ตอนที่ 30 : บทที่ 30 พายุโหมกระหน่ำ (100%)
ตอนที่ 30
ไม่นานสายฝนก็เทกระหน่ำลงมาจนภาพเบื้องหน้าขาวโพลนไปหมด นายตำรจหนุ่มวิ่งไปพบเข้ากับโพรงหินเล็กๆ ที่อยู่ถัดจากบริเวณชะง่อนผาที่กานต์รวีตกลงมาราวยี่สิบเมตรได้ เขามองเห็นว่าตรงปากโพรงหินนั้นมีเถาวัลย์ขึ้นปกคลุมอยู่เต็มไปหมด มีความสูงจากพื้นราบประมาณเมตรหนึ่ง
จากการคาดคะเนขนาดของมันด้วยสายตา เมื่อเขาเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าโพรงหินนั้นมีขนาดความกว้างประมาณสองเมตร สูงสองเมตรและลึกเข้าไปในช่อเขาราวสามเมตรครึ่ง บนพื้นเต็มไปด้วยกิ่งไม้แห้งที่มีสภาพคล้ายรังนกที่รกร้างและเหมือนไม่ได้ถูกใช้งานมานาน แถมยังมีลูกมะพร้าวแห้งกลิ้งระเนระนาดเกลื่อนกลานอยู่บนพื้น ชายหนุ่มนึกในใจอย่างน้อยที่นี่ก็น่าจะพอให้ทั้งคู่หลบฝนได้
นายตำรวจหนุ่มรีบวิ่งฝ่าสายฝนที่โปรยปรายลงมามิได้หยุดหย่อน ตรงไปหาหญิงสาวที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม สภาพของเธอตอนนี้เปียกปอนไปทั้งตัวราวกับลูกหมาตกน้ำ โชคดีที่ได้เสื้อนอกของชายหนุ่มคลุมตัวเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงต้องทนหนาวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวบางเป็นแน่
ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานนะ ผมเจอที่พักดีๆ แล้วล่ะ ลุกไหวหรือเปล่าครับกานต์
วีรภัฏวิ่งมาหยุดยืนอยู่ข้างหญิงสาว เขาตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงฟ้าฝน พลางย่อตัวลงถามอย่างเป็นห่วง หญิงสาวพยายามจะลุกขึ้นยืนด้วยตนเอง แต่แผลตรงหน้าแข้งที่เริ่มระบมทำให้หญิงสาวไม่สามารถจะขยับขายืนขึ้นเองได้เลย นายตำรวจหนุ่มเห็นดังนั้นก็รีบช้อนร่างของเธอขึ้นมาแนบอก กานต์รวีโอบรอบคอของชายหนุ่มพลางเกาะเอาไว้แน่นเพราะกลัวว่าจะพลัดตกลงไป
เมื่อทั้งคู่มาถึงหน้าโพรงหินนายตำรวจหนุ่มค่อยๆ ดันตัวหญิงสาวเข้าไปด้านใน โดยที่กานต์รวีเองก็พยายามพยุงตัวเองให้เข้าไปอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าขาจะเจ็บแค่ไหนเธอก็ได้แต่กัดฟันทนฝืนความเจ็บปวดนั้นเอาไว้ เมื่อหญิงสาวเข้าไปด้านในได้แล้ว วีรภัฎจึงกระโดดเข้ามาด้านในบ้าง เขาประคองหญิงสาวให้นั่งอยู่ตรงมุมด้านในสุดของโพรงหินริมขอบหน้าผา ซึ่งทำให้สายฝนที่ซัดกระหน่ำเข้ามาได้ไม่ถึงตัวพวกเขา
ตำรวจหนุ่มมองไปรอบๆ ถ้ำ เขาเอาไฟฉายสาดส่องไปทั่วพื้น พลางทำท่าครุ่นคิดว่าเขาจะทำเช่นไรต่อดี กานต์รวีนั่งกอดอกด้วยความหนาวสั่น มองดูชายหนุ่มเดินวนเวียนไปมาอยู่ในโพรงหินนั้นราวกับหนูติดจั่นก็ไม่ปาน ในที่สุดวีรภัฏก็พบกับสิ่งของที่เขาต้องการ ชายหนุ่มเดินไปหยิบเศษไม้ เถาวัลย์แห้ง และท่อนไม้ผอมยาวอีกสองสามอัน มากองรวมกันไว้ตรงหน้าของหญิงสาว พลางคว้าเอามะพร้าวแห้งอีกสองสามลูกที่วางเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น
ต่อ
คุณจะทำอะไรน่ะ
เดี๋ยวก็รู้
วีรภัฏตอบสั้นๆ ก่อนจะจัดแจงเอามะพร้าวแห้งนั้นมาลอกเปลือกชั้นนอกออกจนเหลือแต่กาบมะพร้าวเป็นเส้นใยฝอยๆ ด้านใน เขาเอาเปลือกที่ลอกออกมาแล้ววางลงที่พื้นแล้วนำท่อนไม้มาหักเป็นสองท่อนวางทับบนกากมะพร้าว ใช้เท้าเหยียบปลายของไม้ทั้งสองข้าเหมอนจะตรึงกากมะพร้าวเอาไว้ และจัดแจงเอาเถาวัลย์มาผูกกับกิ่งไม้ที่โค้งงอให้กลายเป็นคันธนู
ก่อนที่จะนำกิ่งไม้ที่มีลักษณะตรงมาเกี่ยวไว้กับเถาวัลย์นั้น ลักษณะคล้ายกับยิงธนูแต่ได้หมุนเอาเชือกรัดกิ่งไว้ที่เป็นด้ามศร พร้อมกับปัดด้ามของศรกับกากมะพร้าวพร้อมตั้งคันธนูให้ขนานกับพื้น แล้วทำการดึงคันธนูที่ทำจากกิ่งไม้ไปมาทำให้คันสรที่ติดกับเชือดหมุนอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักกากมะพร้าวก็มีประกายไฟเกิดขึ้น
ชายหนุ่มเอากากมะพร้าวที่เริ่มติดไฟมาค่อยๆ เป่า แล้วนำมาจุดกับรังนก จากนั้นก็นำไม้แห้งอีกจำนวนหนึ่งมากองสุมกันไว้ การกระทำของเขาทำให้กานต์รวีงุนงงเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าอาจารย์หนุ่มมาดดีอย่างเขาจะทำอะไรเช่นนี้เป็น
นายทำอะไรน่ะสอนฉันบ้างสิ
เขาเรียกว่าจุดไฟแบบคันธนู แบบนี้ติดไฟได้ง่ายไม่ต้องเหนื่อยไงล่ะ ไหนๆ ของก็มีครบอยู่แล้ว ผมเคยดูในสารคดีน่ะ แต่ไม่คิดว่ามันจะได้ผลจริงๆ
ตำรวจหนุ่มตอบพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาว ที่เอาแต่ทำหน้างงกับกองไฟเล็กๆ ที่เขาจุดขึ้นมาราวกับเสกได้ พลางถอดเสื้อของตัวเองที่เปียกชื้นไปด้วยหยาดฝนออก ทำเอาคนขาเจ็บที่นั่งพิงหลังกับผนังของโพรงหินนั้นร้องโวยวายขึ้นมา
ว้าย! นายจะทำอะไรน่ะ อาจารย์ลามก
ต่อ
โวยวายทำไมครับกานต์ ผมแค่จะถอดเสื้อที่มันเปียกน้ำฝนออกมาตากก็เท่านั้นเอง ไม่ได้คิดจะทำมิดีมิร้ายคุณหรอกน่า
วีรภัฏเอ่ยขึ้นราวกับรู้ว่าหญิงสาวคิดอะไรอยู่เมื่อถอดเสื้อยืดคอกลมสีขาวที่เปียกโชกออก ชายหนุ่มเดินไปบิดน้ำออกและสะบัดแรงๆ ตรงปากโพรงหิน ร่างกายกำยำผิวขาวราวหยวกกล้วยที่มีหยดนำเกาะพราว ทำให้กานต์รวีเผลอมองจ้องเรือนร่างของชายหนุ่มแทบไม่กะพริบตา
ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับมา ก่อนจะเอาเสื้อที่เปียกชื้นของเขามาวางแปะลงไปบนแผลที่หน้าแข้งของกานต์รวี หญิงสาวมองการกระทำของเขาอย่างไม่เข้าใจ
แผลกระแทกเนี่ย ต้องหาอะไรเย็นๆ ประคบไว้ ไม่งั้นมันจะบวมเอาได้นะ
แต่ว่าเสื้อคุณ...
เมื่อได้ฟังชายหนุ่มพูด หญิงสาวก็รีบค้านขึ้นมา เธอไม่คิดว่าเขาจะทำถึงขนาดยอมสละเสื้อตัวเองมาทำเป็นผ้าประคบบาดแผลเพื่อลดอาการบวมช้ำให้กับเธออย่างนี้ อดรู้สึกปลื้มอาจารย์หนุ่มขึ้นมาไม่ได้ กี่ครั้งแล้วนะที่เขาคอยเอาใจใส่และให้ความช่วยเหลือเธอมาตลอด
ช่างมันเถอะ เลือดแค่นี้ เดี๋ยวก็ซักออกได้ เสื้อนี่ก็ไม่ได้แพงอะไร อย่าไปเสียดายเลยน่า กานต์เองก็เหมือนกัน เสื้อเชิ้ตข้างในเปียกอยู่ใช่ไหมล่ะ ถอดออกมาตากก่อนสิ ใส่เสื้อแจ็ตเกตของผมไว้ก่อนก็ได้
กานต์รวีก้มลงมองเสื้อผ้าที่เปียกชื้นของตัวเอง ภายใต้เสื้อแจ็กเกตหนังตัวโคร่งสีดำสนิทของเขา สลับกับมองหน้าชายหนุ่มเจ้าของเสื้อ เขาลุกขึ้นยืนพลางทำท่าจะเข้าไปช่วยถอดเสื้อตัวนอกออกให้เพราะคิดว่าอาการเจ็บที่บาดแผลทำให้เธอเปลี่ยนเอาเสื้อตัวในที่เปียกชื้นออกมาผึ่งลมไว้ก่อน
มะ ไม่ต้องหรอก ฉันเปลี่ยนเองได้น่า คุณหันไปก่อนสิ
หญิงสาวรีบตะครุบมือของชายหนุ่มไว้ พร้อมกับบอกให้เขาหันไปอีกทาง และห้ามแอบมองระหว่างที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเด็ดขาด วีรภัฏทำตามที่หญิงสาวบอก เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจถอดเสื้อและกางเกงขายาวของตนออกมา แต่ยังใส่ชุดชั้นในเอาไว้ แล้วจึงใส่เสื้อแจ็กเกตของชายหนุ่มทับลงไปอย่างเดิม เสื้อของวีรภัฏตัวใหญ่จนกลายเป็นชุดกระโปรงสำหรับกานต์รวีได้เลยทีเดียว สาวน้อยค่อยๆ พยุงร่างของเธอเพื่อเอาเสื้อผ้าที่เปียกไปพาดตากกับหินด้านข้างโพรงหิน
ต่อ
นายน่ะหันมาได้แล้ว ฉันเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว
กานต์รวีรีบตะโกนบอกอีกฝ่าย ชายหนุ่มหันหน้ากลับมาก็พบว่าหญิงสาวสวมเสื้อแจ็กเกตตัวโคร่งของเขา พลางรูดซิปปิดสนิทจนถึงคอ แขนเสื้อก็ยาวลงมาเกินจนมองไม่เห็นมือ แต่ความยาวของเสื้อนั้นเพียงแค่ปิดต้นขาส่วนบนเอาไว้เท่านั้น จึงเผยให้เห็นเรียวขาขาวที่โผล่พ้นออกมาจากชายเสื้อ ยิ่งเมื่อต้องแสงไฟสว่างวับแวมแบบนี้ ทำให้หญิงสาวแลดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ชายหนุ่มสะบัดหน้าแรงๆ สองสามทีเมื่อจู่ๆ สมองก็เกิดความคิดอกุศลขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพของเด็กสาวในชุดของเขา วีรภัฎเดินมาย่อตัวลงข้างๆ กองไฟพยายามไม่สบสายตากับเธอ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
ดูท่าทางแล้วคืนนี้ฝนคงตกอีกนาน สงสัยเราคงต้องค้างกันที่นี่แล้วล่ะ
ไม่ไหวนะ แล้วจะไม่มีใครออกมาตามหาพวกเราเลยเหรอ หายไปทั้งลูกศิษย์ทั้งอาจารย์แบบนี้น่ะ
กานต์รวีเอ่ยสวนขึ้นมา เธอคิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีพวกอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ตที่ออกมาตามหาพวกเขาบ้างไม่มากก็น้อย ตำรวจหนุ่มส่ายหน้า พลางเอากิ่งไม้สุมไฟเพิ่ม แล้วหันไปพูดกับหญิงสาว
คงไม่มีหรอก พายุแรงขนาดนี้ ขืนใครขึ้นมาออกตามหาก็เหมือนกับฆ่าตัวตายเปล่าๆ กานต์นอนพักผ่อนไปก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะเฝ้าให้เอง
แล้ว...ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่ทำอะไรล่วงเกินฉัน
หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ เธอยังไม่ลืมเรื่องคลิปโป๊และภาพลามกที่เขาแกล้งปั้นแต่งเรื่องมาหลอกเธอเมื่อคืน นายตำรวจหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยตอบเมื่อได้เห็นสีหน้าที่ดูไม่เป็นมิตรนั้น
เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมขอสัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือว่าจะไม่เป็นฝ่ายล่วงเกินคุณก่อน โอเคไหมครับกานต์
หืม ทำไมคำพูดของคุณมันฟังดูทะแม่งๆ ยังไงไม่รู้อะ ทำอย่างกับว่ากานต์อาจจะเป็นคนไปล่วงเกินคุณก่อนก็ได้อย่างนั้นล่ะ
กานต์รวีทำหน้างงกับประโยคที่ฟังดูแปร่งหูชอบกล ทำเอาคนที่ให้คำสัญญาปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ ก่อนจะตอบคำถามของเด็กสาว
อ้าว ผมก็ต้องตอบแบบป้องกันตัวเองไว้ก่อนสิครับ ขนาดเมื่อกี้ตอนที่ถอดเสื้อออก กานต์ยังจ้องหุ่นผมตาเป็นมันเลยนี่นา หรือว่าไม่จริง
บ้า ตาอาจารย์บ้าลามก ฉันไปจ้องนายเมื่อไหร่กัน ก็ได้ฉันเชื่อคำพูดของนาย แต่ถ้าผิดคำพูดขึ้นมา ฉันเอานายตายจริงๆ ด้วย
หญิงสาวที่ถูกรู้ทันก็รีบแก้ตัวเสียยกใหญ่ก่อนจะยอมสงบปากสงบคำ แล้วเอนตัวลงนอนราบไปกับพื้น เพราะกลัวว่าขืนยังต่อปากต่อคำกับเขาต่อไป เธอคงเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเสียเองแน่ๆ ผลพวงจากอาการบาดเจ็บและเสียเลือดไปมากพอสมควร ทำให้กานต์รวีเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว
ติดตามตอนต่อไปได้เร็วๆ นี้ค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อยู่ที่บ้านสะดวกสบายกว่าเป็นไหนๆ อ่ะค้า
...เอ่อ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม
ว่าแต่กานต์จะไข้ขึ้นมั๊ยคะเนี่ย
โดนฝนแบบนี้
เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่า
wow
ฝนตก ติดอยู่ด้วยกันตามลำพัง
บรรยากาศช่างเป็นใจอะไรเช่นนี้
บรรยายกาศเป็นใจ๊เป็นใจนะเนี่ย อิอิ
อัพๆๆๆ
ต่อนะคับ
ลุ้นนะเนี่ย
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ต่อไปเรื่อยๆๆค่ะ