ตอนที่ 20 : ซ่อนตัว
20.ซ่อนตัว
เป็นเวลาย่ำค่ำแล้ว แต่คนที่ออกไปนอกถ้ำยังไม่กลับมา เมริสาสงสัย มาฬิสหายไป แค่หายไปเฉยๆ หรือว่าเขาหนีกลับไปแล้ว เมื่อวาบความคิดนี้ขึ้นมาในหัว ดวงใจเธอเหมือนกระตุกร่วงลงสู่พื้น
ร่างเล็กผุดลุกขึ้นยืน เร็วเท่าความคิดมันก็พาเมริสามายังปากถ้ำ ดวงตากลมสำรวจมองหา เขาไปอยู่ที่ไหน มาฬิสทอดทิ้งเธอหนีกลับไปที่กิซาร์แล้วกระมัง
เมื่อเห็นม้ายังยืนเลาะเล็มยอดไม้อยู่ ม้าของเขาเธอจำได้ ตัวดำสูงใหญ่ ขนมันปลาบ ม้าอาหรับพันธุ์ดีที่ดื้อด้านเหมือนผู้เป็นเจ้าของ
ดวงตากลมเขม้นมองหา ไม่เห็นใครทั้งนั้น เท้าเล็กพาเธอมาที่ริมทะเลสาบโดยเร็ว เท่าความสงสัย เวลาย่ำค่ำพระอาทิตย์อัสดงใกล้ลับลงผืนทรายเช่นทุกวัน
ผืนน้ำสงบนิ่ง ไม่มีคน ไม่มีใคร แล้วเขาหายไปไหนกัน
ลมวูบหนึ่งพัดกรรโชกมา เหมือนปลิดหัวใจให้ปลิวไหวไปด้วย มือบางกอดกระชับตัวเองไว้ ปกป้องจากความหนาว หากไม่อุ่นได้เท่าอ้อมกอดของใครบางคนเมื่อคืน จริงหรือฝันยังสับสน
มาฬิส....นายอยู่ไหน เสียงตะโกนกู่ก้องร้องถามไปทั่วผืนน้ำที่นิ่งสงบ
มาฬิส....มาฬิสฉันรู้ว่านายอยู่แถวนี้นะ ออกมาเสียทีเถอะ
ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองต้องมาร่ำร้องหาคนที่ว่าไม่อยากเห็นหน้าไปทำไม แต่การถูกทอดทิ้งเช่นนี้มันหวิวไหวนัก
เธอได้ยินเสียงผิวปากดังขึ้นเบื้องหลัง ก่อนเสียงม้าจะวิ่งเตลิดผ่านหน้าไป เมริสาเหลียวหน้าล่อกแล่ก อย่างหวาดระแวง ม้าพยศของจอมโจรหนุ่มทำไมถึงวิ่งเตลิดเหมือนกำลังหนีอะไรซักอย่าง
ความมืดโปรยปรายรอบตัวครอบงำไปทั่วโอเอซิสร้างแห่งนี้ เมริสาตัดสินใจกลับไปที่ถ้ำด้วยความรู้สึกกลัว แต่เพียงหันหลังกลับจู่ก็ต้องสะดุ้งโหยง จู่ๆร่างบางก็ถูกรวบไว้ พร้อมมือหยาบใหญ่ที่ปิดปาก
เงียบ คำสั่งนั่นสะกดเมริสาให้นิ่งขึง ดวงตาสีน้ำตาลทองจ้องเขม็ง เมริสาพยักหน้า เท่านั้นเขาก็ปล่อยมือจากปากหากใช้มันอุ้มเธอจนตัวลอยจากพื้น
เงียบนะ อย่าร้อง คำสั่งสำทับนั่นทำให้เสียงว้ายหลุดออกมาเพียงนิดมิเป็นเสียงเป็นคำ
มาฬิสพาเธอเดินฝ่าสายน้ำที่เงียบนิ่งลงไปในทะเลสาบ เมริสาเหลียวเลิ่กลั่กไม่เข้าใจว่าเขากำลังทำอะไร
ฉันไม่อาบน้ำนะ แล้วก็ไม่เล่นน้ำด้วย ไม่เห็นรึว่าฉันยังป่วยอยู่ เสียงกระซิบกระซาบว่า หากดวงตาที่แน่วแน่แทบไม่กะพริบบนใบหน้าขรึมเครียดทำให้เธอยิ่งหวาดกลัว
นายจะทำอะไร? เสียงกระซิบเบาๆถาม ท่าทางระมัดระวังของเขาทำให้เธอสงสัย
มีคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
คนงั้นหรือ? มุ่งหน้ามาทางนี้ มาเพื่อตามหาเธออย่างนั้นนะสิ ดวงตากลมลุกโพลงขึ้นอย่างยินดี
ช่วย.... เปล่งคำออกเพียงแค่นั้น ริมฝีปากหยักคมก็ประกบปิดปากบางของเธอไว้อย่างคาดเดาได้ล่วงหน้าว่าคิดจะทำอะไร เมริสาดิ้นอึกอัก มาฬิสค่อยๆปล่อยร่างเธอทิ้งลงน้ำ หากปากหยักของเขายังประกบไม่ยอมปล่อย ก่อนจะดึงร่างเธอลงต่ำไปใต้ผิวน้ำ
เมริสาดิ้นอึกอักเอาตัวรอด แต่ร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่านั่นกลับพันธนาการเธอไว้เสียแน่นหนาไม่ให้มีโอกาสแม้แต่จะขยับตัวได้ มันเป็นความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานปานจะขาดใจตาย เธอหายใจด้วยอากาศที่เป่ามาจากปากที่ประกบริมฝีปากเธอไว้ กายต่อกายแนบชิด หัวใจเต้นแรงสั่นไหว....ทำอะไร เขากำลังทำอะไร จะฆ่ากันหรือไง
เนิ่นนาน....นานเท่านานสำหรับความรู้สึกของเมริสา
เสียงคนแว่วๆที่ผิวน้ำ นานมากๆเหมือนพวกเขากำลังจะตามหาอะไรอยู่
เธอไง...คนพวกนั้นตามหาเธอ แต่เจ้าโจรนี่กำลังกักตัวเธอไว้ ทั้งๆที่บอกเองว่าจะเป็นคนพาเธอไปส่งที่ชิริอาห์
แรงดิ้นรนสุดท้ายแทบขาดใจ ก่อนที่มาฬิสจะยอมปล่อยให้ศีรษะเธอพ้นจากผิวน้ำ เมริสางับอากาศเข้าปอดอย่างหิวกระหายจัดราวกับจะขาดใจตายเสียให้ได้ ดวงตาจ้องมองอย่างขุ่นเคือง
นาย....อุ๊บ มือใหญ่กดศีรษะของเธอไว้แนบปากกับปากของเขา ดวงตากลมเบิกกว้าง รอบกายมืดมิดลงไปสนิท เสียงคนสนทนากันแว่วห่างออกไปทุกที...ทุกที....นานพอๆกับที่เขาจูบเธอ ก่อนเสียงเหล่านั้นจะหายไป
ทำไม ในเมื่อนายสัญญาแล้วว่าจะพาฉันไปส่งที่ชิริอาห์ คำถามแรกหลังจากโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวน้ำ
ใช่ฉันรับปากว่าจะพาเธอไปส่ง แต่ไม่ได้บอกนี่นาว่าเมื่อไหร่และมันก็ไม่ใช่ตอนนี้ น้ำเสียงเครียดเคร่งว่า เมริสารู้สึกโกรธเขาขึ้นอีกเป็นเท่า
สัจจะไม่เคยมีในหมู่โจรและผู้ชายตรงหน้าตรงหน้าก็เป็นโจร เธอไว้ใจเชื่อใจเขาได้ยังไงกัน
รีบไปกันเถอะ
ไปไหน?
กลับกิซาร์
ใครบอกล่ะว่าฉันจะไปกับนาย มาฬิสหันมาดูหน้าคนที่เปล่งวาจาและสายตาดื้อรั้น
ฉันบอกเดี๋ยวนี้ไง เธอต้องไปกับฉัน
ไม่ เมริสาประกาศกร้าว ไม่เคยมีครั้งไหนที่มาฬิสคิดอยากหักคอหล่อนมากเท่าครั้งนี้
นายสัญญาว่าจะพาฉันไปส่ง ถ้านายไม่อยากไปเอง ฝากฉันไปกับพวกเขาก็ได้
พวกนั้นไม่ใช่ทหารชิริอาห์ มันน่าสงสัย ฉันไม่ไว้ใครทั้งนั้น
ฉันก็ไม่ไว้ใจนายเหมือนกัน ปล่อยได้แล้ว
อย่าดื้อรั้นเมริสา นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาเอาแต่ใจตัวเอง เมื่อฉันสัญญาก็คือสัญญา ฉันจะพาเธอไปส่ง มือแข็งราวคีมเหล็กบีบต้นแขนเธอแน่น แกมกระชากลากไปตามเขาด้วย
เมริสาพยายามขืนตัวไว้ แล้วเมื่อไหร่กัน
มาฬิสลากร่างนั้นขึ้นจากผิวน้ำ กลับไปยังถ้ำอย่างรวดเร็ว เขาให้สัญญาณเจ้าซีอาลไปหลบซ่อนตัว ม้าแสนรู้ของเขาคงแอบซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่งในโอเอซิสร้างแห่งนี้ ทหารลาดตะเวนกลุ่มนั้นเดินเลยไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่กลับมาอีกนี่นา ฉันถามนายว่าจะพาฉันไปส่งเมื่อไหร่
ดวงตาสีน้ำตาลทองฉายแววลุกโชนขึ้นมาอีกหน ดวงหน้าถมึงทึงยื่นเข้ามาใกล้
หากเธอส่งเสียงอีกครั้ง ฉันหักคอเธอแน่ๆ น้ำเสียงเย็นยะเยือกนั่น ไม่ได้บอกว่าเขาเพียงแค่ข่มขู่เท่านั้น มือแกร่งกำข้อมือเล็กแน่น ไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดรอดไปได้ เมริสาอยากร้องไห้นัก เขาจะทรมานเธอไปถึงไหน
หากความทุกข์ทรมานของเธอ น้ำตาของเธอ เป็นสิ่งที่สาสมแก่ใจของเขา...เธอก็ไม่มีวันจะให้เขาได้สุขสมในสิ่งที่หวังหรอกนะ ไม่มีทาง มาฬิสเจ้าโจรโฉดใจร้าย
เมริสากลืนน้ำตาลงไปให้ลึกที่สุด ไม่อยากให้เขาหรือใครได้เห็นอีก มองนายโจรที่รีบเร่งเก็บข้าวของสำคัญของเขา ดาบ เสื้อผ้า และเธอ ร่างบางขืนตัวเองไว้ ไม่ยอมให้เขาลากจูงไปโดยง่าย ดวงตาสีน้ำตาลทองตั้งข่มขู่กร้าว
เมริสาส่ายหน้าดิก หากแรงฉุดมีมากกว่า เธอจำปล่อยให้ถูกเขาถูลู่ถูกังไป ในหัวคิดหาคนทางวิธีที่จะสะบัดจอมโจรให้หลุดพ้น เธอมีครอบครัวรออยู่ มีอนาคตที่ดีงามไม่ใช่ที่กิซาร์ เธอไม่มีวันกลับไปกับเขาอีกแน่ๆ เพราะมันอาจจะหมายถึงว่า เธอไม่มีโอกาสได้ออกจากหุบเขากิซาร์ตลอดชีวิต และเป็นผู้หญิงในชุมนุมโจรตลอดไป
พวกทหารเหล่านั้นคงยังไปได้ไม่ไกล เธอต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อให้หลุดพ้นจากการเป็นเชลยของจอมโจรหนุ่ม
เมริสาค่อยๆถอยเท้าก้าวถอยหลัง เมื่อมาฬิสกำลังสนใจอยู่แต่กับการเก็บข้าวของและทำลายหลักฐานว่ามีคนมาพักอยู่ในถ้ำแห่งนี้ เพราะมันอาจจะเป็นร่องรอยให้ทหารพวกนั้นตามหาเขาและเธอเจอในไม่ช้าไม่นาน
เมริสาก้าวถอยหลังห่างจากมาฬิสมาไกลจนแน่ใจว่าเขาไม่มีทางตามทันแน่ เธอรีบผินหลัง เท้าเล็กๆพาหล่อนวิ่งออกไปยังปากถ้ำ
มาฬิสเหลียวขวับเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนวิ่ง และก็ต้องตกใจเมื่อเมริสาไม่อยู่ตรงนี้อีกแล้ว เธอหนี...เธอคิดจะหนีจากเขาทุกเวลาทุกนาที...เธอไม่ปรารถนาอยู่กับโจรอย่างเขา
เธอชอบที่จะให้ฉันปฏิบัติกับเธออย่างเชลยนักใช่มั้ยนางเจ้าเล่ห์ เสียงคำรามจากริมฝีปากหยักที่ปกคลุมไปด้วยหนวดเครารกๆรุงรัง ดวงตาสีน้ำตาลทองทอประกายกร้าวโกรธ
ก่อนจะย่างเท้าช้าๆตามติดไปอย่างไม่เร่งรีบ
ช่วยด้วย ช่วยด้วย เสียงร้องร่ำขอความช่วยเหลือจากร่างบางที่วิ่งกระเซอะกระเซิงออกมาจากปากถ้ำดังก้องสะท้อนให้ทหารลาดตะเวนที่ยังไปไม่พ้นแนวโอเอซิสที่กำลังพากันกระโดดขึ้นรถSUVพากันชะงักงัน
ได้ยินมั้ยเสียงอะไร? ยะกอดีห์หัวหน้าหน่วยลาดตะเวนที่ผู้พันซูดีนเพิ่งแต่งตั้งขึ้นมาถาม
ผู้หญิงไงไอ้บ้า ร้องขอความช่วยเหลือเสียด้วย มะเซ็งตอบเพื่อนที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นเป็นหัวหน้าอย่างไร้ความเคารพ
แกคิดว่าเสียงนั้นเป็นคนหรือ? ทหารชั้นสมุนอีกคนถาม
ไอ้บ้า มาพูดเรื่องนี้อะไรตอนนี้เล่า มะเซ็งตะคอกถามนึกกลัวขึ้นมาเช่นกัน
เข้าไปดูกัน ยะกอห์ดีออกคำสั่ง
ใครจะไปก็ไป ข้าจะรอที่รถนี่ คนขี้เกียจกระโดดผลุงขึ้นรถโบกมือ
ไอ้มะเซ็ง แกจะกินแรงคนอื่นไปถึงไหน ข้าจะฟ้องท่านซูดีนว่าแกมัน
พอๆอย่าทะเลาะกัน ไปกันหมดนี่แหละ จะคนจะผีมันจะสู้พวกเราสี่คนได้ก็ให้รู้ไป ยะกอดีห์ห้ามปรามขึ้นมา ก่อนจะกระโดดลงจากรถ กลับเข้าไปยังทางที่แวะเดินผ่านมาลาดตะเวนเท่านั้น
แล้วพวกเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกพร้อมๆกันเมื่อเห็นร่างรุ่มร่ามกระเซอะกระเซิงวิ่งเข้ามาหา กลุ่มทหารทั้งสี่หวาดผวากระโดดกอดกันแน่น
คนจริงๆด้วย ช่วยฉันด้วย น้ำเสียงที่ยังแหบพร่าเพราะพิษไข้ร้องขอ
แสงจันทร์ส่องสว่างชัดเด่นกลางฟ้านภากว้าง เมื่อเพ่งชัดๆจนแน่ใจว่าทุกคนไม่ได้ตาฝาด คนที่วิ่งมาขอความช่วยเหลือจากพวกเขาคือมนุษย์แน่ๆ
เจ้าเป็นใคร มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ยะกอห์ดีถามอย่างโล่งใจเมื่อเห็นว่าตรงหน้าเป็นคนจริงๆ
ฉันเป็นน้องสาวของพระชายา ฉันถูกโจรจับตัวมาไว้ในถ้ำ
หล่อนเล่าเรื่องตรงกับที่พวกเขาได้รับคำสั่งมาก่อนหน้านี้ ทั้งสี่ทหารลอบสบตากันเชิงปรึกษา พิศมองดวงหน้าขาวใสหาก ว่าทรุดโทรมกว่าในรูปของคนที่ได้รับคำสั่งให้ตามหา จะว่าไปก็ไม่ทิ้งเค้าโครงนัก พวกเขามองเห็นเงินก้อนโตกำลังบินพรึบพรับอยู่ตรงหน้า ทั้งท่านซูดีนและชีคมันซอร์ย่อมจ่ายไม่อั้นกับผลงานชิ้นเยี่ยมของพวกเขา
เรื่องจริงหรือ? เพราะคำพูดเช่นนี้ใครก็สามารถแอบอ้างได้ เขาจึงอยากให้หล่อนยืนยัน
จริงสิ ฉันจะโกหกพวกท่านทำไม หากพาฉันไปส่งถึงชิริอาห์ พวกท่านก็จะรู้ว่ามันเป็นความจริง เมริสายืนยัน เหลียวหน้าพะวักพะวงอย่างกลัวเกรงว่ามาฬิสจะตามหล่อนมา และเขาอาจจะทำอะไรบ้าๆได้อีก แต่ทหารทั้งสี่ตรงหน้า ยังไงก็มากกว่าโจรคนเดียว ถึงจะบ้าระห่ำแค่ไหน เขาก็ฉลาดพอที่จะไม่สู้ทหารสี่คนที่มีอาวุธทันสมัยมากกว่าดาบโค้งพระจันทร์เสี้ยวเพียงเล่มเดียวแน่ๆ
ใครจับเจ้ามา?
โจร เว้นคำตอบพาดพิงถึงกิซาร์ ด้วยเกรงว่าพวกเขาจะลำบาก
ทั้งๆที่ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน เธอทำไมต้องห่วงใยไปถึงคนพวกนั้น ทั้งๆที่หัวหน้าของพวกเขาจับเธอไปกักขังไว้
มันอยู่ไหน? น้ำเสียงกระด้างของคนที่ดูจะเป็นหัวหน้าถาม
เอ่อ เมริสาอึกอักไม่กล้าตอบ เธอไม่อยากให้มาฬิสต้องเดือดร้อน ไม่คิดจะเอาโทษทัณฑ์เขา และแท้จริงแล้วหล่อนไม่อยากจากเขามาอย่างนี้เลย นายโจรนั่นคงหัวเสียไม่น้อยที่หล่อนทำเช่นนี้ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเขาไม่ได้บอกว่าจะพาเธอไปส่งคืนให้กับครอบครัวเมื่อไหร่ เธอจึงไม่อาจจะไว้ใจเขาต่อไปได้ ถึงสองวันผ่านมานี่เขาจะดูแลเธออย่างดีเพียงใดก็ตาม แต่ว่าคนอารมณ์แปรปรวนอย่างเขา จะเอาแน่เอานอนอะไรให้เธอมั่นใจได้ว่าซักวันหนึ่งเขาไม่ลงมือฆ่าเธอขึ้นมาจริงๆ
ช่างมันเถอะ ป่านนี่เขาคงหนีไปแล้ว เมริสาตัดบท ไม่อยากให้ทหารทั้งสี่นายใส่ใจมาฬิสอีก ถึงเขาจะจับเธอมาทรมาน แต่เธอก็ไม่คิดใช้วิธีการเดียวกันนี้แก้แค้นเขา....เพราะเธอไม่ใช่โจร
หากปล่อยมันไปแล้วอาญาแผ่นดินจะมีไว้ทำไมกัน
ฉันคิดว่าเขาหนีไปแล้ว
อย่างน้อยข้าก็ต้องรายงานต่อหัวหน้าว่าเจอเจ้าที่ไหน และอย่างไร?
เมริสากลืนน้ำลายอย่างแสนฝืด ขืนยืดเยื้ออยู่ตรงนี้นาน เธอไม่คิดว่ามันจะปลอดภัย
พาพวกเราไปถ้ำที่เจ้าว่า คำสั่งเสียงเฉียบของตัวหัวหน้าทำให้เมริสาอึกอัก
แต่ว่า....
หรือว่าเจ้าโกหกแต่งเรื่องขึ้น
ฉันเปล่านะ นายไม่เคยเห็นหน้าฉันหรือไง ประกาศติดตามของทางการต้องมีรูปของฉันอยู่แล้ว เมริสาร่ำเรียก หากยะกอห์ดีส่ายหน้าสถานเดียว
เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ถูกหลอก ต้องตรวจสอบให้แน่ใจ พาพวกเราไปที่ถ้ำ น้ำเสียงเข้มงวดยืนยันความต้องการเดิมจนเมริสานึกหงุดหงิดใจ ระงับอารมณ์โมโหพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างพยายามจะเข้าใจว่าคนตรงหน้าเป็นทหารและเขาต้องทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด แต่ไฉนเลยหนอถึงปล่อยให้เธอโดนลักพาตัวมากว่าสัปดาห์ได้
ดวงหน้าเล็กๆสะบัดพรืด จำต้องก้าวเท้าพาเขากลับไปยังถ้ำที่เธอวิ่งหนีมา
เมริสานึกภาวนาขอให้มาฬิสหนีไปแล้วจริงๆอย่างที่เธอกล่าวอ้าง หากเขายังรออยู่ที่นั่น...ลำคอระหงแห้งผาก นึกห่วงใยขึ้นมา...ทหารเหล่านี้จะจัดการเช่นไรกับเขากัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หาเรื่องจริงๆเลยอ่ะ แถมงี่เง่าด้วยอ่ะ ทำไมไม่คิดในด้านลบมั่ง น้า....