ตอนที่ 7 : บทที่ 7 คาบเรียนแรก
ตอนที่ 7
สวัสดีครับ นักศึกษาทุกคน ผมชื่อวีรภัฏนะครับ ตั้งแต่วันนี้ไปจะมาสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ให้กับพวกคุณ ในระหว่างที่ผมสอนอะไร ถ้ามีข้อสงสัยก็ถามมาได้นะครับ
เมื่ออาจารย์หนุ่มก้าวเข้ามาภายในห้องเรียน เสียงฮือฮาของบรรดานักศึกษาสาวทั้งหลายก็ดังอื้ออึงขึ้นทันที ด้วยเหตุว่าหน้าตาของชายหนุ่มจัดว่าเป็นคนที่หล่อเหลามากทีเดียว ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วแทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะได้เป็นอาจารย์ทั้งๆ ที่ดูอายุยังไม่มากเท่าไรนัก
อาจารย์คะ หนูขอถามก่อนได้ไหมคะ ไม่ทราบว่าอาจารย์มีแฟนหรือยังเอ่ย
นักศึกษาสาวผิวสีน้ำผึ้ง แต่งหน้าแต่งตาตามสไตล์สาวเกาหลีเปรี้ยวจี๊ด สวมชุดเสื้อนักศึกษารัดติ้ว กระโปรงทรงแคบสั้นกุดจนแทบเผยให้เห็นขาอ่อน ยกมือขึ้นพร้อมกับโพล่งถามออกไป คำถามของเธอเรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาสมาชิกในห้องทั้งสาวแท้สาวเทียมได้เป็นอย่างดี เพียงแค่เจอคำถามแรกของลูกศิษย์เข้าไปอาจารย์หนุ่มจำเป็นก็ถึงกับเหงื่อตก เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอสถานการณ์แบบนี้จึงไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ เขาขยับแว่นแก้เขินทั้งที่ใบหน้าเริ่มมีสีแดงระเรื่อปรากฏให้เห็นก่อนจะตอบกลับไป
เอ่อ เมื่อกี้ที่ผมบอกว่าให้ถามได้ หมายถึงเรื่องของวิชาเศรษฐศาสตร์เท่านั้นนะครับ ส่วนเรื่องอื่นขอเอาไว้ถามนอกรอบแล้วกันนะครับ เอาล่ะ นี่ก็เสียเวลาไปมากแล้ว เรามาเริ่มเรียนกันเลยดีกว่าครับ
เหล่านักศึกษาพากันร้องโห่อย่างผิดหวัง ที่นอกจากอาจารย์หนุ่มไม่ยอมตอบแล้ว ยังเริ่มเข้าสู่บทเรียนอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว แต่วีรภัฏกลับไม่สนใจเสียงเหล่านั้น เขากดเปิดเครื่องฉายข้ามศีรษะ ภาพจากจอคอมพิวเตอร์ถูกส่งขึ้นไปยังฉากผ้าสีขาวหน้ากระดานของห้องเรียน เขาหันกลับมาพลางกวาดสายตามองไปยังนักศึกษาทุกคน เพื่อดูว่าเป้าหมายในภารกิจครั้งนี้อยู่ตรงไหนไม่นานก็พบว่าคนที่เขาตามหาอยู่ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้แถวสุดท้ายติดกับผนังด้านหลังห้องริมขวามือสุด ทั้งรูปร่างหน้าตารวมไปถึงลักษณะท่าทางและบุคลิกของเธอตรงกันกับคนในรูปที่เขาดูเมื่อเช้าไม่มีผิดเพี้ยน
เมื่ออาจารย์หนุ่มเห็นเป้าหมายก็ลอบยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็พลันสลายหายไป เมื่อเขากวาดสายตาไปพบกับเด็กหนุ่มหน้าใส ผมสีดำสนิท นั่งอยู่ด้วย วีรภัฏทำหน้าสงสัยในทีแรก พลันก็ปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติเมื่อเขาค่อยๆ นึกถึงรายละเอียดที่เขาจดเกี่ยวกับชลธิชาออก ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่า เด็กผู้ชายคนนี้คือเพื่อนสมัยเด็กของเป้าหมายที่ชื่อปวีณ์กรนี่เอง
วีรภัฎมองทั้งสองคนอย่างพินิจพิจารณาจนเกือบจะลืมไปว่าหน้าที่ของเขาในตอนนี้คืออะไร พลันสายตาของชายหนุ่มก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตานั่งอยู่ติดกับเป้าหมายของเขา หญิงสาวหน้าแฉล้มส่งรอยยิ้มกวนๆ พร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตาให้เขา เป็นเชิงส่งสัญญาณว่าให้รีบเข้าสู่บทเรียนได้แล้ว อาจารย์หนุ่มจำเป็นจึงรู้สึกตัวว่าตัวเองเผลอมองบุคคลที่เป็นเป้าหมายนานเกินไป เขารีบนำนักศึกษาเข้าสู่บทเรียนในวันแรกอย่างรวดเร็ว ตลอดเวลาในการสอนนั้น ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขาไม่มั่นใจเอาเสียเลย ทั้งที่เตรียมฝึกซ้อมพูดหน้ากระจกมาอย่างดี แต่เอาเข้าจริงพอเริ่มจับไมค์ใจก็เต้นโครมคราม พูดพล่ามออกไปแทบไม่เป็นภาษา
หลังจากผ่านช่วงเวลาที่แสนทุกข์ทรมานมาได้เกือบสองชั่วโมงเต็ม บทเรียนสำหรับวันแรกก็จบลงเพียงเท่านี้ เขาไม่รู้หรอกว่าจะมีใครตามไม่ทันบทเรียนในวันนี้บ้าง เพราะเท่าที่จำได้ เขาพูดรัวและยิงยาวจนแทบไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ซักถามเลยสักนิด โชคดีเหลือเกินที่หน่วยงานของเขาได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับวิชาที่จะต้องสอน เตรียมสไลด์ต่างๆ พร้อมคำอธิบายไว้ให้เขาเรียบร้อย ชายหนุ่มเพียงแค่พูดไปตามเนื้อหาที่อยู่ในจอมอนิเตอร์ก็เท่านั้น หลังจากที่เขาบอกให้เลิกคลาสได้ บรรดานักศึกษาต่างก็เก็บข้าวของตัวเองเตรียมแยกย้ายกันออกไป
หิวจังเลยอะน้ำ ไปกินข้าวกันเหอะ กานต์ครับ เดี๋ยวไปทานข้าวด้วยกันนะครับ
ปวีณ์กรเปรยขึ้นกับหญิงสาวข้างกาย ก่อนจะหันมาชักชวนเพื่อนใหม่ของเขาด้วยอีกคน กานต์รวีมองหน้าหญิงสาวที่เป็นเป้าหมายของเธอ ดูเหมือนว่าในแววตาของหญิงสาวจะมีความรู้สึกบางอย่างส่งผ่านออกมา และเธอรับรู้ได้ว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับชายหนุ่มที่นั่งถัดไปจากเธอแน่ๆ แม้จะรู้สึกว่าอยากจะเข้าไปทำความรู้จักกับสาวน้อยลูกคุณหนูให้มากกว่านี้ แต่เธอเองก็รู้สึกรำคาญกับสายตาหวานหยาดเยิ้มที่ปวีร์กรพยายามส่งมาให้ กานต์รวีรู้สึกสองจิตสองใจ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี กระทั่งสีหน้าของชลธิชาเปลี่ยนไป แววตาเศร้าระคนน้อยใจนั้นได้จางหายไปแล้ว
ไปด้วยกันเถอะจ้ะกานต์ น้ำไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิงเท่าไหร่ ปอนด์คงเบื่อที่จะต้องไปกินกับน้ำแค่สองคนแล้วละมั้ง"
ในขณะที่กานต์รวีได้แต่ทำท่าอึกอักยืนลังเลอยู่นั้น เธอจึงไม่รู้เลยว่าทั้งตัวเธอและเพื่อนใหม่อีกสองคนกำลังตกเป็นเป้าสายตาของอาจารย์หนุ่มที่ทำทีเป็นเก็บอุปกรณ์การสอนต่างๆ อย่างเชื่องช้า เขาคอยจับสังเกตทุกอิริยาบถของเป้าหมายแทบไม่ให้คลาดสายตา เป็นจังหวะเดียวกับที่ชลธิชามองมาทางหน้าห้องและสบตาเข้ากับอาจารย์หนุ่มโดยบังเอิญ หญิงสาวยิ้มมุมปากนิดๆ เหมือนนึกเรื่องอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ ในขณะที่วีรภัฏเองนั้นกลับรู้สึกเสียวสันหลังวูบขึ้นมาตะหงิดๆ
เดี๋ยวเธอสองคนไปรอข้างนอกก่อนนะ น้ำมีเรื่องสงสัยอยากจะถามอาจารย์หน่อยน่ะ พอดีเมื่อกี้เผลอหลับไปนิดหนึ่งเลยฟังไม่ทัน ถ้ายังไงลงไปรอข้างล่างก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวน้ำตามไปเองจ้ะ
พูดจบหญิงสาวก็คว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กลายตารางยี่ห้อหรูขึ้นคล้องไหล่ และรวบหนังสือกับสมุดโน้ตที่วางอยู่บนโต๊ะมาถือแนบอกเอาไว้ ก่อนจะตรงดิ่งไปยังโต๊ะของอาจารย์ที่อยู่หน้าชั้นเรียนทันที ทิ้งให้กานต์รวีกับปวีร์กรมองตามไปอย่างงุนงง
สัญชาตญาณของนายตำรวจหนุ่มบอกว่าเขากำลังจะพบกับเรื่องยุ่งวุ่นวายเข้าให้แล้ว เขารีบก้าวพรวดๆ ออกจากประตูไปทันทีหลังจากที่เก็บของเสร็จ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อชลธิชาเดินอ้อมจากประตูด้านหลังของห้องมาโผล่ตรงหน้าอาจารย์หนุ่มจำเป็นพอดิบพอดี
เมื่อเด็กสาวที่เป็นเป้าหมายของเขา มายืนประจันหน้าแบบนี้ทำให้ตัวเขาเองอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่เขาก็ต้องพยายามข่มความรู้สึกนั้นเอาไว้ แล้วเอ่ยถามออกไปอย่างสุภาพ
สวัสดีครับ นักศึกษา มีอะไรจะถามอาจารย์หรือเปล่าครับ
พอดีว่าหนูมีเรื่องอยากจะรบกวนปรึกษาอาจารย์สักนิด ไม่ทราบว่าอาจารย์พอมีเวลาให้หนูบ้างไหมคะ
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก เมื่อถูกอีกฝ่ายยิงคำถามใส่อย่างไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ เขาไม่แน่ใจว่าหญิงสาวมีเรื่องไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเรียนที่อยากจะถาม หรือว่าเป็นเพราะเธอรู้แล้วว่าเขามาอยู่ที่นี่เพราะมีหน้าที่ต้องดูแลเธอกันแน่ อาจารย์หนุ่มแกล้งถามย้อนกลับไป พลางตีหน้าซื่อทั้งที่ในใจของเขาร้อนรนเหลือเกิน
เรื่องเรียนหรือเปล่าครับ หรือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
เรื่องส่วนตัวค่ะอาจารย์ แค่มองหนูก็รู้แล้วว่าอาจารย์ต้องให้คำตอบที่ดีกับหนูได้แน่ๆ ค่ะ เอ่อ อาจารย์คะ ถ้ายังไงเดี๋ยวตอนบ่ายหนูจะขอไปพบอาจารย์ที่ห้องพักอาจารย์นะคะ
ชลธิชากล่าวพลางส่งยิ้มอย่างมีเลศนัยให้อาจารย์หนุ่ม เธอเหลือบไปเห็นเพื่อนอีกสองคนของเธอกำลังเดินตามมา หญิงสาวจึงเอ่ยขออนุญาตไปปรึกษาที่ห้องพักอาจารย์ของเขาแทน
อ่อได้ครับ เจอกันที่ห้องพักอาจารย์นะครับ
วีรภัฏพยักหน้ารับคำอย่างพยามยามสะกดกลั้นความตื่นตระหนกของตัวเองเอาไว้อย่างสุดความสามารถ เขาอดคิดระแวงไม่ได้เมื่อหญิงสาวส่งยิ้มแบบแปลกๆ มาให้ นี่เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าเขาคือคนที่ถูกส่งมาดูแลเธอ หรือว่าไม่รู้ แต่หญิงสาวจะมีเรื่องปรึกษาเขาจริงๆ ชายหนุ่มนึกเหตุผลสลับไปมาในหัวอย่างงุนงงก่อนที่จะตอบรับคำของเป้าหมายแล้วเดินจากไป
ติดตามตอนต่อไปได้เร็วๆ นี้ค่ะ >>>
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อิอิ
โห
น้ำแรงเหมือนกันนะเนี่ย
ร้ายลึกซะด้วย
ขอบคุณมิ้งมากนะคะ คนเขียนเมาเล็กน้อยน่ะค่ะ
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ทิวากุล
มิ้งคิดมากไปหรือเปล่าไม่รู้
แต่เวลามิ้งอ่านหนังสือมิ้งจะสร้างภาพในใจตาม
วีรภัฏกวาดสายตามองเป้าหมายจนเจอแล้วก็รู้ว่าเป็นคนเดียวกับที่เขาตามหา
เพราะว่ารูปร่างหน้าตาบุคลิกตรงกับข้อมูลที่เขามี
จากนั้นเขาก็ยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์
แต่พอประโยคต่อมาบอกว่ารอยยิ้มนั้นหายไปเพราะเขากวาดสายตาไปเจอชลธิชา
โดยบังเอิญ..ซึ่งมิ้งว่าตรงนี้ล่ะค่ะที่ผิดปกติ
ก็เป้าหมายก็คือชลธิชาอยู่แล้วนี่คะ ประโยคตอนต้น
ได้บอกไว้อยู่แล้วว่าวีรภัฏนั้นมองจ้องที่เป้าหมายอยู่แล้ว
แล้วทำไมต้องมากวาดสายตาไปเจอโดยบังเอิญอีก
ถ้าบังเอิญไปเห็นกานต์รวีหรือปวีณ์กรก็ยังน่าจะโอกว่านะคะ
เป้าหมายสำคัญก้พยายามเนียนๆเอาประโยชน์ให้ได้มากสุดแล้วกันคร้าอาจารย์