คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : Part 29 Who are you going to choose?
Part 29 Who are you going to choose ?
แสงแดดตอนสายสาดทะลุม่านลงบนร่างเพรียวที่นอนคู้ตัวบนเตียงนุ่ม ใบหน้าใสมุ่นคิ้วด้วยความขัดใจ แพรขนตาขยับอยู่เหนือเปลือกตาที่บดบังดวงตากลมใสราวกับลูกแก้ว
ยูชอนหาวหวอด พลิกตะแคงไปอีกฝั่ง ยื่นแขนไปหวังจะซุกเข้าอ้อมกอด หนีแสงแดดที่รบกวน แต่ความว่างเปล่าก็ทำให้ตื่นเต็มตา
“นอนที่นั่นทั้งคืนเลยหรือไงนะ” ยูชอนก้าวลงจากเตีรยงตรงไปยังห้องสีฟ้า
“โอ๊ะ ไม่ได้ล็อกแล้วนี่นา”
“ยุนโฮอา”
ยูชอนเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบคนที่ตามหา ตากลมใสกวาดไปทั่วห้องที่เคยถือวิสาสะเข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง ผนังทั้งหมดยังเป๊นสีฟ้า แต่เฟอร์นิเจอร์สีฟ้าที่เคยมีถูกเปลี่ยนเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้สีขาวทั้งหมด กองการ์ตูนและหนังสือที่เคยกองสุมถูกจัดเข้าชั้นไม้สีขาวเข้าชุดกันเรียบร้อย ผ้าม่านลายลูกไม้ขยับไหวยามสายลมปัดมากระทบ
“ไม่ว่านายจะเป็นใคร นายจะรู้ไหมว่านายน่ะโชคดี” ยูชอนไล้ปลายนิ้วลงบนอัลบั้มสีฟ้าบนโต๊ะเขียนหนังสือสีขาว ข้างๆมีดอกกุหลาบแห้งหนึ่งดอกกับกล่องของขวัญเล็กๆสีฟ้าผูกโบว์สีขาวเปื้อนฝุ่นอีกหนึ่งกล่อง
“ยุนโฮ ขอเราดูหน้าเขาหน่อยได้ไหม” ยูชอนพึมพำ ดึงเก้าอี้ออกมาเล็กน้อยเพื่อนหย่อนตัวลงนั่ง มือขาวดึงอัลบั้มรูปมาใกล้ตัว
เขาแค่สงสัยว่าคนรักของยุนโฮจะหน้าตาเป็นยังไง ดวงตาแบบไหนที่ทำให้ยุนโฮหลงรัก รอยยิ้มแบบไหนที่ทำให้ผู้ชายคนนึงทุ่มเทความรักและหัวใจให้ขนาดนี้
“ขอดูหน่อยนะ”
.....................................
ตาคมมองรูปในโทรศัพท์ ร่างเพรียวที่นอนคู้ตัวกลมป๊อกบนเตียง ผิวขาวใสกับผมสีทองทรงแอปเปิ้ล เรียวคิ้วมุ่นน้อยๆ ก่อนจะลากสายตาไปยังรูปคู่ของตัวเองกับจุนซูในกระเป๋าสตางค์ ปลายนิ้วไล้ที่รูปใบเก่า พึมพำชื่อเด็กน้อยนั้นเบาๆ
“จุนซู”
“เรียกจุนซูเหรอ” ถ้าจุนซูไม่เลี้ยงผีพรายก็ต้องลูกกรอกอะไรซักอย่าง เจ้าตัวถึงได้มายืนเอียงคอยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้าโต๊ะเขาทันทีที่เอ่ยชื่อแบบนี้
“จุนซู”
“แน้”
............................................................................................
“ตกใจรึเปล่าครับ ?” ชางมินวางแก้วโกโก้ร้อนบนโต๊ะเล็ก ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม มองตามสายตายูชอนที่ไปหยุดอยู่ที่คนคู่หนึ่งที่บริเวณเคาน์ทเตอร์
ร่างอวบขาวของเด็กผู้ชายคนนึงที่ดูคุ้นตาแต้มรอยยิ้มหวาน หัวกลมพยักหน้าหงึกหงักจนเส้นผมละเอียดพลิ้วไหวแทนคำว่าเข้าใจ ส่วนร่างสูงคุ้นตาที่ยืนอยู่ด้านหลังร่างเล็กกว่าก็ช่วยสอนพร้อมกับถ่ายรูปร่างเล็กนั่นไปด้วย
‘ทำไมจะต้องมาเปิดคลาสชงกาแฟกันตรงหน้าเขาด้วย ‘
เสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วเข้าหูพาเอาคนตรงข้ามชางมินมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“เรื่องอะไรเหรอ”
“สองคนนั้นเขาเคยเป็นคนรักกันมาก่อนนะครับ ถ้ายูชอนจะตกใจก็ไม่แปลก” ชางมินพูดออกมาด้วยท่าที่สบายๆ แต่เพราะร่างสูงหมายความตามนั้นจริงๆ พี่ยุนโฮกับจุนซูเคยรักกันมาก แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้ว
“เปล่าตกใจซักหน่อย” ปากว่าเปล่า แต่สายตายังไม่ละไปไหน เสียงทุ้มอ่อนโยนกับดวงตาอบอุ่นที่ร่างเล็กนั่นได้รับ ทำเอายูชอนนิ่วหน้า
จะเจ็บทำไม ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นพี่แจจุงสิเขาถึงควรจะเจ็บ ยูชอนรักพี่แจจุงต่างหาก กับยุนโฮเขาก็แค่.......
“โกหกผมได้ แต่โกหกใจตัวเองไม่ได้หรอกนะครับ”
ยูชอนหันขวับมามองหน้าคนพูดที่อมยิ้มน้อยๆก่อนจะลุกจากไป จะว่าไปเขาเคยเห็นหน้าร่างขาวอวบนั่นมาก่อนหรือเปล่า ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ กับรอยยิ้มหวานแบบนี้
“หรือเราเคยเจอกันมาก่อนนะ..”
กึง ! เสียงกระแทกของอะไรซักอย่างที่ข้างกระจกทำเอายูชอนสะดุ้งออกจากห้วงความคิด ดวงตากลมจับจ้องเจ้าของมือเล็กที่รัวกำปั้นน้อยๆบนกระจก กับคุณพ่อที่ยืนโบกมือน้อยๆให้เขาอยู่ด้านหลังลูกชาย
“จินซอน”
“หม่าม๊าาาาาา” เสียงเรียกดังลั่น พร้อมกับร่างเล็กของลูกชายที่พุ่งเข้ามาหาเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของยูชอน
จินซอนอ้าแขนให้ยูชอนอุ้มขึ้นตัก แขนกลมๆโอบรอบคอหม่ะม๊าสุดที่รัก ริมฝีปากเล็กๆหอมแก้มหม่ะม๊าคนสวยไปหลายฟอดแต่เจ้าตัวน้อยก็ยังไม่หายคิดถึง
“จินซอนคิดถึงหม่ะม๊า แต่คุณพ่อไม่ยอมพาไปหาเลย” จินซอนเบ้ปาก ชี้นิ้วเล็กไปทางจุนจินที่ยืนล้วงกระเป๋าสบายๆอย่างกล่าวหา
“ขายกันซะงั้นไอลูกคนนี้” จุนจินบิดจมูกลูกชาย ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม มองยูชอนที่ช่วยประคองแก้วโกโก้ให้จินซอนดื่มอย่างนึกเอ็นดู
บอกตามตรงว่าเขาอยากจะได้ยูชอนมาเป็นหม่ะม๊าของจินซอนจริงๆ ติดก็แต่ไอน้องชายเขานี่สิ มัวแต่ทำตัวซื้อบื้ออยู่นั่น ! จุนจินชายตามองยุนโฮที่หันมาสบตาเขาแล้วเบ้หน้าใส่ก่อนจะถอนหายใจเฮือก
“มันทำบ้าอะไรอยู่อีกหล่ะเนี่ย” ไม่ใช่ว่ากำลังค้นหาคำตอบให้ตัวเองด้วยการใช้แฟนเก่าเป็นเครื่องมือหรอกนะ
“คุณพ่อว่าปะป๊าเหรอ ?” จินซอนนิ่วหน้า ปาหมอนใบเล็กข้างตัวใส่คุณพ่อตัวเอง เรียกเสียงหัวเราะจากยูชอนได้มากโข
“ยูชอน นี่พ่อนะ ! ” จุนจินโวยวาย ทำเอายูชอนหัวเราะขำกับอาการเด็กๆของร่างสูง ที่ทำตัวแง่งๆใส่ลูกชายที่อายุไม่กี่ขวบดี
“จินซอน ปาหมอนใส่คุณพ่อไม่น่ารักเลยนะ” เสียงทุ้มดุแว่วมาก่อนตัวพร้อมกับร่างสูงกว่าที่เดินจูงมือร่างอวบขาวให้เดินตามมา
พอโดนดุ แขนเล็กที่อ้าหวังจะให้อุ้มเมื่อเห็นคุณพ่อเดินมาเป็นอันพับมากอดอก ริมฝีปากเล็กเอ่ยฟ้องคนที่ยืนข้างปะป๊าตัวเองเสียงดัง
“จุนจู จุนซู ปะป๊าดุอะะะะ”
“ก็จินซอนทำไม่ถูกนี่นา” เสียงเล็กน่ารักไม่แพ้กันเอ่ยตอบพร้อมกับโน้มตัวลงมาดึงแก้มป่องๆของลูกชายตัวเล็ก
ยูชอนมองจินซอนทีมองจุนซูที คำถามมากมากผุดขึ้นในหัวจนคิ้วขมวดเป็นโบว์ จินซอนไปรู้จักจุนซูตอนไหน? รู้จักในฐานะอะไร? แล้วทำไมชื่อจุนซูกับหน้าตาน่ารักนี่ถึงคุ้นนักหนอ ?
“ช่าย ..มีแต่หม่ะม๊าเราคนเดียวนั่นแหล่ะที่หัวเราะเอาๆ” จุนจินกล่าวหาพร้อมกับทำหน้าทำตาจนยูชอนหลุดหัวเราะอีกครั้ง
“หม่ะม๊า วันนี้เล่นกับจุนซูด้วยได้มั้ย” ลูกชายเอ่ยถาม ดวงตาใสแจ๋วเป็นประกายสดใส ยูชอนมองมือเล็กที่เขย่าชายเสื้อตัวเอง ก่อนจะเหลือบมองหน้าจุนซูที่มองยุนโฮตาแป๋ว ริมฝีปากอวบกัดเม้มรอคำตอบ
“วันนี้จุนซูต้องกลับแล้ว”
หน้าเซ็งลงไปกันทั้งสองฝ่าย ทั้งจุนซูและจินซอน ส่วนจุนจินกับยูชอนเผลอพรูลมหายใจเบาๆอย่างโล่งอกโดยไม่รู้ตัว
“ไว้จุนซูมาเล่นด้วยวันหลังนะ” ริมฝีปากอวบประทับจูบบนแก้มยุ้ย ก่อนจะเดินตามแรงดึงที่ข้อมือจากร่างสูงที่นำไปเกินช่วงตัว
ยูชอนเผลอสูดกลิ่นแชมพูหอมๆจากเส้นผมละเอียดของจุนซูที่โน้มตัวลงมาใกล้เข้าจมูก
เอาอีกแล้ว ...กลิ่นแชมพูหอมๆที่เขาได้กลิ่นเป็นประจำ ยูชอนสะบัดหน้า ถ้ามันเป็นแบบที่เขาคิด โลกมันจะกลมเกินไปแล้ว
“ปะป๊ากับหม่ะม๊าเป็นอะไรเหรอ?”
“แม้แต่เด็กยังรู้ เฮ้ออ นั่นสินะเป็นอะไรกันไปหมด” จุนจินถอนหายใจเฮือก เอ่ยปากฝากลูกชายก่อนจะขอตัวกลับ
ยูชอนเดินจูงมือจินซอนออกไปส่งปะป๊าขึ้นรถ ในห้วงความคิดยังได้แต่คิดเรื่องจุนซูวนไปวนมา
“นี่ สองคนแม่ลูกนั่นหน่ะ อ้าวไปเอาลูกโป่งมาจากไหนหล่ะ” จุนจินเลิกคิ้ว มองคนอายุน้อยกว่าเขาสองคนยืนจับมือกันบนฟุตบาทเหมือนเด็กหลง มือข้างที่ไม่ได้จับกันถือเชือกลูกโป่งที่ลอยตัวอยู่ในอากาศไว้คนละลูก
ลูกชายเขาอมยิ้มดีใจพลางเขย่าเชือกไปมา ส่วนยูชอนกลับทำหน้างงๆไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีลูกโป่งอยู่ในมือได้ยังไง
“คุณน้าคนนั้นให้มาฮะ เขาบอกว่าลูกโป่งแห่งความสุขสำหรับคุณหนูทั้งสอง” จินซอนชี้มือที่มีลูกโป่งลูกโตไปอีกทาง แต่จุนจินก็ไม่เห็นใคร
“คุณหนูทั้งสอง ลูกโป่งแห่งความสุขเหรอ” ยูชอนกระพริบตาปริบๆ มองลูกโป่งสีแดงสดลูกโตที่ลอยอยู่เหนือหัว
“พี่ว่าเราอาการหนักแล้วหล่ะยูชอน”
“ครับ ?”
“จะไปไหนกับลูกมั้ย เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่ง แล้วเดี๋ยวเย็นๆมารับ”
“ไม่ครับ ผมเห็นสวนที่ถัดไปไม่ไกลมีม้าหมุนกับชิงช้าสวรรค์ ผมว่าจะพาจินซอนไปที่นั่นดีกว่า”
“ม้าหมุนนนนนนนนน” จินซอนที่ได้ยินว่าม้าหมุนหูผึ่ง ดวงตาสดใสเป็นประกายแวววาว แขนเล็กๆออกแรงดึงหม่ะม๊าให้เดินทันที”
“เดี๋ยวครับ หม่ะม๊าไปเอาของข้างในก่อนนะ” ยูชอนฝากจินซอนไว้กับคุณพ่อ ส่วนตัวเองเดินเข้าไปด้านในเพื่อจะหยิบกล้องกับกระเป๋าสตางค์และมือถือ
“ลูกโป่งเหมาะกับยูชอนดีนะครับ” ยูชอนหันไปมองคนพูดก่อนจะเหลือบตามองลูกโป่งสีแดง
‘ถ้าแกเป็นลูกโป่งแห่งความสุขจริงๆก็ดีสินะ’
…………………………………………..
“เอ้าถึงแล้วครับคุณหนูทั้งสอง” จุนจินเปิดประตูให้คุณลูกกับหม่ะม๊าที่นั่งอยู่เบาะหลัง จมูกโด่งกดลงที่แก้มลูกชายที่ดิ้นหนี เพราะใจลอยไปหาม้าหมุนเรียบร้อยแล้ว
“ทำตัวดีๆกับหม่ะม๊านะลูก เดี๋ยวเย็นๆคุณพ่อมารับ”
“ส่วนยูชอน..” ดวงตาแบบเดียวกับน้องชายละจากลูกชายมามองเขา
“เลือกดีๆนะ พี่อยากได้ยูชอนมาเป็นหม่ะม๊าของจินซอนจริงๆ” รอยยิ้มอ่อนโยนของจุนจินพาลให้นึกถึงคนอีกคน ยูชอนมองรถคันหรูขับพ้นไปจนลับตา
ตกลง แต่ก่อนที่จะต้องกลับไปคิดทบทวนเรื่องนี้ ขอให้หัวใจได้เป็นเด็กที่ไม่ต้องกังวลกับอะไรซักพักก็แล้วกันนะ .
...............................................
เเต่งเองก็หดหู่เองเเท้ๆ
สำหรับเเฟนฟิคเรื่องนี้อีกไม่กี่ตอนก็จะถึงจุดจบเเล้วนะคะ (ดูมันใช้คำ)
ขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์ เเฟนพันธุ์เเท้ คอมเมนท์ทวงฟิคทั้งหลาย
เเละเจ้าของคอมเมนท์ทั้งห้าคอมเมนท์ที่ยังคงรอฟิคเรื่องนี้จนถึงตอนนี้
ขอบคุณมากค่ะ :)
ความคิดเห็น