ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิภพราชันย์ออนไลน์ [Online]

    ลำดับตอนที่ #58 : พิภพราชันย์ออนไลน์ :: ตัวจริงของจ้าวแห่งนักทำนาย (1) 100per.

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.65K
      149
      19 พ.ย. 57






    ตอนที่ 29 ตัวจริงของจ้าวแห่งนักทำนาย (1)

     

     

    หลังจากทุกคนเริ่มประชุมและตกลงกันว่าจะทำภารกิจสืบหาตำแหน่งที่อยู่ของสัตว์เทพอสูรระดับจักรพรรดิจ้าวแห่งนักทำนายที่เชื่อมโยงไปสู่อีกเบาะแสสำคัญหนึ่งนั่นก็คือการค้นหาปลายทางแห่งเซเปีย


               นางมารทอผ้าก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดและออกความเห็นขณะนิ้วชี้ไปบนแผนที่ที่ซีแนลถืออยู่เป็นคนแรก

     

     

    แผนที่ใบนี้เธอได้รับมาจากการเปิดหีบทองคำสุ่มโชคใบหนึ่งและได้รับคำอวยพรจากตุ๊กตาตัวตลกนักฆ่า ที่น่าประหลาดใจก็คือมันจะแสดงผลก็เฉพาะตอนอยู่ในมือเธอเท่านั้น เพราะทันทีที่เปลี่ยนมือไปยังคนอื่น มันก็จะกลายเป็นเพียงแผนที่ธรรมดาใบหนึ่ง คล้ายกับเหตุการณ์ก่อนหน้าที่นำพาเธอไปหาเอ็นพีซีประจำอาชีพไม่มีผิด

     

     

    “นี่ ทุกคนเห็นจุดแดงๆ นี้มั้ย? ตรงนี้น่ะเป็นตำแหน่งดันเจี้ยนพิเศษของเมืองนี้ล่ะ” นางมารชี้ไปยังจุดตำแหน่งบนแผนที่ที่เธอถืออยู่

     

     

    หมายความว่าเราต้องตะลุยเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อให้ได้เจอสัตว์อสูรที่ว่าอย่างนั้นเหรอ?” ซีแนลเอ่ยถามอีกฝ่าย

     

     

    แต่แทนที่นางมารทอผ้าจะเป็นคนตอบ เซิร์กกลับเป็นผู้ตอบคำถามนั้นเสียเอง เขาส่ายหน้าแล้วเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เปล่า ที่จริงแล้วไอ้จุดที่แสดงตำแหน่งบนแผนที่นี่มันกะแหกตาเรา โดยทำหลอกไว้อีกชั้นเพื่อให้เข้าใจผิด ตำแหน่งจริงๆ ที่ซ่อนอยู่บนแผนที่คือไอ้รูปภาพเล็กๆ นี่ต่างหาก เฮอะ คิดจะแหกตาโจรอย่างข้าน่ะอ่อนหัดเกินไปแล้ว” 

     

     

    “หา!?”

     

     

    ซีแนลมองมองอีกฝ่ายด้วยความงุนงงก่อนจะค่อยๆ เพ่งมองรูปภาพเล็กๆ ที่ว่านั้น ซึ่งเป็นภาพรูปปั้นสิงโตหินคู่รักสองตัวยืนคู่กันตรงปากทางเข้าดันเจี้ยน

     

     

    “น่าจะใช่อย่างที่เซิร์กว่านะ เพราะหมอนี่มันตามรอยล่าสมบัติเก่งพอๆ กับแยกไฟล์เลย เรื่องแบบนี้หลอกหมอนี่ไม่ได้หรอก” แม้แต่นางมารทอผ้าก็พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เซิร์กพูด

     

     

    หลังจากนั้นพวกเขาทั้งห้าก็มุ่งไปยังตำแหน่งทิศใต้ของเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งดันเจี้ยน

     

     

    คาดไม่ถึงว่าพอมาถึงแล้ว ซีแนลก็แทบอ้าปากค้างเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีผู้เล่นกางเต้นท์และวางแผงขายอยู่เนืองแน่น มองไปทางไหนก็เห็นแต่ทิวแถวของผู้คนจนลานตา แทบทุกจุดที่ผู้เล่นกระจายอยู่มักจะตะโกนโหวกเหวกขายของและตะโกนหาคนร่วมปาร์ตี้

     

     

    ตอนนี้เธอจึงชักเริ่มเข้าใจแล้วว่า เหตุใดภายในเมืองผู้คนถึงได้ไม่พลุกพล่านอย่างที่คิด เพราะเหล่าผู้เล่นล้วนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ทั้งหมดนั่นเอง

     

     

    “มาเถอะ อย่ามัวเสียเวลาสนใจคนพวกนั้นอยู่เลย” นางมารทอผ้ากระซิบขณะคว้าแขนเธอให้เดินเลี่ยงแยกกลุ่มคนออกไปยังจุดรูปปั้นหินสิงโตคู่รักตรงปากทางเข้า

     

     

    ขณะที่เดินใกล้ปากทางเข้าดันเจี้ยนเพื่อไปยังตำแหน่งของรูปปั้นสิงโตหินคู่รักในท่ายืนคู่คลอเคลียและสูงใหญ่ตระหง่านร่วมกว่าสิบเมตร ก็มีคนกลุ่มใหญ่ซึ่งคาดว่าเป็นคนของสมาคมรับจ้างเดินมาขวางไว้ ตามปกติแล้วทุกดันเจี้ยนที่ปรากฏขึ้นตามเมืองต่างๆ โดยเฉพาะเป็นดันเจี้ยนที่เปิดให้ผู้เล่นเข้าไปได้ตลอดยี่สิบชั่วโมง มักจะมีกลุ่มสมาคมต่างๆ แบ่งหน้าที่ดูแลความสงบเพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาทหรือฆ่ากันเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ รวมทั้งดูแลไปถึงความสงบปลอดภัยรอบๆ ร้านค้าที่ผู้เล่นวางแผงขายของ โดยแลกกับกฎที่ผู้เข้าดันเจี้ยนต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นค่าแรงของกลุ่มสมาคมแทน

     

     

    ดังนั้นเมื่อกลุ่มของเธอเดินมุ่งหน้าไปยังปากทางเข้าโดยไม่สนใจใคร กลุ่มคนเหล่านั้นจึงปรากฏตัว

     

     

    นางมารทอผ้าเหลือบตามองคนเหล่านั้นคล้ายไม่พอใจอยู่เล็กน้อยก่อนจะโยนถุงเงินไปให้เพื่อตัดปัญหา แล้วก็ไม่ได้มีทีท่าจะสนใจกลุ่มคนเหล่านั้นอีก

     

     

    ซีแนลสังเกตเห็นว่าหลังจากพวกเขาล่าถอยกลับไป แต่ก็ยังมีหนึ่งในนั้นจ้องมองพวกเธอด้วยความสงสัย ซีแนลเกร็งตัวด้วยความระมัดระวังทันที แต่เมื่อหันมองสีหน้าเพื่อนร่วมกลุ่มที่มีสีหน้าปกติหรือแม้แต่นางมารทอผ้าที่รู้ตัวอยู่แล้วแต่ไม่ได้แยแสสนใจเรื่องนี้เท่าใดนัก เธอจึงคลายใจลงได้และหันกลับมาให้ความสนใจแผนที่ในมือแทน

     

     

    “ควิลล์นายคิดว่าไง” เซิร์กหันไปถามควิลล์ขณะที่ตัวเองคาบใบไม้อยู่ในปาก หลังจากพวกเขาทั้งสองเข้าไปสำรวจฐานรูปปั้นแต่กลับไม่พบเบาะแสใด

     

     

    คำตอบที่ได้มีเพียงการนิ่งเงียบและสีหน้าเรียบเฉยที่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยของควิลล์ เพียงแต่เขากลับหันมามองเธออย่างเงียบๆ เซิร์กจึงส่งเสียงหัวเราะในลำคอแล้วควักมือเรียกเธอให้เดินไปใกล้ๆ จุดที่พวกเขายืนอยู่

     

     

    “เอาล่ะ ไหนลองส่งแผนที่มาดูสิ” เซิร์กว่าขณะยื่นมือมารับแผนที่ไปจากเธอ แต่แล้วก็ต้องส่ายหน้าเมื่อพบว่าแผนที่ถูกเปลี่ยนไปอยู่ในมือเขานั้นกลับกลายเป็นเพียงแผนที่ธรรมดาใบหนึ่ง ไม่ได้แสดงตำแหน่งพิเศษหรือระบุเป้าหมายใดๆ แม้แต่น้อย

     

     

    หลังจากถอนหายใจออกมาเขาก็รีบส่งคืนให้เธอพร้อมทั้งเอ่ยความคิดเห็น

     

     

    “ฟังให้ดีนะ การไขปริศนาจำพวกแผนที่ลับซ่อนสมบัติที่ฉันเคยเจอมานับไม่ถ้วน ส่วนมากมักจะมีรูปแบบพื้นฐานแค่ไม่กี่อย่าง อย่างเช่น ใช้ไฟรม ใช้น้ำมะนาวถู ฉีกแผนที่ทิ้ง หรือไม่ก็ไขปริศนาอักษร แต่ในเมื่อแผนที่ชิ้นนี้มันระบุตำแหน่งชัดเจนอยู่แล้วและแสดงผลแค่เฉพาะในมือเธอ ฉันว่าเธอลองเอามันไปแตะๆ หรือวางทาบบนรูปปั้นนั้นดูหน่อยไหม”

     

     

    เซิร์กเอ่ยกับเธอด้วยสีหน้ามั่นใจเต็มเปี่ยม ขณะที่นางมารทอผ้ากลอกตาขึ้นฟ้าในท่าทางอวดภูมิของเขา เหลือเพียงก็แต่เธอกับหยงเล่อเท่านั้นที่แสดงสีหน้างุนงงคล้ายไม่เข้าใจคำพูดของเขาเท่าใดนัก

     

     

    แต่ทว่าเธอก็ทำตามที่อีกฝ่ายบอก ซีแนลเอาแผนที่วางทาบลงบนฐานส่วนล่างช่วงอุ้งเท้าของรูปปั้นสิงโตหินคู่รักด้วยความไม่แน่ใจ

     

     

    ตอนแรกเธอคิดว่าอีกฝ่ายบอกวิธีออกมาแบบมั่วๆ แต่ทันทีที่แผนที่ในมือประทับลงบนรูปปั้นหิน เสียงจากทางระบบก็ประกาศดังลั่นจนเธอเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหู

     

     

     “ฮ่าๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ” เซิร์กหัวเราะออกมาบ้าคลั่งเมื่อเป็นไปตามที่เขาคาด พร้อมๆ กับทุกคนในกลุ่มที่เริ่มแสดงท่าทีตื่นตัวและเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่ขึ้น

     

     

     

    ขอแสดงความยินดี ผู้เล่นซีแนล เฟลคอน และกลุ่มปาร์ตี้ปฏิบัติตามเงื่อนไขลับสำเร็จ ค้นพบตำแหน่งที่ซ่อนของจ้าวแห่งนักทำนายโดยมีแผนที่ลับครอบครอง คำอวยพรจากตุ๊กตาตัวตลกนักฆ่าทำงาน แผนที่ลับที่ผู้เล่นครอบครองถูกทำลายอัตโนมัติ ผู้เล่นจะถูกส่งตัวเข้าสู่ดินแดนมายาแห่งขุมทรัพย์ที่ถูกซ่อนใต้เมืองเซเปียภายในหนึ่งนาที

     

     

     ดินแดนมายาแห่งขุมทรัพย์ที่ถูกซ่อนใต้เมืองเซเปีย!!!


     

    สิ้นเสียงจากทางระบบรูปปั้นหินสิงโตคู่รักทั้งสองตัวก็พลันขยับตัวและแผดเสียงคำรามดังลั่นราวกับมีชีวิต แผ่นหินที่ห่อหุ้มลำตัวค่อยๆ ปริร้าวคล้ายถูกกะเทาะเปลือกออก และในวินาทีนั้นเองซีแนลก็ต้องเบิกตากว้าง พร้อมทั้งถอยกรูห่างออกมาพร้อมกับคนอื่นๆ เนื่องจากสิ่งที่อยู่ภายในรูปปั้นหินนั้นได้กลายเป็นสัตว์อสูรระดับสูง ซึ่งมีรูปร่างเป็นตุ๊กตาตัวตลกนักฆ่าความสูงกว่าห้าเมตรจำนวนสองตัว

     

     

    พวกมันส่งเสียงหัวเราะเสียงแหลมอย่างชั่วร้าย สร้างความหลอนให้กับผู้เล่นที่ยกขบวนแห่กันมายังจุดดังกล่าวจนแตกตื่น สีหน้าของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความแปลกใจสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดสัตว์อสูรระดับสูงที่มักจะปรากฏแต่ในดันเจี้ยนชั้นลึกๆ ถึงปรากฏตัวขึ้นได้

     

     

    ซีแนลไม่ได้สนใจเสียงวิจารณ์ที่คาดเดาไปต่างๆ นาๆ อย่างอื้ออึงของผู้เล่นคนอื่นนัก เพราะในช่วงไม่กี่วินาทีก่อนที่กลุ่มปาร์ตี้ของพวกเธอทั้งห้าคนจะถูกส่งตัวให้หายวับไปจากจุดนั้น ก็พลันได้ยินเสียงจากทางระบบประกาศดังลั่นไปทั่วทั้งเมือง

     

    ประกาศจากทางระบบ ขณะนี้ได้มีผู้เล่นทำตามเงื่อนไขลับพิเศษจนเกิดอีเวนท์ประจำเมือง ทางระบบขอจัดกิจกรรมล่าสังหารสัตว์เทพอสูรนักฆ่าบุกเมืองเป็นเวลา 2 วัน

     

    สัตว์เทพอสูร ตุ๊กตาตัวตลกนักฆ่า ระดับชนชั้นราชา เลเวล 1000 จำนวน 2 ตัว ปรากฏตัว ผู้เล่นที่ถูกสัตว์เทพอสูรสังหารเลเวลลดลง 500 ระดับ รอเวลาในการเกิดใหม่ 1 วัน

     

    เมืองเซเปียได้ทำการปิดเมือง ผู้เล่นไม่สามารถวาปเข้าออกจากเมืองได้จนกว่าจะครบวันกำหนด หากไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถสังหารสัตว์อสูรลงได้ตามระยะเวลาที่กำหนด เมืองเซเปียจะถูกทำลายและถูกลบทิ้งออกจากแผนที่ระบบ ขอให้ผู้เล่นทุกคนโชคดีค่ะ

     

     

     

    เรียกได้อย่างเดียวว่างานเข้า!

     

     

    แถมเธอยังทิ้งระเบิดกลุ่มใหญ่ให้คนข้างหลังเสียด้วย



             ไอ้ระบบบ้านี่มันกะเล่นถึงขั้นลบเมืองออกจากแผนที่กันเลยทีเดียว อย่างนี้มันเรียกว่าบ้าชัดๆ!!


              อีกอย่างเธอก็เพิ่งจะกอบกู้เมืองมาได้ไม่นานเองนะเฟ้ย!

     

     

    ซีแนลถอนหายใจอย่างนึกปลงสองสามทีหลังจากได้ยินเซิร์กและหยงเล่อที่หัวเราะชอบอกชอบใจเข้าคู่กันอย่างบ้าคลั่ง คล้ายว่าการสร้างความปั่นป่วนให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ครั้งนี้จะทำให้พวกเขารู้สึกเบิกบานใจเป็นที่สุด

     

     

    หลังจากกลุ่มปาร์ตี้ของพวกเธอหายวับไป ภายในเกมก็เผยแพร่ข่าวใหญ่นี้ไปทั่วระบบ ได้มีการถ่ายทอดเหตุการณ์อีเวนท์ทางทีวีจนได้รับความสนใจจากผู้เล่นในทวีปอื่นๆ อย่างคับคั่ง

     

     

    ...และแล้วบอลลูนยักษ์รูปร่างเหมือนปลาปักเป้าพองลมสีเหลืองแสบตาเจ้าเดิมก็ได้มีโอกาสโผล่หน้ามาอีกรอบ

     

     

    “สวัสดีค่ะท่านผู้ชม ตอนนี้เรากำลังลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของตำแหน่งทางเข้าดันเจี้ยนเมืองเซเปียค่ะ และคาดว่าอีกไม่นานเราจะลงไปสัมภาษณ์ผู้เล่นที่ได้ร่วมกิจกรรมในเมืองนี้”

     

     

    จอทีวี LCD ขนาดยักษ์ที่ติดตั้งไว้แทบทุกเมืองฉายไปยังพิธีกรชายหญิงที่ยืนโบกไม้โบกมือให้กับกล้องขณะบอลลูนค่อยๆ ลดระดับลงสู่พื้นในจุดที่ห่างจากพื้นที่สัตว์อสูรปรากฏตัวอยู่พอสมควร

     

     

    “วันนี้ดิฉัน GMปลานีโมสุดสวยและGMปลากระป๋องสุดหล่อ ได้รับหน้าที่ในการบรรยายอีเวนท์ครั้งนี้ค่ะ นับว่าเป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นจนอดใจรอไม่ไหวเลยนะคะ เพราะเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์อีเวนท์ขึ้นจากการทำภารกิจของผู้เล่น ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะยังปริศนาอยู่ว่าใครเป็นคนทำภารกิจนี้ได้สำเร็จก็ตาม”

     

     

    GMปลานีโมอย่าเพิ่งพูดอะไรอยู่เลยครับ นั่นครับ! รีบดูตรงนั้นเร็วเข้า กลุ่มผู้เล่นบุกฝ่าโจมตีสัตว์เทพอสูรเข้าไปแล้วครับ!

     

     

    GMปลากระป๋องบรรยายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นระทึกพร้อมๆ กับกล้องที่ตัดภาพไปยังกลุ่มผู้เล่นจำนวนร้อยกว่าคนรุมกลุ้มโจมตีสัตว์อสูรทั้งสองตัวแบบไม่มียั้ง ผู้เล่นทุกคนโหมกระหน่ำทักษะรุนแรงใส่สัตว์อสูรจนเกิดเสียงเอฟเฟคระเบิดตูมตามไม่หยุดหยุ่น

     

     

    GMปลากระป๋องคิดว่าไงคะ คาดการณ์ว่าผู้เล่นจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการพิชิตอีเวนท์ครั้งนี้คะ?”

     

     

    “นี่เป็นคำถามที่ตอบยากมากจริงๆ ครับ ขณะนี้มีกลุ่มผู้เล่นแบ่งออกเป็นสองกลุ่มแยกออกไปจัดการสัตว์อสูรกลุ่มละตัว เรียกได้ว่าทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมน้อยหน้ากันเลยทีเดียว ส่วนเรื่องที่จะพิชิตสัตว์อสูรได้ตอนไหนนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้เล่นเท่านั้นครับ”

     

     

    “ขอเวลาสักครู่นะคะ ดิฉันได้รับโพลสำรวจความคิดเห็นจากผู้เล่นส่วนมากจากเว็บบอร์ดค่ะ ตอนนี้กลุ่มผู้วิจารณ์ในเว็บบอร์ดข่าวสาร ต่างวิจารณ์กันอย่างหนาหูถึงอีเวนท์ที่เกิดขึ้น ส่วนบางคนถึงกับคันไม้คันมือและไม่พอใจที่ไม่ได้ร่วมสนุก และนี่คือความคิดเห็นที่ไต่ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในตอนนี้ค่ะ” GMปลานีโมเอ่ยรายงานข้อมูลที่ได้รับมาอย่างเสียงดังฟังชัดทันที

     

     

    “พวกเรารู้สึกกังวลกับเมืองเซเปียมากจริงๆ อีเวนท์ครั้งนี้ผู้เล่นเสียเปรียบตรงที่ทางระบบได้ทำการปิดเมือง ไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้เล่นเข้าไปช่วยต่อสู้ได้ ซึ่งต่างจากกิจกรรมอื่นที่ผู้เล่นได้รับการแจ้งล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวรวมพล อีกทั้งสัตว์อสูรในกิจกรรมนี้ก็ยังเป็นระดับชนชั้นราชา เลเวล 1000 โผล่มาถึงสองตัวด้วยกัน ถ้าหากลำพังแค่ตัวเดียว พวกเราคิดว่ากลุ่มผู้เล่นน่าจะสามารถจัดการได้อย่างสบาย แต่เมื่อวิเคราะห์คร่าวๆ จากลักษณะนิสัยของสัตว์อสูรสองตัวนี้ คาดว่าเป็นสัตว์อสูรที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์และยังมีความสามารถในการสังหารโดยเฉพาะ พวกเราลุ้นกับการอยู่ของเมืองเซเปียมากจริงๆ

     

    ปล.โปรดพิชิตสัตว์อสูรทั้งสองตัวให้ได้ นี่คือคำขอร้อง(ขู่)จากคู่รักหลายคู่ที่วางแผนชวนนัดเดทกันในเกม มิฉะนั้นพวกเขาอาจเป็นกลุ่มแรกที่ไม่พอใจหากสูญเสียเมืองนี้ไป”

     

     

    “แหม ผมชอบความคิดเห็นที่ว่าคู่รักหลายคู่วางแผนชวนกันนัดเดทนี่แหละครับ ฮ่าๆ” GMปลากระป๋องส่งเสียงรายงานด้วยรอยยิ้มกว้าง

     

     

    “ค่ะ แต่จากโพลสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่ของผู้เล่นที่พลาดโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้มีแนวโน้มถึงความกังวลเป็นอย่างมากเลยทีเดียว GMปลากระป๋องคิดยังไงกับเรื่องบ้างคะ”

     

     

    “นั่นสินะครับ ผมเองก็คิดว่าผู้เล่นต้องรับมือกับงานหนักพอสมควร”

     

     

     “หมายความว่าผู้เล่นส่วนใหญ่มีความคิดเห็นตรงกันว่าเมืองเซเปียเสี่ยงที่จะถูกลบออกจากแผนที่ระบบอย่างนั้นเหรอคะ ตายแล้วดิฉันรู้สึกตกใจกับข้อมูลนี้จริงๆ” GMปลานีโมว่าขณะเอามือวางทาบอกด้วยท่าทางใจหายใจคว่ำ

     

     

    “ใจเย็นๆ ก่อนครับGMปลานีโม ถึงอย่างไรก็ยังมีสิทธิ์ที่จะชนะครับ งานนี้มีผู้เล่นที่อยู่ในเมืองนี้เยอะเกือบหมื่นคนด้วยกัน ดังนั้นผมว่ามีสิทธิ์ที่เหตุการณ์จะพลิกผันพอสมควร”

     

     

    “ถ้าอย่างนั้นท่านผู้ชมที่อยู่ทางบ้านและผู้เล่นในทวีปต่างๆ อย่าลืมช่วยกันส่งแรงใจให้กับกลุ่มผู้เล่นที่กำลังต่อสู้ในอีเวนท์นี้กันนะคะ”

     

    .

     

    วกกลับมาทางด้านกลุ่มของซีแนล

     

     

    หลังจากถูกส่งตัวเคลื่อนย้ายมายังดินแดนมายาแห่งขุมทรัพย์ที่ถูกซ่อนใต้เมืองเซเปียเป็นที่เรียบร้อย พวกเขาทั้งห้าก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง

     

     

    “นี่มันที่ไหนวะเนี่ย!

     

     

    เซิร์กตะโกนออกมาอย่างหัวเสียปนหงุดหงิด เพราะเบื้องหน้าที่เห็นคือความโล่งและความว่างเปล่าสุดลูกหูลูกตา ไร้แม้แต่สิ่งก่อสร้างอาคารใดๆ ไม่ได้เป็นไปตามอย่างที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเจอเมืองอย่างตอนแรก อีกทั้งบนพื้นที่เท้าเหยียบย่างอยู่ก็มีลักษณะคล้ายก้อนสำลีสีขาวสลับฟ้าวางต่อกันไม่สนิท ให้ความรู้สึกไม่ผิดจากก้อนเมฆอันบอบบางและเหมือนจะหล่นร่วงลงไปด้านล่างได้ทุกเมื่อ

     

     

    “ข้าว่าจอมยุทธ์เซิร์กอย่าเพิ่งตีโพยตีพาย ท่านลองเงยหน้ามองดูด้านบนนั่นเสียก่อน” หยงเล่อเอ่ยขณะพยักพเยิดหน้าให้ทุกคนเงยมองขึ้นไปด้านบน

     

     

    และอาการทุกคนแทบจะอ้าปากค้างไปในทางเดียวกันเมื่อได้พบเข้ากับสิ่งก่อสร้างอาคารและปราสาทรูปร่างแปลกประหลาดมากมายลอยแออัดแน่นขนัดอยู่ในท่ากลับหัว

     

     

    “ไม่อยากเชื่อว่าพวกเราจะมาเจอเข้ากับเมืองกลับหัวซะได้ ดูท่าว่าเมืองนี้คงเป็นเมืองมายาสมชื่อซะแล้ว” ควิลล์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ จนทำให้คนอื่นที่เหลือพากันรู้สึกแปลกใจเนื่องจากเขาไม่ค่อยพูด

     

     

    “หมายความว่ายังไง?”

     

     

    นางมารทอผ้าเอ่ยถามขณะสายตายังคงจดจ้องมองด้านบนอย่างไม่คลาดสายตา เพราะหากลองว่าควิลล์ได้เป็นคนเอ่ย รับรองว่าเรื่องนี้จะต้องมีลับลมคมในแฝงอยู่

     

     

    “เมืองนี้สร้างจากเงาของเมืองเซเปีย แม้รูปร่างจะบิดเบี้ยวจนดูไม่เหมือน แต่ลองนึกถึงภาพปราสาทที่สะท้อนบนพื้นน้ำดูสิ ฐานของเมืองทั้งสองถูกยึดติดไว้ด้วยกัน”

     

     

    “อ้อ ข้าเข้าใจแล้ว เป็นเช่นนั้นเองหรอกหรือ ท่านควิลล์นี่ช่างฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก” หยงเล่อเอ่ยปากชมออกมา

     

     

    “เรื่องนั้นน่ะช่างมันก่อนเถอะ ว่าแต่ไอ้เรื่องของเรื่องคือพวกเราจะขึ้นไปบนนั้นด้วยวิธีไหนต่างหาก ทุกคนลองมองดูที่พื้นให้ดีๆ ไอ้ก้อนสีขาวสีฟ้าที่พวกเรากำลังเหยียบอยู่เนี่ยมันเมฆชัดๆ ถึงมันจะแข็งกว่าที่ข้าคิดก็เถอะ แต่ถ้าหากมันไม่ใช่พื้นดินละก็ ข้าไม่เอาด้วยคนหนึ่งล่ะ” เซิร์กว่าพลางมองพื้นตรงปลายเท้าทั้งสองด้วยสีหน้าขยาด

     

     

    ซีแนลแอบอมยิ้มขำกับตัวเองเล็กน้อยที่อีกฝ่ายคิดมากกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

     

     

    “ให้ตายสิ การหาตัวไอ้จ้าวแห่งนักทำนายนี่มันอุปสรรคเยอะซะจริง คอยดูเถอะ เจอตัวเมื่อไหร่แม่จะเล่นขนสมบัติหนีให้เกลี้ยง”

     

     

    นางมารทอผ้าว่าอย่างหมายมั่นปั้นมือแล้วหันไปสบตากับเซิร์กที่ไหวระริกเข้าคู่กันจนน่าหัวเราะ

     

     

    ซีแนลกลอกตากับตัวเองเล็กน้อย เนื่องจากเบื่อจะสนใจฟังแผนการอันน่าปวดหัวของคนทั้งสอง เธอตัดสินใจเรียกอีดานสัตว์เลี้ยงของตัวเองออกมาพร้อมๆ กับควิลล์ที่เรียกจิตวิญญาณอาวุธออกมาด้วยเช่นกัน

     

     

    จอมเวทหนุ่มผมสีส้มยาวสยายถึงพื้นแต่งกายด้วยชุดจอมเวทโบราณและสวมเครื่องประดับมากมายแบบครบสูตรปรากฏตัวขึ้น อีกฝ่ายดูนิ่งขรึมและมีสีหน้าเรียบเฉยเย็นชาไม่ผิดแผกจากเจ้าของ

     

     

    โดยไม่รอให้ใครพูด จิตวิญญาณอาวุธผู้นั้นก็ส่งพลังฟาดเปรี้ยงลงบนพื้นที่พวกเราทั้งห้ายืนอยู่จนเซิร์กส่งเสียงร้องเฮ้ยด้วยความตกใจอย่างหมดมาด

     

     

    แต่คาดไม่ถึงว่าหลังจากเสร็จสิ้นการปล่อยทักษะนั้นแล้ว รอบตัวก็พลันสั่นสะเทือนไหวเอน อากาศรอบตัวค่อยๆ แตกร้าวไม่ต่างจากกระจกบานหนึ่ง ไม่นานพวกเขาทั้งห้าก็พบว่า แท้จริงแล้วความว่างเปล่าโล่งเตียนที่เห็นรอบตัวแต่แรกนั้นล้วนเป็นภาพมายา

     

     

    เพราะหลังจากภาพมายารอบด้านถูกทำลาย บันไดสีขาวที่ทอดสู่ด้านบนก็ปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน

     

     

    ควิลล์ก้าวนำขึ้นไปเป็นเป็นคนแรก ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือก็รีบกุลีกุจอเลือกบันไดใกล้ตัวปีนขึ้นไปบ้างโดยเฉพาะนางมารทอผ้าและเซิร์กที่อยากรีบขึ้นไปขโมยสมบัติที่แอบซ่อนอยู่ในเมืองจนใจแทบขาด

     

     

    ซีแนลเองก็เลือกบันไดใกล้ตัวและเดินขึ้นไปพร้อมกับอีดานเช่นกัน

     

     

    กว่าจะมาถึงด้านบนเธอก็หอบแฮ่ก และดูเหมือนว่าทุกคนจะรวมตัวรอเธอกันครบทุกคนแล้ว ว่ากันว่าคนที่มาถึงจุดหมายเป็นคนแรกคือเซิร์ก เพราะหมอนั่นห่วงเรื่องสมบัติมาเป็นอันดับแรกนั่นเอง

     

     

    “พอมาถึงด้านบนแล้ว อาคารบ้านเรือนทุกอย่างก็ปกติดี ไม่ได้ลอยกลับหัวหรือแตกต่างไปจากเมืองทั่วไปเลยสักนิด หรือว่านี่จะเป็นภาพมายาด้วย” นางมารทอผ้าว่าขณะมองรอบตัวด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ

     

     

    “เปล่า มันเป็นเวทมนตร์ดันแปลงเพื่อให้อาศัยอยู่ได้” ควิลล์เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

     

     

    แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่นั้น กระแสพลังหอบหนึ่งก็ฟาดเปรี้ยงเข้ากลางวงสนทนาคล้ายเป็นการข่มขู่ จากนั้นไม่นานรอบตัวก็พลันปรากฏตัวของผู้แอบซ่อนตัวที่เฝ้าระแวดระวังแต่แรก พร้อมด้วยเสียงเตือนจากทางระบบที่ดังลั่น

     

     

    ยินดีต้อนรับ กลุ่มปาร์ตี้ผู้เล่น ซีแนล เฟลคอน สู่ดินแดนมายาแห่งขุมทรัพย์ที่ถูกซ่อนใต้เมืองเซเปีย เนื่องจากกลุ่มปาร์ตี้ผู้เล่นไม่ได้รับการเชิญจากเจ้าเมืองโดยตรง สัตว์อสูรทุกตัวในเมืองจะทำการจู่โจมผู้เล่น โปรดระวังตัวค่ะ

     

    สัตว์อสูร ระดับหัวหน้าทหาร ตุ๊กตาคนแคระหัวหน้าทหารยาม เลเวล 100 จำนวน 1000 ตัว ปรากฏตัว

    สัตว์อสูร ระดับหัวหน้าทหาร ตุ๊กตาคนแคระทหารยาม เลเวล 100 จำนวน 1000 ตัว ปรากฏตัว

    สัตว์อสูร ระดับนักรบ ตุ๊กตาคนแคระทหารรับจ้าง เลเวล 150 จำนวน 1500 ตัว ปรากฏตัว

    สัตว์อสูร ระดับนักรบ ตุ๊กตาคนแคระทหารหน่วยกล้าตาย เลเวล 180 จำนวน 1800 ตัว ปรากฏตัว

    สัตว์อสูร ระดับองรักษ์ ตุ๊กตาคนแคระจอมเวท เลเวล 200 จำนวน 2000 ตัว ปรากฏตัว

    สัตว์อสูร ระดับอัศวิน ตุ๊กตาคนแคระถือโล่อัศวิน เลเวล 300 จำนวน 3000 ตัว ปรากฏตัว

    ผู้เล่นที่ถูกสัตว์อสูรระดับหัวหน้าทหารขึ้นไปสังหาร เลเวลลดลง 100 ระดับ รอเวลาในการเกิดใหม่ 24 ชั่วโมง

     

     

    โอ้ยงานเข้า!!!

     

     

    บ้าเอ้ยนี่มันยกขบวนแห่กันมาทั้งกองทัพกะเล่นให้ตายเรียบกันเลยใช่มั้ยฟะ!

     

     

    พอได้เห็นสัตว์อสูรที่ปรากฏตัวรายล้อมเยอะมากจนตาลายซีแนลก็เบ้หน้าอย่างปวดใจ




    ขณะที่คนทั้งห้าเตรียมพร้อมจะรับมือต่อสู้ พลันก็ได้ยินเสียงตวาดก้องของผู้ทรงอำนาจผู้หนึ่งดังสะท้อนไปทั่วเมือง เหล่าสัตว์อสูรทั้งหลายหยุดขยับด้วยท่าทางเตรียมบุกราวกับถูกปิดสวิตซ์ขัดกับสายตาที่จ้องเขม็งตั้งใจจัดการผู้บุกรุกเสียถนัด

     

     

    “ข้าให้โอกาสพวกเจ้า ผู้บุกรุกเอ๋ยจงรีบถอนตัวกลับออกไปจากเมืองนี้เสีย” เสียงของอีกฝ่ายดังสะท้อนก้องโดยไม่ยอมเผยตัวออกมา แต่คาดว่าทุกคนน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าไม่พ้นเสียงของเจ้าเมืองหรือจ้าวแห่งนักทำนายที่พวกเขาต้องการพบตัว

     

     

    “อะไรฟะ อยู่ๆ ก็คิดจะไล่ให้กลับทั้งที่ไม่ได้สมบัติติดไม้ติดมือไปสักชิ้น”

     

     

    เสียงบ่นเบาๆ ของเซิร์กที่บ่นกับตัวเองดังขึ้นอย่างขัดกาลเทศะ ทำลายบรรยากาศตึงเครียดไปจนหมด เป็นเหตุให้ซีแนลถึงกับกลั้นเสียงหัวเราะตัวโยน

     

     

    “ขอปฏิเสธ!

     

     

    โดยไม่มีใครคาดคิด ควิลล์กลับเป็นผู้ที่เอ่ยตอบอย่างเสียงแข็งจนทุกคนอ้าปากค้าง ไอ้คนที่อยากจะส่งเสียงร้องห้ามก็ห้ามไม่ทัน

     

     

    ไอ้เจ้าบ้านี่มันซื่อตรงเกินไปไหม!

     

     

    ไม่คิดจะซื้อเวลาให้คนอื่นได้เตรียมตัวเอาเสียเลย

     

     

    และไม่ผิดจากที่พูดจิตวิญญาณอาวุธของควิลล์ได้ลงมือโต้กลับเป็นคนแรก ทักษะร้ายกาจอันแสนสะท้านสะเทือนถูกเผยออกมาอย่างไม่หยุด สัตว์อสูรที่ดาหน้าโจมตีกันเข้ามาตายลงราวกับผักปลา จนส่งผลให้อีดานสัตว์เลี้ยงระดับราชาของเธอเกิดความฮึกเฮิมอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน

     

     

    ซีแนลต้องอ้าปากค้างอีกรอบเมื่ออีดานพุ่งเข้าฟาดฟันศัตรูอย่างไม่ยอมน้อยหน้าโดยไม่ทันได้รับคำสั่ง ที่แน่ๆ คือไอ้การฆ่าล้างบางนี้เป็นการประกาศตัวแข่งขันฝีมือกับจิตวิญญาณอาวุธของควิลล์ชัดๆ

     

     

    โอ้ย! นะ...นี่มันจะตลกร้ายเกินไปแล้ว

     

     

    ทำไมสัตว์เลี้ยงผู้แสนสุขุมของเธอถึงออกตัวแรงขนาดนี้เนี่ยยย!

     

     

    พื้นที่รายรอบสาดกระเซ็นด้วยเลือดของสัตว์อสูรที่ถูกสังหาร ยิ่งกองทัพของสัตว์อสูรล้มลงมากเท่าใดบรรยากาศก็ยิ่งตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    ซีแนลช่วยคนอื่นๆ ต่อสู้กับสัตว์อสูรที่หลุดออกมาวงนอกด้วยเช่นกัน โดยมีเซิร์กและหยงเล่อคอยจัดการอยู่ด้านหน้า ส่วนที่เธอต้องทำก็แค่ช่วยซ้ำให้สัตว์อสูรตายสนิท

     

     

    และเมื่อหันไปด้านขวามือที่เยื้องออกไปไม่ไกลก็จะพบการต่อสู้ของนางมารทอผ้า

     

     

    ทักษะของอีกฝ่ายนั้นทำให้เธอได้เปิดหูเปิดตามากทีเดียว เพราะอีกฝ่ายใช้ด้ายเย็บผ้าโจมตีเป็นหลัก ดังนั้น สัตว์อสูรที่ถูกนางมารทอผ้าสังหารนั้นทั้งถูกรัด ถูกเย็บและถูกตัดอวัยวะขาดเป็นชิ้นๆ ด้วยด้ายที่เรืองแสงและคมกริบยิ่งกว่าใบมีด เพราะเมื่อสะบัดมือครั้งหนึ่ง ด้ายเย็บผ้านับร้อยเส้นก็พุ่งตวัดออกไปคล้ายใยแมงมุมจนมองตามแทบมองไม่ทัน ไหนจะท่วงท่าที่ใช้ด้ายรัดคอสัตว์อสูรและเหวี่ยงกระชากออกไปจนพวกมันล้มทับกันระเนระนาดเสียขบวน พอได้เห็นอย่างนั้นแล้วเธอถึงกับยิ้มแหยและสาบานว่าจะไม่มีวันทำให้นางทอผ้าโกรธเป็นอันขาด

     

     

    ยิ่งเฉพาะเวลาที่เธอได้เห็นนางมารทอผ้าหัวเราะออกมาเสียงแหลมด้วยความเบิกบานใจพอๆ กับคนอื่นที่หัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อสัตว์อสูรถูกฆ่า ซีแนลก็รู้สึกว่าสัตว์อสูรตุ๊กตาคนแคระเหล่านั้นดูน่ารักไปเลย

     

     

    กระทั่งผ่านไปร่วมชั่วโมงสัตว์อสูรตัวสุดท้ายได้ถูกสังหารลงพร้อมกับเสียงเตือนจากทางระบบ

     

     

    ผู้เล่น ซีแนล เฟลคอน และกลุ่มปาร์ตี้ทำการสังหารสัตว์อสูรองครักษ์ดูแลเมืองตั้งแต่ระดับหัวหน้าทหารจนถึงระดับอัศวินทั้งสิ้น 13,000 ตัว บรรลุเงื่อนไขการบุกรุกเมืองสำเร็จ

     

    ผู้เล่นควิลล์ ได้รับประสบการณ์สะสม 1,042,500 จุด เพื่อใช้ในการเพิ่มระดับ

     

    ผู้เล่นหยงเล่อ ได้รับประสบการณ์สะสม 4,900,500 จุด เพื่อใช้ในการเพิ่มระดับ

     

    ผู้เล่นเซิร์ก ได้รับประสบการณ์สะสม 8,040,000 จุด เพื่อใช้ในการเพิ่มระดับ

     

    ผู้เล่นมะลิ บรรลุเงื่อนไขการเลื่อนระดับ เลเวลเลื่อนขึ้นเป็น 926

     

    ผู้เล่นซีแนล เฟลคอน บรรลุเงื่อนไขการเลื่อนระดับ เลเวลเลื่อนขึ้นเป็น 521

     

    ไอเท็มทั้งหมดและเงินจำนวน 19,000,000Z จะถูกโอนเข้าสู่ตัวผู้เล่นในสัดส่วนการแบ่งเท่าตามประเภทที่กลุ่มปาร์ตี้ระบุเลือก

     

    กลุ่มปาร์ตี้ของผู้เล่นสามารถติดต่อยื่นคำร้องขอพบเจ้าเมืองได้ที่ปราสาทใหญ่ทางทิศเหนือค่ะ

     

     

    สิ้นเสียงรายงานจากทางระบบซีแนลก็เบิกตากว้างโตด้วยความตกใจ เนื่องจากระดับของเธอพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด จากระดับเลเวล 1 ชนชั้นจอมเวทเป็น 521 เลยทีเดียว

     

    ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมผู้เล่นในปาร์ตี้อีกสามถึงไม่เพิ่มระดับนั้น คงเป็นเพราะว่าระดับเลเวลและชนชั้นของพวกเขาสูงเกินไป

     

     

     

    ข้อมูลปาร์ตี้

    ควิลล์ ระดับชั้นราชา เลเวล 987 อาชีพจอมเวทมายา  (หัวหน้าปาร์ตี้)

    หยงเล่อ ระดับชั้นราชา เลเวล 842  อาชีพจอมยุทธ์ (สมาชิก)

    เซิร์ก ระดับชั้นราชา เลเวล 569  อาชีพจอมโจร   (สมาชิก)

    มะลิ ระดับชนชั้นอัศวิน เลเวล 926 อาชีพช่างตัดเย็บ (สมาชิก)

    ซีแนล เฟลคอน ระดับชนชั้นจอมเวท เลเวล 521 อาชีพช่างซ่อมตุ๊กตา  (สมาชิก)

     

     

     

    ที่น่าประหลาดใจก็คือหลังจากเสียงรายงานของทางระบบเสร็จสิ้นลง สภาพอาคารต่างๆ ภายในเมืองก็พลันสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมด้วยอากาศรอบตัวแตกร้าวอีกครั้งหนึ่ง ไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่จิตวิญญาณอาวุธของควิลล์เคยลงมือทำ

     

    สภาพภายในเมืองเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากตึกอาคารสีขาวที่ฉาบด้วยปูนธรรมดาเปลี่ยนสภาพไปเป็นทองคำ และคนที่ต้องเบิกตาค้างมากที่สุดเห็นจะเป็นเซิร์กและนางมารทอผ้า ทั้งสองคนนั้นหันหน้าเข้าหากันแล้วจับมือเขย่ากระโดดโลดเต้นดีใจเหมือนเด็กๆ

     

    ซากศพของสัตว์อสูรที่เกลื่อนกลาดอยู่จนทั่วหายไปหมดแล้ว เหล่าผู้คนที่แอบซ่อนอยู่ในเมืองก็ค่อยๆ โผล่หน้าและปรากฏตัวออกมาให้เห็น

     

    แต่จากที่สังเกต ซีแนลพบว่าเมืองนี้มีแต่สัตว์อสูรจำพวกตุ๊กตารูปร่างคนแคระอาศัยอยู่เพียงชนิดเดียว และเนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองมายาที่สร้างเลียนแบบเงาของเมืองเซเปียและเธอเองก็เคยพบเห็นเอ็นพีซีที่รูปร่างเป็นตุ๊กตาอยู่บ้าง ไหนจะรวมถึง 'Ghost Doll' ที่เป็นเอ็นพีซีประจำอาชีพของตัวเองอีก เธอจึงไม่แปลกใจกับรูปลักษณ์ของผู้คนในเมืองนี้แม้แต่น้อย

     

    โดยไม่รอช้าพวกเขาทั้งห้ามุ่งไปยังปราสาททางทิศเหนือตามที่ทางระบบบอกไว้โดยทันที

     

    ซีแนลแอบบ่นโอดครวญอยู่ในใจที่เมืองนี้ก่อสร้างด้วยทองคำอยู่พักหนึ่ง แสงสะท้อนของมันทำให้เธอแสบตาไปหมด และนึกเสียใจที่ไม่ได้ซื้อแว่นกันแดดแฟชั่นจากร้านค้าที่ตั้งแผงในเมืองด้านบนพกติดกระเป๋าไว้สักอัน เธอคิดว่าร้านค้าในเมืองนี้คงไม่มีขายเพราะเท่าที่เห็นสัตว์อสูรทุกตัวสามารถอยู่ท่ามกลางแสงสะท้อนแวววาวได้เป็นอย่างดี

     

    แต่คนที่ปรับตัวได้รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อนั่นก็คือเซิร์กกับนางทอผ้าที่ตอนนี้กำลังตื่นเต้นจนแทบจะวิ่งเต้นระบำด้วยปลายเท้ากันเลยทีเดียว

     

    หลังจากได้ยื่นคำร้องจากยามหน้าปราสาทและก้าวเข้ามาสู่ชั้นใน เธอและคนอื่นๆ ก็พบว่าสัตว์เทพอสูรผู้เป็นเจ้าเมืองได้นั่งรออยู่บนบัลลังก์ทองคำของปราสาทอยู่ก่อนแล้ว

     

    ไม่น่าเชื่อว่าสัตว์อสูรเผ่าคนแคระที่เป็นสัตว์อสูรระดับล่างเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ จะมีตัวที่เป็นถึงระดับจักรพรรดิอยู่ด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิมักจะเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่แบ่งแยกอย่างชัดเจน อาทิเช่น เผ่าแวมไพร์และจิ้งจอกขาว อีกทั้งสัตว์อสูรพวกนี้เฉลียวฉลาดและเย่อหยิ่งไม่ปรากฏตัวให้ผู้เล่นพบเห็นโดยง่าย

     

     

    สัตว์เทพอสูรจ้าวแห่งนักทำนาย ระดับจักรพรรดิ ผู้ครองดินแดนมายาแห่งขุมทรัพย์ใต้เมืองเซเปีย ระดับ 500 ปรากฏตัว ผู้เล่นที่ถูกสัตว์เทพอสูรสังหาร เลเวลลดลง 500 ระดับ รอเวลาในการเกิดใหม่ 7 วัน

     

     

    เสียงเตือนจากทางระบบดังขึ้นเมื่อซีแนลเข้าไปใกล้และยืนเผชิญอยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย เนื่องจากเธอเคยทราบข้อมูลอยู่บ้างว่าสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิตัวนี้รักสงบ อีกทั้งยังสัมผัสไม่ได้ถึงแรงกดดันเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิตัวอื่นๆ ที่เคยเจอ ซีแนลจึงไม่ได้แสดงอาการวิตกใดๆ

     

    นอกเหนือจากนั้นข้างกายเธอก็ยังมีผู้เล่นฝีมือเก่งกาจอยู่หลายคน เธอจึงทำตัวสบายๆ อย่างไร้กังวล

     

     “บังอาจนัก! ช่างบังอาจ! เป็นพวกชั้นต่ำแท้ๆ แต่ถึงกับสังหารทหารของข้าไปมากกมาย”

     

     

    จ้าวแห่งนักทำนายรูปร่างคนแคระตัวเตี้ยแคระแกร็น ผิวหนังตะปุ่มตะป่ำสีน้ำตาลไหม้หยาบกร้านและจมูกโตงุ้มงออัปลักษณ์เอ่ยลอดไรฟันด้วยความโมโห

     

     

    “เอาล่ะๆ เข้าประเด็นแบบไม่อ้อมค้อมเลยแล้วกัน ส่งเบาะแสเรื่องปลายทางของเซเปียและสุดยอดสมบัติทั้งหมดมา!” เซิร์กที่ยืดกอดอกเอ่ยขึ้นอย่างโผงผางคล้ายกับให้รอนานกว่านี้ไม่ไหว

     

     

    สิ้นคำพูดของเขาคนอื่นๆ ก็ถึงกับหันหน้าขวับไปมองด้วยความอึ้ง แม้แต่สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิก็มีท่าทีไม่ต่างกัน

     

     

    ซีแนลแทบหลุดเสียงกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวเมื่อพบว่าสีหน้าของเซิร์กในตอนนี้แสดงถึงความเอาแต่ใจไม่ต่างจากเด็ก

     

     

    “เจ้าถึงกล้าข่มขู่ข้า!” สัตว์อสูรจ้าวเมืองตวาดเสียงดังกึกก้อง

     

     

    แต่เมื่อพบว่ากลุ่มผู้เล่นทั้งหมดต่างไม่มีท่าทีตอบสนองหรือหวาดกลัวแม้แต่น้อยใบหน้าก็พลันคล้ำเขียว โดยเฉพาะแม้แต่หยงเล่อเองก็นั่งแคะจมูกและปรายตามองอีกฝ่ายอย่างไม่สนใจ

     

     

    “น่าชังนัก เช่นนั้นก็จงสังเวยชีวิตพวกเจ้าไว้ที่นี่เสียทั้งหมดเถิดพวกมนุษย์ชั้นต่ำโง่เง่า!

     

     

    โดยไม่ทันที่ใครจะได้ขยับตัว สัตว์อสูรจ้าวเมืองก็ใช้ทักษะรุนแรงที่เก็บงำเอาไว้เอามา รังสีกดดันแผ่พุ่งกระจายฟุ้งไปในอากาศจนซีแนลเข่าทรุดลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

     

     

    และที่น่าตกตะลึงกว่าอะไรทั้งหมดนั่นก็คือจิตวิญญาณอาวุธของควิลล์ที่มีสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ไม่ผิดแผกจากเจ้าอยู่เสมอถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ก่อนจะกระชากร่างเจ้านายตัวเองดีดหลบถอยหลังกรูออกจากแรงปะทะไปไกลหลายสิบเมตร

     

     

    บัดนี้ สีหน้าแห่งความวิตกกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน เนื่องจากไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าสัตว์อสูรตนนี้จะเก็บงำฝีมืออันร้ายกาจไว้จนมิด เนื่องจากเดิมทีความสามารถของผู้เล่นระดับราชานั้นสามารถตรวจสอบสัตว์อสูรได้อยู่แล้ว ทุกคนจึงมั่นใจกันมากว่าจะสามารถจัดการสัตว์อสูรตัวนี้ได้ง่ายๆ ในตอนแรก

     

     

    “แม่นางน้อยซีแนลและจอมยุทธ์หญิงเหมยลี่โปรดระวังตัวด้วย สัตว์อสูรเบื้องหน้าของท่านผู้นี้แท้จริงแล้วฝีมือร้ายกาจยิ่ง” หยงเล่อเอ่ยกับเธอเสียงเครียด พลางขยับตัวมาบังเธอไว้ไม่ต่างจากเซิร์กที่ตั้งท่าเตรียมพร้อมต่อสู้

     

     

    “นายหญิงโปรดอยู่ใกล้ข้าไว้นะขอรับ”

     

     

    อีดานสัตว์เลี้ยงระดับราชาเผ่าพันธุ์ยมทูตของเธอเอ่ยเสียงเครียดขณะเตรียมพร้อมต่อสู้อีกคน

     

     

    “ทุกคนถอยออกมา!

     

     

    ควิลล์ตะโกนเสียงดังลั่นด้วยสีหน้าวิตกกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เซิร์กและหยงเล่อที่พร้อมจะลุยกับสัตว์อสูรเบื้องหน้าพลันต้องหันมาสบตาปรึกษากัน และท้ายที่สุดก็ค่อยๆ ถอยหลังไปด้านหลังตามคำเตือนดังกล่าว

     

     

    ตอนนี้เธอกับนางมารทอผ้าหลบอยู่ด้านหลังคนอื่นๆ ขณะที่รอฟังคำอธิบายจากควิลล์ด้วยความคับข้องใจ

     

     

    “สัตว์อสูรจักรพรรดิตัวนี้ไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดาอย่างที่พวกเราเคยพบหรือประมือด้วย” ควิลล์เอ่ยขณะไม่ได้คลาดสายตาไปจากสัตว์เทพอสูรแม้แต่น้อย อีกฝ่ายกำลังนั่งเอนอยู่บนบัลลังก์ด้วยท่าทางยิ้มย่องใจเมื่อพบว่าพวกเราหวาดกลัวมันจนเซิร์กกัดฟันกรอด

     

     

    “หมายความว่ายังไงที่ว่าไม่ธรรมดา?” นางมารทอผ้าเอ่ยถามอย่างต้องการคำตอบมากกว่าคนอื่นๆ

     

     

    “อย่างที่รู้ว่าอาชีพของฉันแม้จะไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในทำเนียบยี่สิบอาชีพลับ แต่ก็มีความพิเศษพอๆ กับอาชีพลับอื่นๆ เอ็นพีประจำอาชีพได้ให้รายละเอียดว่าเดิมทีอาชีพนี้ควรถูกบรรจุไว้ในทำเนียบแต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดถึงถูกปลด และเนื่องจากว่าการใช้เวทมนตร์ได้ทุกธาตุนั้นจะเป็นการเอาเปรียบผู้เล่นคนอื่นมากเกินไป การทดสอบเพื่อให้ได้ทักษะแต่ละอย่างมาจึงมีความยากและจุกจิกจนผู้เล่นไม่สามารถผ่านไปได้และมันกลายเป็นอาชีพขยะในท้ายที่สุด”

     

     

    “นายจะบอกว่าอาชีพจอมเวทมายาของนายมีความเกี่ยวข้องกับดินแดนมายาแห่งขุมทรัพย์ด้วยอย่างนั้นสินะ” เซิร์กกล่าวอย่างคาดการณ์

     

     

    “ใช่ ความจริงแล้วฉันรับภารกิจการปลดล็อกทักษะอาชีพมาภารกิจหนึ่ง เป็นภารกิจที่ต้องค้นหาทักษะขั้นสูงที่ความสามารถของทักษะรุนแรงพอๆ กับทักษะของผู้เล่นระดับชนชั้นจักรพรรดิ” ควิลล์เอ่ยเพียงแค่นั้นทุกคนก็พากันเงียบกริบ

     

     

    แน่นอนว่าตอนนี้ไม่มีผู้เล่นคนใดภายในเกมสามารถก้าวขึ้นไปสู่ขั้นนั้น

     

     

    “ภารกิจอะไรอย่างนั้นเหรอควิลล์?” นางมารทอผ้าเอ่ยถามด้วยความสงสัย

     

     

    “ภารกิจค้นหาหีบบรรจุสมบัติทักษะมายาระดับสูงของเผ่าพันธุ์ภูติ”

     

     

    “เฮ้ยอย่าบอกนะว่านายคิดว่ามันอยู่ที่นี่!” เซิร์กร้องด้วยความตกใจ

     

     

    “ใช่ หลังจากฉันทบทวนเรื่องต่างๆ รวมถึงซีแนลได้รับแผนที่จากการสุ่มจากหีบทองคำซึ่งเป็นไปได้ว่าน่าจะเกี่ยวโยงกัน เพราะในเผ่าพันธุ์ภูติระบุข้อมูลไว้อย่างชัดเจนว่านับหลายพันปีมาแล้วหีบทองคำที่มีลักษณะพิเศษทุกใบถูกสร้างขึ้นจากเผ่าพันธุ์คนแคระ และหีบทองคำเหล่านั้นถูกใครบางคนขโมยจนหายสาบสูญไปทั้งหมด”

     

     

    “นายคิดว่ามันถูกซ่อนไว้ที่นี่ เพราะอ้างอิงจากข้อมูลที่เมืองนี้มีสัตว์อสูรตุ๊กตาคนแคระอาศัยอยู่อย่างนั้นเหรอ?”

     

     

    นางมารทอผ้าเอ่ยถามขณะสายตามองไปยังสัตว์อสูรจ้าวเมืองและกังวลใจเป็นอย่างมากว่าอีกฝ่ายจะพุ่งเข้าโจมตีเมื่อไหร่

     

     

    “ฉันคิดว่าอย่างนั้น แล้วทักษะมายาขั้นสูงของฉันก็ตรวจสอบความสามารถของสัตว์อสูรจักรพรรดิตัวนั้นไม่ได้ ทั้งที่ความจริงแล้วแม้แต่สัตว์เทพอสูรราชินีแซฟร่าบอสในในดันเจี้ยนระดับ SS ของทวีปหลักฉันก็เคยประมืออย่างสูสีมาแล้ว แต่ฉันกลับตรวจสอบสัตว์อสูรตัวนี้ไม่ได้เลย ฉันถึงไม่ได้ระวังอีกฝ่ายตั้งแต่แรก” ควิลล์ว่า


                ขณะที่เธอมองเขาด้วยความทึ่ง 
    เพราะหากนึกถึงสัตว์เทพอสูรตัวร้ายอย่างบอสในดันเจี้ยนทวีปหลักตัวนั้นแล้ว เธออดที่จะรู้สึกแหยงไม่ได้

     

     

    “แล้วถ้าอย่างนั้นเราจะวางแผนจัดการสัตว์อสูรตัวนี้ยังไงกันดี” นางมารทอผ้าเอ่ยขอคำปรึกษา

     

     

    “ไม่รู้” ควิลล์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

     

     

    ทุกคนจึงพยักหน้ากับตัวเองด้วยความตระหนักว่านี่ไม่ใช่งานเล่นๆ และพวกเขาเสี่ยงที่จะตายได้ทุกเมื่อ

     

     

    “ให้ตายสิ ขนาดคนรอบคอบอย่างควิลล์ยังหาวิธีไม่ได้ แล้วนายล่ะเซิร์กพอจะหาทางได้ไหม” นางมารทอผ้าหันไปถามเซิร์กที่ขมวดคิ้วยุ่งอย่างใช้ความคิด

     

     

    เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พลันถอนหายใจหนักๆ แล้วส่ายหน้า

     

     

    “อย่างนั้นฉันมีสองทางให้เลือก ทางแรกวาปกลับสมาคม ทางที่สองคือบุกตะลุยเข้าไป”

     

     

    ซีแนลกำลังจะเอ่ยปากเลือกทางแรกอยู่แล้ว แต่ถูกหยงเล่อที่เร็วกว่าเอ่ยขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน

     

     

    “ข้ายอมมิได้! ผู้กล้าย่อมควรมีหนทางของผู้กล้า ในเมื่อเหยียบย่างมาถึงในถิ่นศัตรูที่ไม่อาจทราบว่าจะมาได้อีกเป็นครั้งที่สองหรือไม่ ข้าจอมยุทธ์หยงเล่อขอเสนอตัวบุกฝ่าเข้าไปเป็นคนแรก”

     

     

    ความคิดเห็นของหยงเล่อทำให้นางมารทอผ้ากุมขมับ เนื่องจากเธอลืมไปว่าในปาร์ตี้นี้ดันพกคนบ้ามาด้วยคนหนึ่ง ตามประวัติการทำภารกิจของอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นภารกิจที่ยากหรือมีความเสี่ยงสูงแค่ไหน ไอ้เจ้าผู้เล่นบ้าคนนี้ก็ไม่เคยคิดจะถอนตัวแม้แต่ครั้งเดียว โดยอ้างว่าศักดิ์ศรีของจอมยุทธ์ค้ำคอ จนคนในสมาคมต้องพากันยอมรับนิสัยบ้าๆ ของอีกฝ่ายอย่างขัดเสียไม่ได้

     

     

    “เฮ้ย แกเป็นจอมยุทธ์แต่ข้าเป็นโจร เพราะงั้นเลิกๆ วาปกลับสมาคมด่วน” เซิร์กส่งเสียงค้านและเธอก็เห็นด้วยกับความคิดของเขา

     

     

    “แต่ฉันจะฝ่าเข้าไป” สิ้นเสียงเรียบๆ ของควิลล์ทุกคนก็ถึงกับหน้าเหวอ

     

     

    เฮ้ยๆ ไอ้หมอนี่ช่วยห่วงชีวิตคนอื่นเค้าบ้างเซ่!!

     

     

    ไหนเมื่อครู่นี้ยังบอกว่าสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิตัวนี้จัดการยากอยู่เลยฟะ

     

     

    “งั้นฉันเอาด้วย เพราะถ้าไม่เสี่ยงก็ไม่ได้สมบัติ” ทางมารทอผ้าว่าอย่างหมายมั่นปั้นมือ และพอเอ่ยถึงเรื่องสมบัติเท่านั้น เซิร์กก็ถึงกับหันไปคว้าคอหยงเล่อกอดหมับด้วยหน้าระรื่น

     

     

    “นั่นสินะๆ ความคิดของจอมยุทธ์หยงเล่อถูกต้องแต่แรกแล้ว พวกเรามาร่วมหนทางของจอมยุทธ์ผู้กล้ากันเถอะ”

     

     

    “ความคิดของจอมยุทธ์เซิร์กถูกต้องแล้ว พวกเราร่วมฝ่าฟันไปพร้อมปณิธานยิ่งใหญ่ด้วยกันเถอะ”

     

     

    ปณิธานยิ่งใหญ่อาร๊ายยยของแก!!!

     

     

    ไม่ใช่พวกแกรวมหัวพากันไปตายหรอกเหรอ!!!

     

     

    ว่าแล้วเธอก็อยากกุมขมับเป็นบ้า เพราะหลังจากเหลือแค่เธอที่ยังไม่ได้ออกความเห็น ทุกคนก็เหมือนจะจงใจหันมามองเธอเป็นตาเดียวเพื่อขอคำตอบ





    บ้าเอ้ย! รวมกลุ่มกับคนบ้าๆ พวกนี้แล้ว ไม่รู้ว่าเธอจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ฮืออ~


     

     

    ลง 30per. ตี 5:37น. เมื่อวานกลับถึงบ้านช้ามากและสลบ ตื่นมาดึกมากแล้ว ต้องขออภัยที่ทำให้รอนะจ้า ลง 60per. 20:06น. 17/11/57 ขออภัยที่อัพน้อยไปนิดนะจ้า 
              *เรื่องคำซ้ำในช่วงแรก ขอแก้ทีหลังนะจ้า ขอบคุณที่แนะนำจ้า
              
    ลง 100per. 19:57น. 19/11/57 ยังไม่ได้ตรวจแก้คำผิดและตรวจเช็คสำนวนและคำซ้ำนะจ้า ขอลงก่อน หากอ่านแล้วติดขัดขออภัยด้วยจ้า

    ปล.รักคนอ่านมากที่สุดดดดดดดด
              *ขอบคุณ St@ff_X มากๆ ค่าที่ช่วยบอกมันตกหล่นไปจริงๆ คนแต่งลืมจ้า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×