คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : Da Capo 9 : The Band Contest
ผ่านมาเดือนกว่าแล้วนับตั้งแต่วันนั้น ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ ผมเรียนหนังสือ ซ้อมดนตรี ใช้ชีวิตประจำวันอย่างเด็กนักเรียนธรรมดาไปวันๆ ไม่มีอะไรหวือหวาน่าตื่นเต้น
ไอ้วีเองก็ดีขึ้นมากแล้ว มันทำราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ผมเองก็ไม่กล้าจะถามอะไรให้เป็นการสะกิดต่อมมัน หลังจากเรื่องนั้นมีครั้งหนึ่งที่นิวมันมาบ้านเราเพื่อเอาหม้อขนมมาคืน(ยังอุตส่าห์...) มันขอโทษที่ตอนนั้นไม่อาจเข้าไปช่วยไอ้วีได้ แต่พอพูดถึงชื่อเนม คำตอบที่วีมีให้กับไอ้นิวดันกลายเป็น
‘วีไม่รู้จักคนชื่อนั้น...’
อืม...ตัวผมเองในตอนนี้ก็ไม่ได้เกลียดหรือชังขี้หน้าไอ้เนมมันขนาดนั้นแล้วหรอกนะ แต่ก็อดที่จะรู้สึกขึ้นมานิดๆไม่ได้ว่า...งานนี้ไอ้เนมลำบากชัวร์(สมน้ำหน้า!)
สุดท้ายไอ้ห่านั่นก็ไม่ได้มาเคลียร์อะไรกับไอ้วี ปล่อยร้างค้างคาไว้อย่างนั้นจนน่าจับถีบส่งแม่งกลับไปเรียนโรงเรียนเดียวกับไอ้วีอีกรอบจริงๆ...ขัดใจว่ะ...ผมชักจะเชื่อที่นิวมันบอกว่าไอ้เนมมันยังรักน้องผมอยู่ขึ้นมาแล้ว ห้องผมมีหน้าต่างหันออกทางหน้าบ้าน ผมเห็นไอ้ห่าเนมมันออกมานั่งที่ระเบียงที่หันมาทางบ้านผมทุกคืน และจากปากคำไอ้นิว เนมมันมักจะนั่งอยู่ตรงนั้นจนกว่าไฟห้องไอ้วีจะดับ มันถึงจะยอมกลับเข้าไปนอน
ผมว่านะ..ไอ้พวกนี้นี่เล่นตัวชิบ...รู้บ้างปะว่าคนที่ดูอยู่เฉยๆมันขัดใจนะว้อย!!!
ส่วนผมน่ะหรือ...ก็ไม่มีไรเป็นพิเศษ...ผมกับไอ้ซีก็ยังคง...เป็นเหมือนเดิม...
“วันนี้พี่มีเรื่องจะประชาสัมพันธ์”เสียงของพี่อั๋นที่อยู่หน้าวงเรียกให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นฟัง “มาสเซอร์ที่ฝ่ายกิจกรรมเพิ่งจะส่งโปสเตอร์การประกวดวงดนตรีมาให้พี่เมื่อเช้า งานจะจัดช่วงวิชาการของโรงเรียนเดือนหน้านี้ เปิดรับสมัครรุ่นม.ปลายทั่วจังหวัดในรูปแบบสตริงคอมโบ ถ้าใครสนใจก็มาขอรายละเอียดจากพี่ได้ที่ห้อง 6/1”
“พี่อั๋น ม.ต้นลงไม่ได้เหรอ?”เสียงไอ้ไผ่เด็กฮอร์นม.3 ยกมือขึ้นถาม ไอ้นี่มันซี้ตะวันแล้วก็เป็นน้องของพี่กล้า “แล้วบังคับว่าต้องเป็นเครื่องอิเล็คทรอนิกส์ด้วยหรือเปล่าฮะ ฮอร์นใช้ได้ไหม?”
“ม.ต้นก็ลงได้แต่หัวหน้าวงกับสมาชิกสี่คนขึ้นไปต้องอยู่ม.ปลาย วงหนึ่งใส่ชื่อสมาชิกจำกัดไม่เกินสิบคน ส่วนที่ถาม...ก็บอกอยู่นี่ไงว่าเป็นสตริงคอมโบ...ฮอร์นแกมันเหมาะมากใช่มั้ย?”
ไอ้ไผ่หัวเราะแห้งๆ ดนตรีหลักในงานนี้ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆก็คือดนตรีในปัจจุบันที่เราๆฟังกันเกร่อนี่เอง มันเน้นพวกเบส กีต้าร์ไฟฟ้า กลองชุด ดังนั้นฮอร์นของไอ้ไผ่จงพับเก็บไปเถิด...อาเมน
แต่จะว่าไปผมเองก็เพิ่งขึ้นม.ปลายนี่นะ เคยแต่ดูพวกรุ่นพี่ประกวดกันอยู่ทุกปี งานวิชาการโรงเรียนผมมาสเซอร์ฝ่ายกิจกรรมจะร่อนโปสเตอร์นี้ไปทั่วแทบทุกโรงเรียนในจังหวัดเพื่อเรียกเหยื่อ เอ๊ย...เรียกให้วงดนตรีจากโรงเรียนอื่นมาร่วมประกวดด้วยเพราะงานวิชาการโรงเรียนผมเป็นแบบเปิด คนนอกก็เข้าได้ แถมคะแนนโหวตวงผู้ชนะส่วนหนึ่งยังมาจากคนดูที่เป็นแขกนอกโรงเรียนด้วยซ้ำ ของรางวัลรู้สึกจะเป็นถ้วยประจำปีแล้วก็เงินสดอีกห้าพัน
ก็อย่างว่าล่ะคร้าบ...งานที่เปิดให้คนนอกร่วมด้วยแบบนี้จะไม่มีเงินรางวัลอยู่เลยก็กระไร...แถมโรงเรียนผมมันยิ่งมีสปอนเซอร์กระเป๋าหนักอยู่ด้วย
พอเสร็จประชุมวงพี่อั๋นก็ปล่อยพวกเราตามสบาย แน่นอน ทันทีที่ปล่อยอิสระไอ้ไฟว์ก็รีบวิ่งมาหาผมทันที
“วา กูอยากลงประกวดอ่ะ!”มันน่าจะหมายถึงไอ้เรื่องประกวดวงดนตรีนั่น ผมเองก็ไม่ได้สนใจจะมองหน้ามันเพราะกำลังง่วนอยู่กับการขัดทรัมเป็ตอยู่
“อยากลงก็ลงไปดิ ใครฉุดหาง?”
“มึงก็สมัครกับกูด้วยสิ ตกลงนะ โอเค เดี๋ยวกูไปขอรายละเอียดจากพี่อั๋นเอง”พูดรวดเดียวเสร็จไอ้ห่าไฟว์ก็เดินฉับๆไป ยังดีที่ผมทันได้ยินประโยคที่มันเออออห่อหมกเอาเองเลยคว้าหลังคอเสื้อมันหมับ
“ไอ้คุณเพื่อนเวรครับ ใครบอกคุณมึงไม่ทราบว่าจะลงด้วย?”ผมกัดฟันยิ้มประชดมันเต็มที่ ในขณะที่ไอ้ห่าไฟว์หัวเราะก๊ากๆราวกับไม่สำนึก
“เก๊าะมึงไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่เล่นตัวอยู่ได้กูเลยช่วยตัดสินใจแทน”
โห...รักมันชิบ...ไอ้ห่าไฟว์
ผมถอนหายใจหน่ายๆ “กีต้าร์นี่อย่าให้กูจับ เดี๋ยวพากันพินาศไปหมด แถมกูก็เล่นอะไรไม่เป็นนอกจากทรัมเป็ตด้วย โทษทีนะ”
“ทรัมเป็ตก็ใช้ได้นิ เห็นเพลงสมัยใหม่หลายเพลงก็ใช้ ปีที่แล้ววายังโซโล่ทรัมเป็ตเพลงมากกว่ารักเลยไม่ใช่เรอะ?”
ผมหันขวับไปมองหน้ามันทันทีแบบอึ้งๆ “...มึง...รู้ได้ไงวะ?”ไม่อึ้งได้ไงครับ ไอ้ไฟว์มันเพิ่งมาเข้าโรงเรียนผมปีนี้ แล้วมันรู้เรื่องความอัปยศอดสูในวันคอนเสิร์ตส่งท้ายปีที่แล้วได้ไงอ่ะ...
ไฟว์หัวเราะเสียงต่ำแลดูโคตรโรคจิตแกมเจ้าเล่ห์ “กูมีสาย...ฮ่าๆ เรื่องของมึงกับซีดังจะตาย”
กลายเป็นว่าหลังจากที่ไฟว์มันเห็นภาพผมกับไอ้ซีจูบกันในห้องวันนั้นมันก็โคตรขยันเอาเรื่องไอ้ซีมาแซวผมแบบไม่หยุดปาก ผมล่ะโคตรคิดถึงไอ้ไฟว์เวอร์ชั่นอินโนเซนต์ที่ยืนมองพวกผมแบบตาค้างอยู่หน้าห้องตอนนั้นชะมัด ฮึ่ม...อย่าให้ผมรู้นะว่ามันมีแฟนเมื่อไหร่หรือเป็นใคร พ่อจะแซวคืนให้ยับเลย คอยดูเหอะ...
“เอ่อ...แล้วมึงล่ะจะเล่นไร? อย่าบอกนะว่าจะเอาฮอร์น?”ผมมองหน้ามันแบบหวาดๆ ก็ในวงไอ้ไฟว์มันเป่าฮอร์นนี่หว่า
มันเขกกะโหลกผมแบบไม่จริงจังนัก “กูไม่ใช่ไอ้ไผ่นะ กูมีดีกว่านั้น ไม่ได้เล่นเป็นแต่ฮอร์น”
...งั้นก็แล้วไป “แล้วสมาชิกคนอื่นๆ?”
“ถามหาเอาจากในนี้ก็ได้ ไม่ยากหรอก”ไฟว์บอกแบบไม่ทุกข์ร้อน มันมองซ้ายมองขวาก่อนจะลงมือล่าเหยื่อ
ผมนั่งรอมันอยู่ที่เดิม เห็นไอ้ไฟว์มันเดินเทียวไปเทียวมาซะรอบห้อง ไล่ถามเอาโดยยึดพวกม.4 ชั้นเดียวกันเป็นหลัก ก่อนที่มันจะกลับมาด้วยใบหน้าสุดเซ็ง
“พวกจูนกับกรีนมันฟอร์มวงกับพวกกลุ่มรุ่นพี่ม.5 ในเพอร์คัสชั่นว่ะ เซ็งเลย”ผมพยักหน้ารับ สรุปตอนนี้เราไม่มีมือกลองชัวร์ “มีคนบอกว่านัทเล่นกีต้าร์ลีดเป็น แต่พอถามดูเห็นว่าลงกับอีกทีมไปแล้วเพราะเพชรลงคีย์บอร์ดให้กลุ่มนั้น ส่วนบอลกับบาสมันเล่นเป็นแต่คลาริเน็ต กูเลยไม่รู้ว่าจะเอาพวกมันมาทำซากอ้อยอะไร”
ผมทำหน้าเซ็ง...ไอ้นัทแม่งติดแฟนเห็นๆ...ได้แฟนแล้วพ่งเพื่อนไม่มีเห็นหัวกันอ่ะ
ไอ้ไฟว์ทำหน้าคิดหนัก “มือกลองน่ะกูไม่เดือดร้อนเท่าไหร่หรอก พอจะนึกออกอยู่ เบสกูก็เล่นได้ กีต้าร์ก็พอมีแต่แม่งคงได้แค่คอร์ดแหง...ตอนนี้เลยอยากได้นักร้อง คีย์บอร์ด แล้วก็มือกีต้าร์เก่งๆ”
“นักร้อง...”ไม่รู้สิครับ แต่พอพูดถึงนักร้องแล้วผมนึกถึงซีว่ะ...เสียงซีมันจะทุ้มๆนุ่มๆแต่ก็ไม่ใช่คนพูดช้า(คนจีนพูดน้ำไหลไฟดับจะตายไป) ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือน...มหาสมุทรล่ะมั้ง...ทุ้มๆนุ่มๆแต่ฟังแล้วรู้สึกล้ำลึก...เอ่อ...แต่อย่าให้มันโกรธนะครับ...ไอ้มหาสมุทร(ซี)นั่นมันจะเกิดอาการบ้าคลั่งเฉียบพลันรุนแรง(ไข้หวัดซาร์ส - -? )
“มึงนึกใครออกมึงก็บอกละกัน ตอนนี้กูต้องล่ามือกีต้าร์กับคีย์บอร์ดก่อน”ไฟว์บอกอย่างมุ่งมั่น โห...กูแทบจะเห็นประกายวิบๆวับๆจากตามันเลยว่ะ
ผมอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ “ทำไมมึงฟิตจังวะไฟว์? อยากประกวดมากขนาดนั้นเชียว?”
“ก็กูมั่นใจว่า...”ไอ้ไฟว์ทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แล้วมันก็หยุดไป “...เออ ช่างเหอะ”
“เฮ้ย จะพูดก็พูดให้จบดิ”ผมมองหน้ามันแบบหาเรื่องหน่อยๆ หนอย...ทำให้อยากรู้แล้วจากไป ค่าความอยากรู้ของกูน่ะแพงนะ...จะบอกให้
ไฟว์กลอกตาไปมา “มันก็ไม่สำคัญอะไรหรอก...ก็แค่กูคิดว่าเพื่อนที่โรงเรียนเก่าคงจะลงประกวดด้วย...กูกับมันเคยคุยกันว่าพอขึ้นม.ปลายแล้วจะฟอร์มวงลงงานนี้กันให้ได้...แต่กูก็ดันย้ายโรงเรียนมาซะก่อน”
จะว่าไปแล้วไฟว์มันก็ย้ายมาจากโรงเรียนเดียวกับเนมนี่หว่า...โรงเรียนของไอ้วีสินะ...
“โอ๊ย พอเหอะ เรื่องเก่าๆ”มันตัดบทฉับด้วยการทำเป็นโวยวาย แล้วก็เริ่มมองไปรอบๆเหมือนจะหาเหยื่ออีกครั้ง “มาๆ...มือกีต้าร์กะมือคีย์บอร์ด ช่วยกูหาเลยนะไอ้ห่าวา ข้อหาทำให้กูคิดมาก”
“โห...”ผมอุทานเบาๆอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ยอมวางทรัมเป็ตแล้วช่วยมันแต่โดยดี “พูดซะ...นั่นเพื่อนหรือแฟนเก่ากันแน่เนี่ย...”
ขวับ!
หือ? ไฟว์มันหันขวับมามองผมแล้วจ้องตาเขียวเลยอ่ะ เฮ้ๆๆ สหาย...กูไปทำอะไรให้มึงกันพะย่ะวะ?(ราชาศัพท์เริ่มวิบัติ)
เฮ้ย...หรือว่าผมจะเดาถูก...?
ไอ้ไฟว์เลือกที่จะเดินหนี มันเอาแต่พึมพำว่ามือกีต้าร์ๆๆๆๆ มือคีย์บอร์ดๆๆๆๆ...ดูแล้วให้ความรู้สึกว่ามันคล้ายคนเป็นโรคจิตประเภทหนึ่งอย่างไรพิกล
แต่ก็เอาเหอะ...จะแฟนเก่าหรือจะเพื่อนก็เรื่องของมัน...เรื่องส่วนตัวมันผมเองก็ไม่อยากยุ่งเท่าไหร่...เข็ดเกินพอแล้ว...ไอ้การที่ไปเสือกเรื่องส่วนตัวชาวบ้านจนได้เรื่องน่ะ...
“เดี๋ยวจะลองถามๆดูละกัน”ในที่สุดผมก็ยอมเออออไปกับไอ้ไฟว์ เอาเหอะ ถ้าผมไม่ต้องเล่นกีต้าร์จะอะไรก็ได้แหละ(แต่ก่อนซีมันเคยสอนดีด แต่นอกจากจะไม่รุ่งอย่างแรงแล้วยังเสือกไปทำสายกีต้าร์มันขาดอีกต่างหาก)
เป้าหมายแรกที่ผมเลือกคือรุ่นพี่ใกล้ตัวที่กำลังเทรนแบบฝึกหัดให้เด็กทรัมเป็ตสามคนนั่นอยู่ ผมรอจนพี่กานต์สอนจบแล้วปล่อยให้พวกมันซ้อมกันเองก่อนถึงค่อยเข้าไปพูด
“คือ...ไฟว์มันอยากฟอร์มวงลงประกวดอ่ะพี่”ผมเกริ่นขึ้นประเด็น “มันพยายามจะลากผมให้เข้าด้วย แต่หาคนไปๆมาๆจนตอนนี้เราก็ขาดแค่กีต้าร์ลีดกับคีย์บอร์ด พี่พอจะรู้จักใครที่เล่นได้หรือเปล่าอ่ะ”
ผมทดรายการนักร้องเอาไว้ในใจ คิดว่าไว้ไปถามซีดูทีหลังก็คงไม่เสียหายอะไร...
“หืม...”พี่กานต์ขยับยิ้มมุมปาก ท่าทางอารมณ์ดีผิดปกติ “กีต้าร์ไฟฟ้าอ่ะนะ?”
“นั่นแหละๆ”
“โอเค เดี๋ยวไว้พี่ลงให้”
“อืม เดี๋ยวผมไปบอกไอ้ไ...หือ!!?”ผมหันขวับไปมองรุ่นพี่ร่างสูงแบบไม่อยากเชื่อหู มองซ้ำขึ้นๆลงๆเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองจะหูฝาด เบลอจัด หรือไม่ก็เริ่มบ้า “พี่กานต์เล่นเป็นเหรอ?”
“เอ๊า ดูถูกกันซะแล้ว”พี่กานต์หัวเราะร่วน “ถ้าเล่นไม่เป็นพี่ไม่กล้าเสนอตัวหรอกครับ อายเขาตาย ถึงจะเห็นงี้ก็เหอะ แต่ตอนอยู่ม.4 พี่ก็เคยรวมวงกับพวกไอ้กล้าลงประกวดมาแล้วนะ”
พี่กานต์ขยิบตาให้ ผมหัวเราะเหอะๆ ตอนพี่กานต์ม.4 ผมเพิ่งอยู่ม.2 เรายังไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ ไม่แปลกที่ผมจะจำไม่ได้(ผมเป็นพวกไม่ค่อยสนใจจะจำหน้าชาวบ้านครับ)
“งั้นก็...สรุปว่าพี่กานต์จะเล่นให้สินะ”ผมถามย้ำ และพออีกฝ่ายพยักหน้ายืนยันผมก็ถึงกับยิ้มกว้าง “ดีเลย จะได้ไปบอกไฟว์ว่าเหลือแค่คีย์บอร์ดแล้ว...”
“อ๋อ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง พี่มีคนเล่นคีย์บอร์ดเสนอให้”ผมหูผึ่งทันทีเลยถามกลับแบบอยากรู้เต็มที่ว่าเป็นใคร แต่ฝ่ายนั้นกลับจุ๊ปาก แล้วบอกแค่ “เดี๋ยวไว้พอถึงเวลาจะพาไปหาเอง”
พอเขาพูดแบบนี้ผมเลยไม่รู้จะซักถามต่อให้ได้พระแสงหอกข้างแคร่อะไร เลยเดินไปบอกไอ้ไฟว์แบบมึนๆงงๆว่าครบแล้ว พี่กานต์จะเล่นกีต้าร์ลีดให้ ส่วนคีย์บอร์ดเดี๋ยวพี่เขาจะเป็นคนไปหามาเอง
ไอ้ไฟว์มองหน้าผม มันเองก็มีท่าทีดีใจไม่น้อยไปกว่ากันที่รู้ว่าคนครบแล้ว แต่พอพูดไปพูดมามันก็ดันยิงคำถามอันเป็นประเด็นเบ้อเริ่มในใจใส่ตรงเป้าเสียจนผมยังถึงกับจุก
“เออ แต่จะว่าไป...แล้วนักร้องล่ะ?”
เอาล่ะ...จะใช้วิธีไหนบอกซีมันดีนะ
ไอ้ซี...เป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในจำพวกที่ผมจะเดินไปชวนแล้วมันจะตอบตกลงทันทีหรอกครับ ครั้งที่แล้วที่มันมาร้องเพลงในงานคอนเสิร์ตอ่ะ ผมลองไปเลียบๆเคียงๆถามพี่กานต์มาแล้ว พี่กานต์ไม่ยอมเล่ารายละเอียดแต่บอกแค่ว่าซีเป็นคนเดินมาขอเองและก็เลือกเพลงมากกว่ารักออกมาจากโน้ตที่มีอยู่มากมายก่ายกองของวงโดยมีพี่กานต์เป็นคนคอยแนะนำว่าเพลงไหนเล่นยังไง
มานึกย้อนดูแล้วผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตกลงไอ้ซีกับพี่กานต์เขาคุยกันดีๆแล้วเรอะ...
ดูตามนิสัย ซีมันไม่ค่อยจะร้องเพลงเป็นสาธารณะนัก ผมลองคิดหาวิธีไปต่างๆนานา แต่คิดแล้วก็นึกปวดประสาทอยู่ไม่น้อย เอาล่ะสิ...จะพูดกับมันยังไงดี
“ซี”ผมไปหามันที่ห้อง 4/2 ตอนพักเบรก ซึ่งซีมันก็กำลังเอกเขนกฟังไอพอดของมันอย่างสบายอารมณ์ “คือ กูอยากถามอะไรมึงหน่อยอ่ะ...เรื่องประกวดวงดนตรี”
ซีเงยหน้ามองนิ่งๆเป็นเชิงบอกว่ากำลังฟังอยู่
“ไฟว์มันชวนตั้งวงประกวด ตอนนี้เลยกำลังมองหานักร้องอยู่”ผมบอกมันตามตรง “มาร้องให้หน่อยได้มั้ย?”
ซีไม่ตอบอะไร มันมองหน้าผมอยู่อย่างนั้น สักพักก็ถอดหูฟังออกแล้วกระตุกยิ้ม...สาบานเหอะว่านั่นเรียกยิ้ม! นั่นอ่ะโคตรจะดูสุดโฉดคลับคล้ายคลับคลามาเฟียจนผมอดขนลุกซู่ไม่ได้...
“ถ้ากูร้องให้แล้วกูจะได้อะไร?”
นั่นไง...กูว่าแล้ว
ผมยิ้มตอบมันแบบขอไปที “วงที่ชนะได้เงินห้าพันกะถ้วย...”
“ใครสนเรื่องนั้นกันวะ”มันตัดบทผมก่อนที่ผมจะได้ชี้แจงอะไรมากไปกว่านี้ “กูหมายความว่า...จากมึงน่ะ”
ใบ้รับประทาน...พูดไม่ออกบอกไม่ถูก...ให้ตายห่าดิ...มันจะเอาอะไรกับผมวะครับ!!
ผมถามมันกลับแบบระมัดระวังหน่อยๆ “...มึงอยากได้อะไรล่ะ”
ไอ้ห่าซีไม่ตอบ ดวงตาดุคมของมันเลื่อนสายตาลงจากใบหน้าผม เคลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆก่อนจะเลื่อนขึ้นมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าตามเดิม มันไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่แค่สายตาที่มันมองก็ทำเอาผมหน้าร้อนวาบแล้ว
“หึ”มันกระตุกยิ้มอย่างมีความหมาย...ยิ้มแบบโคตรเจ้าเล่ห์ที่ผมมองแล้วรู้สึกร้อนจนควันจะออกหู
ไอ้เชี่ยซี...มึงนี่มัน...
คุณๆทั้งหลายเข้าใจความหมายที่มันจะสื่อหรือเปล่าครับ ผมล่ะไม่อยากจะเชื่อ! ตอนแรกที่รู้จักกันไม่เห็นจะมีวี่แววว่ามันจะเป็นคนแบบนี้เลยสักนิด แล้วไหงพอ...คบกับมัน...มันถึงได้ช่างเจ้าเล่ห์และ...ลามก...ได้ขนาดนี้กันวะ
ผมไม่ได้อยากได้มันมาเป็นนักร้องมากถึงขนาดว่าจะต้องเอาตัวเข้าแลกนะเฟ้ย!!
“ม...ไม่ร้องก็ไม่ร้อง! กูไปหาคนอื่นก็ได้โว้ย!”ผมตอบอย่างรวดเร็วแล้วหันหลังจะไปหาเป้าหมายใหม่ ทว่าอุ้งมือแกร่งก็คว้าแขนหมับเสียก่อน
“กูยังไม่ได้พูดเลยสักคำว่าจะเอาอะไร”เสียงที่บอกแม้จะราบเรียบแต่ก็เจือเสียงหัวเราะที่ชวนให้รู้สึกหมั่นไส้อยู่ไม่น้อย “คิดไปถึงไหนกันน่ะ...หืม?”
โว้ยยยยย!!!
ผมว่าตอนนี้ตัวเองคงกำลังหน้าแดงแจ๋แหงเลยว่ะ บ้าเอ๊ย...ก็ดูมันมองสิ...มองซะแบบ...จะกลืนเข้าไปทั้งตัว...แถมมันยิ่งเป็นพวกชอบหาเศษหาเลย...หาเรื่องจะแกล้งจับกดผมอยู่ตลอด เอ๊ย! ตายห่า พูดเองสะดุ้งเอง เอาเป็นว่าช่วยทำเป็นไม่ได้ยินที่ผมพล่ามๆออกไปเมื่อกี้ทีเถอะนะครับ - -
“ก็...ก็ยังไม่ได้คิดอะไรนี่ ฮ่าๆ”ผมหัวเราะกลบเกลื่อน เสร็จแล้วก็ดึงแขนออกจากมือมันก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้าโดยพยายามอย่างยิ่งที่จะยิ้มให้ดูเป็นปกติมากที่สุด แต่ยิ้มไปยิ้มมาดันรู้สึกเหมือนตะคริวกินหน้า ยิ้มก็เบี้ยวๆยังกับสันนิบาตแดก...แม่งเอ๊ย ทุเรศตัวเองชิบ
ไอ้ห่าซีกระตุกยิ้มหึ ยิ้มแบบสะใจโคตรๆที่ทำเอาผมหมั่นไส้เหลือทน “วันเสาร์พรุ่งนี้มึงว่างสินะ?”
ผมเลิกคิ้ว คนปกติมันควรจะถามว่า ‘วันเสาร์พรุ่งนี้มึงว่างหรือเปล่า?’ ไม่ใช่เรอะ...เป็นคนอื่นคงฟังแล้วไม่เห็นความแตกต่าง แต่ผมรู้...ถ้ามันพูดอย่างนี้แปลว่ามันไม่ได้จะถามหรอก เพราะผมไม่สามารถที่จะตอบคำอื่นได้นอกจาก ‘อืม’ หรือ ‘ใช่’ แต่ก็นั่นแหละ...ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าถ้าเป็นงี้แล้วแม่งจะถามหาหอกอะไร
“แต่งตัวรอกู เดี๋ยวสิบโมงไปรับ”ก็บอกแล้วไงครับว่ามันไม่ใช่คำถามที่ผมจำเป็นต้องตอบหรือมันจำเป็นต้องรอฟังคำตอบ เพราะคำตอบเดียวที่ผมให้มันได้จะต้องเป็นเซย์เยสเท่านั้น ไอ้ห่านี่เอาแต่ใจจะตาย รู้จักมันมานานขนาดนี้ถ้ายังไม่ซึ้งถึงแก่นก็ให้มันรู้ไปดิ แต่เอ๊ะ...เดี๋ยวสิ...ตะกี้ซีมันพูดว่าไงนะ...
“จะไปไหน?”ผมถามด้วยความข้องจิตเหลือหลาย ไอ้ซีนี่เอาแต่สั่ง สั่งเสร็จก็ทำท่าจะไปฟังไอพอดต่อและปล่อยให้ผมได้แต่ยืนทำหน้าเป็นหมางงอยู่คนเดียว
มันเอาไอพอดเสียบหูแล้วกดเพลย์ให้เพลงเล่นต่อ...แปลว่ามันไม่คิดจะตอบจริงๆสินะ...ห่าแดกเหอะ!!
ผมดึงหูฟังออกด้วยความหมั่นไส้สุดตีนแล้วกรอกเสียงใส่รูหูมันแทน “ไอ้คุณซีครับ! ตกลงจะพากูไปไหนไม่ทราบ!”
ฝ่ามืออรหันต์ที่ไม่ได้โดนมาเสียนานป้าบลงกลางกะโหลกก่อนที่ไอ้คนหน้านิ่งจะฉวยหูฟังกลับไปยัดต่อตามเดิม ผมยืนอึ้ง นี่สรุปผมผิดที่ไปกวนใจมันเรอะ? ไอ้แม่งนี่...กวนตีนที่สุด!!
“ไอ้ซี!!”
ซีหันกลับมา ทำหน้าเบื่อหน่ายนิดหน่อยแต่ปากเสือกยิ้ม “มึงคิดดีแล้วเหรอ...ที่แหกปากถามกูตรงนี้น่ะ?”
มันถามกลับห้วนๆ ซึ่งพอได้ยินคำถามผมก็เริ่มได้สติ มองไปรอบๆตัวเหมือนเพิ่งนึกออกว่าที่นี่มันห้องเรียนแถมผมก็ไม่ใช่เด็กห้องนี้ วันนี้ห้องผมเรียนพละด้วยผมเลยโคตรจะเป็นจุดเด่น แถม...แม่งก็รู้กันเกือบจะหมดแล้วว่าผมกับไอ้ห่าซีนี่เป็นอะไรกัน...
“ฮิ้ววววว เฟี้ยวจริงนะมึง มีนัดเดทด้วยว่ะ!”ไอ้ห่านัทส่งเสียงมาเป็นคนแรก เฮงซวย! ลืมไปได้ไงวะว่าไอ้ปากมากนัทมันอยู่ห้องเดียวกับซี เพชรที่นั่งข้างๆไอ้นัทหัวเราะคิก เฮ้ย...เพชรแม่งรู้ตัวเองรึเปล่าเนี่ยว่ามันเริ่มจะร้ายหน่อยๆแล้ว...ทำไมพักนี้เห็นเพชรแล้วรู้สึกว่ามันโหดเฮี้ยบขึ้น
“อย่าไปแซวเขาสินัท เรื่องแบบนี้มันต้องเก็บเป็นความลับ”ไอ้เพชรดุฝาละมีมันแบบไม่ค่อยจริงจังนัก ผมสบถ ปากมันบอกว่าต้องเก็บเป็นความลับ แต่ไหงเสียงมันเสือกดังพอที่จะประจานให้รู้กันทั่วห้องเลยล่ะวะ!!!
“ฮิ้ววววว”พวกเพื่อนในห้องโห่กันอีกยก ไอ้ผมก็น้ำท่วมปาก จะเถียงก็เถียงไม่ได้(เพราะมันเป็นเรื่องจริง...)แต่ไอ้ครั้นจะไปบ้าจี้กับพวกมัน...ใจก็ไม่ด้านพอ!
ผมหันไปมองคู่กรณี แต่ไอ้ซีก็ดันเอาแต่ฟังเพลงอย่างสบายอารมณ์ ไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับการแซวรอบห้องนี้เลยสักนิดเหมือนเป็นสิ่งที่เจอจนชินชาแล้ว...โว้ยยยยย แม่ง!
“จำไว้นะโว้ย!!”สุดท้ายทางเดียวที่นึกออกก็คือเผ่นครับ...เผ่นไปให้ไกลๆ...และก็คงจะอีกนานเลยกว่าผมจะกล้ามาเหยียบห้องวิทย์ 2 นี่อีก
วันเสาร์
ผมยืนอยู่หน้ากระจกในห้องนอน กระจกสะท้อนภาพคนหล่อ หน้าตาดี เท่บาดจิตบาดใจ แถมยังขาวใสสวยเอ็กซ์ เฮ้ย!! ไม่ใช่ๆ ช่วยทำเป็นลืมๆไอ้คำเมื่อกี้ไปทีเถอะนะ...
วันนี้ผมใส่กางเกงขาสามส่วนสีขาวกับเสื้อยืดแขนยาวสีเหลืองมีลายทางสีส้มที่แขน มองๆตัวเองในกระจกสักพักก็รู้สึกว่าช่างจืดเหลือทนผมเลยเดินไปคว้ากั๊กสีครีมมาสวมทับ แต่ยิ่งสวมก็ยิ่งร้อนแถมยังดูแหม่งๆปะแล่มๆจนถอดออก ตามด้วยยืนจ้องตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกอีกนาน เอ๊ะ...ใส่ขายาวแทนดีกว่ารึเปล่านะ หรือว่าจะเอาเสื้อตัวอื่นดี...
ปึง! ปึง!
“วา น้องซีมาแล้ว! จะแต่งตัวอีกนานแค่ไหนยะ!”เจ้ศาแว้ดๆอยู่หน้าห้อง ท่าทางวันนี้เจ้ผมจะหงุดหงิดเป็นพิเศษ ถ้าให้เดานะ ไม่นิยายพล็อตตันก็แอสซายเยอะจนไม่มีเวลาทำงานอดิเรกที่เจ้แกปลื้มแหง(เสพวายนั่นแหละ ไม่มีไรหรอก...พี่สาวผมคนนี้น่ะ)
ผมรีบวิ่งออกจากห้องแล้วเปิดประตูผลัวะ เจ้ศาที่ยังอยู่ในสภาพชุดนอนยืนกอดอกมองผม แวบแรกสีหน้าเจ้ดูหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ แต่ไม่รู้ทำไม...พอหันมาเห็นผมปากบางๆนั่นก็เริ่มแสยะยิ้มทันตา
“อะฮ่า...”ให้ตายเถอะ ผมไม่ชอบเสียงแบบนี้ของเจ้ศาเลยว่ะ เจ้แกทำเสียงแบบนี้ทีไรงานเข้าผมทุกที “แต่งตัวแอ๊บดีนี่หว่า...ทำเหมือนเด็กประถมหัดเดทไปได้...ระวังลงไปแล้วจะโดนน้องซีเบียดชิดซ้ายเอานา~”
“ค...ใครบอกเจ้ไม่ทราบว่าวาจะเดท!”ผมว้ากใส่พี่สาว พยายามไม่สนใจสายตาวิบๆวับๆเหมือนจะบอกว่า ‘ชั้นรู้ทันแกนะไอ้น้อง’ ของเจ้ ผมเดินลงจากชั้นสอง เจ้ศาเดินตามมา(ทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนนั่นแหละ ให้ตาย...พี่สาวผมนี่ไร้ความเป็นกุลสตรีสุดๆ) “เออเจ้ เขาไปไหนหมดเนี่ย ทำไมวันนี้บ้านเงียบๆชอบกล”
“ป๊ากับแม่ไปชลบุรีไง ลืมแล้วเรอะ ส่วนเจ้าวี...”เจ้ศาหยุดไปนิดหน่อย ก่อนจะจ้องหน้าผมด้วยสายตามีความหมาย
เฮ้ย...สังหรณ์ว่ะ เจ้ผมทำหน้าแบบนี้แล้วแม่งโคตรน่ากลัว แถมสิ่งที่ตามมายังมักจะไม่ใช่เรื่องดีอีกต่างหาก “อะ...อะไรเล่า...มีไรไม่ยอมพูด...”
“เจ้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกข่าว”เจ้ศาพึมพำด้วยสีหน้าคิดหนักสุดๆ “เมื่อเช้ามีไอ้หนุ่มที่ไหนไม่รู้มาลากไอ้วีไป ถามจริง แกรู้จักไอ้หนุ่มนั่นปะ?”
ผมเลิกคิ้ว ทำหน้าเอ๋อ “หนุ่มไหน?”
“ไอ้คนสูงๆขาวๆซีดๆที่โคตรหล่อ หล่อชิบหาย ที่ตามันดุๆคล้ายน้องซีแล้วก็ทำหน้าเหมือนโมโหอะไรสักอย่างอยู่ตลอดเวลา...”
ผมฟังคำอธิบายของเจ้แล้วก็แวบหน้าคนหนึ่งขึ้นมา แต่ก็ยั้งปากตัวเองไว้ได้ทันก่อนที่จะหลุดพูดอะไรออกไป
“ไม่รู้ว่ะเจ้ ไม่เห็นคุ้น”
ผมรีบเดินหนีก่อนที่ตัวเองจะออกพิรุธอะไรออกไป เจ้ผมแม่งตาไวจมูกไว ยิ่งกับเรื่องแบบนี้น่ะยิ่งไวสุดๆ เจ้เดินตามมาแบบกัดไม่ปล่อยแต่ผมแกล้งทำหูทวนลมทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่รู้สิ...แต่พอฟังเจ้พูดแบบนี้แล้วผมดันนึกถึงไอ้หมอนั่นแฮะ ก็ช่วงนี้คนที่มันมี ‘ซิมธิง’ กับน้องผมก็มีแต่มันนี่หว่า แต่อย่าพูดเลย...เดี๋ยวเจ้แกได้ยินแล้วจะเรื่องยาวซะเปล่าๆ
แต่ไอ้หมอนั่นก็...อาจจะไม่ใช่ไอ้เนมก็ได้นี่นะ...
“อย่าให้ชั้นรู้ทีหลังเชียวนะยะ!!”
ผมทำหูทวนลมรอบสองแล้วเดินลงไปข้างล่าง ซีนั่งอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น มันหันมาเมื่อได้ยินเสียงคนเดินมา ผมชะงักไปนิดหนึ่งตอนที่มันยืนขึ้นแบบเต็มความสูง ก็ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยออกไปไหนมาไหนด้วยกันหรอกครับ แต่จะตอนไหนผมก็ไม่ชินซะที ปกติอยู่โรงเรียนมันก็ดูเด่นอยู่แล้ว แต่เวลาไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนนี่ยิ่งหนัก ผมว่าซีมันดูไม่เหมือนคนไทยอย่างแรง(ก็ไม่ใช่จริงๆนั่นแหละ - - ) อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่เอาเป็นว่า...มันดูดีสุดๆก็แล้วกัน
ซีใส่เสื้อแขนยาวสีเทาถลกแขนเสื้อขึ้นถึงศอก มีเสื้อนอกแขนสั้นสีดำคลุมทับ มันใส่ยีนส์สีน้ำเงินเข้มที่ผมไม่อยากแม้แต่จะชะโงกไปถามยี่ห้อหรือราคา ผมมองแอสเซสเซอรี่แบรนด์ดังแถมยังแพงนรกอาทิเข็มขัดหนัง โซ่ข้อมือ หรืออะไรก็ตามที่ประดับอยู่ตามร่างกายมันด้วยสายตาบอกไม่ถูก และยิ่งรู้สึกเอ็นคอกระตุกหนักเข้าไปอีกเมื่อก้มมองรองเท้าคอนเวิร์ทของแท้ราคามหาโหด
“กูเปลี่ยนใจทันปะวะ...”ผมเกาหัวแกรกๆ ถามมันด้วยความจริงใจสุดตีน
ไอ้ซีถามกลับเสียงเย็น “ทำไม?”
ผมยิ้มแหย “แสบตาเกิน...เดินด้วยกันแล้วกูกลัวเหมือนคนใช้มากกว่าเพื่อนมึง”
รึไม่จริงล่ะครับ ผมล่อเสื้อยืดยังกะเด็กประถมแถมยังกางเกงผ้าธรรมดาๆ เบสุดๆไม่ต่างไปจากเด็กหัดเที่ยวอย่างที่เจ้ว่าจริงๆ แต่ไอ้คุณชายนี่เล่นซะแบบ...อื้อหือ
“งี่เง่า”มันพูดสั้นๆแล้วเดินนำผมออกไป เฮ้ยๆๆ นี่บ้านกู อย่ามา เอ๊ะ...ว่าแต่ตะกี้มันด่าผมเหรอวะ
“ไอ้เวร! มึงด่ากูงี่เง่า!”เมื่อนึกได้ก็จงด่ามันกลับซะ...
ไอ้ซีหันกลับมานิดหนึ่งแล้วเหลือบตามองข้ามไหล่ตัวเอง “มึงใส่แบบนี้ก็น่ารักดีแล้ว”
พูดจบสั้นๆมันก็เดินฉับๆออกจากบ้านไป แต่คำพูดมันสิทำเอาผมยืนรากงอกถาวรอยู่ตรงนั้นเลย น่ารัก? มันชมผมเหรอวะ ผมเนี่ยนะ...
แต่เฮ้ย...มันจะมีผู้ชายคนไหนกันวะที่โดนชมว่าน่ารักแล้วจะดีใจน่ะ
“รอกูด้วยเด้!”ผมรีบวิ่งตามมันออกไปโดยไม่รอช้าทันทีที่รู้สึกตัว แสร้งตะโกนเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนอาการร้อนวูบวาบแปลกๆที่ใบหน้าและอาการกระตุกยิกๆในหัวใจ
ผมไม่ได้กำลังใจเต้นเพราะคำชมมันนะ...เปล่าเลยเปล่า...
เฮ้ย! เชื่อกันหน่อยดิ!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ถามนิดนะคะ มีใครเชื่อเจ้าวากันบ้างเอ่ย? 55555+ กลับมาสู่เนื้อเรื่องปกติซะทีหลังโนว์อู้มานาน เอ๊ยยยยย ไม่ว่างมานาน ฮ่าๆๆ ไม่ได้อู้น้า(หัวเราะกลบเกลื่อน)
ช่วงนี้โนว์กลับมาสู่โหมดบ้าพลัง เรื่องมอบตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว วะฮ่าๆๆๆ หนึ่งปีแห่งนรกผ่านไปไวเหมือนโกหก -*- ไม่ทันไรนี่ก็ใกล้จะปีใหม่ละ เร้วเร็ว โนว์ลงเรื่องนี้มาปีกว่าแล้วหรือนี่(รู้สึกจะลงช่วงตุลา แต่จำวันที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ) เวลาเร็วมากเลย...จริงๆนะ
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ ขอให้เรื่องร้ายๆผ่านไปกับปีเก่านะคะ แล้วก็ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆกับวันปีใหม่ ><
มาตอบเม้นท์กันดีก่า เย้! แต่จะตอบตั้งแต่ของวันที่ 26 เป็นต้นไปนะคะ เพราะโนว์ลงตอนพิเศษคริสมาสวันนั้นพอดี ขออภัยกับเม้นเก่าๆที่ไม่ได้ตอบด้วยค่ะ แบบว่าโนว์กลัวปน ได้อ่านนะ แต่ไม่รู้จะจัดยังไงอ่ะ = =a
คุณ นนท์ - ฮาๆ คู่นี้บอกแล้วค่ะว่าเก็บไว้รอลุ้น(ว่าเมื่อไหร่จะฆ่ากันตาย) เป็นอะไรที่เอาไว้ถ่วงความรู้สึกคนอ่านแบบขัดจิตขัดใจแท้ แหม แต่โนว์ชอบแบบตาพี่เนมนะ(โรคจิต - -?) เปล๊าาาาา คือแค่มันดูเข้าใจยากเฉยๆน่ะ โนว์ไม่ได้ชอบคนโรคจิตค่ะ 5555+ หนูวีเขาก็ไม่ถึงกับซึนหรอก แต่เจอเข้าไปแบบนี้ก็พูดยาก ดังนั้นรอลุ้นทางเดียวค่ะ
คุณ fukumoji - ถ้าเห็นว่าตอนนี้น่ารักก็ดีค่ะ เพราะปกติถ้าเป็นตาซีกะหนูวาจะไม่เลี่ยนได้จิตได้ใจขนาดนี้ 555+ อาจเพราะต่างกันทีอายุมั้ง พี่กานต์ดูมาดให้เลี้ยงต้อย เอ๊ยยยย รักเด็ก มันเลยออกแนวหวานๆ แต่ซีกะวาอายุเท่ากัน มันเลยหวานแบบสะดุดๆนิดๆ ส่วนอีกคู่ที่อายุต่างกัน(แบบปีเดียว)น่ะเหรอ...รอห้ามมวยน่าจะเวิร์คกว่าไปแอบส่องบทหวาน 555+
ปล เมอร์รี่คริสต์มาสแอนด์แฮปปี้นิวเยียร์เช่นกันค่า ><
คุณ TEAUTA' - ถ้าพูดในแง่ของพี่อั๋น เซ้นส์ของพี่กานต์ก็คือความส.ใส่เกือกในชีวิตพี่แกดีๆนั่นเอง พี่อั๋นแกออกจะเซ็งๆกับการตอแยไม่เลิกของพี่กานต์ ถ้ามีโอกาสได้เขียนซีรีย์พี่อั๋นแกก็คงเห็นชัดกว่านี้ค่ะว่าพี่กานต์จะเป็นตัวอะไรที่ชอบสู่รู้ เอ๊ยยยยยย รู้เรื่องชาวบ้านไปทั่วทั้งที่ไม่มีใครบอก 5555+ คิดผิดคิดใหม่เนอะตัวเล็ก ท่าทางหนูเขายังไม่ค่อยได้เห็นด้านกวนๆเวลาทำใส่เพื่อนของคุณแฟน แม้เรื่องสุภาพบุรุษจะจริงไปครึ่งค่อนเลยก็ตาม เอิ๊กๆๆ
ปล ขอบคุณค่ะ แต่โนว์ว่าส่วนหนึ่งก็เพราะกำลังใจจากทุกคนด้วยนะ ฮาๆๆๆ ดีใจมากๆจริงๆค่ะ ^^
คุณ ผู้วิเศษในคราบมนุษย์ - อู้ยยยยย บอกไม่กดดันแต่แอบเซ้นส์ได้ถึงรังสีประหลาดๆจากข้างหลัง(รีบเดินหนี เบือนหน้าไม่ยอมมองสบตา) อะแหม 55555+ มาช้าก็ดีกว่าไม่มาล่ะเนอะ(สะกดจิตตัวเอง+รีดเดอร์ไปพร้อมๆกัน แต่กับรีดเดอร์หนักกว่า!!) โนว์จะพยายามมาอัพบ่อยๆนะคะ เอ...รู้สึกคำนี้พูดบ่อย แต่ไม่ได้พูดพล่อยๆนะ นี่ก็เริ่มบ้าพลังละ หยุดยาวปีใหม่ 555+ หลังมีความสุขกับคุณพี่กานต์แสนดี(เกินเหตุ)กับตัวเล็กน่ารัก(แต่เจ้าตัวไม่ค่อยปลื้มชื่อนี้เท่าไหร่)ก็อย่าลืมเจ้าวากะซีนะคะ ฮาๆๆ สุขสันต์วันปีใหม่เจ้าค่าาาาา!!
คุณ kaokorn - X'Mas ย้อนหลังและ New Year ล่วงหน้าค่ะ ^^ ขอบคุณมากๆที่แวะเวียนมาอวยพร ขอให้มีความสุขกับปีใหม่และปีถัดๆไป เรื่องร้ายๆหายไปกับปีเก่านะคะ
คุณ ReNaI---aWaRe - Happy New Year มีความสุขตลอดไปเช่นกันค่ะ อยู่กันมาแต่เริ่มจนปัจจุบัน 5555+ ปีนึงผ่านไปแล้วค่ะ เร็วสุดๆ เอ....อยากได้ของขวัญปีใหม่เหรอคะ? อย่ายั่วสิ โนว์ก็อยากแต่ง แต่กลัวเนื้อเรื่องมันจะไม่กระดิกไปไหน 55+ คิดดูก่อนค่ะ ถ้าจิ้นออกก็จะจิ้นให้ ฮาาาา แต่คงเป็นหนูวาแล้วล่ะ คนอื่นออกจนครบละ...หือ...หนูวีเหรอคะ....เอิ่ม....ถ้าเทศกาลหน้ามาถึงแล้วหนูเขาเลิกโกรธพี่เนม โนว์อาจจะเขียนถึงค่ะ แต่ตอนนี้คงไม่ไหว เหอๆ ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำอวยพรในทุกๆเรื่อง ><
คุณ W@Y - ฮาๆ ขอโทษนะคะ ปล่อยให้รอเหงือกแห้งเลย(คลำๆ ยื่นน้ำให้ เอ๊ยยยย ไม่ช่ายยยย) ล้อเล่นนะเจ้าคะ เอิ๊กๆ อย่าโกรธๆ มาช้าดีกว่าม่ายมาล่ะเน้ออออ(กล่อมเข้าไป กล่อมตัวเองและรีดเดอร์อย่างสุดความสามารถ) หวังว่าจะมีความสุขกับนิยายเรื่องนี้นะคะ พยายามจะไม่ให้ดราม่าในช่วงนี้ เดี๋ยวจิตตกรับปีใหม่ 5555+ ไม่ดีๆ ส่วนเรื่องที่ถามมา ระหว่างหนูตะวันกับหนูวา เอ่อ...ดูแล้วใครจะก่อนกันน้อ...แอบคิดว่าน่าจะเป็นตะวัน(ถ้าจะมีนะ) ไม่น่าเชื่อล่ะสิ!!! เอิ๊กๆๆ โนว์ไม่ได้ว่าอะไรเลยค่ะ ยังไม่ได้คิดเลยด้วยว่าพี่หื่น เอ๊ย....แหะๆ เอาเป็นว่าสุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะพี่(รีบเปลี่ยนเรื่อง) 23 ธันวา เจ้าวามีเพื่อนร่วมวันเกิดละ รู้สึกในบอร์ดก็มีอีกคนเกิด 7 กรกฎาเหมือนเจ้าซีด้วยล่ะ แล้วมีใครเกิด 14 เมษากะ 13 พฤศจิกาอีกรึเปล่าคะเนี่ย 555 ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ Happy New Year!!!!
คุณ ZAFFIROBLU - ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำอวยพร พี่ลินอยู่ที่นั่น แล้วลินจะไปอยู่ด้วยรึเปล่าจ๊ะ?? 555+ โนว์ก็คิดถึงทุกคนเหมือนกัน แอบสารภาพว่ายุ่ง ต้องไปคุ้ยลิ้งหาภาพแฟนอาร์ตของลินก่อน ขอโต้ดจ้าาาา TT^TT ยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมเลย เหอๆ ไม่โกรธกันน้า....โนว์กำลังคิดอยู่ว่าหาของขวัญปีใหม่ให้อีกล็อตดีรึเปล่า แต่กลัวเนื้อเรื่องไม่กระดิก(มากกว่าที่เป็นอยู่) 5555+ Merry X'mas ย้อนหลังและ New Year ล่วงหน้าจ้ะ ^^
คุณ เซปารีเทีย - ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ค่ะ มาช่วงสิ้นปีพอดีเลย 555+ ค่อนข้างจะไกลกับเนื้อเรื่องปัจจุบันแฮะ ขืนให้โนว์พูดมากได้หลุดสปอยล์แน่ ไม่ดีไม่งามค่ะ ฮาๆ ขอให้สนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ อยากรู้อะไรถามได้นะ เว้นถามว่าตอนจบเป็นยังไง 5555+ สุขสันต์วันปีใหม่ มีความสุขมากๆนะคะ ><
ตรงนี้สำหรับคนที่ไม่ได้มาคอมเม้นท์ โนว์บอกรวมๆตรงนี้อีกทีนะคะ HaPpY NeW YeAr มีความสุขกับถ้วนหน้า สุขภาพแข็งแรงทุกคน ไปเที่ยวไหนก็ปลอดภัยนะคะ เจอกันปีหน้า(หรืออาจเร็วกว่านั้น)ค่ะ ><
ความคิดเห็น