ตอนที่ 2 : จอมป่วน
2.จอมป่วน
นี่จะพาฉันไปไหนอีกล่ะ? คำถามอย่างสงสัย เมื่อนางกำนัลนามว่า ปาตี พาเธอขึ้นบันไดเลี้ยวไปยังทางปีกซ้ายของพระราชวังมุซทามัส
ห้องของพระชายาเพคะ ทรงรับสั่งว่าให้คุณพักอยู่ที่นั่น ปาตีบอกย้ำ หลังพิธีอภิเษกที่นั่นแทบถูกปิดตาย
ปีกซ้ายนี่ไม่อนุญาตให้ผู้ชายเข้าไปใช่มั้ย? สอบถามขึ้นมาด้วยว่าเวลานับเป็นปีอะไรก็เปลี่ยนแปลงได้
ปาตียิ้มอย่างใจเย็น หลังการอภิเษกสมรส กฎนั้นถูกยกเลิกแล้วเพคะ แต่ท่านมิลลาเพิ่งมาสั่งเมื่อครู่นี้ว่า ช่วงที่คุณอยู่ ห้ามมีผู้ชายคนไหนย่างกรายเข้ามาทางบริเวณนี้ เมริสาเลิกคิ้วสูง ผู้ชายคนนั้นจริงจังและเข้มงวดในหน้าที่อย่างเหลือเกิน สมกับได้รับความไว้วางใจมา แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องทำหน้าเรียบนิ่งอย่างนั้นตลอดเวลาเลยนี่นา
แล้วถ้าเกิดมีผู้ชายคนไหนบุกเข้ามา
ท่านมิลลาสั่งว่าให้ยิงได้ทันที ปาตีกล่าวอย่างสยองน้อยๆในความเด็ดขาดขององครักษ์หนุ่ม บนพระตำหนักมุซทามัสทางปีกซ้ายจึงมีแต่ทหารหญิงหน้าตาเคร่งขรึมทั้งนั้น
คำตอบทำให้เมริสาเผยอปากค้างน้อยๆอย่างนึกหวาดเสียว ก่อนจะคิดอะไรสนุกๆขึ้นมา
หลังจากสั่งให้ปาตีกลับไปพักผ่อนแล้ว เธอเดินไปแง้มประตูห้องบรรทมของพระชายาที่มาพัก ก็เห็นองครักษ์หน้านิ่งกำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อย รอยยิ้มอย่างวายร้ายผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้า ดวงตาแสนซนวับวาวขึ้นมาในทัน
ตุ๊บ...เคร้ง....กรี๊ด.....
ทั้งสามเสียงดังขึ้นไล่ๆกัน และในเวลาแค่ไม่กี่อึดใจ องครักษ์หน้านิ่งผู้นั้นก็พรวดพราดใช้เท้ายันประตูโครมเข้ามายืนหน้าตื่นอยู่ตรงหน้าเธอในมือถือปืนพกแบบทหารที่ผ่านการฝึกมาเป็นอันดี สีหน้าขึงขังลูกตากลอกไปมามองไปรอบกายอย่างสำรวจตรวจตราและระแวดระวังอยู่ในที เธอกลั้นเสียงคิกเอาไว้แทบไม่ทัน เกิดอะไรขึ้น?
คนกลั้นขำจนท้องคัดท้องแข็งเกือบจะหลุดเสียงหัวเราะออกมาแล้ว
ฉันบังเอิญเดินสะดุดแจกันนี่น่ะค่ะ? คำตอบเจือแววขบขันและรอยกลั้นยิ้มที่มุมปากปลายนิ้วเรียวชี้ไปที่แจกันทองเหลืองใบเขื่องทำให้หัวคิ้วเข้มกดต่ำลง ดวงตาดุดันกราดมองพื้น เห็นแจกันที่กลิ้งอยู่แทบเท้าขาวนวล ประเมินสถานการณ์แล้ว แจกันนี่คงไม่ล้มคว่ำลงมาง่ายๆหากไม่มีคนตั้งใจจะทำให้มันหล่น และการเดินสะดุดของร่างแบบบางนั้น ก็คงไม่น่าทำให้โต๊ะหินที่ตั้งแจกันไหวสั่นได้โดยง่ายถึงขนาดแจกันน้ำหนักมากขนาดนั้นต้องล่วงหล่นลงมา
ทำหน้าที่ของคุณได้ดีนี่คะ...คุณมิลลา สมกับเป็นราชองครักษ์คนสนิท มือเรียวยกขึ้นปรบอย่างชอบใจ ดวงตาพราวไปด้วยแววซุกซนบนใบหน้ากลั้นยิ้ม ทำให้เขารู้ว่าถูกลองดีเข้าแล้ว
แต่ปาตีบอกว่าคุณสั่งไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้ามาที่นี่มิใช่รึ?
ผมมีหน้าที่ดูแลคุณ และตรวจตราความเรียบร้อยโดยรอบที่ประทับ งานของผมมีมาก ไม่มีเวลามาเล่นสนุกไร้สาระ น้ำเสียงดุดันนั่นเปล่งเสียงดังหนักแน่น สันกรามนูนที่ปรากฏชัดเจนทำให้เมริสารู้ว่าเขากำลังสะกดความโมโหอยู่
คุณเองก็ไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้ว เป็นถึงนักเรียนแพทย์ น่าจะมีวุฒิภาวะพอที่จะเข้าใจและเคารพในหน้าที่ของตัวเองและคนอื่นๆ เสียงดุดันพร้อมดวงตาจ้องมองเขม็งตำหนิติเตียนชัดเจน ทำให้เมริสารู้สึกตัวลีบลงราวกับอานุภาพเหี้ยมๆจากดวงตาคู่นั้นของเขาแผดเผามายังตัวเธอ
กรุณาเรียกผม หากมีเหตุจำเป็นจริงๆ เขากล่าวหนักแน่น ตบรองเท้าคอมแบตเสียงดังจนเมริสาสะดุ้งโหยง ก่อนจะถอยออกไปจากห้องนั้นอย่างเลิกใส่ใจ คนที่ยืนตัวแข็งขึ้งค้างราวกับเด็กดื้อที่โดนดุจนหน้าซีดจ๋อยค่อยขยับตัว
ชิ ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย เชิญกลับไปทำหน้าที่ของคุณเถอะนะ ต่อให้มีคนมาลักพาตัวฉันก็ไม่ขอความช่วยเหลือจากคุณหรอกน่า เพิ่งอ้าปากออก หลังจากโดนสั่งสอนพร้อมตำหนิเสียยกใหญ่
เมริสาทิ้งตัวกระแทกลงบนเตียงอย่างขุ่นเคืองไม่หาย ต้องระงับอารมณ์ขุ่นมัวอยู่นาน แล้วนึกประหลาดใจนักว่า ทำไมเธอถึงได้ทำกริยาอย่างนั้นกับเขาด้วยก็ไม่รู้
หรือว่าเพราะอากาศร้อนของเชดัสย่าห์ เธอเลยเพี้ยนๆไป ถ้าเช่นนั้นแล้วไปอาบน้ำดีกว่า อารมณ์เย็นขึ้น สบายเนื้อสบายตัว ความขุ่นเคืองลดลง แล้วเธอจะได้นอนหลับสบาย ในเมื่อนักศึกษาแพทย์อย่างเธอรู้ดีว่าความเครียดไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด
จำได้ว่าเธอต้องปฏิเสธปาตีแข็งขัน ไม่ต้องการนางกำนัลคนไหนมารับใช้ใกล้ชิดทั้งนั้น
ไอ้ที่ต้องมาคอยถอดเสื้อผ้าอาบน้ำขัดตัวให้ราวกับเด็กห้าหกขวบ เมริสาส่ายหน้าดิกปฏิเสธสถานเดียว
จะว่าอายหรือขัดเขินก็ได้ ในบ้านเมืองที่สตรีปิดหน้าปิดตาเสียมิดชิด แต่ต้องให้มีคนมาคอยบริการอาบน้ำขัดถูเนื้อตัวให้ มันขัดๆกันพิกล อยู่ต่างประเทศเมริสาเคยใส่ชุดว่ายน้ำทูพีชที่ชายหาด หรือถ้าไปกับกลุ่มเพื่อนที่เฮ้วๆหน่อยก็เหลือแค่บิกินี่แต่ไม่เคยใจกล้าขนาดจะไปเดินที่
จึงแน่นอนว่าเธอสงวนความงามหมดจดภายในไว้ให้ใครซักคนที่จะเปิดเผยความลับของเรือนกายต่อกันและกัน ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ที่มาคอยบริการด้วยเป็นหน้าที่
กางแขนบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยขบ ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกายทีละชิ้นจนเหลือแต่เพียงอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วที่น่าเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงเชดัสย่าห์คนไหนกล้าใส่เป็นแน่ รวบผมสีน้ำตาลไหม้หยักสลวยเป็นเงายาวสยายถึงกลางหลังขมวดไว้ที่กลางศีรษะ
อากาศร้อนเช่นนี้ น่าสงสารสตรีอาหรับนักที่ต้องมานุ่งห่มเสื้อผ้ามิดชิดปิดเหลือแต่ลูกตา พอถอดเสื้อผ้าก็ให้รู้สึกเย็นโล่งขึ้นมา เดินไปหยิบเสื้อคลุมเนื้อบางเบาที่ปาตีวางเตรียมไว้ที่เตียงขึ้นมาสวมใส่ แล้วเดินไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์มือถือเพื่อจะโทร.บอกเพื่อนที่เมืองไทยว่าเธอเดินทางมาถึงเชดัสย่าห์โดยปลอดภัยแล้ว
การสนทนาประสาสาวๆก็ไม่พ้นเรื่องราวของหนุ่มๆ พอมะปรางถามถึงหนุ่มเชดัสย่าห์ อยากจะบรรยายพระพักตร์พระเชษฐภรรดารูปงามให้เพื่อนฟังเพื่อหลอกล่อให้มาเที่ยวเชดัสย่าห์ดูบ้าง หลังจากมะปรางพาไปพิสูจน์หนุ่มไทยว่าหล่อเร้าใจไม่แพ้หนุ่มตะวันตกมาแล้ว แต่ไฉนในหัวกลับไพล่คิดออกแต่ใบหน้านิ่งๆขององครักษ์มิลลาให้หงุดหงิด
เมริสาสะบัดศีรษะไล่ใบหน้าขรึมนั่นออกไปให้พ้น จบบทสนทนาล่ำลากันแล้วผินหลังจะเดินกลับไปอาบน้ำ
วืด.......เคร้ง.......ว้าย......โคร้ม........
เสียงที่ดังไล่เลี่ยในวินาทีถัดๆกัน มิทันที่เจ้าตัวจะได้ลำดับเรื่องราวก็มีอันให้นอนแอ้งแม้งหัวฟาดฟื้นนอนนับดาวนับเดือนที่สว่างพร่างอยู่กลางเพดานที่แขวนไฟแชนเดอเลียร์ดวงสวยไว้ประดับ
อู้ย....... เสียงครวญครางยาวอย่างเจ็บที่ท้ายทอย คงล้มฟาดลงไปอย่างแรงกระมัง
ตากลมใสหลับปี๋นอนค้างขยับไม่ได้ครวญครางเบาๆอยู่นานเท่าความเจ็บและมึนงง พอลืมตาขึ้นมา ดวงหน้านิ่งสนิทก็ยื่นมาแทนที่อย่างฉงนสงสัย
กรี๊ด..... เสียงเมริสากรีดร้องขึ้นมาอีกหนเมื่อเห็นคนตรงหน้า ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นมา หัวโหม่งเข้ากับหน้าผากของเขาอย่างจัง ฝ่ายนั้นหงายหลังกลางอากาศลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าที่พื้นในขณะที่หัวเธอปวดตุบๆหงายลงมาอยู่ท่าเดิม
มิลลานั่งกุมหน้ากัดกรามครวญเบาๆด้วยความเจ็บที่โดนทำร้ายไม่ทันได้ตั้งตัว
คุณเข้ามาได้ยังไงกัน? น้ำเสียงถามอย่างตำหนิ มิคิดว่าที่เพิ่งประทุษร้ายเขาไปหมาดๆเป็นความผิดของตัวเองแม้แต่นิดเดียว
องครักษ์หนุ่มลุกพรวดพราดขึ้นยืนตัวตรง ผมได้ยินเสียงคุณร้อง พอดีปาตีลงไปเตรียมการเรื่องอาหารในห้องเครื่องสำหรับวันพรุ่งนี้ให้คุณ เสียงจุ๊ปากบอกถึงความเจ็บปวดมือใหญ่นวดหน้าเบาๆคลายอาการ
ดวงตาของเมริสากลอกไปมอง เห็นต้นเหตุที่ทำให้เธอนอนหงายหลังไม่เป็นท่า แจกันทองเหลืองที่เธอทุ่มลงพื้นเมื่อครั้งแรกนั่นเองทำให้ต้องมาอยู่ในสภาพอย่างนี้ ไม่น่าไปโกหกมิลลาว่าเดินสะดุดมันเลยเลย เธอเลยได้สะดุดแจกันนี่ล้มหัวฟาดไม่เป็นท่าขึ้นมาจริงๆ
คุณพรวดพราดเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไงกัน เปลี่ยนความผิดของตัวเองเป็นตำหนิเขาแทน
มิลลาจ้องมองด้วยดวงตาอย่างหนึ่ง กึ่งรำคาญใจกึ่งขุ่นเคือง
ผมมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย ถ้าคุณไม่ร้อง ผมก็คงไม่เข้ามาหรอก
เสียงถอนใจฟืดฟาดดังๆอย่างพยายามระงับอารมณ์โกรธขุ่นเคืองอยู่ กล่าวราวกับมันเป็นความผิดของเธอ ก็คนมันตกใจนี่นา ใครจะไปคิดว่ามันจะสร้างความรำคาญใจให้กับเขา...ใครง้อให้มาดูแลกันเล่า
ขอตัวก่อนนะครับ เขาบอกแล้วทำท่าจะผินหลังหนี มีน้ำใจบ้างไหมนั่น
เดี๋ยวสิ เสียงเขียวเรียกไว้ทำให้มิลลาชะงัก หากไม่ยอมหันกลับมา ด้วยประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า หญิงสาวอยู่ในชุดหมิ่นเหม่ปานใด และในห้องรโหฐานนี่ก็ปราศจากบุคคลอื่นใดนอกจากเขาและเธอ พาลพาให้คนหนุ่มที่มีเลือดเนื้อชีวิตความรู้สึกตามแรงขับของฮอร์โมนธรรมชาติเกิดอาการกลืนน้ำลายไม่คล่องคอหายใจติดๆขัดๆขึ้นมา
ช่วยเอาแจกันนี่ออกไปโยนทิ้งที่ไหนก็ได้
องครักษ์หนุ่มถอนใจเบาๆกับคำสั่ง หันกลับมายกแจกันทองเหลืองใบเขื่องวางไว้ที่แท่นหินของมันตามเดิม ทำท่าจะเดินออกไป แต่คนขยับตัวร้องครวญเบาๆ โอ๊ะ....โอ้ย.....เจ็บ.......................
เขาอดไม่ได้ที่จะหันหน้ามามองอีกครั้ง สีหน้าไม่ไว้วางใจ ผู้หญิงคนนี้เล่ห์เหลี่ยมมากมายนัก แม่สาวหัวนอก
ทำไมไม่ลุกละครับ ถามเบาๆ ดวงตากลมวาวขุ่นเคืองขึ้นมา
ถ้าลุกได้ฉันก็ลุกไปแล้วสิ แทนที่จะมีน้ำใจมาช่วยกันหน่อยเป็นไม่มี หงายหลังกระแทกไปอย่างนี้อะไรจะหักบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ ขืนลุกสุ่มสี่สุ่มห้าจะได้พิการปะไร น้ำเสียงเขียวท้ายเสียงตวัดว่า
มิลลาเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ พิจารณาคนที่ครางโอดโอยเบาๆ นึกในใจปาตีทำไมหายไปนานนัก มิเช่นนั้นตรงหน้านี่ก็ไม่ใช่หน้าที่เขาต้องมาใส่ใจคนเจ้าอารมณ์ จะให้ผมทำยังไง?
พยุงฉันลุกหน่อยสิ เจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว น้ำเสียงขอร้องสะบัดหางเสียงนั่น ทำให้องครักษ์หนุ่มเอื้อมมือจะช่วยพยุง แต่ก็ชะงักเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
เมริสามองตามฝ่ามือใหญ่ที่ชะงักงันนั่น ดวงหน้านิ่งมีแววครุ่นคิด
ทำไม? อ้อ! คุณบอกฉันแล้วนี่นาว่าชายหญิงที่ไม่ใช่ญาติ ไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เธอยังอุตส่าห์จำเรื่องที่เขาตำหนิเมื่อกว่าปีโน้นขึ้นมาได้
เลยทำให้ผู้ชายเชดัสย่าห์กลายเป็นคนแล้งน้ำใจเสียอย่างนี้ เสียงบ่นพึมๆรำคาญหู องครักษ์หนุ่มไม่รอช้า สอดมือใหญ่เข้าไปช้อนร่างเจ้าหล่อนขึ้นมาตัวลอยจนคนถูกอุ้มหน้าเหวอ รีบเหนี่ยวคอเขาไว้อย่างรวดเร็ว
วงแขนแกร่งที่ตวัดร่างบางแนบอกที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม เมริสาได้ยินเสียงหัวใจตึกตักขององครักษ์หนุ่มอย่างชัดเจน ปฏิกิริยาที่ร้องประท้วงว่า นี่ไม่ใช่สภาวะปกติสำหรับเขา และก็ไม่ปกติสำหรับหล่อนเช่นกัน ระยะทางสั้นๆแค่ไม่กี่เมตรที่มิลลาอุ้มพาเธอไป ก่อนจะค่อยๆวางร่างลงบนเตียงนอนอย่างแผ่วเบาทะนุถนอม แล้วรีบผละออกในทันที สีหน้าเข้มที่ผิดปกติไปจากเดิม แม้วงหน้ายังนิ่งขึงทำให้แม่สาวน้อยอดลอบยิ้มในใจอย่างขบขันปนเอ็นดูท่าทีหลังสัมผัสกับสตรีเพศของเขาไม่ได้
ผมจะไปบอกหมอที่ห้องยาหลวงมาดูอาการคุณ น้ำเสียงราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากคนมองจ้องตาแป๋วใสสุกสกาวดังดวงดาวอ่านออกว่า เขาไม่กล้าสู้หน้าเธอเพราะเขินอายด้วยใบหน้าซับสีเข้มขึ้นชัดเจน
เมริสามองหน้าเขาเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน อุ้มฉันนี่ไม่ผิดหรือไง ประเทศไทยเขาถือว่าผิดผีนะ ที่เชดัสย่าห์นี่เล่า คุณอุ้มผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นญาติไม่ผิดหรือ? ถามอย่างสงสัย
มิลลากระตุกมุมปากเล็กน้อย หากคุณยังไม่ได้แต่งงานมีสามีละก็คงไม่ผิด ผมไม่ได้ไปทำซีนา*ใครนี่นา
กล่าวเพียงเท่านั้นเขาก็ออกไป ครู่ใหญ่ปาตี นางกำนัลสองคน และหมอจากห้องยาหลวงก็เข้ามาปฐมพยาบาลเธอ สรุปว่าเมริสาแค่ฟกช้ำดำเขียวนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ถึงกับกระดูกหักหรือเดี้ยงไปอย่างที่เจ้าตัวกังวลใจ
ซีนา หมายถึงอะไรหรือคะ? ถามกับปาตีอย่างสงสัย
นางกำนัลที่มารับใช้เลิกคิ้วสูง ซีนา ก็คือการละเมิดประเวณี ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะยินยอมพร้อมใจหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดบาปรุนแรงมากทางศาสนาสำหรับคนเชื่อในอัลเลาะห์
คำตอบของปาตีทำให้เมริสากระจ่างใจถึงคำพูดองครักษ์หนุ่ม
แน่ใจหรือคะว่าคุณจะอาบน้ำเอง? นางกำนัลหัวหน้าตำหนักมุซทามัสถามออกมาเมื่อเห็นดวงตาที่ล่องลอยเหมือนครุ่นคิดหนักไม่เต็มสติดีของพระขนิษฐาแห่งองค์ราชินี
ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก เดี๋ยวฉันจัดการตัวเอง
หากมีอะไรจะเรียกใช้ฉันก็สั่นกระดิ่งนั่นได้นะคะ ฉันกับนางกำนัลคนอื่นๆอยู่ห้องข้างๆนี่เอง ปาตีชี้ไปที่กระดิ่งที่เหนือหัวเตียง
แล้วมิลลาล่ะ?
ปาตีเลิกคิ้วสูง ก่อนจะแย้มยิ้มตอบ ท่านมิลลาก็อยู่รอบๆพระตำหนักนี่แหละคะ
เขาไม่ได้นอนทั้งคืนหรือคะ?
ก็คงพักผ่อนบ้าง มีนายทหารหัวหน้าเวรยามคนอื่นๆอีกที่สับเปลี่ยนกับท่านมิลลา แต่โดยหน้าที่หลักการถวายอารักขาองค์เอเมียร์และพระชายา รวมทั้งในพระราชวังมุซทามัสนี้ก็คือท่านดาบินกับท่านมิลลา ปาตียิ้มตอบคำถาม ก่อนจะถอยออกจากห้องไป เมื่อเมริสาพยักหน้าอนุญาต
อีกชั่วโมงต่อมาเมริสาพาตัวเองมาจ่อมลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่แบบจากุชชี่น้ำวนที่เต็มไปด้วยกลีบดอกไม้ และกลิ่นน้ำมันหอมช่วยผ่อนคลาย พรายฟองน้ำช่วยนวดกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น เธอรู้สึกสบายตัวพริ้มดวงตาหลับลง หากในหัวใจเวียนวนอยู่กับภาพขององครักษ์หนุ่มหน้านิ่ง เจ้าตัวตระหนกนักว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหนกัน รักแรกพบงั้นหรือ? ไม่หรอกน่า....เธอเคยพบเขามาก่อนหน้านี้แล้วนี่นา....
แต่ว่าจะเป็นอื่นใดไปได้อีกเล่า ถึงได้จำตรึงแต่หน้านิ่งๆไร้อารมณ์ของเขา....เมริสาคิดก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธความรู้สึกวูบไหวในหัวใจเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมา บอกตัวเองว่าไม่ชอบหน้า...ไม่ชอบ หากก็เอาแต่คิดถึงเขา
สำหรับเด็กสาววัยสิบแปดย่างสิบเก้าปี กำลังขึ้นชั้นแพทย์ปีสอง เธอยังหนีไม่พ้นคำกับความรู้สึกอย่างนั้นอีกหรือไง? กับผู้ชายหน้าตายที่ทำเหมือนว่ารำคาญเธอตลอดเวลานี่นะ จะบ้าตาย เธอต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆเมริสา
พยายามปรามความคิดฟุ้งซ่านในตัวเอง หากเมื่อมือบางทาบแตะลงไปบนหน้าอกเบื้องซ้ายกลับให้ความรู้สึกว่ามันสะท้านไหวเต้นแรงกว่าปกติ เมื่อนึกเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนที่เขาอุ้มเธอ
และแทบจะเคลิ้มหลับอยู่ในอ่างอาบน้ำนั้นเสียแล้ว เมื่อตัวเลื่อนไถลเกือบจมไปในอ่างนั่นแหละถึงได้สติขึ้นมา
ซีนา = การละเมิดประเวณี แม้เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางปานใด แต่ในห้วงความคิดกลับว้าวุ่นใจไม่มีสิ้นสุดจากสัมผัสแผ่วเบาหากปกป้องทะนุถนอมจากคนที่อุ้มพาเธอมาวางไว้บนเตียงนี่ ความรู้สึกตอนที่สัมผัสได้ถึงหัวใจเต้นแรงถี่ผ่านหน้าอกหนาหนัดด้วยมัดกล้ามของคนหน้านิ่งคนนั้น เหมือนจะรำคาญ หากเขาก็เป็นคนแรกที่เข้ามาถึงตัวเธอก่อนใครสองครั้งสองคราที่ร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งหมดนั่นกลับทำให้เกิดความรู้สึกวาบหวิววูบไหวไม่รู้จบในค่ำคืนนั้น....
ฮอร์โมน มันต้องเป็นเพราะฮอร์โมนที่สวิงเพราะอาการเจ็ทแล็ก*แน่แท้เชียว แต่ระยะทางแค่เมืองไทยมาเชดัสย่าห์จะมาว่าเหตุผลแค่นั้นก็คงไม่ใช่ ไม่ได้บินไกลข้ามเส้นแบ่งเวลาเสียหน่อยนี่นา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ว้าวสนุกมากเลย