ตอนที่ 16 : บทที่ 16 การจากลา (100%)
บทที่ 16 การจากลา
เมื่อธามหันมาเห็นว่ารวินันท์กำลังพยายามจะกดโทรศัพท์ไปหาใครบางคนด้วยสีหน้าวิตกกังวลเป็นที่สุด เขาก็พอจะเดาออกทันทีว่าปลายสายนั้นคงเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก ภวัฐ คนรักของเธอ ความรู้สึกน้อยอกน้อยใจระคนอิจฉาก็พลันก่อเกิดขึ้นมาโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวเมื่อเห็นว่าเธอกำลังให้ความสนใจกับผู้ชายคนอื่นมากกว่าเขา ทีแรกชายหนุ่มคิดที่จะรีบออกไปจากห้องพักนี้โดยเร็วที่สุดด้วยไม่อยากรับรู้ความจริงที่ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขานั้นมีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว
แต่เสียงร่ำร้องของความปรารถนาจากส่วนลึกในจิตใจกลับสั่งให้เขาทำบางสิ่งบางอย่างทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนการจากลา ธามก้าวเดินฉับๆ กลับไปยังเตียงใหญ่ขนาดหกฟุตที่มีร่างของหญิงสาวอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเอนหลังพิงกับหัวเตียงพร้อมกับกดโทรศัพท์อยู่ด้วยท่าทางร้อนรนโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะโน้มตัวลงไปหาคนที่นอนอยู่บนเตียง มือใหญ่ประคองใบหน้างามให้แหงนขึ้นมาพร้อมกับประทับริมฝีปากของตนลงบนเรียวปากอิ่มของหญิงสาวอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าอีกฝ่ายแทบไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
รวินันท์รู้สึกตกใจกับการกระทำของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก เธอคิดจะเบี่ยงตัวหลบให้พ้นจากเขา ทว่า รสจูบอันแสนหนักหน่วงและเร่าร้อนจากริมฝีปากอุ่นชื้นของธามนั้นกลับตรึงให้เธอต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่เพื่อตอบรับสัมผัสจากเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความรู้สึกวาบหวิวจุดประกายอารมณ์หวามไหวในกายหญิงสาวให้พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง เธอหลงเคลิ้มฝันละเมอไปกับจุมพิตร้อนแรงของเขาจนแทบลืมไปเสียสนิทว่ากำลังทำอะไรอยู่ จึงกดปุ่มวางสายโทรศัพท์ที่กำลังต่อสัญญาณไปหาแฟนหนุ่มอย่างลืมตัว กระทั่งเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังย้อนกลับมานั่นล่ะจึงทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันถึงกับสะดุ้งสุดตัว และรีบยื่นมือออกไปผลักใบหน้าของชายหนุ่มออกห่างทันที
อย่ามาทำอะไรแบบนี้นะ ไหนบอกว่าข้อตกลงของเราจบแล้วไง รีบกลับไปได้แล้ว ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้!
รวินันท์ตะโกนเสียงกร้าว เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกร้อนผะผ่าวจากริมฝีปากของตนที่ยังหลงเหลืออยู่จากสัมผัสของเขาเมื่อครู่นี้ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ด้วยอาการเหนื่อยปนหอบและรู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นรัวเร็วราวกับเพิ่งเสร็จสิ้นจากการแข่งขันกีฬาวิ่งมาราธอนมาหมาดๆ ไม่น่าเชื่อว่าแค่จูบเดียวเท่านั้นจะทำให้เธอต้องใช้พลังงานร่างกายมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ
คร้าบๆ ผมไม่อยู่กวนใจคุณแล้วก็ได้ ไม่ต้องไล่กันขนาดนั้นหรอกน่า อ้อ อีกอย่างเรื่องค่าซ่อมรถนั่นน่ะ ผมไม่ต้องการแล้วล่ะ ลาก่อนนะครับคุณผู้หญิง
เมื่อได้ยินหญิงสาวออกปากไล่เขาถึงขนาดนั้น ธามก็ได้แต่คลี่ยิ้มบางๆ ออกมา และยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี เขาโบกมือให้เธอพร้อมกับเอ่ยคำลาด้วยน้ำเสียงเศร้าและหดหู่ระคนผิดหวัง ก่อนจะหันหลังก้าวออกจากห้องของรวินันท์ไปในที่สุด โดยหารู้ไม่ว่าคนที่เพิ่งถูกจู่โจมด้วยจุมพิตเร่าร้อนของเขานั้นได้แต่ช้อนสายตามองตามไปอย่างไม่เข้าใจกับท่าทางหงอยเหงาของเขาเอาเสียเลย
หลังจากรวินันท์เห็นชายหนุ่มออกไปจากห้องของตนเรียบร้อยแล้ว เธอก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าจะยังหลงหลือความรู้สึกกังวลน้อยๆ กับท่าทางของเขาที่ดูแปลกไปจากเดิมก็ตาม แต่แล้วเสียงกรีดร้องจากโทรศัพท์มือถือเครื่องน้อยที่ยังคงดังยาวต่อเนื่องไม่ยอมหยุด ก็ทำให้เธอละความสนใจจากชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้น และหันมากดรับสายทันทีเมื่อเห็นภาพของภวัฐปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
ฮัลโหล
เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวคนรักกดรับสาย ภวัฐก็รีบเอ่ยออกมาเสียยืดยาว ความรู้สึกห่วงหาอาทรที่สั่งสมมาตลอดทั้งวันนั้นถูกส่งไปถึงอีกคนที่อยู่ปลายสายอย่างรวดเร็วจนฝ่ายนั้นแทบไม่ทันตั้งตัว และอดเป็นกังวลไม่ได้เมื่อประโยคยาวๆ ของเขาทำให้เสียงของหญิงสาวเงียบหายไป จนเขาต้องเรียกชื่อเธอซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเธอกำลังฟังเขาอยู่ เวลาผ่านไปนานเป็นอึดใจทีเดียวกว่าที่เสียงจากปลายสายจะขานตอบกลับมา
ตื่นแล้วเหรอครับวิ เป็นยังไงบ้าง หายดีหรือยังครับ รู้ไหมผมเป็นห่วงคุณแทบแย่แน่ะ วิ...วิครับ
ความรู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจกับความเป็นห่วงเป็นใยของชายหนุ่ม ทำให้รวินันท์ถึงกับน้ำตาซึมกว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอ ก็เกือบทำให้ฝ่ายนั้นต้องเป็นห่วงเธอเพิ่มขึ้นอีกแล้ว หญิงสาวใช้หลังมือปาดน้ำตาทิ้งไปพลางปรายตามองไปยังนาฬิกาแขวนผนังเรือนใหญ่ที่ติดอยู่ด้านตรงข้ามกับเตียง ตำแหน่งของเข็มสั้นและเข็มยาวชี้ไปยังตัวเลขโรมันบนหน้าปัดบอกเวลาสิบหกนาฬิกาสามสิบสองนาที
แม้นี่จะยังไม่ถึงเวลาเลิกงานก็จริงแต่เธอก็อดกังวลไม่ได้ว่าบางทีคนรักหนุ่มอาจจะห่วงเธอมากเกินไปจนต้องรีบขอลางานกลับมาเร็วกว่าปกติก็เป็นได้ หญิงสาวแกล้งถามออกไปทั้งที่ใจร้อนรนยิ่งนักและคาดหวังว่าเขาคงไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แถวนี้ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเจอกับคนที่เพิ่งเดินออกจากห้องของเธอไปเมื่อครู่นี้ก็เป็นได้
คะ...ค่ะๆ ฟังอยู่ค่ะ พอดีว่าเมื่อคืนวิไม่ค่อยสบายก็เลยกินยาเข้าไป แล้วนี่ก็เพิ่งตื่นน่ะค่ะเลยไม่ค่อยมีเสียงเท่าไหร่ ตอนนี้วัฐอยู่ไหนแล้วคะ
ผมอยู่หน้าลิฟต์แล้วครับ กำลังขึ้นไป ผมคิดว่าวิคงจะหิวแล้ว ก็เลยซื้อข้าวต้มมาให้ด้วย รอแป๊บนึงนะครับ จะเดลิเวอรี่ไปให้ถึงหน้าห้องเลย
ภวัฐตอบคำถามของหญิงสาว พร้อมกับบอกอย่างเอาใจว่าเขามีอะไรเป็นของฝากมาให้คนป่วยด้วย แต่พอรวินันท์ได้ยินว่าเขาอยู่ที่ไหนแล้วก็ถึงกับร้องอุทานเสียงหลง หัวใจเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกมากองอยู่นอกอกด้วยความตื่นตระหนกวิตกกังวลสารพัดสารเพไปหมด กลัวว่าเขาจะมาเจอกับธามเข้าโดยบังเอิญ
ว่าไงนะคะ อยู่หน้าลิฟต์แล้วเหรอ
ครับหน้าลิฟต์ชั้นล็อบบีน่ะครับ วิมีอะไรหรือเปล่า ทำไมทำเสียงตกอกตกใจแบบนั้นล่ะ
ชายหนุ่มอดรู้สึกแปลกใจในน้ำเสียงตื่นตระหนกของหญิงสาวคนรักไม่ได้ คิ้วหนาขมวดมุ่นจนแทบกลายเป็นปมพลางกรอกเสียงกลับไป แต่ก็ได้รับคำตอบพร้อมเสียงหัวเราะเจื่อนๆ ของอีกฝ่ายตอบกลับมา
ปละ...เปล่าค่ะ คือวิไม่คิดว่าวัฐจะกลับมาเร็วขนาดนี้ ก็เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาเลิกงานน่ะค่ะ ก็เลยตกใจ อีกอย่าง วิ เอ่อ วิเพิ่งตื่นยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลยด้วย ไม่รู้ว่า...
รวินันท์ได้แต่พูดจาอึกอักอย่างคนมีพิรุธ ก่อนจะรีบแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ กลับไป เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นประตูห้องน้ำเปิดค้างเอาไว้พอดี อีกฝ่ายพอได้ฟังก็แย้มยิ้มออกมาอย่างเข้าใจ พลางหัวเราะเบาๆ ในลำคอก่อนจะรีบเสริมคำพูดของเธอต่อให้ทันที พร้อมทั้งหยอดคำหวานตบท้ายกลับไปโดยแทบไม่ต้องหยุดคิดให้เสียเวลา
ต่อ
ไม่รู้ว่าวัฐจะรังเกียจหรือเปล่าน่ะเหรอ โธ่ วิครับ เรื่องแค่นี้เองผมไม่ถือหรอกนะ ต่อให้คุณไม่ได้อาบน้ำมาสามวันสามคืนหรือบอกว่าตัวเองโทรมสุดๆ แค่ไหน สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าวิจะเป็นยังไงผมก็รับได้ทุกอย่างล่ะครับ อ่อ แค่นี้ก่อนนะวิ ผมกำลังจะขึ้นลิฟต์แล้ว เดี๋ยวเจอกันนะครับ
...
ภวัฐกดวางสายไปเสียดื้อๆ โดยที่รวินันท์ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรตอบกลับไป เพราะมัวแต่ปลาบปลื้มใจกับคำพูดของเขา หญิงสาวหยิบกระดาษโน้ตที่แย่งมาจากมือของธามและซ่อนเอาไว้เมื่อครู่นี้ออกมาเปิดอ่านดู เพียงได้เห็นข้อความจากลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อยของแฟนหนุ่มบนกระดาษแผ่นนั้น น้ำตาที่เอ่อคลออยู่รอบดวงตาคู่งามก็เอ่อล้นลงมาอาบสองแก้มอย่างห้ามไม่อยู่
วิไม่สบายหรือเปล่าครับ ผมเคาะประตูก็ไม่ยอมเปิด โทร.ไปหาหลายรอบแล้วก็ไม่รับสาย ผมเป็นห่วงมากนะครับ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นแล้วอยากไปหาหมอก็โทร.หาผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ เลิกงานแล้วผมจะรีบกลับ ภวัฐ
ข้อความบนกระดาษแผ่นน้อยกับคำพูดหวานซึ้งของคนที่เพิ่งวางสายไปนั้น ทำให้หญิงสาวถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น เธอทำให้แฟนหนุ่มเป็นห่วงมากขนาดนี้เชียวหรือ ไม่เพียงแค่ความรักความห่วงใยที่เขามีให้เธอเสมอมา แต่ทุกการกระทำและคำพูดของเขา ทำให้หญิงสาวได้แต่นึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ภวัฐช่างดีแสนดีนักหนาจนเธอรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยด้อยค่าและไม่คู่ควรที่จะอยู่ในฐานะคนรักของเขาเลยสักนิด
หลังจากธามออกมาจากห้องของรวินันท์แล้ว ชายร่างสูงก็ค่อยๆ ก้าวเดินไปที่ลิฟท์อย่างเชื่องช้าคล้ายกับคนที่ยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่อยากเดินจากที่แห่งนี้ไปแม้สักเพียงก้าวเดียว เขากดเรียกลิฟต์แล้วยืนรออย่างสงบนิ่ง ทั้งที่ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกเศร้าหมองด้วยเพราะคงไม่มีโอกาสที่เขาจะได้เจอกับเธอคนนั้นอีกแล้ว ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมๆ กับที่ร่างของชายหนุ่มอีกคนเดินสวนออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ธามหันขวับไปมองทันทีเมื่อรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นหน้าของชายหนุ่มคนนั้นที่ไหนมาก่อน สมองของเขาพยายามเรียบเรียงข้อมูลกลับมารวมกันอีกครั้ง และทำให้เขาจำได้ว่าที่แท้คนที่เพิ่งเดินสวนไปนั้นคือ ภวัฐ คนที่อยู่ในแฟ้มประวัติที่ลูกน้องเอามามอบให้เขานั่นเอง
ดวงตารียาวเพ่งมองคนที่เพิ่งมาใหม่ด้วยสายตาพินิจพิจารณา ผู้ชายคนนี้เองน่ะหรือที่กุมหัวใจหญิงสาวที่เพิ่งตกเป็นของเขาเมื่อคืนเอาไว้เสียจนอยู่หมัด ธามมองคนตรงหน้าที่กำลังจะเดินผ่านเขาไปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ผมเผ้าที่ปล่อยยาวระต้นคอแทบไม่เป็นทรง ใบหน้าสีน้ำผึ้งรูปไข่ที่ดูสดใสราวกับเด็กหนุ่มวัยละอ่อนผู้ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมีพิษมีภัยกับใคร ทั้งที่อายุอานามปาเข้าไปเกือบเข้าเลขสามแล้วด้วยซ้ำ
สไตล์การแต่งตัวก็ดูปอนๆ สวมเสื้อยืดแขนยาวสีขาวตุ่นกับกางเกงยีนสีซีดมีรอยขาดวิ่นตรงช่วงหัวเข่าแถมขาก็ยาวกรอมเท้าจนมองแทบไม่เห็นรองเท้าผ้าใบสีมอซอนั้น ไม่เห็นจะชวนให้รู้สึกน่าหลงใหลตรงไหน ถึงแม้ว่าความสูงจะไล่เลี่ยพอๆ กันกับเขา แต่ดูจากความกว้างของไหล่แล้วร่างกายคงบอบบางเกินกว่าจะปกป้องใครได้ จะว่าไปผู้ชายที่ดูพึ่งไม่ได้คนนี้ล้วนแต่มีบุคลิกลักษณะแตกต่างกับตัวเขาอย่างเห็นได้ชัด ราวกับจับคนสองคนมายืนอยู่ตรงมุมสุดของขั้วบวกและขั้วลบก็ไม่ปาน
คนแบบนี้เองเหรอ ที่คุณรักและเทิดทูนบูชานักหนา ไม่เห็นว่าจะดูดีมีเสน่ห์ตรงไหนเลย สู้ผมก็ไม่ได้สักนิดเลยครับคุณผู้หญิง
ธามอดยิ้มเยาะพร้อมกับนึกไปถึงหญิงสาวจอมอวดดีซึ่งอยู่ในห้องหมายเลข 1504 คนนั้น พลันก็ต้องสะดุดกึกกับความคิดของตัวเอง เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้ชายคนนั้นด้วย คงไม่ใชว่าเขาเกิดติดใจเธอขึ้นมาจริงๆ หรอกนะ ชายหนุ่มสะบัดหน้าแรงๆ พยายามไล่ความคิดฟุ้งซ่านเหล่านั้นออกไปแล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์โดยสารนั้น พร้อมกับบอกตัวเองว่าต้องลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ให้ได้
ชายหนุ่มร่างสูงก้าวฉับๆ ออกมาจากลิฟต์และตรงดิ่งมาที่รถสปอร์ตคันหรูของตัวเองที่จอดอยู่ด้านหน้าโดยไม่คิดจะเหลียวกลับไปมองคนที่อยู่ในห้องบนตึกสูงระฟ้าด้านหลังนั้นอีก แทบไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงแสนซื่อบริสุทธิ์ที่มักชอบทำตัวอวดเก่งนั้น กำลังปั่นหัวเขาให้หมุนติ้วจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย
ธามนึกโมโหตัวเองนัก แต่ไหนแต่ไรมาแล้วที่เขาไม่เคยปฏิเสธเมื่อผู้หญิงคนใดจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา และไม่เคยคิดที่จะสานต่อความสัมพันธ์กับใครแม้ว่าจะรู้สึกถูกอกถูกใจในลีลาอันแสนเร่าร้อนของพวกเธอเหล่านั้นอยู่บ้างก็ตาม แต่เมื่อครู่ เขากลับรู้สึกเหมือนยังห่วงหาอาลัยอาวรณ์หญิงสาวนิรนามคนนั้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
หัวใจของธามถูกปิดตายมานานจนเขานึกว่ามันด้านชาไปแล้ว จนบางครั้งก็เผลอลืมไปว่าตนยังมีหัวใจอยู่บ้างหรือเปล่า แต่พอเปิดประตูเข้ามานั่งในรถคันงามได้ไม่ทันไร ภาพของหญิงสาวในอิริยาบถอันแสนรัญจวนน่าเย้ายวนใจเมื่อคืนนี้ก็ผุดพรายขึ้นมาในสมองของธามอีกครั้ง เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นรอยคราบเลือดสีน้ำตาลแห้งเกรอะกรังเปื้อนอยู่บนเบาะหนังสีครีมด้านข้างเขา เลือดในกายของชายหนุ่มก็รุ่มร้อนขึ้นมาอย่างบอกไม่อยู่ หัวใจเต้นรัวเร็วแทบไม่เป็นระส่ำยามเมื่อนึกถึงใบหน้างามที่กำลังมอบความสุขให้แก่เขา
ธามพยายามยับยั้งอารมณ์ของตัวเองอย่างที่สุด เขาขบเม้มริมฝีปากแน่นสนิท และเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูแบบเปียกในลิ้นชักใต้คอนโซลหน้ารถขึ้นมาเช็ดถูไปบนรอยเปื้อนบนเบาะหนังอย่างลวกๆ ก่อนจะขยำกระดาษทิ้งลงในถังขยะใบเล็กข้างคอนโซลกลางด้านหลังเบาะอย่างหัวเสียเล็กน้อย เมื่อเห็นว่ายังมีรอยจางๆ หลงเหลืออยู่อีกนิดหน่อย ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรงๆ สองสามทีเพื่อเรียกสติของตนกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจขับรถออกไปในทันทีที่เริ่มควบคุมตัวเองได้ และพยายามที่จะไม่เหลือบมองรอยด่างดวงบนเบาะนั่งด้านข้างคนขับอีก เพราะกลัวว่าจะทำให้เขาหยุดคิดถึงเจ้าของรอยเปื้อนสีน้ำตาลจางๆ ที่ถูกทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้านั้นไม่ได้
ติดตามตอนต่อไปได้เร็วๆ นี้นะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ยังงี๊้เเหละผู้ชาย พอเค้าไม่เล่นด้วยก็ จะหาทางเอาชนะ
เเละท้ายที่สุดก็เเอบมีเธออยู่ในใจ
ส่งเม้น มาทัก ครับคนสวย
ลอยน้ำตาลจางๆๆ .....อิอิ
โธ่ๆๆ อย่าน้อยจั้ยไปเลยนะจ๊ะ ธาม ยังมีเค้ายู่ข้างๆนะ ฮร่าๆๆๆๆ
หึงเค้าชัด ๆ นายธามเอ๊ย
จะตัดใจได้จริงเหรอ ไม่เชื่อน้ำหน้านายหรอก
เหอ ๆ
จะมาหาว่าภวัฐไม่หล่อซะงั้น เอ๊า สงสัยจะจริงจังเเล้วนะตาธามจอมด้านชาเเละหื่นกาม !!!
หุหุหุหุหุ อยากอ่านต่ออีกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เค้าว่า นายธามต้องวางระเบิดอะไรไว้ในห้องหนูวิแน่ ๆ
เพราะเล่นเดินไปทั่วห้องนี่นา
โอ ลุ้น ๆ
ตรงดี 555555 น่าอิชชี่หนูวิจริงๆๆ แบบว่าไม่ไหวเเละ
เลือกม่ายยยถูก เเต่ถ้าถามเค้าเค้าเลือกได้นา หุหุหุหุหุหุ
สงสารอิตาธามนิสสสนุง เเต่ดิชั้นรู้คร่ะว่าอีกไม่นานต้องคัมเเบ๊ค
ว่าเเต่ จะเปนยังไงต่อ ไรเตอร์รีบบบบบบบมาอัพต่อเลยนะค้า!!!!~
วันนี้คิดถึงตาธามอีกเเล้ว แปะรูปอีกละกัน หุหุหุหุหุหุ
ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
นางเอก ซือบื่อจะตาย