ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องบ้าๆ ของผม

    ลำดับตอนที่ #17 : เกิดอะไรขึ้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.89K
      1
      1 เม.ย. 53

    เกิดอะไรขึ้น

    คุณกำลังคิดอยากถามว่าผมออกไปทำบ้าอะไรในตอนก่อนหน้านี้อยู่ใช่ไหม...

    รายละเอียดของเรื่องนั้น อย่าหวังเลยว่าผมจะเล่าให้คุณฟัง

    คุณคงหาว่าผมกลัว ไม่กล้าเล่าให้คุณฟังล่ะสิ...

    ใช่ ผมยอมรับว่าผมกลัวจริง อย่างที่บรรยายให้ฟังไปแล้วว่ากลัวแค่ไหน และถึงแม้ตอนนี้จะผ่านพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวมาได้แล้ว ผมก็ไม่อยากย้อนกลับไปนึกถึงมันอยู่ดี คงบอกได้แต่ผลลัพธ์ของการลงทุนเดินเข้าไปในเขตแดนแห่งความกลัวว่า ผมสามารถถอดจิตตัวเองไปไว้ที่อื่นแล้วทำการครั้งนั้นสำเร็จลงด้วยดีพอสมควร

    ผมกำลังทำอะไรอยู่น่ะหรือ...

    ผมก็แค่ดำเนินตามแผนการที่ผมวางไว้เพื่อการเป็นตัวร้ายที่ร้ายกาจที่สุดเท่านั้นเอง รายละเอียดในเชิงลึกของเรื่องนี้ผมคงนำมาเล่าให้คุณฟังไม่ได้ เพราะว่าถ้าเรื่องบ้าๆ ของผมที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ตกไปอยู่ในมือของคนชั่วที่คิดอยากเป็นตัวร้ายที่ร้ายกาจสุดๆ เหมือนผมขึ้นมา ฝ่ายนั้นก็อาจจะถือโอกาสขโมยแผนซึ่งผมเสียเวลาคิดอยู่นานแสนนานไปใช้ และกลายเป็นสุดยอดตัวร้ายก่อนที่ผมจะทันได้เกิดเสียอีก ดังนั้นผมจึงเปิดเผยแผนการร้ายกาจสุดๆ นี้ออกไปไม่ได้ ถ้าพวกคุณอยากรู้จริงๆ ก็จงมีชีวิตที่ยืนยาว แล้วอยู่รอดูความสำเร็จผมในกาลอนาคตล่ะกัน

    แต่ถ้าเป็นรายละเอียดคร่าวๆ โดยภาพรวมผมพอจะบอกคุณได้อยู่นะ

    จริงๆ แล้วแผนของผมก็ไม่มีอะไรมาก ดูไปแล้วก็แสนเรียบง่ายยิ่งนัก แนวคิดก็ไม่ต่างจากแผนแทรกแซงอดีตของผมสักเท่าไร เสมือนเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่ก็ไม่ใช่เหล้าเก่าเสียทีเดียว หากเป็นเหล้าที่เพิ่มดีกรีความบ้าให้ผู้คนลุ่มหลงมึนเมายิ่งขึ้นไปอีก

    'เราต้องเผยแพร่อุดมการณ์ออกไป'

    เชนกล่าวไว้ได้ถูกแต่แรก และถึงแม้แท้จริงแล้วพวกเราจะไม่มีอุดมการณ์ดีเด่อะไร เราทั้งสามซึ่งต้องการจะเป็นตัวร้ายอยู่แล้วก็สามารถสร้างภาพเสกสรรค์อุดมการณ์อันยอดเยี่ยม และแสร้งทำเป็นว่ายึดมั่นและเชื่อถือในอุดมการณ์นั้นแบบสุดๆ ได้ไม่ยากเย็น

    เนื่องจากตัวร้ายที่ยึดมั่นในอุดมการณ์มากเกินไป สุดท้ายมักจะตกตายเพราะอุดมการณ์ของตน ส่วนตัวร้ายที่กลิ้งกลอกหลอกลวงพลิกข้างไปเปลี่ยนข้างมาเสมอ มักจะถูกตัวร้ายที่ยึดถือสัจจะคุณธรรมฆ่าตาย พวกเราจึงกำหนดกันว่าจะเป็นตัวร้ายแบบกลางๆ ที่มีอุดมการณ์ปลอมๆ อยู่ แต่เมื่อถึงคราวคับขันจำเป็นต้องกลืนน้ำลายตัวเองจริงๆ ก็สามารถทำได้ ตัวร้ายที่ดีก็มีส่วนคล้ายพระเอกจอมกะล่อนที่สามารถยืดได้หดได้ตลอดเวลา

    แผนการที่ผมคิดขึ้นอาศัยพลังความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสุดขั้วของเขาเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ความเฉียบแหลมคมคายและละเอียดรอบคอบของเนฮีเดียช่วยขัดเกลาให้แผนการนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ส่วนความสามารถในการทำลายล้างและความชั่วช้าของเชนก็ทำให้มันอลังการอย่างเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

    ผมอยากบอกพวกคุณเสียเหลือเกินว่า พวกเราประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงเพียงใด อยากเล่าให้พวกคุณฟังว่า ชีวิตการเป็นตัวร้ายของพวกเราเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่ง... แต่นี่ไม่ใช่นิทานก่อนนอน ไม่ใช่เรื่องราวชวนฝันที่จบลงอย่างมีความสุข และคุณก็ควรได้รู้ความจริง

    ถึงแม้พวกเราจะทำได้ดีเต็มความสามารถ แต่ในโลกบ้าๆ นี้ก็ยังมีคนเก่งที่เหนือกว่าพวกเรา และคนที่มีความบ้าอยู่ในตัวมากกว่าพวกเราอยู่มากมาย ผมต้องยอมรับอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ว่า ผมเกิดมาเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่คนที่มีพรสรรค์พิเศษ ถ้าอยากเก่งทัดเทียมคนอื่นเขาก็ต้องพยายามให้มากกว่าคู่แข่งทุกคน

    ทว่าพอได้ลองทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้มากๆ เข้าแล้ว จากที่เคยรู้สึกหวาดๆ อยู่บ้าง ผมก็เริ่มเปลี่ยนไปรู้สึกดีที่ได้ทำ การได้ทดลองทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่ และได้ท้าทายขีดกำจัดของตนทำให้ผมสัมผัสถึงตัวตนข้างในของผมมากขึ้น บางทีผมอาจจะเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่คนธรรมดาได้ก็ได้นะ

    อย่างไรก็ตาม ผมลัพธ์ของการกระทำก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึง ถึงบางครั้งมันจะออกมาไม่ดีอย่างคาดการณ์ได้ แต่ผลก็ออกมาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และเป็นที่น่าพอใจ แม้จะไม่ได้เป็นสุดยอดตัวร้ายที่คนทั้งโลกต้องจดจำในทันทีทันใด ทว่าก็มีคนรู้จักพวกเรามากขึ้น และจำนวนคนที่รู้จักดังกล่าวนี้ก็เพิ่มขึ้นทุกๆ วัน ถึงจะเป็นเพียงความสำเร็จเล็กๆ แต่ก็น่ายินดีไม่น้อย ผมถือว่าผมได้ก้าวมาสู่วงการช่วงชิงอำนาจของฝ่ายอธรรมเต็มตัวแล้ว

    ทว่าในบรรดาคนที่เริ่มจดจำผมได้เหล่านั้น ดันมีพ่อแม่ของผมอยู่ด้วยนี่สิ...

    แล้วพวกท่านก็ส่งข้อความมาสอบถามผมด้วยความเป็นห่วงว่า ผมยังคงเป็นคนธรรมดาอยู่หรือเปล่า เช่นนี้แล้วผมควรตอบพวกท่านกลับไปอย่างไรดีล่ะนี่

    ทางเลือกที่หนึ่ง : โกหกพวกท่านไปว่า ที่พวกท่านเห็นนั้นไม่ใช่ผม แค่บังเอิญเป็นที่หน้าเหมือนกัน ชื่อเหมือนกัน แต่งตัวธรรมดาเหมือนกันเฉยๆ และถ้าพวกท่านอยากตรวจสอบเพื่อความแน่ใจขึ้นมา ผมคงต้องแถต่อไปว่า คนคนนั้นเผอิญเป็นร่างโคลนของผมที่มีรหัสพันธุกรรมเหมือนกันด้วย

    ทางเลือกที่สอง : ยอมรับไปตรงๆ ว่านั่นคือตัวผมจริง แต่ก็อ้างไปด้วยว่า คนธรรมดาทั่วไปย่อมมีช่วงที่หลงผิด หลุดไปอยู่ในด้านมืด และอยากทดลองทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง ผมก็อยู่ในภาวะนั้นของคนธรรมดา

    ทางเลือกที่หนึ่งฟังดูชั่วช้าอย่างหน้าด้านกว่าก็จริง แต่ว่าการคิดสร้างร่างโคลนขึ้นมาเป็นตัวร้ายก็คงไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาคิดจะทำ หรือหากจะดิ้นรนเอาสีข้างเข้าถูต่อไปอีกว่า ผมถูกนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องจับตัวไปเป็นหนูทดลองโครงการโคลนนิ่งพิสดาร เหตุการณ์เช่นนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาควรประสบอยู่ดี ดังนั้นผมจึงตอบพวกท่านไปตามแนวคิดในทางเลือกที่สองซึ่งฟังดูมีเหตุผลและน่าเชื่อถือมากกว่า

    ไม่นานนักพวกท่านก็ตอบกลับมา..

    พ่อตำหนิและเตือนผมเล็กน้อยว่า อย่าทำอะไรออกนอกลู่ทางให้มันมากไป ทั้งยังเสริมอีกว่า แม้กรอบของคนธรรมดาจะยืดหยุ่นได้ก็จริง แต่เมื่อเกินเลยไปถึงจุดจุดหนึ่งแล้ว มันก็จะไม่อยู่ในความธรรมดาอีกต่อไป

    ส่วนแม่ก็ปลอบและให้กำลังใจผมตามแบบฉบับของคุณแม่ตัวอย่าง

    'ไม่ว่าลูกจะทำอะไร แม่ก็รักลูกเสมอ' นั่นเป็นประโยคจบของแม่ผมล่ะ

    บางครั้ง ผมก็ไม่แน่ใจนักว่า สิ่งที่พวกท่านบอกกลับผมมาจากใจจริงอยู่กี่ส่วน นับวันคนในโลกนี้หากไม่ทำอะไรบ้าๆ ไปเลย ทุกการกระทำก็เกิดการจากคาดคำนวณล่วงหน้าแล้วด้วยกันทั้งนั้น พ่อแม่ผมอาจจะคิดว่า พ่อแม่ของคนธรรมดาควรตอบกลับอย่างไรแล้วตอบมา เหมือนกับที่ผมพิจารณาหาทางเลือกที่เป็นไปได้ และวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียก่อนที่จะตอบพวกท่านไปก็ได้

    ผมกลับมาคิดเรื่องที่คิดไปก็เปลืองสมองเปล่าๆ อีกแล้วสินี่ แต่เดี๋ยวนี้ผมคิดเรื่องพวกนี้แล้วไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าใดนักนะ บางทีอาจจะเป็นเพราะชาชินเสียแล้วก็ได้กระมัง เมื่อโลกบ้าไปอย่างนี้แล้วคงหวังให้โลกเปลี่ยนเพื่อตัวผมเองคนเดียวไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมก็รู้ว่าผมสามารถเปลี่ยนบางอย่างในตัวผมได้

    ผมต้องกลับไปดำเนินตามแผนการขั้นต่อไปแล้วล่ะ...

    แต่ก่อนที่ผมจะได้กลับไปทำงานตามที่ใจคิด ก็มีข้อความจากอดีตเพื่อนร่วมชั้นบางคนส่งเข้ามาเสียก่อน ช่างติดต่อมาได้จังหวะใกล้เคียงกันจริงๆ แสดงว่า สิ่งที่ลงทุนลงแรงไปได้ผลสัมฤทธิ์ไม่น้อยทีเดียวสินี่

    เพื่อนบางคนก็ส่งข้อความมาให้กำลังใจ บางคนเห็นผลงานของผมแล้วประทับใจมาก ถึงขั้นติดต่อมาบอกเล่าให้ฟังโดยตรงเลย บางคนก็แอบกระเซ้าว่า ไปทำอะไรไม่บอกกันบ้างเลย แต่บางคนที่ผมสนิทขึ้นมาหน่อยก็โมโหฉุนเฉียวที่ผมทำไปโดยไม่บอกให้พวกเขารับรู้แม้แต่น้อย

    ผมขอยืนยันว่า ผมบอกพวกเขาไปแล้วนะ เพียงแต่พวกเขาไม่รับรู้เท่านั้นเอง...

    ความสัมพันธ์ของบรรดาเพื่อนร่วมชั้นในหลักสูตรมาตรฐานเก่าเป็นสิ่งที่ประหลาดและออกจะขัดแย้งกับสภาพสังคมยุคใหม่อยู่บ้าง สถาบันการศึกษาทั้งหลายในระบบนี้ต่างก็พยายามสร้างความหมายในตัวเองขึ้นมา เน้นให้นักเรียนได้มีการพบปะมีปฏิสัมพันธ์กันโดยตรงระหว่างที่ศึกษาอยู่เพื่อสร้างเครือข่ายค้ำจุนกัน และเพื่อให้เกิดความรู้สึกผูกพันในกลุ่มเพื่อนและตัวสถาบันเอง ขณะที่ระบบการศึกษาแบบใหม่จะเน้นให้ความรู้และฝึกทักษะให้แก่ผู้เรียนเท่านั้น การคงอยู่ของสถานศึกษาแทบจะเลือนลางหายไปเสมือนไม่มีความหมาย

    ดังนั้น ผมและเพื่อนร่วมชั้นก็เหมือนถูกบังคับให้ต้องผูกสัมพันธ์กันไว้ในทีแรก แต่พออยู่ๆ ไปหลายคนก็เริ่มยอมรับและปรับตัวได้ จากนั้นก็พยายามดึงคนอื่นให้มายอมรับด้วย พยายามทำให้ทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยถือเอาว่าเป็นความต้องการของตนเอง ไม่ใช่ของสภาบัน กลุ่มคนที่ต่อต้านและเกลียดชังวิธีคิดแบบนี้ก็มีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่เลือกที่จะมาเรียนในสถานศึกษาลักษณะนี้ คนกลางๆ ไม่คิดอะไรมากอย่างผมก็ทำตัวเป็นปลาว่ายตามน้ำไป คนส่วนใหญ่ก็คงเป็นเช่นเดียวกัน

    หลังจากศึกษาสำเร็จจบหลักสูตรแล้ว ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไป ความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นคลายออกเป็นเครือข่ายหลวมๆ เมื่อมีอิสระมากขึ้น หลายคนก็เริ่มแยกตัวออกห่างไม่ค่อยมายุ่งเกี่ยว กลุ่มย่อยที่สนิทกันก็ยังคงติดต่อกัน พวกผู้นำหรือพวกนักกิจกรรมก็คอยจัดงานสังสรรค์ให้เพื่อนๆ ได้มาพบกันอยู่บ้างเป็นครั้งคราว ส่วนตัวผมนั้นพยายามทำตัวเป็นคนธรรมดา และเป็นเพื่อนที่ดีของทุกคน จึงสละเวลาว่างบางส่วนมาติดตามข่าวสารความคืบหน้าของพวกเขา แล้วก็คอยส่งข้อความ เขียนจดหมายไปบอกเล่าเรื่องธรรมดาๆ ในชีวิตผมบ้าง

    พอได้เห็นข้อความของเพื่อนตอบกลับมาเหมือนไม่เคยสนใจสารที่ผมส่งไปก่อนหน้านี้ ผมก็เริ่มสงสัยล่ะว่า ก่อนหน้านี้ที่ผมพยายามทำตัวเป็นคนดี คอยติดตามข่าวสารของเพื่อนพ้องทุกเรื่อง ร่วมยินดีกับทุกความสำเร็จของพวกเขาเสมอ เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่คอยสนับสนุน หมั่นไปใช้บริการหรืออุดหนุนผลงานของพวกเขาทุกครั้งเมื่อมีโอกาส มันเพื่ออะไรกันแน่นะ

    แท้จริงแล้ว ผมกำลังทำดีเพื่อหวังผลตอบแทนในอนาคตโดยที่หลอกตัวเองว่ากำลังปิดทองหลังพระอยู่อย่างนั้นน่ะหรือ...

    ผมพยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา สมมติตนไปว่า ถ้าผมเป็นเพื่อนคนอื่นที่กำลังไต่เต้าเพื่อชื่อเสียงหรือลาภยศเงินทองหรือกระทั่งความบ้าในอะไรของพวกเขาก็แล้วแต่ ผมก็คงอยากให้เพื่อนๆ ช่วยสนับสนุน ร่วมเห็นดีด้วยในสิ่งที่ผมคิดจะทำ หรืออย่างน้อยก็ช่วยร่วมบ้าไปด้วยนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี ผมจึงพยายามทำเช่นนั้นกับเพื่อนร่วมชั้นทุกคนที่ยอมเปิดเผยความสำเร็จให้เห็น บางครั้งก็บอกกล่าวให้พวกเขาทราบว่ากำลังทำอยู่นะ แต่บางครั้งก็เพียงเก็บเงียบเอาไว้ให้สุขใจเล็กๆ ว่า ได้ช่วยเพื่อนแล้ว

    ตอนแรกนั้น ผมคิดว่าผมไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทนอะไร แต่เมื่อได้กลับมาคิดดูอีกทีในตอนนี้ ลึกๆ แล้วผมก็คงไม่ใช่คนดีมาตั้งแต่ต้น ผมอยากให้พวกเขาทำดีกับผมแบบเดียวกับที่ผมทำดีกับพวกเขาบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้บอกกล่าว ไม่ได้ประกาศตนว่ากำลังทำเพื่อผมอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ถึงขนาดทำเป็นไม่เรื่องราวของผมเลยทั้งๆ ที่ผมก็บอกไปแล้วอย่างนี้ พวกเขาเป็นคนที่ผมเคยสนิทด้วยไม่ใช่หรือ

    ผมสมควรจะผันตนไปตัวร้ายที่สามารถทำเลวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องคิดหวังว่าจะมีผลดีหรือผลร้ายย้อนกลับมาตอบแทนหรือไม่ตั้งนานแล้ว จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดชอกช้ำอย่างนี้

    คิดได้ดังนั้นผมก็ส่งข้อความเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าที่พวกเขาส่งมา ระบายความอัดอั้นคับแค้นใจให้พวกเขารับรู้ พร้อมกันนั้นก็แนบส่งหัวเราะชั่วช้าของผมปิดท้ายไปให้พวกเขาฟังด้วย จะได้รู้กันเสียทีว่าผมเปลี่ยนไปแล้ว

    คราวหน้าผมคงต้องคิดวิธีประกาศตนให้เพื่อนๆ รับรู้เสียใหม่...

    บอกน้อยๆ พวกที่สนใจแต่ตัวเอง ไม่ใส่ใจคนอื่นก็จะไม่รู้รับ ลืมเลือนไป

    บอกมากๆ คนเห็นก็คงรำคาญ หาว่าโอ้อวด พูดมาก หลงตัวเอง เปลืองเนื้อที่ ขี้เกียจลบทิ้ง ส่งขยะมาชัดๆ

    แต่ถ้าไม่บอกอะไรเลยก็คงไม่ได้ เพราะเดี๋ยวเพื่อนจะโกรธแล้วมาต่อว่าเอาว่าทำอะไรโดยไม่บอกกล่าวอีก

    อย่างนั้นต่อไปผมจะบอกพอประมาณ ให้พวกเขาเลือกได้ ให้มีโอกาสตอบกลับมาว่าทราบแล้วถ้าอยากตอบ แล้วก็เลือกบอกให้เหมาะสมกับนิสัยของแต่ละคนก็แล้วกัน

    แล้วผมก็ต้องคอยเตือนตัวเองเอาไว้ว่า อย่าไปคาดหวังกับสิ่งที่ทำให้มากนัก ทำไปเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำเท่านั้นก็พอ

    เอาล่ะ จัดการเรื่องวุ่นๆ นี่เสร็จแล้ว ก็ได้เวลากลับไปดำเนินการตามแผนขั้นต่อไปล่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×