คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : chapter 22 ผมไม่ได้รักคิบอม
22
ผมไม่ได้รักคิบอม
แม้ว่าในช่วงชีวิตที่ดูเหมือนจะแย่ที่สุด หากว่าเราลองปล่อยวางกับมัน เปิดใจให้กว้างแล้วมองหาด้านดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในโลกใบเล็ก เราก็อาจจะพบว่าความสุขนั้นไม่ได้อยู่ห่างจากเราเลย มันยังคงอยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นหรือไม่เห็นมันเท่านั้นเอง อี ทงเฮเชื่อแบบนั้น
“เราไม่ได้เปิดร้านตั้งหลายวัน ไม่รู้ว่าลูกค้าจะหายกันไปหมดหรือเปล่านะครับ”
เมื่อทงเฮมีความสุข เขาก็จะยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว แต่เมื่อทงเฮกังวลใจ คิ้วของเขาก็จะขมวดมุ่นจนแทบจะพันกัน และในตอนนี้ฮยอกแจก็รู้ทันทีว่าทงเฮกำลังรู้สึกแบบไหน
“ลูกค้าจะหายไปไหนได้ พุงออปังของน้องทงเฮอร่อยซะขนาดนี้”
“พุงออปังก็เป็นของพี่ฮยอกแจเหมือนกัน...”
ทงเฮพูดเสียงเบา ก่อนจะก้มหน้าอมยิ้มอย่างเขินอาย ไหล่บางลู่ลงแทบจะทันทีเมื่อถูกมือแกร่งของฮยอกแจยื่นมาขยี้ผมจนยุ่ง ไม่ว่าจะอย่างไร ทงเฮก็ยังไม่ชินกับการกระทำที่อบอุ่นใจแบบนี้ ทงเฮรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ความรักของฮยอกแจพุ่งผ่านเข้ามาในหัวใจของเขาเอง
“อืม...กว่าจะถึงตอนเย็น...”
ทงเฮนิ่งคิด วันนี้เป็นวันธรรมดา เด็กๆ ต้องไปโรงเรียน ดังนั้นร้านพุงออปังในตอนบ่ายๆ จึงเงียบเชียบ ใบหน้าเรียวแหงนขึ้นไปมองท้องฟ้าอย่างใช้ความคิด แต่ฮยอกแจกลับขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เรามาเล่นเกมต่อคำฆ่าเวลาดีไหม?”
“เกมต่อคำ? ก็...น่าสนใจดีนะครับ”
ทงเฮยิ้มบางๆ กับความคิดเด็กๆ ของฮยอกแจ ดูก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้มองเขาเป็นเพียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งและพยายามทำตัวเหมือนเด็กๆ เพื่อให้เขาประทับใจ แม้ว่าทงเฮจะเคยเล่นเกมต่อคำกับเพื่อนสมัยมัธยมซึ่งก็นานมากแล้ว แต่การเล่นเกมต่อคำกับคนรักมันก็เป็นอะไรที่น่าสนุกดีเหมือนกัน
“ทงเฮคิดหัวข้อก่อนสิ”
ฮยอกแจบอกกับคนตรงข้าม ทงเฮจึงประสานมือเข้าหากันก่อนจะทำท่าครุ่นคิด สักพักก็กระเด้งตัวนั่งหลังตรงแล้วดีดนิ้วดังเป๊าะ
“คำทักทายของต่างประเทศครับ คิคิ”
ดูเหมือนเจ้าตัวจะพอใจกับหัวข้อที่ตัวเองเป็นคนคิดเอามากๆ หัวข้อนี้ทงเฮมักจะชนะเพื่อนๆ ตลอดเพราะว่าเขาเรียนวิชาเกียวกับสังคมศาสตร์มาเยอะ เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ฮยอกแจเห็นว่าคนน่ารักตรงหน้าเขากำลังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ คิดแล้วอยากจะหยิกแก้มแรงๆ ให้คลายความหมั่นเขี้ยวเสียที
“หัวข้อนี้ยากมากเลยนะเนี่ย งั้นพี่ขอเริ่มก่อนละกัน อืม...สวัสดีครับ”
ฮยอกแจไม่ได้พูดเปล่า เขายังทำท่าประกอบการทักทายของคนไทยอีกด้วย ทงเฮมองด้วยสายตาอยากจะเอาชนะ เป็นสายตาที่มุ่งมั่นและจริงจังแม้กระทั่งกับเรื่องเล็กๆ อย่างการเล่นเกม เหมือนตอนที่ฮยอกแจไปเล่นเกมโจรสลัดในตอนที่รู้จักกันใหม่ๆ ไม่มีผิด สายตาที่มุ่งมั่นมีเสน่ห์แบบนั้น สายตาแบบนั้นเองที่ทำให้ฮยอกแจหลงรักทงเฮ
“Good Afternoon”
ทงเฮยกมือขึ้นมาโบกทักทายคนรักอย่างขี้เล่นอีกด้วย คราวนี้ฮยอกแจเลยอดไม่ไหวที่จะหยิกแก้มเนียนของทงเฮจริงๆ มือบางคลำแก้มป้อยๆ ก่อนจะกล่าวโทษคนรัก
“พี่ฮยอกแจอ่า ชอบแกล้งผมอยู่เรื่อย รีบๆ ต่อคำสิครับ ใกล้หมดเวลาแล้วนะ”
“คอนนิจิวะ ถ้าคิดไม่ออกจะยอมให้พี่ทำโทษโดยการหอมแก้มก็ได้น้า...”
ฮยอกแจพูดข่ม แต่กลับเรียกสีชมพูเรื่อขึ้นบนใบหน้าหวานได้เป็นอย่างดี ทงเฮคงไม่โกรธและอยากจะเอาชนะเขาใช่ไหม เพราะทงเฮกำลังเขินกับคำพูดนั้น
“เซี่ยเซี่ย!”
ร่างบางตอบอย่างมันใจโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้พูดผิดไปแล้ว ฮยอกแจเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้
“อะไรกันครับ ผมไม่ได้ทำผิดซักหน่อย”
“เซี่ยเซี่ยแปลว่าขอบคุณไม่ใช่เหรอครับ?”
ฮยอกแจพูดล้อเลียน ทงเฮจึงเอามือปิดปากอย่างรวดเร็ว เขาอุตส่าห์มั่นใจแล้วแท้ๆ เชียวว่าต้องชนะฮยอกแจให้ได้ แต่ความตื่นเต้นกลับทำให้พูดออกไปอย่างโดยไม่ทันยั้งคิด ทงเฮมุ่ยหน้าด้วยความผิดหวัง ฮยอกแจจึงชิงสูดความหอมจากแก้มเนียนด้วยความละลาบละล้วง
“พี่ฮยอกแจอ่ะ ผมไม่เล่นเกมนี้แล้ว”
ทงเฮบอกด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก แต่ฮยอกแจกลับยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกครั้ง เขาชอบแกล้งทงเฮ ชอบทำให้ทงเฮเขิน เพราะรอยยิ้มของทงเฮทำให้อี ฮยอกแจสามารถลืมเรื่องทุกข์ร้อนต่างๆ ไปได้โดยง่าย ทงเฮเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ฮยอกแจตื่นขึ้นมาในทุกๆ เช้า ทงเฮเป็นรางวัลที่ฮยอกแจรู้สึกว่ามีค่าที่สุดในชีวิตของเขาเอง
“ไม่เอาน่า เล่นอีกครั้งนะ นะน้า...ทงเฮที่น่ารักของพี่”
“ถ้าผมแพ้อีก พี่ฮยอกแจก็ได้กำไรอยู่คนเดียวน่ะสิครับ”
“ทงเฮก็เอาชนะพี่ให้ได้สิ ถ้าทงเฮชนะ ทงเฮก็จะได้หอมแก้มพี่เหมือนกัน แฟร์จะตาย ว่าไหม?”
“คนขี้โกง!”
ทงเฮตีไหล่ของคนรักเบาๆ คราวนี้คนที่ยิ้มเจ้าเล่ห์กลับกลายเป็นฮยอกแจเสียเอง ตอนแรกเขาแค่จะหาเกมเล่นแก้เบื่อเท่านั้น แต่พอได้ทำโทษทงเฮไปหนึ่งครั้งแล้ว ฮยอกแจรู้สึกว่าเขาจะต้องเอาชนะทงเฮอีกครั้งให้ได้ และแม้ทงเฮจะเอาแต่ปฏิเสธว่าไม่ยอมเล่นอีกแล้ว แต่เขาก็เล่นอีกเกมแล้วเกมเล่า และส่วนใหญ่ทงเฮก็จะเป็นคนที่แพ้เพราะความประมาทของตัวเอง จนกระทั่งถึงหัวข้อ ‘ละครเกาหลี’
“Rainbow Romance ครับ”
ทงเฮเริ่มเล่นก่อน เขาพูดถึงละครที่ฉายไปเมื่อหลายปีมาแล้ว ทีแรกฮยอกแจก็แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ทงเฮจะนึกถึงละครเก่าๆ แบบนั้น แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เสียงที่มีความสุขยังคงเล่นเกมต่อคำกับทงเฮต่อไป
“Pasta ถึงพี่จะไม่ชอบดูละคร แต่พี่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกนะ”
“ผมก็ไม่มีทางยอมพี่ฮยอกแจหรอกครับ เรื่อง...อืม...Snow Flower”
ทงเฮยักไหล่อย่างสะใจที่สามารถต่อคำต่อไปได้โดยที่ยังไม่ถูกทักท้วง หัวข้อนี้ไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายเสียทีเดียว แต่ทงเฮมั่นใจว่าเขารู้จักละครเกาหลีมากกว่าฮยอกแจแน่นอน
“Athena”
“Happy Events at Chunja ผมเก่งใช่ไหมครับพี่ฮยอกแจ”
ทงเฮยิ้มกว้างด้วยความมีความสุข แต่ฮยอกแจกลับทำหน้าบึ้งตึง เขาเงียบกริบและไม่ยอมหัวเราะไปกับทงเฮเหมือนเช่นทุกครั้ง ร่างบางจึงค่อยๆ เงียบเสียงของตัวเองลง ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองฮยอกแจแล้วเลิกคิ้วถาม
“ทำไมเอาแต่พูดชื่อละครที่คิม คิบอมแสดงนำ?”
ฮยอกแจถามเสียงแข็ง แม้จะรู้ว่าคิม คิบอมเป็นดาราดัง แต่ฮยอกแจก็ไม่พอใจที่ทงเฮชื่นชมคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ฮยอกแจอยากให้สายตาของอี ทงเฮจ้องมองมาที่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น รักและชื่นชมเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ก็คิบอมเขาหล่อนี่ครับ แสดงละครก็เก่งด้วย”
“ชอบคิบอมมากเหรอ?”
“ก็...”
ฮยอกแจเริ่มควันออกหูที่ทงเฮชมคิม คิบอมว่าหล่อ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกหึงหวงกับอะไรไร้สาระแบบนี้มาก่อน ใบหน้าคมคายโน้มเข้าไปหอมแก้มของทงเฮด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยขึ้นไม่ต่างจากเด็กน้อยที่กำลังหวงของเล่นชิ้นสำคัญ
“ทงเฮเป็นของพี่คนเดียว!”
ทงเฮไม่ได้โกรธหรือรู้สึกแย่ที่ฮยอกแจแสดงออกแบบนั้น ตรงกันข้ามเขากลับปลื้มใจที่ฮยอกแจหึงหวงเขา ทงเฮมีความสุขที่ได้ยินคำพูดที่ว่า ‘ทงเฮเป็นของพี่คนเดียว’ ใช่แล้วล่ะ อี ทงเฮเป็นของอี ฮยอกแจคนเดียวเท่านั้น และอี ทงเฮก็จะรักอี ฮยอกแจคนเดียวเท่านั้นด้วยเช่นกัน
“ครับ ผมเป็นของพี่ฮยอกแจคนเดียว ผมชอบคิบอมเพราะเขาเป็นดารา แต่ไม่ได้รักคิบอม ผมรักพี่ฮยอกแจนะครับ”
ฮยอกแจยิ้มกว้าง ก่อนจะดึงทงเฮเข้ามาสู่อ้อมกอด ความจริงเขาไม่ได้โกรธทงเฮมากนัก เพียงแต่ฮยอกแจอยากได้ยินคำว่ารักจากปากของทงเฮอีกครั้ง สิ่งที่ทงเฮคิด สิ่งที่ทงเฮรู้สึก เขาอยากรับรู้และมีความสุขไปกับมัน ฮยอกแจไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาทำเพียงตบแผ่นหลังบางเบาๆ แล้วบอกกับคนในอ้อมกอดในใจ
พี่รักทงเฮมากกว่า...
เพียงแค่ด้านหลังกำแพงที่อยู่ไม่ไกลออกไป ก็ดูเหมือนกับว่าคนสามคนอยู่คนละโลกกันแล้ว ในขณะที่ฮยอกแจและทงเฮมีแต่เสียงหัวเราะและความสุข มินโฮกลับมีแต่ความเคียดแค้นในใจ ดวงตาที่มีแต่ไฟลุกโชนจ้องมองไปที่ชายหนุ่มสองคนนั้น
คนที่ทำลายความสุขของชางมินจะต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม
มินโฮยืนมองชายหนุ่มสองคนด้วยความสงบนิ่ง เขายังคิดแผนไม่ออก แต่ก็คงจะในไม่ช้านี้หรอกในเมื่อความโกรธแค้นมันสุมทรวงเสียขนาดนี้ เด็กหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ฮยอกแจล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดรับสาย
“ครับพี่ซีวอน ผมอยู่กับพี่ฮยอกแจครับ”
ดวงตาของมินโฮกระตุกเบาๆ เมื่อได้ยินชื่อของ ‘ซีวอน’ แต่มันจะเป็นไปได้เหรอที่ซีวอนจะรู้จักกับฮยอกแจด้วย ชเว ซีวอนเป็นแค่เพื่อนของชางมินเท่านั้น แต่ชางมินก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับฮยอกแจเหมือนกัน มินโฮกำลังสับสนกับความคิดของตัวเอง แต่เสียงของทงเฮก็เฉลยทุกอย่างขึ้นมา
“แล้วพี่ซีวอนทานข้าวกับพี่คยูฮยอนหรือยังครับ ต้องเลือกร้านหรูๆ ให้พี่คยูฮยอนประทับใจเลยนะครับ...ครับ...สวัสดีครับ”
มินโฮกลืนน้ำลายแทบไม่ลง ไม่ผิดแน่ ซีวอนที่เป็นแฟนกับคยูฮยอน ขาเรียวถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว ก่อนจะนิ่งคิด งั้นผู้ชายที่ฮยอกแจเรียกว่า ‘อี ทงเฮ’ ก็เป็นน้องชายของซีวอนด้วยสินะ ถ้าเขาทำให้ทงเฮเจ็บได้ ฮยอกแจก็จะเจ็บ พี่ชายของทงเฮก็จะเจ็บ และคยูฮยอนคงก็จะเจ็บปวดไปด้วยเหมือนกัน
“พี่ชางมินครับ ผมจะแก้แค้นให้พี่เอง”
มินโฮซ่อนดวงตาที่อ่อนแอไว้ข้างใน ส่วนสายตาที่แข็งกร้าวและน่ากลัวนั้น เขาจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นอยู่ภายนอก ชเว มินโฮไม่เคยคิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันผิดหรือไม่ เพราะเขาทำเพียงแค่ปกป้องหัวใจของชิม ชางมินคนที่เขารักมากที่สุดเท่านั้น
วันนี้ซีวอนท่าทางกระตือรือร้นเป็นพิเศษเพราะต้องเข้ามารับเช็คจากบริษัท K Building ทันทีที่ร่างสูงมาถึง เขาก็ติดต่อกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ด้านหน้าแล้วขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นหกเพื่อเข้าพบกับประธานบริษัททันที
ซีวอนต้องการมารับเงินค่าจ้างเท่านั้นเองหรือ แต่ทำไมเขาถึงแต่งตัวนานกว่าปกติเมื่อรู้ว่าจะได้พบกับเลขาหน้าห้องท่านประธาน ทำไมเขาถึงกังวลกับคำทักทายแรกนักเมื่อรู้ว่าจะได้มาที่นี่ และทำไมคำพูดของทงเฮยังคงวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในสมอง
“ถ้าพี่ซีวอนไม่อยากให้พี่ชางมินต้องเศร้าไปมากกว่านี้ พี่ซีวอนต้องทำให้พี่คยูฮยอนเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกให้ได้เลยนะครับ”
ประตูลิฟท์เปิดออกเมื่อถึงชั้นหก แต่ซีวอนกลับไม่กล้าก้าวเท้าออกไป เขาสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดแล้วค่อยๆ เดินออกมาจากในลิฟท์ด้วยความระมัดระวัง ที่หน้าห้องท่านประธาน มีเลขานุการสาวกำลังรับโทรศัพท์อยู่ ส่วนที่โต๊ะทำงานตัวข้างๆ กันกลับว่างเปล่าไร้วี่แววของคนๆ นั้น
“ผมมาขอเข้าพบท่านประธานปาร์คครับ”
ซีวอนบอกกับเลขาสาวด้วยความสุภาพ เธอยืนขึ้นก่อนจะพาเขาเข้าไปด้านใน และเมื่อประตูปิดลง โจ คยูฮยอนก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะทันที
“คยูฮยอน วันนี้มีหนุ่มหล่อมาหาแน่ะ”
สาวร่างท้วมเอ่ยแซวทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง คยูฮยอนย่นคิ้วด้วยความแปลกใจ จนเลขาสาวต้องเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ก็ผู้ชายคนนั้นไง สูงๆ หล่อๆ คิ้วเข้มๆ คนที่เป็นสถาปนิกน่ะ”
“พี่อ่ะ เขาไม่ได้หามาหาผมซักหน่อย”
ราวกับว่าคยูฮยอนกำลังพูดประโยคนั้นกับตัวเอง ซีวอนจะมาหาเขาได้อย่างไร เพราะพวกเขาทั้งสองไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคยูฮยอนก็ยังอดที่จะหันไปมองประตูห้องทำงานของท่านประธานไม่ได้ เพียงแค่นึกถึงหน้าของซีวอน เรื่องราวในคืนนั้นก็ผ่านเข้ามาอีกแล้ว ทั้งๆ ที่บอกว่าจะคิดว่าเป็นเพียงความฝัน แต่ใครกันจะจดจำความฝันได้ติดตรึงหัวใจเสียขนาดนี้
ผ่านไปเกือบยี่สิบนาที สถาปนิกหนุ่มก็เดินออกมาพร้อมกับท่านประธานปาร์ค คยูฮยอนลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติโดยที่ท่านประธานไม่ต้องบอกว่าจะให้ไปส่งซีวอนหรือไม่ เลขาสาวร่างท้วมจึงหยิกที่เอวของคยูฮยอนเบาๆ
“ไม่ต้องไปส่งผมก็ได้ ถ้าคุณไม่อยากทำ”
“มันเป็นหน้าที่ของฉัน”
คยูฮยอนบอกเสียงเรียบ ก่อนจะเดินนำร่างสูงออกไป ทิ้งให้เพื่อนร่วมงานอีกคนมองตามด้วยความงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้กันแน่ ทั้งคยูฮยอนและซีวอนไม่ได้พูดคุยกันเลยจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าลิฟท์
“โจ คยูฮยอน”
คยูฮยอนได้ยินชัดเจนว่าคนตัวสูงข้างๆ กำลังเรียกชื่อของเขา แต่คยูฮยอนกลับยืนนิ่งแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ซึ่งซีวอนก็ไม่สนใจ เขายังคงพูดประโยคอื่นต่อไปเรื่อยๆ
“ไหนๆ เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ทงเฮก็คิดว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ ส่วนชางมิน...คุณก็อยากจะให้เขาตัดใจไม่ใช่เหรอ งั้นเรา...มาคบกันจริงๆ ดูไหม?”
คยูฮยอนหันขวับด้วยความตกใจ เขาไม่คาดคิดว่าซีวอนจะพูดคำนี้ ในหัวใจของเขามันพองโตด้วยความยินดี แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งสายตาที่ซีวอนมองทงเฮในวันนั้น ทั้งคำพูดที่ซีวอนเคยบอกเขานัยๆ ว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว โจ คยูฮยอนจะลบทิฐิลงไปง่ายๆ ได้อย่างไร
“ว่าไงล่ะคยูฮยอน ลิฟท์กำลังขึ้นมาแล้วนะ”
ซีวอนถามซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่พวกเขาจะหันไปดูตัวเลขสีแดงที่ปรากฏอยู่หน้าลิฟท์ อีกแค่ไม่ถึงนาทีเท่านั้น ก็จะหมดเวลาสำหรับการตอบคำถามของคยูฮยอนแล้ว แค่เลือกว่าจะคบหรือไม่คบ แค่พูดออกไป
“นายจะสนใจฉันทำไม คนที่นายควรจะแคร์คือทงเฮนู่น กลับไปซะเถอะ”
“เรื่องของเรามันไปเกี่ยวอะไรกับทงเฮ ทงเฮเป็นแค่น้องชายของ...”
“ถึงเป็นแค่น้อง แต่นายก็รักเขาไม่ใช่เหรอ”
คยูฮยอนพูดสวนขึ้นมาทันที ที่จริงมันไม่ใช่เพียงแค่นั้นหรอกที่เขารู้ แต่ฮยอกแจเล่าให้คยูฮยอนฟังหมดทุกอย่างแล้ว ทั้งเรื่องที่ซีวอนและทงเฮไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ การกระทำที่ซีวอนหึงหวงน้องชาย แม้ว่าเรื่องเหล่านั้นจะทำให้คยูฮยอนรักและสงสารซีวอนมากขึ้น แต่คยูฮยอนก็ได้สัญญากับฮยอกแจแล้วว่าเขาจะจัดการความรู้สึกนี้ออกไปให้เร็วที่สุด โจ คยูฮยอนจะต้องทำมันให้ได้
“นายจะมาขอคบฉันทำไม ในเมื่อนายรักทงเฮ”
คยูฮยอนพูดเสียงเบา และเมื่อซีวอนเห็นดวงตาปวดร้าวที่ช้อนขึ้นมามองเขา ร่างสูงกลับพบว่าน้ำตาใสกำลังเอ่อคลออยู่ในดวงตาคู่สวยนั้น ลิฟท์เปิดออกมาพอดี แต่ซีวอนยังคงยืนนิ่งเฉย ทั้งคู่เงียบกริบ ไม่มีบทสนทนาใดๆ หลุดออกมาสักคำ จนกระทั่งประตูลิฟท์กำลังจะปิดลง ซีวอนจึงแทรกตัวเข้าไปในนั้นแล้วฉุดข้อมือของคยูฮยอนเข้าไปด้วย
“คุณก็รู้ว่าทงเฮรักฮยอกแจ และเขาทั้งสองคนก็เป็นแฟนกัน ผมจะมีสิทธิ์ไปรักทงเฮได้ยังไง”
ซีวอนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ เขาพยายามซ่อนความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ ซีวอนมั่นใจว่าเขารักทงเฮ เขาจึงยอมทำในสิ่งที่น้องชายต้องการ ถ้าทงเฮต้องการให้เขาคบกับคยูฮยอนเขาก็จะทำ แต่เมื่อได้จับมือคยูฮยอนไว้อย่างนี้ ซีวอนกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิดอีกต่อไปแล้ว เขาไม่ได้ทำเพื่อใคร
...แต่ซีวอนกำลังทำเพื่อตัวของเขาเอง
“ฉันไม่รู้ว่านายจะมีสิทธิ์หรือเปล่า แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันจะทำในสิ่งที่ใจตัวเองต้องการ”
“งั้นคุณก็ยอมรับผมสิ ในเมื่อหัวใจของคุณต้องการผม”
ซีวอนพูดจบก็ประกบริมฝีปากของคยูฮยอนไว้ด้วยริมฝีปากของเขาเองทันที เขาไม่อยากให้คยูฮยอนได้พูดหรือเถียงคำใดๆ อีก ซีวอนยังคงคิดอยู่ว่าเขารักทงเฮไม่เปลี่ยนแปลง แต่เขากลับไม่รู้ตัวเลยว่าได้รับคยูฮยอนเข้าไปในหัวใจของเขาเองแล้ว
ในตอนเย็นของวันนั้น ฮยอกแจเดินมาส่งทงเฮที่บ้านเหมือนเคย ถ้าเทียบกับเมื่อวันก่อน ฮยอกแจดูจะอารมณ์ดีขึ้นมาก ทงเฮก็พลอยมีความสุขไปด้วย แต่ทงเฮไม่รู้หรอกว่าเหตุผลเบื้องหลังที่ฮยอกแจอารมณ์ดีนั้นเป็นเพราะอะไร สองเดือนกว่าๆ ที่รู้จักกันมา และเกือบสามเดือนแล้วที่ฮยอกแจถูกสั่งให้พักงาน เหลือเวลาอีกแค่สองสัปดาห์เท่านั้นที่ฮยอกแจจะได้อยู่ที่นี่
“จะไม่ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนจริงๆ เหรอ?”
“วันนี้พี่ซีวอนกลับเร็ว พี่ฮยอกแจไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
ทงเฮเอ่ยขึ้นพลางดันตัวฮยอกแจให้เดินกลับไป ร่างบางรอจนกว่าฮยอกแจจะเดินเลี้ยวไปอีกซอย เขาจึงหมุนตัวกลับเข้าบ้าน แต่ยังไม่ทันที่จะได้เปิดประตูรั้ว ใครบางคนก็โผล่เข้ามาเสียก่อน
“ขอโทษนะครับ พี่ซีวอนอยู่ไหม?”
ทงเฮหันไปตามต้นเสียง ก่อนจะพบร่างสูงโปร่งของใครบางคนยืนยิ้มกว้างให้เขา ทงเฮยิ้มบางๆ ตอบกลับไปด้วยความงุนงง เขาไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย แต่ดูจากท่าทางก็ไม่น่าจะใช่คนร้าย ทงเฮจึงหยุดสนทนาด้วย
“พี่ซีวอนไปโซลน่ะครับ แต่ใกล้จะกลับแล้วล่ะ”
“ดีเลย งั้นผมขอเข้าไปนั่งรอพี่ซีวอนในบ้านได้ไหม?”
“คะ...ครับ?”
ทงเฮถามเสียงสูงเมื่อชายคนนี้ขอเข้าไปในบ้านของเขาโดยที่เขายังไม่ได้ชักชวน แต่เมื่อคิดว่าคนแปลกหน้าคนนี้อาจจะมีธุระกับพี่ชายของเขาก็ได้ ร่างบางจึงเปิดประตูแล้วเชื้อเชิญเข้าไป ทงเฮพาคนแปลกหน้าไปนั่งที่โต๊ะกลางบ้าน ก่อนจะเดินไปเตรียมน้ำเปล่าจากในครัวมาให้
“ที่จริงผมก็ไม่แน่ใจว่าพี่ซีวอนจะกลับมาตอนไหน ถ้าคุณมีธุระด่วนจริงๆ ฝากผมไว้ก็ได้นะครับ เพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว”
ทงเฮป้องกันตัวเองสุดๆ เพราะอะไรก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้เพียงว่าจิตใต้สำนึกสั่งให้อยู่ห่างๆ จากผู้ชายคนนี้ มินโฮยื่นหน้าเข้ามาจ้องมองทงเฮใกล้ๆ ก่อนจะทำหน้าตาขี้สงสัย สักพักก็เอ่ยถามขึ้น
“ผมคุ้นหน้าคุณมากเลย คุณจบจากมหา’ลัยอะไรเหรอ?”
“มหา’ลัยพารังครับ มีอะไรหรือเปล่า?”
ทงเฮตอบด้วยท่าทางสงสัย เพราะในขณะที่คนตรงหน้าบอกว่าคุ้นหน้าเขาเหลือเกิน แต่ทงเฮกลับไม่คุ้นหน้าผู้ชายคนนี้เลยสักนิด ร่างบางเสมองออกไปด้านนอก ในใจภาวนาให้พี่ชายกลับมาจากโซลเร็วๆ เขาไม่ชอบบรรยากาศที่น่าอึดอัดแบบนี้ มันไม่เหมือนกับตอนที่เขาพาฮยอกแจเข้ามาในบ้านครั้งแรก ในตอนนั้นมันทั้งอบอุ่น คุ้นเคย และมีความสุข
“ผมก็จบจากมหา’ลัยพารังเหมือนกัน แต่คงจบก่อนคุณประมาณสองสามปี”
“งั้นเหรอครับ บังเอิญจังเลยนะครับ ว่าแต่...พี่ชื่ออะไรเหรอ?”
“มินโฮ ชเว มินโฮ!”
แขกของพี่ชายตอบพลางยิ้มกริ่ม ทงเฮไม่ชอบรอยยิ้มแบบนี้เลย รอยยิ้มที่ดูเหมือนซ่อนความลับไว้ตลอดเวลา แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อผู้ชายคนนี้เป็นแขกของพี่ เขาจะทำตัวไม่สุภาพไม่ได้เด็ดขาด
“คุณ...เอ่อ...นายชื่อ...ทงเฮใช่ไหม?”
ทงเฮพยักหน้าหงึกหงักและหมดความสงสัยในตัวมินโฮทันที มินโฮจำชื่อทงเฮมาจากร้านพุงออปัง และเขาก็โกหกว่าตัวเองเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับทงเฮ เพื่อที่จะตีสนิทเด็กคนนี้ มินโฮยอมทำทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งลดศักดิ์ศรีของตนเอง เขาไม่มีทางชอบผู้ชายแบบนี้หรอก ไม่มีทางชอบด้วย
มินโฮพยายามตีสนิทกับทงเฮด้วยการชวนคุยนู่นคุยนี่ไปเรื่อยเปื่อย ทั้งเรื่องที่มหาวิทยาลัยที่เขาแต่งขึ้นมา เรื่องเกี่ยวกับซีวอนที่เขาได้พบเจอเพียงไม่กี่ครั้งแต่พูดเหมือนกับรู้จักกันมาตั้งแต่เกิด ทงเฮก็ยิ้มและหัวเราะไปตามมารยาท เขาไม่ได้เอะใจอะไรเลย
“ทงเฮน่ารักดีนะ มีแฟนหรือยังเนี่ย?”
จู่ๆ มินโฮก็โพล่งขึ้น ทำเอาทงเฮหน้าเหวอไปเลยทีเดียว ทงเฮจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่กระพริบตา นอกจากฮยอกแจแล้ว อี ทงเฮก็ไม่เคยกลัวกับสายตาของใครอีก และครั้งนี้ก็เช่นกัน ร่างบางจ้องมองมินโฮกลับไปจนมินโฮกลายเป็นคนที่ต้องหลบสายตาเสียเอง
“ผมล้อเล่นน่า!”
ก่อนที่ทงเฮจะสงสัยไปมากกว่านั้น มินโฮก็รีบชิงแก้ตัวเสียก่อน ทงเฮพยักหน้าสองสามครั้ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เหมือนจะมีคนโทรศัพท์มาหาเขา ร่างบางกดรับแล้วเบี่ยงตัวออกไปสนทนา
“ครับพี่ฮยอกแจ”
[ทงเฮ มากินเนื้อย่างกับพี่ไหม?]
ทงเฮเหล่ตามองอีกคนที่ดูเหมือนจะแอบฟังเขาอยู่ ร่างบางไม่กล้าไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปจากบ้านแม้เขาจะอยากไปทานอาหารเย็นกับฮยอกแจมากแค่ไหน ในขณะเดียวกันทงเฮก็ไม่กล้าบอกฮยอกแจออกไปว่าเขานั่งอยู่กับใคร ทงเฮกลัวว่าฮยอกแจคิดมาก กลัวว่าฮยอกแจจะเป็นห่วงที่เขาอยู่กับคนแปลกหน้า
“เอาไว้วันหลังนะครับพี่ฮยอกแจ วันนี้ผมจะรอกินข้าวกับพี่ซีวอน”
คำตอบของทงเฮทำให้อีกคนยิ้มกริ่ม ทงเฮกดวางสายโทรศัพท์ไปแล้วหันกลับมามองมินโฮด้วยใบหน้าผิดหวัง มินโฮพึงพอใจกับท่าทางนั้น เพราะยิ่งทงเฮเป็นห่วงความรู้สึกของฮยอกแจมากเท่าไร เขาก็จะจัดการกับคนพวกนี้ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
ชเว มินโฮขอตัวกลับก่อนเพราะรอซีวอนไม่ไหว เรื่องแก้แค้นมันต้องทำอย่างรอบคอบและค่อยเป็นค่อยไป พรุ่งนี้...วันพรุ่งนี้จะต้องมีใครสักคนที่ต้องเสียน้ำตาแน่ๆ
Talk with Lee Seen
น้องมินโฮเหมือนนาธานไหมคะ? ฮ่าๆๆๆ
ได้ข้อสรุปมาแล้วว่า...
คู่อึนเฮ เอาประโยคทงเฮของพี่ ส่วนวอนคยูก็...ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย
ส่วนเป็นฉากไหน ประโยคไหน ซีนต้องกลับไปอ่านอย่างละเอียดอีกที
ใครที่ไม่เห็นด้วย ช่วยแนะนำซีนด้วยนะคะ เผื่อมีอะไรที่ดีกว่านี้ ซีนจะได้นำไปใช้
ส่วนหนังสือที่บอกว่าจะลดให้อ่ะ พอดีมีคนตอบแบบเดียวกันหลายคนมาก
ซีนเลยขอสงวนสิทธิ์ไม่ให้นะคะ แต่ว่าหนังสือราคาถูกมาก ถ้ามี 2 เล่ม
เล่มละประมาณ 200 หน้า ซีนจะขายเล่มละ 150 บาท ประมาณนี้อ่ะค่ะ
แต่ตอนนี้ควรจะไปแต่งให้จบก่อนเนอะ ฟิ้ววว~
ปล. ช่วงนี้คอมเม้นท์หายไปเยอะเลย เพราะฉะนั้นอ่านแล้วช่วยเม้นท์ให้กำลังใจหน่อยนะคะ
เม้นท์ด้วยโหวตด้วยช่วยลดโลกร้อน
ใครคอมเม้นท์ขอให้ยิ้มได้และไม่ป่วยค่ะ
ส่วนคำผิดในตอนนี้...ถ้าใครเจอ ให้ตามไปด่าน้องปิ๊งได้นะค้า...(ล้อเล่นๆ จะขอบคุณต่างหากล่ะ)
ปล.ที่จริงซีนตอบคอมเม้นท์ตั้งแต่ 760 - 856 ไปแล้วนะคะ
แต่ซีนเผลอกดลบตอนสุดท้ายเพราะเล่นเน็ตจากมือถือ แล้วไม่อยากรบกวนให้พี่เว็บมาแก้ไข
เนื่องจากกลัวว่าพี่เว็บจะเจอกับ NC ในเรื่อง Erotic Drama
ดังนั้นใครที่อ่านตอนนี้อยู่แล้วยังไม่ได้รับการตอบคอมเม้นท์จากซีน
สามารถแจ้งคอมเม้นท์ที่ต้องการให้ตอบได้นะคะ ซีนจะรีบมาตอบให้ในตอนต่อไปอย่างเร่งด่วนเลยค่า...
ขอโทษทุกคนจริงๆ ค่ะ
ความคิดเห็น