ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #11 : อุบัติเหตุ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 615
      1
      13 พ.ค. 48

    เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวแสบ 11





    “หัวหน้าครับ!! หัวหน้า” ชาร์แนคพุ่งเข้ามาในห้องทำงานของคุโรโร่อย่างลืมตัว



    “ทำไมไม่เคาะประตูซะก่อน” เสียงเย็นเยียบแบบไม่สบอารมณ์คือผลตอบแทน



    “ขอโทษครับ…ผมได้ข่าวคุณคุราปิก้าแล้วครับ”



    “ว่าไงนะ” คุโรโร่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที



    “เมื่อวานผมเห็นรูปถ่ายน้องสาวเพื่อนผม คุณคุราปิก้าก็อยู่ในนั้นด้วย ตอนนี้เธอเรียนอยู่ที่โรงเรียน B ครับ” ชาร์แนคพูดอย่างรวดเร็ว



    “ขอบใจมาก” ชายหนุ่มตบบ่าลูกน้องอย่างลิงโลดแล้วก็หายไปจากห้องทำงานแทบจะทันที



    ………………………………………..



    เสียงล้อรถบดถนนดังเอี๊ยด  รถสปอร์ตสีดำคันงามจอดที่หน้าประตูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง เวลานี้คงเป็นเวลาเรียนเพราะทั่วทั้งโรงเรียนเงียบสนิท จะมีคนสวนยืนก้มๆเงยๆอยู่บ้างที่สวยหน้าตึก คุโรโร่ลงมาจากรถแล้วเดินเข้าไปติดต่อทันที



    “ผมมาพบ..เอ่อ คุราปิก้า ครับ” ชายหนุ่มแจ้งความประสงค์กับหญิงวัยกลางคนที่เดินมาพอดี



    “คุราปิก้า คูลท์รึเปล่าค่ะ” คนที่เขาเข้าไปถามคืออาจารย์แนะแนวใจดีคนนั้น



    “ใช่ครับ ผมขอพบเธอหน่อยได้มั้ย”



    “คงไม่ได้นะค่ะ ป่านนี้เธอคงรอขึ้นเครื่องอยู่ที่สนามบินแล้วละค่ะ”



    “ว่าไงนะครับ!! เธอจะไปไหน” เสียงห้าวนั่นร้องดัง ตกใจสุดสุด

    “เธอจะไปเรียนต่อที่สหรัฐฯค่ะ” ครูแนะแนวตอบงงกับท่าทีของอีกฝ่ายไม่น้อย



    “ครับๆ ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มวิ่งไปที่รถทันที



    “คุราปิก้า! เธอจะไปไหน ไปไม่ได้นะ เธอต้องรอฉันก่อน”  หากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ร้อนแล้วคงจะร้อนน้อยกว่าจิตใจของประธาน Lucifer Cooperation ในยามนี้



    ยิ่งรับก็ยิ่งเหมือนสวรรค์แกล้ง วันนี้มีเทศกาลอะไรนะรถติดยาวยิ่งกว่าขบวนรถไฟฟ้า กว่าจะหลุดจากการจราจรที่แออัดนั่นได้ก็กินเวลาไปหลายสิบนาที พาหนะสุดหรูออกแรงอย่างเต็มที่เพื่อตามใจนายของมัน คุโรโร่รีบจอดรถเมื่อมาถึงสนามบิน เขารีบวิ่งฝ่าฝูงชนไปเพื่อหาคนคนนั้น แต่….มันสายไป …ไม่ทันแล้ว…ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำแทบจะทรุดลงเมื่อเห็นนกยักษ์ไฟล์ทสหรัฐเชิดหัวขึ้นแล้วมุ่งหน้าไปในท้องฟ้า…



    คุราปิก้าทิ้งเขาไปแล้ว…



    “อ้าว!! คุณคุโรโร่” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้น เด็กหนุ่มสวมแว่นวิ่งแยกจากครอบครัวมาหาเขา



    “เลโอลีโอ…” เสียงเรียกชื่อนั้นแห้งแล้งเพราะลำคอแห้งผาก



    “ครับ ผมเอง”



    “นายมาส่งคุราปิก้าหรอ” เจ้าของคำถามพยายามข่มเสียงให้ปกติ แต่มันช่างยากลำบากนัก



    ผู้ถูกถามนิ่วหน้าเล็กน้อยที่อีกฝ่ายรู้



    “เธอจะกลับมาเมื่อไหร่..” เขาแถบจะตะคอก



    “บอกไม่ได้ครับ คุราปิก้าสั่งไว้ว่าไม่ให้บอกใคร” เพื่อนสนิทของผู้ที่ถูกกล่าวถึงตอบ



    “คุราปิก้าจะกลับมาเมื่อไหร่!!” ชายหนุ่มตะคอกพร้อมคว้าคอเสื้ออีกฝ่าย



    “นี่คุณ….” พี่ชายของเลโอลีโอเข้ามาแยกทั้งสองออกจากกัน “เลโอลีโอไปกันเถอะ”

    “คนอย่างคุณไม่มีค่าพอจะมายุ่งกับชีวิตน้องสาวผมหรอก” นายแพทย์หนุ่มผู้มีใบหน้าละม้ายเลโอลีโอพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกก่อนเดินจากไป



    “ใช่!!. อยากไปก็ไปเลย ฉันก็จะไม่สนใจเด็กดื้อแบบเธอเหมือนกัน!!”



    ………………………………………..



    ย่างเข้าปีที่สามแล้วที่เสียงของหญิงสาวหายไปจากคฤหาสน์ลูซิเฟอร์ ทุกคนกลับมาเหมือนเดิม ใช่ว่าทุกคนจะลืมแต่ไม่มีใครอยากเอ่ยถึงเท่านั้น



    วันนี้เป็นวันเสาร์ เจ้าของบ้านในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อดีกับกางเกงแสลกสีดำสนิทเดินลงบันไดมาตั้งแต่เช้า เขารับประทานอาหารเงียบๆแล้วก็ออกจากบ้านไป ไปไหนดี? ทั้งๆที่ในหัวไม่ได้กำหนดสถานที่เอาไว้ แต่มือกับเท้ามันก็พารถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหินอ่อนหลังงามของตระกูลคูลท์จนได้



    ร่างสูงลงมาจากรถเดินเข้าไปในบ้านอย่างคุ้นเคย เขามาที่นี้แทบทุกครั้งที่ว่าง แม้เขาจะพยายามทำงานให้หนักซักแค่ไหนเพื่อลืมเจ้าของบ้านหลังนี้ก็ตามที…แต่มันลืมไม่ได้เลย….กาลเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าใดหัวใจความถวิลหาก็มากขึ้นตามไปด้วย…ฉันยังไม่ได้บอกคำนี้กับเธอเลย กลับมาซิ..มาให้ฉันขอโทษ..มาให้ฉันได้บอกคำว่า…รักเธอ..



    สวนดอกไม้และเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นยังคงงดงามปราศจากฝุ่นผงโดยสิ้นเชิงเพราะให้แม่บ้านกับคนสวนมาดูเเลอาทิตย์ละครั้ง ที่นี้เขาได้เจอรูปถ่ายของคนที่บอกตัวเองว่าไม่คิดถึงตั้งแต่เด็กจนโตเท่าที่เขารู้จัก คุโรโร่ดูภาพเหล่านั้นซ้ำๆได้ไม่เบื่อ …ภาพรอยยิ้มแสนหวาน ..ภาพหัวเราะ..ภาพร้องไห้..ทุกอิริยาบทที่เต็มไปด้วยความงดงามน่ารักดั่งนางฟ้า…

        

    เย็นแล้ว…ชายหนุ่มก้าวขาออกจากบ้าน มองไปยังแปลกดอกไม้ที่ค่อยๆโบกกลีบสะบัดใบอำลาแสงสุดท้ายของวัน “เมื่อไหร่นายของพวกแกจะกลับมาห๊ะ บอกเค้ากลับมาไวไวซิ พวกแกก็คิดถึงเค้าใช่มั้ย….”



        แต่ชายหนุ่มยังไม่กลับบ้าน ร่างสูงสง่าพาตัวเองมาทรุดลงที่เคาร์เตอร์บาร์หรูแห่งหนึ่ง ย้อมความคิดตัวเองด้วยแอลกอฮอล์



        ดวงตาสีนิลอันเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความหมองเศร้าเหม่อมองแก้วทรงกระบอกที่ภายในบรรจุน้ำสีเหลืองอำพัน และมีน้ำแข็งเกล็ดลอยฟ่อง เสียงเพลงเบาๆทำนองอ้อยส้อยถูกบรรเลงจากปลายนิ้วของนักเปียโนที่นั่งเด่นอยู่บนเวทีเล็กๆด้านในสุดของบาร์



    ….Visions of your  lovely  face            

    As I awake I have this feeling

    That you\'re here and beside me,

    silly of me alone ….

        

    ‘คุราปิก้าฉันเห็นหน้าเธอทุกครั้งที่ตื่น มันทำใฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างฉันตลอด.. ตลกมั้ยละ’



    How am I suppose to carry on

    I find myself sing in the same old song

    If you hear me and have it in your heart ….

    Oh please come back to me, oh baby



    ‘ฉันควรจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่าไรดี เมื่อฉันยังคงร้องเพลงเก่าๆ..ของเรา..ถ้าเธอได้ยินมันกลับมาได้ไหม’



    I\'ll be right here if you need someone

    If you hold on another, I\'ll be moving on

    It\'s easy as I said

    Just hope that I could see the road yeah yeah



    ‘ฉันรอเธออยู่ตรงนี้เสมอมา แต่ถ้าหากเธอมีใครอื่น ฉันยินดีจะไปเอง..มันพูดง่ายเหลือเกิน แต่ฉันไม่หวังให้มันเป็นนั้นหรอก’



        เนื้อเพลงทุกบทตอนช่างตรงกับสภาพการณ์ปัจจุบัน จนชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่านักร้องจงใจแกล้งเขารึเปล่า



    “นั่งด้วยได้มั้ยค่ะ…”เสียงหวานกระซิบที่ข้างตัว ทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง ..แม่มด!..



    คุโรโร่ทำท่าจะลุกขึ้นแต่ถูกร่างข้างๆจับเเขนเอาไว้ พร้อมทอดสายตาหวานชวนมองให้



    “อย่ามายุ่งกับผม” เขาบอกเรียบๆ แต่จริงจัง



    “คุณยังไม่หายโกรธหรือค่ะ ฉันแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง” ร่างระหงนั่งลงข้างกายชายหนุ่ม

    กลิ่นห้อมจรุงอบอวลไปทั่วตัว



    “ล้อเล่น? ลิเลียคุณรู้รึเปล่าว่าทำอะไรลงไป!!…” มรสุมความโกรธก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว “แต่ผมคงว่าอะไรคุณไม่ได้หรอก..เพราะผมมันโง่ ทำอะไรโดยไม่คิดซะก่อน..ผมเป็นคนทำร้ายคุราปิก้าเอง” คุโรโร่เงียบข่มเสียงไม่ให้สั่น “ถ้าไม่ใช่เพราะชาร์แนคและมาจิเอาภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องมาให้ดู ผมก็ยังคงโกรธคุราปิก้าอยู่ ผมอยากฆ่าคุณจริงๆ!!    ผมเสียใจนะที่มองคุณผิดไป!!~”  ดวงตาคู่นั้นวาวโรจน์ ดวงหน้าเคร่งขรึมจนแดงก่ำ คุโรโร่วางเงินบนเคาร์เตอร์ รีบเดินออกมาโดยไม่สนใจเงินทอน



    It\'s so hard getting through a day

    When every move was made

    It was always you and I together

    …….It\'s hard to believe I\'m lonely…….



    ‘ มันช่างยากเสียเหลือเกินที่จะใช้ชีวิตให้ผ่านไปในวันหนึ่งๆ ไม่ว่าฉันจะทำอะไร มันมักย้ำเตือนเสมอว่าเราเคยทำร่วมกัน…ยากเหลือเกินที่จะเชื่อว่าตอนนี้ฉันอยู่ตัวคนเดียว!!’



    Is there gonna be a day,

    I can see the words to make me better

    I know there has to be a way

    So if you\'re listening, hear me out oh baby ….



    ‘ ฉันมีคำคำหนึ่งที่อยากพูด หากเพียงแค่เธอฟังมัน ทุกอย่างจะดีขึ้นนะ. ..คุราปิก้า’



    ชายหนุ่มขับรถกลับบ้านอย่างหงุดหงิดเขาไม่น่าโง่เลยจริงๆ วันนั้นถ้าเขาหยุดคิดซักนิดไม่ด่าว่าคุราปิก้าออกไป เธอก็คงไม่ต้องร้องไห้แล้วหายจากชีวิตเค้าไปแบบนี้ …เขามันงี่เง่า!!..ระหว่างที่คุโรโร่คิดอะไรเพลินๆอยู่เขาไม่ทันสังเกตว่ามีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งออกมาจากข้างทาง

    เฮ้ย!! ชายหนุ่มร้องอย่างตกใจ หักพวงมาลัยหลบทันที ส่งผลให้รถสปอร์ตสีดำหมุนคว้างกลางถนนแล้วแล้วส่วนหน้าก็ฟาดเข้ากับกำแพงอย่างจัง คุโรโร่ตาพร่ามัวด้วยเลือดที่ไหลลงมาย้อมใบหน้าเขาจนแดงฉาน แล้วสติสัมปชัญญะก็ค่อยๆดับไป!!

        

    Give me a chance for you and I

    You find me a way make up my mind

    Oh how I miss you

    I never would kiss you, I from my heart……..



        ‘ ให้โอกาสแก่ตัวเราทั้งคู่เถอะ ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน…ฉันไม่เคยจูบคุณจากหัวใจเลย’



    ……Come back to me ……

        

    ‘ ได้โปรดกลับมา กลับมาหาฉันเถอะ..คุราปิก้า’



    ……Come back to me ……

        





        To………..Be………………Con…………….Kaaa…….





    ** Come Back To Me (English)

    ศิลปิน : Seven





    talk - เหอะๆ พระเอกช๊าน ขับรถชนไปแล้ว T_T (ร้องไห้เพราะเสียดายรถ ม่ายช่ายสงสารอีตาคุโรหรอก เคี้ยกๆ)

    คำแปลเพลงอาจจพิกลอยุ่บ้างก็ทำใจเด้อ เกรดภาษาอังกฤษคนแต่งก็โคดดดจะดี เหอะๆ



    ต้องการกำลังใจจากการเม้นด่วนฮะ เพี้ยงๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×