเขียวที่โผล่พ้นผืนผ้ามาอย่างไม่วางใจ สายตาของหมอนี่มีอำนาจประหลาดลึกลับน่ากลัว เขาหยิบสัญญาฉบับที่วางหน้าเคียงดาวมาดูแทนเสีย
ในขณะที่หญิงสาวยังจ้องดวงตาคู่นั้นอย่างตื่นตะลึงค้นหา คิ้วถูกกันและวาดโก่งขยับเข้าหากัน
ดวงตาคุณสีเขียว คำถามหยั่งเชิงกริ่งเกรง
ทำไมรึ? คนที่คีกิสต้าห์โดยมากมีดวงตาสีเขียวกันทั้งนั้น...มีบ้างหรอกที่เป็นสีอื่น คำตอบของเขาก็ยังไม่ทำให้เธอกระจ่างใจ หากว่ามันมีรอยสดใสมุ่งมั่นอย่างของใครบางคน เธออาจจะเชื่อสนิทใจว่าเป็นเขา
แต่ดวงตาของผู้ชายตรงหน้าดูดุดันและจริงจังจนเธอนึกอยากเปลี่ยนใจ
นี่มันอะไรกัน? พิทยาโวยขึ้นมา
ดวงตาคมเหนือผืนผ้าแลปราดไปยังเขาอย่างไม่พอใจตั้งแต่ที่เห็นผู้ชายคนนี้ก้าวล่วงเข้ามาในห้องพร้อมกับเคียงดาว...เขาจำมันได้ หมอนี่คือคนที่เธอยืนกอดกลมที่สวนกลางโรงพยาบาลเมื่อวันก่อน
มีปัญหาอะไร?
ก็สัญญาของคุณนี่มันเขียนด้วยภาษาอะไร ผมอ่านไม่ออก เขาเลื่อนสัญญาคืนมาตรงหน้าผู้ว่าจ้าง และเคียงดาวก็เห็นพร้อมกันในเวลานี้ ตัวอักษรประดิษฐ์สวยที่อ่านไม่ออก แม้เธอจะร่ำเรียนมา ด้วยหวังจะได้สร้างความประทับใจให้ครอบครัวเขาเวลาที่พบกัน แต่ก็เรียนรู้แค่บทสนทนา ตัวหนังสือยึกยือลายตานี่ ต่อให้นั่งสะกดเป็นคำๆ ก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันมีความหมายว่าอย่างไร
อารบิก
จะบ้าหรือคุณ ร่างมาได้ยังไงสัญญาภาษาอารบิก...อย่างนี้พวกเราจะไปเข้าใจได้ยังไงว่าในสัญญานั่นมันเขียนไว้ว่าอะไรบ้าง? พิทยาโวยเสียงดัง เริ่มคิดว่าอีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อ
มันก็เหมือนสัญญาจ้างงานทั่วไป...ระบุว่าคุณผู้หญิงคนนี้ต้องไปทำงานให้ผม
งานอะไรของคุณ?
ผมได้แจ้งกับคุณผู้หญิงท่านนี้ไปแล้ว ผายมือไปทางเจ๊ป้อที่นั่งฟังอยู่นาน แต่ไม่มีใครให้ความสนใจ
คำว่า คุณผู้หญิง จากปากของบุรุษที่ดูน่าจะรูปงามทำให้เจ้าหล่อนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทีเดียว
เขาจะจ้างยัยดาวไปเต้นโชว์น่ะนายพิท ป้อส่งเสียงกระซิบพอได้ยิน หน้ายิ้มบานแฉ่งไม่ละสายตา
พิทยาเพยิดหน้าให้เจ๊ป้อ ผมเพิ่งรู้ว่าพี่ป้ออ่านภาษาอารบิกออก คำยอกย้อนทำให้ป้อหน้าเจื่อน
พิท เคียงดาวเอ็ดเขาเบาๆ ที่กำลังจะทำให้เสียเรื่อง
คุณควรจะร่างสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเราจะได้เข้าใจตรงกัน
สัญญาทำงานที่คีกิสต้าห์ทุกฉบับ ล้วนเป็นภาษาอารบิก
แต่ตอนนี้คุณกำลังทำสัญญากับคนไทย...อย่างน้อยก็ควรจะใช้ภาษาสากลที่คนเข้าใจได้ทั่วกัน น้ำเสียงกระด้างห้วนนั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชีคหนุ่ม
ชีคนัจมฺอัลดินลอบกำหมัดแน่น นึกอยากจะเสยคางไอ้เจ้าหนุ่มหน้าอ่อนที่คอยปกป้องผลประโยชน์ เรียกร้องความยุติธรรมให้เธอ...คนไม่มีอะไรกัน มีหรือที่จะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนกันเสียอย่างนี้
ใบหน้าภายใต้ผืนผ้าสีขาวคลุมมิดชิดหันไปมองหน้าเจ๊ป้อ ผมนึกว่าคุณอธิบายให้เธอเข้าใจแล้ว น้ำเสียงตำหนิจนเจ๊ป้อหน้าจืดลงไปมากมาย ผมมีเวลาไม่มาก...หากคุณไม่ตกลงก็ไม่เป็นไร
มือใหญ่ยื่นมาดึงแผ่นกระดาษสัญญากลับ เคียงดาวมองเห็นชีวิตของบิดากำลังถูกกระชากสู่เงามืดไปพร้อมกัน รีบยุดสัญญาฉบับนั้นไว้ ฝ่ามือบางนุ่มเนียนที่ทาบลงไปบนหลังมือของเขาทำให้ชีคนัจมฺอัลดินตัวชาดิก
สัมผัสอ่อนโยน นุ่มละมุนของเธอ มีอำนาจประหลาดล้ำเหนือเขาเสมอ
เดี๋ยวค่ะ...ฉันตกลง
ดาว พิทยาร้องเสียงหลง เหลียวขวับมองหน้าเธอตื่นตะลึง
เคียงดาวหันไปสบตาเขาเชิงปราม ก่อนจะหันมาพูดกับนายจ้าง คุณสัญญาว่าจะจ่ายเงินมัดจำครึ่งหนึ่งให้ฉันทันทีที่เซ็นต์สัญญาใช่มั้ยคะ? นี่ต่างหากเล่าที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอยามนี้ ยิ่งกว่าว่าต้องทำงานอะไร...นานเท่าไหร่...
ดวงตาสีเขียววาวจ้องมองดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายคาดหวัง...นั่นไงเล่า...ธาตุแท้เธอเปิดเผยแล้ว
ชีคหนุ่มแห่งคีกิสต้าห์ พยักหน้าอย่างผิดหวัง ทันทีที่คุณจรดลายเซ็นลงบนสัญญาฉบับนี้
หญิงสาวไม่รอช้า หยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อลงไปในทันที ในขณะที่พิทยาอ้าปากค้าง ยับยั้งไม่ทันเสียแล้ว หันไปมองหน้าว่าที่นายจ้าง เขาเห็นรอยพึงพอใจและสาแก่ใจในดวงตาคู่นั้น
ริมฝีปากหยักภายใต้ผืนผ้าขาวยกสูง ในที่สุด...เธอก็ยอมตกลงเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา...ชีวิตเธอจากนี้ไปอีกหกเดือนอยู่ในกำมือเขาแล้ว...รอยยิ้มลิงโลดสนุกสนานวาบชัดฉายในแววตาเก็บไม่มิด
นี่ค่ะพาสปอร์ต มือบางเลื่อนหนังสือเดินทางเล่มเล็กที่จะทำหน้าที่ใบผ่านทางให้เธอไปยังที่แห่งนั้น...ที่ๆนึกถึงเสมออยู่ทุกวัน...หวังว่าใครบางคนที่นั่นจะรีบกลับมาคืนคำสัญญา...แต่แล้วเจ็ดปีที่ผ่านมา ก็บอกแล้วว่า...คำสัญญาของเขา...การรอคอยของเธอ ทุกอย่างเปล่าประโยชน์โดยสิ้นเชิง
ดีมาก น้ำเสียงพึงพอใจกล่าว หยิบเช็คเงินสดหนึ่งล้านห้าแสนบาทตามข้อตกลงส่งให้กับหญิงสาว ดวงตาที่แห้งผากทอประกายวับวาวด้วยความหวัง...มันทำให้เขายิ่งรู้สึกสมเพชนัก นึกอยากจะจับร่างบางนั่นมาเขย่าถาม...เธอทำอย่างนี้มากี่ครั้ง...เงินเท่าไหร่กันที่ซื้อคนอย่างผู้หญิงคนนี้ได้
ค่าของผู้หญิงที่ตรงหน้า เคยมากล้นในหัวใจเขา...บัดนี้เหลือค่าเท่าเศษธุลีดินเท่านั้น
อีกสามวันเจอกันที่คีกิสต้าห์
สามวัน สามเสียงประสานอย่างอึ้งตะลึง กับเงื่อนไขเวลาที่ดูจะปัจจุบันทันด่วนจนน่าตกใจ
คนควรตอบคำถามเพียงพยักหน้า ใช่...สามวัน คงไม่น้อยไป
มันไม่เร็วเกินไปหน่อยเหรอ? น่าจะให้เราเตรียมตัวบ้าง พิทยาท้วงขึ้นมา ใจหายวาบ
เสียงหัวเราะหึๆ ในลำคอ ฟังคล้ายเยาะหยัน ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร...แค่เตรียมใจก็พอ
กล่าวจบร่างใหญ่กำสัญญาฉบับนั้นแน่น เหมือนกลัวอีกฝ่ายเปลี่ยนใจ ลุกพรวดขึ้นยืนเปิดเผยร่างสูงสง่าน่าเกรงขาม เมื่อได้สิ่งที่ต้องการเบื้องต้น สมใจแล้ว
อีกสามวันที่คีกิสต้าห์ หวังว่าเราจะได้พบกัน แววระริกในดวงตาสีเขียวคู่นั้นยิ้มยินดีจนเคียงดาวนึกประหลาดใจ พร้อมกับที่ผู้ติดตามเขามายื่นซองสีขาวให้กับเธอ
เคียงดาวรับมาเปิดแง้มดูก็เห็นว่าเป็นตั๋วเครื่องบิน
ร่างสูงใหญ่พร้อมผู้ติดตามทั้งสองเดินออกจากห้องไป มีเพียงสายตาทอดมองตามชายโต๊ปที่สะบัดพริ้วไหวนั่นด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ราวชีวิตเธอต่อแต่นี้ไปอีกหกเดือน ได้ตกอยู่ในกำมือเขาแล้ว
ดาว...ทำไมตกลงง่ายๆอย่างนี้ ทั้งที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในสัญญาบ้านั่นเขียนว่าอะไร? พิทยาโวยวายอย่างหัวเสีย ที่ไม่สามารถนำวิชาความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนหนักมาหลายปี จนกระทั่งสอบเนติบัณฑิตได้มาช่วยอะไรหญิงสาวได้เลยแม้แต่น้อย
ดาวไม่มีทางเลือกมากนักนะพิท...ต่อให้ต้องขายชีวิต ดาวก็ยอม บอกเหตุผลที่ทำให้ไม่ลังเล
คำพูดประโยคสุดท้าย ได้ยินถึงหูเขา...แม้แผ่วเบาแต่กลับก้องอยู่ในความรู้สึก
เธอได้ชดใช้ทั้งชีวิตแน่ๆ สาวน้อย ไม่ต้องห่วง น้ำเสียงเยาะหยันกระซิบเบาๆ บอกผ่านไปกับสายลมให้อีกฝ่ายเตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่วงหน้าได้เลย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โว๊ะ ต่างคนต่างมอง
นางเอกเราหลวมตัวเซ็นต์ไปซะแล้วววว
ตอนตอไปมาไว ๆ นะคะไรเตอร์ เริ่มสนุกอ่ะ
พระเอกใจเย็น ๆ ก่อนนะ ฟังหนูดาวบ้าง