ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : คนงี่เง่า
เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวแสบ 13
    หญิงสาวร่างบางเดินเข้ามาในห้องเธอถอดเสื้อคลุมสีน้ำตาลและหมวกออก เดินเข้าไปกดปุ่มฟังข้อความที่โทรศัพท์
    “อ๊ะ ข้อความของเลโอลีโอนี่นา” เธอพูดเบาๆ เมื่อเห็นเบอร์
    ..คุราปิก้า คุณมาจิกับคุณชาร์แนคบอกว่าคุณคุโรโร่รถชน ความจำเสื่อม อยากให้เธอกลับไปดูแล กลับมาแล้วโทรกลับมาหาฉันด้วยนะ ..
    “ ..ความจำ..เสื่อม ” คุราปิก้าทิ้งตัวลงที่โซฟาข้างๆ นั่งอึ้งอยู่นาน ถึงแม้จะทำใจให้ลืมเท่าไหร่แต่คนเคยรู้จักกันได้รับข่าวร้ายแบบนี้เป็นใครก็ต้องตกใจ
    เมื่อตั้งสติได้เธอจึงกดเบอร์โทรศัพท์ข้ามประเทศไปสู่เกาะญี่ปุ่น
    ติ๊ด ตี๊ด .
    “ว่าไงคุราจัง ” เลโอลีโอทักเสียงใสระหว่างนั่งอ่านหนังสือพิมพ์
    “เลโอลีโอ เรื่องที่นายฝากข้อความไว้ จริงรึเปล่า” คุราปิก้าถามช้าๆพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด
    “เรื่องคุณคุโรโร่หรอ จริงซิ ลูกน้องเค้าเพิ่งมาหาฉันเมื่อวานนี้เอง มาขอเบอร์ติดต่อเธอ
หนะแต่ฉันไม่ได้ให้ไปหรอก” ชายหนุ่มเสียงเครียดกว่าเดิม
    “อืม หรอ” หญิงสาวใจหายเหมือนกันกับคำตอบที่ได้รับ แต่ด้วยทิฐิที่มีกลับเป็นตัวสกัดความสงสารไว้ส่วนหนึ่ง
    “เธอจะกลับมามั้ย”
    “ไม่หรอก นายก็รู้ว่าฉันตัดสินใจจะทำงานอยู่ที่นี้” คุราปิก้าบอกเสียงล้าๆ
    “ไม่มาเยี่ยมคุณคุโรโร่หน่อยหรอ..”
    “ไปทำไมละ กลับไปเค้าก็จำฉันไม่ได้ แล้วฉันก็ไม่อยากเจอหน้าคนแบบนั้นด้วย”
    “คุราจัง .อย่าหลอกตัวเองน่า” เลโอลีโอรู้ดีว่าเพื่อนตัวเองคิดอย่างไร
    “ใครบอกว่าฉันหลอกตัวเอง.ถ้านายพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ ยังค้างงานแปลหนังสืออยู่เลย”
    “อะ..อืม ก็แล้วแต่นะ แต่ฉันอยากให้คุราจังคิดดูให้ดีดี”
    “จ้า ขอโทษที่พูดไม่ดีนะ ราตรีสวัสดิ์
    “ครับ”
    นักศึกษาแพทย์ขยับแว่นที่ร่นลงมาอยู่บนจมูกขึ้น เหม่อมองท้องฟ้ายามเช้าอย่างหนักอก ทำไมเพื่อนเขาช่างหัวรั้นแบบนี้ หลอกตัวเองไปก็มีแต่เจ็บปวดเปล่าๆ
   
    อีกฝากหนึ่งของดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงกลมๆ ใต้แสงดาวยามค่ำคืนของท้องฟ้าเมือง
บอสตัน คุราปิก้าซ่อนตัวอยู่ในห้องพักเธอซบหน้าลงบนหมอนแล้วปล่อยให้สายน้ำตาไหลออกมาช้าๆ ไม่มีแม้เสียงสะอื้นหรือคำพูดคร่ำครวญ มีเพียงความปวดใจและเสียใจ!
   
หญิงสาวตื่นมาตอนเช้าด้วยเสียงโทรศัพท์ที่ดังสนั่น
    “ฮัลโหล ” คุราปิก้ารับงัวเงีย
    “คุณคุราปิก้าหรอค่ะ นี่มาจินะค่ะ”
    “หืม!? คุณมาจิ”
    “ค่ะ . ฉันคาดคั้นเบอร์คุณมาจากเพื่อนคุณเองละค่ะ กลับมาเถอะนะค่ะ มาหาหัวหน้านะ หัวหน้าแย่แน่ๆถ้าไม่มีคุณ” ลูกน้องคนสวยพูดเสียงร้อนรนอย่างหน้าสงสาร
    “กลับ กลับไปแล้วได้อะไรค่ะ”
    “ช่วยกลับมาเรียกความทรงจำของหัวหน้าคืนทีนะค่ะ”
    “หมอก็คงช่วยได้มั้งค่ะ ไม่ต้องพึ่งฉัน”
    “โถ ทำไมพูดอย่างนั้นละค่ะ ไม่มีใครอีกแล้วนะค่ะนอกจากคุณ ถือว่าฉันกับชาร์แนคขอร้องนะค่ะ ป้ายูยะด้วย ทุกคนตั้งความหวังไว้กับคุณนะค่ะ”
    “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันคงไม่กลับไปญี่ปุ่นอีกแล้ว ที่นั่นไม่มีคนให้ฉันกลับไปหาอีกแล้วละ” คุราปิก้าทำลายความหวังของคนหลายคนง่ายนัก
    “!?” มาจินิ่งไปทันที
    “คุณไม่คิดถึงหัวหน้าหรือค่ะ ฉันไม่เชื่อว่าเวลาสามปีจะทำให้คุณลืมหัวหน้าได้หรอก”
    “ก็แค่คนรู้จักจะคิดถึงทำไมให้เสียเวลาค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะค่ะ” ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบคุราปิก้าชิงวางสายเสียก่อน
    คิดถึงหรอ คนที่ทำให้ฉันเสียใจ ฉันจำเป็นต้องคิดถึงหรอ .
    แม้จะบอกตัวเองแบบนั้น แต่วันนี้ทั้งวันคุราปิก้าไม่ได้เปิดรับบทเรียนเข้าสมองเลย เธอนั่งเหม่อจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงอาจารย์ถาม เดินไปไหนก็ชนคนอื่นวุ่นไปหมด
    “คุราปิก้า เธอเป็นอะไรรึเปล่า” เสียงเล็กๆของเพื่อนคนหนึ่งถามขึ้นขณะนั่งทำการบ้านที่หน้าตึกเรียน
    “หืม เปล่าหนิ สบายดี”
    “วันนี้ฉันว่าเธอดูเหม่อๆลอยๆชอบกลนะ มีอะไรรึเปล่า”
    “มะ มะ ไม่มีอะไรจริงๆจ้า” หญิงสาวปฏิเสธพัลวัน “ฉันขอตัวกลับก่อนนะ บายจ้า” คุราปิก้าคว้าเอกสารแล้วเดินจ้ำออกไปทันที วันนี้เธอท่าจะไม่ค่อยสบายจริงๆด้วย โรคโกหกตัวเองเรื้อรังทำพิษซะแล้วมั้ง
    ไม่ทันจะได้ก้าวเท้าเข้าห้องดี เสียงโทรศัพท์ตัวกวนก็ดังอีกแล้ว หญิงสาวถลาเข้าไปรับอย่างเร่งร้อน
    “ฮัลโหล”
    “ขอสายคุณคุราปิก้าครับ”
    “พูดอยู่ค่ะ”
    “อ้า ครับ!!  ผมชาร์แนคเองนะครับ”
    “ค่ะ มีอะไรรึเปล่า” ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าอีกฝ่ายโทรมาด้วยจุดประสงค์อะไรก็มิวายจะถาม
    “กลับมาเถอะครับ นะครับ หัวหน้ารอคุณอยู่”
    “ถ้าคุณพูดเรื่องนี้อีกฉันจะวางสายแล้วนะค่ะ” คุราปิก้าเปลี่ยนน้ำเสียง
    “อยะ..อย่าครับ!” ปลายสายรีบห้าม “คุณคุราปิก้ายังโกรธหัวหน้าอีกหรือครับ คุณรู้รึเปล่าว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาหัวหน้าทุกข์ใจแค่ไหน ทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง ดื่มเหล้าหนักเพื่อจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน แล้วก็ทุกครั้งที่ว่างจะไปนั่งรอคุณที่บ้านของคุณ .หัวหน้ารักคุณมากนะครับ”
    “ ” หญิงสาวเงียบไป รัก ไม่เห็นคุณเคยบอกฉันเลย .
    “กลับมานะครับ ช่วยกลับมาทีเถอะครับ แค่มาดูแลหัวหน้าซักพักหนึ่งก็พอ”
    “อืม ขอคิดดูก่อนนะค่ะ”
    “ไม่ต้องคิดแล้วครับ คนที่รักคุณรอคุณอยู่แบบนี้ คุณจะปล่อยให้เขารออีกนานแค่ไหนครับ อย่าทรมานหัวใจคนอื่นอีกเลยนะครับ”
    “ ” .ทรมานหัวใจหรอ ใครกันแน่! .
    “ว่าไงครับ..” ชาร์แนคเร่งเร้าคำตอบ
    “ .อาทิตย์หน้าฉันจะสอบวิชาสุดท้าย ถ้าว่างจะกลับไปนะค่ะ”
    “กลับมานะครับ คุณต้องกลับมา”
    “ไม่รับปากนะค่ะ ฉันต้องไปธุระข้างนอกแล้วละ แค่นี้ก่อนนะค่ะ” คุราปิก้าโกหกคำโตเพื่อหยุดการสนทนา
    “อ่า ครับ สวัสดีครับ”
    .ทั้งรักและทรมาน..มันฉันต่างหาก 3 ปีที่ผ่านมามีวันไหนบ้างที่ฉันไม่คิดถึงคุณ มีคืนไหนบ้างที่น้ำตาฉันไม่ไหลเมื่อนึกถึงสีหน้าคุณ แล้วมีชั่วลมหายใจไหนบ้างที่หัวใจฉันปฏิเสธว่าไม่รักคุณ คุโรโร่คุณมันงี่เง่า!! คนงี่เง่า!!
    To BE Con ..
เออ ไม่ได้เว้นบรรทัดโทษด้วยนะเจ้าค่ะ รีบๆ ช่วงนี้เปิดเทอมแล้ว ไม่ค่อยได้อัพ กะทำเกรดหน่อย แอดมิดชั่นมันทำพิษ
เปลี่ยนนามปากกาแล้วเน้อ ของเก่ามันยาวไปมีคนท้วงหนะ
ขอบคุณที่อ่านค่ะ จุ๊บๆ
    หญิงสาวร่างบางเดินเข้ามาในห้องเธอถอดเสื้อคลุมสีน้ำตาลและหมวกออก เดินเข้าไปกดปุ่มฟังข้อความที่โทรศัพท์
    “อ๊ะ ข้อความของเลโอลีโอนี่นา” เธอพูดเบาๆ เมื่อเห็นเบอร์
    ..คุราปิก้า คุณมาจิกับคุณชาร์แนคบอกว่าคุณคุโรโร่รถชน ความจำเสื่อม อยากให้เธอกลับไปดูแล กลับมาแล้วโทรกลับมาหาฉันด้วยนะ ..
    “ ..ความจำ..เสื่อม ” คุราปิก้าทิ้งตัวลงที่โซฟาข้างๆ นั่งอึ้งอยู่นาน ถึงแม้จะทำใจให้ลืมเท่าไหร่แต่คนเคยรู้จักกันได้รับข่าวร้ายแบบนี้เป็นใครก็ต้องตกใจ
    เมื่อตั้งสติได้เธอจึงกดเบอร์โทรศัพท์ข้ามประเทศไปสู่เกาะญี่ปุ่น
    ติ๊ด ตี๊ด .
    “ว่าไงคุราจัง ” เลโอลีโอทักเสียงใสระหว่างนั่งอ่านหนังสือพิมพ์
    “เลโอลีโอ เรื่องที่นายฝากข้อความไว้ จริงรึเปล่า” คุราปิก้าถามช้าๆพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด
    “เรื่องคุณคุโรโร่หรอ จริงซิ ลูกน้องเค้าเพิ่งมาหาฉันเมื่อวานนี้เอง มาขอเบอร์ติดต่อเธอ
หนะแต่ฉันไม่ได้ให้ไปหรอก” ชายหนุ่มเสียงเครียดกว่าเดิม
    “อืม หรอ” หญิงสาวใจหายเหมือนกันกับคำตอบที่ได้รับ แต่ด้วยทิฐิที่มีกลับเป็นตัวสกัดความสงสารไว้ส่วนหนึ่ง
    “เธอจะกลับมามั้ย”
    “ไม่หรอก นายก็รู้ว่าฉันตัดสินใจจะทำงานอยู่ที่นี้” คุราปิก้าบอกเสียงล้าๆ
    “ไม่มาเยี่ยมคุณคุโรโร่หน่อยหรอ..”
    “ไปทำไมละ กลับไปเค้าก็จำฉันไม่ได้ แล้วฉันก็ไม่อยากเจอหน้าคนแบบนั้นด้วย”
    “คุราจัง .อย่าหลอกตัวเองน่า” เลโอลีโอรู้ดีว่าเพื่อนตัวเองคิดอย่างไร
    “ใครบอกว่าฉันหลอกตัวเอง.ถ้านายพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ ยังค้างงานแปลหนังสืออยู่เลย”
    “อะ..อืม ก็แล้วแต่นะ แต่ฉันอยากให้คุราจังคิดดูให้ดีดี”
    “จ้า ขอโทษที่พูดไม่ดีนะ ราตรีสวัสดิ์
    “ครับ”
    นักศึกษาแพทย์ขยับแว่นที่ร่นลงมาอยู่บนจมูกขึ้น เหม่อมองท้องฟ้ายามเช้าอย่างหนักอก ทำไมเพื่อนเขาช่างหัวรั้นแบบนี้ หลอกตัวเองไปก็มีแต่เจ็บปวดเปล่าๆ
   
    อีกฝากหนึ่งของดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงกลมๆ ใต้แสงดาวยามค่ำคืนของท้องฟ้าเมือง
บอสตัน คุราปิก้าซ่อนตัวอยู่ในห้องพักเธอซบหน้าลงบนหมอนแล้วปล่อยให้สายน้ำตาไหลออกมาช้าๆ ไม่มีแม้เสียงสะอื้นหรือคำพูดคร่ำครวญ มีเพียงความปวดใจและเสียใจ!
   
หญิงสาวตื่นมาตอนเช้าด้วยเสียงโทรศัพท์ที่ดังสนั่น
    “ฮัลโหล ” คุราปิก้ารับงัวเงีย
    “คุณคุราปิก้าหรอค่ะ นี่มาจินะค่ะ”
    “หืม!? คุณมาจิ”
    “ค่ะ . ฉันคาดคั้นเบอร์คุณมาจากเพื่อนคุณเองละค่ะ กลับมาเถอะนะค่ะ มาหาหัวหน้านะ หัวหน้าแย่แน่ๆถ้าไม่มีคุณ” ลูกน้องคนสวยพูดเสียงร้อนรนอย่างหน้าสงสาร
    “กลับ กลับไปแล้วได้อะไรค่ะ”
    “ช่วยกลับมาเรียกความทรงจำของหัวหน้าคืนทีนะค่ะ”
    “หมอก็คงช่วยได้มั้งค่ะ ไม่ต้องพึ่งฉัน”
    “โถ ทำไมพูดอย่างนั้นละค่ะ ไม่มีใครอีกแล้วนะค่ะนอกจากคุณ ถือว่าฉันกับชาร์แนคขอร้องนะค่ะ ป้ายูยะด้วย ทุกคนตั้งความหวังไว้กับคุณนะค่ะ”
    “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันคงไม่กลับไปญี่ปุ่นอีกแล้ว ที่นั่นไม่มีคนให้ฉันกลับไปหาอีกแล้วละ” คุราปิก้าทำลายความหวังของคนหลายคนง่ายนัก
    “!?” มาจินิ่งไปทันที
    “คุณไม่คิดถึงหัวหน้าหรือค่ะ ฉันไม่เชื่อว่าเวลาสามปีจะทำให้คุณลืมหัวหน้าได้หรอก”
    “ก็แค่คนรู้จักจะคิดถึงทำไมให้เสียเวลาค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะค่ะ” ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบคุราปิก้าชิงวางสายเสียก่อน
    คิดถึงหรอ คนที่ทำให้ฉันเสียใจ ฉันจำเป็นต้องคิดถึงหรอ .
    แม้จะบอกตัวเองแบบนั้น แต่วันนี้ทั้งวันคุราปิก้าไม่ได้เปิดรับบทเรียนเข้าสมองเลย เธอนั่งเหม่อจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงอาจารย์ถาม เดินไปไหนก็ชนคนอื่นวุ่นไปหมด
    “คุราปิก้า เธอเป็นอะไรรึเปล่า” เสียงเล็กๆของเพื่อนคนหนึ่งถามขึ้นขณะนั่งทำการบ้านที่หน้าตึกเรียน
    “หืม เปล่าหนิ สบายดี”
    “วันนี้ฉันว่าเธอดูเหม่อๆลอยๆชอบกลนะ มีอะไรรึเปล่า”
    “มะ มะ ไม่มีอะไรจริงๆจ้า” หญิงสาวปฏิเสธพัลวัน “ฉันขอตัวกลับก่อนนะ บายจ้า” คุราปิก้าคว้าเอกสารแล้วเดินจ้ำออกไปทันที วันนี้เธอท่าจะไม่ค่อยสบายจริงๆด้วย โรคโกหกตัวเองเรื้อรังทำพิษซะแล้วมั้ง
    ไม่ทันจะได้ก้าวเท้าเข้าห้องดี เสียงโทรศัพท์ตัวกวนก็ดังอีกแล้ว หญิงสาวถลาเข้าไปรับอย่างเร่งร้อน
    “ฮัลโหล”
    “ขอสายคุณคุราปิก้าครับ”
    “พูดอยู่ค่ะ”
    “อ้า ครับ!!  ผมชาร์แนคเองนะครับ”
    “ค่ะ มีอะไรรึเปล่า” ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าอีกฝ่ายโทรมาด้วยจุดประสงค์อะไรก็มิวายจะถาม
    “กลับมาเถอะครับ นะครับ หัวหน้ารอคุณอยู่”
    “ถ้าคุณพูดเรื่องนี้อีกฉันจะวางสายแล้วนะค่ะ” คุราปิก้าเปลี่ยนน้ำเสียง
    “อยะ..อย่าครับ!” ปลายสายรีบห้าม “คุณคุราปิก้ายังโกรธหัวหน้าอีกหรือครับ คุณรู้รึเปล่าว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาหัวหน้าทุกข์ใจแค่ไหน ทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง ดื่มเหล้าหนักเพื่อจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน แล้วก็ทุกครั้งที่ว่างจะไปนั่งรอคุณที่บ้านของคุณ .หัวหน้ารักคุณมากนะครับ”
    “ ” หญิงสาวเงียบไป รัก ไม่เห็นคุณเคยบอกฉันเลย .
    “กลับมานะครับ ช่วยกลับมาทีเถอะครับ แค่มาดูแลหัวหน้าซักพักหนึ่งก็พอ”
    “อืม ขอคิดดูก่อนนะค่ะ”
    “ไม่ต้องคิดแล้วครับ คนที่รักคุณรอคุณอยู่แบบนี้ คุณจะปล่อยให้เขารออีกนานแค่ไหนครับ อย่าทรมานหัวใจคนอื่นอีกเลยนะครับ”
    “ ” .ทรมานหัวใจหรอ ใครกันแน่! .
    “ว่าไงครับ..” ชาร์แนคเร่งเร้าคำตอบ
    “ .อาทิตย์หน้าฉันจะสอบวิชาสุดท้าย ถ้าว่างจะกลับไปนะค่ะ”
    “กลับมานะครับ คุณต้องกลับมา”
    “ไม่รับปากนะค่ะ ฉันต้องไปธุระข้างนอกแล้วละ แค่นี้ก่อนนะค่ะ” คุราปิก้าโกหกคำโตเพื่อหยุดการสนทนา
    “อ่า ครับ สวัสดีครับ”
    .ทั้งรักและทรมาน..มันฉันต่างหาก 3 ปีที่ผ่านมามีวันไหนบ้างที่ฉันไม่คิดถึงคุณ มีคืนไหนบ้างที่น้ำตาฉันไม่ไหลเมื่อนึกถึงสีหน้าคุณ แล้วมีชั่วลมหายใจไหนบ้างที่หัวใจฉันปฏิเสธว่าไม่รักคุณ คุโรโร่คุณมันงี่เง่า!! คนงี่เง่า!!
    To BE Con ..
เออ ไม่ได้เว้นบรรทัดโทษด้วยนะเจ้าค่ะ รีบๆ ช่วงนี้เปิดเทอมแล้ว ไม่ค่อยได้อัพ กะทำเกรดหน่อย แอดมิดชั่นมันทำพิษ
เปลี่ยนนามปากกาแล้วเน้อ ของเก่ามันยาวไปมีคนท้วงหนะ
ขอบคุณที่อ่านค่ะ จุ๊บๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น