ตอนที่ 32 : บทที่ 32 คาสโนว่าแบดบอย (100%)
บทที่ 32 คาสโนว่าแบดบอย
อย่างที่นักปราชญ์หลายท่านได้กล่าวเอาไว้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง จิตใจของมนุษย์เรากลับเดินสวนทางมีแต่ความตกต่ำลงทุกวัน จิตสำนึกของความอดทนอดกลั้นความยับยั้งชั่งใจค่อยๆ เลือนหายไป เพราะเอาแต่หลงใหลมัวเมาอยู่แต่ในวังวนของกิเลสตัณหา ความปรารถนาอยากมีอยากได้ไม่มีวันสิ้นสุด เฉกเช่นดังคนบางกลุ่มที่ควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนในสังคม แต่กลับทำตัวไร้ค่าไม่ต่างไปจากเศษซากขยะไร้ประโยชน์ประเภทที่ไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ เลวแล้วก็เลวเลย ไม่อาจกลับตัวกลับใจมาใฝ่ในทางดีได้อีก ฉันใดก็ฉันนั้น
อย่าลำบากเลยนะ แค่นี้วิก็เกรงใจคุณจะแย่แล้วค่ะ อีกอย่างพรุ่งนี้คุณก็อาสาจะขับรถพาฉันไปเยี่ยมแม่กับยายของฉันที่บ้านด้วยนี่คะ พักผ่อนให้เพียงพอดีกว่านะ พรุ่งนี้เช้าตื่นมาแล้วจะได้สดชื่นไงคะ อืม เดี๋ยววิต้องไปทำงานต่อแล้วล่ะค่ะ ถ้ากลับแล้ววิจะรีบโทร.หาคุณเลยแล้วกันนะคะ
รวินันท์ยกหลังมือขึ้นมาปาดน้ำตาทิ้งไปอย่างลวกๆ พยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเครือด้วยไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกำลังร่ำไห้ให้กับความผิดมากมายที่มีต่อเขาซึ่งเธอเป็นผู้ก่อมันขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะรีบตัดบทขอวางสายอย่างนุ่มนวล
ก็ได้ครับวิ แต่ถึงยังไงก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะครับ ผมเป็นห่วงรู้ไหม ยิ่งวันนี้ผมไม่ได้เห็นหน้าคุณมาทั้งวันเลยนะ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว
ชายหนุ่มยอมรับและเคารพในการตัดสินใจของแฟนสาว แม้ว่าในใจของเขานั้นจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจอยู่ลึกๆ ก็ตามแต่ก็ไม่พยายามซักไซ้ไล่เรียงใดๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้เธอเบื่อและต้องทนลำบากใจกับโรคชอบวิตกกังวลมากไปจนเกินเหตุอยู่บ่อยๆ ของเขา ได้แต่หยอดคำหวานอย่างออดอ้อนหญิงสาวคนรักกลับไปเท่านั้น
อืม วิ ก็...คิดถึงวัฐเหมือนกันค่ะ เดี๋ยววิต้องวางสายแล้วล่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะวัฐ นอนหลับฝันดีนะคะ
สไตลิสต์สาวแอบยิ้มปลื้ม พลางมองซ้ายแลขวาจนแน่ใจว่าเจ้าของบ้านหนุ่มไม่ได้ยืนอยู่แถวนั้น เธอจึงค่อยยกมือขึ้นมาป้องปากพลางเอ่ยเสียงเบา ราวกับกลัวว่าธามจะแอบมาได้ยินเธอคุยกับคนรักเข้า แม้จะอดแปลกใจตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมเธอต้องกลัวว่าเขาจะได้ยินสิ่งที่เธอพูดคุยกับภวัฐด้วย ทั้งที่ประธานหนุ่มน่าจะรู้ดีกว่าใครว่าเธอกับคนรักกำลังคบกันอยู่ในขั้นไหนแล้วก็ตาม
ครับผม คืนนี้ผมจะฝันถึงคุณแล้วกันนะ จะได้ฝันดีอย่างที่คุณอวยพรไงครับ ถ้างั้นผมไม่รบกวนเวลาทำงานของวิแล้วล่ะ แต่ยังไงก็อย่าหักโหมกับงานมากไปนะครับเดี๋ยวจะไม่สบายเอา วัฐรักวินะครับ ฝันดีเช่นกันนะ
ภวัฐกล่าวอำลาคนรักด้วยคำหวานหยาดเยิ้มและยังไม่วายทิ้งทายไว้ด้วยความเป็นห่วงอีกนิดหน่อยตามสไตล์ของเขาก่อนจะวางสายไปในที่สุด
ทำอะไรอยู่ครับวิ ผมเตรียมทุกอย่างตามที่คุณสั่งเรียบร้อยแล้วนะ จะเริ่มงานกันเลยไหมครับ
เสียงเรียกของธามที่ดังแว่วมาจากทางด้านหลังทำให้สไตลิสต์สาวถึงกับสะดุ้งเฮือก พาให้บรรยากาศอบอุ่นหวานละมุนละไมอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรักซึ่งส่งผ่านมากับถ้อยคำหวานซึ้งตราตรึงใจของผู้ชายอีกคนเพิ่งวางสายไปนั้น พลันค่อยๆ จางหายสลายลงไปทันที
โชคดีที่รวินันท์กดวางสายได้ทันก่อนที่เสียงของธามจะดังขึ้นมา ไม่อย่างนั้นเสียงของชายหนุ่มอาจจะดังลอดเข้าไปในโทรศัพท์และทำให้ภวัฐรู้ความจริงขึ้นมาทันทีเลยก็ได้ พลางหันหน้าไปมองชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่กำลังเดินตามหาเธอไปทั่ว สไตลิสต์สาวจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายกับชีวิตที่เริ่มไม่มีอิสระนี้เสียแล้ว
ต่อ
ภายในห้องนั่งเล่นที่ถูกแปรสภาพกลายเป็นห้องทำงานชั่วคราวของสองหนุ่มสาว เสียงของชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่กำลังอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับรถทั้งสามรุ่นของเขาให้สไตลิสต์สาวฟังอย่างคร่าวๆ นั้นดังก้องกังวานไปทั้งห้อง
ที่นี้คุณก็คงเข้าใจคอนเซ็ปต์ความแตกต่างของแต่ละรุ่นแล้วใช่ไหมครับวิ ทีนี้เรามาเริ่มจากรถรุ่นแรกก่อนเลยแล้วกันนะครับ คันนี้คุณน่าจะออกแบบได้ไม่ยากเพราะคงคุ้นเคยกับมันดีแล้ว
ธามกล่าวพลางหยิบกระดาษA4 ปึกหนึ่งมาวางลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้าสไตลิสต์สาวที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นแทนการนั่งบนโซฟาตัวยาวเพราะรู้สึกว่าทำงานได้ไม่ถนัด
เหตุที่รวินันท์ต้องขอให้ชายหนุ่มเจ้าของบ้านย้ายสถานที่ทำงานมาไว้ตรงนี้เพราะว่าเธอไม่อยากอยู่ในห้องทำงานของเขา มันมิดชิดและเป็นส่วนตัวมากเกินไปจนหญิงสาวเริ่มระแวงว่าอาจจะถูกเขาจู่โจมเข้ามาอย่างเมื่อวานอีกก็ได้ แต่ห้องนั่งเล่นนี้มีหน้าต่างที่เปิดออกไปรับลมเย็นจากภายนอกให้พัดพลิ้วเข้ามาได้ อย่างน้อยเธอก็ยังอุ่นใจว่าเขาคงไม่กล้าทำอะไรกับเธอในที่แบบนี้เป็นแน่
ประโยคที่ฟังดูมีลับลมคมนัยของประธานหนุ่ม ทำให้สไตลิสต์สาวต้องเงยหน้าขึ้นมามองคนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาด้วยมาดของคุณชายผู้สูงศักดิ์ก็มิปาน ส่วนเธอนั้นคงเหมือนนางกำนัลหรือสาวใช้ผู้ต่ำต้อยที่กำลังนั่งฟังคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายอย่างไรอย่างนั้น หญิงสาวได้แต่นึกค่อนขอดเขาอยู่ในใจก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงเรียกของชายหนุ่มปลุกให้เธอกลับมาสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง
คุณวิ นี่คุณฟังผมอยู่รึเปล่า ไหนว่าจะต้องรีบทำงานไงครับ เอาแต่นั่งเหม่อแบบนี้เมื่อไหร่จะเสร็จล่ะ เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ตองหลับต้องนอนกันพอดีหรอก
ฟะ...ฟังอยู่นี่ไง แล้วที่ว่าฉันน่าจะคุ้นเคยกับรถนั่น หมายถึงรถสปอร์ตสีแดงที่คุณขับโฉบไปโฉบมาคันนั้นน่ะเหรอ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สไตลิสต์สาวจึงทำเสียงแข็งใส่ แล้วรีบเอ่ยเบี่ยงเบนความสนใจของเขาทันที ทั้งที่เริ่มรู้สึกได้ว่าใบหน้าของตนร้อนผ่าวไปหมด เพียงแค่สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของอีกฝ่ายที่เป่ารดดวงหน้าของเธออยู่เท่านั้น
ใช่แล้วครับ และสำหรับคันนี้พรีเซ็นเตอร์คือ คิม อาคิรา นักร้องหนุ่มหน้าใสลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ที่กำลังโด่งดังเป็นขวัญใจวัยรุ่นอยู่ตอนนี้ ที่ผมเลือกคนนี้มาเพราะว่าบุคลิกของเขาดูเป็นคนเลือดร้อน มุทะลุ แต่ขณะเดียวกันก็แลดูอบอุ่นเหมือนชื่อของเขาที่แปลว่าพระอาทิตย์นั่นล่ะ
เจ้าของโปรเจ็กต์ใหญ่ยังคงอธิบายต่อโดยไม่ทันได้สนใจเลยว่าสไตลิสต์สาวกำลังมองเปรียบเทียบใบหน้าของนักร้องหนุ่มกับใบหน้าของเขาอยู่ หญิงสาวมองภาพนักร้องหนุ่มวัยทีนบนกระดาษในมือของเธอสลับกับคนตรงหน้าพลางนึกสงสัยในใจว่ารูปร่างหน้าตาเขาก็ดีไม่ได้มีอะไรบกพร่อง ทำไมไม่จับเอาตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ไปเสียเลยจะได้ไม่ต้องมาสิ้นเปลืองจ่ายเป็นค่าตัวให้กับนักร้องหนุ่มนั่นแถมยังไม่ต้องมานั่งพะวงว่าพฤติกรรมของดารานักร้องที่เลือกมานั้น จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียจนถึงขั้นถอดถอนจากการเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในภายหลังหรือไม่
เพราะสมัยนี้บริษัทห้างร้านต่างๆ ที่มีลูกชายลูกสาวหน้าตาดีก็มักจับมาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าของตัวเองกันเสียส่วนใหญ่ เพราะนอกจากจะประหยัดงบประมาณในการลงทุนกับโฆษณาแล้ว เวลาไปออกงานสังคมหรืองานไหนที่มีสื่อมวลชนมาร่วมงานด้วย ก็ยังเหมือนใช้สื่อเหล่านั้นเป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์ไปในตัวอีกด้วย อย่างเช่น ไฮโซหนุ่มทายาทเบียร์กระป๋อง หลานสาวเจ้าสัวค่ายโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่เสี่ยใหญ่เจ้าของผลิตภัณฑ์ชาเขียวผู้โด่งดัง
ต่อ
ส่วนคันต่อไป เป็นรถยนต์ขนาดกลางเหมาะสำหรับสาววัยทำงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ และต้องการยานพาหนะที่มีความเนี้ยบหรูแต่เน้นราคาสบายกระเป๋า พรีเซ็นเตอร์คือ น้องครัวซองต์ นางแบบสาวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศสที่เพิ่งชนะการประกวดนางแบบในเวทีระดับโลกมาหมาดๆ คนนี้ตัวจริงสวยมากเลยนะ บุคลิกก็ดูงามสง่าเหมาะสมกับรถของผมมากทีเดียวล่ะ
นัยน์ตาเปล่งประกายระยิบระยับราวกับตกอยู่ในห้วงความฝันอีกทั้งน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนธามจะชื่นชมหญิงสาวคนในภาพเสียเต็มประดานั้น ทำเอารวินันท์แอบทำหน้าแหวะราวกับเลี่ยนในคำพูดของชายหนุ่มขึ้นมาทันที
ส่วนคันสุดท้ายเป็นรถครอบครัวขนาดเจ็ดที่นั่ง ส่วนพรีเซ็นเตอร์มีทั้งหมดเจ็ดคน รวมทั้งสุนัขพันธุ์ลาบราดอสีครีมด้วยอีกตัว อันนี้เมนี่เป็นคนเลือกเอง เธอบอกว่าน่าจะเลือกครอบครัวของพิธีกรและนักแสดงหนุ่มใหญ่อย่าง ดิว ดนุเดชมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะว่าสมาชิกในครอบครัวของเขาหลายคนเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของผู้ชมรายการโทรทัศน์ดี แล้วเขาก็ยังเป็นญาติห่างๆ ของเมนี่ด้วย
ธามอธิบายเกี่ยวกับผู้ที่จะมาสวมใส่ชุดที่สไตลิสต์สาวเป็นคนออกแบบเรียบร้อย ก็หันมาถามเหมือนขอความเห็นแต่ฟังอีกทีก็เหมือนจะพยายามคาดคั้นเอาคำตอบเสียมากกว่า
คุณว่าทั้งสามคันนี้ จะออกแบบคันไหนได้ก่อนครับ เพราะรถแต่ละคันจะมีคาแรกเตอร์ไม่เหมือนกันเลยนะ
ก็คงอย่างที่คุณว่าล่ะ รถสปอร์ตสีแดงคันเก่งของคุณนั่นไง อีกอย่างชุดสำหรับผู้ชายก็ออกแบบง่ายกว่าชุดผู้หญิงอยู่แล้ว
แถมยังมีนายแบบนั่งอยู่ตรงนี้อีกคน จินตนาการภาพชุดได้ง่ายกว่าอยู่แล้ว รวินันท์พูดต่อในใจไม่กล้าบอกให้อีกฝ่ายล่วงรู้ความคิดของเธอ เดี๋ยวชายหนุ่มจะมาโมเมหาว่าเธอเกิดหลงเสน่ห์เขาขึ้นมาอีก
ดีครับ ถ้างั้นมาเริ่มเลยนะ ผมอยากได้ชุดที่ดูเคร่งขรึมแต่ขณะเดียวกันก็เหมือนมีความร้อนแรงแฝงอยู่ เอาแบบแนวแบดบอยหน่อยก็ได้ เมนี่บอกว่าผู้หญิงสมัยนี้ชอบผู้ชายที่ดูเถื่อนๆ ออกแนวกวนประสาทนิดหน่อยมากกว่าผู้ชายนุ่มนิ่มเจ้าสำอางเพราะกลัวว่าจะเป็นเกย์ไม่ใช่ชายแท้ คุณเองก็คิดแบบนั้นหรือเปล่าครับวิ
ธามหลับตาแล้วนึกจินตนาการภาพเสื้อผ้าของนายแบบพลางค่อยๆ อธิบายรายละเอียดที่ต้องการทีละน้อย เขานึกไปถึงคำพูดของมณิการ์ที่เคยบอกเอาไว้ตอนที่ช่วยกันเลือกพรีเซ็นเตอร์ แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าแล้วในความคิดของสไตลิสต์สาวเป็นแบบผู้หญิงทั่วไปอย่างนั้นด้วยหรือเปล่า ชายหนุ่มจึงเอ่ยถามตรงๆ อย่างใคร่รู้
เสียงของดินสอไม้เบอร์ HB ที่กำลังลากเส้นขีดเขียนเป็นโครงร่างมนุษย์เพศชายอยู่บนกระดาษสีขาวหยุดชะงักลงทันทีหลังสิ้นประโยคของธาม สไตลิสต์สาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานของเธออย่างตั้งอกตั้งใจถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองสบตาคนถาม ดวงตาคมพินิจมองคนตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มหน้าหวานผสมสั้นสีน้ำตาลแกมทองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้น ได้ปลดกระดุมคอเสื้อเชิ้ตสีขาวออกราวสามถึงสี่เม็ดเผยให้เห็นแผ่นอกแกร่งขาวเนียนที่มีสร้อยเชือกหนังพร้อมจี้ห้อยคอรูปดาบห้อยลงมาจากลำคอ ชายเสื้อถูกดึงออกมากองอยู่นอกกางเกงแสล็คสีดำสนิท อีกทั้งแขนเสื้อที่ถูกรั้งขึ้นมาอยู่ตรงข้อพับ ทำให้ภาพของชายหนุ่มนักธุรกิจที่ดูเคร่งขรึมและน่าเชื่อถือในสายตาของหญิงสาวกลายสภาพไปเป็นหนุ่มหล่อเจ้าสำราญแทบจะในทันที
นี่อย่างไรเล่าบุคลิกของแบดบอยตัวพ่ออย่างที่เขาอยากได้ ถ้าจับชายหนุ่มไปส่องกระจกดูตอนนี้เธอเชื่อว่าเขาคงจะรู้สึกว่าคิดผิดเป็นแน่ที่ยอมจ่ายเงินค่าตัวให้นักร้องหนุ่มในราคาแพงลิบลิ่วถึงหกหลักแทนที่จะจับตัวเองมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เสียเลยจะได้ประหยัดเงินไปอีกโข
แต่ฉันชอบผู้ชายที่ดูสุภาพเรียบร้อย เป็นคนดีมีน้ำใจกับคนรอบข้าง ที่สำคัญต้องไม่เจ้าชู้ แล้วก็ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกมากกว่านะ
รวินันท์มองชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะตอบคำถามของ แล้วจึงแสร้งทำเป็นก้มหน้าก้มตาทำเป็นให้ความสนใจกับงานของตัวเองเช่นเดิม และไม่วายแอบลอบยิ้มมุมปากอย่างสะใจไม่น้อยที่มีโอกาสได้หลอกตำหนิคนถามโดยที่ฝ่ายนั้นยังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ
เมื่อธามเห็นว่าสไตลิสต์สาวดูท่าทางจะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการทำงานมากกว่าจะสนทนากับเขา ชายหนุ่มเจ้าของบ้านจึงปล่อยให้หญิงสาวนั่งทำงานของเธอไปเพียงลำพังอย่างเงียบเชียบ ส่วนตัวเขานั้นหลบมานั่งอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์ของรถรุ่นถัดไปที่มีโครงการว่าจะเปิดตัวอีกครั้งราวกลางปีหน้าอยู่ในห้องทำงานเพราะไม่อยากอยู่รบกวนสมาธิของเธอ
ต่อ
เสียงสายฝนที่โปรยปรายอยู่ด้านนอก ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับงานของตนต้องละสายตาจากเอกสารอิเล็กโทรนิกที่กลางจอมอนิเตอร์และเหลือบมองไปยังตัวเลขเวลาที่ปรากฏอยู่ตรงมุมล่างขวาบนหน้าจอนั้น พลันรู้สึกตกใจเป็นอันมากที่พบว่าตนนั่งอยู่ในห้องทำงานมานานกระทั่งเวลาผ่านล่วงเลยไปจนเกือบถึงรุ่งเช้าของวันใหม่แล้ว
ธามลุกมายืนบิดกายไปมาไล่ความเมื่อยขบหลังจากที่นั่งทำงานเพลินจนลืมเวลา ก่อนจะเปิดประตูออกไปดูว่าสไตลิสต์สาวคนเก่งของเขาทำงานไปถึงไหนแล้ว แต่พอชายหนุ่มเดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นว่าบนพื้นไม้ปาร์เก้นั้นเต็มไปด้วยเศษกระดาษปลิวว่อนร่อนไปทั่วห้องตามแรงลมที่พัดมาจากนอกหน้าต่าง รวมทั้งกระดาษแผ่นโตที่ถูกขยำให้ยับย่นจนปั้นเป็นก้อนกลมได้ อีกทั้งยังมีถุงพลาสติกที่เคยบรรจุขนมปังหลากหลายชนิดวางทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่รายล้อมรอบตัวรวินันท์เต็มไปหมด ส่วนตัวหญิงสาวนั้นฟุบหลับคาโต๊ะไปเรียบร้อยแล้ว
คุณวิ นี่คุณทำอะไรกับบ้านของผมครับเนี่ย ทั้งกระดาษทั้งถุงขนม วางทิ้งเรี่ยราดเละเทะไปหมดเลย
เจ้าของบ้านหนุ่มยืนเท้าสะเอวพลางมองสภาพห้องนั่งเล่นของเขาที่เคยเป็นระเบียบเรียบร้อยแลดูสะอาดสะอ้านกลายเป็นลานทิ้งขยะสาธารณะไปแล้วก่อนจะบ่นอุบออกมาอย่างหัวเสีย เขาเดินฝ่าวงล้อมเศษขยะเข้าไปหยุดยืนอยู่ข้างสไตลิสต์สาวที่ฟุบหน้าลงบนโต๊ะเอนกประสงค์ที่วางตั้งอยู่หน้าโซฟาตัวยาว พลางย่อตัวลงไปสะกิดเรียกคนที่หลับอยู่แต่ฝ่ายนั้นเพียงแค่ส่งเสียงงึมงำในลำคอคล้ายกับว่ารำคาญก่อนจะหลับต่อโดยไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองคนที่กำลังพยายามปลุกเลยด้วยซ้ำ
ปลุกก็ไม่ยอมตื่นอีก ขี้เซาจริงเชียวนะแม่คุณ แบบนี้ถึงจะถูกใครลักหลับก็คงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาหรอกมั้ง หืม ไม่น่าเชื่อ นี่คุณออกแบบชุดสำหรับรถรุ่นแรกเสร็จแล้วเหรอวิ ไม่ได้เก่งแต่ปากจริงๆ ด้วยสินะ
ธามส่ายศีรษะเล็กน้อยให้กับคนขี้เซา พลางยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้เห็นภาพสเก็ตช์ชุดสำหรับนายแบบที่วางอยู่ใต้ท่อนแขนของสไตลิสต์สาว เขาหยิบกระดาษเอสี่ที่มีภาพเครื่องแต่งกายบุรุษราวสามสี่แผ่นนั้นขึ้นมาดูอย่างพินิจพิจารณา ก่อนจะตัดสินใจเลือกเอาชุดสองแบบในจำนวนทั้งหมดขึ้นมาแล้วรีบเดินดุ่มๆ นำกระดาษทั้งสองแผ่นนั้นไปวางไว้บนโต๊ะภายในห้องทำงานของเขา และกลับมาจัดการกับคนที่ยังนั่งฟุบหลับอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
ชายหนุ่มลองปลุกเธอดูอีกครั้ง แต่เหมือนว่าความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งวันนั้นทำให้รวินันท์ง่วงมากเสียจนไม่อาจฝืนสังขารร่างกายของตัวเองให้ตื่นขึ้นมาได้ ในที่สุดธามก็ตัดสินใจละเมิดคำสัญญาของตัวเองแล้วช้อนร่างอ่อนปวกเปียกของสไตลิสต์สาวขึ้นมาจากพื้น พลางอุ้มเธอขึ้นไปยังห้องนอนของเขาซึ่งอยู่บนชั้นสองของบ้าน
หลังจากวางร่างของรวินันท์ลงนอนบนเตียงแล้ว ชายหนุ่มจึงย่อตัวลงนั่งที่ขอบเตียงด้านข้างพลางจ้องมองหญิงสาวอย่างไม่วางตา ใบหน้าตอนหลับของเธอช่างดูน่ารักอ่อนหวานราวกับเทพธิดาตกจากสรวงสวรรค์ลงมาจุติยังโลกมนุษย์ก็ไม่ปาน ดวงตาคู่งามที่กำลังหลับตาพริ้มราวกับตกอยู่ในห้วงภวังค์ความฝัน อีกทั้งริมฝีปากอวบอิ่มสีกุหลาบที่เผยอขึ้นมาเล็กน้อยคล้ายจะเชิญชวนให้คนมองได้ลิ้มลองชิมความหวานสักครา
หัวใจของธามเต้นแรงขึ้นมาอย่างผิดจังหวะจนเขาได้ยินเสียงของมันชัดเจนเต็มสองหูท่ามกลางความเงียบงันภายในห้อง และไม่ทันรู้ตัวเลยว่ากำลังถูกมนต์เสน่ห์ของสไตลิสต์สาวชักนำให้เขาเคลื่อนใบหน้าลงไปมองใบหน้างามนั้นในระยะใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของเธอที่เป่ารดอยู่บนใบหน้าของเขา แม้อยากจะก้มลงไปจุตพิตบนเรียวปากหญิงสาวแทบใจจะขาด เพราะยังจดจำสัมผัสหวานนุ่มละมุนละไมได้ดีว่ามันช่างยวนเย้าเร้าอารมณ์ของเขาได้มากถึงเพียงไหน
แต่สุดท้ายก็จำต้องหักห้ามใจด้วยเพราะเขารับปากกับเธอไว้แล้วว่าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการฝืนใจหญิงสาวอีกโดยเด็ดขาดหากเธอไม่ได้เป็นฝ่ายร้องขอ พลางเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมร่างบางให้จนถึงลำคอแทน เขานั่งมองคนหลับด้วยความรู้สึกหลงใหลไปได้อีกชั่วครู่ก็ตัดสินใจที่จะปล่อยให้หญิงสาวได้นอนต่อไป ส่วนตัวเองนั้นก็รีบกลับไปยังห้องทำงานเพื่อสแกนภาพชุดทั้งสองแบบส่งอีเมลไปให้กับทีมบริษัทโฆษณาที่เพิ่งส่งอีเมลมาทวงงานจากเขาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
ติดตามตอนต่อไปได้เร็วๆ นี้ค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่น่าเชื่อว่า ธามจะ อด ใจได้ อ่า ค่ะ
ไม่น่าเชื่อว่า
นายธามจะทำด้าย
ดีมากน้อง
เดี๋ยวหนูวิได้มีหวั่นไหว
หุหุ
สู้ๆ ค่ะ ตอนนี้สั้นๆ ไปหน่อยมั้นค่ะ
แน่ใจจะทำใจ หักห้ามใจ ให้ผ่านคืนนี้ไปได้แน่ๆๆน่ะ .... นายธาม ที่จะไม่แตะต้องตัวคุณวิ
มาลุ้นกันจะเกิดอะไรขึ้นหรือปล่าว รอไรเตอร์มา up ต่อ
จะบอกว่าตอนนี้ดูว่าจะมีอะไรแปลกๆๆเเล้วนา อิอิอิอิ
โฮะๆๆ
สงสัยว่า พอเห็นแบบเสื้อแล้ว
นายธามอาจหวง
ไม่ยอมให้อาคิระใส่ก็ได้
รถสปอรต์สีแดงคงจะได้พรีเซนเตอร์เป็นนายธามเป็นแน่
รอไรเตอร์ up ครย 100
ชอบที่writerตั้งชื่อนางแบบว่าครัวซองต์จังคงเป็นคู่แข่งกับแพนเค็ก อิ อิ
จุดสำคัญเริ่มใก้ลเดินทางมาถึงแล้ว งานนี้ดูท่าได้เปลี่ยน พรีเซนเตอร์เป็นแน่ งานเข้านายธามเป็นแน๋ ฮิ ฮิ
รอไรเตอร์มา up ต่อค่ะ
Take Care ครับ
จะทำอะไรก็รีบทำนะหนูวิ
อย่าให้นายวัฐเค้ามารู้ทีหลังด้วยตัวเอง หรือ ปากคนอื่น
ทุกอย่างพังไม่เหลือซากแน่ ๆ
เฮ่อ
นายธามก็คอยแต่จะเจ้าเล่ห์กับหนูวิเรื่อยเลย
รอไรเตอร์มา up ต่อ
สุขสันต์วันสอยกระทงค่ะ ไรตอร์
