คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #54 : พิภพราชันย์ออนไลน์ :: ผู้ชนะการแข่งขันประจำปี (2)
พิ ภ พ ร า ชั น ย์ • อ อ น ไ ล น์
บทที่ 27 ผู้ชนะการแข่งขันประจำปี (2)
การปรากฏตัวของบุรุษรูปงามผู้ลึกลับผู้นี้ทำให้เกมเกิดความปั่นป่วนขึ้นอีกระลอก เนื่องจากทางระบบรายงานข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธประจำอาชีพให้ผู้เป็นเจ้าของได้ยินเพียงคนเดียว
ผู้เล่นที่ชมเหตุการณ์การณ์อยู่จึงไม่ทราบถึงที่มาที่ไปของชายหนุ่มปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้น หลายเสียงเต็มไปด้วยคำถามว่าเขาเป็นใคร เหตุใดจึงปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางภารกิจได้!? จนเป็นเหตุให้สองพิธีกรต้องออกมาไขความกระจ่างให้แก่ผู้ชมอีกครั้งหนึ่ง
“ท่านผู้ชมครับ เราได้รับรายงานเกี่ยวกับข้อมูลของชายหนุ่มปริศนาที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นในภารกิจครั้งนี้เรียบร้อยแล้วครับ ทางทีมงานระบุว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากทักษะส่วนตัวของผู้เล่น ซึ่งทางระบบไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่นไปมากกว่านี้ได้ เอาเป็นว่าเรามาดูสถานการณ์ต่อไปกันดีกว่าครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น” GMปลากระป๋องกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นขณะกล้องจับภาพไปยังเหตุการณ์ดังกล่าว
จากการรายงานที่รวบรัดของพิธีกรหนุ่มทำให้ผู้เล่นทั้งหลายคาดเดาไปต่างๆ นาๆ ว่าเด็กสาวอาจมีทักษะพิเศษที่ยังไม่ถูกค้นพบหรือแม้แต่ข้องเกี่ยวทักษะอัญเชิญของอาชีพลับก็เป็นได้
เวลาเดียวกันนั้น สัตว์เทพอสูรบรรพกาลได้ลงมือโจมตีอีกระลอกหนึ่ง พลังที่ทำการโจมตีคราวนี้ดูเหมือนว่าจะรุนแรงกว่าทั้งหมดที่ผ่านมา สายฟ้าประกายสีเงินจากเบื้องบนถูกส่งลงมาราวกับลูกธนูที่ง้างออกจากคันศรเต็มแรงจนผู้ชมที่มองภาพสูดลมหายใจด้วยความหวาดเสียว
เปรี้ยง!
เสียงปะทะดังสนั่นจนโดมป้องกันสั่นสะเทือน ผู้เล่นหลายคนไม่อาจทำใจมองภาพที่เกิดขึ้นได้จนต้องยกมือปิดตาและเบือนหน้าหนี
ทว่าหลังจากเสียงการปะทะสิ้นสุดลง…
ทุกอย่างก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบกริบ!
สีหน้าทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ตัวเองคิดไว้
ร่างของเด็กสาวและชายหนุ่มปริศนาที่ทุกคนต่างคาดว่าต้องถูกบดขยี้จนไม่เหลือสภาพในตอนแรกกลับปรากฏอาณาเขตลูกบาศก์สีทึบขนาดใหญ่คล้ายถูกเมฆหมอกสีเทาปกคลุมอยู่ขึ้นแทน
เมื่อปรากฏว่าคนทั้งสองยังอยู่รอดปลอดภัยภายใต้ลูกบาศก์สีทึบที่ถูกสร้างขึ้นด้วยทักษะของผู้เล่นเองและไม่สามารถมองเห็นว่าภายในเกิดอะไรขึ้น ผู้ชมทั่วทั้งเกมก็ส่งเสียงฮือฮา
ขณะเดียวกันสัตว์เทพอสูรบรรพกาลได้ทำการโจมตีพลังใส่เกราะป้องกันของลูกบาศก์นั้นอย่างต่อเนื่อง แม้ทักษะของสัตว์อสูรบรรพกาลนั้นจะไม่ได้ผลในตอนแรก แต่ภายในเวลาไม่นานทุกสายตาต่างเห็นว่าลูกบาศก์ที่ปกป้องผู้แข่งขันอยู่เริ่มเกิดรอยปริร้าวเล็กๆ ขึ้น
“ท่านผู้ชมคะ ขณะนี้กล้องไม่สามารถจับภาพที่เกิดขึ้นภายใต้อาณาเขตที่ถูกกางขึ้นโดยฝีมือของผู้เข้าแข่งขันได้ แต่เราก็พบว่าจุดที่ถูกสัตว์เทพอสูรโจมตีใส่อย่างต่อเนื่องเริ่มเกิดรอยร้าวขึ้นแล้ว เรามาลุ้นกันว่าผู้เข้าแข่งขันจะฝ่าฟันกับระยะเวลาที่เหลืออีกห้านาทีก่อนจะจบเวลาการแข่งขันได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามเรามาช่วยกันส่งแรงใจและเสียงเชียร์ให้ผู้แข่งขันฝ่าฟันวิกฤตและสามารถพิชิตภารกิจในครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ดีกว่าค่ะ” เสียงของพิธีกรสาวดังขึ้นอย่างฮึกเหิมพร้อมกับเสียงเชียร์ที่โห่ลั่นของผู้ชม
เพราะไม่ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะลงเอยแบบไหน ภาพทั้งหมดจะตราตรึงใจผู้เล่นทั้งเกมไปอีกนาน และชื่อของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดจะโด่งดังสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างไม่ต้องสงสัย
ภายใต้อาณาเขตป้องกันที่ถูกปกคลุมด้วยกระแสหมอกสีเทา
บุรุษรูปงามผมสีเทาหม่นยาวสลวยแต่งตัวด้วยชุดคลุมยาวสีขาวบริสุทธิ์ลวดลายสีทองงดงามจับตา ไม่แพ้ใบหน้าที่งดงามอย่างหาตัวจับยากชวนให้ผู้พบเห็นตกตะลึงเพลิด ซึ่งมองดูขัดกับดวงตาที่ส่องประกายเย็นชาดุดันเย้ยหยันที่กำลังเลื่อนไล้มองร่างของเธอผู้เป็นเจ้านายตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก
ซีแนลสะท้านเฮือกเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาคมกริบที่แสนเย็นชาของร่างแท้จริงจิตวิญญาณอาวุธระดับสูงสุด
เธอพยายามจะหยัดร่างสะบักสะบอมที่นอนหมอบคลานขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล
“เจ้าหรือคือผู้เป็นนายของข้า หึ ช่างน่าผิดหวังเสียจริง”
คำพูดแรกที่อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยคือน้ำเสียงเยาะหยันอันแฝงไว้ซึ่งความน่าสะพรึงกลัวอย่างยากที่จะบรรยาย
บรรยากาศคุกคามและรังสีอำมหิตแผ่ออกมาด้วยความไม่พอใจในการปรากฏตัวอันไม่เต็มใจของตน
เมื่อถูกจ้องมองกดดันจากมุมสูงซีแนลจึงไม่กล้าขยับ
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจิตวิญญาณแรกเกิดนั่นจะยอมสละตัวเองเพื่อช่วยคนอ่อนแอไม่ได้ความเช่นเจ้า เฮอะ ช่างโง่เง่าไร้ความคิด!” อีกฝ่ายแค่นเสียงต่ำในลำคอพร้อมทั้งเหลือบมองเธอด้วยหางตาคมปราด
ริมฝีปากเยาะหยันคลี่ขยับอีกครั้งหนึ่งเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวแข็งแรงของอีกฝ่ายเลื่อนขยับกระชับกอบกุมรอบคอของเธออย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเดียวกับประกายเย็นเฉียบฉายออกมาจากดวงตายาวเรียวคมกริบ
“เจ้านายผู้ไม่คู่ควรกับข้าเช่นนั้นหรือ... หรือว่าข้าควรตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการสังหารเจ้าทิ้งเสีย”
ซีแนลรีบเอื้อมมือไปดึงมือของอีกฝ่ายออกจากลำคอที่เจ็บปวดแสนสาหัสราวกับจะถูกบีบให้แหลกยับละเอียด อีกฝ่ายใช้ดวงตาเย็นเยียบอันดำมืดจ้องมองเธอเหมือนหลืบไร มือทั้งคู่ที่กำลังพยายามปลิดชีวิตของเธอกระชับแน่นไม่แม้แต่จะขยับประหนึ่งราวกับถูกหลอม
ดวงตาของเธอเริ่มพร่าเบลอ ความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ความทรมานจากการขาดอากาศหายใจส่งผลให้ร่างหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงหิน รู้สึกสะท้านสะเทือนใจด้วยความเจ็บปวดจนยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด เมื่อคิดว่าต้องถูกสังหารด้วยอาวุธประจำอาชีพของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นจิตวิญญาณอีกครึ่งหนึ่งของพี่หมี
ใช่แล้ว... หากถูกอาวุธของตนเองสังหารในคราวนี้จะหมดสิทธิ์การครอบครองอาชีพลับและสูญเสียอาวุธประจำอาชีพไปตลอดกาล
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้น้ำตาของเธอก็เอ่อคลอ น้ำตาหยดหนึ่งรินกระทบถูกมือของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง วินาทีนั้นเองที่อีกฝ่ายถึงกับใบหน้าซีดเผือดและสะบัดมือออกราวกับสัมผัสแตะต้องไฟจากขุมนรก
คาดว่าน้ำตาหยดนั้นเปรียบเสมือนสายใยที่ยากจะตัดขาดของอาวุธกับผู้ครอบครองนั่นเอง
“เจ้า...เจ้าๆๆ นี่เจ้าจิตวิญญาณแรกเกิดนั่นผูกพันกับเจ้ามากมายเช่นนี้เชียวหรือ”
อีกฝ่ายยกนิ้วเรียวชี้หน้าเธอด้วยมือสั่นๆ อย่างข่มกลั้นโทสะ
“ดี! เช่นนั้นก็จงพิสูจน์มา! ภายในเวลาหนึ่งปีหากเจ้ายังหาวิธีปลดผนึกให้เจ้าจิตวิญญาณแรกเกิดก่อนเวลากำหนดมิได้ เมื่อเวลาแห่งการปรากฏตัวของข้าหวนมาถึง ข้าผู้นี้จะลงมือสังหารปลดเปลื้องสายใยนั้นด้วยตัวเอง!”
สิ้นคำพูดของอีกฝ่ายความสงสัยประการหนึ่งถูกจุดวูบขึ้นในใจ
ซีแนลบังเกิดความคิดอะไรบางอย่าง เธอเม้มริมฝีปากแน่นขณะขบคิดก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถาม
“เบาะแสล่ะ? ได้โปรดบอกเบาะแสในการปลดผนึกมาที”
เธอเอ่ยด้วยสายตาอ้อนวอน เพราะแน่ใจว่าอีกฝ่ายต้องรู้เงื่อนไข
ร่างสูงของอีกฝ่ายเคลื่อนตัวเข้าใกล้ ใช้ปลายนิ้วเชยคางเธอให้แหงนเงยหน้าขึ้นแล้วปราดมองด้วยแววตานึกสมเพช
“หึ เจ้านายผู้ขลาดเขลาและไร้ประโยชน์ เจ้านั้นรังแต่จะทำให้ข้าผู้นี้ขายขี้หน้า” อีกฝ่ายว่าพร้อมสะบัดมือออกวูบแล้วยกมือขึ้นเช็ดถู
รังสีกดดันของอีกฝ่ายชวนให้เธอรู้สึกคับแค้นและต้อยเนื้อต่ำใจอย่างแสนสาหัส
“ตกลงว่าข้าจะเมตตาเจ้าสักครั้งหนึ่ง... เบาแสถูกเก็บงำอยู่บนปลายทางเมืองเซเปีย อย่างไรเสียคนอย่างเจ้าก็ไม่มีทางคาดถึง ส่วนจะใช้วิธีไหนเพื่อค้นหาที่แห่งนั้นให้พบ เจ้าจำเป็นต้องเสาะหามันด้วยตัวเองกระมัง”
สิ้นคำใบ้ของอีกฝ่ายอาณาเขตหมอกสีเทาที่ปกคลุมก็สั่นสะเทือน
เปรี๊ยะ...
ทันใดนั้นพลันปรากฏรอยแยกแหวกยาวเหมือนถูกกรีดด้วยคมดาบขึ้นตรงจุดที่เธอสามารถเงยหน้ามองเห็น แน่นอนว่าอาณาเขตแห่งนี้คงอยู่ได้อีกไม่นาน
เปรี้ยง!
เสียงระเบิดจากสายฟ้าฟาดของศัตรูปะทะเข้ากับม่านพลังป้องกันดังลั่นจนแสบแก้วหู หลังจากนั้นอาณาเขตลูกบาศก์สีทึบที่ปิดกั้นสายตาผู้ชมก็พลันสลายหายไป
สิ่งที่ทุกคนเห็นคือบุรุษหนุ่มรูปงามผู้นั้นสลายตัวหายไปต่อหน้าต่อตา ทิ้งเด็กสาวให้เผชิญหน้ากับศัตรูผู้แข็งแกร่งไว้เบื้องหลังตามลำพัง ทว่าซีแนลกลับมองเห็นรอยยิ้มเหยียดหยันประดับอยู่บนริมฝีปากของอีกฝ่ายราวกับทุกอย่างดำเนินไปตามแผน
ชายผู้นั้นทิ้งไว้เพียงเสียงเหยาะหยันดูถูกและความคับแค้นใจที่ยังคงแผดก้องอยู่ในหัว
วินาทีที่การโจมตีของศัตรูใกล้จะถาโถมเข้าใส่แข่งขันกับเวลากระชั้นชิดโดยไม่สามารถป้องกันตัวให้รอดพ้นจากเงื้อมือของยมทูตโครงกระดูกชุดคลุมดำได้ เสียงจากทางระบบก็ดังขึ้นพร้อมกับบทสรุปที่ใครก็คาดไม่ถึง
ขณะนี้กิจกรรมประจำปีเทศกาลหน้ากากดิเนเวียสิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วมแข่งขันในกิจกรรมครั้งนี้ค่ะ
เสียงทางระบบดังขึ้นท่ามกลางผู้เล่นที่เต็มไปด้วยสีหน้าตกตะลึงครู่หนึ่งแล้วร่วมใจกันกอดคอโห่ร้องดีใจ
ขอแสดงความยินดี ผู้เล่น ซีแนล เฟลคอน ได้ปฏิบัติภารกิจสำเร็จลุล่วง รอดชีวิตเป็นเวลาครบ 30 นาที
ผู้เล่นได้รับรางวัลพิเศษประจำปี โดยขอรับรางวัลได้ที่ธนาคารทุกสาขาภายในเกม ผู้เล่นได้รับเงินจำนวน 10,000,000Z
ระดับชนชั้นของผู้เล่นเลื่อนขึ้นหนึ่งขั้นตามเงื่อนไขภารกิจราชินีแซฟร่า
ผู้เล่น ซีแนล เฟลคอน เลื่อนระดับชั้นจากสามัญชนขึ้นสู่ระดับชั้นนักรบเลเวล 1000
ระดับชนชั้นของผู้เล่นปลดล็อกอัตโนมัติโดยไม่ต้องส่งไอเท็มภารกิจ เนื่องจากตรงตามเงื่อนไขก่อนถูกลดระดับเลเวล
ผู้เล่น ซีแนล เฟลคอน เลื่อนระดับเลเวลเป็น 1 ระดับชั้นจอมเวท
ซีแนลนั่งจมปลักอยู่ที่เดิม ลำตัวเปรอะเปื้อนเลือดโดยไม่ได้ขยับไปไหน เสียงรายงานจากทางระบบไม่ได้ดังเข้าหูเธอแม้แต่น้อย
หมัดของเธอกำแน่นจนเล็กจิกเข้าไปในเนื้อ ดวงตาของเธอส่องประกายวาบแดงฉานอย่างน่ากลัวด้วยความคับแค้นใจมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในชีวิต เพราะมันทำให้เธอตระหนักถึงความอ่อนแอและใช้การไม่ได้ราวกับเป็นคนไร้ประโยชน์ตามที่ถูกดูถูก
เธอขอสาบาน!
นับแต่นี้ไปเธอสาบานว่าจะเปลี่ยนตัวเองจากผู้อ่อนแอให้เป็นผู้เข้มแข็ง!
นิสัยที่คอยแต่งพึ่งพาคนอื่นจนทำอะไรไม่เป็นเธอจะโยนมันทิ้งเสีย
เธอจะฝึกฝนอย่างหนักด้วยทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ ฝึกมันจนกว่าตัวเองจะตายไปข้างหนึ่งหรือแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ให้เหมือนกับนักดาบที่ฝึกหนักและจับดาบไม่ปล่อยจนมือเป็นแผลเหวอะแหวะ
เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกแย่งไปกลับคืนมา!
ก่อนที่โดมกิจกรรมป้องกันผู้เล่นออกจากเขตต่อสู้จะหายไป ร่างกายของเธอค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพจากการแก้ปัญหาของทางระบบ พื้นที่โดยรอบที่ถูกทำลายจากการต่อสู้ค่อยๆ ฟื้นฟูด้วยเช่นกัน
หลังจากร่างกายฟื้นฟูสภาพเสร็จโดมกิจกรรมก็หายไป พร้อมกับการปรากฏตัวของกลุ่มคนที่แห่โอบล้อมเข้ามาจำนวนมาก บ้างก็เพื่อเข้ามาร่วมยินดี บ้างก็เพื่อเข้ามาสอบถามข้อสงสัย และมีอีกจำนวนหนึ่งเพื่อหวังเข้ามาแย่งชิงตัวเพื่อยึดข้อมูลทั้งหมดเป็นของตัวเอง และก่อนที่ผู้เล่นคนอื่นจะเข้าถึงตัว อีดานสัตว์เลี้ยงระดับราชาเผ่าพันธุ์ยมทูตก็ถูกปลดผนึก
สัตว์เทพอสูรผู้วิเศษอีดาน สัตว์เลี้ยงระดับราชา เผ่าพันธุ์ยมทูต เลเวล 100 ปรากฏตัว
การปรากฏตัวของอีดานส่งผลให้กลุ่มผู้คนแตกฮือ เกิดอาการลังเลละล้าละลังไม่กล้าเข้าใกล้
อีกทั้งการปรากฏตัวของสมาชิกเงาอสูรในชุดนินจานับสิบคนที่ปรากฏตัวขึ้นทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าลงมือผลีผลามหรือตัดสินใจแย่งชิงตัวเธออีก
ภายในพริบตาเดียวทันทีที่สมาชิกของสมาคมเงาอสูรก้าวถึงตัว กลุ่มคนทั้งหมดก็วาปเคลื่อนย้ายหายไปท่ามกลางสายตาผู้เล่นนับหมื่นอย่างไม่เหลือร่องรอย
ไม่เหลือแม้แต่เงาของเด็กสาวผู้กุมผลชนะในกิจกรรมประจำปีของเทศกาลหน้ากากดิเนเวียร์ที่พวกเขาต้องการตัว
กลุ่มสมาชิกเงาอสูรพาเธอเคลื่อนย้ายมายังปราสาทที่ทำการลับของสมาคม ซึ่งเป็นฐานมั่นที่ก่อตั้งขึ้นโดยการซื้อบ้านและที่ดินผ่านธนาคารและระบุเงื่อนไขให้ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ นอกเหนือจากนี้ยังเชื่อมต่อกับสำนักงานของสมาคมบนทวีปหลักที่ตั้งไว้เพื่อรับงานบังหน้า
มีสมาชิกจำนวนเกินกว่าครึ่งรออยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่เธอปรากฏตัว คนอื่นที่เหลือก็ลดเสียงเอะอะลง
ทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียว
สมาชิกทั้งเจ็ดที่วาปมาพร้อมกันจากเมืองควอร์นเริ่มแยกย้ายนั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดไว้ในห้อง
ซีแนลสังเกตเห็นว่าผู้เล่นทั้งหมดราวสิบกว่าคนที่อยู่ภายในห้องโถงของปราสาทหลังนี้ล้วนแต่งกายธรรมดาและไม่ได้ปกปิดใบหน้า รวมถึงสมาชิกเจ็ดคนที่มาพร้อมเธอด้วย เมื่อมาถึงพวกเขาต่างออกคำสั่งเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดแฟนซีธรรมดาทันที
หลายคนเหลือบมามองเธอแล้วแกล้งหยิบอะไรมาขึ้นดู บ้างก็แกล้งทำโน่นทำนี่ บ้างก็ยืนพิงผนังและขอบหน้าต่าง ทุกคนล้วนแต่รักษาระยะห่างจากเธออย่างระมัดระวัง แต่ทว่าแววตากลับทอประกายระยับด้วยความตื่นเต้นยินดีและเต็มไปด้วยอยากรู้อยากเห็นแทบทั้งสิ้น
“ซีแนลคือสมาชิกคนใหม่ของสมาคมทุกคนรู้กันแล้วนะ” พี่เคนที่ยืนอยู่ใกล้เธอกล่าวบอกสมาชิกในห้องโถงแบบผ่านๆ โดยวางมือข้างหนึ่งบนไหล่เธอแล้วบีบเบาๆ ยิ้มกว้างให้กำลังใจ
ซีแนลรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อยที่ไม่ต้องรับกับสภาวะบีบบังคับกดดัน เธอผ่อนลมหายใจเบาๆ แล้วตัดสินใจนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใกล้ๆ กับนางมารทอผ้าซึ่งเป็นสมาชิกผู้หญิงคนเดียวของสมาคม
กระทั่งคนผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นดวงตาของเธอจึงเบิกกว้างอย่างตกตะลึง
แม้ว่าสีผมของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงทึบจนเกือบดำและยาวสยายถึงกลางหลัง อีกทั้งรูปหน้ายังดูเปลี่ยนไปเพราะไม่ได้สวมแว่นตา แต่เธอก็ไม่มีทางที่จำจะผิด เพราะว่าเขาคือพี่ชายคนโตของเธอ
พี่ไค!
พี่ไคที่แต่งกายอยู่ในชุดผู้เล่นระดับกลางๆ และดูธรรมดาปรากฏตัวขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างสว่างไสวขณะเดินเข้ามาหาเธอ
“ให้ตายเถอะ แกเห็นมั้ยวะนั่น! หัวหน้ายิ้มว่ะ” เสียงของสมาชิกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะทำหน้าตาราวเห็นผี
“เฮ้ย! จริงด้วย ฉันเองก็เพิ่งเคยเห็น” อีกคนทำหน้าเหวอตกตะลึง
“ดูท่าฝนจะตกตอนเที่ยงคืนกลางฤดูร้อนซะแล้ว” สมาชิกคนหนึ่งกระซิบคราง
“มันต้องเป็นลางบอกเหตุเลวร้ายแน่ๆ” อีกคนกระซิบเสียงออกความเห็น
“นั่นสิ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหัวหน้าเจ้าคนใจดำที่ใช้งานพวกเราเยี่ยงทาสเนี่ยนะจะยิ้ม?”
“บ้าไปแล้วแน่ๆ”
“ต้องกินอะไรผิดสำแดงมาชัวร์”
“โดนทักษะแปลกๆ อะไรมาก่อนล่วงหน้าหรือเปล่า”
“ข้าว่าเผลอๆ อาจโดนใครสาป...”
“...”
ฯลฯ
...
..
.
พี่ไคไม่ได้สนใจเสียงนินทาผ่าซากระยะประชิดหูที่สมาชิกคนอื่นส่งเสียงวิจารณ์กันอย่างสนุกปากราวกับเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเคยชิน
อีกฝ่ายยกมือขึ้นยีหัวและโยกหัวเธอไปมาเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“กว่าจะมาพบหน้าพี่ได้เล่นใช้เวลานานเลยนะเรา”
ซีแนลคลี่ยิ้มแล้วทำหน้ายู่ใส่อีกฝ่ายด้วยท่าทางน่ารักน่าชัง
“แล้วนี่ไปเจออะไรมาบ้างล่ะ ถึงได้เล่นแผลงฤทธิ์ซะจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต”
แต่แทนที่จะตอบคำถาม เธอกลับเอียงหน้าป้องมือกระซิบถามอีกฝ่ายเสียเอง
“พี่ไค นี่พี่เป็นถึงหัวหน้าสมาคมเงาอสูรเชียวเหรอ” เธอกระซิบถามด้วยความสงสัยตั้งแต่ได้ยินคนอื่นๆ นินทาเขาแล้ว
เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าว่าใช่ เธอจึงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยต่อว่าทันที
“ทำไมพี่ไม่เห็นบอกซีเลย พี่เคนก็ด้วย”
“ก็เราไม่ได้ถามพี่เองนี่ อีกอย่างหัวหน้าสมาคมต้องทำตัวลึกลับ ปลอมตัวตลอดเวลารู้ไหม”
โธ่ พี่ไคก็มาแนวนี้ทุกที ชอบเปลี่ยนเรื่องให้เธอกลายเป็นคนผิดเพื่อที่จะหาข้ออ้างต่อไม่ได้ แล้วไอ้ที่ว่าปลอมตัวตลอดเวลานี่หมายถึงการใส่ชุดผู้เล่นพื้นๆ ที่ดูธรรมดานี่ด้วยเหรอ
ช่างเถอะ เรื่องนั้นไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญคือตอนนี้สีหน้าทุกคนกระเหี้ยนกระหือรืออยากเอ่ยถามข้อสงสัยจากเธอจนแทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่นั่นต่างหาก
“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนมากันพร้อมหน้าอย่างนี้ก็ดีแล้ว จะได้แนะนำตัวกันทีเดียว นี่คือซีแนลสมาชิกใหม่ของเรา น้องสาวของฉันกับคาเธอร์ เพราะงั้นพวกนายห้ามแตะ ห้ามตอแยให้เธอรำคาญเด็ดขาด”
“โห~”
พอคนอื่นได้ฟังพี่ไคว่าแบบนั้นก็พากันโห่โบกไม้โบกมืออย่างไม่ชอบใจราวกับเป็นเด็กๆ
ซีแนลรู้สึกขบขันและผ่อนคลายจากความตึงเครียดจนลืมความรู้สึกแย่จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นเธอจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วสมาชิกทั้งหมดภายในสมาคมทั้งสิบห้าคนล้วนแต่สนิทสนมกันมาก เกินกว่าครึ่งเคยรู้จักกันตั้งแต่เริ่มเล่นทดสอบเบต้าเปิดตัวเกมใหม่ๆ เมื่อหกปีก่อน ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือก็ล้วนแต่เป็นคนสนิทที่สามารถชื่อใจกันได้ รู้แม้กระทั่งตัวจริงในโลกจริงว่าอายุเท่าไร่ทำอะไร เนื่องจากทุกคนล้วนแต่ผ่านเรื่องราวในเกมมาด้วยกันและเคยนัดเจอกันในโลกจริงมาแล้ว จึงทำให้รู้สึกสนิทสนมเหมือนคนในครอบครัว
|
รายชื่อสมาชิก |
ในเกม |
ภายนอกเกม |
1. |
ไคเรียน |
นักวางแผน |
อายุ 27 ผู้บริหารบริษัทเครือข่ายIT |
2. |
ลิงเผือก |
มือสังหารแห่งความมืด |
อายุ 24 นักศึกษาปริญญาโท |
3. |
ควิลล์ |
จอมเวทมายา |
อายุ 22 นักศึกษา |
4. |
คาเธอร์ |
นินจาผู้สาบสูญ |
อายุ 23 พนักงานบริษัทเครือข่ายIT |
5. |
ซอร์ราฟีน |
นักสร้างอาวุธ |
อายุ 24 โปรแกรมเมอร์อิสระ |
6. |
ทีออส |
นักล่ารางวัล |
อายุ 24 โปรแกรมเมอร์อิสระ |
7. |
เซิร์ก |
จอมโจร |
อายุ 25 นักเล่นเกมอาชีพ |
8. |
หมาป่า |
ทหารรับจ้าง |
อายุ 26 นักเล่มเกมอาชีพ |
9. |
ซีซ่าร์ที่สาม |
นักดาบสิบสามเล่ม |
อายุ 27 นักเล่มเกมอาชีพ |
10. |
รัชทายาทลี |
มือวางระเบิด |
อายุ 26 นายแพทย์เฉพาะทางด้านสมอง |
11. |
หยงเล่อ |
จอมยุทธ์ |
อายุ 28 เจ้าของสำนักดาบ |
12. |
ซุ่มเงียบ |
นักฆ่า |
อายุ 30 เจ้าของร้านขนมปัง |
13. |
แยกไฟล์ |
นักแกะรอย |
อายุ 21 โปรแกรมเมอร์อัจฉริยะ |
14. |
ปกรณ์ |
นักรบดำ |
อายุ 21 นักศึกษา |
15. |
มะลิ (นางมารทอผ้า) |
ช่างตัดเย็บ |
อายุ 21 นักศึกษา |
16. |
ซีแนล เฟลคอน |
ช่างซ่อมตุ๊กตา |
อายุ 21 นักศึกษา |
เนื่องจากเกมนี้กำหนดให้ผู้เล่นอายุตั้งแต่สิบห้าปีขึ้นไปเล่นเกมได้ และสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างตัวละครให้ออกมาสวยเฉียบและหล่อเท่บาดใจเกินความเป็นจริงถึง 30% ทั้งความอ้วนและความสูงล้วนแต่สามารถปรับได้ทั้งสิ้น อีกทั้งยังอนุญาตให้ผู้เล่นที่อายุยี่สิบห้าปีขึ้นไปลดอายุลงได้ถึงสิบปีด้วยกัน จึงทำให้รูปร่างหน้าตาตัวละครภายในเกมและนอกเกมมีวัยที่ดูต่างกันออกไป
ที่สำคัญกลุ่มคนในสมาคมเมื่อเข้ามาอยู่ภายในเกมแล้วจะวางตัวเท่าเทียมกันโดยไม่คำนึงถึงอายุ มีความรักใคร่สนิทสนมกันเหมือนพี่เหมือนน้อง และจัดระดับความเก่งกาจตามความสามารถที่ลดหลั่นกันโดยแบ่งอันดับตามหมายเลขห้องพักในปราสาท แน่นอนว่าย่อมมีการโต้งเถียงและเกิดคู่แข่งกันขึ้น ซึ่งเป็นเหตุให้ปราสาทของสมาคมไม่เคยเงียบแม้แต่วันเดียว
หลังจากท่องจำรายชื่อและรายละเอียดของทุกคนได้จนหมด ซีแนลก็พบว่าทุกคนต่างมองเธอด้วยแววตาปลาบปลื้มเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะหย่งเล่อ สมาชิกอันดับสิบเอ็ดของสมาคมเรียกร้องให้เธอปลดผนึกอีดาน สัตว์เลี้ยงระดับราชาเผ่าพันธุ์ยมทูตออกมาให้ดู เนื่องจากก่อนหน้านี้เธอได้สั่งผนึกอีดานก่อนจะทำการเคลื่อนย้าย
ซีแนลสั่งปลดผนึกอีดานอีกครั้งหนึ่ง
เสียงของสมาชิกเกินกว่าครึ่งที่ยังไม่เคยเห็นอีดานชัดๆ อย่างใกล้ๆ ถึงกับร้องโอ้โห บางคนถึงกับผลักเบียดดันแย่งกันเข้าไปเดินวนรอบเพื่อสำรวจดูเหมือนเด็กๆ
ซีแนลแอบหัวเราะขำคิกๆ ในใจเมื่อพบว่าอีดานแอบหน้าซีดเล็กๆ เมื่อพบเข้ากับแววตาเป็นประกายวาบถูกใจคล้ายนึกเรื่องพิเรนบางอย่างของสมาชิกมากกว่าสองคน คาดว่าหนึ่งในนั้นคงอยากเอาอีดานไปประมูลเก็บเงินค่าเข้าดูแน่ๆ
แต่แล้วเมื่อสมาชิกคนหนึ่งได้รับข้อความติดต่อจากผู้ลึกลับบางคน ทันทีที่เขาตัดสินใจเอ่ยบอกทุกคนถึงข้อความที่ส่งมาถึง ก็ทำให้ห้องที่เต็มไปด้วยความครื้นเครงพลันเงียบกริบลงทันที
“ยมทูตล่าวิญญาณติดต่อมา” เซิร์กซึ่งเป็นผู้ได้รับการติดต่อกล่าวขึ้นเบาๆ
“หมอนั่นต้องการอะไร” พี่ไคเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทว่าประกายนัยน์ตาเย็นเฉียบ
“คือ...” เซิร์กเหลือบตามามองเธอครั้งหนึ่งก่อนเอ่ยปากพูดถึงข้อความดังกล่าว
“เขาต้องการข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์อสูรโบราณทั้งหมดตามที่เคยตกลงกันไว้”
หลังจากสิ้นเสียง สมาชิกสมาคมเงาอสูรทั้งหมดก็เต็มไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ซีแนลขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่ารายชื่อของคนผู้นี้อยู่ในทำเนียบอาชีพลับอันดับแปดของเกม ด้วยสถานะปกปิดข้อมูลเป็นความลับจึงทำให้ไม่ทราบว่าเขามีอาชีพอะไร แต่ก็พอคาดเดาได้ว่าต้องจัดเป็นผู้เล่นที่เก่งกาจมากคนหนึ่งทีเดียว เพราะไม่เช่นนั้นสีหน้าของทุกคนคงไม่แสดงถึงความยุ่งยากใจเช่นนี้
“หมอนั่นเอาจริงและไม่รามือง่ายๆ แน่” ใครบางคนถึงกับสบถขึ้นด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
“เฮอะ ไม่ใช่แค่หมอนั่นหรอกที่ติดต่อมา ขอบอกไว้เลยว่าไอ้พวกสมาคมและพวกหัวหน้ากิลงี่เง่าทั้งหลายก็ติดต่อมาจนสายไม่ว่างพอกันนั่นแหละ” นางมารทอผ้าว่าด้วยท่าทางคร้านจะใส่ใจ
นี่คงหมายถึงเรื่องของเธอสินะ
เธอเดาได้ว่าผู้เล่นภายในเกมคงต้องการรู้ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเธออย่างแน่นอน ส่วนมากคงไม่พ้นเรื่องสัตว์อสูรบรรพกาลและอีดานสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ยมทูต รวมถึงราลูเลียที่สยบสัตว์อสูรไปหลายตัวและเป็นผู้ทำพันธสัญญานั่นอีก
“หากทุกคนในห้องอยากทราบข้อมูลอะไรก็ถามมาได้เลย” ซีแนลกล่าวอย่างเปิดใจ
ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอคิดว่าตัวเองไม่มีทางหนีความจริงได้ตลอด
ที่สำคัญเธอไม่สามารถหลบอยู่ภายใต้เงาของสมาคมเงาอสูรได้ตลอดไป
หลังจากเกิดเหตุการณ์ในเทศกาลเมืองควอร์นชื่อเสียงของเธอก็กลายเป็นที่รู้จัก และเธอก็ไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับการถูกรุมทึ้งจากผู้เล่นเกือบทั้งเกมด้วยความสงสัย
มนุษย์นั้นเมื่อเกิดความต้องการครอบครองสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้ว ก็มักจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้ได้สิ่งนั้น โดยเฉพาะความอยากรู้อยากเห็นที่จุดประกายและเปลี่ยนให้คนเกิดความโลภ
ต่อให้สมาคมเงาอสูรจะแข็งแกร่งเหยียดฟ้าไม่กลัวดินเช่นไร แต่หากถูกบีบจากทุกทาง ทั้งในแบบเปิดเผยและเล่นไม่ซื่อ สักวันหนึ่งก็จะต้องพลาด
ซีแนลเหลือบตามองพี่ชายทั้งสองที่แสดงสีหน้าลำบากใจกับการเปิดโอกาสให้คนอื่นขุดคุ้ยเรื่องที่สงสัย
ชั่วขณะนี้เอง เธอตัดสินใจได้ว่าไม่ต้องการให้ใครมาปกป้อง และหากคิดจะเล่นเกมนี้ต่อไป เธอต้องแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อไว้ให้จบ
ที่สำคัญต้องไม่ให้กระทบกระเทือนถึงพี่ชายคนสำคัญของเธอด้วย
“ได้หรือ?” ทุกคนในห้องโถงกล่าวเป็นเสียงเดียวกันด้วยความรู้สึกเกรงอกเกรงใจ เนื่องจากข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่นมักจะเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยให้ผู้เล่นคนอื่นทราบ
“ค่ะ” เธอพยักหน้า
“อย่างนั้นซีแนลพอจะบอกพวกเราได้ไหมว่าได้สัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ยมทูตมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ยังไง?” ดูเหมือนว่าน้ำเสียงกระตือรือร้นนี้จะเป็นของทีออสที่ดูจะคลั้งไคล้ปลาบปลื้มอีดานแบบสุดๆ
“เดี๋ยวสิให้ฉันถามก่อน! ซีแนลเดินทางไปดินแดนนรกด้วยวีธีไหนเหรอ?” นี่ก็เป็นอีกคำถามหนึ่งที่ผู้เล่นภายในเกมพยายามค้นหา เนื่องจากมีเบาะแสเล็กๆ หลุดออกมาว่ามีผู้เล่นสองถึงสามคนเคยไปเยือนดินแดนนรกมาแล้ว
“ไม่นะเรื่องของฉันสำคัญกว่า! ซีแนลช่วยบอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เทพอสูรบรรพกาลให้ฟังได้ไหม ว่าได้ข้อมูลหรือเคยพบมันที่ไหน?”
“เดี๋ยวสิ! ฉันเองก็อยากถามเหมือนกันนะว่าผู้ชายรูปหล่อผมสีเงินหม่นนั่นเป็นใคร!!!” คราวนี้เป็นน้ำเสียงแผดจ้าของนางมารทอผ้าที่ดังกลบคนอื่นๆ จนทุกคนหันขวับไปมองคุณเธอเป็นตาเดียวกันหมด
“อุ้ยลืมตัว แหะๆ”
คุณเธอว่าแล้วยกมือขึ้นปิดปากพลางทำท่าเหนียมอายซึ่งดูอย่างไรก็รู้ว่าเสแสร้งสุดๆ
“พวกนายพอที หุบปากให้หมด! ไปนั่งประจำที่ตัวเองเลย รัชทายาทลีนายอย่ามาทำเนียนเอามือออกจากบ่าน้องฉันเดี๋ยวนี้เลย!”
คาเธอร์ตวาดดังก้องแล้วกันเธอออกมานั่งห่างจากคนอื่นด้วยใบหน้าหงุดหงิดพร้อมด้วยท่าทางปกป้องแบบเวอร์สุดๆ จนซีแนลแอบได้ยินใครบางคนหลุดเสียงบ่นกระซิบด้วยความหมั่นไส้ หนอย ไอ้คนหวงน้อง~ มันฟังดูตลกจนแทบกลั้นยิ้มไว้แทบไม่อยู่
“เอาล่ะค่ะทุกคนใจเย็นๆ เดี๋ยวซีจะตอบคำถามทุกคนไปทีละข้อ” เธอว่า
“ว้าว น้องนายนี่สุดยอด บอกว่าจะตอบคำถามเราหมดแบบไม่กั๊กด้วยว่ะ”
ซอร์ราฟีนผู้มีนิสัยโผงผางใจร้อนมองเธอด้วยสายตานับถือจนทีออสคู่หูคู่กัดยกมือตบหัวอีกฝ่ายดังป๊าบด้วยความหมั่นไส้ และก่อนที่สองคนนั้นจะเริ่มทะเลาะกันซีแนลก็เอ่ยแทรกขึ้นด้วยสีหน้าเรียบๆ
“อย่างแรกที่ซีจะบอกทุกคนคือเรื่องของอีดาน” เมื่อเธอเริ่มพูดทุกคนในห้องก็เงียบและตั้งใจฟัง
“เดิมทีซีได้ภารกิจค้นหาจิตวิญญาณอาวุธ...”
พูดไม่ทันจบเสียงทุกคนในห้องก็ผุดร้องขึ้นด้วยความตกใจ
“ภารกิจจิตวิญญาณอาวุธ!!”
“ถือครองจิตวิญญาณอาวุธเหมือนควิลล์เลย!”
ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจจนเธอเองต้องหันไปมองเด็กหนุ่มที่ถูกเอ่ยชื่อ อีกฝ่ายเป็นเด็กหนุ่มวัยยี่สิบนิดๆ ดูเก็บตัวเงียบ ไม่พูดไม่จาและมีสีหน้าเย็นชาห่างเหินตลอดเวลา แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความเก่งกาจอันดับสามของสมาคม
อีกฝ่ายพยักหน้าให้เธอนิดๆ คล้ายทักทายแล้วสะบัดมือไปข้างลำตัวครั้งหนึ่งก็ปรากฏจอมเวทหนุ่มผมสีส้มยาวสยายถึงพื้นแต่งกายด้วยชุดจอมเวทโบราณและสวมเครื่องประดับหรามากมายแบบครบสูตร พอสะบัดมืออีกครั้งหนึ่งจอมเวทผู้นั้นก็หายไป
ซีแนลมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตกตะลึงจนต้องสูดลมหายใจเข้าครั้งหนึ่งขณะที่พลันนึกถึงจิตวิญญาณหลักร่างหลักของพี่หมีผู้ซึ่งมีจิตใจดำมืด
“ซีแนลมีอาวุธจิตวิญญาณด้วยเหรอสุดยอด ไหนช่วยโชว์ให้ดูหน่อยได้หรือเปล่า ส่วนของควิลล์น่ะพวกเราเห็นจนเบื่อแล้ว หมอนั่นเป็นจอมเวทอัจฉริยะที่ร่ายเวทในใจโดยไม่ต้องพึ่งพาอาวุธ และผนึกจิตวิญญาณอาวุธไว้ในตัว แต่ก็งั้นๆ จิตวิญญาณของหมอนั่นถึงหล่อแค่ไหนแต่ก็นิสัยเย็นชาเป็นน้ำแข็งไม่พูดไม่จาเหมือนเจ้าของไม่มีผิด เอ๊ะ...เดี๋ยวก่อนนะ! หรือว่าชายปริศนาผมสีเงินหม่นที่หล่อลากไส้และปรากฏตัวขึ้นตอนนั้นจะเป็น...” นางมารทอผ้าที่หัวไวกว่าใครเพื่อนมองเธอแล้วอ้าปากค้าง
ซีแนลพยักหน้าพร้อมๆ กับทุกคนที่ครางฮือด้วยความทึ่งและมองเธอด้วยความอึ้งมากกว่าเดิม
แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้เล่นเพียงคนเดียวในเกมที่ถือครองจิตวิญญาณอาวุธ แต่คาดการณ์จากสีหน้าทุกคนก็เดาได้ว่าวิธีการค้นหาเพื่อให้ได้มันมาไม่ใช่เรื่องง่ายแน่
หลังจากอธิบายถึงรายละเอียดความสามารถของอาวุธและจิตวิญญาณที่ถูกผนึกให้ทุกคนฟัง สีหน้าทุกคนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเห็นใจเธอทันที
“ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะเนี่ย จากที่ฟังอาชีพช่างซ่อมตุ๊กตานี่ลำบากเอาเรื่องแฮะ ถ้ายังไงพี่แนะนำว่าซีลองไปหาเอ็นพีซีประจำอาชีพดูเผื่อรู้วิธีแก้ปัญหา ส่วนมากคนที่ได้อาชีพลับก็เรียนทักษะพิเศษจากเอ็นพีซีลับของตัวเองกันทั้งนั้น ใช่มั้ยลิงเผือก” พี่เคนเอ่ยแนะนำพร้อมกับหันไปขอความเห็นจากลิงเผือกผู้ซึ่งมีบรรยากาศเย็นยะเยือกรายล้อมรอบตัวและเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้อาชีพลับอีกคนของสมาคม
ฝ่ายนั้นพยักหน้าเบาๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
“ความจริงแล้วไอ้อาชีพลับเนี่ยมันสร้างขึ้นมาเพื่อทรมานผู้เล่นชัดๆ ดูอย่างฉันสิกว่าจะเรียนทักษะได้สำเร็จสักอย่างก็ต้องเจอภารกิจทับซ้อนบ้าบอโน่นนี่ยาวเป็นหางว่าว”
“แล้วใครใช้ให้นายเน้นทักษะของอาชีพนินจาอย่างเดียวกันฮะ ไอ้มือสังหารแห่งความมืดเนี่ยมันประยุกต์เรียนทักษะลอบฆ่าได้ตั้งหลายอย่างโดยที่ไม่ต้องใช้อาวุธ เมื่อไหร่จะเลิกคลั่งไคล้ไอ้อาชีพนิจานั่นสักที!! รู้บ้างมั้ยเนี่ยว่าเปลืองเงินทำดาวกระจายแค่ไหน!!! ” ว่าแล้วนางมารทอผ้าผู้ดูแลเรื่องการคลังของสมาคมก็แผดเสียงจ้าและสะบัดหน้าใส่คนถูกว่าด้วยความไม่พอใจ
ตอนแรกก็คล้ายจะเป็นคำแนะนำอยู่ดีหรอก แต่พอกล่าวถึงประโยคสุดท้ายกลับจบลงที่ความงกของคุณเธอ
“พวกนายช่วยเงียบๆ หน่อย เลิกขัดไม่ได้รึไง ซีแนลพูดต่อเลย” หลายคนที่ตั้งใจฟังอยู่ส่งเสียงบ่นเพื่อเปิดโอกาสให้อธิบายต่อ
ซีแนลเล่าถึงข้อมูลและเหตุการณ์ที่พบเจอแบบคร่าวๆ ไม่เน้นลึก ส่วนมากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอีดานและราลูเลีย รวมถึงสัตว์อสูรบรรพกาลซึ่งทางระบบได้ระบุว่าผู้เล่นเคยพบเจอหรือได้รับภารกิจเกี่ยวข้องจนสามารถระบุตัวตนและอัญเชิญสัตว์เทพอสูรออกมาในรูปแบบภารกิจทับซ้อนเมื่อครั้งเทศกาลดิเนเวียร์
หลังจากได้ทราบว่าแท้จริงแล้วซิเรียสหรือสัตว์เทพอสูรบรรพกาลเป็นผู้รับใช้ที่ถูกผนึก สมาชิกทุกคนในสมาคมก็แสดงสีหน้าอึ้งก่อนจะเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดอย่างคิดไม่ตก
“นี่มันโชคดีสุดยอดเกินไปแล้ว แต่...เฮ้อ ฉันว่าโชคร้ายอยู่ดีนั่นแหละ” ใครคนหนึ่งออกความเห็น
“รับรองว่าแย่สุดๆ ไปเลย เชื่อเถอะฉันว่าใครๆ ก็อยากได้สัตว์เทพอสูรตัวนี้ไว้ใช้งาน” อีกคนเอ่ยขึ้นบ้าง
“ถ้ามีใครสักคนที่ไม่ใช่พวกเรารู้ ซีแนลไม่มีทางได้เล่นเกมเป็นสุขแน่ๆ มีหวังพวกนั้นต้องพยายามดึงตัวเธอไปใช้ทุกวิถีทาง”
“โดยเฉพาะเจ้าหมอนั่น! หมอนั่นควานหาสัตว์อสูรโบราณมานานเสียก่อนที่เราจะรู้และเชื่อว่ามันมีอยู่จริงๆ ในเกมนี้ซะอีก ฉันว่าสัตว์อสูรโบราณที่หมอนั่นจ้างวานให้พวกเราหาตั้งแต่เริ่มเปิดเกม ต้องเป็นตัวเดียวกับสัตว์อสูรบรรพกาลแน่ๆ ไม่อย่างนั้นมันไม่มีทางจะส่งข้อความมาเอาข้อมูลตามที่เคยตกลงไว้กันหรอก”
“แล้วถ้าหมอนั่นรู้ว่าเจ้าสัตว์อสูรบรรพกาลนั่นเป็นผู้รับใช้ของน้องนายละก็คาเธอร์เอ้ย คราวนี้ถ้าไม่จบที่น้องนายต้องเลิกเล่นเกม อย่างอื่นฉันก็คิดภาพไม่ออกแล้วว่ะ”
ขณะที่ซีแนลยังงุนงงอยู่ว่าพวกเขากำลังเอ่ยถึงใคร สมาชิกในสมาคมก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน
“ในฐานะที่เป็นผู้แกะรอยของสมาคม ฉันบอกไว้ตรงนี้เลยนะ ยมทูตล่าวิญญาณไม่ได้ฉายเดี่ยว ข่าวที่ฉันได้มาพบว่ามันซ่องสุมคนเก็บตัวเงียบไว้จำนวนมาก สมาชิกส่วนมากอยู่ในระดับเลเวลสูงและมีความสามารถพอๆ กับรองหัวหน้ากิลแทบทั้งนั้น ยิ่งกว่านั้นกำลังคนทั้งหมดเทียบได้กับรวมกิลใหญ่ๆ ทั้งสองอันดับของเกมไว้ด้วยกันเห็นจะได้ พวกมันเป็นนักเล่นเกมอาชีพแทบทั้งหมด และมันก็ติดตามเสาะหาข่าวเกี่ยวกับสัตว์อสูรโบราณตัวนี้ก่อนที่พวกเราจะรู้ซะอีก” แยกไฟล์เด็กหนุ่มผิวซีดตัวผอมบางเก้งก้างผู้รวบรวมข่าวสารของสมาคมกล่าวด้วยน้ำเสียงเครียดจัด
แม้จะไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามทราบถึงเบาะแสของสัตว์อสูรบรรพกาลโดยมีซีแนลซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมเงาอสูรคนหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายจะลงมือทำอะไรต่อ
แม้ว่าจะเล่นเกมนี้มานานและเคยฉะหน้าปะทะฝีมือกับพวกเล่นเกมอาชีพที่แฝงตัวเงียบอยู่บ้างเป็นบางคราว แต่อีกฝ่ายกลับเก็บตัวเงียบในเงามืดไม่ได้ออกมาแสดงตัวเผยศักดาหรือต้องการชื่อเสียงใดๆ ว่าสามารถต่อกรกับสมาคมเงาอสูรได้
สมาคมเงาอสูรเองก็ไม่ได้สนใจใยดีถึงจุดประสงค์ของพวกมันนัก เนื่องจากเป็นแค่ผู้ซื้อขายข่าวสารแค่เผินๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องลึกซึ้งและไม่ได้ขัดผลประโยชน์กัน
แต่ทว่าบัดนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว
ดูเหมือนว่าเส้นทางสองเส้นที่เหลื่อมล้ำได้ทับรอยกันอย่างไม่น่าเชื่อ
ตอนนี้สมาชิกเงาอสูรทั้งหมดทำได้แต่เพียงนิ่งเงียบและรอฟังคำสั่งจากหัวหน้าสมาคมผู้วางแผนและสั่งการอย่างทุกครั้ง ดูท่าว่าเรื่องคราวนี้คงจะไม่จบลงง่ายๆ แบบยื่นหมูยื่นแมว เนื่องจากตัวกลางดันเป็นน้องสาวคนเล็กของสมาคมของพวกเขาเสียนี่ สำหรับพวกเขาที่ทั้งรักและนับถือเหมือนพี่น้องกันมาอย่างยาวนาน การอยู่ร่วมกันและฝ่าฟันอุปสรรคหลายอย่างมาด้วยกัน น้องสาวของหัวหน้ากับคาเธอร์ก็เปรียบเหมือนน้องสาวในไส้ของตัวเองดีๆ นั่นเอง เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะไม่ปกป้องน้องเล็กของสมาคมได้หรือ
ก่อนหน้านี้ลง 40% 9.00น. 19/05/57 ยังลงไม่ครบจ้า พอดีเมื่อคืนคนแต่งกลับมาจากสนามถึงบ้านดึก เหนื่อยมากหลับลืมเพิ่งตื่นมาตี 3 เดี๋ยวที่เหลือจะค่อยๆ ลงให้วันนี้ ต้องขออภัยด้วยนะจ้าสำหรับคนที่รอ ปล.ไม่ว่าอย่างไรก็ขอบคุณมากๆๆๆ ที่ติดตาม
ความคิดเห็น