ตอนที่ 7 : TIME 2 LOVE :: P6**
T I M E 2 L O V E
-6-
บรรยากาศ ยามเช้าที่สุดแสนจะอึมครึ่ม ตาเรียวมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างหงุดหงิดกับวันนี้ ทำไม่ฝนต้องมาตั้งเคล้าวันที่เขาจะไปเรียนด้วยวะ อุตส่าห์รีบตื่นแต่เช้าเพราะเห็นว่าอากาศกำลังดีแต่ที่ไหนได้ฝนก้ดันจะมาตกซะนี่
“วันนี้จะไปเรียนไหม”เสียงหวานดังออกมาจากในบ้านก่อนจะมาหยุดลงข้างๆเขา
“ไปครับผมขาดมาหลายวันแล้ว”
“ไปด้วยกันเลยไหม?”พี่สาวถามอีกครั้ง
“ก็อยากไปด้วยหรอกนะ ถ้าไม่ติดตรงที่คนที่มารับพี่เป็นไอ้คนนั้น” ปากบางพยักเพยิดไปหน้าบ้านที่มีรถสีแดงจอดรออยู่พร้อมกับเจ้าของรถยืนเต๊ะท่าอย่างกับนายแบบ สวมแว่นกันแดดและเสื้อสูทเต็มยศพร้อมทำงาน ยิ่งเห็นก็ยิ่งหมั่นไส้
“คิบอม!!”
“โอ๊ย!! พี่ซูยองผมเจ็บบบบบบ”คีย์โอดโอ๊ยทันทีที่มือเรียวหยิกลงที่ไหล่บางของเขาอย่างแรงจนขึ้นเป็นรอย แค่จะสั่งสอนน้องชายไม่มีมารยาทเท่านั้นแหละ ทำไมถึงพูดจาไม่มีความเคารพในตัวผู้ใหญ่บ้างก็ไม่รู้ทั่งที่เธอเองก็ไม่เคยสอนให้น้องพูดจาแบบนี้
“เจ็บก็ดี เดี๋ยวเขาจะหาว่าพี่ไม่สั่งสอนน้องชาย”ซูยอนทำหน้าดุใส่น้องชายเป็นการสั่งสอน
“ก็ผมไม่ชอบมั…..เขานิ”คีย์ที่กำลังจะเอยประโยคไม่สุภาพออกมาต่อหน้าพี่สาวถึงกับต้องเปลี่ยนเป็นคำอื่นแทน ใครว่าเขาปากจัดแล้วพี่ซูยอนเนี่ยยิ่งกว่าเขาเยอะอย่าไปทำให้โกรธหรือฉุนซักนิดเดียว คีย์ก็คีย์เถอะสู้ไม่ได้หรอกพี่สาวคนนี้ยิ่งกว่าเขาสิบเท่า = =
“ไปแล้ว ระวังไว้ดีๆ นะ อย่าให้พี่ได้ยินอีก”ซูยอนชี้หน้าคีย์เป็นการปรามก่อนจะรีบเดินไปที่รถที่มีร่างสูงรออยู่
“แหวะ หล่อตายละ!! ปัง!!”
“…. O_O!!!”
สิ้น เสียงน้องชายตัวแสบพี่สาวก็ถึงกับหน้าเสียที่ได้ยินประโยคบ้าๆตอนเช้าที่ น้องชายเป็นคนพูด ทำไมต้องมาพูดตอนที่เธอเดินออกมาจนถึงเขาแล้วนะ ต้องสั่งสอนไอ้น้องชายตัวแสบใหม่ซะแล้วไอ้เด็กคนนี้
“ฮ่าๆ ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบผมจริงๆ นะครับ”มินจุนที่กึ่งนั่งกึ่งยืน อยู่ที่หน้ารถสปอตร์คันหรูของเขาหัวเราะกับท่าทางของเธอที่ถอดสีจนไม่เหลือคราบเครื่องสำอางที่แต่งมา น้องชายตัวดีเล่นเอาพี่สาวหน้าเสียแต่เช้าแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายได้ยังไง
“มะ ไม่ หรอกคะคีย์เขาก็พูดเล่นไปแบบนั้นแหละ”ซูยอนยิ้มแทบพูดไม่ออก
“เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าคุณโกหกไม่เนียนเอาซะเลย ฮ่าๆ”มินจุนหัวเราะกับท่าทางของร่างบางตรงหน้าที่เริ่มทำตัวไม่ถูก
“คะ? ค่า~”( –“-);;; เสียงหวานเอ่ยออกมาเบาๆ ทำเอาเธอไปต่อไม่เป็น
“ฮ่าๆ ไปกันเถอะ เดี๋ยวไปประชุมไม่ทันนะครับ” รอยยิ้มหล่อส่งมาให้สาวสวยตรงหน้าพร้อมกับมือหนายืนมาบีบแก้มนิ่มๆ อย่างลืมตัว ก็ท่าทางน่ารักขนาดนี้จะไม่ให้เผลอเลยก็แปลกนะซิ
“คะ…ค่ะ” (-//-)
ตอบรับเสร็จเรียบร้อยซูยอนก็รีบเดินไปขึ้นรถที่มีร่างสูงค่อยเป็นสารถีให้ด้วยใบหน้าขึ้นสีอ่อนกับการกระทำที่ไมทันได้ตั้งตัวของมินจุนก่อนจะส่งยิ้มเป็นการขอบคุณแล้วขับรถออกไปทันที
T I M E 2 L O V E
10 โมง บริษัท K
“กว่าจะประชุมเสร็จนี้เล่นเอาปวดเมื่อยไปเลยนะครับ”มินจุนที่เดินออกมาจากห้องประชุมเป็นคนแรกบ่นอุบหลังจากประชุมเสร็จ
“ทำงานชิ้นแรกแกก็บ่นแล้วนี้มันยังไม่เริ่มเลยนะ”เสียงเข้มดังออกมาจากด้านหลังของเขา ก่อนที่ร่างสูงจะหันไปมองอย่างเสียวสันหลังเมื่อเห็นว่าเป็น ‘ชเวมินฮา’ นักธุรกิจด้านการสื่อสารยักษ์ใหญ่เดินออกมาจากด้านหลังหรือก็คือพ่อของเขานั้นเอง
“นิดเดียวเองพ่อก็….”มินจุนเอ่ยเสียงอ่อย
“ยังจะเถียง”ยังไม่ทันที่นักธุรกิจชื่อดังจะต่อว่าลูกชายคนโตก็มีเสียงดังไล่หลังมาเสียก่อน
“ขอบคุณคุณดงเฮมากนะค่ะที่ให้คุณมินโฮทำงานกับเรา” สาวสวยในชุดเดรสสีครีมเดินออกมาพร้อมกับนายแบบและผู้จัดการส่วนตัวที่กำลังจะหมดหน้าที่ในอีกไม่ช้า ถ้ามินโฮรู้ว่าผู้บริหารจะมาเข้าประชุมด้วยตัวเองแบบนี้วันนี้เขาจะแกล้งป่วยหรือไม่ก็บอกปัดไปว่าสอบแน่ๆ แต่ดันไม่มีใครบอกเขาเลยซักคนว่า ‘พ่อ’ ของเขาก็มาประชุมในครั้งนี้ด้วย
“ครับ เป็นเกียรติเช่นกันนะครับที่ได้ทำงานชิ้นนี้ด้วย”^^ ดงเฮโค้งเป็นการขอบคุณพร้อมกับดึงมินโฮที่ยืนนิ่งข้างๆ ให้โค้งตามมารยาท
“ขอบคุณครับ”มินโฮตอบแบบขอไปที
“คุณมินโฮดูเหนื่อยๆนะคะ”^^
“ฮ่าๆ พอดีว่าช่วงนี้งานของเขาค่อนข้างเยอะนะครับ ขอโทษด้วยนะครับที่เด็กของผมเก็บความรู้สึกไม่ค่อยอยู่”(^^);;
“อ่า คะ งั้นนี้เป็นรายละเอียดงานนะคะ ถ่ายพรุ่งนี้ตอน 11 โมง เลทได้ไม่เกินเที่ยงนะคะ”พูดจบซูยอนก็ยืนเอกสารที่เหลือให้กับผู้จัดการของมินโฮ
“ครับ ขอบคุณนะครับ”
“ผมขอตัวนะครับ”มินโฮโค้งทันที ที่พูดจบก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่สนใจว่าใครจะมองเขายังไง ร่วมไปถึงผู้เป็นพ่อที่เขาเองไม่คิดจะทักทายเลยซักนิด
“ไอ้เด็กคนนี้มันยังไร้มารยาทเหมือนเดิม”มินฮาบ่นอุบเมื่อเห็นการกระทำของลูกชายคนเล็กของเขายังไม่เคยเปลี่ยน นิสัยแย่ๆ แต่นั้นก็ดังพอที่จะทำให้ดงเฮผู้จัดการของมินโฮได้ยิน
“ขอโทษด้วยนะครับ มินโฮเขาเครียดๆ ผมจะอบรมเขาใหม่นะครับ ขอตัวครับ”พูดจบดงเฮเองก็ต้องรีบชิ่งหนีเช่นกัน ก็เด็กของเขาเล่นวางระเบิดใส่เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนั้นใครมันจะอยู่ทนเสียงต่อว่าที่จะตามมากันละ
“ทั้งคู่” มินฮาเอ่ยอีกครั้ง
“ฮ่าๆไม่หรอกครับ เขาคงเอือมกับเจ้ามินโฮนะฮะ”มินจุนกระซิบข้างๆ ของผู้เป็นพ่อ
“อืม ฉันมีงานต่อหวังว่าแกก็คงไม่พลาด”ชเวมินฮาเอ่ยเสียงแข็งก่อนที่จะมองลูกชายคนโตอย่างจริงจัง งานนี้เป็นงานชิ้นแรกที่จะลองให้มินจุนฝึกบริหารบริษัทดูหลังจากที่ให้เวลาศึกษาบริษัทมาหลายปี มินจุนเองก็โตมากพอที่จะดูแลธุรกิจของครอบครัวได้แล้วจะเหลือก็แต่คนเล้กนั้นแหละนอกจากจะยังเรียนไม่จบแล้วยังจะหัวรั้นเอาแต่ใจไม่ยอมทำตามคำสั่งแถมยังขัดผลประโยชน์ที่พ่อจะเอาไปซะทุกอย่าง ทั่งที่คิดว่าจะให้ช่วยกันบริหารจะได้ไม่ต้องลำบากในอนาคตข้างหน้าแต่คนเล็กก็ดันนิสัยเหมือนแม่ซะเหลือเกิน
วันนี้เขาเองก็ไม่ได้บอกใครว่าจะมาประชุมด้วยทำเอาบริษัทเล็กๆ นี้ก็วุ่นไปตามๆ กัน แต่คนหนักสุดก็คงหนีไม่พ้นมินโฮละนะ หนีหน้ากันให้ตลอดบ้านก็ไม่เคยจะกลับเอาแต่ทำงานเป็นดารา ไม่รู้ว่าอาชีพนี้มันจะอยู่ได้นานแค่ไหนดูยังไงมันก็ม่มีความมั่นคงในชีวิตด้วยซ้ำ
“ครับ ผมจะทำอย่างเต็มที่เลยครับ”มินจุนตอบรับเสียงหนักปนล้อเล่นให้กับท่านประธานก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ไม่ไหวทั้งคนโตคนเล็ก”พูดจบชเวมินฮาก็ส่ายหัวกับท่าทางของลูกชายก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับเลขาส่วนตัว
“ท่านประธานชเวท่านก็น่ารักดีนะคะ ฉันนึกว่าท่านจะหยิ่งซะอีก เป็นเกียรติมากเลยที่ท่านมาด้วยตัวเองแบบนี้”ซูยอนเอยขึ้นเมื่อท่านประธานออกไปแล้ว
“เขาก็แค่ อยากเจอมินโฮนะครับ” มินจุนตอบ
“คะ?”
“มินโฮนะครับ”^^
“อ้า~ เข้าใจแล้วค่ะ”ซูยอนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“อืมมมมมมมม”มินจุนลากเสียงยาวก่อนจะทำสีหน้าเหมือนเด็กต้องการอะไรบางอย่างจนซูยอนต้องหันไปมอง
“คะ?”ซูยอนเอียงคอเป็นเชิงถามมินจุนเมื่อเขาทำท่าแปลกๆ
“วันนี้ไปกินข้าวกับผมไหม”
“ฮ่าๆ ได้คะเพื่องานของเรา”ซูยอนส่งยิ้มไปให้ก่อนที่เธอจะเดินนำออกไป มินจุนเป็นคนดีสิ่งนี้เธอรู้มาตลอดแต่ไม่คิดว่าคนที่เพรียมพร้อมทุกอย่างอย่างเขาทำไมถึงสนใจบริษัทเล็กอย่างเธอก็ไม่รู้ แต่ยังไงซะก็ขอบคุณที่ทำให้งานในบริษัทมีมากขึ้นอย่างน้อยบริษัทของเธอก็ก้าวขึ้นมาอีกระดับ ถือซะว่าวันนี้เป็นการขอบคุณสำหรับการร่วมงานครั้งนี้ก็แล้วกันนะ
“เยส!!!”มินจุนกำหมัดของตัวเองอย่างชอบใจเมื่อซูยอนตอบตกลงก่อนที่จะเดินตามร่างบางไปอย่างรวดเร็ว
อย่างน้อยวันนี้ก็มีสาวสวยกินข้าวเป็นเพื่อนละนะ
T I M E 2 L O V E
สองเท้าหนาก้าวเข้ามาในคอนโดหรูอย่างเคยชิน จะมีก็แต่เสียงผู้จัดการนั้นแหละที่คอยมาบ่นอยู่ข้างๆ หูเขาอย่างรำคาญตั้งแต่ออกมาจากห้องประชุมนั้นก็ยังไม่เลิกบ่นถึงพฤติกรรมของเขา ทำไมอะไรๆ ช่วงนี้ก็มีปัญหากับเขาจังเลยนะ
ไหนจะเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ให้กับพ่อของเขาอีก ปวดหัวชะมัด
แล้วนี้อะไร พี่ดงเฮเอาแต่บ่นเรื่องของเขาอยู่นั้นแหละ รำคาญโว้ย
ไหนจะเรื่องยัยทอมเอ็กที่ดันกลายมาเป็นผู้ชายซะเต็มตัวนั้นอีก ทำไมตอนแรกเราดันมองว่าเป็นทอมวะ เราพลาดช็อตเด็ดอะไรไปหรือเปล่า วันนั้นที่ถอดเสื้อ….
“เฮ้ย!!”อยู่ดีๆ มินโฮก็โพล่งออกมาจนทำเอาดงเฮแปลกใจ
“อะไรของนายฟังที่ฉันพูดบางไหมเนี่ย ห๊า!!”ดงเฮหันมาตะโกนใส่หน้ามินโฮที่ยืนนิ่งไม่ไหวติ่ง
“พี่ผมคิดว่า ผมสายตาดีนะ ทำไมผมพลาดคนนี้วะ”มินโฮหันมาพูดกับผู้จัดการส่วยตัวแต่ดงเฮได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันกลับไปมองรอบๆ ตัวก็ไม่เห็นจะมีใครให้พูดถึงซักคน
“นายหมายถึงใคร?”
มินโฮไม่ตอบอะไรแต่นึกย้อนไปวันแรกที่เขาได้เจอคีย์ที่มหาลัยวันนั้น ….
‘ถอดเสื้อมา’
‘ห๊ะ?’
‘ถ้านายอายที่จะใส่เสื้อเลอะคราบกาแฟนี้นายก็ถอดเสื้อมา’
‘ถ้าฉันถอดเสื้อให้นาย แล้วฉันจะใส่อะไรนายคิดหรือยัง’
‘โถ้โว้ย’
“ชิท นั้นมันเสื้อกล้าม….”มินโฮถึงกับเผลอพูดออกมาอย่างไม่ตั้งใจแล้วอะไรที่ทำให้เขามองลึกเขาไปนึกว่าคนๆ นั้นเป็นผู้หญิงไปได้ ตอนแรกคิดว่าเห็นผ้าพันหน้าอกไว้นะเขาจะตาฝาดขนาดนั้นเลยหรือไง
แสงแดด หรืออาการเหนื่อยจากการทำงาน หรือว่าจะเป็น ผิวขาวๆ ภายนอกแขนเสื้อของร่างนั้น…..
มินโฮส่ายหัวกับอาการที่เพิ่งจะรู้สึกตัว ตลอดเวลาเขาคิดว่าคีย์เป็นทอมที่ดูเหมือนผู้หญิง แต่มันตรงกันข้ามและก็ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงด้วย
“มินโฮ…”
หรือจะเป็นเสียงห้าวๆ ที่ฟังทีออกจะติดหู กับใบหน้าคมที่ดูออกจะหวานไปนิด
“เฮ้ย มินโฮ!!คิดอะไรอยู่” มินโฮถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของผู้จัดการส่งเข้ามายังส่วนประสาทของเขาอีกครั้ง
“เป็นอะไรของนาย”
“ปะ..เปล่า”
“ไปนอนพักไป เดี๋ยวบ่ายมีเรียนไม่ใช่หรือไง เย็นนี้นายมีเดินแบบด้วย อย่าลืมไปก่อนเวลาที่ฉันนัดไว้เข้าใจไหม”ดงเฮย้ำกับมินโฮก่อนที่จะเดินออกไป อย่างไม่เข้าใจเด็กของตัวเองเหมือนกัน
T I M E 2 L O V E
“ไง จงฮยอน”ร่างบางวิ่งเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่เดินออกมาจากคณะก่อนที่จะเข้าไปกอดคออย่างเคยชิน
“มาแล้วเหรอวะ หายแล้ว?”จงฮยอนทำหน้ามู้ก่อนที่จะดึงแขนของเพื่อนร่างบางออกแล้วถามออกไป สายตาคมก้มลงไปมองที่เท้าของร่างบางที่เดินไม่สนใจว่ามันจะกลับมาเจ็บอีกหรือเปล่า
“ปลิดทิ้ง”คีย์ยิ้มจนดวงตาสวยเป็นเส้นตรงแล้วกระโดดให้ดูเป็นขวัญตา
“แล้วนายอะ”คีย์ถามกลับ
“ก็ดีขึ้นอีกสองสามวันเดียวก็คงหาย”
“เออ จริงดินายเห็นผู้หญิงสวยๆ ที่ยืนอยู่ตรงหน้ามหาลัยไหมฉันว่าหน้าคุ้นๆวะ”จงฮยอนหันไปถามคีย์ก่อนที่จะชี้ไปที่หน้ามหาลัย คีย์มองตามนิ้วนั้นไปก่อนจะเห็นหญิงสาวใส่แว่นพร้อมกับเสื้อเอวลอยกับกางเกง ยีนที่เขากันได้ดีกับหุ่นเพรียวๆ เอวคอดๆ ถ้าเอาไปวางขายในตลาดตุ๊กตาตัวนี้คงขายดีแน่ๆ เอ้ย ไม่ใช่ๆ นั้นมันคน ลักษณะมันคุ้นๆ เหมือนกันนะเนี่ย
“คงเป็นคนหน้าคล้ายที่นายเคยรู้จักละมั่ง แฟนคลับนายมันเยอะนิ”คีย์เอ่ยก่อนจะยิ้มกวนประสาทมาให้
“แม่ง สเป็คเลย”จงฮยอนเสริมพร้อมกับยิ้มร่า แน่ละผู้หญิงหุ้นน่าขย้ำแบบนั้นถึงจะผอมไปหน่อยแต่ก็ตรงสเป็คอย่างลงตัว
“เดี๋ยวฉันจะบอกพี่ซูยอนว่านายตัดใจได้แล้วดีไหม ฮ่าๆ”
“ไม่ดีและพี่ซูยอนอะของตายโว้ย”
“กวนส้นตีนและมึง”คีย์หันมาด่าจงฮยอนก่อนที่จะหันไปสนใจร่างที่ยืนอยู่หน้ามหาลัยต่อ สายตาก็ดันไปเห็นรถอันคุ้นตาจอดอยู่ตรงที่ผู้หญิงร่างบางนั้นยืนอยู่
“ไอ้นายแบบหน้าห่วยนั้นนิ”จงฮยอนเอ่ยขึ้นเมื่อคนที่ชะเง้อหน้าออกมาเป็นมินโฮที่กำลังคุยอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอยู่
“….”
“มันรู้จักผู้หญิงคนนั้นด้วยหรือไงวะ”
“คงเป็นเด็กในสต็อกเขาละมั่งไปเข้าเรียนเหอะ”คีย์หันกลับมาสนใจทางเดินตรงหน้าต่ออย่างรวดเร็วก่อนที่จะรีบไปให้ถึงหน้าตึกที่ตัวเองมีเรียน แต่ก็เพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นรถอันคุ้นตาก็มาจอดอยู่ตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็วจนเขาแทบตั้งหลักไม่ทัน
“เฮ้ย!!”จงฮยอนร้องเสียงหลงเมื่อรถแลมโบกินีคันงามเมื่อกี้จอดตัดหน้าเขาอย่างไม่สนใจเลยว่าจะมีคนกำลังเดินอยู่
“ไอ้นี่มันหาเรื่องเราชัดๆ”จงฮยอนที่กำลังจะเข้าไปกระชากประตูรถแต่มันก็ดัดเปิดออกมาซะก่อนและก็เป็นผู้หญิงร่างตรงหน้ามหาลัยที่เปิดออกมา
“โอ้ มายดาร์ลิ่ง ไอมิสยู”หญิงสาวตรงหน้าตรงเขามากอดจงฮยอนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะจูบลงที่ริมฝีปากหนาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“เฮ้ย!!”คีย์ร้องเสียงหลงเมื่อเห็นการกระทำของคนตรงหน้า จงฮยอนเองก็อึ้งและนิ่งไปอย่างกับน้ำแข็ง มันเกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้
“คีย์อา… ไอมิสยู”ร่างบางตรงหน้าเขามาหอมแก้มคีย์ที่ยืนนิ่งไปเช่นกัน อะไรวะ เนี่ย อะไร? อยู่ๆก็มาไอมิสยู ไอเลิฟยูอะไรนี้เขาไม่เคยมีเพื่อนเป็นฝรั่งนะอยู่ๆ มาทักกันแบบนี้เขาก็งงน่ะซิ
“….”
“ไง มายเฟรน อึ้งไปเลยละซิ ดีใจใช่ไหมที่เจอฉัน”
“เธอ มาได้ยังไง”จงฮยอนที่ยืนนิ่งไปเมื่อครู่ถามร่างบางตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น
“ก็มาเครื่องบินนะซิ อะไรของพวกยูเนี่ย ไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ”ร่างบางตรงหน้ากอดอกมองพวกเขาทั้งสองคนอย่างน้อยใจ
“ไม่ใช่ๆหมายถึงเธอเป็นใคร?”คีย์หยุดยืนข้างๆ จงฮยอนก่อนจะมองหน้าหญิงสาวที่ไม่ยอมถอดแว่นแถมยังมาลวนลามพวกเขาทั้งสองคนในที่สาธารณะที่เรียกว่ามหาลัยอีกด้วย
“เฮ้!! ทำไมยูจำไอไม่ได้ ฉันเองคริสตัลไง”ร่างบางตรงหนาถอดแว่นออกเผยให้เห็นใบหน้าเรียวสวยที่พวกเขาเกือบจะลืมเธอไปแล้วเพื่อนสมัยมัธยมปลาย
“งานเข้าแล้วกู”จงฮยอนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะหันไปหาตัวช่วยอย่างคีย์
“สเป็คมึงไม่ใช่เหรอ”
“ว๊อท? พวกยูเป็นอะไร ไม่ดีใจเหรอที่เห็นฉัน”
“ปะ…เปล่า คือมันดีใจจนอึ้งไปเลยนะ”คีย์ตอบกลับพร้อมกับหัวเราะให้แนบเนียนที่สุด งานเข้ามาแบบสวยๆเลยละจงฮยอน
“ว่าแต่ เธอมาทำอะไรที่นี้”จงฮยอนถามหน้าเครียดก่อนที่จะมองไปทางมินโฮที่ยืนเกาะรถมองพวกเขาอยู่
คริสตัลเดินเข้ามาควงแขนจงฮยอนก่อนที่จะซบลงที่ไหล่กว้างแล้วเกยค้างตอบออกมาอย่างชัดเจนว่า…
“ฉันก็มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ให้กับพี่ซูยอนนะซิ”
“……!!!”
ณ.สตูดิโอ K
เสียงชัตเตอร์กดรัวจากตากล้องฝีมือดี แสงสปอตร์ไลท์และทุกคนที่ยืนอยู่ในห้องต่างพากันทำงานอย่างขะมักเขม้นพร้อมๆกับสองร่างที่ยืนโพสท่าอย่างมืออาชีพอยู่บนฉากที่จัดเอาไว้ ถึงแม้ฉากจะเป็นเพียงพื้นสีขาวแต่กลับถูกแต่งเติมสีสันด้วยคนสองคนอย่างไม่น่าเชื่อ
“ซ้ายอีกนิดๆ โอเค”
“มินโฮกอดเอวหน่อยซิ โอเคๆ สุดท้ายแล้ว โอเคๆ”เสียงของตากล้องยังคงสั่งต่อไปพร้อมกับกดชัตเตอร์รัวโดยที่ไม่รู้จักเหนื่อยเลยซักนิด
“โอเค!! เสร็จแล้ว”เสียงตากล้องเอ่ยขึ้นก่อนที่จะส่งยิ้มให้กลับนายแบบและนางแบบในวันนี้มินโฮและ คริสตัล
“ขอบคุณนะครับ/คะ”มินโฮและคริสตัลกล่าวขอบคุณก่อนที่จะเดินออกมาจากสถานที่ถ่ายทำ
ร่างบางที่เดินออกมาจากสตูดิโอได้ก็มองหาบางอย่างที่เธอคิดว่าน่าจะเห็นอยู่แถวนี้แต่ก็เพียงไม่กี่นาทีที่เธอเดินออกมาก็ต้องทำหน้ามู่เมื่อสิ่งที่เธอต้องการเห็นหลังทำงานเสร็จกลับไม่มีวี่แววว่าคนๆ นั้นจะโผล่หน้ามาหาเธอเลยซักนิด
“อย่าบอกนะว่ายังไม่มาจะวีนแตกเลยคอยดู”บ่นเสร็จร่างบางก็หยิบโทรศัพท์คู่กายที่แอบหยิบติดมือออกมากดหาคนๆนั้นทันที
“อะไรเนี่ย นายกล้าตัดสายฉันทิ้งเหรอ ฮึย”ไม่รอช้านิ้วเรียวกดเบอร์นั้นอีกครั้งอย่างไม่คิดที่จะหยุดซักนิด กดจนกว่าคนๆ นั้นจะรับให้ได้
“นี่ กดมาอยู่ได้ไม่เมื่อยหรือไง”เสียงเข้มดังมาจากด้านหลังของเธอ ร่างบางหันมาดูก็พบทั้งจงฮยอนและคีย์คู่ดูโอ้ที่ไม่เคยห่างกันเลยซักนิด จะตัวติดไปถึงไหนสองคนนี้ คิดได้อย่างนั้นเธอเองก็เดินเข้าไปแทรกระหว่างกลางของพวกเขาทั้งคู่ก่อนที่จะเริ่มโวยวายในแบบฉบับของเธอ
“นายทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉันรู้ไหมว่าฉันโทรหานายเป็นร้อยรอบเลยนะ กดจนเมื่อยนิ้วหมดแล้วเนี่ย ห๊ะ!!”
“แล้วใครใช้ให้เธอโทรมามิทราบ” - - จงฮยอนพูดขึ้นมาอย่างไม่สนใจ
“ว่าไงนะ นายพูดกับแฟนตัวเองแบบนี้เหรอ”เลือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันทีที่เธอได้ยินประโยคของร่างสูง
“เดี๋ยวฉันไปหาพี่ซูยอนแล้วกันนะ”คีย์ที่รู้สึกว่าบรรยากาศไม่ค่อยดีของการสนทนาของทั้งคู่ของเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นก่อนที่จะเดินเข้าไปในสตูดิโอที่คริสตัลเดินออกมา
“อ้าว คีย์วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ”ซูยอนที่เห็นน้องชายเดินเข้ามาเอ่ยทักขึ้นก่อนจะส่งยิ้มมาให้ พร้อมกับสายตาคมที่หันมามองพอดีก่อนที่จะหลบสายตาของคีย์ อะไรของเขา
“วันนี้วันเสาร์”คีย์ตอบ
“อ้า ลืมไปเลยฮ่าๆ แล้วกินอะไรมาหรือยังวันนี้มีคนเลี้ยงข้าวด้วยนะสนใจไหม คิก”ซูยอนเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีที่พูดถึงแต่คีย์ก็รู้ว่าหมายถึงใครและเขาก็ไม่คิดจะไปด้วย
“ไอ้มินจุนนั้นนะเหรอ เอาเวลาไปนั่งเล่นเกมส์ยังจะดีซะกว่า”คีย์เอ่ย
“คีย์ พี่สอนให้เรียกเขาดีๆ เห็นไหมคุณมินโฮก็อยู่ด้วยเกรงใจเขาบ้าง”ซูยอนเอ่ยไปก็ตีแขนขาวๆ ของน้องชายตัวแสบจนขึ้นเป็นรอยแดง คีย์เองก็ได้แต่ถูรอยนั้นก่อนจะทำหน้ายู่แล้วเดินไปนั่งรอด้านหลังฉาก
“อะแฮ่มๆ”เสียงเข้มที่คุ้นเคยลงมานั่งตามคีย์ที่นั่งอยู่ก่อนไม่กี่วิก่อนจะลากเก้าอี้เข้ามาชิดตัวเขาจงใจ
“….”คีย์ทำเพียงชำเลืองมองขึ้นดูคนที่มาใหม่แต่ก็ไม่พูดอะไร มือบางหยิบมือถือขึ้นมากดเล่นตัดความรำคาญที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
“เป็นไงบ้าง”ร่างสูงของมินโฮเอ่ยขึ้นพร้อมๆ กับที่นั่งลงข้างร่างบาง
“….”เหมือนสิ่งที่มินโฮพูดจะกลายเป็นแค่ลมผ่านเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของร่างบาง กลับกันคีย์ทำเพียงวางโทรศัพท์มือถือลงและหยิบนิตรยสารที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเปิดดูโดยไม่สนใจเขาเลย
“เท้าหายดีแล้วใช่ไหม”มินโฮถามย้ำอีกครั้งพร้อมกับเขี่ยเท้าเมื่อร่างบางตรงหน้าไม่สนใจเขาเลยซักนิด
ร่างบางส่งเสียงจิ๊จ๊ะอยู่ในลำคออย่างรำคาญก่อนจะส่งสายตาไม่พอใจให้ร่างสูงที่นั่งข้างๆ
“ฉันไม่ได้ไปหาเธอ…เอ่อ นายตั้งหลายวัน”มินโฮเปลี่ยนสัพนามที่ใช้เรียกคนที่อยู่ตรงหน้าเมื่อนึกได้ว่านั้นมันไม่ใช่คำที่เขาควรจะใช่เรียกผู้ชายด้วยกัน
“อืม”มีเพียงคำตอบรับสั้นๆ ส่งออกมา
“….”มินโฮไม่พูดอะไรต่อ แต่กลับคิดว่าเขาควรจะพูดอะไรต่อดีกับคนตรงหน้า ผ่านผู้หญิงมาก็เยอะ ผู้ชายก็อาจจะมีบางแต่กลับคีย์ทำไมเขาถึงรู้สึกประหม่า? ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นหรือเพราะการที่เขาเข้าใจผิดว่าคนตรงหน้าเป็นผู้หญิง ไม่ซิ ทอม ต่างหาก มันเลยต่างกันเหรอ? แล้วเขาควรจะเริ่มมันยังไงดี?
“มินโฮะ!! O_O!!”เพราะมั่วแต่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เลยไม่ได้ยินเสียงของคนรอบข้างเรียกชื่อตัวเองเป็นร้อยรอบแถมเสียงที่เข้าได้ยินชัดเจนกลับเป็นเสียงของคนที่นั่งอยู่ข้างที่ยื่นหน้าเข้ามาซะใกล้ พร้อมกับปากหนาชนเข้ากับแก้มนิ่มๆ ของคีย์อย่างไม่ได้ตั้งใจ
“…..”O_O มินโฮเองก็มองหน้าคนตรงหน้าอย่างตกใจ ปกติเขาไม่ใช้คนที่จะทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนี้อยู่แล้ว เว้นก็แต่มีสาวๆที่เข้ามาอ่อยเขาเองถึงที่แต่นี้มันเหตุสุดวิสัยนะ…. โอเค ยอมรับก็ได้ว่าใบหน้าของคีย์มันดึงดูดในเขาอยากมองใกล้ๆ แต่ก็ไม่คิดว่าคีย์จะหันหน้ามาตอนที่เขายื่นหน้าเข้าไปนิ ไม่ได้ตั้งใจให้โดนแต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ดีใช่ไหมล่ะ
“นาย…”คีย์เองก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนในห้องหันมามองที่พวกเขาเป็นตาเดียว คีย์มองไปรอบๆ อย่างรุกรี้รุกรนก่อนจะยืนขึ้นแล้วรีบเดินก้มหน้าออกจากห้องอย่างรวดเร็ว อยู่ๆ ก็มาหอมแก้มกันกลางสตูดิโอที่คนเยอะๆ แบบนี้เขาก็ต้องอายจนทำตัวไม่ถูกนะซิ
“น้องชายจะฉันรุกเร็วไปไหนนะ”ชเวมินจุนที่ยืนอยู่อีกมุมนึงของห้องเอ่ยขึ้นเป็นคนแรกก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ แน่ละงานแกล้งมินโฮนี่งานถนัดเขาเลย
“ไอ้พี่เวรเอ้ย”มินโฮกระฟัดกระเฟียดรีบออกจากห้องตามคีย์ออกไปด้วยความเร็วก่อนที่เขาเองจะตามไม่ทัน
ดวงตาคมมองตามแผ่นหลังที่เดินออกไปจากห้อง มือบางยกขึ้นมาปิดหน้าตัวเองโดยไม่สนใจทางเดินเลยด้วยซ้ำว่าจะเดินชนกับใครบ้างหรือเปล่า ใบหน้าคมมองตามอย่างเป็นห่วงเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อกี้มันเป็นเหตุสุดวิสัยเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจอยากให้เกิดนะ ขายาวรีบเดินตามคีย์ที่กำลังจะเลี้ยวเข้ามุมไปอย่างรวดเร็วและทันทีที่ถึงตัวมือหนาก็คว้าข้อมือบางเอาไว้ได้ทัน
“เดี๋ยว นายจะไปไหน”มินโฮเอ่ยขึ้นทันทีที่ถึงตัว
“อะไรของนายเล่า ปล่อย”คีย์เอาแต่มองรอบๆ ตัวที่มีคนมองมาทางพวกเขา ก่อนจะพยายามแกะมือปลาหมึกของมินโฮออก
“โกรธเหรอ?”มินโฮถามขึ้น
“โกรธอะไร”คีย์เอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์เสียตอนนี้เขาแทบอยากจะเอาหน้ามุดดินให้รู้แล้วรู้รอด แล้วไอ้หล่อนี้ยังจะตามเขามาอีกทำไมคนอุตส่าห์เดินหนีออกมาจากห้องแล้ว อันที่จริงถ้าเป็นนอกเวลาทำงานหน้ามินโฮคงประมีรอยช้ำเพิ่มขึ้นอีกเป็ฯแน่แต่นี้เขารู้ว่ามันคือเวลางานและลูกน้องก้เต็มบริษัทขนาดนี้จะทำอะไรมันก็ต้องระวัง แต่คนหตรงหน้านี้ซิ
“ชิส์ ทำไมนายถึงเป็นแบบนี้นะ…”มินโฮบ่นกับตัวเองก่อนจะดึงให้คีย์เดินตามตัวเองออกมาทางบันไดหนีไฟ
“นี่ มินโฮนายจะทำอะไร รุ่มร่ามกับฉันที่นี้ไม่ได้นะ”คีย์ที่ดึงมือออกจากพันธนาการจากร่างหนาเมื่อมินโฮปิดประตูและมองสำรวจไปด้านนอกว่าไม่มีใครตามพวกเขามา ดวงตาเรียวมองชายตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจนักยิ่งเข้ามาในที่แบบนี้คนก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่นะซิ
“แต่ถ้าเป็นที่อื่นฉันทำได้ใช่ไหม หืม”มินโฮส่งสายตาเป็นนัยให้กับเขาก่อนที่จะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ พอลับตาคนเมื่อไหร่จากเทพบุตรก็กลายเป็นตาแก่หน้าหื่นขึ้นมาทันที
“ตลกละ”คีย์ตอบก่อนจะข่วนหน้ามินโฮไปที
“ อ๊ะ ฉันเจ็บนะ นายควรจะรู้ไว้ว่าหน้าตาของฉันนะมันสำคัญนะ”มินโฮโพล่งขึ้นเมื่อคีย์ลงมือกับใบหน้าอันหล่อเหล่าที่เขาใช้ทำมาหากินอย่างไม่ออมแรงเลยซักนิด
“แล้วไง หน้านายสำคัญคนเดียวหรือไง นะ…หน้าฉันก็สำคัญเหมือนกันนะ” -///- คีย์ตอบก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทางด้วยใบหน้าขึ้นสีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“คิบอมอา~ วันนี้ฉันขอไปกินข้าวบ้านนายนะ”มินโฮยื่นมือเข้ามาหยิกแก้มขาวอย่างหยอกล้อก่อนที่คีย์จะเอามือปัดออก
“อย่ามาเรียกชื่อฉันแบบนั้นนะ”คีย์หันมาทำหน้าขรึม จริงๆแล้วเขาไม่ชอบชื่อของตัวเองเลยซักนิด เพราะมันไปตรงกับชื่อแฟนเก่าพี่ซูยอนคนแรกที่ทำให้เธอเจ็บจนทุกวันนี้นะซิ คิดแล้วไม่อยากจะนึกถึงคนพันนั้น เขาไม่น่าแนะนำให้พี่ของเขารู้จักกันเลยไม่น่าเลย
“เรียกชื่อแค่นี้ก็โกรธ” -3-
“ไม่รู้อะไรก็ไม่ต้องพูด”คีย์เอ่ยสียงดุ
“อะไรกันเล่า”มินโฮทำแก้มป่องอย่างงอนๆแต่เขาก็รู้ดีคนตรงหน้าไม่ทีทางง้อเขาอยู่แล้ว
“อีกเซ็ตนึงจะเริ่มถ่ายแล้วนะครับ นายแบบนางแบบพร้อมนะฮะ”เสียงของสต๊าฟที่ตะโกนออกมาจากห้องดังขึ้นพอที่จะทำให้พวกเขาทั้งคู่ได้ยิน
“เย็นนี้ไปกินข้าวบ้านนายนะ”มินโฮถามย้ำอีกครั้งเมื่อเวลางานเริ่มเร่งเข้ามา
“วันนี้พี่ซูยอนเขาไปกับพี่นายหนิ จะมาบ้านฉันทำไม”คีย์ถามอย่างไม่เข้าใจ
“อ่อ งั้นดีเราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันสองคน” มินโฮทำหน้าเจ้าเล่ห์อีกครั้งก่อนจะเดินออกไปอีกทางอย่างรวดเร็วเมื่อทั้งคู่เดินเข้ามาในห้องอีกครั้ง พร้อมๆ กับที่คริสตัลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าอารมณ์ไม่ดีตามด้วยจงฮยอนที่เดินเข้ามาส่ายหัวอย่างกับการรับมือของเธอมันหนักอย่างนั้นแหละ (แต่มันก็หนักจริงๆและถ้าพูดถึงยัยนี้)
“ไง”
“ไง อะไรละ ปวดหัวกับยัยนี้ชะมัดไม่รู้จะกลับมาทำไม”
“ถ่ายแบบ”คีย์ชี้ให้จงฮยอนดูตรงหน้า
“เออ รู้แล้ว”จงฮยอนถอนหายใจก่อนจะนั่งลงข้างๆ กับคีย์
“เป็นคนบอกเลิกเองแท้ๆ ยังจะมาเรียกร้องเนอะ”คีย์เอ่ย ถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของจงฮยอนกับคริสตัล มันเป็นเรื่องเมื่อสามปีก่อนที่คริสตัลจะย้ายไปเรียนต่อเมืองนอก พร้อมๆกับผู้ชายคนใหม่ของเธอ และเธอเองนั้นแหละที่บอกเลิกจงฮยอนอย่างไม่ใยดีพร้อมกับทำลายทุกอย่างที่เขามีให้เธอจนหมด ยัยนี้นะร้ายกว่าที่คิด
“ทำตัวน่ารำคาญชะมัด”
“เขาว่า เพราะหมดรักแล้วอะไรๆ ก็ดูแย่ไปหมดจริงมะ?”คีย์เอ่ยอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มที่ให้กำลังใจเพื่อนซี้อย่างจงฮยอน เขารู้ว่าจงฮยอนใช้เวลานานกว่าจะลืมเธอได้แล้วนี้อยู่ๆ ก็กลับมาพร้อมกับการเรียกร้องสิทธิที่เธอทิ้งมันไปจากเขาแล้วสำหรับผู้ชายคนนึงที่ผู้หญิงทิ้งอย่างไม่แคร์เหมือนจงฮยอน เหมือนเธอตั้งใจจะกลับมาเหยียบเขาอีกครั้งให้รู้ว่าเธอนะ มีความสำคัญเสมอ
“อย่ามาย้ำคำพูดของยัยนั้นให้ฉันได้ยินได้ไหม” - -+ จงฮยอนเอ่ย คีย์รู้ทุกอย่างทุกสถานการณ์นั้นแหละก็เขาน่ะตัวติดกันจนบางครั้งคนอื่นก็มองว่าพวกเขาคบกัน เพราะพวกเขาไม่เคยมีแฟนเลยด้วยซ้ำ แต่ตั้งแต่คริสตัลเข้ามามันเลยทำให้ทุกคนที่มองพวกเขาแบบนั้นคิดใหม่ เขาเป็นแฟนของคริสตัล และคีย์คือเพื่อนสนิท และพวกเขาสามคนก็มักจะอยู่ด้วยกันเสมอ
“นายว่าแฟนยัยนั้นหายไปไหน”คีย์ถาม
“ไม่รู้ แต่ฉันว่าโดนทิ้ง”จงฮยอนเอ่ยเพราะไม่มีซักครั้งที่คริสตัลจะเป็นคนที่จะไม่ตัดสินใจอะไรเอง ยัยนี้เอาแต่ใจเป็นที่สุด
“ลองคิดใหม่ซิ ไม่มีผู้ชายคนไหนทนได้ที่มีแฟนเอาแต่ใจและไม่เข้าใจตัวเองเหมือนนายหรอก”คีย์เอ่ยไปก็หัวเราะไปเมื่อนึกถึงตอนนั้น จงฮยอนนะยอมคริสตัลจะตาย
“นั้นมันเมื่อก่อน ไม่ใช่ตอนนี้”ร่างหนาพูดอย่างอารมณ์เสีย
“ทำให้ยัยนั้นเห็นไปซิ”คีย์ท้าวคางก่อนจะหันมาส่งสายตาเป็นนัยน์
“อะไร?”จงฮยอนถามอย่างสงสัย
“ทำให้ยัยนั้นรู้ไปเลยว่า เธอ ก็แค่แฟนเก่าที่นายไม่แคร์
T I M E 2 L O V E
BMW หยุดสนิทหน้าคอนโดหรูใจกลางเมืองของกรุงโซล แต่กลับไม่มีอะไรใครซักคนที่จะออกจากรถเลยซักคนคีย์มองคริสตัลผ่านกระจกหลังว่าเธอจะเอายังไงกันแน่ทั่งทีมาถึงคอนโดของตัวเองแล้วแต่ก็ไม่ลงไปซักที อันที่จริงมือเรียวสวยนั้นกำลังฉุดเพื่อนเขาให้ลงไปด้วย คีย์ส่ายหัวกับภาพที่เห็นอย่างเหนื่อยใจอะไรจะเอาแต่ใจขนาดนั้น
“ถึงแล้ว ลงกันเถอะจงฮยอน”คริสตัลเอ่ยขึ้นคนแรกหลังจากที่มินโฮอาสามาส่งเธอที่คอนโดเพราะตัดปัญหาเรื่องที่จงฮยอนไม่ยอมขึ้นรถส่วนตัวชองบริษัทที่จัดหาให้โดยไม่มีจงฮยอน
“คอนโดเธอก็ลงไปดิ”จงฮยอนเอ่ยก่อนที่จะชักแขนออกอย่างไม่สนใจเมื่อคริสตัลพยายามดึงเขาออกจากรถ
“อะไรของนายเนี่ย!”คริสตัลเริ่มขึ้นเสียงอีกครั้งของวัน วันนี้ทั้งวันเธอเอาแต่หัวเสียกับคนตรงหน้าไม่ยอมทำตามใจเธอเลยซักครั้ง
คีย์แทบอยากจะเอามือปิดหูเมื่อได้ยินเสียงแหลมกันมาตะโกนใส่หน้าจงฮยอน จะทำอะไรช่วยเกรงใจเจ้าของรถบ้างเถอะอุตส่าขอเอารถพี่ซูยอนมาส่งเพราะรถของมินโฮนั่งสี่คนไม่ได้ แต่ยังจะมากระโกนร้องง๊องแง๊งโวกแวกโวยวายในรถชาวบ้านเขาอีก ถ้าไม่ติดว่าเป็นเด็กในบริษัทพี่จะตบให้หน้าหงายเลย
“จริงๆ เธอลงไปคนเดียวน่าจะดีกว่านะ ลงไปพร้อมกันเดี๋ยวก็เป็นข่าวหรอก”มินโฮเอ่ย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลยก็ตาม แต่การที่ผู้หญิงจะพาผู้ชายขึ้นคอนโดมันก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก
“อือ นั้นซิเดี๋ยวจงฮยอนค่อยเดินตามไปทีหลัง เนอะๆ”คีย์หันมาช่วยมินโฮพูดกับคริสตัล แต่นั้นยิ่งทำให้คริสตัลไม่พอใจเข้าไปใหญ่ก็เธอไม่ได้ชอบคีย์ซักเท่าไหร่หรอก เห็นแล้วก็หมั่นไส้ผู้ชายอะไรทำตัวอย่างกับ…. ชิส์
“ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ฉันก็พร้อมจะเปิดตัวอยู่แล้ว”คริสตัลหันไปส่งสายตาจิกใส่คีย์ และนั้นก็ทำให้คีย์ทำหน้าจิกกัดตอบก่อนจะหันไปนั่งนิ่งๆ เหมือนเดิม
“ลงไปได้แล้ว รู้หรือเปล่าเธอกำลังทำตัวน่ารำคาญอยู่”จงฮยอนเอ่ยอีกครั้ง
“นายก็ลงไปกับฉันซิ”
“ลงไปเหอะ ผู้หญิงเขาให้ท่าขนาดนี้แหละ”คีย์พูดลอยๆออกมา แต่นั้นก็ทำให้คริสตัลได้ยินจนควันออกหู
“นายหมายความว่ายังไงห๊ะ ”
“ฉันจะไม่ลงจนกว่าเขาจะไปส่งนายที่บ้านก่อน”จงฮยอนเอ่ยอีกครั้ง
“อะไรน่ะ!!”คริสตัลได้ยินดังนั้นก็ขึ้นเสียงทันทีก่อนที่จะส่งสายตาอาฆาตมาทางจงฮยอน
“ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวพี่ซูยอนก็กลับ นายลงไปเถอะฉันว่าตอนนี้มินโฮเขารำคาญแล้วแหละ ฉันก็ด้วย นายก็ด้วยใช่ไหม?”คีย์ถามจงฮยอนเพื่อเน้นย้ำกิริยาของคริสตัลที่ทำตัวไม่สุภาพเอาซะเลย ดูเหมือนเธอเองก็ไม่แคร์สิ่งที่เขาพูดอยู่แล้วด้วย
“….ชิส์ โยนขี้มาให้ชัดๆ”พูดจบจงฮยอนเองก็จำใจเดินลงมาจากรถโดยที่ไม่คิดจะทำหน้าที่ สุภาพบุรุตเปิดประตูให้ร่างบางเลยซักนิดเขาเอาแต่จ้ำอ้าวเดินเข้าไปในคอนโด อย่างไม่รอและนั้นก็ทำให้คริสตัลเองรีบลงไปจากรถทันที
“สองคนนั้นเขาเป็นแฟนกันจริงอะเหรอ”หลังจากที่เงียบอยู่นาน มินโฮก็เอ่ยขึ้นเมื่อเคยคริสตัลว่าระหว่างเธอกับไอ้เตี้ยจงอยอนเป็นอะไรกันแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอบอกเขาเลยซักนิด
“ก็แค่แฟนเก่านะ”
“หืม ง้อขนาดนี้ยังไม่คืนดีเลยเหรอ ดูเหมือนอย่างหล่อนยากนะที่จะง้อคน”
“ถ้าไม่อยากได้อะไรก็ไม่ทำไง แล้วจะกลับได้ยังถามอยู่นั้นแหละ”คีย์ทักขึ้นทันทีที่เขาอยู่ตรงนี้มานานพอสมควร เขาอยากกลับบ้านไปนอนใจจะขาดอยู่แล้ว
“โอเคครับ เจ้านาย”มินโฮเอ่ยรับอย่างทันทีเมื่อได้ยินคำว่าบ้านของร่างบาง และเขาก็ใช้เวลาไม่นานนักที่จะเหยียบคันเร่งให้มาถึงบ้านหลังไม่ใหญ่ไม่โตของคีย์
ทันทีที่รถจอดคีย์ก็รีบออกมาจากรถทันทีก่อนจะรีบเปิดรั่วบ้านแล้วพาตัวเองเข้าไปแต่นั้นมันจะทันคนที่ขายาวกว่าเขาได้ยังไง มินโฮลงมาจากรถตอนไหนกันถึงได้มายื้อประตูบ้านเขาเร็วขนาดนี้
“เดี๋ยว วันนี้นายสัญญาจะทำข้าวให้ฉันกินนะ ชิ่งลงมาจากรถก่อนได้ไงแถมยังจะปิดประตูหนีด้วย ใจร้ายนะเนี่ย”มินโฮใช้แขนแข็งแกร่งของเขาดันประตูรั้วเอาไว้พร้อมกับขาอีกขาที่ช่วยให้ประตูมันไม่หนีบหน้าเขา
“ใครบอก ฉันบอกว่าวันนี้พี่ซูยอนไม่อยู่ ไม่ต้องมาต่างหาก”คีย์พูดจบก็ดันประตูปิดแต่นั้นก็เพียงนิดเดียว ก็คนดันอีกด้านตัวใหญ่กว่าเขาอีกนี่นา
“อย่ามามั่ว นายจะใจร้ายกับคนที่ทำงานมาทั้งวันที่ยังไม่ได้พัก ข้าวกลางวันก็ไม่ได้กิน แถมยังมาส่งนายถึงบ้านพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนของนายหรือยังไง”มินโฮเอ่ยยาว แล้วนั้นก็ทำให้คีย์หน้ายู่ทันทีก็เล่นมาคลุกกับเขาทั้งเช้า เที่ยง เย็น เวลาพักก็ไม่ยอมไปกินมายุ่งกับเขาแถมยังอาสามาส่งที่บ้าน นี่เขายังไม่ได้คิดดอกเมื่อตอนหกลางวันเลยนะที่อยู่ๆ ก็มาหอมแก้มกลางงานประเจิศประเจ่อ แล้วยังจะมาเรียกร้องอีก
คนตัวเล็กกว่าได้แต่ชั่งใจกับคนตรงหน้าเพราะดูจากท่าทางแล้งคงจะไม่ลามือจากการเกาะประตูเป็นปลิงได้ก็เลยปล่อยให้ร่างสูงเดินเข้าบ้านมาอย่างสบายใจแถมยังยิ้มให้เขาอย่างกับคนที่แย้งขนมจากมือเด็กน้อยได้
“แหม ทำตัวพูดง่ายก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย”มินโฮเอ่ยขึ้นก็จะยิ้มอย่างดีใจ
“ชิส์” คีย์เดินเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ตอนไหนเขาแพ้คำหยอดของมินโฮไปซะหมด วันนี้ทั้งวันเลยทำให้หน้าเขาร้อนผ่าวตลอดเวลา แต่ที่ให้เข้าบ้านมาเพราะสงสารหรอกนะ สงสารอ่ะ เห็นทำงานมาทั้งวัน อีกอย่างมาทำงานให้พี่เขาด้วยก็แค่ช่วยซัพพอร์ตเฉย แค่นั้นเอ๊ง >////<
“หิวแล้ว ทำอะไรให้กินหน่อยนะ”มินโฮที่เดินตามหลังคีย์เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“รู้แล้ว”คีย์เลยต้องเดินเข้ามาในครัวเพื่อหาของที่มีอยู่ทำให้ แต่มันก็มีแต่ไข่ไก่สองฟองเท่านั้นเอง
“นี้นายกินของง่ายๆเป็นไหม?”คีย์เดินออกมาถามตรงหน้าห้องครัว มินโฮเงยหัวขึ้นมาจากโทรทัศน์ที่เขาเพิ่งเปิดก่อนจะตอบร่างบางที่อยู่ในชุด ผ้ากันเปื้อนสีชมพู
“อะไรก็ได้ที่นายทำนั้นแหละ”มินโฮส่งยิ้มมาให้ก่อนจะหันไปสนใจโทรทัศน์ต่อ
“อ่อ” งั้นก็ข้าวผัดธรรมดาแล้วกันนะ เย็นนี้พี่ซูยอนคงซื้อของเข้าบ้านแหละ และเพียงไม่กี่นาทีข้าวผัดที่ว่าก็มาอยู่ตรงหน้าของมินโฮ
“อะไรเนี่ยมันไม่มีอะไรเลยเหรอข้าวผัดนาย”มินโฮตักขึ้นมาดูก่อนที่จะเริ่มพูดประโยคที่ไม่เข้าหูเอาซะเลย
“ไหนบอกอะไรก็ได้ไง งั้นก็ไม่ต้องกิน กลับบ้านไปเลย”คีย์ที่ทำท่าจะดึงช้อนออกจากมือของร่างสูงแต่ก็ถูกชักกลับไปก่อน
“ล้อเล่นน่ะ ล้อเล่น”มินโฮส่งยิ้มกวนประสาทมาอีกครั้ง
“ล้อเล่นให้มันถูกเวลามั่งเหอะ”คีย์ลงมือกินข้าวในจานของตัวเองก่อนที่จะไม่สนใจร่างสูงอีกต่อไป คนอุตส่าห์ทำให้กินยังจะมาบ่นอีก แล้วคีย์ก็ได้แต่ระบายอารมณ์กลับจานข้าวของตัวเอง
สองทุ่มกว่าแล้วนะ ทำไมพี่ซูยอนยังไม่กลับอีกเนี่ยเอาใหญ่แล้วพี่สาวเราเที่ยวกับผู้ชายจนดึกแบบนี้ได้ไง คีย์เงยหน้ามองนาฬิกาที่มันกำลังเดินทางไปจนจะถึงสามทุ่มอยู่แล้วพี่สาวเขาก็ยังไม่ดลับซักที
“พี่นายพาพี่ฉันไปกินข้าวที่ไหนเนี่ย ทำไมกลับดึกแบบนี้นะ”
“มินจุนน่ะเหรอ เขาไม่ทำอะไรหรอกนอกจากพาไปเที่ยว ดูหนัง แล้วก็นั่งชมสงจันทร์บนรถ อะไรทำนองนั้น เดทที่โคตรไร้สาระของเขาละ” มินโฮหันมาพูดกับคีย์ที่ยืนรออยู่หน้าประตูบ้าน
“ทำอย่างกับตัวเองดีตาย”คีย์เอ่ย
“อยากลองไหมล่ะ ฮะๆ”มินโฮหัวเรากวนประสาทครั้งที่ร้อยล้านรอบของวัน ดูเหมือนวันนี้คีย์ชักจะปวดหัวกับเขาซะจริงๆ
“แล้วเมื่อไหร่นายจะกลับ”
“จะกลับได้ไงรถอยู่ที่บริษัทนายนะ ฉันก็ต้องรอให้มินจุนมาส่งพี่สาวนายน่ะซิ” คีย์นี่กะจะไล่ให้เขากลับบ้านอย่างเดียวเลยใช่ไหม
“มานี่ มาตรงนี้”ยังไม่ทันที่ก้นจะติดโซฟามือแกร่งก็ดึงคีย์ให้ไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกัน ก่อนที่ร่างสูงจะล้มตัวนอนที่ตักนุ่มๆของคีย์
“เฮ้ย จะทำอะไรของนาย”คีย์เริ่มโวยวายแต่มินโฮก็จับมือนั้นไว้
“นิ่งๆเหอะน่า ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะ ง่วงจะตายแล้ว”
“เดี๋ยวไปเอาหมอนให้ก็ได้ ออกไปจากฉันเดี๋ยวนี้นะเว้ย”
“แค่แปปเดียว แค่รอพี่นายมาเท่านั้นเองน่า นะๆ”แล้วมินโฮก็หลับตานอนอย่างสบายใจโดยไม่สนใจร่างบางเลยซักนิด วันนี้เขามีความสุขที่สุดเลยละ
….แค่รอพี่ซูยอนมาเท่านั้น เดี๋ยวมินโฮก็กลับ….
แล้วไม่มีใครบอกหรือไงว่าการมานอนแล้วปล่อยให้เขานั่งอยู่คนเดียวกับแสงไฟแบบนี้มันทำให้เขาก็ง่วงได้เหมือนกัน…..
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มินโฮก็ยังคิดว่าคีย์เป็นทอมอยู่ ทอมเอ๊กซ์ซะด้วย อิอิ
โถๆๆ มินโฮเอ๋ย =_= ตาถั่วซะจริงนะแก
คิมคีย์ อาการเดียวกันเลย..
แน่ะๆๆๆ..ชเวโฮ..แอบชอบคีย์แล้วหล่ะสิ 5555
ไฟติงงงง
น่าหนุกแล้ว
ฮ่าๆๆๆๆ
แล้วโฮจะทำไงนะเมื่อมาทำงานกะพ่อตัวเอง
รอๆๆๆๆนะคะ
รอมินคีย์นะคะ แหมออมม่าแค่เฮีย
ขยี้ผมแค่นี้ทำเพ้อเลยหรอเนี่ย
ว่าตรงไหนเป็นคำพูดของตัวละคร ทำให่อ่านยากนิดนึงค่ะ
รอตอนต่อไปค่ะ ^^