ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Furious for Love...แค้นนี้ เพื่อรัก [KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter8 : หน้ากาก_100%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.03K
      1
      4 มี.ค. 53


    Chapter8 : หน้ากาก
     
     
     
     
     
                    สุดท้ายแล้วคยูฮยอนจำต้องพาซองมินไปที่บ่อนด้วยทั้งที่ไม่เต็มใจแต่เพราะอีกคนดึงดันจะไปให้ได้ คิ้วเรียวบนใบหน้าหล่อเหลาขมวดเข้าหากันตลอดเวลาที่รถคันหรูพุ่งตรงไปยังทางข้างหน้าด้วยความเร็วสูง ต่างกับซองมินถึงจะแสดงสีหน้าว่าเป็นกังวลอย่างมาก แต่ภายใต้หน้ากากนั้นกลับกำลังหัวเราะอย่างสะใจ
     
                    

                    คิบอม เดี๋ยวนายไปเจอกับพี่คังอินที่บ่อนนะ ฉันนัดพี่เขาไว้ให้แล้ว
     
                    แล้วนายไม่ไปด้วยหรือไง คิบอมขมวดคิ้วก่อนจะหันมาถามเมื่อได้ฟังคำพูดของซองมิน ทำไมครั้งนี้ถึงให้เขาไปกับคังอิน
     
                    ฉันจะให้นายกับพี่คังอินปลอมเป็นเด็กในบ่อนมันแล้วเข้าไปทำร้ายแขกในบ่อน ส่วนฉันจะออกไปกับคยูฮยอน ถ้าเกิดมันรู้ว่าเด็กในบ่อนทำร้ายแขกคงจะเต้นเป็นเจ้าเข้าแน่ๆ บอกแผนการที่คิดไว้ก่อนจะกดยิ้มที่มุมปาก เวลาที่คยูฮยอนรู้สึกร้อนรนและกดดันจนทำอะไรไม่ถูก แบบนี้แหละมันน่าสนุก
     
                    พี่คังอินรู้เรื่องแผนหมดแล้วใช่มั้ย
     
                    ฉันบอกพี่เขาหมดแล้ว แต่ที่สำคัญคือห้ามให้พวกมันเห็นหน้าพวกนายเด็ดขาด จัดการเสร็จก็ให้หนีทันที ส่วนฉันจะไปที่บ่อนพร้อมกับคยูฮยอน
     
                    นายคิดว่าหมอนั่นจะยอมให้นายไปด้วยง่ายๆเหรอ ฉันว่ามันไม่ให้นายไปที่บ่อนด้วยแน่ คิบอมส่ายหน้าแสดงความไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ซองมินพูดมา คนอย่างคยูฮยอนไม่ยอมปล่อยให้ซองมินไปในที่แบบนั้นด้วยอยู่แล้ว
     
                    ฉันมีวิธีของฉันหรอกน่า นายน่ะแค่ทำงานให้สำเร็จก็พอ ซองมินบอกปัดไปเพราะไม่อยากจะตอบคำถามให้มากเรื่อง คนอย่างเขาทำอะไรไม่มีพลาดอยู่แล้ว
     
                    “ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน....ฉันไปแล้ว และหวังว่าจะได้เจอนายที่บ่อนนะซองมิน คิบอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนจะเดินออกไปจากห้องเรียนที่ว่างเปล่าไร้ผู้คนเพื่อมุ่งหน้าไปพบกับคังอินที่รอเขาอยู่แล้ว
     
                    หลังจากคิบอมออกไปได้ซักพักซองมินจึงควานหาโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรหาคยูฮยอนและแล้วแผนการทุกอย่างก็ได้เริ่มขึ้น
     
     
     
                   
                    ใช้เวลาไม่นานคิบอมก็มาถึงที่นัดหมายก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาคังอินที่ยืนหลบอยู่บริเวณต้นไม้ใหญ่ด้านข้างของบ่อน
     
                    เราจะเข้าไปได้ยังไงครับพี่ มาถึงก็ไม่รอช้าคิบอมถามถึงวิธีที่จะปลอมตัวเข้าไปเป็นเด็กในบ่อนนี้ทันที เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นัก
     
                    นายเห็นสองคนที่ยืนเฝ้าตรงทางเข้ามั้ย คังอินเบ้หน้าไปตรงทางเข้าซึ่งมีผู้ชายสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่
     
                    เข้าใจแล้วครับ คิบอมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา
     
                    คังอินกับคิบอมเดินออกมาจากที่หลบก่อนจะเดินตรงไปยังชายเฝ้าทางเข้าทั้งสองทำทีว่าเป็นลูกค้าของบ่อน พูดจากทักทายออกไปด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะเป็นมิตร แต่เพียงแค่พริบตาเดียวมีดปลายแหลมก็ถูกปักเข้าที่ขั้วหัวใจของชายคนที่หนึ่ง ส่วนชายอีกคนถูกมีดเล่มคมกรีดเป็นแผลฉกรรจ์ที่ลำคอ เลือดที่แดงสดไหลทะลักพุ่งออกมาบริเวณปากแผล ทำให้ชายทั้งสองเสียชีวิตในทันที
     
                    คิบอมผู้ลงมือฆ่าโดยการกรีดคอใช้ผ้าซับบริเวณแผลของชายที่ตนเพิ่งลงมือสังหารไปเมื่อกี้นี้เพื่อไม่ให้เลือดไหลเลอะเทอะชุดเครื่องแบบของบ่อนที่เขาต้องใช้ ก่อนจะช่วยกันลากศพทั้งสองออกไปทิ้งโดยเร็วที่สุด
     
                    หลังจากจัดการเปลี่ยนเครื่องชุดเป็นเครื่องแบบของบ่อนเรียบร้อยคังอินกับคิบอมก็เดินเข้าไปในบ่อนทั้งสองสวมหมวกปิดบังหน้าตาเพื่อไม่ให้ใครจำได้
     
                    นายบอกให้แกสองคนไปยืนเฝ้าที่ทางเข้า ส่วนพวกฉันสองคนจะดูแลตรงนี้เอง คิบอมดึงหมวกลงมาปิดหน้าก้มหน้าก้มตาพูดกับเด็กในบ่อนสองคนที่ยืนดูแลความเรียบร้อยภายในบ่อน
     
                    เมื่อได้ฟังชายทั้งสองหันไปมองหน้ากันด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ก่อนที่ชายผิวเข้มกว่าจะเป็นฝ่ายถามออกมา
     
                    นายสองคนเพิ่งมาทำงานใหม่หรือไง ไม่คุ้นหน้า แล้วไอ้คนที่มันเฝ้าด้านหน้าไปไหน
     
                    พวกฉันเพิ่งเข้ามาทำงานนายเลยให้เข้ามาเฝ้าด้านใน ส่วนสองคนนั้นกลับบ้านไปแล้ว คังอินตอบ
     
                    ชายทั้งสองคนหันไปมองหน้าอีกครั้งก่อนจะพยักหน้าเข้าใจและยอมเดินออกไปแต่โดยดี
     
                    คังอินกับคิบอมแยกกันเดินคนละฝั่งเพื่อมองหาเหยื่อที่จะสามารถจัดการได้ คังอินเดินมาหยุดอยู่ที่ชายแก่ดูภูมิฐาน ดูจากการแต่งตัวแล้วคงจะเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยคนหนึ่ง ด้านคิบอมเมื่อเห็นคังอินยืนจดๆจ้องๆ ชายคนหนึ่งอยู่จึงรู้ทันทีว่านั่นคงเป็นเหยื่อของพวกเขาในวันนี้ จึงเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ
     
                    ทำอะไรของนายน่ะ เสียงร้องทักที่ฟังไม่คุ้นเคยทำให้คังอินค่อยๆหันไปมอง ก่อนจะดึงหมวกลงมาปิดหน้าไว้อย่างช้าๆ
     
                    นายคงไม่ได้จ้องจะเอาเงินของลูกค้าหรอกใช่มั้ย หน้าที่ของนายคือดูแลความเรียบร้อย ไม่ใช่ไปสอดรู้เรื่องของลูกค้า และห้ามคิดจะลักขโมยเด็ดขาด ไม่งั้นชะตานายขาดแน่ เสียงเตือนที่ฟังดูวางอำนาจของคนคุมบ่อนตาตี่ทำเอาคังอินอดจะหงุดหงิดไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่ากำลังทำงานอยู่เขาคงเข้าไปตะบั้นหน้าไปแล้ว
     
                    ขอโทษครับ กล่าวคำขอโทษเบาๆ ก่อนจะถอยออกมา เหลือบมองเยซองที่มองมาที่เขาด้วยสายตาที่ไม่ค่อยชอบใจนัก
     
                    คังอินเดินไปยืนพิงกำแพงใกล้ๆกับโต๊ะที่เหยื่อของเขากำลังเมามันกับการพนันอยู่ ดูท่าทางแล้วเศรษฐีแก่คนนี้คงจะเป็นลูกค้าประจำของบ่อนและเล่นแต่ละครั้งเงินที่ใช้ไปคงไม่ใช่น้อยๆเลยทีเดียว
     
                    คิบอมนั้นยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคังอินจากที่จะเดินเข้าไปหาแต่เพราะเยซองเดินไปหาคังอินซะก่อนเลยเลือกยืนอยู่ที่เดิม ไม่นานเหยื่อที่คังอินเล็งไว้ก็ละออกมาจากโต๊ะเดินผ่านหน้าคิบอมไป ทางที่เศรษฐีแก่เดินตรงไปคือทางไปห้องน้ำ คิบอมหันไปยิ้มให้คังอินก่อนจะเดินตามเศรษฐีแก่เข้าไปโดยเว้นระยะหางพอสมควร
     
                    ห้องน้ำภายในบ่อนมีทั้งหมดสามห้อง ดูดีมีระดับและสะอาดตามความหรูของบ่อน เมื่อเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามาเด็กเฝ้าห้องน้ำจึงทำท่าจะเดินเข้าไปหา
     
                    ไอ้น้อง คิบอมดึงไหล่เด็กเฝ้าห้องน้ำไว้ก่อนจะชูแบงค์ห้าหมื่นวอนขึ้นและชี้นิ้วออกไปข้างนอก
                   
                    เด็กเฝ้าห้องน้ำมองอย่างลังเลซักพักก่อนจะรับเงินแล้วเดินออกไปแต่โดยดี
     
                    คิบอมเดินเข้าไปหาเศรษฐีแก่ที่กำลังยืนปลดปล่อยอย่างมีความสุข ยกมือขึ้นบีบนวดเบาๆบริเวณหัวไหล่ เศรษฐีแก่หันมามองก่อนจะยิ้มให้บางๆอย่างพึงพอใจ เมื่อจักการภารกิจเสร็จจึงยื่นเงินให้ คิบอมยื่นมือไปรับจังหวะเดียวกับที่คังอินเดินเข้ามาพอดี จึงใช้แขนทั้งสองข้างล็อกแขนของเศรษฐีแก่เอาไว้
     
                    เฮ้ย! อะไรวะ เหยื่อผู้โชคร้ายร้องโวยวายเมื่อโดนล็อกแขนเอาไว้พร้อมกับออกแรงดิ้น
     
                    คิบอมหันตัวเศรษฐีแก่ไปทางคังอินที่กำลังดึงหมวกลงมาปิดหน้าตัวเอง ประตูห้องน้ำถูกปิดลง ก่อนที่คังอินจะเดินตรงเข้ามาอย่างช้าๆ
     
                    พวกแกจะทำอะไรฉัน!!”
     
                    ร้องไปใครก็มาช่วยแกไม่ได้หรอก หมัดแรงถูกอัดเข้าเต็มหน้าท้องเมื่อสิ้นประโยค
     
                    เศรษฐีแก่ล้มลงไปนอนกุมท้องอยู่กับพื้นเมื่อคิบอมปล่อยมืออก ถึงในห้องน้ำนี้ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านนัก แต่ยังไงซะพวกเขาจะควรรีบจัดการโดยเร็วก่อนที่จะมีใครมาเห็น
     
                    ลูกเตะแรกของคังอินฟาดเข้าจังๆบริเวณกลางหลังของเหยื่อ คิบอมที่ยืนมองคังอินลงมืออยู่ฝ่ายเดียวก็เริ่มที่จะลงมือเองบ้าง และมันก็กลายเป็นการรุมกระทืบไปในที่สุด ความแรงและน้ำหนักที่กระแทกลงไปแต่ละทีนั้นทำเอาผู้ถูกกระทำนั้นไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย ด้วยความจุกและความเจ็บปวดเศรษฐีแก่จึงทำได้แค่นอนขดตัวและทนรับความเจ็บปวดต่อไป
     
                    พอแล้วเดี๋ยวมันจะตายซะก่อน คังอินออกปากห้ามคิบอมก่อนที่เหตุการณ์มันจะเลยเถิดจนนอกเหนือคำสั่งของซองมิน ทั้งสองคนยืนมองสภาพของเหยื่อด้วยความน่าสมเพช ใครที่มันมาเล่นในบ่อนนี้ก็เท่ากับสนับสนุนตระกูลโจ มันก็ถือว่าเป็นศัตรูกับพวกเขาไปด้วย
     
                    เดี๋ยวก็คงมีคนเข้ามาช่วยแกเองนั่นแหละ ไม่ต้องกลัว คิบอมบอกพร้อมกับตบแก้มเศรษฐีแก่เบาๆเหมือนเป็นการเรียกสติ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปห้องน้ำพร้อมกับคังอินและหลบหนีไปทันที
     
     
     
     
                     
     
                    ทันทีที่รถยนต์คันหรูจอดสนิทที่หน้าบ่อนเด็กที่ดูแลก็วิ่งเข้ามาหาและบริการความสะดวกสบายทันที คยูฮยอนเหลือบมองซองมินที่ดูมีท่าทางหวาดๆเล็กน้อยเมื่อก้าวลงจากรถ คยูฮยอนจึงเอื้อมไปกุมมือซองมินไว้ก่อนจะยิ้มอบอุ่นไปให้
     
                    ไม่ต้องกลัวนะครับ พูดจบก็ออกเดินไป
     
    ทางเข้าไปภายในบ่อนนั้นมีแค่แสงไฟสลัวๆ ทั้งบรรยากาศและกลิ่นมันดูน่ากลัวมากสำหรับคนที่ไม่เคยได้มาสัมผัสในสถานที่แบบนี้ แต่กลับซองมินแล้วมันไม่ใช่ สถานที่แห่งนี้ออกเป็นที่ๆคุ้นเคยเสียด้วยซ้ำ แต่เขากลับต้องแสดงว่าไม่คุ้นเคยกับสถานที่แบบนี้
     
    ควันบุหรี่ที่ลอยคลุ้งขึ้นมาทำเอาซองมินเบ้ปากยกมือโบกปัดไปมา พร้อมกับขยับเบียดเข้าใกล้คยูฮยอนทำเหมือนว่าไม่ชอบกลิ่นของมัน
     
    ออกไปสูบข้างนอก คยูฮยอนสั่งเสียงเรียบกับเด็กในบ่อนที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ แค่ได้ฟังเท่านั้นคนที่เป็นแค่เบื้องล่างก็รีบวิ่งตาลีตาเหลือกออกไปทันที
     
    ซองมินเงยหน้าขึ้นไปมองคยูฮยอนแล้วยิ้มบางๆ จากนั้นจึงเดินตามไปเงียบๆ ไม่คิดเลยว่าคยูฮยอนจะดูแลเขาดีถึงขนาดนี้ และถ้าเกิดวันหนึ่งเรื่องที่เขาทำทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมาอยากจะรู้จริงๆว่าคยูฮยอนจะปฏิบัติกับเขายังไง
     
    คยูฮยอนพาซองมินเข้ามาในห้องส่วนตัว ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันทีที่คยูฮยอนก้าวเข้ามาพร้อมกับบุคคลแปลกหน้า อีทึกส่งสายตาที่แสดงความไม่พอใจอย่างมากมาให้ รวมไปถึงคนอื่นๆ ที่ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่การที่จะเอาคนแปลกหน้าเข้ามาในห้องนี้นั้นมันไม่ควร
     
    ใคร อีทึกเอ่ยถามเสียงเรียบ สายตามองสำรวจบุคคลที่ยืนข้างคยูฮยอนตั้งแต่หัวจรดหัว อยากจะรู้จริงๆว่าคยูฮยอนคิดอะไรอยู่ถึงได้พาคนอื่นเข้ามาในนี้ ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้ดีว่ามันไม่สมควร


                                                   ----------------------50%----------------------

    ซองมินเพื่อนสมัยเด็กที่ผมเล่าให้พี่ฟังไงครับ คือว่า....
     
    นายก็รู้นี่ว่าไม่ควรพาคนนอกเข้ามาในนี้ ถ้าจะบอกว่าก่อนมานี่นายอยู่กับซองมิน แล้วทำไมถึงไม่พาเขาไปส่งก่อน อีทึกขัดขึ้นเสียงเข้มทั้งที่คยูฮยอนพูดยังไม่ทันจบประโยคซึ่งที่อีทึกพูดมาทั้งหมดหารู้ไม่ว่าคยูฮยอนก็อยากทำเช่นนั้นแต่เพราะอีกคนดึงดันจะมาด้วยให้ได้ จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
     
    ได้ฟังแบบนี้คยูฮยอนเลยได้แต่เงียบเพราะไม่อยากโยนความผิดไปให้ซองมิน ส่วนคนที่ดูเหมือนจะเป็นต้นเหตุก็ได้แต่แสร้งทำสีหน้าสลดที่ทำให้คยูฮยอนโดนอีทึกว่า แต่ในใจนั้นกำลังหัวเราะเยาะอย่างสะใจ
     
    ใจเย็นก่อนครับพี่อีทึก ผมว่าให้คุณคยูฮยอนนั่งลงก่อนดีกว่า เมื่อเห็นว่าบรรยากาศชักไม่ค่อยดีทงแฮจึงพูดขึ้น เพราะไม่งั้นจากที่ควรจะได้คุยเรื่องลูกค้าโดนทำร้ายกลับต้องมานั่งทำเลาะกันเองแน่ๆ
     
    คิดเอาเองว่านายควรจะทำยังไง บอกเสียงเรียบเช่นเดิมก่อนจะเบนสายตาไปยังซองมินที่ยืนก้มหน้าอยู่ อยากจะรู้จริงๆ ทำไมคยูฮยอนถึงได้พาคนๆนี้มาด้วย สำคัญอะไรนักหนากันเชียว
     
    ดะ....เดี๋ยวพี่ออกไปรอข้างนอกก็ได้นะ ซองมินบอกกับคยูฮยอนเสียงเบา ทำท่าจะเดินหันหลังกลับออกไปแต่คยูฮยอนรั้งไว้เสียก่อน
     
    อยู่ในนี้แหละครับ ยังไงพี่ก็เป็นแขกของผม ยิ้มให้เล็กน้อยเพราะไม่อยากให้ซองมินรู้สึกกดดันกับบรรยากาศมาคุแบบนี้ ก่อนจะจับข้อมือเล็กพาเดินไปนั่งยังโซฟาที่ว่างอยู่
     
    พอได้ฟังคำตอบของคยูฮยอนเท่านั้นอีทึกก็ออกอาการไม่พอใจทั้งทางสีหน้าและสายตาอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับทุกคนที่นั่งอยู่ เพียงแค่คนอื่นๆไม่ได้แสดงออกมาก็เท่านั้น
     
    แล้วตอนนี้แขกคนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ คยูฮยอนเริ่มพูดเข้าประเด็นหลังจากที่เสียเวลามาพอสมควร ซึ่งตอนนี้เขาเองก็รู้ดีว่าอีทึกคงจะไม่พอใจที่เขายังยืนยันให้ซองมินอยู่ในห้องนี้ด้วย แต่เพราะเขาเป็นคนจะพาซองมินมา แล้วจะให้ซองมินออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียวได้ไง
     
    ทางเราพาส่งโรงพยาบาลไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนเด็กในบ่อนที่ทำร้ายตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ อีทึกตอบกลับมาน้ำเสียงแข็งกระด้าง รับรู้ได้เลยว่าขณะนี้คนพูดกำลังรู้สึกไม่พอใจคยูฮยอนแค่ไหน
     
    แล้วแน่ใจได้ยังไงครับว่าเป็นเด็กในบ่อนเรา ถึงคยูฮยอนจะรู้สึกลำบากใจมากแค่ไหนที่อีทึกทำปฏิกิริยาแบบนี้ตอบกลับมา แต่เขาก็ยังคงถามต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะยังไงตอนนี้งานก็ย่อมสำคัญกว่า ส่วนอีทึกนั้นค่อยไปเคลียร์กันทีหลัง
     
    เด็กเฝ้าห้องน้ำยืนยันครับว่าเป็นคนของบ่อน เพราะตอนที่แขกเข้าไปในห้องน้ำมีคนในบ่อนตามเข้าไปก่อนจะยื่นเงินให้แล้วให้ออกไปรอข้างนอก เด็กเฝ้าห้องน้ำเข้าใจว่าคนนั้นจะดูแลแขกเองจึงได้รับเงินและออกมา จากนั้นก็มีคนในบ่อนอีกคนเดินเข้าไป ซักพักจึงออกมา พอเข้าไปอีกทีก็เห็นแขกนอนสลบสภาพเหมือนโดนรุมซ้อมอย่างหนัก ทงแฮเป็นคนเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เด็กเฝ้าห้องน้ำบอกให้คยูฮยอนฟัง เพราะถ้าขืนให้อีทึกตอบอีกคงได้มีสงครามประสาทย่อมๆระหว่างพี่น้องแน่
     
    แล้วจำหน้าคนที่ทำได้หรือเปล่าครับ
     
    คนที่ลงมือใส่หมวกปิดหน้าทั้งสองคนครับ อึนฮยอกตอบ
     
    จะว่าไปก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นผมเห็นเด็กในบ่อนคนหนึ่งยืนจ้องแขกคนนี้อยู่ ผมเลยเข้าไปเตือนแต่เขาก็ยอมฟังแต่โดยดีและเดินหนีไปทางอื่นที่สำคัญคือเขาใส่หมวกปิดหน้าปิดตาเหมือนกับที่เด็กเฝ้าห้องน้ำบอก เยซองบอก เขาคิดว่าคนที่ลงมือทำร้ายลูกค้าอาจจะเป็นคนเดียวกับเด็กที่เขาตักเตือนไป
     
    แย่แล้วครับ! มีคนโดนฆ่า! ศพถูกทิ้งอยู่ที่พุ่มไม้ข้างบ่อน!!” เด็กในบ่อนคนหนึ่งเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาแจ้งข่าวให้เหล่าเจ้านายได้ทราบหน้าตาตื่น
     
    ว่าไงนะ!” เป็นคยูฮยอนที่พูดออกมา ทุกคนในห้องพร้อมใจกันลุกขึ้นยืนเมื่อฟัง เว้นก็แต่อีทึกกับซองมิน
     
                    ทางนี้ครับ เด็กในบ่อนวิ่งนำออกไป ตามด้วยอึนฮยอก ทงแฮและเยซอง ส่วนคยูฮยอนนั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิม สายตามองไปยังซองมินที่นั่งก้มหน้าอยู่ เขาคงคิดผิดจริงๆที่พาซองมินมาที่นี่และต้องได้รับรู้เรื่องเลวร้ายแบบนี้
     
                    พี่ซองมินรอผมอยู่ที่นี่นะครับ เดี๋ยวผมกลับมา คยูฮยอนบอกก่อนทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง แต่ซองมินรั้งข้อมือเอาไว้ซะก่อน
     
                    ให้พี่ไปด้วย พี่ไม่กล้าอยู่คนเดียว ซองมินบอกเสียงสั่นและเบา จับข้อมือของคยูฮยอนเอาไว้แน่นเพื่อบอกให้อีกคนรู้ว่าตอนนี้เขารู้สึกกลัวขนาดนั้น
     
                    แต่ว่า.......ก็ได้ครับเห็นท่าทางของซองมินเป็นแบบนี้คยูฮยอนไม่อยากจะพาไปด้วยจริงๆ แต่เขาก็ไม่อยากทิ้งซองมินไว้คนเดียวเหมือนกัน จึงตัดสินใจพาออกไปด้วย
     
                    หลังจากที่คยูฮยอนกับซองมินออกไปจากห้องเรียบร้อยอีทึกจึงตามออกไปเป็นคนสุดท้าย แต่กำลังเดินผ่านโซฟาที่คยูฮยอนกับซองมินนั่งมีแสงวิบวับของวัตถุสีเงินจึงเรียกความสนใจของอีทึกให้หันไปมอง
     
                    เหรียญนี่มัน อีทึกก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาและก็พบว่านี่คือเหรียญสลักรูปตัว L ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ แต่มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ในเมื่อหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ตัว L เขาส่งให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบไปหมดแล้ว
     
                    อีทึกหันกลับไปมองที่โซฟาอีกครั้ง และพบว่าจุดที่เหรียญนี้หล่นอยู่เป็นที่ที่ซองมินนั่ง เขาไม่อยากคิดว่าเพื่อนสมัยเด็กของคยูฮยอนคนนี้เป็นคนลงมือ แต่เหรียญนี่มาหล่นอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกัน
     
                    ในเมื่อยังหาข้อพิสูจน์อะไรไม่ได้ ตอนนี้คงทำได้แค่ตั้งข้อสงสัยเอาไว้เท่านั้น อีทึกเก็บเหรียญนั้นใส่กระเป๋าก่อนจะตามพวกน้องๆออกไป และเขาคิดว่าศพที่อยู่ด้านนอกคงจะเป็นฝีมือของพวกมันอีกแน่นอน
     
     
     
     
                    ภาพศพชายสองคนอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย คนหนึ่งมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ลำคอ ส่วนอีกคนมีมีดปักอยู่ที่กลางหัวใจ และมีดเล่มนั้นมีสัญลักษณ์ตัว L สลักอยู่
     
                    พวกมันอีกแล้ว เมื่อเห็นสัญลักษณ์ที่มีดอึนฮยอกก็สบถขึ้นอย่างหัวเสีย ทำยังไงเขาถึงจะรู้ซักทีว่าพวกมันเป็นใคร โดนเล่นงานอยู่ฝ่ายแบบนี้มันไม่สนุกเลย
     
                    สภาพดูไม่ได้เลย ฉันว่านะ ไอ้คนที่ทำร้ายแขกในบ่อนต้องเป็นคนฆ่าสองคนนี้แน่ จากนั้นก็ขโมยเครื่องแบบไป ทุกคนจะได้เข้าใจว่าเด็กในบ่อนเป็นคนทำร้ายลูกค้า ทงแฮเดินวนไปรอบๆศพ และนั่งลงข้างศพที่มีมีดปักอยู่ ก่อนจะใช้ผ้าจับดึงมีดเล่มนั้นออกมา
     
                    คยูฮยอนกับซองมินที่เพิ่งมาถึง เมื่อเห็นสภาพศพซองมินก็ทำท่าเบือนหน้าหนีทันทีเหมือนกับว่ากลัวและขยะแขยงสิ่งที่ได้เห็น คยูฮยอนจึงต้องโอบไหล่เอาไว้และให้ซองมินซบหน้าพิงกับบ่าของตน
                   
                    “พี่ไม่เป็นไรนะครับ
     
                    อืม ซองมินพยักหน้ากลับมาเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาและทำหน้าเหยเก เขาล่ะอยากจะรู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนฆ่าศพไหน
     
                    พี่ว่าพาเพื่อนนายกลับไปส่งบ้านดีกว่านะ อีทึกที่เพิ่งเดินตามมาบอกเสียงเรียบเช่นเดิม
     
                    ครับ พยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะพยุงซองมินออกไป
     
                    อีทึกมองตามทั้งสองคนไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย เช่นเดียวกับซองมินที่หันกลับมามองอีทึกด้วยสายตาที่ไม่ค่อยไว้วางใจก่อนจะรีบหันกลับไปเพราะไม่อยากให้เป็นพิรุธมากนัก สมแล้วกับที่อีทึกเป็นเลขาของคยูฮยอน ดูรอบครอบและเฉียบขาด
     
                    เมื่อหันกลับมาซองมินจึงแค่นยิ้มออกมาโดยที่ก้มหน้าอยู่ รู้ให้ได้ซักทีนะอีทึกว่าใครคือผู้ร้ายตัวจริง แล้วเราจะได้มาสนุกกัน
     
     
     
     
     
    นายขึ้นไปเตรียมอาหารก่อนก็แล้วกันนะ ฉันจะแวะไปซุปเปอร์มาเก็ตซักหน่อย จะเอาอะไรมั้ย เมื่อกลับมาถึงที่พักอึนฮยอกก็หันไปบอกทงแฮที่กำลังจะลงจากรถไป
     
    ซื้อของมาเพิ่มไว้ก็ดีนะ รีบไปรีบมาแล้วกัน ฉันจะทำอาหารไว้รอ ทงแฮหันมาบอก ยิ้มให้เพื่อนรักบางๆก่อนจะปิดประตูรถ ยืนรอจนอึนฮยอกขับรถออกไปจึงหันเตรียมเข้าที่พัก แต่ก็ต้องชะงักเท้าเอาไว้เมื่อจู่ๆก็มีคนมารั้งข้อมือเขาไว้จากด้านหลัง
     
    กระบอกปืนที่ถูกเหน็บเอาไว้ด้านข้างถูกชักออกมาด้วยความเร็วสูง จ่อเข้าที่กลางหน้าผากของบุคคลแปลกหน้า แต่แล้วทงแฮก็ต้องรีบลดปืนลงทันทีเมื่อรู้ว่าบุคคลนั้นเป็นใคร
     
    คิบอม!” ร้องออกมาอย่างตกใจก่อนจะรีบลนลานเก็บปืนเข้าทีเดิม ทำไมเขาไม่ดูก่อนนะว่าเป็นใคร เอาปืนไปจ่อคิบอมแบบนี้จะโดนมองว่ายังไงล่ะคราวนี้
     
    เอาซะผมตกใจเลยนะ คิบอมหัวเราะแห้งๆ เมื่อทงแฮเก็บปืนเรียบร้อยแล้ว ถึงเขาจะคุ้นเคยกับปืนดีแต่พอเจอแบบนี้ก็อดตกใจไม่ได้เหมือนกัน เข้าใจเลยว่าตอนนี้พวกของโจกรุ๊ประวังตัวกันแค่ไหน
     
    ขอโทษนะ ว่าแต่คุณมาที่นี่ได้ยังไง ทงแฮเอ่ยออกมาเสียงอ่อยก่อนจะถามเบี่ยงเบนออกไปซะเพื่อกันไม่ให้คิบอมวกกลับมาถามเรื่องปืน
     
     ก็เดี๋ยวนี้ผมไม่เห็นคุณที่สถานรับเลี้ยงเด็กเลย ผมเลยมาหาคุณที่นี่ไงตอบพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ เรื่องที่อยู่ของพวกโจกรุ๊ปเขารู้หมดทุกตนอยู่แล้ว และทงแฮต้องคอยดูแลความปลอดภัยของคยูฮยอนและต้องอยู่ที่บ่อนตลอดเวลา เรื่องจะไปสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
     
    ช่วงนี้ผมยุ่งมากน่ะครับ เลยไม่มีเวลาไป ที่จริงเขาแปลกใจว่าทำไมคิบอมถึงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ได้ แต่ดูเหมือนจะได้คำตอบที่ไม่ตรงคำถามเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ไม่อยากจะซักไซ้อะไรมาก
     
    จะไม่ชวนแขกเข้าไปด้านในหน่อยเหรอครับ ตอนนี้ผมหิวน้ำมากๆเลย คิบอมยกมือลูบๆคลำๆบริเวณต้นคอเป็นการทำท่าทางประกอบว่าตอนนี้เขาหิวน้ำจริงๆ
     
    เอ่อ....งั้นเข้ามาก่อนเลยครับ ทงแฮลังเลอยู่ซักพักจึงตัดสินใจพาคิบอมขึ้นไปยังห้องพักของตนกับอึนฮยอกซึ่งเป็นคอนโดสูงยี่สิบชั้น มันไม่ได้ดูหรูหราอะไรมากนัก เพราะคอนโดนี้อีทึกเป็นคนหาให้เขาทั้งสองคน และถ้าอึนฮยอกรู้ว่าเขาพาคนอื่นเข้ามาแบบนี้ต้องโมโหเขามากแน่ๆ
     
     ทงแฮพาคิบอมเข้ามาในห้องซึ่งพักอยู่ชั้นที่สิบสาม ก่อนจะจัดแจงหาน้ำหาท่าให้ทานตามที่แขกคนนี้บ่นว่าหิว
     
    จริงสิครับ ตอนนี้คุณทำงานอะไรอยู่เหรอ หลังจากได้ดื่มน้ำสมใจคิบอมก็เริ่มบทสนทนาขึ้น เขาอยากจะรู้จริงๆว่าทงแฮจะโกหกเขาว่าอะไร
     
    เอ่อ...ผมก็ทำงานออฟฟิศทั่วไปแหละครับ ทงแฮสะอึกไปเล็กน้อยเพราะไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้าว่าคิบอมจะถามคำถามนี้ พนักงานออฟฟิศพกปืน เขาคิดได้ยังไงเนี่ย
     
    แล้วทำไมต้องพกปืนด้วยล่ะครับ คุณใช้ปืนเป็นด้วยเหรอ คิบอมยังคงซักไซ้ถามต่อไม่เลิก เอนหลังพิงโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ต่างจากเจ้าของห้องที่นั่งเหงื่อตกเพราะไม่รู้จะตอบคำถามออกไปยังไง
     
    ก็...พกไว้ป้องกันตัวน่ะครับ พ่อผมบอกเอาไว้ คือผมเคยเรียนยิงปืนตอนเด็กๆน่ะ ทงแฮหัวเราะแห้งๆขณะตอบคำถามเพราะไม่รู้ว่าคิบอมจะเชื่อตนมั้ย แต่เขาก็คิดได้เท่านี้
     
    แต่คุณเป็นเด็กกำพร้าไม่ใช่เหรอครับ เป็นอีกคำถามที่ทำเอาทงแฮคิดหนัก ทำไมคิบอมต้องมาซักไซ้เอาความอะไรกับเขามากมายแบบนี้ด้วยนะ
     
    ก็คุณพ่อบุญธรรมของผมไงครับ ท่านสอนให้ ผมพกเอาไว้ป้องกันตัวจริงๆนะ ตอบย้ำให้คนถามแน่ใจว่าที่ตอบไปนั้นเป็นความจริง พร้อมกับทำหน้าตาจริงจัง
     
    ครับๆ เชื่อแล้ว คิบอมหัวเราะน้อยๆ ขณะตอบ ทำเอาทงแฮแอบถอนหายใจเมื่อได้ฟัง
     
    หลังจากนั้นการพูดคุยก็เริ่มเข้าสู่เรื่องทั่วๆไปที่ต่างคนต่างได้พบเจอมา แต่ดูเหมือนว่าเป็นคิบอมซะมากกว่าที่เป็นฝ่ายชวนคุย ส่วนทงแฮนั้นมีแต่เรื่องที่เขาคลุกคลีอยู่ในบ่อน ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าเขาจะไม่ปริปากพูดมันออกไปแน่นอน
     
    ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่าครับ ตอนนี้มันก็เริ่มดึกแล้ว คิบอมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนจะลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อย เขาอยากอยู่นานจนอึนฮยอกกลับมาเจอแล้วมันจะเป็นเรื่องซะก่อน รู้ดีอยู่ว่านิสัยของเจ้ามือฆ่าเลือดเย็นคนนั้นเป็นยังไง
     
    งั้นเดี๋ยวผมลงไปส่งนะครับ
     
    ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมลงไปเอง กลับขึ้นมาคนเดียวมืดๆแบบนี้มันอันตราย ผมเป็นห่วง ยิ้มหวานกลับไปให้ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตู ยกมือขึ้นโบกสองสามทีก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง
     
    ทงแฮยกมือขึ้นโบกลาจนคิบอมเดินเข้าลิฟต์ไปจึงปิดประตูห้องเดินกลับมานั่งที่โซฟาอย่างเดิม ในตอนนี้สมองของเขามีแต่ประโยคสุดท้ายของคิบอมเต็มหัวไปหมด แถมยังรอยยิ้มนั่นอีก คิบอมคิดอะไรอยู่กันแน่นะ

                                                    ----------------------100%----------------------

    kr...Talk
    มาแหละ50% แต่ไรเตอร์โกรธ+น้อยใจจัง
    ทำไมเม้นเพิ่มน้อยนิดนัก

    มินดันทำของสำคัญตกซะแล้ว
    งานเข้าแล้วจริงๆ
    พี่ทึกต้องไปทำอะไรแน่เลย

    คราวหน้าเม้นไม่ถึง240ไม่อัพค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×