ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #40 : ผู้หญิง กับ ความอ้วน ( 3 )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.23K
      2
      2 พ.ค. 48





                                               หมายเหตุ เขียนวันที่ 2 พ.ค. 48            หนัก 79.5 กิโลกรัม





                                              ก่อนอื่นขอพูดหน่อยว่า ไม่นึกเลยจริงๆว่าวันนี้จะลดได้อีกครึ่งโล เพราะเมื่อวานผมก็ไม่ได้ทำอะไรมาก ให้มันได้หยั่งงี้สิครับ ทีเราทั้งคุมการกินและออกกำลังกายอย่างหนัก น้ำหนักกลับคงที่ ทีเราปล่อยตัวตามสบาย คุมเรื่องกินบ้าง ออกกำลังกายแต่พอเหมาะ แล้วก็ไม่เครียดกับมัน น้ำหนักก็เริ่มลด อืม...ถ้าไม่ได้ลดหลายกิโลฯในเวลาที่นานขนาดนี้ก็คงไม่เจอประสบการณ์แบบนี้หรอกครับ



                                              จริงๆวันนี้ว่าจะเล่าเรื่องดีๆบ้าง แต่คงต้องเอาไว้ตอนหน้า เพราะมีเรื่องหนึ่งที่อยู่ในใจของผมมานาน แต่ยังไม่มีโอกาสเล่าให้ใครฟังเลย ก็เลยขอมาเล่าให้ฟังในที่นี้เลยก็แล้วกัน เรื่องมีอยู่ว่าสมัยผมเรียนปริญญาตรี มีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเรียนอยู่คนละแผนก แต่ก็ได้ทักทายกันบ้าง เธอเป็นคนที่อ้วนครับ ผมไม่เคยถามว่าเธอหนักกี่กิโลฯ เพราะรู้มาว่าเรื่องแบบนี้เขาห้ามถามกัน โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว เขาห้ามถามเรื่องอายุกับน้ำหนัก แต่มองดูจากรูปร่างต้องบอกว่าอ้วนพอสมควรทีเดียว แต่เธอก็เป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์ดีนะครับ ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมคนอ้วนส่วนใหญ่อารมณ์ดี แต่พอมาประมาณปี 3 ดูท่าจะมีหนุ่มๆพวกกลุ่มคะนองหน่อยชอบมาล้อเธอเรื่องอ้วน จริงๆเรื่องแบบนี้มันก็มีอยู่ทั่วไปครับ ผมยังเคยโดนเลย แต่ความรู้สึกของผู้ชายกับผู้หญิงคงต่างกัน ผมเองไม่ค่อยคิดอะไรมากหรอกครับ เพราะผมคิดว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ถ้านิสัยดีแล้วจะผอมหรืออ้วนก็น่ารักครับ การที่ผมมาลดน้ำหนักในครั้งนี้ก็เป็นเรื่องของการห่วงสุขภาพของตัวเองล้วนๆ วันนี้เพื่อนในแผนกยังคุยกันเลยว่าสมัยผมอ้วนเป็น 100 ผมจะดูอืดๆแย่ๆยังไงก็ไม่รู้ ไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเหมือนกับสมัยนี้



                                              เพื่อนของผมคนนี้เวลามีใครมาล้อก็จะเล่นมุขตลกไปเรื่อยๆ แต่ถ้าสังเกตอะไรบางอย่างให้ดี ผมก็รู้ว่าเธอรู้สึกแย่มากๆ ที่มีคนมาล้อแบบนี้ และแล้วมันก็ผ่านไปครับ ผมก็ลืมเรื่องพวกนี้ไปเสียสนิท จนมาใกล้ถึงวันรับปริญญา ผู้หญิงสมัยนั้นหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้หญิงจะสวยมีอยู่ 2 วันคือวันรับปริญญากับวันแต่งงาน (จริงๆผมว่าก็สวยได้ทุกวันแหละครับ) ผมจำได้ว่าประมาณ 20 วันก่อนรับปริญญา เธอหายไปครับ ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่แปลก แต่เป็นเพื่อนคนนี้นี่แปลกมากเลยครับ เพราะเธอชอบมาที่มหาวิทยาลัยเกือบทุกวัน ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วล่ะ  แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น และแล้วมันก็มาถึงวันพระราชทานปริญญาบัตรครับ ขอบอกครับว่าตื่นเต้นแบบสุดๆ ผมไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนเลย นอนแทบไม่หลับ คือผมยังไม่เคยใส่ชุดราชปะแตนอะครับ และไม่เคยเห็นในหลวงในระยะใกล้มาก่อนเลย มีอาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกผมว่า การที่พระเจ้าแผ่นดินทรงพระราชทานปริญญาบัตรให้กับนิสิตนักศึกษานั้นก็จะมีที่ประเทศไทยที่เดียวในโลกครับ ถ้าจำไม่ผิดพิธีนี้น่าจะเริ่มในสมัยรัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์จักรี



                                              ผมยังจำตอนที่อยู่ปี 3 ได้เลย มีฝรั่งคนหนึ่งเขาจะเข้ามาชมหอประชุมกับตึกเทวาลัย แต่บังเอิญวันนั้นเป็นวันพระราชทานปริญญาบัตร รปภ เลยห้ามไม่ให้เข้าไป และแจ้งให้ทราบว่าวันนี้เขามีพิธีอะไรกัน อีกไม่นานขบวนเสด็จก็มาถึง ฝรั่งคนนั้นยืนอยู่ข้างๆผม พอในหลวงเสด็จ เขาก็ถามผมว่าคนที่มาเป็นใคร พอผมตอบไปว่าเป็นในหลวง ฝรั่งตกใจแทบช็อคครับ เพราะที่บ้านเมืองเขาไม่เคยมีพิธีลักษณะนี้มาก่อน มาพูดถึงวันรับปริญญากันต่อดีกว่าครับ วันนั้นผมยังจำได้ว่าผมมาตั้งแต่เช้ากับครอบครัว เช้าวันนั้นเป็นวันที่มหาวิทยาลัยดูสวยมากๆ พอใส่ชุดราชปะแตนและสวมเสื้อครุยทับ ผมก็รู้สึกดีมากๆ คนมากันเยอะตั้งแต่เช้าครับ พอผมมาที่คณะผมก็เห็นเพื่อนผู้หญิงคนนั้นหลังจากหายไป 20 วัน เธอผอมลงไปเยอะทีเดียว มีข่าวลือหนาหูว่าเธอใช้ยาลดน้ำหนักประมาณว่า 20 วันลดได้เกือบ 20 โล ทุกคนที่รู้จักเธอต่างจ้องมองเธอเป็นตาเดียว และเธอเองก็ดูจะพอใจกับปรากฏการณ์นั้นเป็นอย่างมาก แต่หารู้ไม่ว่าคนที่จ้องมองเธอเขารู้สึกกันไปต่างๆนานา ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะดีนัก เช่น



    \"ลดแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นลมหรอก\"

    \"เล่นแบบนี้เลยเหรอ\"

    \"ทำยังไงถึงลดได้ขนาดนี้นะ\"

    \"ถ้ากลับมาอ้วนอีกจะสมน้ำหน้าให้\"

    ฯลฯ



                                               ร้อยทั้งร้อยก็พูดแบบนี้ครับ ไม่มีใครสักคนที่จะพูดว่า \"สวยจังเลย...น่ารักจังเลย\"  อย่างจริงใจ แต่ถ้าเป็นพูดต่อหน้าว่าสวยนั้นมีแน่นอน แต่ลับหลังแล้วไม่มีเลยครับ ผมหันไปสังเกตสีหน้าของแม่เพื่อนแล้วเห็นว่าสีหน้าท่านไม่ค่อยดีนัก คงจะเป็นห่วงลูกว่าจะไหวรึเปล่า น่าเสียดายโอกาสดีๆอย่างนี้นะครับ วันรับปริญญาทั้งที แทนที่ผู้เป็นแม่จะยิ้มได้อย่างมีความสุขเต็มที่ๆลูกประสบความสำเร็จ แต่กลับต้องเป็นยิ้มแห้งๆที่แฝงความรู้สึกห่วงใยและวิตกกังวล  



                                               และแล้ววันนั้นก็ผ่านไป พร้อมกับมีกระแสข่าวแว่วมาว่าเพื่อนของผมคนนั้นเข้าโรงพยาบาลเพราะอ่อนเพลียมาก ก็คงเป็นอย่างนั้นเพราะวันนั้นเห็นเดินถ่ายรูปตลอดเลย ขนาดตอนเที่ยงๆก็ยังออกไปถ่ายรูป มีคนไปเยี่ยมไม่มากนัก เห็นเพื่อนอีกคนบอกว่า ก็มีแต่แม่เท่านั้นแหละครับที่นั่งเฝ้าไม่ห่างเลยและก็มานอนเฝ้าด้วย ไม่ว่าใครจะไปเยี่ยมเวลาไหนก็จะต้องเจอแม่ของเพื่อนคนนี้



                                               นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งล่ะครับที่อยากจะเล่าให้ฟัง เพราะไม่เคยเล่าให้ใครฟังมานานแล้ว หลายคนคงจะเดาออกนะครับว่าทำไมเพื่อนของผมจึงใช้วิธีเช่นนั้น แต่มันคุ้มหรือไม่ก็ต้องค่อยๆคิดครับ แล้วก็ต้องรู้ว่าใครกันที่รักเราอย่างแท้จริง แม่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าตอนที่คลอดผมออกมาแล้วยังไม่ได้เห็นหน้าผม แม่ก็ตื่นเต้นมากๆ อยากเห็นหน้าลูก แล้วก็ไม่ได้คาดหวังอะครับว่าลูกจะหน้าตาดีหรือไม่ดี แค่รู้ว่าลูกสุขภาพดีก็หายใจทั่วท้องแล้ว เพื่อนของผมตอนนี้ที่เขาเป็นพ่อลูกอ่อนอยู่ยังเคยมาบอกผมเลยครับว่า พอถึงวัยที่ควรจะน้ำหนักเท่านี้แล้วลูกหนักเพิ่มขึ้นจริงๆก็จะดีใจกันมากเพราะแสดงว่าลูกแข็งแรงดี เพราะฉะนั้นไม่ควรเสี่ยงนะครับกับการลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นโอกาสใดก็ตาม ควรคำนึงถึงสุขภาพไว้เป็นอันดับแรก และต้องอย่าให้คนที่เขารักเราโดยไม่ว่าเราจะรูปชั่วตัวดำหรืออ้วนเตี้ยยังไงก็ตามต้องมานั่งวิตกกังวลด้วยความเป็นห่วง หรืออยากเสี่ยงก็ไม่เป็นไรครับเพราะถ้าเกิดเหตุผิดพลาดอะไรขึ้นมา คนๆนั้นเขาก็จะไม่ยอมไปไหนจนกว่าจะแน่ในว่าเราสุขภาพดีแล้ว มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีนะครับที่ไม่ว่าเราจะทุกข์มากแค่ไหนก็ยังมีคนอยู่เคียงข้างเราเสมอถ้าท่านยังไม่ตาย รับประกันได้ครับว่าท่านจะไม่ไปไหนจริงๆ...



                                              ตอนหน้าพลาดไม่ได้ครับกับผู้หญิงอายุ 70 ปีที่หุ่นยังกับนางแบบสุขภาพดี...







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×