ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องบ้าๆ ของผม

    ลำดับตอนที่ #7 : ย้ำอีกครั้ง ตัวร้ายที่ดีต้องมีมาด!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.39K
      1
      10 มี.ค. 53

    ย้ำอีกครั้ง ตัวร้ายที่ดีต้องมีมาด!

    นึกภาพตามลำดับดังนี้...

        1. ห้องเสื้อสุดหรูของห้างใหญ่สุดโออ่าอลังการล้ำสมัย มีเสื้อผ้าให้เลือกมากมายไม่ซ้ำแบบสำหรับทุกโอกาสที่นึกได้ และมีพนักงานแอนดรอยด์ที่เหมือนคนจนแยกไม่ออกคอยบริการอย่างดี

        2. นางเอกมากับเพื่อนสนิทกำลังเลือกชุดจะใส่ไปงานเลี้ยงทั้งที่ปกติเธอไม่ค่อยได้ออกงานสังคมนัก หรือในกรณีที่เป็นนางเอกบ้านนอกใสๆ เพิ่งเข้ากรุง เธอก็กำลังคิดจะแปลงโฉมให้สมาร์ททันสมัยมากขึ้น เพื่อให้พระเอกเลิกด่าเธอว่าบ้านนอกสักที

        3. นางเอกจะเปลี่ยนชุดออกมาโพสต์ท่าให้เพื่อนดู แล้วถามความคิดเห็น

        4. เพื่อนก็จะส่ายหน้า สั่นหัว ปฏิเสธ เอามือกุมหน้าผาก หรือท่าทางอะไรก็ได้ที่บอกว่ารับไม่ได้

        5. ย้อนกลับไปทำข้อสามและสี่จนกว่าเพื่อนจะพอใจ หรือชุดหมดร้านแล้วเพื่อนปิ๊งไอเดียเก๋ไก๋ไฉไลบางอย่างได้

    คิดว่าเท่านี้คุณก็คงพอเห็นภาพแล้วว่าผมกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน แทนที่นางเอกในสมการข้างต้นด้วยตัวผม แล้วเปลี่ยนจุดประสงค์จากการพิชิตใจพระเอกมาเป็นการเป็นตัวร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (เพื่อพิชิตใจสาวทั้งหลาย) ส่วนเพื่อนที่มาด้วยก็หนีไม่พ้นเชนกับเนฮีเดีย และอันที่จริง ผมไม่จำเป็นต้องเข้าห้องลองไปเปลี่ยนชุดแบบในยุคของพวกคุณ ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นไปอย่างที่ต้องการได้เร็วกว่านั้นเยอะ แต่เพื่อให้เข้าถึงความลำบากของผมยิ่งขึ้น นึกภาพแบบในยุคก่อนตามก็ดีแล้ว

    ผมลองชุดจากทุกอารยธรรมที่เคยมีมา ลองแต่งเป็นตัวร้ายจากนิยาย การ์ตูน ภาพยนตร์ เกม... จากสื่ออะไรก็แล้วแต่ที่มีตัวร้ายปรากฏอยู่ แต่เชนก็ยังไม่พอใจ (เนฮีเดียนั่งอยู่เฉยๆ เสียส่วนใหญ่) ชีวิตผมจึงวนเวียนอยู่ที่ข้อสามและข้อสี่ ไม่ผ่านเงื่อนไขของข้อห้าสักที และเนื่องด้วยร้านนี้มีชุดให้ลองไม่มีหมดสิ้น ทางออกเดียวของผมจึงเป็นต้องรอให้นายเชนปิ๊งไอเดีย... คิดแล้วผมก็อยากร้องไห้ขึ้นมา เนฮีเดียช่วยผมด้วย...

    เหมือนคำร้องขอของผมจะส่งไปถึงเธอได้ทางกระแสจิต จู่ๆ หญิงสาวในฮู้ดหน้าแมวสีเหลืองก็พูดขึ้นว่า

    ลองเป็นตัวร้ายในแบบของคุณเองดีไหมคะ”

    ช่างเป็นคำพูดของอัจฉริยะโดยแท้ เนฮีเดียหาทางออกให้ผมด้วยการข้ามข้อห้ากระโดดไปข้อหกที่ผมเพิ่งนึกขึ้นได้

    ข้อหกคืออะไรน่ะหรือ...

    ข้อหกคือบทสรุปของการเลือกชุด แม้นางเอกจะมีชุดราตรีสวยเลิศใส่ไปงานเลี้ยงจนทุกคนเห็นแล้วตกตะลึง เธอจะได้เต้นรำกับพระเอก เดินสะดุดชายกระโปรงหน้าคะมำ ถูกนางร้ายกลั่นแกล้งทำน้ำแกงหกใส่หรือไม่ก็แล้วแต่ สุดท้าย เช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็ต้องกลับมาแต่งชุดเดิมตามสไตล์ของเธออยู่ดี (ในกรณีของนางเอกบ้านนอกเข้ากรุง เรื่องอาจจบที่เธอเดินขากะเผลก ถือร้องเท้าส้นสูงที่ส้นหักไปแล้วกลับ แล้วพระเอกก็จะตามมาพูดง้อเอาใจ บอกว่าเธอสวยแบบบ้านนอกก็ดีอยู่แล้ว ทั้งที่ความจริงคือนางเอกแต่งชุดชาวเมืองแล้วสวยเกินไป พระเอกกลัวคนจะมาเห็นความงามนี้เข้าแล้วแย่งตัวเธอไป)

    ออกไปเรื่องนางเอกเสียนาน ลากกลับมาที่เรื่องของผมก่อน

    หลังจากที่เนฮีเดียเสนอขึ้นมา ผมและเชนก็ต่างสนใจความคิดนี้ของเธอ เพราะต่างก็เบื่อกับการทดลองสุ่มหาชุดที่เหมาะกับมาดตัวร้ายของผมแล้ว

    นั่นสิ ก่อนหน้านี้นายเป็นอะไรมาก่อนล่ะวะ” เชนกอดอก หันมามองผมอย่างพิจารณาเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนในรอบวัน

    เป็นคนธรรมดา” ผมตอบ

    คืออะไรวะ” เชนถามด้วยสีหน้าไม่ค่อยเข้าใจสักนิด ทำอย่างกะว่าคลื่นแปลภาษาของเขาทำงานผิดปกติไปอย่างนั้นแหละ

    ธรรมดาในที่นี้เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึงสามัญ พื้นๆ ปกติ” เนฮีเดียอธิบาย

    ผมอยากขอบคุณเธอที่ช่วยตอบแทนผม และก็อยากบอกเธอว่าไม่ต้องพูดเป็นพจนานุกรมขนาดนั้นก็ได้ เธอเริ่มทำผมสงสัยแล้วว่าสิ่งที่เธอพูดมาเป็นข้อมูลจากความจำในสมองของเธอจริงๆ หรือเปล่า พวกนักปราชญ์ นักวิชาการ และคนแก่เรียนทั้งหลายในยุคนี้ยิ่งชอบติดตั้งระบบค้นหาข้อมูลหรือแปลความหมายขั้นสูงเอาไว้กับตัวเอง แล้วแปลงความรู้ทั้งมวลเก็บไว้ในรูปแบบของข้อมูลที่เชื่อมโยงถึงได้โดยง่าย เสมือนว่าถ้าองค์ความรู้ภูมิปัญญาของพวกเขายังอยู่ในระบบ พวกเขาก็จะยังมีชีวิตอยู่ต่อไป แนวคิดเช่นนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหนือกว่าความเข้าใจของคนธรรมดาอย่างผม แต่ถ้าเนฮีเดียเป็นอย่างนั้นจริงผมก็คง...

    ผมยังไม่ทันคิดว่าผมควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเสร็จเลย เสียงของเชนก็ดึงความคิดของผมมายังอีกเรื่อง

    แล้วมันเป็นอย่างไรล่ะ ไอ้คนธรรมดานั่น”

    อา... ผมชักเริ่มเข้าใจความปรารถนาของพ่อแม่ที่อยากให้ผมเป็นคนธรรมดาขึ้นมาบ้างแล้ว คนธรรมดาคงเป็นบุคคลหายากในโลกเพี้ยนๆ ใบนี้ที่พวกท่านอยากอนุรักษ์เอาไว้

    เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดมาให้ดู” ผมบอกเขาไปเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาก แสดงให้ดูเลยคงดีที่สุด

    แล้วผมก็กลับมาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยาวขาตัวเก่งที่สุดแสนจะธรรมดาอีกครั้ง

    เออ ดูเข้ากับนายดีว่ะ” นั่นคือคำชมที่ผมได้จากเชนเป็นครั้งแรก สมควรยิ่งที่จะจดบันทึกเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่

    เหมาะกับคุณมากเลยค่ะ” แม้แต่เนฮีเดียก็ยังเห็นดีด้วย

    ผมรู้สึกอยากยิ้มรับทั้งน้ำตา คนธรรมดาท่ามกลางหมู่คนบ้าก็คือคนแปลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสินะ

    พวกนายไม่เคยเห็นคนแต่งตัวอย่างนี้มาก่อนเหรอ” ผมถามไป

    เชนส่ายหัว กล่าวว่า

    ไม่เคย หรืออาจจะเคยแต่ไม่ได้สังเกต”

    คำพูดของเชนทำให้ผมตระหนักว่าผมแตกต่างจากคนอื่นเพียงใด เมื่อก่อนผมอยู่ในสังคมที่มีคนแต่งตัวคล้ายๆ ผมอยู่บ้าง เพราะตอนไปเรียน เพื่อนร่วมชั้นบางคนก็แต่งตัวแนวนี้ แต่ส่วนใหญ่พวกนั้นก็มุ่งจะศึกษาในระดับสูงต่อไปทั้งนั้น ผมเคยคิดว่าตัวเองรอบรู้กว้างขวางเพียงพอ แต่เชนที่แม้จะไม่ได้ศึกษาสูงเท่าผมก็ดูจะรอบรู้ในอีกด้านหนึ่งที่ต่างจากผมเช่นกัน ดังนั้นผมจึงบอกไม่ถูกว่า เป็นตัวผมหรือเชนอยู่ในกรอบสังคมที่ปิดกั้นกันแน่ บางทีอาจใช่และไม่ใช่ทั้งคู่

    คิดมากไปก็เท่านั้น ช่างหัวมันดีกว่า

    แสดงว่ามันไม่เด่น ไม่เป็นที่จดจำน่ะสิ”ผมถามต่อ

    ไม่หรอก แบบนี้เข้ากับนายดีแล้ว เห็นครั้งเดียวก็จำได้ นายเหมาะกับชุดนี้ที่สุด” ว่าแล้วเชนก็ยิ้มกว้างจนเห็นฟันเขี้ยว เป็นการให้กำลังใจที่ชวนสยองอยู่ชอบกล

    ผมหันไปทางเนฮีเดียบ้าง รอคำตอบจากเธอ แต่เธอก็ไม่ได้กล่าวอะไร ตอนนั้นเองที่ผมฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้

    ถ้านางเอกต้องกลับมาเป็นตัวของตัวเองทุกครั้ง ต้องกลับมาแต่งชุดเดิมๆ ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ตามคติที่ว่า 'เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด' เสมอ ถ้าเธอค่อนข้างพอใจในวิถีแบบเก่าอยู่แล้วก็คงไม่เป็นไร (ซึ่งนางเอกก็มักจะสวยและใส่อะไรก็ดูดีอยู่แล้ว จึงไม่เป็นไร) แต่ถ้าเป็นกรณีของนางเอกอ้วนฉุหน้าตาน่าเกลียดที่อยากเปลี่ยนตัวเองบ้างล่ะ เธอไม่มีสิทธิ์จะเปลี่ยนเป็นคนอื่น เป็นคนที่เธออยากเป็น เป็นคนที่ดีกว่าเก่าบ้างหรือไง

    ด้วยเหตุนี้ ผมจึงคิดเสียใหม่ว่า แนวทางปฎิบัติในข้อหกน่าจะใช้ได้ดีกับคนที่มีดีในตัวอยู่แล้วเท่านั้น

    แต่ว่าถ้าผมอยากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนธรรมดาบ้างล่ะ”

    แล้วนายไม่ชอบเป็นคนธรรมดาหรือไง” เชนช่างถามได้ตรงจุดดีแท้

    จริงสินะ ผมยังไม่ได้ถามคำถามนี้กับตัวเองเลย เพราะแค่คิดในกรณีของคนอื่นที่อยากเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

    การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีความไม่พึงพอใจในสภาพที่เป็นอยู่ในระดับที่มากพอ” เนฮีเดียกล่าวอะไรยากๆ เสริมให้ผมคิดอีก

    อา... นั่นสิ ถ้าถามว่าผมพอใจในการเป็นคนธรรมดาไหม ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน เนื่องจากการเป็นคนธรรมดาที่ต่างจากคนอื่นเขาก็ไม่ได้ลำบากอะไร แต่เมื่อผมไม่เคยเป็นอย่างอื่นมาก่อนแล้วจะเปรียบเทียบได้อย่างไรล่ะ ผมได้แต่เดาๆ เอาเท่านั้นว่าคนอื่นคิดหรือรู้สึกอย่างไร ไม่เคยได้เป็นจริงๆ เสียหน่อย ดังนั้นผมจึงตอบไปว่า

    ก็ไม่ได้ไม่ชอบหรอกนะ แต่ก็ไม่เคยเป็นอย่างอื่นนอกจากคนธรรมดามาก่อน เลยไม่รู้ว่าจะเอามาเปรียบเทียบกันได้ยังไง”

    นายก็กำลังจะเปลี่ยนจะคนธรรมดาที่เป็นคนดี มาเป็นคนธรรมดาที่เป็นคนเลวอยู่แล้วนี่” เชนบอก เขาช่วยไขหนทางสว่างให้ผมเลยล่ะ

    ถ้าไม่พอใจก็ค่อยๆ เปลี่ยนก็ได้ค่ะ ไม่ต้องรีบร้อน” เนฮีเดียให้กำลังใจผม

    ใช่ๆ ผมกำลังจะเปลี่ยนเป็นคนเลวนี่นา เรื่องอื่นๆ ไม่ต้องไปคิดให้มากความก็ได้ กลับมาที่เป้าหมายหลักดีกว่า

    แล้วคนธรรมดาจะเป็นตัวร้ายที่ร้ายกาจสุดๆ ได้อย่างไรกันล่ะ” ผมสลัดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องในหัวทิ้งไป แล้วกลับมาที่ประเด็นปัญหาเดิม

    ก็เป็นคนธรรมดาที่คิดจะยึดครองโลกไง” ชายผมส้มว่า

    นั่นก็จริง แต่ผมยังคงยืนยันว่าผมไม่อยากเป็นแบบเชน

    เมื่อหวังพึ่งใครไม่ได้ ผมก็ต้องคิดเองอีกครั้ง

    ตัวร้ายที่ดีต้องมีมาด” ผมย้ำกับตัวเองดังๆ

    จะเป็นคนธรรมดาที่ร้ายลึกก็คงได้อยู่ ตัวร้ายประเภทที่ว่าไม่จำเป็นต้องแสร้งทำตัวเป็นคนดีอย่างตัวร้ายของเนฮีเดีย หากเป็นตัวร้ายที่แต่งตัวธรรมดา ประพฤติตัวเลวทรามอย่างเปิดเผย มีความคิดโฉดชั่วฉายเด่นชัดบนใบหน้า สื่อออกมาทางแววตาและรอยยิ้ม ถ้าโลกนี้เป็นโลกที่สามารถคิดอะไรก็ได้สมดังปรารถนาแล้ว บางทีเพียงแค่ผมคิดร้ายอยู่ในใจก็อาจกลายเป็นตัวร้ายในคราบคนธรรมดาที่ร้ายกาจที่สุดได้เช่นกัน

    ใบหน้าของคุณอันเวสตอนนี้ดูชั่วร้ายสุดๆ ไปเลยค่ะ” เสียงหวานๆ ของเนฮีเดียลอยมากระทบหูให้ผมชื่นใจ

    จริงเหรอ”

    เชนพยักหน้าหนักๆ แต่แล้วก็เปลี่ยนมาส่ายศีรษะแทน

    ตอนแรกที่นายอยู่นิ่งๆ ก็ดูชั่วร้ายดีอยู่หรอก แต่พอนายทำหน้ายิ้มแป้นเป๋อเหลออย่างนี้ มันก็น่าชกสักเปรี้ยง”

    ผมหุบยิ้มทันทีที่เห็นเชนตั้งต้นยกหมัดขึ้น พลางสั่งตัวเองให้กลับมาคิดชั่วร้ายเข้าไว้ เชนไม่ได้ชกผมอย่างที่ขู่ ผมจึงถือว่าความพยายามประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดี

    ถึงแม้ผมจะสามารถทำสีหน้าชั่วช้าสามานย์ได้แล้ว แต่เท่านั้นก็ยังไม่พอ ขอย้ำอีกครั้งว่า ตัวร้ายที่ดีต้องมีมาด และมาดก็หมายถึงกิริยาท่าทางทั้งหลาย ดังนั้นผมควรจะคิดเตรียมไว้สำหรับทุกสถานการณ์

    เริ่มต้นที่...การหัวเราะอย่างมีมาดล่ะกัน

    ผมเคยได้ยินเสียงหัวเราะของเชนแล้ว ฟังชั่วร้ายสมเป็นเชนทีเดียว ส่วนของเนฮีเดีย... เธอคงคิดไว้ให้ตัวเองแล้วละมั้ง อีกอย่างตัวร้ายแนวนั้นก็ไม่ค่อยหัวเราะ ถึงหัวเราะก็คงหัวเราะอย่างสุภาพชน สุดท้ายปัญหาก็กลับมาตกอยู่ที่ผมคนเดียวอยู่ดี คิดเอง ทำเอง ใช้เองจริงๆ

    พวกนายคิดว่าคนธรรมที่เป็นตัวร้ายควรจะมีเสียงหัวเราะแบบไหนดีล่ะ ฮ่าๆ ฮิๆ หุๆ หะๆ ฮี่ๆ ฮึๆ โฮะๆ คิๆ คุๆ หึๆ ฮะๆ โฮๆ ห้าๆ ฮาๆ เหอๆ หาๆ เหอะๆ เฮอะๆ เฮอๆ หรือแบบไหนดี”

    เชนเหลือกตามองผม ทำหน้าเหมือนกำลังฟังผมพูดภาษาต่างดาว เขาใช้เวลาสักพักจึงเข้าใจว่าผมต้องการจะถามอะไร แล้วค่อยตอบ

    อย่าเอาเสียงหัวเราะแบบตัวหนังสือมาใช้ชีวิตจริงสิวะ มีใครเขาหัวเราะแบบนั้นกันซะที่ไหน”

    ก็พอมีอยู่บ้าง พวกอินเทอร์เนตลิซึมหรือว่าพวก...”

    แล้วมันฟังดูชั่วร้ายหรือไงวะ!” เขาตะคอกตัดบท ผมได้แต่กลืนคำพูดที่เหลือลงคอ ไม่น่าคิดอะไรบ้าๆ เกินไปเลย

    ถ้าอย่างนั้นนายช่วยหัวเราะให้ฟังหน่อยได้ไหมเชน” ผมเอ่ยขออย่างกึ่งกล้ากึ่งกลัว

    เสียงหัวเราะของฉันเลียนแบบไม่ได้เว้ย สงวนลิขสิทธิ์แล้ว”

    ผมลืมไปว่า ในโลกบ้าๆ นี้ มนุษย์สามารถจดลิขสิทธิ์สิ่งต่างๆ เป็นของตนได้แทบทุกอย่างแม้แต่เสียงหัวเราะก็ไม่เว้น คนส่วนใหญ่ก็มักจะจดลิขสิทธิ์อะไรต่างๆ ที่เป็นของของตนเอาไว้ ไม่ว่าจะเพื่อการค้าการลงทุน ป้องกันการลอกเลียนแบบ หรือจดไว้เล่นๆ เผื่อวันดีคืนดีไปเจอใครที่ทำอะไรคล้ายๆ กันแล้วเกิดไม่ชอบหน้าคนคนนั้นขึ้นมาจะได้หาเรื่องได้

    แล้วอีกอย่าง” เชนว่าต่อ “ฉันมันก็แค่คนเลวโว้ยไม่ใช่นักพากย์หรือนักแสดง จะได้สั่งให้หัวเราะได้เมื่อต้องการ เสียงหัวเราะที่แท้จริงต้องออกมาจากใจโว้ย”

    ทว่าพอกล่าวจบแล้วเขาก็หัวเราะ แม้จะไม่ชั่วร้ายเท่าครั้งก่อนที่ผมได้ยิน แต่ก็ยังเป็นเสียงหัวเราะของเชน

    นับเป็นครั้งแรกที่ผมได้ฟังเชนพูดอะไรลึกซึ้งนอกเหนือจากเรื่องกรอบๆ แกรบๆ และอุดมการณ์ยึดครองโลกบ้าบอของเขา นั่นสินะ การหัวเราะอย่างชั่วร้ายที่แท้จริงต้องออกมาจากใจ มาดชั่วช้าที่แท้จริงก็ต้องมาจากความคิดชั่วร้าย

    ถึงพยายามสร้างภาพลักษณ์มากแค่ไหนก็ยังเป็นเพียงแค่ภาพลักษณ์” เนฮีเดียเปรยเสริมได้ถูกจังหวะ

    ใช่แล้ว ผมเข้าใจเรื่องมาดตัวร้ายนี้แล้ว เข้าถึงอย่างถ่องแท้ประหนึ่งมีดวงตาเห็นธรรมแล้ว คราวนี้ก็สมควรดำเนินการขั้นต่อไปล่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×