คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Rhythm 3 : Hearts Attack
ผมถอนหายใจเซ็งๆ เมื่อวานนับว่าเป็นวันมหาวิบัติที่สุดในชีวิตผม เป็นวันที่รู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักที่สุดตั้งแต่เกิดมา
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ใจเต้นกับผู้ชายทีเดียวสองคน!!
พี่กานต์ก็คน ไอ้ซีก็คน ทำไมถึงต้องแข่งกันทำผมประสาทเสียนักนะ...
เจอมากๆมันก็รับไม่ไหวนะเฟ้ย!!
“วา เป่าผิดทั้งแถบเลยครับ เหม่ออะไรอีกล่ะ?”พี่กานต์ทักยิ้มๆ ทำเอาผมสะดุ้งรับอรุณแล้วมองโน้ตใหม่ตั้งแต่แรก...เออ...จริงด้วย ผิดยกเซ็ตเลย...
“แหะๆ...นิดหน่อยครับ”ผมยิ้มแห้งๆ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกพิกลเมื่อประโยคของซีเมื่อวานลอยเข้ามาในหัว
‘กูขอแค่ให้มึงลองมองกูในฐานะอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนบ้าง...แค่นั้นมึงทำให้กูได้ไหม? วา’
ได้ไหม? วา...ได้ไหม? วา...วา...วา...วา...วา...
“โว้ยยย!!!!”ในที่สุดผมก็สติแตก ก่อนจะร้องว้ากเมื่อปากกาไวท์บอร์ดลอยมากระแทกหลังหัวจนหน้าเกือบทิ่มชนสแตนด์วางโน้ต
“ไอ้วา อย่าแหกปาก!!”เป็นพี่อั๋นสุดโหดนั่นเองครับ ท่าทางวันนี้พี่อั๋นจะอารมณ์เสียแต่เช้า ไม่รู้ใครไปทำอะไรให้ “กานต์ ดูแลน้องมึงหน่อย มันใกล้บ้าเข้าไปทุกทีแล้ว”
“อย่าพาลดิอั๋น”พี่กานต์โต้ยิ้มๆอย่างไม่สะทกสะท้าน ทำเอาผมล่ะหนาวว่าพี่กานต์ไม่ยักกลัวรังสีอำมหิตผิดมนุษย์ของพี่อั๋นเลยรึไง<<ผมว่าพี่กานต์แกเป็นยอดมนุษย์ครับ!
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า? วา ถ้ามีอะไรไม่สบายใจจะบอกพี่ก็ได้นะ”นี่ล่ะครับพี่กานต์ โคตรใจดี+เอาใจใส่รุ่นน้อง งี้ไม่รักไงไหวล่ะครับ...
“ก็...”ผมยิ้มแหยๆ แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรพี่กานต์ก็ใส่ไฟทันควัน
“ทะเลาะกับแฟนมาเหรอ?”
“ผมยังไม่มีแฟนคร้าบบบ บอกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว!“พอแย้งไปพี่กานต์ก็หัวเราะร่า ทำให้รู้สึกเหมือนโดนรุ่นพี่แกล้งปั่นหัวชอบกล “แค่...โดนถามคำถามตอบยากนิดหน่อย”
พูดจริงๆ คำถามนั่นตอบยากมาก ผมเคยมองซีในฐานะเพื่อนมาตลอด ถึงจะรักมันแต่ก็แค่ขอบเขตที่เพื่อนคนหนึ่งจะรักเพื่อนอีกคนได้ ไม่เคยมองมัน...ในฐานะอื่นเลย...
แล้วอยู่ๆมันจะให้ผมมองมัน...มองมันในฐานะผู้ชายคนหนึ่งเนี่ยนะ!?
ใครจะทำได้วะ!!
“วาก็ลองถามใจตัวเองดีๆสิครับ”พี่กานต์เอ่ยยิ้มๆ “ถ้าเป็นพี่ พี่จะถามตัวเองให้ดีก่อนว่าคิดยังไง แล้วก็ตอบให้ชัดๆไปเลยทีเดียว”
ผมนิ่งไปกับคำพูดของพี่กานต์
ถามใจตัวเอง...แล้วก็ตอบให้ชัดๆ...งั้นหรือ?
“มันเป็นแค่ทฤษฎีหนึ่งน่ะ”พี่กานต์กล่าวต่อ ก่อนจะเสริมประโยคที่ชวนให้สะดุ้งสิ้นดี “พี่ฝากให้วาไปคิดอะไรอีกหน่อยได้มั้ย...ถ้ายังไม่มีแฟน วาคิดยังไงกับพี่หรือ?”
ผมอึ้งค้าง ยิ้มไม่ออกบอกไม่ถูกทันที
นี่มัน...ใช่เลย...พี่กานต์ก็อีกคนเหรอเนี่ย!
‘กูขอแค่ให้มึงลองมองกูในฐานะอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนบ้าง...แค่นั้นมึงทำให้กูได้ไหม? วา’
‘ฝากให้วาไปคิดอะไรอีกหน่อยได้มั้ย...ถ้ายังไม่มีแฟน วาคิดยังไงกับพี่หรือ?’
จะช่วยกันทำกูประสาทเสียติดๆกันแบบนี้ก็ไม่บอก...
เวรเอ๊ย! แล้ววันนี้จะนอนหลับมั้ยว้า!!
“เฮ้ย เป็นไรวา ไมดู sadๆ ชอบกล”เสียงคุ้นๆของหนึ่งในซี้ของผม ไอ้เอิร์ธ มาพร้อมกับแรงเขย่าหัวที่ทำเอาน้ำในหูแทบโยกคลอน
“ไม่หักคอกูเลยล่ะ - -“ผมมองหน้าไอ้เอิร์ธแบบหาเรื่อง มาแบบนี้แม่งต้องมีเรื่องอะไรแหงๆ “มีไร? มาหากูถึงห้องเชียว”
ไอ้เอิร์ธอยู่คนละห้องกับผมครับ ห้องข้างๆ แต่เราสนิทกันเพราะเคยอยู่ห้องเดียวกันมาก่อน มันหัวเราะฮ่าๆแต่ไม่ยอมตอบอะไร อาการนั้นทำให้ผมได้แต่หรี่ตาอย่างรู้ทัน
“มึงจะมาเซ้าซี้กูเรื่องพี่เน็ตทำไมนัก? อยากรู้ไม่ไปคุยเองล่ะ”
“ถ้าคุยได้ก็ดีสิว้า”ไอ้เอิร์ธยิ้มแห้งๆ “นี่ ช่วยกูคิดหน่อยดิไอ้วา กูจะทำยังไงดี”
ผมส่ายหน้า เบื่อไอ้บ้านี่เต็มทน พี่เน็ตที่มันมาถามถึงเป็นรุ่นพี่ในวงโยฯครับ เป็นแฟนของไอ้เอิร์ธ...รึเปล่าก็ไม่รู้...ความสัมพันธ์คู่นี้คลุมเครือบอกสถานะไม่ถูก ผมรู้แค่ว่าไอ้บ้าเอิร์ธกับพี่เน็ตรู้จักกันมานานเพราะเอิร์ธมันเคยเป็นแฟนของน้องสาวพี่เน็ตมาก่อน แต่ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าไหงแฟนน้องถึงกลายมาเป็นแฟนพี่ไปได้
“คือ พี่เน็ตโกรธอะไรกูก็ไม่รู้อ่ะ เลยจะถามมึงว่าที่วงเมื่อวานพี่เน็ตเป็นยังไงบ้าง”เอิร์ธทำหน้าเหมือนหมาจนตรอก ดูมันแคร์พี่เน็ตดีอยู่หรอก แต่มันก็มักเป็นแบบนี้ โง่เซ่อไม่เคยรู้อะไรเลย
เอ๊ะ...คล้ายใครวะ ไอ้โรคฉลาดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องตัวเองเนี่ย...
“จะว่าไป ได้ยินพี่อั๋นทักพี่เน็ตเหมือนกันว่าเป็นไร”ผมหยุดคิดไปแป๊บนึง “แต่เมื่อวานพวกม.5 ก็องค์ลงกันทังนั้นแหละ อ้อ เว้นพี่กานต์ไว้คน รายนั้นถ้าอารมณ์เสียได้ล่ะแปลก เมื่อวานกูยังถูกพี่อั๋นเอาไวท์บอร์ดปาหัวอยู่เลย“
“เวร ไปทำอีท่าไหนวะ”
“แหกปากกลางห้อง”
“เออ สม”
“ไอ้นี่...วันหลังมีอะไรอย่ามาถามนะ”
“อุ้ย...ขอกราบประทานอภัยขอรับท่านทิวา ข้าผู้ต่ำต้อยผิดไปแล้ว!”
ไอ้ห่าหลายหัว...
ผมหัวเราะ เห็นไอ้เอิร์ธมันบ้าแบบนี้แต่ความจริงมันแคร์เพื่อนแคร์แฟนยิ่งกว่าใคร เห็นแล้วเลยอดช่วยไม่ได้ทุกที
“งั้น เมื่อวานมึงทำอะไรไปบ้างล่ะ”
เอิร์ธหยุดคิดไปแป๊บนึง “ก็เจอพี่เน็ตที่โรงอาหาร ยืนคุยกันปกติไม่กี่คำ แล้วไอ้มิกซ์ก็เข้ามาชวนคุย คุยไปได้พักหนึ่งหันมาอีกทีพี่เน็ตก็หายไปแล้วอ่ะ”
นั่นไง ผมกระจ้างแจ้งในบัดดลว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกมัน - -“
“ไอ้พักหนึ่งของมึงอ่ะยืนคุยนานแค่ไหน?”
“เอ่อ...ไม่รู้ดิ...แต่หันมาอีกทีแถวข้าวมันไก่ก็ไม่มีคนแล้วอ่ะ”
ไอ้สมองหมาปัญญาไส้เดือน ฟังมันตอบแล้วน่าเอาบาจาปาหัวชิบ สมควรแล้วล่ะที่พี่เน็ตจะโกรธมัน ไอ้โง่บื้อนี่!
“มึงอ่ะผิดที่มัวแต่คุยกับไอ้มิกซ์จนไม่สนพี่เน็ต เขาจะโกรธแล้วมันแปลกตรงไหนวะ?”
“เฮ้ย กูก็แค่คุย...”ไอ้เอิร์ธทำท่าจะแย้ง ผมเลยตบกบาลมันป้าบ
“ผิดแล้วยังเถียง ไอ้ห่านี่ หุบปากไป ใครอนุญาตให้มึงเถียงวะ?”
ไอ้เอิร์ธบ่นงุบงิบ แต่สุดท้ายก็ยอมพยักหน้ายอมรับ “เออ ก็ได้วะ กูก็ว่ากูเป็นฝ่ายผิด ไว้จะไปขอโทษพี่เน็ตละกัน...มึงอ่ะตบหัวกูแรงชิบ ทีเรื่องแบบนี้ล่ะเสือกรู้ดีเชียวนะ”
“ก็กูฉลาด”
“มึงฉลาดแต่เรื่องชาวบ้านเท่านั้นแหละ เอาเวลาทำฉลาดกับกูไปคิดเรื่องของมึงกับไอ้ซีเหอะ“ไอ้เอิร์ธหย่อนระเบิดใส่หัวผมแล้วเดินหนีไป ทำเอาผมอ้าปากค้าง รู้สึกอึ้งสนิทที่มันหาว่าผมฉลาดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องตัวเอง ให้ตายสิ...ผมไม่ใช่ไอ้เอิร์ธนะเว้ย!!
แต่...
ผมมองไปที่โต๊ะตัวหน้าที่ไร้ซึ่งเจ้าของ ยังไม่ถึงเวลาเรียนแบบนี้ไอ้ซีคงไปเดินเตร่อยู่ที่ไหนสักแห่งไม่ก็เข้าห้องน้ำ แต่...ผมก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
ตั้งแต่ที่มันพูดกับผมในห้องอาบน้ำวันนั้น ผมกับมันก็ยังไม่เคยคุยกันอีกเลยนี่นา...
ช่วงนี้วงโยฯเข้าค่ายเก็บตัวกันเพราะใกล้ถึงวันแข่งดิสเพลย์แอนด์มาร์ชชิ่งประจำปีแล้ว โรงเรียนเราเข้าแข่งทุกปีและหลายครั้งก็ได้ตำแหน่งดีๆกลับมา เทอมสองนี้กิจกรรมจะเยอะเป็นพิเศษทำให้นักเรียนหลายคนงานยุ่งเกือบตลอด พวกผมก็เช่นกัน ผม นัท กรีน จูน เพชร บอล บาส เพื่อนชั้นเดียวกันที่อยู่วงต่างก็ยุ่งพอกันเพราะเรายังถือได้ว่าประสบการณ์น้อยมาก นี่เป็นงานใหญ่ครั้งแรกของพวกเรา แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เราก็ฝึกมาลากเลือดไม่แพ้พวกรุ่นพี่คนไหนๆ
บอลกับบาส ไอ้แฝดตัวแสบถือได้ว่าอาการหนักสุดเพราะมันดันเป็นรุ่นน้องสายตรงของพี่อั๋น(พี่อั๋นเป็นลีดเดอร์คลาริเน็ตครับ) พวกมันโดนเคี่ยวกันแบบสุดโหด ส่วนไอ้กรีนไอ้จูนก็แทบโดนพี่เซมเอาฉาบเคาะกบาลโทษฐานโง่จัด ตีสแนร์ตีโน่นนี่พลาด ไอ้นัทเองยังถูกเคี่ยวโหดจากพี่กล้าลีดฯแซ็ก ส่วนเพชรฟลุตก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเพราะโน้ตฟลุตงวดนี้สูงปรี๊ด ต้องมานั่งฝึกใหม่ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานการใช้ลมโดยมีพี่เน็ตคอยดูให้(จำพี่เน็ตได้เปล่า พี่เน็ตแฟนไอ้เอิร์ธไงครับ)
เหลือผมที่สภาพดีกว่าเพื่อนนิด เปล่าๆ...ไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นครับ แต่พี่กานต์เขาใจดี ไม่เคยด่าไม่เคยอะไร มีแต่มองยิ้มๆและรังสีแปลกๆโชย
“วา คือพี่ไม่ได้จะว่าหรอกนะ...”แค่นั้นผมก็รู้ตัวแล้วครับ แล้วพี่กานต์ก็จะบอกว่าที่จริงแล้วต้องทำยังไง
ผมล่ะปลื้ม ได้รุ่นพี่ใจดีก็ดีเงี้ยแหละ
“พักได้!!”
พวกเราแทบไชโยโห่ฮิ้วเมื่อพี่อั๋นเป่านกหวีดหมดเวลา เราต่างเอาเครื่องไปเก็บกันบนห้องวงแล้วแย่งกันเข้าไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำด้านล่างก่อนจะไปกินข้าว ตะวันตกดินเย็นย่ำแล้ว แต่พอเดินไปที่ห้องอาบน้ำ ผมก็อดมองไปทางสนามบาสไม่ได้
เสียงลูกบาสกระทบพื้นยังมีให้ได้ยิน ผมเหม่อมองไปทางนั้น และโดยไม่รู้ตัว ขาก็พาก้าวไปทางสนามบาสแล้ว
ผมยืนนิ่งอยู่ข้างสนาม สรรพเสียงรอบข้างเหมือนจะดับหายไป เหลือแต่เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
ภาพที่ผมเห็นคือไอ้ซีที่เคยเป็นคนเฉยชาไร้อารมณ์อยู่เสมอกำลังซ้อมบาสด้วยท่าทีตั้งอกตั้งใจ มีไม่มากนักหรอกเรื่องที่ซีมันจะอยากทำด้วยความเต็มใจขนาดนี้ น้อยครั้งนักที่ผมจะเห็นตาของมันส่องประกายเจิดจ้า มองแล้วก็ชวนให้รู้สึกว่าเหมือน...เหมือนกับเวลาที่ผมเล่นดนตรี
ถ้าซีชอบบาส ผมก็ชอบดนตรี
“วา...?”
ซีโยนลูกบาสทิ้งแล้วเดินเข้ามาหาผม มันมองผมแวบหนึ่ง แล้วยิ้มให้ “กำลังจะไปอาบน้ำหรือ?”
“อืม...”
ผมบอกซีแล้วเรื่องที่จะไม่กลับบ้านด้วยสักระยะเพราะต้องค้างโรงเรียนยาว ซีมันก็ไม่ได้ว่าอะไร ซ้อมบาสของมันไปเรื่อยๆทุกเย็น ส่วนพวกผมก็ต้องซ้อมมาร์ชชิ่งกันที่สนามบอลด้านหน้า กว่าจะมาด้านหลังได้ก็ตอนเลิกซ้อมอาบน้ำ
“ไม่รีบไปล่ะ เดี๋ยวไม่ทันกินข้าวหรอก”ฟังแล้วขี้เกียจเกินกว่าจะถามว่าทำไมมันถึงรู้ตารางเวลาของวง แต่ก็ช่างเถอะ ผมส่ายหน้า แล้วเปลี่ยนเรื่อง
“จะกลับบ้านเมื่อไหร่?”
“ก็...คงอีกสักพัก”ซีหยุดคิดไปนิดหนึ่ง “รีบไปอาบน้ำไป เหม็นเหงื่อ”
“พูดเหมือนตัวเองไม่มีเหงื่อ”ผมอดตอกกลับแบบฉุนๆไม่ได้ หนอย...มาว่าผมตัวเหม็น “ไม่ไปอาบพร้อมกันล่ะ?”
“วงโยฯใช้อยู่นี่ เข้าไปแย่งคงไม่ดี ไม่ได้รีบอะไรด้วย”ซีปฏิเสธเรียบๆ “เหลือทำอะไรบ้างล่ะ”
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะมีรวมวงรอบดึกอีกครั้ง สักสามสี่ทุ่มก็นอนแล้ว”ผมตอบ รู้สึกแปลกๆที่เราคุยกันได้เหมือนปกติโดยไม่มีคำหยาบหรือเรื่องบ้าบออะไรหลุดออกมา ทั้งที่...ไม่ได้คุยกันแบบนี้มาสักพักแล้ว “ช่วงนี้กลับบ้านดึกเหรอ”
“โรงเรียนไม่น่ากลัวสักหน่อย วงโยฯอยู่กันเกลื่อน”
“นั่นใช่ปัญหาที่ไหน”ผมเริ่มหงุดหงิดนิดๆ “กลับบ้านก็ดึก แล้วงี้นอนเมื่อไหร่เนี่ย”
ซีเริ่มหัวเราะเสียงต่ำจนดูเหมือนเยาะเย้ย แต่ผมก็รู้ว่ามันไม่ใช่...มันยิ้มให้ผมด้วยดวงตาทอแววอ่อนโยนประหลาด
“ถามเหมือนเป็นห่วง...”ไอ้บ้าซีลากเสียงยาว มือเอื้อมจับมืออีกข้างของผมที่ไม่ได้ถือขันที่บรรจุอุปกรณ์อาบน้ำ ผมสะดุ้งเฮือก เพิ่งรู้ซึ้งก็วันนี้ว่าไอ้ซีมันมือใหญ่กว่าผม มือข้างนั้นรวบมือผมเอาไว้ ปลายนิ้วสอดเกาะเกี่ยวเข้ามาจนแนบประสานกัน “...ไปคิดคำตอบมาหรือยังล่ะ?”
“ค...คำตอบเชี่ยไรล่ะ!”ผมโวยวายแต่ก็ไม่ได้สลัดมือทิ้งอย่างโจ่งแจ้งนัก แต่แม้จะพยายามดึงออกแค่ไหนก็ไม่ขยับเลย
ไอ้ห่าซี...แรงเยอะชิบ...
แม่งเอ๊ย...รู้งี้ไม่เข้าไปใกล้มันซะตั้งแต่แรกก็ดีหรอก
“รออยู่นะ”มันรั้งแขนผมเบาๆ ทำเอาคว่ำไปหามันนิดหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ จังหวะนั้นมันก็เข้ามากระซิบข้างหู “...รอคำตอบจากมึง”
ผมเริ่มได้ยินเสียงหัวใจตัวเองกรีดร้องประท้วงอีกครั้ง...ไอ้ห่านี่...ถึงโรงเรียนผมจะผู้หญิงน้อยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะครับ...ทำไมมันไม่ไปหาผู้หญิงสวยๆสักคนแทนผมวะ!
“มึงปฏิเสธกูตอนกูชวนให้มึงอยู่วงด้วยกัน”ผมเริ่มยกยอดเรื่องเก่าๆที่ข้องใจมานานแสนนานมาพูด “แล้วทำไมทีงี้มึงถึงเสือกจะมาเลือกกูล่ะ ตอบมาเลยนะ ไอ้ซี”
ซีเงียบ มันไม่ยอมตอบ แต่มือที่จับอยู่ก็ไม่ปล่อย
ผมชักเซ็ง ไอ้บ้านี่...เอาสักทางได้มั้ยวะ...
“ไอ้เชี่ยซี!!!”
“กูมีเหตุผลข้อเดียวเหมือนที่กูตอบมึงไปแต่แรก...เพราะกูไม่สน มันไม่ใช่สิ่งที่กูต้องการ”
ผมสะอึกกับเสียงเรียบสนิทไร้อารมณ์นั้น และซีก็เริ่มพูดต่อ
“สำหรับกู มันไม่สำคัญว่าเป็นอะไร แต่มันสำคัญที่กูต้องการหรือเปล่า แน่นอน มันไม่ใช่สิ่งที่กูเลือก กูกับมึงต่างกัน นี่เป็นเรื่องที่มึงต้องเรียนรู้และเข้าใจ”
ผมเกิดความรู้สึกบอกไม่ถูกทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผมแน่ใจว่าซีมันรู้...แต่มันก็ไม่สน ยังคงพูดต่อเหมือนไม่รู้สึกอะไร
“เข้าใจหรือเปล่าวา? กูไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่กับมึงตลอดเวลาเพราะนั่นไม่ใช่ทางเลือกของกู กูไม่คิดที่จะฝืนใจตัวเองโดยการทำอะไรที่ขัดกับเหตุผลของตัวกูเอง กูจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวกู แม้ทางที่กูหันหลังจากมาจะมีมึงยืนอยู่ตรงนั้นก็ตาม”
ผมรู้สึกจี๊ดบอกไม่ถูก...
มันไม่สนด้วยซ้ำว่าผมจะคิดยังไง จะรู้สึกยังไง ไอ้ห่านี่ช่าง...เอาแต่ใจและนิสัยน่าถีบบัดซบ
“แล้วตอนนั้น...มึง...พูดออกมาทำไมวะว่าอยากให้กูมองมึงในฐานะอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนน่ะ!!”
ผมไม่เข้าใจ
ผมไม่เคยเข้าใจไอ้ห่านี่จริงๆเลยสักครั้ง
ทั้งที่คิดว่าเป็นคนที่อยู่ใกล้มันที่สุด แต่เอาเข้าจริงกลับไม่รู้สึกว่ารู้อะไรเลย
แต่แล้วผมก็ต้องเบิกตากว้างที่อยู่ๆซีมันก็ดึงผมเข้าไปกอด ขันและแปรงสีฟันรวมถึงอะไรต่อมิอะไรหล่นลงพื้นอย่างกะทันหัน และก็เหมือนความเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านอยู่เมื่อครู่จะหายไป กลายเป็นความอบอุ่นที่คุ้นเคย
ความรู้สึกนี้...ใช่...ไอ้ซี...เป็นไอ้ซี...
คนคนเดียวที่จะเยือกเย็นและอ่อนโยนกับผมได้ขนาดนี้...ถึงจะไม่อยากยอมรับนัก...แต่แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแค่มันมาตั้งนานแล้ว
เจ้าของอ้อมกอดอุ่นๆนั้นกระซิบบอกแผ่วเบา
“กูยังพูดไม่จบ...ว่าแม้ทางของกูจะไม่มีมึง แต่ใจกูอยู่กับมึงเสมอ ไม่จำเป็นต้องเดินในทางสายเดียวกัน แม้จะมองไปเพียงข้างหน้า แต่ถ้ากูกับมึงยังเชื่อมถึงกันด้วยจิตใจ แค่นั้นก็ดีเกินพอสำหรับกูแล้ว...”
ผมนิ่งอึ้ง ไม่เคยเลยที่ซีจะเป็นเช่นนี้ แต่นี่ก็เป็นซี...ซีที่ไม่เคยโกหกผมแม้แต่ครั้งเดียว
ซี...ที่อยู่ตรงนี้คือซีจริงๆ...ซีที่ผมรู้จัก...
“กูไม่ขออยู่กับมึงตลอดเวลาเพราะกูไม่อยากทำให้ตัวเองไม่สามารถยืนหยัดในวันที่ไม่มีมึงหรือทำให้มึงวุ่นวายใจเพราะกู แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นจริง กูก็ไม่เคยหยุดตัวเองไม่ให้คิดถึงมึงได้”ซีกล่าวเสียงแผ่วทว่าหนักแน่นยิ่งนักในความรู้สึก แขนแกร่งกระชับเข้านิดหนึ่ง แม้ตัวซีจะมีแต่เหงื่อแต่ผมกลับไม่รู้สึกรังเกียจเลย ไม่สิ...ผมรู้สึกอึ้งจนไม่รู้อะไรแล้วต่างหาก
“ความรู้สึกที่จำต้องปล่อยให้มึงเดินไปเพียงลำพังทั้งที่กูอยากตามไปอยู่ข้างๆใจจะขาดน่ะ...ขอกูรับไว้คนเดียวก็พอ”
คำคำเดียวที่ผุดขึ้นมาในใจผมตอนนี้ก็คือ...ไอ้บ้า
ไอ้ซีนี่บ้าแท้ๆ...บ้าสุดกู่เสียด้วย
ซีมันคิดเรื่องผมมากมายขนาดนี้โดยที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย มันห่วงผมมากกว่าที่ผมห่วงตัวเองเสียอีก
ผมหลับตา ยกแขนกอดตอบเบาๆ สัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เสียงหัวใจที่ผมไม่อาจตอบได้อีกแล้วว่าเป็นของใครกันแน่...ระหว่างผม...กับซี
รีบเอามาแปะโป้งให้เพราะไม่รู้ว่าจะได้มาลงอีกเมื่อไหร่ = =
เอ่อ ดูเหมือนจะมีคนงงๆอยู่ว่าทำไมซีถึงไม่ยอมเข้าวงกับวา อันที่จริงโนว์ก็อธิบายยากอยู่นะ แต่ก็ตามที่เขียนในเรื่องแหละ เพราะธรรมชาติของซีมันเป็นคนเข้าใจยาก คนเขียนเองยังมึนๆกับนิสัยมัน (อ้าวเฮ้ย....)
เอารูปเครื่องดนตรีมาให้ดูค่ะ บางคนอาจจะไม่รู้ว่าเครื่องแต่ละเครื่องเป็นยังไง
อันนี้ทรัมเป็ตที่หนูวากับพี่กานต์เล่น
คลาริเน็ตของฝาแฝดบอลบาสแล้วก็พี่อั๋นประธานวงสุดโหด
ฟลุตของหนูเพชรแล้วก็พี่เน็ต(แฟนเอิร์ธๆ) คิดว่าหลายๆคนคงรู้จักอันนี้ดีที่สุด ความจริงสองคนนี้ไม่เด่นอะไร แต่โนว์คิดว่าว่างๆน่าจะเอามาเขียนเป็นตอนพิเศษได้ (ได้หลายคู่เลยล่ะ หึๆ - -+)
แซ็กโซโฟนของนัท เพื่อนปากเฉียๆของหนูวา ชนิดที่ตานี่เป่าคือ Alto ค่ะ เป็นแซ็กโทนสูง จริงๆแล้วมันมีหลายชนิด แต่หลักๆที่จะใช้กันก็มีแค่สองสามอย่าง อันนี่เป็นอันที่นิยมกันที่สุด
ส่วนพวกกลอง ฉาบเพอร์คัสชั่นไม่ต้องก็ได้มั้ง = = มันก็กลองชุดธรรมดาๆแหละ
วันนี้มาแทรกความรู้ทางด้านดนตรีประมาณนี้แหละค้า นานๆทีก็อยากให้เรื่องมันมีสาระบ้าง(แน่ใจ?)
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์มากมายค่า เดี๋ยวโนว์จะตอบเม้นท์ให้คับ แต่ตอนนี้ยังไม่ค่อยว่าง บ่ายๆอาจจะมาตอบให้ได้ ขอให้สนุกกับตอนใหม่นะคร้าาา (มันจะคับหรือจะคะกันแน่เนี่ย - -?)
มาตอบเม้นท์ละค่า
คุณ Tip_KaRaT - ขอบคุณมากมายค่า มาต่อให้แล้ว ว่างๆก็แวะมาอ่านต่อนะ
คุณ frem - โนว์ไม่ค่อยอยากให้เรื่องมันตลาดนักจริงๆนั่นแหละ แต่อยากแต่ง(อ้าว ชักยังไง) แต่ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
คุณ ปักษาเตโช - ถ้าน่าสนใจก็มาอ่านต่อเรื่อยๆนะคะ อิๆ(ไม่ค่อยจะเข้าข้างตัวเอง -*-)
คุณ HanZo - นี่ก็เหมือนกันค่ะ ถ้าน่าสนใจอย่าทิ้งกันล่ะเอ้อ...
คุณ karmdodcom - ตาซีเป็นยอดแห่งความเอาแต่ใจ = = ช่วยไม่ได้ๆ มันเป็นคุณชายเทวดานี่นะ ให้อภัยหน่อยละกัน ฮาๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ช้าหน่อยไม่เป็นไร โนว์รอด้ายยยยย ^o^
คุณ 111 - รักจริงอย่าทิ้งกัน อุ้ย มาเป็นเพลง ฮ่าๆ ขอบคุณที่แวะเข้ามาคอมเม้นท์นะคะ
คุณ KIRAYA - มาต่อให้แล้วค่ะ ลองดูนะว่า "ตอนเย็น" จะเกิดอะไรขึ้น ^^
คุณ Puipeepo - เม้นท์ให้สองอัน โนว์แปะโป้งรวดเดียวเลยละกัน ตอบช้าไป(ไม่)หน่อย ขออำภัยจ้า = =
ซีมันเป็นคนแผนสูงค่ะ แต่ชอบเนียน แต่แหม...อันที่จริงนั่นก็ไม่เชิงสารภาพรักหรอกนะ ตาซีแค่ลองขอแบบเด็กเอาแต่ใจดู ฮ่าๆ ^o^
คุณ ping_ping - มาต่อให้แล้วค่ะ ชอบรึเปล่าเอ่ย?
คุณ งงปะ - ไม่งงค่ะ เอ้ย ไม่ใช่ อย่าเอารองเท้าปาหัวโนว์จิคะ = = ต่อให้แล้วค่ะ ลุ้นต่อไปว่าหนูวาจะได้ลงหลักปักฐานสร้างเนื้อสร้างตัว(เริ่มเว่อร์)กับใคร แล้วจะพยายามให้ยาวขึ้นกว่านี้นะคะ ^^
คุณ VIEWWY-LOVELY - ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะคะ และถ้าจะให้ดีติดตามต่อไปเรื่อยๆจะขอบคุณมากมายค่า อิๆ ^^
คุณ น้ำผึ้ง - ถ้าชอบก็ดีใจค่ะ ขอบคุณที่ชอบนิยายเรา โนว์มาต่อให้แล้วนะ ได้อ่านต่อรึยังเอ่ย?
คุณ oong fong - ลองดูสิคะว่าตาซีขออะไรหนูวา หึๆๆ(หัวเราะเลียนแบบ)
คุณ ท่านโบว์ - ต่อให้แล้วค่ะ แล้วแวะมาอ่านนะ ^^
คุณ kiss&hugs - ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ สองเม้นท์รวบตอบทีเดียวเลยเนาะ? แต่ครั้งหน้าจะพยายามไม่ดองมากแล้วค่ะ เกรงใจ๊ = = ชอบเรื่องนี้โนว์ก็ดีใจค่ะ ลูกคนแรก แม่ต้องปลื้มเป็นธรรมดา ฮ่าๆๆ(มันบ้า...) มีอะไรติก็ทิ้งท้ายไว้ได้นะคะ ยินดีปรับปรุงแก้ไข ^^
คุณ Fay - ขอบคุณที่มาตามอ่านค่ะ สองเม้นท์แล้ว ขอรวบเลยละกัน วันหลังจะไม่ขี้เกียจละ = = ความจริงโนว์เองก็ลังเลแล้วล่ะ ชอบทั้งซีทั้งพี่่กานต์เหมือนกัน(แท็กมือแปะๆ) งี้วาจะคู่ใครดีเน้อ...
แล้วมาตามอ่านต่อนะจ๊ะ ^^
คุณ No_HearT - อุ้ย สะดุ้ง โดนมุกคุณพี่กานต์คนดีย้อน ฮาๆ = = ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ อันที่จริงในความคิดโนว์ วาเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาๆที่หน้าไม่ได้หวานอะไรมากอ่ะ เป็นเด็กผู้ชายจริงๆที่แบบ...ไม่คิดว่าจะโดนเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ(ฮ่าๆ) แต่ถ้านักอ่านชอบแบบนั้นว่างๆโนว์จะลองใส่ๆเข้าไป แต่ท่านอาจจะรู้สึกว่าไอ้หนูวาน่ารักขึ้น -o-
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
คุณ ^o^NoNaE- GaNg *-*
เหตุผลที่ซีไม่เข้าวง เหมือนจะบอกนิดๆตอนสองนะคะ ซีมันแค่ไม่อยากจะเข้า แต่อยากได้เหตุผลแบบละเอียดต้องตอนสาม หุๆ
คุณ R---T---i-- - การทำให้ผู้อ่านค้างคืองานของเราค่ะ หึๆๆ อุ้ย อย่าเอารองเท้าปาโนว์จิคะ = = ล้อเล่นติ๊ดเดียวเองง่ะ<<มันบ้า อย่าไปสนเลยค่ะ มาต่อให้แล้วนะคะ เป็นยังไงโปรดติดตามตอนต่อไป ฮาๆ
ฮู่ววว ตอบหมดแล้ว(ปาดเหงื่อ) เห็นคอมเม้นท์แล้วเป็นปลื้มค่ะ ปกติโนว์จะมีเวลาแวบมาแค่ลงแต่ไม่มีเวลาจิ้มเม้นท์ วันนี้ว่างหน่อยเลยได้นั่งตอบ แต่พรุ่งนี้ก็ยุ่งอีกแล้วง่าาาา TT^TT พรุ่งนี้ที่โรงเรียนจะมีงานประจำปีค่ะ โนว์ต้องไปเล่นโยธวาทิต(ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมมันถึงจิ้มเอาพวกนี้เป็นกลุมเป้าหมาย ความนิยมส่วนตัว เอ้ย ของใกล้ตัวค่ะ หึๆ)
ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม+คอมเม้นท์กันนะค้า ^^
ความคิดเห็น