คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Part 16 Second Day
.........................
“ยูฮวาน”
“ยูฮวานน !”
“ เงียบซะซึงริ หนวกหูน่า !”
“กริ่งเลิกเรียนดังแล้วนะ เหม่ออะไรของนายอยู่ พี่ซึงฮยอนมารอน่าห้องแล้วนู่นนน” เด็กหนุ่มหน้าหวานเจ้าของผิวเข้มนามว่าซึงริเพยิดหน้าไปนอกห้อง
“แล้วไงอะ ?” มือขาวเคาะบุหรี่นอกออกมาจากซองแต่แล้วก็เปลี่ยนใจเก็บเข้าไปเหมือนเดิม
“พี่เค้ามารอนายนะ”
“ใครขอให้มารอไม่ทราบ”
“งอนอะไรกันอีกล่ะ เมื่อวานยังดีๆกันอยู่เลย”
“ช่างมันเถอะน่า” อีกคนบอกปัด ยกกล่องกระดาษใต้โต๊ะขึ้นมาอุ้มไว้ด้วยมือ
“กล่องอะไรอะ ? ”
“หมวกกันน๊อค” ยูฮวานล้วงหมวกใบใหญ่ขึ้นมาให้เพื่อนดู
“นายแน่ใจเหรอว่ามันยังกันน๊อคได้ ?”
“นั่นสินะ” เจ้าของร่างเพรียวพิจารณาหมวกกันน๊อคสีมอแล้วตัดสินใจโยนทิ้งลงถังขยะ ของแบบนี้ไม่รู้จะทนใช้ไปอีกทำไมกัน
“เย็นนี้นายว่างมั้ยซึงริ”
“เรามีเรียนพิเศษ”
“น่าเบื่อชะมัด เดี๋ยวให้คนขับรถไปส่งละกันมาด้วยกันสิ” ยูฮวานจุดบุหรี่ขึ้นสูบลากแขนเพื่อนผ่านซึงฮยอนออกไปโดยไม่พูดอะไรซักคำ
...................................
“จอดร้านนี้แล่ะ ลุงไปส่งซึงริก่อนแล้วค่อยแวะกลับมารับผมละกัน” ยูฮวานเปิดประตู ขยี้บุหรี่ด้วยรองเท้านักเรียนแล้วก้าวลงไปยืนหน้าร้านแต่งมอเตอร์ไซค์ที่ไม่เคยคิดจะมาเหยียบ
คนอย่างยูฮวานเคยนั่งมอเตอร์ไซค์ที่ไหนกันล่ะ
“สวัสดีครับ คุณจะรับอะไรดี ?” เจ้าของร้านวัยกลางคนหน้าตานุ่มนิ่มเอ่ยทักทาย ยูฮวานยิ้มตอบ มองดูรอบๆแล้วให้เจ้าของร้านนำทางไป
“รถเป็นแบบไหนล่ะครับ ?”
“เป็นเศษเหล็กวิ่งได้” เจ้าตัวตอบแล้วหัวเราะคิก เลือกหมวกสีน้ำเงินวาวใบใกล้มือมาดู ไร้รสนิยมชะมัด
“ตอนนี้ทางร้านเรามีหมวกกันน๊อค ของชูไอนำเข้าจากญี่ปุ่นนะครับ มีส..”
“ผมชอบแบบ BM ขอใบที่แพงที่สุดแล้วก็ดีที่สุดห่อให้ด้วย” ยูฮวานตัดบท เด็กหนุ่มมีสีหน้าพอใจไม่น้อยเมื่อเห็นยี่ห้อที่ตัวเองต้องการอยู่ไม่ห่างออกไป ไม่เสียแรงที่นั่งเสิร์จเน็ทอยู่ตั้งนาน
.............................
“ไปร้านกาแฟเพคโจตรงหัวมุม” รอไม่ต้องถึงหานาทีรถคันงามก็เข้ามาจอดเทียบ ยูฮวานก้าวขึ้นรถ อุ้มกล่องหมวกไว้พร้อมสีหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“มีอะไรรึเปล่าครับ ? ทำไมลุงมองผมอย่างนั้นล่ะ” ยูฮวานเอ่ยกับคนขับรถคนเก่าแก่ของพ่อที่เหลือบตามองเขาผ่านกระจกอยู่พักใหญ่
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่สงสัยนิดหน่อยเท่านั้นเอง ปกติเลิกเรียนถ้าคุณหนูไม่ไปบ้านคุณซึงฮยอนก็ต้องไปอยู่ผับหรือไม่ก็
“พอดีว่าที่ร้านนั้นมีสิ่งน่าสนใจหน่ะครับ” ยูฮวานมองผ่านกระจกทึบเข้าไปภายในร้าน เห็นเจ้าของร่างสูงที่เขาหมายตากำลังแจกเบอร์ให้เด็กสาวน่ารักที่นั่งอยู่โต๊ะริมสุด
“หนอย ยัยนี่ ! บังอาจมายุ่งกับคนที่เราเล็งไว้เหรอ เธอไม่ได้กลับบ้านสวยๆแน่” ยูฮวานหรี่ตามองเด็กสาวที่ทำหน้าเขินอายม้วนต้วนแล้วยิ่งอารมณ์บูด
“จอดตรงนี้แล่ะครับลุง ผมคงลงไปไม่นาน” ยูฮวานแตะปกเสื้อ จัดผมให้เข้าทรงแล้วมองตัวเองในกระจกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก
“ขอยืมกาแฟนะครับ ” ยูฮวานคว้าแก้วกาแฟร้อนของคุณลุงกับกล่องหมวกกันน๊อคแล้วก้าวลงจากรถ
“เธอเสร็จแน่” ยูฮวานยิ้มกริ่ม มองแก้วกาแฟร้อนส่งควันฉุยแล้วเร่งเดินไปให้ถึงประตู
........................................
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านประตูกระจกลงบนเตียงกว้าง ร่างสูงกระพริบตาปริบ มองหน้าคนที่ตัวเองกำลังหนุนตักอยู่แล้วกระชับมืออุ่นนั้นมาแนบแก้ม
เจ็ดโมงกว่าแล้ว ...
ยุนโฮมองนาฬิกาที่หัวเตียง ยังไม่อยากปลุกอีกคนเพราะเมื่อคืน นานอยู่เหมือนกันกว่ายูชอนจะกล่อมให้เค้าหลับไปได้อีกหน หัวทุยเต็มไปด้วยผมหยักศกพิงไสไปกับหัวเตียง มันคงไม่สบายเท่าไหร่นัก แต่ถ้าจะให้เอาหมอนไปรองใต้คอตอนนี้ ยูชอนคงตื่นแน่
It’s was 3 am when you woke me up ~
เจ้าเพลงฝรั่งดังอยู่ได้ไม่นานก็โดนเจ้าของเครื่องฟาดมือเข้าให้จนเงียบไป
ป๊าบ !
“ อีกห้านาที สัญญา” ยูชอนตบป๊าบเข้าที่โทรศัพท์ของตัวเองให้หยุดปลุก ส่งเสียงจิจ๊ะขัดใจในลำคอแล้วจะพลิกตัวนอนต่อ ติดเสียว่า สีห้องไม่คุ้น แถมยังมีบางอย่างหนักๆทับอยู่ที่ขา
“ตื่นก็ได้” ยูชอนพูดกับตัวเอง เบะปากแล้วหยีตาสู้แสงแดดที่ส่องเข้ามาจากข้างนอก
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ? เป็นยังไงบ้าง ? ” ยุนโฮไม่ได้จับมือเขาแล้ว แต่นอนอ่านหนังสือแทน
“พูดเรื่องอะไรของนายล่ะ ?”
“อ้าว หรือว่านายละเมอ ?” ยูชอนจิ้มไปที่อกร่างสูง ดันหลังยุนโฮให้ลุกขึ้นแล้วก็บ่นมุบมิบว่าคนอุตส่าห์เป็นห่วงที่แท้ก็ละเมอเองหรอกเหรอ
“ใครเขาจะละเมอแบบนี้ทุกวัน”
“ทุกวัน ? เดี๋ยวยุนโฮมาคุยกับเราก่อน ปัง !”
“ออกมาคุยกันก่อนดิ๊ ! ” ยูชอนหลับตาสงบสติอารมณ์ แต่ก็ไม่วายเตะประตูห้องน้ำให้ตัวเองได้เตะเท้าเล่น ร่างเพรียวแยกเขี้ยวใส่ประตูห้องน้ำ โวยวายล้งเล้งแล้วเดินไปล้มตัวลงนอนที่เดิม
“พี่เราไม่ได้จ้างนายมานอนนะ”
“เค้าไม่จากเราให้มากล่อมให้นายนอนเหมือนกันนี่ !” ยูชอนผงกหัวขึ้นมาพูดเสียงดังแล้วยื่นสองแขนให้ร่างสูงที่ยืนค้ำอยู่ปลายเท้าดึงขึ้น
“ดึงหน่อยดิ”
“ดึงหน่อยยย เร็วเร็วว” ยุนโฮถอนหายใจยอมดึงแขนยูชอนให้ลุกขึ้นมานั่งแต่โดยดี
“หยิบผ้าขนหนูให้เราหน่อย เออเก็บที่นอนด้วยนะ”
“ให้ถอดเสื้อแล้วอาบน้ำให้ด้วยมั้ยถ้าจะใช้เราขนาดนี้” ยุนโฮโยนผ้าขนหนูให้อีกคนใช้เท้าเขียยูชอนที่ยังนั่งจมอยู่บนที่นอนให้ลุกไปเสียที
ยูชอนยืนเช็ดผมอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า วันนี้ยุนโฮมีถ่ายโฆษณาน้ำอัดลมชื่อดังที่เด็กมัธยมดื่มกันครึ่งค่อนประเทศ แต่เห็นชุดคอนเซปต์แล้วรู้สึกว่าปัญญาอ่อนชะมัด
‘ อย่าพึ่งใส่ไปเลย รับไม่ได้หว่ะ เอาเสื้อกล้ามกับขาสั้นไปก่อนแล้วกัน ’
“อ่ะ ชุดนาย” ยูชอนยื่นชุดของอีกคนให้ พึมพำว่าเดี๋ยวจะพายุนโฮไปตัดผมซะหน่อยเพราะผมข้างหน้ามันยาวปิดตา เห็นแล้วรำคาญแทน
“เดี๋ยวเราขับรถให้ นายงีบอีกหน่อยแล้วกัน ตายังบวมอยู่เลย”
ยูชอนดึงยุนโฮเข้าไปในลิฟต์ คุ้ยหาคอนซีลเลอร์ที่พกติดกระเป๋าไว้มาแต้มที่ใต้ตาให้
“ดีนะที่พี่แจจุงก็ต้องใช้ ไม่มีล่ะตาบวมแย่”
“พูดถึงใครนะ ?”
“ อือ ปกตินายตัดผมที่ไหนอะ เราจะได้พาไป เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด ” ยูชอนเขี่ยผมข้างหน้าของคนสูงกว่านึกภาพว่ายุนโฮไว้ผมยาวแล้วหัวเราะหึหึอยู่คนเดียว
“ปะขึ้นรถ จะนั่งไหน นั่งหน้าแล้วเอนเบาะมั้ย หรือจะนอนข้างหลังอ่ะ ?” ยูชอนขึ้นรถก่อน ปล่อยยุนโฮที่ไม่ชินกับการมีสารถียืนเก้ๆกังๆอยู่ข้างนอก
“เราไม่นั่งรถที่คนอื่นขับ”
“คนอื่นที่ไหนล่ะ เราเป็นผู้จัดการนายนะตอนนี้” ยูชอนกดกระจกลงโน้มตัวข้ามเกียร์มาคุยกับยุนโฮที่ยังยืนนิ่ง
“แม่เรา” ยุนโฮพูดออกมาคำเดียว ยูชอนก็เข้าใจทุกอย่าง ร่างเพรียวเป็นฝ่ายเปิดประตูลงไป นานอยู่เหมือนกันกว่าจะปลอบร่างสูงให้ขึ้นมาบนรถได้
“เราจะขับระวังๆ สัญญา นอนหน่อยนะ เดี๋ยวเดียวก็ถึง ” ยูชอนส่งผ้าปิดตาให้ยุนโฮที่ยอมเอนเบาะลงไปนอนตามด้วยผ่าห่มกับหมอนใบเล็กเข้าชุดกัน
....................................
“ ซับหน้าด้วยครับ ไม่ฮะ รองพื้นไม่ต้องเติมแล้ว !” ยูชอนยืนกำกับอยู่ข้างร่างสูง
“พี่สาวฮะ ผมทำเองดีกว่า” ยูชอนรับแป้งมาถือ เรียวนิ้วปาดแป้งหนาเตอะตรงสินจมูกโด่งออก แตะแป้งกลิตเตอร์แวววาวเล็กน้อยเน้นจมูกเป็นสันและแต้มแป้งลงอีกเล็กน้อย
“อย่างงี้สิหน้าถึงจะดูเด่น” ยูชอนงึมงำ บ่นตลอดงาน ชุดที่ยุนโฮใส่ก็ฟูฟ่องแวววาวขนาดนั้นยังจะมาแต่งหน้าเป็นงิ้วจีนไปได้ ไม่ได้เข้ากันซักนิด มันควรจะเด่นที่ตัวพรีเซนเตอร์ไม่ใช่หรือ ไม่งั้นจะเลือกงานนี้ให้ร่างสูงตรงหน้าเขาทำไม ?
“ไม่ถูกใจก็ทำเองเลยสิ” ยุนโฮมองแววตาคนตรงหน้า ยูชอนมองช่างกล้องกับช่างแต่งหน้าทุกอิริยาบถตาไม่กระพริบ ริมฝีปากอิ่มบ่นงึมอยู่ตลอด เดาว่าคงไม่ถูกใจชัวร์
“ได้ถูกเฉดหัวสิครับ เป็นก็แค่ผู้จัดการ” ยูชอนจิจ๊ะ เห็นการทำงานแล้วขัดหูขัดตาเลยบอกยุนโฮว่าเดี๋ยวมาขอไปเดินเล่นแถวนี้หน่อย
ข้างกองถ่ายทำไม่มีอะไรมาก เป็นสวนใหญ่ที่มีน้ำตกแล้วก็ลานจอดรถ ร่างเพรียวเดินสำรวจไปเรื่อยพอพ้นคนแล้วก็ล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุบสูบ
ควันสีขาวลอยคลุ้งในอากาศ ยูชอนพ่นไอพิษโขมงแล้วโทรหาคนที่ทิ้งข้อข้องใจไว้ให้
[ ว่าไงครับยูชอน ]
“พี่จุนจินฮะ ช่วยเล่าเรื่องคุณแม่พี่ให้ผมฟังที”
................
[ นั่นแหล่ะ หลังจากนั้นเค้าก็ไม่ยอมนั่งรถไปไหนอีกถ้าไม่ขับเอง จะไปไหนกันทีต้องปล่อยให้ขับตามไปไม่พี่ก็ไปนั่งด้วย ]
“แล้วเรื่องฝันร้ายล่ะฮะ ?”
[ พี่เคยพาไปหาจิตแพทย์แล้วนะ แต่ก็ไม่หาย เหมือนฝังใจแล้ว ยุนโฮทำใจไม่ได้ แล้วก็ไม่ยอมรับมัน ถึงได้เป็นแบบนี้ นี่ยังดี ถ้าตอนนั้นยุนโฮรู้ว่าแม่กลังจะมีน้องสาวให้อีกคนละก็ พี่ว่าคงจะแย่กว่านี้ ]
“ผมว่ายุนโฮรู้” ยูชอนสูดบุหรี่เข้าปอดฟืดใหญ่จนไฟแดงลามสุดมวน แล้วถึงได้พูดต่อ
“ตอนเจอกันครั้งแรก เค้าบอกผม”
“เอ่อ พี่จุนจินฮะ ผมต้องวางก่อน ตอนนี้คงพักกองแล้ว ต้องไปดูเสียหน่อย ขอโทษที่รบกวนนะครับ”
ยูชอนขยี้บุหรี่ที่พื้น เดินกลับไปก็เห็นว่าร่างสูงมายืนอยู่หน้าสตูดิโอ
“ไปเดินแถวลานจอดรถมาเหรอ ?”
“อื้อใช่ คุยโทรศัพท์น่ะ”
“กลิ่นบุหรี่หึ่งเชียว ทีหลังก็ไปคุยในสวนสิ ลานจอดรถมีแต่คนสูบบุหรี่
“อ๋อ อื้อ คราวหลังจะไปคุยที่อื่นแทน” ยูชอนกลืนน้ำลายดูท่าแล้วยุนโฮคงไม่ถูกกับกลิ่นบุหรี่แน่ๆ ถือว่าเป็นเรื่องซวยของเขาไปละกัน
.................................
ความคิดเห็น