ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #5 : My angle

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 752
      3
      6 พ.ค. 48





    เมื่อจอมบังคับขับรถออกจากบ้าน คนถูกบังคับก็บ่นเบาๆ “จะบังคับกันไปถึงไหน”



    “ไม่ได้บังคับ แต่เป็นคำสั่ง อย่าลืมว่าเธอติดหนี้ฉันต้องทำตามที่ฉันสั่ง ...สิ่งของก็ต้องทำตามที่เจ้าของสั่งซิ” อุตส่าห์ได้ยินและอธิบายความอีก แต่ละคำนั่นช่างทิ่มแทงใจอีกฝ่ายเหลือเกิน คำก็สิ่งของสองคำก็สิ่งของ เห็นเธอเป็นอะไร คิดว่าไม่มีหัวใจรึไง...



    “.........” คุราปิก้านิ่งเงียบ เจ็บกับคำพูดเหล่านั้นเหลือเกิน



    หลังจากฝ่าการจราจรในตัวเมืองซักครู่รถก็เลี้ยวเข้าตัวบริษัท



    คุโรโร่ลากคุราปิก้าผ่านพนักงานหลายสิบคนเข้าไปในห้องทำงานของตน หลังจากหัวหน้าตัวเองผ่านไปก็มีเสียงซุบซิบดังกันขรม แต่จะมีใครละกล้าเข้าไปถาม ก็รู้ๆอยู่ว่าหัวหน้าคนนี้ดูซะขนาดไหน



    “นั่งอยู่ในห้องนี้ จนกว่าฉันจะเลิกงาน” ชายหนุ่มสั่ง



    คนถูกสั่งมองด้วยสายตาไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามอย่างเดียว หนี้! หนี้! หนี้! เธอทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยความโกรธ หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเต็มที่…คนใจร้าย!!



    “มาจิขอกาแฟของฉันที่นึง …เธอจะเอาอะไรมั้ย”



    คิดจะตบหัวแล้วลูบหลังกันรึไงนะ...



    “ไม่! ขอบคุณ” คุราปิก้ากระแทกเสียงขุ่น



    “อืม แค่นั้นละ บอกชาร์แนคเตรียมเอกสารการประชุมด้วยละ” เจ้านายสั่งลูกน้องเสร็จก็กดปิดอินเตอร์โฟน แล้วหยิบแฟ้มที่กองอยู่เต็มมาเปิดอ่าน



    นานพอควรที่คุโรโร่จมอยู่กับกองเอกสาร ได้เวลาต้องไปประชุมแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปหาคนที่พามาด้วย



    “อ้าว หลับซะแล้วหรอ” ชายหนุ่มถอดสูทตัวนอกของตัวเองคลุมร่างบางไว้ แอบจุ๊บหน้าผากทีนึงแล้วก็เดินออกไป



    จูบเธอทำไมเนี่ยะ..เกิดอะไรขึ้น!!



    การประชุมดำเนินไปอย่างเชื่องช้ากว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงเหมือนกัน



    “เฮ้อ...เย็นแล้วหรอ” บอสใหญ่ของบริษัทเหลือบมองออกไปนอกกระจกใสระหว่างทางเดิน

    บัดนี้ท้องฟ้าเบื้องนอกถูกย้อมเป็นสีส้มเข้ม สลับกับสีขาวจางๆของหมู่เมฆ  



    ชายหนุ่มมองท้องฟ้าแล้วไพล่คิดไปถึงคนที่อยู่ในห้องของตน



    เขารีบพาร่างสูงโปร่งของตัวเองกลับไปยังห้องทำงาน เคาะประตูเบาๆ ก่อนเปิดเข้าไป



    เฮ้อ...เมื่อไหร่จะเลิกเปิ่นซักทีนะ



    ภาพที่เห็นคือคนที่ถูกคิดถึงนั่งกองอยู่กับพื้น กำลังคลำแขนขาของตัวเองอยู่ คงสำรวจดูว่ามีส่วนไหนชำรุดบ้าง ถ้าเดาไม่ผิดคงกลิ้งตกลงมาจากโซฟา



    “หึ..หึ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆในลำคอ



    สาวน้อยหันมาค้อนดังขวับ ...อายเหมือนกันนะ...



    “หิวรึยัง” คุโรโร่ถาม



    จะตอบว่าไม่หิวซักหน่อย แต่ท้องเจ้ากรรมก็ดันทรยศเธอจนได้ ส่งเสียงออกมาซะดังเชียว



    “จัดการกับตัวเองซะ เดี๋ยวจะพาออกไปซื้อของ แล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน” ชายหนุ่มยังรักษาเส้นเสียงให้เข้มเหมือนเดิม



    คุราปิก้ายันตัวขึ้นเดินไปยังทางที่คิดว่าน่าจะเป็นห้องน้ำ ผมยาวสีทองงดงามนั่นยุ่งเหยิงดูไม่ได้เลย แต่มันก็เป็นภาพที่น่ารักโดนใจคนที่มองอยู่ไม่น้อย



    ซักพักคุณเธอก็ออกมาจากห้องน้ำ



    “ค่อยดูเป็นผู้เป็นคนหน่อย” คุโรโร่แกล้งกวน



    ‘อีตาบ้าเอ้ย!! ปากน่าต่อยจริงๆ’ เด็กสาวคิดในใจ



    คุโรโร่เดินนำหญิงสาวลงมาถึงที่จอดรถ พนักงานส่วนใหญ่เพิ่งจะเตรียมตัวกลับบ้าน พอเห็นเจ้านายและผู้หญิงคนเมื่อเช้าเดินผ่านมาต่างทักทายทำความเคารพ พวกสาวๆก็มีหันไปซุบซิบหัวเราะกันบ้าง จนคนเป็นหัวหน้าต้องทำตาดุใส่



    จนแล้วจนรอดทั้งสองก็มาถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่ง



    ชายหนุ่มเดินล้วงกระเป๋านำหน้าไปยังร้านขายเสื้อพาแบรนเนมชื่อดัง คุราปิก้าเงยมองชื่อร้าน

    แล้วก็ต้องถอนหายใจ เพราะรู้ดีว่าสินค้าภายในร้านแพงมาก



    “เชิญตามสบาย” คุโรโร่บอกพร้อมนั่งลงตรงที่เก้าอี้รับแขก



    จะเลือกตามสบายได้อย่างไรเล่า ก็เงินที่จะจ่ายไม่ใช่เงินตัวเองนี่นา หนี้ที่ค้างอยู่ไม่รู้ทั้งชีวิตจะใช้หมดรึเปล่า เกิดเอาค่าเสื้อผ้าไปบวกเพิ่มอีกมิซวยตายหรอ …



    “นี่ ไม่ต้องทำหน้าคิดมากขนาดนั้น ฉันไม่เอาค่าเสื้อผ้าไปบวกในค่าหนี้ของเธอหรอก” ชายหนุ่มพูดราวรู้ทันความคิดอีกฝ่าย



    “ขอบคุณ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณอย่างเสียไม่ได้



    “อ้าวววว! หนูคุราปิก้า ไม่มาซะนานเลยนะ เนี่ยะเสื้อผ้ามาใหม่เพียบเลย” เจ้าของร้านสาวหุ่นดีเข้ามาทักอย่างสนิทสนม



    คุราปิก้ายิ้มรับ แล้วก็ถูกจูงไปดูชุด



    ชายหนุ่มนั่งคอยจนน้ำหมดไปหลายแก้ว สรุปว่าได้มาหลายชุด



    พออกมาจากร้านเสื้อผ้า ทั้งสองก็เจอกับเด็กชายวัยประมาณห้าขวบล้มอยู่บนพื้น ร้องไห้อย่างหน้าสงสาร  คุราปิก้า วางถุงในมือลงรีบวิ่งเข้าไปประคองเด็กน้อยทันทีดู



    “หนูจ๋า ร้องไห้ทำไม”



    “ฮือ...ฮื.อ..ผมหลงกับมาม๊าครับ แล้วก็หกล้ม ครับ ฮึก...ฮึก” เด็กน้อยชี้ไปที่หัวเข่าตนเอง



    “โอ๋ อย่าร้องนะไหนพี่ขอดูแผลหน่อยซิซิ...” หญิงสาวก้มลงดูที่หัวเข่าเด็กน้อย เลือดสีแดงสดกำลังไหลซึมออกมา เธอจึงล้วงพาเช็ดหน้าออกมาซับเลือดให้



    “อย่าร้องนะจ๊ะ อย่าร้อง แผลเล็กนิดเดียวเอง เดี๋ยวพี่พาไปหามาม๊านะค่ะ”



    “ฮึก..ครับ” หนูน้อยยิ้มออกมาทันที



    คุราปิก้ายิ้มให้หนูน้อยอย่างอ่อนโยน แล้วก็จูงมือเล็กๆนั้นเดินมาหาชายหนุ่ม



    “คุณคุโรโร่ ฉันจะพาเค้าไปที่ประชาสัมพันธ์ ขอเวลาซักครู่นะค่ะ” หญิงสาวพยายามพูดให้ดีที่สุดเพราะกลัวอีกฝ่ายจะห้ามอีก แล้วถ้าโดนสั่งห้ามหนูน้อยคนนี้จะทำอย่างไร



    “อืมไปซิ ไปด้วยกันนี่แหละ” คุโรโร่พูดด้วยเสียงนุ่มอย่างลืมตัว ภาพที่หญิงสาวเข้าไปโอ๋หนูน้อยช่างน่าประทับใจเขานัก รอยยิ้มอ่อนโยนแบบนั้นเมื่อไหร่จะมีให้เขาบ้างนะ



    “ขอบคุณค่ะ” คุราปิก้าเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกันที่อีกฝ่ายตอบรับง่ายเเสนง่าย แต่ด้วยความเป็นห่วงเด็กมากกว่าจึงไม่ได้สนใจอะไรมาก



    “มาจ๊ะ ตามพี่มา” หญิงสาวทำท่าจะเดิน แต่ร่างเล็กของเด็กชายกลับลอยขึ้นไปอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่าย ส่วนมืออีกข้างของชายหนุ่มก็หิ้วถุงใส่เสื้อผ้าผ้าไว้



    .....เหมือน ครอบครัว พ่อแม่ลูกเลย....



    “ฉันถือเองค่ะ” คุราปิก้ารีบเข้าไปแย่งของมาถือไว้เอง แล้วก็เดินข้างๆเขา



    “หนูชื่ออะไรจ๊ะ” หญิงสาวเริ่มชวนคุย



    “ผมชื่อ นารุโตะครับ…แล้วพี่สาวกับพี่ชายละฮะ” เด็กน้อยก็ช่างเจรจา



    “พี่ชื่อ..คุราปิก้าจ๊ะ”



    “ฉัน...คุโรโร่”



    “พวกพี่เป็นแฟนกันหรือฮะ” เจ้าหนูถามด้วยท่าทางใสซื่อ  เล่นเอาหน้าของทั้งสองร้อนฉ่าดีว่าถึงประชาสัมพันธ์พอดี ถือว่ารอดตัวหวุดหวิด



    “นารุโตะ!!....” หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาเด็กชายแทบจะทันที “แม่เป็นห่วงแทบแย่แน่ะ...” หล่อนรับตัวลูกชายไปกอดไว้แนบอก



    “พี่สองคนนี้เค้าช่วยผมฮะ” นารุโตะชี้ไปที่ทั้งสอง



    “ขอบคุณพวกคุณมากนะคะ ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอลูกซะแล้ว ขอบคุณจริงๆค่ะ” คุณแม่ โค้งให้เป็นการใหญ่



    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” คุราปิก้าบอก เอามือลูบศีรษะเด็กอย่างเอ็นดู



    “ไปก่อนนะค่ะ ขอบคุณคุณทั้งสองคนอีกครั้งค่ะ”



    “พี่ครับ พี่ยังไม่ตอบผมเลยนะครับว่าพี่สองคนเป็นแฟนกันรึเปล่า” นารุโตะ หันมาถามทั้งๆที่อยู่ในอ้อมกอดคุณแม่ หน้าตาทะเล้นเชียว



    ทั้งสองหันมาก็เจอหน้ากันและกันพอดี ต้องรีบหันกลับเป็นพัลวัล ทำไมต้องเขินด้วยละ …



    เมื่อเจ้าหนูจอมแสบลับสายตาไป คุโรโร่ก็คว้าถุงจากหญิงสาวมาถือให้ ส่วนมือข้างที่เหลือก็เอื้อมไปจับมือของอีกฝ่ายไว้...หญิงสาวทำท่าจะสะบัดออกแต่เขากลับกระชับให้แน่นเป็นสัญญาณว่าไม่ปล่อยหรอก ...รู้สึกมีความสุขนะที่ได้จับมือกับเธอคนนี้…



    คุราปิก้าเองก็รู้สึกแปลกไม่น้อยกับสัมผัสนั้น มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน เหมือนมือของพ่อเลย จับแล้วสบายใจนะ... คงดีไม่น้อยถ้าได้เกาะกุมมือกันแบบนี้ตลอดไป...แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่ามือนั้นจะจริงใจหรือมีอะไรร้ายๆซ่อนอยู่อีก



    ทั้งสองเดินจับมือกันไปซื้อของใช้จำเป็นอีกหลายอย่าง เด็กสาวรู้สึกว่าตอนนี้คุโรโร่ช่างอ่อนโยนเสียจริงๆ ... ไม่ได้นะ!! ห้ามมองเค้าในแง่ดีเด็ดขาด ออกจะเจ้าเล่ห์คงมีแผนอะไรอีกแน่ๆ...





    ………..to BE con……….

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×