ตอนที่ 20 : บทที่ 20 ปรึกษาหารือ (100%)
ตอนที่ 20
ไม่นานนักตำรวจหนุ่มใหญ่อีกนายชื่อพงษ์เทพอายุประมาณสามสิบปลายๆ ในชุดเครื่องแบบสีกากีอย่างเต็มยศ พร้อมด้วยลูกน้องคนสนิทอีกราวสามสี่นายก็เดินเข้ามาภายในห้อง พีรเดชแนะนำทั้งหมดให้รู้จักกันพร้อมกับบอกว่าชายหนุ่มท่าทางสุภาพที่อยู่ในห้องก่อนแล้วนั้น คือหัวหน้าทีมผู้รับผิดชอบปฏิบัติการสำคัญในครั้งนี้ วีรภัฏโค้งศีรษะน้อยๆ ให้ อีกฝ่ายก็ทำเช่นเดียวกัน
จากนั้นผู้กองหนุ่มชี้แจงรายละเอียดตามที่ได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาของเขากับตำรวจหนุ่มใหญ่และบรรดานายตำรวจที่เหลือทราบ โดยมีผู้บังคับบัญชาที่ใหญ่ที่สุดในที่นั้น ยืนฟังพวกเขาคุยกันอยู่ห่างๆ
สรุปว่า ผมจะต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อซุ่มดูอยู่รอบๆ ตัวของเป้าหมายทั้งหมดสามสิบนายนะครับ
ใช่ครับ ให้พวกเขาลงพื้นที่ประจำจุดตามที่คุยกันไว้เลยครับ นอกจากนี้ในช่วงเช้าจะเป็นกิจกรรมบริเวณริมชายหาด ผมอยากให้มีตำรวจนอกเครื่องแบบแฝงตัวอยู่สักสามสี่คน ส่วนกิจกรรมตอนกลางคืน ที่จะเป็นไฮไลท์ของงานต้อนรับนักศึกษาใหม่นี้ ทางคณะได้คิดกิจกรรมทดสอบความกล้า โดยให้นักศึกษาเดินขึ้นเขาที่อยู่ด้านหลังของรีสอร์ตคล้ายกับการเดินทางไกลตอนกลางคืนของพวกที่มาฝึกค่ายลูกเสือ ผมจะให้เจ้าหน้าที่ของเราคอยซุ่มอยู่ในทุกๆ จุดตลอดเส้นทาง ซึ่งจะมีผมคอยเดินปิดท้ายขบวนอีกที โดยเป้าหมายของเรา ผมจะจัดให้เธออยู่ในกลุ่มกลางๆ เพื่อที่คนร้ายจะต้องทำงานลำบากมากขึ้น หากไม่ต้องการให้เด็กคนอื่นๆ พลอยถูกลูกหลงไปด้วย ส่วนในวันรุ่งขึ้นก็จะเป็นเจ้าหน้าที่อีกชุด ซึ่งจะปฏิบัติตามแบบเดียวกับที่กลุ่มแรกได้ทำ ทั้งหมดก็มีเท่านี้ล่ะครับ
พงษเทพกล่าวสรุปยอดเจ้าหน้าที่ทั้งหมดตามที่ผู้กองหนุ่มต้องการ วีรภัฏพยักหน้ารับพร้อมกับชี้แจงรายละเอียดต่ออีกยืดยาว เขาวางตัวแทนสัญลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละนายที่จะต้องไปเฝ้าประจำอยู่ตามจุดต่างๆ บนแผนที่ขนาดใหญ่ที่วางเต็มพื้นที่โต๊ะไม้สักภายในห้องของพีรเดช หัวหน้าหน่วยที่รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยสำหรับกิจกรรมครั้งนี้ จดข้อความตามที่ได้ฟังทั้งหมดเอาไว้ในสมุดบันทึกของตัวเองอย่างละเอียด
ไม่มีปัญหาครับผู้กอง ผมจะจัดกำลังพลมาให้ตามนี้นะครับ
ขอบคุณครับ
ครับ
วีรภัฏกล่าวขอบคุณฝ่ายกำลังเสริมด้วยท่ายืนตรงพร้อมกับโค้งศีรษะทำความเคารพพงษ์เทพ ส่วนอีกฝ่ายนั้นทำความเคารพด้วยการยกมือขึ้นตะเบ๊ะให้ผู้บังคับบัญชาของตนรวมทั้งตำรวจหนุ่มที่ยังอยู่ในคราบอาจารย์ เพราะยังอยู่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศ ก่อนจะขอตัวออกไปเตรียมเกณฑ์กำลังพลเจ้าหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายมาสดๆ ร้อนๆ
พีรเดชที่เงียบอยู่นานได้เอ่ยกับลูกน้องคนเก่งของเขา
ฉันหวังว่างานนี้คงจะจับเจ้าพวกนั้นได้นะ
ถึงแม้ผมไม่แน่ใจว่าคนร้ายจะลงมือหรือเปล่า แต่ผมมั่นใจว่าเป้าหมายของเราจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอนครับ
วีรภัฏยืดอกตอบรับคำพูดของเจ้านายเก่าเป็นมั่นเป็นเหมาะ ก่อนที่จะโค้งคำนับผู้บังคับบัญชาเพื่อขอตัวกลับไปยังที่พัก
หัวหน้าครับผมต้องขอตัวก่อนนะครับ
เชิญตามสบาย นายต้องเตรียมตัวที่จะไปในวันพรุ่งนี้นี่นะ
ชายวัยกลางคนเอ่ยก่อนที่จะโบกมือเป็นเชิงไล่ให้เขารีบกลับไปโดยเร็ว วีรภัฏเดินออกมาจากห้องทำงานของผู้บังคับบัญชา พลางต่อโทรศัพท์ไปหาลูกน้องทั้งสองที่กำลังปฏิบัติหน้าที่แทนเขาอยู่
ก้องเหรอ ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง มีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างที่ฉันไม่อยู่หรือเปล่า
ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับหัวหน้า พวกเราแอบสะกดรอยตามจนเด็กหนุ่มนั่นส่งเป้าหมายเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าตอนนี้ก็ยังอยู่ใกล้ๆ แถวนี้นะครับ หัวหน้าจะให้พวกเราไปช่วยเตรียมของสำหรับวันพรุ่งนี้ที่บ้านไหมครับ
กรวิชญ์รับสาย ก่อนจะกรอกเสียงลงไป เพื่อรายงานความคืบหน้าให้หัวหน้าของตนทราบถึงความเคลื่อนไหวของเป้าหมาย พลางเอ่ยถามว่าต้องการให้เขาและนุชนาถไปช่วยดูแลความเรียบร้อยที่บ้านพักให้หรือไม่ ทีแรกผู้กองหนุ่มทำท่าจะบอกให้ทั้งสองคนไปช่วยเขาจัดเตรียมสัมภาระ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่บ้านนั้นเพียงลำพัง ถ้าเกิดคนที่อาศัยอยู่ด้วยเกิดสงสัยขึ้นมาจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเอาได้
อืม ก็ดีนะ เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ไม่ต้องดีกว่า ฉันลืมไปว่าพวกนายจะไปที่นั่นไม่ได้ เอาอย่างนี้แล้วกัน วันนี้พวกนายกลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ แล้วถ้าฉันต้องการอะไรเพิ่มเติมจะบอกไปอีกทีแล้วกัน ขอบใจมากนะก้อง ฝากบอกนุชด้วย ขอบคุณมากครับ
เมื่อวีรภัฏได้ยินดังนั้นเขาก็รู้สึกโล่งใจเรื่องชลธิชา แต่ก็ยังไม่วายที่จะต้องร้อนใจเรื่องของกานต์รวีด้วยอีกคน นายตำรวจหนุ่มกดวางสายแล้วจึงลงก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง สีหน้าของเขาดูร้อนรนยิ่งนักเมื่อตัวเลขบนหน้าปัดบอกเวลาเกือบจะสองทุ่มแล้ว หวังว่ากานต์รวีคงจะไม่ได้อยู่รอทานข้าวพร้อมกับเขาหรอกนะ ชายหนุ่มคิดในใจก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นรถคันเก่งแล้วขับตรงกลับบ้านพักทันที
ต่อ
หลังจากวางสายแล้ว นุชนาถที่กำลังนั่งละเลียดไอศกรีมอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านของเป้าหมายนัก หันมาเอ่ยถามเพื่อนร่วมงานที่เป็นคู่หูของเธอถึงผู้กองหนุ่มรูปหล่อซึ่งเป็นหัวหน้า
ว่าไงก้อง หัวหน้าบอกให้เราไปช่วยเก็บของหรือเปล่า
ชายหนุ่มผิวแทนส่ายหน้า ก่อนจะตอบกลับคู่หูสาวอย่างติดใจสงสัยในคำพูดของผู้เป็นหัวหน้า
เปล่าอะ หัวหน้าบอกให้พวกเรากลับได้เลย แต่ฉันว่าหัวหน้าพูดจาแปลกๆ ยังไงไม่รู้นะ
อะไรเหรอ หัวหน้าเป็นอะไร หรือว่าเขาไม่สบายใช่ไหม ถ้างั้นเรารีบตามไปดูแลเขาที่บ้านกันเถอะ
หญิงสาวตัวสูงพอๆ กับผู้ชายทั่วๆ ไป ถามอีกฝ่ายกลับด้วยน้ำเสียงร้อนรน เธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นห่วงวีรภัฏ จนเพื่อนร่วมงานหนุ่มที่กำลังยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบนั้นแทบสำลักในความห่วงใยจนออกนอกหน้าของหญิงสาว เขาอดรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้ จึงตอกกลับเธอกลับไปอย่างเจ็บๆ คันๆ พอเป็นพิธี
ไม่ใช่อย่างนั้น เขาไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหนหรอก เธอนี่ก็เป็นห่วงหัวหน้าเขาเสียเหลือเกินนะ ไปขอสมัครเป็นแม่บ้านให้เขาเลยดีไหม
ถ้าหัวหน้าเขารับสมัครจริงๆ ล่ะก็ ฉันจะรีบยื่นใบสมัครคนแรกเลยย่ะ เอ้า ตกลงที่บอกว่าหัวหน้าแปลกๆ น่ะ แปลกยังไงจะพูดได้หรือยัง มัวแต่เล่นลิ้นอยู่ได้
นุชนาถพูดทีเล่นทีจริง พร้อมกับทำท่าเหมือนจะเขวี้ยงถ้วยไอศกรีมในมือใส่หน้าชายหนุ่ม หากเขายังมัวแต่ทำโยกโย้ไม่ยอมเล่าสิ่งที่คิดไว้ออกมาเสียที
แหมๆ คุณนุชนาถครับ อย่ามาทำโหดใส่ผมเลยนะครับ ผมกลัวแล้ว เฮ้อ คืออย่างนี้นะ เมื่อกี้ตอนที่ฉันถามว่าจะให้เราไปช่วยที่บ้านไหม หัวหน้าก็ทำเสียงอึกอัก เหมือนกลัวจะรู้ว่ามีใครแอบซ่อนเอาไว้อยู่ในบ้านอย่างนั้นล่ะ
กรวิชญ์แกล้งทำเป็นยกสองมือขึ้นอย่างยอมแพ้ ก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างระอาคู่หูสาวที่เอาแต่ให้ความสนใจอยู่กับหัวหน้าของตนอยู่เพียงคนเดียว แล้วจึงเอ่ยข้อสันนิษฐานของตัวเองออกมาให้เธอฟัง
หมายความว่าไง นายคิดว่าหัวหน้าแอบพาผู้หญิงมากกที่บ้านในระหว่างทำภารกิจสำคัญอย่างนั้นเหรอ
ไม่รู้สิ แต่ฉันรู้สึกตะหงิดๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูกน่ะ
นุชนาถตีความเอาเองตามความเข้าใจของเธอ จะว่าไปสัญชาตญาณของเธอก็บอกอย่างนั้น หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าตลอดเวลาเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับผู้กองหนุ่มบ้าง แต่รอยยิ้มที่เธอไม่ได้เห็นมานานแล้วกลับปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง หรือว่าเขากำลังแอบคบกับใครบางคนอยู่อย่างลับๆ แล้วกลัวที่จะให้ใครรู้อย่างนั้นหรือ ตำรวจสาวได้แต่ขบคิดในใจ
ติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เดี๋ยวมันเป็นความจริง
เฮ้อ....กลุ้มใจแทนคนหล่อ อิ อิ
เอ๊..หรือว่าเป็นสัญชาตญาณของผู้หญิงที่รักใครสักคนกันแน่หว่า
งานนี้เริ่มเข้าใกล้คำว่ายุ่งยากและวุ่นวายขึ้นเรือยๆ แล้วสินะคะ
จะจับใครนะ