ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นักเรียนหมอขอเมาท์

    ลำดับตอนที่ #70 : เมาท์ : 11 เหตุผลที่คนอยากเป็นหมอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.69K
      11
      18 ก.ย. 53

    11 เหตุผลที่คนอยากเป็นหมอ


     


                ความจริงแล้วพี่ตั้งใจจะเขียน  “108 เหตุผลที่คนอยากเป็นหมอ” แต่จากการรวบรวมข้อมูลจากเหยื่อ เอ๊ย เพื่อนๆ รอบข้างแล้ว ไม่ว่าพี่จะถาม จะขอร้อง จะขู่ยังไงก็ตาม พี่ก็ยังได้เหตุผลไม่ครบ 108 ข้ออยู่ดี พี่ก็เลยคิดได้ว่า ‘อย่ากระนั้นเลย เราลดจำนวนข้อลงแล้วกัน’ แล้วค่าย Opengown ของเราครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 11 พอดี ก็เลยได้เป็นชื่อคอลัมน์อย่างที่น้องๆ เห็นล่ะจ้ะ55+ เกริ่นนำพอแล้ว เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ

    1.    เหตุผลแรกสั้นๆ ง่ายๆ 2 คำ เรียนเก่ง สมองดี รอยหยักเยอะ ,IQ สูง ,หัวไว ,เรียนไม่เคยได้ต่ำกว่า 4  เด็กๆ ที่มีคุณสมบัติเหล่านี้มักเติบโตมากับคำพูดทำนองว่า “ เรียนเก่งอย่างนี้ โตขึ้นหนูต้องได้เป็นหมอแน่เลย” หรือ “ฉลาดแบบนี้ อนาคตคุณหมอแน่ๆ เลย” เด็กๆ เหล่านี้ถูกสวมแว่นตาอันใหญ่ มีกรอบที่เขียนว่า “โตขึ้นมา ชั้นจะต้องเป็นคุณหมอ”  โดยลืมไปว่านอกกรอบนั้น ยังมีอาชีพอื่นอีกมากมายที่รอให้เราไปค้นหา ว่าใช่ตัวตนของเรารึเปล่า  บางคนก็โชคดีหลุดออกจากกรอบนั้น และค้นพบอาชีพที่ใช่ แต่บางคนโชคร้ายหน่อย หลุดออกจากกรอบได้เหมือนกัน แต่หลุดได้เพราะความหนัก ความเหนื่อยของอาชีพหรือการเรียนหมอมากระแทกกรอบสวยหรูที่เคยใส่ให้กระเด็นหายไป  ถึงตอนนั้นก็คงทนใส่กรอบแตกๆ อันเดิมไปก่อนหรือออกมาหาสิ่งที่เคยลืมไประหว่างเดินบนทางของคนเรียนเก่ง

    2.    เหตุผลข้อที่สอง งานเดิน เงินดีเพราะหมอเป็นอาชีพที่ค่อนข้างขาดแคลน (ในต่างจังหวัดนะ) อัตราส่วนของหมอต่อประชาชนไทย ประมาณ 1 : 600  ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเครื่องรับรองว่า ยังไงหมอก็ไม่ตกงานหรืออดตายแน่ๆ แต่อาจไม่เป็นจริงนักในปัจจุบันนี้ เพราะแม้ว่าหมอจะเป็นอาชีพที่จัดว่ารายได้ค่อนข้างดี แต่ก็เสี่ยงกับการถูกฟ้องร้องสูง  ได้เงินเดือนเดือนละสองหมื่น ถูกฟ้องไปครั้งเดียว 10 ล้านก็หมดตัวได้เหมือนกัน ดังนั้นคนที่เลือกเรียนหมอ เพราะคิดว่าเงินดี มั่นคง พี่อยากให้ลองคิดดูใหม่นะ ถ้าเราเลือกทำสิ่งที่เรารัก เราสนใจ พยายามและอดทน ยังไงก็ต้องประสบความสำเร็จหรืออย่างน้อยก็มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ และที่สำคัญความมั่นคงในหน้าที่การงานนั้นมาจากตัวเราเป็นหลัก ถ้าเราตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ ขยันอดทน  รักในสิ่งที่เราทำ ความมั่นคงก็จะตามมาเอง

    3.    เหตุผลข้อที่สาม ฐานะทางสังคม หมอเป็นอาชีพที่ได้รับการยอมรับในสังคม ถึงแม้ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ในปัจจุบันจะเป็นไปในทางธุรกิจมากขึ้น  แต่หมอก็ยังเป็นที่นับหน้าถือตาสำหรับคนส่วนมากอยู่ดี 

    4.    เหตุผลข้อที่สี่ เท่”  ไม่ได้อำนะ “เท่”จริงๆ  มีคนจำนวนหนึ่งเลือกเป็นหมอเพราะมันเท่ดี !!! ไม่ว่าจะสาวแท้หรือสาวเทียมก็กรี๊ด น้องๆ ลองนึกภาพ ชายหนุ่ม ใส่เสื้อกาวน์สีขาว มือซ้ายถือชาร์ตคนไข้ มือขวาถือสเต็ทโตสโคป (Stethoscope) เดินดูคนไข้ตามเตียง แจกรอยยิ้มสดใส “คุณตาเป็นยังไงมั่งครับ ยังเจ็บแผลอยู่รึเปล่า” เป็นภาพที่เห็นแล้วดูเท่กว่าชายหนุ่มหน้ามันๆ กับกองแฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานสี่เหลี่ยมมั้ย?? 
        แต่ช้าก่อน น้องๆ จงอย่าลืมว่ามีอีกหลายอย่างที่มาพร้อมกับความเท่นี้ คราวนี้ลองนึกภาพชายหนุ่มหน้าโทรมๆ ใต้ตาคล้ำยิ่งกว่าหมีแพนด้า (เพราะอดนอนมา 3 วันแล้ว และ 3 วันที่ผ่านมากินข้าว 3 มื้อพอดีเป๊ะ) ถูกปลุกขึ้นมาตอนตีสาม มาดูอาการคนไข้ มารับฟังคำบ่นจากญาติคนไข้ หรือญาติอารมณ์ร้อนอาจเดินมากระชากปกเสื้อเราหรือชี้หน้าด่าเราที่รักษาชีวิตญาติของเขาไว้ไม่ได้ ทั้งๆ ที่เราพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว พร้อมกับคำพูดประมาณว่า “ผมจะเอาเรื่องหมอให้ถึงที่สุด เตรียมตัวโดนฟ้องได้เลย” นึกถึงภาพแบบนี้แล้ว หมอยัง”เท่” อยู่รึเปล่าน้า?...

    5.     เหตุผลข้อที่ 5 ชอบ เท่านั้นเอง เหมือนเวลาไปเดินซื้อกระเป๋าแล้วชอบใบนี้ ชอบก็เลยซื้อ ก็เท่านั้นเอง เหมือนกับที่บางคนก็เลือกหมอเพราะชอบเท่านั้นเอง เพื่อนพี่คนหนึ่งที่อยากเป็นหมอสูติฯ เธอจะมีความสุขมากเวลาดูวิดีโอทำคลอดเด็ก หรือวิดีโอประมาณสัตว์คลอดลูก พี่เคยถามว่าทำไมถึงชอบ คุณเธอตอบสั้นๆ “มันมหัศจรรย์” แค่นั้นแหล่ะ แค่ชอบ เท่านั้นจริงๆ  (ง่ายดีเนอะ)  พี่คิดว่ามันก็เหมือนกับที่เราไม่เข้าใจว่าส่องดูเชื้อโรคทั้งวันหรือนั่งจิ้มเครื่องคิดเลข บวกลบ คูณหาร ทั้งวัน มันมีความสุขยังไง ถ้าไม่ชอบก็คงไม่เข้าใจนั่นแหละ

    6.    เหตุผลข้อที่ 6อยากช่วยคน เหตุผลนี้อาจฟังดูง่าย เป็นเหมือนคำตอบมาตรฐานสำหรับนักเรียนไว้ใช้ตอบตอนสอบสัมภาษณ์  ถ้าเราถามคน 10 คนว่าทำไมอยากเป็นหมอ ก็ต้องมีอย่างน้อย 1 คนตอบว่าเพราะอยากช่วยคน ความรู้สึก ”อยากช่วยคน” เป็นเรื่องดีถึงดีมาก แต่การ “ลงมือทำ” ดีที่สุด ลองถามตัวเองนะ ที่บอกว่าอยากช่วยคน เราเคยทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้างรึเปล่า ไม่ต้องถึงขนาดไปช่วยสร้างโรงเรียนหรือเรี่ยไรเงินซื้อหนังสือให้เด็กยากจนหรอก เอาง่ายๆ รอบตัวเรานี่แหล่ะ ทุกวันนี้ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านบ้างรึเปล่า เคยช่วยคุณครูถือหนังสือมั้ย  เคยช่วยงานเพื่อนในกลุ่มมั้ย พิมพ์แต่หน้าปกกับสารบัญตลอดรึเปล่า เห็นคนถือของหนักเดินเข้ามาในรถไฟฟ้า เคยลุกให้เขานั่งรึเปล่า
        ในการเป็นหมอ “ความรู้สึกอยากช่วย” อาจไม่เพียงพอ เราต้อง ”ตั้งใจช่วย”  และมีความรู้ความชำนาญมากพอที่จะช่วย เพราะเราไม่ได้แค่ช่วยใครหยิบของที่ทำหล่นแล้วเก็บขึ้นมาได้ แต่เรากำลังช่วยชีวิตคน ซึ่งถ้าเราทำหล่นไป ถึงอยากจะเก็บมากแค่ไหน ก็เก็บขึ้นมาไม่ได้

    7.    เหตุผลข้อที่เจ็ด ความท้าทายและภาคภูมิใจ”  ถ้าน้องๆ เคยดูซี่รี่ส์เกี่ยวกับหมอ เช่น House, ER ,Medical Team Dragon, Code Blue ,Gray’s Anatomy  หรือใครที่เคยอ่านการ์ตูนหมอๆ พวก Blackjack หรือเทรุหัตถ์เทวดาก็น่าจะเข้าใจ ซีรี่ส์หรือการ์ตูนเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนที่มาเป็นหมอ กำลังเรียนหมอ หรืออยากจะเป็นหมอ การได้ผ่าเอากระสุนออกจากคนที่กำลังจะตายและช่วยชีวิตเขาไว้ได้ มันก็น่าภูมิใจอยู่นะ หรือการชันสูตรศพหาสาเหตุการตาย การวินิจฉัยโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่ดูเหมือนจะไม่มีสาเหตุและรักษาไม่ได้ก็ดูท้าทายความสามารถดี

    8.    เหตุผลข้อที่แปด ตามเพื่อน เหตุผลข้อนี้ก็เหมือนกับที่เราซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นฮิตหรือไปดูหนังที่เขาว่าสนุกกัน ตามเพื่อนหรือตามกระแสนั่นเอง แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของวัยรุ่นนะ เพราะเป็นวัยที่ต้องการการยอมรับจากเพื่อนมากที่สุด จึงไม่แปลกที่จะทำอะไรตามๆ กัน ถ้าในชั้นเรียนของน้องมี 40 คน เพื่อนน้อง 30 คน อยากเป็นหมอ วันๆ คุยแต่เรื่องกวดวิชาความถนัดแพทย์ หรือคณะแพทย์โน่นนี่  ผลที่ได้ก็เหมือนน้องเดินผ่านร้านขนมเค้กทุกวัน เห็นคนต่อคิวยาวทุกวัน ได้กลิ่นหอมทุกวัน เพื่อนบอกอร่อยอย่างโน้น อร่อยอย่างนี้  น้องก็ต้องอยากชิมเข้าสักวันใช่มั้ยล่ะ 

    9.    เหตุผลข้อที่เก้าตามใจพ่อแม่ ข้อนี้เข้าใจง่าย ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี แต่เด็กกตัญญูทั้งหลายอย่าลืมว่า พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกได้ดี ประสบความสำเร็จในชีวิต ถ้าเราต้องทนอยู่กับอะไรที่เราไม่ชอบทุกวัน เราจะมีทางประสบความสำเร็จได้เหรอ เหมือนน้องไม่ชอบไม่เคยอ่านการ์ตูนเลย แล้วมีคนบังคับให้น้องเขียนการ์ตูน น้องจะเขียนได้ดีรึเปล่า

    10.    เหตุผลข้อที่สิบ บังเอิญคะแนนถึง  เป็นเหตุผลที่น่าหมั่นไส้มาก แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นเรื่องจริง น้องๆ เชื่อมั้ย คนจำนวนไม่น้อยมาเรียนหมอเพราะคะแนนถึงและไม่รู้จะเรียนอะไร บวกกับแรงยุจากเพื่อน พ่อแม่ ครู แถมหมอก็ไม่ใช่จะได้เป็นกันง่ายๆ  หลายคนก็เคยสบประมาทเราไว้ว่าเรียนหมอไม่ได้หรอก  แต่คะแนนเราก็ถึงนี่ งั้นเราจะเรียนหมอแหละ พิสูจน์ให้เค้าเห็นว่าเราก็เรียนได้
        ผลลัพธ์ที่ได้คือ บางคนก็โชคดี ค้นพบว่าหมอนี่แหล่ะ ใช่ตัวเราจริงๆ เป็นสิ่งที่อยากทำจริงๆ ท่องชื่อยาสนุกจังเลย แต่บางคนอาจตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉันมาทำอะไรอยู่ , ทำไมต้องมาท่องชื่อกล้ามเนื้ออะไรพวกนี้ด้วย, จะอยากรู้ไปทำไมว่ากระบังลมทำงานยังไง, ทำไมต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า มาดูคนไข้ ฯลฯ เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆจะเลือกคณะอะไร ขอให้การตัดสินใจนั้นมาจากตัวน้องจริงๆ เพราะคนที่รับผลจากการตัดสินใจนั้นคือน้องคนเดียวเต็มๆ เพื่อนที่เชียร์ให้เลือกหรือคนที่สบประมาทเรา เขาไม่ได้มานั่งท่องชื่อยาหรือตื่นตีห้าพร้อมกับเราหรอกนะ

    11.    เหตุผลข้อที่สิบเอ็ด เป็นเหตุผลข้อสำคัญมาก มากถึงมากที่สุด  เด็กๆ เดาซิ อะไรเอ่ยยย  ปิ๊งป่อง ถูกต้องนะคร้าบ การมาเข้าค่าย Opengownไงล่ะ ทำให้น้องๆ ได้แรงบันดาลใจและมีกำลังใจจากพี่ๆหน้าตาดี ๆ ใช่มั้ย ใช่มั้ย
         

    คำว่า “หมอ” สำหรับแต่ละคน อาจมีความหมายแตกต่างกันไป
    “หมอ” สำหรับพ่อแม่ อาจหมายถึงความภาคภูมิใจในความเก่งของลูก อนาคตที่พึ่งพิงได้
    “หมอ” สำหรับคุณครู อาจหมายถึงความสำเร็จอันน่าชื่นชมของศิษย์ที่ครูได้สร้างมากับมือ
    “หมอ” สำหรับเด็กม.ปลายหลายๆ คน อาจหมายถึงความฝัน เป้าหมายที่ต้องไขว่คว้ามาให้ได้
    และ “หมอ” สำหรับหลายๆ คน อาจหมายถึงความมั่นคงในหน้าที่การงาน ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หรือใดๆ ก็ตามที่คนเราสามารถสร้างขึ้นมาเป็นมาตรฐานวัดคุณค่าของคนในสังคม

    ลองถามตัวเองนะ ว่า “หมอ” ของเรา หมายถึงอะไร  “ความฝัน” หรือ “ค่านิยมที่คนอื่นกำหนดให้”


    ป.ล. บทความนี้ พี่ไม่ได้เขียนเพราะอยากจะขู่หรือไม่สนับสนุนให้น้องๆ เลือกเรียนหมอแต่อย่างไร  หมอไม่ได้น่ากลัวหรือเลวร้ายอะไร อาชีพหมอมีแง่มุมดีๆ น่าประทับใจอีกมากมาย (แต่พี่ไม่ได้เขียน55)  พี่แค่อยากให้คนที่อยากเป็นหมอจริงๆ ได้เรียนหมอและมีความสุขกับชีวิตหมอ ไม่อยากให้คนที่ “ไม่อยากเป็นหมอ” มาเรียนหมอ และทนทุกข์กับการ “เป็นหมอ”  ไปตลอดชีวิตเท่านั้นเองคร้าบ



    นศพ. BM-M[other]B[ear] ประจำคณะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×