ตอนที่ 8 : คนใจร้าย
8.คนใจร้าย
เมริสายิ้มดวงตาใสกลมทอประกายวับจ้องมองใบหน้าขรึมเครียดของเขา ใครโทร.มาหรือคะ?
มิลลาพ่นลมหายใจเบาๆพิศมองคนตรงหน้าเหมือนจะเก็บภาพความทรงจำไว้ให้เต็มที่ก่อนที่จะตัดใจจากเธอเสีย
บิดาของผมครับ เมริสาพยักหน้า ดวงตากลมวาวมองที่เขาไม่วางตา
ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน คำพูดห่างเหินของเขาทำให้เธออึ้งงัน หากก็ฝืนยิ้มเข้าใจว่าบางทีเขาอาจจะมีเรื่องยุ่งยากใจอยู่ เวลาเห็นมิลลากลับมาทำหน้าเคร่งขรึมอย่างนี้ เธอรู้สึกใจไม่ดีเลยซักนิด
ไปส่งฉันบนตึกหน่อยสิคะ มือเล็กๆยื่นมาจับมือใหญ่ของเขาแล้วต้องตกใจเมื่อมันเย็นเฉียบเหลือเกิน
คุณเป็นอะไรไปคะ? ดวงหน้าใส เอียงคอมอง เป็นท่าทางที่ทำให้เขาตกหลุมเสน่ห์เธอ
มิลลาเบือนหน้าหนีดวงตาสงสัย ดึงมือตัวเองออกเบาๆ
ผมมาส่งถึงที่นี่ ไม่มีอะไรอันตรายอะไรสำหรับคุณแล้ว รีบขึ้นไปพักผ่อนเถอะครับ พรุ่งนี้เราจะต้องไปรับองค์เอเมียร์และพระชายาแต่เช้า
เมริสากะพริบตาปริบๆ ทำไมท่าทางของเขาถึงได้เปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยไม่ไยดีกับเธออย่างนี้อีกแล้ว โกรธที่เธอหนีกลับไปเอานาฬิกาที่ร้านของอิบรัมห์เพียงลำพังอยู่หรือ?
ใบหน้าเล็กๆฉายยิ้ม ดวงตาพราวดั่งดวงดาวเปล่งประกาย ก่อนจะเขย่งปลายเท้า แล้วแตะปลายจมูกที่แก้มสากๆของมิลลา องครักษ์หนุ่มยืนตัวแข็งทื่อ ขอบคุณมากนะคะ
ร่างสูงใหญ่ตั้งตระหง่านดังป้อมปราการของมิลลามิได้แข็งแกร่งเลยในเวลานี้ หัวใจของเขากำลังไหวสั่นอย่างรุนแรง การกระทำช่างออดอ้อนเฉกวิสัยของหญิงสาว ทำให้เขาไม่อาจแข็งใจใจร้ายกับเธอได้ แม้จะดื้อรั้น ซุกซน ก๋ากั่น ทันสมัยขนาดไหน หากเขารับรู้และตระหนักดีว่าเมริสาเป็นเพียงหญิงสาวบอบบางที่น่าทะนุถนอม ผิดกับภาพภายนอก
แต่หากไม่ใจร้ายกับเธอในวันนี้ ความเจ็บปวดจากความสัมพันธ์หลังจากนี้ไปจะยิ่งหนักหน่วงกับทั้งเธอและตัวเขาเอง อย่าทำแบบนี้อีก น้ำเสียงแข็งเอ่ยขึ้นมา
เมริสาหน้าเจื่อน คุณยังโกรธฉันอยู่หรือคะ?
ไม่มีผู้หญิงดีๆคนไหนทำแบบนี้กับผู้ชายหรอกนะ น้ำเสียงห้วนกระด้างกล่าว เมริสาถึงกับสะอึก
ผมรู้ว่าคุณเติบโตมาในต่างประเทศซึ่งแตกต่างจากที่นี่ แต่ตอนนี้คุณอยู่ในเชดัสย่าห์ ในฐานะพระขนิษฐาขององค์ราชินี คุณควรจะระลึกหน้าที่สิ่งอันควรและไม่ควรทำ ถ้อยคำตำหนิรุนแรงนั่นทำให้ดวงตากลมกะพริบปริบๆ
อย่าไปทำอย่างนี้กับผู้ชายคนไหน เขาจะตำหนิคุณได้ว่าเป็นพวกสาวเฟิร์ตชอบหว่านเสน่ห์ยั่วผู้ชาย....
....แต่กับผู้ชายคนอื่นๆ ผมไม่รับรองหรอกนะว่าเขาจะมีความอดทนกับเรื่องพวกนี้ได้เพียงไร....เขาจะมองคุณเป็นแค่ผู้หญิงรักสนุกและคงไม่หยุดหรือให้เกียรติคุณอย่างที่ผมทำ
ถ้อยคำตำหนินั่นช่างรุนแรงเหลือเกิน เขาคิดว่าเธอเป็นพวกหว่านเสน่ห์ รักสนุก ยั่วยวนผู้ชายทั่วไปอย่างนั้นหรือ?ใบหน้าของเมริสาร้อนฉ่าคล้ายถูกตบอย่างแรง อะไรกัน? นี่มิลลาอดกลั้นกับเธอหรอกหรือ? ที่เขาไม่เอ่ยว่า ไม่ทำท่ารำคาญ นั่นเพราะเขาให้อภัยและเข้าใจว่าเธอเพียงปั่นหัวเขาเล่นเพราะต้องการเฟิร์ตหรือนึกสนุก...มิใช่เพราะเขารู้สึกอย่างเดียวกับเธอหรอกหรือ?
ดวงตาตำหนิของมิลลาทำให้เมริสารู้สึกเสียหน้าและผิดหวังอย่างรุนแรง
เกียรติยศของความเป็นลูกผู้หญิง....ของพระขนิษฐาแห่งองค์ราชินี....ของสายเลือดแห่งเอเมียร์โมฮัมเหม็ด แห่งราชตระกูลอฺมานี กำลังถูกผู้ชายคนนี้ดูหมิ่นเพียงเพราะเธอชอบเขา และคิดว่าเขาเองก็ชอบเธอ
เผียะ....
เสียงฝ่ามือบางฟาดเข้าไปเต็มข้างแก้มสาก ดวงตาคลอวาวด้วยหยาดหยดแห่งความเสียใจผิดหวัง
ฉันไม่ได้เฟิร์ต...เป็นผู้หญิงหว่านเสน่ห์หรือนึกสนุก.... น้ำเสียงเครือสั่นว่า
แต่เพราะฉันชอบคุณจริงๆ และนึกว่าคุณเองก็ชอบฉันต่างหาก.... น้ำตาใสๆกลิ้งลงระเรี่ยข้างแก้มนวล
ขอโทษนะที่กวนใจคุณ....ขอโทษ น้ำเสียงย้ำว่าสั่นเครือ ดวงตาขึ้งโกรธ พยายามดันก้อนบางอย่างที่มาจุกอยู่ตรงคอลงไป สะกดกลั้นความเสียใจ และความอ่อนแอไม่ให้เขาเห็นมากกว่านี้
ดวงหน้าเล็กสะบัดพรืดหนี หันกลับหลังวิ่งขึ้นบันไดพระตำหนักมุซทามัสไป
ร่างสูงใหญ่สะท้านสั่นกับคำสารภาพจากริมฝีปากอิ่มสีเชอรี่ของคนที่เขาเฝ้าคิดคำนึงหา...บัดนี้เธอเกลียดเขาแล้ว...เกลียดเขาทั้งๆที่เธอเพิ่งบอกว่าชอบเขา...และเขาก็ชอบเธอ
หัวใจสองดวงที่รู้สึกตรงกัน...สมควรหรือที่เราทั้งสองจะได้รับความเจ็บปวดเช่นนี้
เมริสาวิ่งขึ้นบันไดไปยังพระตำหนักชั้นบนฝ่ายซ้ายด้วยแข้งขาสั่น เธอไม่เคยรู้สึกว่าทางไปยังห้องนอนของเธอมันทอดยาวราวกับวิ่งมาราธอนขนาดนี้มาก่อน
หากสุดท้ายก็มาถึงจนได้ มือบางผลักประตูปิดลงก่อนร่างจะรูดลงสู่พื้นร้องไห้โฮออกมาอย่างเสียใจ
ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? ถือดีอย่างไรมาดูถูกความรู้สึกของเธออย่างนี้
เขาจะหน้าแดงไปทำไมเวลาที่เธอจ้องมอง? จะทำท่าประหม่าเขินอายกับเธอทำไม? ต้องปกป้องดูแลเธอ คุ้มครองห่วงใยเธอ มันเป็นแค่หน้าที่โดยปราศจากความรู้สึกเท่านั้นสินะ....
ใจร้ายที่สุด....ใบหน้านิ่งๆนั่น คำพูดของเขาช่างทำร้ายเชือดเฉือนหัวใจให้ขาดวิ่นแหว่งไม่มีชิ้นดี....
เมริสาปาดน้ำตาทิ้ง เมื่อคิดแล้วว่าจะไม่มาเสียน้ำตาและเสียใจให้กับคนที่ดูถูกเธอเช่นนี้อีกแล้ว สายตากวาดมองสิ่งใดภายในห้องก็ดูเกะกะรกลูกตาไปเสียหมด
ฮึ้ย...ฮึ้ย.... มือเล็กดึงทึ้งจับเขวี้ยงของที่เกะกะขวางลูกตา
เคว้ง......
แจกันทองเหลืองใบเขื่องน้ำหนักมาก หากไม่อาจต้านทานแรงคนโมโหโทโสถูกผลักจนล้มลงมาจากโต๊ะหินกลิ้งหลุนๆไปตามพื้นจนเสียงสะท้อนก้องดัง
เมริสากระแทกตัวนั่งลงบนเตียง ดูผลงานกระจัดกระจายจากอารมณ์แค้นเคืองของตัวเอง หายใจหอบสะท้านตัวโยนพยายามยามสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นมัวไปเสีย เมื่อมานั่งทบทวนใหม่แล้วเห็นว่ามันไร้สาระชะมัด กะอี้แค่ปั๊บปี้เลิฟ เวลาแค่ห้าวันเธอตกหลุมรักเขาได้....เวลาอีกยาวนานชั่วชีวิตที่เหลือ คงไม่ยากที่จะลืมผู้ชายไร้หัวใจคนนั้นออกไปจากชีวิต
หรือถ้ามันลืมไม่ได้จริงๆ เธอก็จะสร้างความทรงจำกับคนที่เห็นคุณค่าความรักเธอ เขียนทับภาพความทรงจำของเขาไม่ให้มีเหลือเลยคอยดูสิ
คุณคะ....คุณ.... เสียงร้องอย่างร้อนรนของปาตีที่หน้าประตูห้อง เมริสาลุกพรวดขึ้นยืน กลืนน้ำลายฝืดๆลงคอเมื่อไม่รู้หาเหตุอะไรมาอธิบายนางกำนัลถึงสภาพห้องบรรทมที่เธอทำเสียกระจัดกระจาย
คุณคะ...เกิดอะไรรึเปล่า?
เมริสาได้แต่อ้ำอึ้ง ไม่มีคำตอบของคำถาม มองห้องกระจัดกระจายอย่างไม่รู้ตัดสินใจอย่างไรดี
ปาตีหลบไป เสียงห้าวที่คุ้นหูร้อนรนสั่งปาตี เมริสตาโต กำลังอ้าปากจะร้องห้ามออกไป แต่ไม่ทันกาลเสียแล้ว
โคร้ม
ประตูเปิดผางออก มิลลาถลันตัวมายืนตรงหน้าด้วยแรงส่งตัวเอง นางกำนัลอีกสามสี่คนและปาตีกรูเข้ามาในห้องนอน เมริสากลืนน้ำลายเหนียวหนึบลงลำคอ...ดวงตากะพริบปริบๆ ไม่กล้าสู้หน้ากับใครๆ
เกิดอะไรขึ้นคะ? ทำไมห้องกระจัดกระจายอย่างนี้ มีคนบุกรุกหรือคะ? ปาตีถามอย่างร้อนใจมองสภาพห้องที่เสียหายยับเยินหน้าตื่นตระหนก
เมริสาส่ายหน้าดิก เปล่า เสียงตอบแผ่วนัก
มิลลาตวัดดวงตาคมดุมามองหน้าเธอเหมือนตั้งคำถาม หลังจากกวาดตามองข้าวของกระจัดกระจายพอจะเดาได้ไม่ยากสายตาของเขาตำหนิเธอชัดเจน
ทำไม...มีอะไรข้องใจอีก ดวงตากลมฉายแววขุ่นขึ้งโต้ตอบกลับไป
สายตาของผู้มีอำนาจสูงสุดทั้งสองในห้องที่ตอบโต้กันและกันทำให้เหล่านางกำนัลหน้าเจื่อน
จะมีใครกล้าบุกรุกในเมื่อข้าวางกำลังคุ้มกันที่นี่แน่นหนา มิลลากล่าวอย่างจะตอบสายตาขุ่นเคืองเต็มไปด้วยคำถามของเธอว่าเขาจะเข้ามาทำไม
ใช่สินะ งั้นก็ไปทำหน้าที่ของคุณต่อเถอะ ขอโทษด้วยที่ทำให้เสียเวลาทำหน้าที่อันสำคัญยิ่ง น้ำเสียงประชดประชันชัดเจนเปิดเผย
เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว หวังว่าเราต่างจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ไม่มีฝ่ายไหนต้องกวนใจ หรือทำให้อีกฝ่ายต้องยุ่งยากใจอย่างนี้นะครับ เมริสาส่งสายตาขึ้งโกรธตอบโต้คำตำหนิรุนแรงนั่น
เชิญกลับไปทำหน้าที่ของคุณเถอะค่ะ ต่อให้มีคนมาลักพาตัวฉันก็ไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากคุณหรอก เสียงฉุนเฉียวร้องตะโกนตามหลังไปอย่างขุ่นเคืองเช่นกัน
มิลลาตวัดสายตากลับมามอง พ่นลมหายใจเบาๆ เสียงตบรองเท้าคอมแบตกระทบกัน ก่อนจะถอยล่าออกไปจากห้องนั้นอย่างเลิกใส่ใจ คนที่ยืนตัวแข็งขึ้งค้างราวกับเด็กดื้อที่โดนดุจนหน้าซีดจ๋อยรู้สึกคล้ายร่างถูกฟรีซไว้ในช่องทำความเย็นขนาดใหญ่....ความชาเฉยไม่ใส่ใจไยดีที่เขาแสดงออก....เชือดเฉือนเธอเหลือเกิน
หัวใจของเมริสาเหมือนถูกกระตุกวูบตามไปทุกฝีเท้าที่ก้าวย่างห่างไปทุกทีของเขา
ร่างเปลือยเปล่าที่นอนนิ่งแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลีบดอกไม้ และกลิ่นน้ำมันหอมช่วยผ่อนคลายพริ้มดวงตากลมใสที่คลอหยาดหยดความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิท
เธอนี่มันบ้าจริงๆเชียว ที่ดันไปชอบคนอย่างหมอนั่นได้....ผู้ชายหน้านิ่งที่ไม่ถูกชะตามาเสียแต่ต้น แล้วมันผิดจากความรู้สึกแรกที่พบเขาเสียที่ไหน....คนอะไรทั้งใจร้าย นิสัยไม่ดี...
เมริสาปาดน้ำตาที่ทิ้งเมื่อร้องไห้สาแก่ใจจนตาบวมตุ่ย บอกตัวเองว่าผู้ชายในโลกนี้ยังมีอีกเยอะที่จะเห็นคุณค่าของตัวเธอ ไม่ดูถูกความรู้สึกของเธอ...ใช่มีเพียงองครักษ์หน้านิ่ง...ผู้ชายที่ไม่มีหัวใจคนนั้น
แต่ชีวิตนี้จวบจนผ่านมาเกือบสิบเก้าปี มีไม่กี่คนที่เธอจะรู้สึกอย่างนี้ด้วย....
เอเมียร์ไซยเอ็ดคือผู้ชายคนแรก...และต่อมาก็เขา....ทั้งๆที่มิลลาไม่มีอะไรจะสู้พระเชษฐภรรดาของเธอได้เลย เป็นความกรุณาใหญ่ยิ่งขนาดไหนกันที่คนอย่างเธอไปชอบคนหน้านิ่งๆ ไร้เสน่ห์อย่างนั้น หมอนั่นมีสิทธิ์อะไรถึงมาพูดจาหยามเหยียดดูถูกความรู้สึกของเธอ
ปลุกปลอบใจตัวเองพักใหญ่ จนเริ่มรู้สึกดีขึ้น ถึงค่อยมีอารมณ์อาบน้ำ ร่างบางขยับตัว เสียงน้ำดังจ๋อมแจ๋มอยู่หลังม่านทึบผืนใหญ่ที่กั้นส่วนของห้องสรงน้ำกับห้องบรรทมดังแว่วมาเบาๆ
ร่างสูงใหญ่ที่เพิ่งกระโดดข้ามพ้นหน้าต่างเข้ามายังห้องบรรทมของพระชายาแห่งเอเมียร์ไซยเอ็ดเหลียวหน้าไปมอง ดวงตาเรียบเฉยฉายแวววาวบางอย่าง
เมริสาขยับหัว สะบัดคอสองสามครั้งไล่ความเมื่อยขบออกไป ก่อนจะลุกขึ้นยืนกลางอ่างอาบน้ำ หมุนตัวซ้ายขวามองหาผ้าเช็ดตัวที่นางกำนัลเตรียมไว้ให้ แล้วต้องหงุดหงิดเมื่อเพิ่งระลึกออกว่า ปาตีวางผ้าผืนนั้นไว้ให้บนเตียงนอน แต่เธอกลับเดินมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าหลังม่านนี่แล้วกระโจนลงอ่างน้ำทันทีโดยไม่ได้นึกถึงชุดที่จะนุ่งออกไปเลย
มองเสื้อผ้าชุดที่ใส่ไปเที่ยวสนุกมาทั้งวันแล้วย่นคิ้วนิดๆ ชุดนี้เต็มไปด้วยเหงื่อไคล ขืนนุ่งห่มปิดเนื้อตัวไป ก็คงต้องกลับมาอาบน้ำใหม่ เสียเวลา ถึงอย่างไร ห้องนี้ก็เป็นห้องส่วนตัวของเธอ ไม่มีใครอยู่ในนี้เสียหน่อย ไม่เห็นจะต้องอายใครเลย คิดได้ดังนั้นขาเรียวยาวนวลเนื้อขาวผุดผ่องจึงก้าวพ้นจากขอบอ่างจากุชชี่เดินมุ่งไปยังห้องบรรทม ตวัดผ้าม่านเดินเปลือยเปล่าเข้าข้างใน แต่แล้วก็ต้องตกใจแทบช็อก เมื่อเห็นว่าในห้องนี้มีบุคคลที่ไม่พึงประสงค์อยู่ด้วย
ร่างที่ยืนตระหง่านในชุดสีดำนั่นหันกลับมามองเธออย่างรวดเร็ว เขาเองอึ้งคะนึงไปกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า แต่ก่อนที่ร่างนั้นจะเปล่งเสียงร้องออกมา
กระ..... ยังไม่ทันเปล่งเสียงพ้นลำคอ คนชุดดำนั่นก็พุ่งเข้ากอดรัดร่างเปลือยเปล่าของเธอไว้อย่างรวดเร็วจนล้มกลิ้งลงไปกับพื้นพรมเนื้อนุ่ม มือใหญ่ปิดปากเธอไว้แน่นสนิท ดวงตาดุดันจ้องมองข่มขู่
เป็นเพราะระวังตัวอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นเหยื่อโผล่มาจากหลังม่านร่างสูงใหญ่ในชุดดำจึงเข้าจู่โจมเธอได้ในทันที โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวและส่งเสียงร้องออกมาพ้นลำคอได้ หากเขาเองก็ใจหายวาบเมื่อเห็นว่าเธอกำลังเปลือยเปล่าไม่มีอาภรณ์แม้แต่เพียงชิ้นเดียว การลักพาตัวไปทั้งอย่างนี้ ย่อมไม่เป็นการดีแน่
หุบปากซะ ถ้าเจ้าไม่อยากตาย เสียงดุดันกระซิบปราม
ดวงตากลมเบิกโตเต็มไปด้วยความตระหนกกลอกกลิ้งไปมา พยักหน้าหงึกหงักรับคำสั่งของคนชุดดำที่พันผ้าปิดบังใบหน้าแน่นหนา ดวงตาดุดันลุกวาวน่ากลัวนัก ไหนเลยองครักษ์ผู้เข้มแข็งถึงได้ไม่มาปรากฏตัวในเวลาที่เธอต้องการความช่วยเหลือเช่นเวลานี้ ฝ่ามือใหญ่หยาบหนาคลายออก หากว่าพอมีโอกาสเมริสาก็ไม่ละเว้นที่จะส่งเสียงร้อง
กรี๊ด....... เปล่งเสียงสั้นๆออกลำคอได้แค่นั้น มือใหญ่ก็ตะปบลงมาอีกครั้ง ดวงตาดุดันนั่นลุกวาว มือเพียงข้างเดียวปิดปากเธอไว้แน่นสนิท เมริสาหยิกทึ้งทุบตี แต่ร่างแกร่งไม่คณนาแม้แต่นิด เขาหยิบผืนผ้ามาปิดทับลงไปที่จมูกเธอเพียงดิ้นขลุกขลักขัดขืนอยู่ไม่กี่อึดใจ ร่างเปลือยเปล่าก็อ่อนยวบสิ้นสติลง แทบไม่มีเวลาคิดเสียด้วยซ้ำว่า มันเกิดอะไรขึ้น
โจรชุดดำมองนวลเนื้อเปลือยเปล่าที่ตระการตาไปด้วยสัดส่วนโค้งเว้าและพลังแห่งอิสตรีที่เรียกร้องบางอย่างในกายเขาให้วิ่งวนพุ่งพล่าน พราวหยดน้ำเกาะเรือนร่างขาวนวลเนียนนุ่มนิ่มทำให้บุรุษผู้กล้าแกร่งถึงกับคอฝืดขึ้นมา
รีบรวบสติที่กำลังจะกระเจิดกระเจิงมาโดยเร็ว เหลียวหน้าไปยังประตูห้องบรรทม เสียงเขาและเธอล้มกลิ้งไปด้วยกันเมื่อครู่นี้ อีกซักพักทหารคงแห่กันมา
รีบพุ่งไปดึงผ้าห่มบนที่นอนมาพันกายอันเปลือยเปล่านั้นห่อไว้แล้วตวัดขึ้นบ่า ก่อนจะหาทางหนีทีไล่ออกไปให้ไกลจากพระราชวังโดยเร็วที่สุด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แล้วองค์รักจาทำยังงัยเนี่ย
ว้าววววว