ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #26 : ความลับของการออกกำลังกาย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10K
      4
      12 เม.ย. 48







                              หมายเหตุ   เขียนวันที่ 12 เม.ย. 48            หนัก 83.7 กิโลกรัม





                             สวัสดีครับ เมื่อคืนนับว่าเป็นอีกวันที่การออกกำลังกายของผมนั้นสนุกมากๆครับ แต่มันก็ไม่แตกต่างจากที่เคยบอกไป เมื่อคืนเริ่มด้วยการซิพอัพก่อน พอทำครั้งที่ 1 มันจะรู้สึกเจ็บนิดๆและเกร็งที่ท้องครับ คิดว่าน่าจะเป็นอาการของคนที่ไม่ได้ซิสอัพมานาน พอทำวันแรก 20 ครั้งก็ออกอาการแบบนี้ เมื่อวานก็พอทำต่อไปได้ครับ แต่เวลาขึ้นครั้งหลังๆจะช้านิดนึง  เบ็ดเสร็จแล้วก็ทำไปได้ประมาณ 21 ครั้งครับ มีแนวโน้มว่าจะทำเพิ่มได้แค่วันละครั้งเอง พอพักแป๊บนึงผมก็มาวิดพื้นต่อ ตอนที่วิดพื้นนี่แขนก็ออกอาการเหมือนกันครับ มันจะปวดนิดๆเกร็งหน่อยๆแต่ก็พอจะวิดไหว สรุปว่า วิดพื้นไปได้ 11 ครั้งครับ เพิ่มจากเมื่อวาน 1 ครั้งเหมือนกันซิสอัพเลย ก็อย่างนี้ล่ะครับ  คนที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้มานาน มันก็เลยต้องค่อยเป็นค่อยไป หลังจากนั้นผมก็เดินขึ้น-ลงบันไดประกอบเพลงตามระเบียบครับ  ช่วงหลังๆนี้ไม่สนใจนาฬิกาแล้ว เพลงจบเมื่อไหร่ก็เลิกเมื่อนั้น เมื่อวานก็รู้สึกดีมากเลยครับ พอเดินขึ้นลงบันไดประมาณ 30-40 นาทีเสร็จ เสื้อก็โชกไปด้วยเหงื่ออีกตามเคย ถึงวันนี้ผมรู้สึกว่าการลดน้ำหนักมันทำให้เราได้ประโยชน์หลายๆอย่างนะครับ ค่อยๆทำวันละนิดวันละหน่อย แต่พอทำอย่างสม่ำเสมอแล้วมันก็จะเห็นผลอย่างที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ



                             ผมคิดว่าคนที่ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีแล้ว นอกจากจะมีน้ำหนักที่ได้มาตรฐานและสุขภาพดีแล้ว ยังสามารถนำประสบการณ์ที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย อย่างเรื่องใกล้ตัวของชุมชนเว็บเด็กดีเลยก็คือเรื่องเรียน ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังมีน้องคนไหนที่ยังมาลุยอ่านหนังสือก่อนสอบภายในวันสองวันบ้างครับ ถ้ามาโหมอย่างนั้น นอกจากจะเสียสุขภาพแล้ว ความรู้ที่ได้ก็อาจจะไม่สามารถนำไปใช้สอบหรือนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้ แต่ถ้าเรามีการวางแผน และทำอย่างสม่ำเสมอ ทุกอย่างก็จะเห็นผลในเวลาไม่นาน ถ้าจะเปรียบกับการที่ผมลดน้ำหนักมา 71 วันแล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นเรียนรู้เกี่ยวกับศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ๆ เอาแค่วันละ 3 คำก็พอ ตอนนี้ก็จะรู้ไปแล้วประมาณ 213 คำ อืม...เยอะดีจริงๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นเก็บเงินค่าขนมเพียงวันละ 10 บาท เราก็จะมีเงินเกือบพันแล้ว แล้วถ้าเปลี่ยนน้ำหนักตัวของผมที่หายไปประมาณ 23 กิโลกรัม มาเป็นความรู้ที่น้องๆได้โดยการอ่านหนังสือและทบทวนสิ่งที่เรียนมาอย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก็ ประโยชน์ที่ได้รับจะมหาศาลขนาดไหนก็ไม่รู้ ทำให้ผมได้คำคมมาหนึ่งคำคือ



                             \"การลดน้ำหนัก ... ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด\"    ส่วนอีกคำคมหนึ่งที่นึกออกตอนนี้ก็คือ \"การลดน้ำหนัก ... ไม่ใช่แค่การทำให้น้ำหนักลด\" วันนี้คงคิดได้แค่ 2 ประโยคเนี่ยครับ ถ้าวันหน้านึกออกผมจะมาบอกใหม่ก็แล้วกัน



                             หลังจากพูดถึงเรื่องการกินแล้ว วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องการออกกำลังกายกันบ้างเพราะมันเป็นสิ่งที่จะต้องทำควบคู่กันไป  มีเพื่อนบางคนถามผมว่า ถ้าเราไม่ต้องแคร์เรื่องอาหารเลย คือจะกินเท่าไหร่ก็ได้ แต่หันมาออกกำลังกายทุกวันๆละ 1 ชั่วโมงจะเป็นไปได้หรือไม่ อืม...เท่าที่นึกออกในตอนนี้คือไม่น่าจะได้นะครับ สมมติว่ามีคนๆหนึ่ง เขาต้องการพลังงานวันละ 1800 แคลอรี่ แต่ดันกินหนักทั้ง 3 มื้อจนได้พลังงานประมาณ 4000 แคลอรี่ ถ้าจะออกกำลังกายต่อวันซึ่งจะเผาผลาญได้ประมาณ 400-700 แคลอรี่ แล้วพลังงานที่เหลือมันก็จะต้องสะสมไว้ในร่างกายของเราในรูปของไขมันอยู่ดี  คำตอบเดียวที่คิดได้ตอนนี้คือ ทำยังไงน้ำหนักก็จะไม่ลดครับ เพราะฉะนั้นหลักการที่ยึดไว้ตอนแรกนั้น นับว่าเหมาะสมดีแล้วคือ \"การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายควบคู่\"



                            ต่อมาก็จะมาถึงประเด็นว่า แล้วไอ้การออกกำลังกายแบบไหนที่เหมาะกับคนที่จะลดน้ำหนัก ถ้าจะตอบแบบกว้างๆหน่อยก็อาจจะตอบในลักษณะที่ว่า แบบไหนก็ได้ ขอให้เราชอบและมีความสุขที่จะออกกำลังกายแบบนั้น แต่ถ้าจะตอบให้ได้ประโยชน์มากขึ้นก็คือว่า นอกจากเป็นการออกกำลังกายที่เราชอบแล้ว  ควรจะต้องเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคด้วยครับ มันถึงจะได้ผลดีในการวางโปรแกรมลดน้ำหนักของเรา ปัญหาต่อมาคือไอ้การออกกำลังกายแบบแอโรบิคมันคืออะไรกันแน่ ถ้าจะตอบให้สั้นกะทัดรัดและรัดกุมหน่อยก็พอจะตอบได้ว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิค มันก็คือการออกกำลังกายที่มีการนำเอาก๊าซออกซิเจนมาใช้อย่างต่อเนื่องครับ และถ้าออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องประมาณวันละ 30-50 นาที จะทำให้มีผลต่อการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเลยครับ คำถามต่อมาก็คือแล้วไอ้การออกกำลังกายแบบแอโรบิคประเภทไหนที่ทำแล้วได้ผลดีทั้งลดน้ำหนักและทำให้สุขภาพดีด้วย ความลับอันนี้ผมก็ได้ไปสืบข้อมูลมาแล้วครับ



                             การหาข้อมูลของผมจะมี 2 แนวทางใหญ่ๆครับ คืออ่านจากหนังสือและบทความเกี่ยวกับสุขภาพ และถามคนที่เขาเคยลดน้ำหนักประสบผลสำเร็จมาแล้วซึ่งก็จะมีข้อมูลของผมอยู่ในนั้นด้วยถึงแม้ว่าผมยังไม่เสร็จสิ้นโครงการของตัวเองก็ตาม เท่าที่สำรวจดูพบว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่เป็นที่ฮิตของผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักทั้งหลายคือ เดิน วิ่ง การเต้นแอโรบิค การปั่นจักรยาน และการว่ายน้ำ เท่าที่ไปสำรวจมาทั้งจากทฤษฎีและจากประสบการณ์ 5 อย่างนี่แหละครับที่เป็นท๊อปฮิต ผลปรากฏว่าการเดินขึ้น-ลงบันไดของผมไม่ติดอันดับกับเขาเลย บางคนบอกว่าการเดินขึ้นลงบันไดมันน่าเบื่อเอามากๆ ผมทำเข้าไปได้ยังไงอะ ไอ้ประเภทที่ทำอย่างต่อเนื่องได้ตั้ง 30-40 นาที ผมก็อยากจะตอบไปว่า เพลงในอัลบั้ม sleepless society นั่นแหละที่เข้ามาช่วยผมไว้และยังทำให้การออกกำลังกายในรูปแบบนี้ของผมยังมีความเพลิดเพลินเจริญใจอย่างไม่หยุดหย่อนอีกด้วย อันนี้ผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับค่ายเพลงผู้ผลิตแต่ประการใดนะครับ  เพียงแต่เล่าประสบการณ์ให้ทุกท่านได้ฟังเพียงแค่นั้น แต่เมื่อคืนนี้เพลง \"เรื่องบนเตียง\"ของบอย peacemaker เนี่ยยอดเยี่ยมมากจริงๆครับ อย่างไรก็ตาม ในการออกกำลังกายช่วงแรกผมก็ใช้เดินกับเต้นแอโรบิคครับ



                            หลายคนอาจจะถามว่าแล้วถ้าไปออกกำลังกายแบบเล่นแบดหรือเล่นวอลเลย์บอลอะไรแบบเนี่ย มันจะไม่ดีเหรอเพราะมันทั้งสนุกทั้งตื่นเต้น สามารถทำให้เราออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องได้เหมือนกันนะ ไอ้เรื่องความสนุกกับความตื่นเต้นนี่ผมก็เข้าใจดีครับ แต่ปัญหาสำคัญของการออกกำลัง 2 อย่างนี้ก็คือว่า มันไม่ได้อยู่ในรูปแบบของแอโรบิคอะครับ มี 2 ความเห็นนะครับว่าถ้าเราออกกำลังกายที่ไม่ใช่รูปแบบแอโรบิคนั้น อาจทำให้มีผลต่อการลดน้ำหนักน้อยมากหรืออาจจะไม่ให้ผลเลยก็ได้ อาจจะได้แค่ทำให้สุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้นอย่างเดียว แต่น้ำหนักไม่ลดอะครับ อันนี้ก็เป็นความเห็นของผู้ที่มีประสบการณ์หลายท่านเขาฝากบอกมาครับ



                            ปัญหาต่อไปคงเป็นปัญหาว่าเราควรออกกำลังกายแบบแอโรบิคพวกเนี่ยบ่อยแค่ไหน คำตอบก็คือต้องสม่ำเสมอครับถึงจะเห็นผล แต่คำว่าสม่ำเสมอในที่นี้จำเป็นต้องทุกวันหรือไม่ ประเด็นนี้เดี๋ยวคงต้องขอมาต่อในตอนหน้านะครับ เพราะพูดไปเดี๋ยวจะยาว แล้วตอนนี้ผมก็ต้องรีบไปออกกำลังกายประจำวันนี้แล้วล่ะครับ ช่วงสงกรานต์ผมอาจจะหายไปบ้างนะครับ หลังจากฉลองสงกรานต์แล้วเราจะกลับมาคุยเรื่องการออกกกำลังกายกันต่อ และผมมีประสบการณ์ดีๆจากทั้งของตัวเองและเพื่อนๆที่สามารถออกกำลังกายและเปลี่ยนพฤติกรรมการกินควบคู่จนประสบความสำเร็จกันไปตามๆกันมาฝากอีกเพียบเลยล่ะครับ สำหรับวันนี้ต้องเอาไว้แค่นี้ก่อนครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับผม





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×