ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #17 : Return

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 664
      2
      27 พ.ค. 48

    เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวเเสบ 17



        แสงแดดละมุนยามเช้าทอทอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านเข้ามาทางหน้าต่างกระทบเรือนผมสีทองงดงามและใบหน้าน่ารักราวเทพธิดาแต่บัดนี้กลับซีดเซียวไร้สีเลือด ดวงแก้วสีชาเหม่อลอยมองไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย ทุกอย่างดูขาวโพลนไปหมดในครรลองสายตาคู่นั้น

        

    หลังเครื่องบินของ JAL บินลัดฟ้าจากสนามบินนาริตะสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ดูเหมือนว่าความรู้สึกทุกอย่างของหญิงสาวได้ถูกปล่อยให้ปลิวไปกับมวลเมฆและสายลมจนหมด ความหิวเป็นช่วงเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์ที่มันมิย่างกรายเข้ามาในหัวของเธอเลย ความง่วง ความอ่อนเพลียแม้จะมีเข้ามาบ้างแต่คราใดที่เปลือกตาหนากำลังจะปิดลง น้ำเสียงและเเววตาตัดขั้วหัวใจของบุคคลผู้นั้นก็ตามมาหลอนหลอกดุจภูติพรายวิญญาณร้าย



    กายเนื้อที่หัวใจแตกสลายไปแล้วจะประคองตัวให้มีชีวิตต่อไปได้อย่างไรเล่า ในเมื่ออยู่ไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา สู้ตายๆไปเสียไม่ดีกว่า



    ความคิดนี้แทรกซึมเข้ามาในสมองของคุราปิก้าตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ เธอจึงบรรจงจรดโลหะสีเงินแวววาวลงบนข้อมือขาว ออกแรงกดมันจนเห็นโลหิตสีแดงฉานไหลรินออกมา



    ชั่วระยะเวลาที่หญิงสาวนอนหายใจรวยรินรอคอยการมารับตัวไปของพญามัจจุราช เพื่อนข้างห้องของเธอก็ผลักประตูเข้ามา และพาเธอส่งโรงพยาบาลทันที นับว่ารอดมาได้อย่างหวุดหวิด มันเป็นความหวังดีของเพื่อนที่เธอจะไม่มีวันให้อภัย!!



    ก๊อกๆ!! … เสียงเคาะประตูเบาๆดังขึ้น คนป่วยที่มีสายน้ำเกลือระโยงระยางเอี้ยวตัวไปมองเห็นนางพยาบาลวัยกลางคนเดินยกถาดอาหารและยาเข้ามา



    “ต้องทานอาหารเยอะๆนะจ๊ะ จะได้หายไวไว” เธอสั่ง

    คุราปิก้ายิ้มรับและทิ้งตัวลงนอนตามเดิมปล่อยให้หล่อนออกไปเงียบๆ



    “ทำไมไม่ทานอาหารละครับ” เสียงทุ้มของบุรุษเพศดังขึ้น ทำเอาสาวน้อยต้องมุ่นคิ้วเพราะปกติหมอไม่พูดภาษาญี่ปุ่นนี่นา



    แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้คนป่วยยิ้มกว้าง คล้ายมีแสงสว่างอันอบอุ่นมาส่องอยู่ตรงหน้าก็มิปาน เพราะสิ่งที่เธอเห็นคือร่างสูงของชายหนุ่มนาม คุโรโร่ ลูซิเฟอร์!



    จู่ๆหญิงสาวก็ต้องหลับตาลง หุบยิ้ม หันหลังให้กับภาพนั้น  เขาจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร อย่าเพ้ออะไรลมๆแล้งๆเลยนะ…ไม่สบายจนถึงขึ้นเพ้อแบบนี้คงใกล้บ้าเต็มทนแล้ว …



    แต่ภาพที่หญิงสาวคิดว่าเป็นแค่มายาลวงตากลับลากเก้าอี้เข้าไปนั่งเผชิญหน้ากับคนป่วย

    ราวจะอ่านใจอีกฝ่ายออก ชายหนุ่มคว้ามือบางที่อ่อนแรงมาเกาะกุมไว้ด้วยสองมือของเขาก่อนจะจูบมันอย่างอ่อนโยนที่สุด “ฉัน…เองนะ…”



    คุราปิก้าลืมตาโพลงอย่างไม่เชื่อในรสสัมผัสและเสียงนุ่มๆนั้น เธอมองใบหน้าที่แสนจะรักใคร่และคิดถึงแถบขาดใจนิ่ง เทพเจ้าจะหลอกให้เธอดีใจจนที่สุดแล้วผลักเธอตกลงมากระแทกก้นเหวอย่างเจ็บปวดที่สุดหรือเปล่านะ!!



    หญิงสาวพยายามเอื้อมมือที่เหลืออยู่อีกข้างไปสัมผัสใบหน้านั้น แต่ภาพตรงหน้ากลับเลือนไป…เลือนไป..เรื่อยๆจนแทบจะมองไม่เห็นเพราะมีน้ำมาคลอหน่วงอยู่เต็มตาไปหมดแล้ว



    มือของหญิงสาวเอื้อมคว้าบุคคลตรงหน้าอย่างยากลำบากจนอีกฝ่ายต้องยื่นมือมาจับไว้เองและฉุดร่างนั้นขึ้นมาแนบไว้กับอกตัว เหมือนจะถ่ายทอดความอบอุ่นที่คนป่วยคนนี้ขาดมานานแสนนานให้อย่างไม่คิดจะหวง เจ้าของเรือนผมสีทองสะอื้นตัวโยนไม่ผิดกับเด็กๆ จนเจ้าของอ้อมกอดต้องลูบผมปลอบอย่างห่วงใย “..อย่าร้อง..เลยนะ…”



    ภาพคนสองคนกอดกันภายใต้แสงละมุนยามเช้าดำเนินไปอย่างเนิ่นนานราวเทพแห่งกาลเวลาจะเป็นใจ…ความอบอุ่นและละอองเเห่งความรักกระจายอยู่ทั่วไปหมดมันช่างหอมหวานเสียเหลือเกิน นกน้อยที่บินมาจากที่ใดไม่ทราบดั่งจะรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจึงชักชวนคู่ของมันมาเกาะขอบหน้าต่างและร้องเพลงขับขานให้กับทั้งคู่….



    “คุณ….ความทรงจำกลับมาแล้วหรอ..คุณจำฉันได้แล้วใช่มั้ย” คุราปิก้าเงยหน้าถามทั้งที่คราบน้ำตายังเปื้อนหน้า

    ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “เรียกว่าไงนะ!? …ฉันเคยบอกให้คุราปิก้าเรียกฉันว่าไง ลืมไปแล้วหรอ”

    “คิก..คิก..” หญิงสาวหัวเราะสดใส “คุโรโร่บอกให้ฉันเรียกว่าคุโรโร่..คุโรโร่..คุโรโร่..ไงละ ไม่มีวันลืมหรอก”

    “เก่งมาก แบบนี้ต้องให้รางวัล” คุโรโร่ดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอดอีกครั้งก่อนจุ๊บปากบางของเธอเบาๆ”

    “ขี้โกงอีกแล้ว” คนถูกขโมยจูบแหวใส่แบบไม่จริงจัง

    “ฮะ..ฮะ”

    “นี่…คุโรโร่”

    “หืม…มีอะไรจ๊ะ”

    “คุโรโร่…ความทรงจำกลับคืนมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “อืม…ไม่รู้สิ อยู่ๆมันก็จำได้เอง…”

    “หรอ…..”

    “อื้อ…ก่อนหน้านี้ฉันทำให้เธอเสียใจ…ขอโทษ ขอโทษจริงๆ” แววตาคู่นั้นเศร้าไป “ฉันทำร้ายคุราปิก้าจนต้องเจ็บปวดขนาดนี้…ถ้าเป็นอะไรไป ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง…ฉันมันเลวจริ.ง…ฉันมัน..” ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบมือของหญิงสาวก็ยกมาห้ามไว้เสียก่อน

    “อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะ..” คุราปิก้ายิ้มให้ “ยังไงๆตอนนี้ฉันก็มีคุโรโร่อยู่ข้างๆแล้ว..ตอนนี้ฉันมีความสุขที่สุดในโลกเลยละ..รู้รึเปล่า” หญิงสาวนิ่งไปด้วยความเขินที่ตัวเองพูดความในใจออกมา “ฉันเนี่ยะทำตัวเหมือนเด็กๆเลยนะ ทั้งๆที่คุโรโร่ออกจะเป็นผู้ใหญ่”

    “หาว่าฉันแก่หรอ!”

    “เปล่า….” หญิงสาวยกเสียงสูง “หมายความว่าดูเป็นผู้ใหญ่ต่างหาก..แต่หน้ายังอ่อนอยู่”

    “ยังไงๆฉันก็ยังไม่ถึงสามสิบซักหน่อย…หน้าย่อมอ่อนเป็นธรรมดา..ฮะฮ้า”

    “แหวะ หลงตัวเอง…”

    “ว่าไงนะ เดี๋ยวก็ทำโทษเสียนี่”

    “อย่าน๊าาาาาาา….คิกคิก” คนป่วยหัวเราะร่า

    “เลิกเล่นได้แล้ว เธอยังไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยใช่มั้ยเนี่ยะ”

    “อื้อ..คุโรโร่ป้อนให้หน่อยซิ”

    คำอ้อนของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มต้องมุ่นคิ้ว

    “ทำไมทำหน้าอย่างนั้นละ..จะไม่ป้อนคนป่วยหรอ”

    “ป้อนซิจ้า…ใครจะใจดำขนาดให้ภรรยาที่นอนป่วยของตัวเองต้องทานอาหารเองละ”

    “ใครเป็นภรรยานายไม่ทราบ?”

    “ไม่ใช่ภรรยา ก็ไม่ป้อน” ชายหนุ่มยกชามข้าวต้มไปวางที่เดิม

    “อ้า…ได้ไงอ๊ะ” คนถูกแกล้งร้องหน้างอ

    “อ่าว..ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ใช่หรอ” คุโรโร่ตีหน้าตาย “จะป้อนข้าวให้ทำไม”

    “เป็น…ก็ได้” คุราปิก้าเขินจนต้องมุดหน้าลงไปในผ้าห่ม

    “เป็นอะไร” ชายหนุ่มถามเสียงเข้ม

    “เป็น…ภรรยา” คนที่มุดหน้าในผ้าห่มตอบเสียงค่อย

    “ไม่ได้ยิน…พูดดังๆหน่อย”

    เงียบ ไม่มีเสียงลอดออกมาจากผ้าห่ม จนทำให้อีกฝ่ายต้องถามใหม่อีกครั้ง “เป็นอะไรนะ!!”

    “เป็น ภรรยา!!” คุราปิก้าตะโกนซะดังจนตัวเองใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด

    “ต้องอย่างนี้ซิ ถึงจะน่ารัก” คุโรโร่เข้าไปดึงผ้าห่มออกแล้วนั่งลงข้างคนป่วยจอมดื้อ

    “หิวแล้วนะ…ป้อนเร็วๆซิ”

    “คร้าบ บบบบ…..องค์หญิง”

    “ไม่ใช่องค์หญิง!!”

    “อ่าว..ทำไมละ” คุโรโร่ทำหน้างง “อ๋อ….ต้องให้เรียกว่าภรรยารึไงจ๊ะ”

    “ไม่รุ ไม่ชี้ กินดีกว่า ฮิฮิ”

    “ว้า……”

    แล้วภาพแห่งความสุขและเสียงหัวเราะอันสดใสก็ดังเล็ดลอดมาจากห้องตลอดเกือบจะทั้งวัน



    ……………To Be Connn…….



    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ เม้นๆกันหน่อยน๊า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×