ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    D-D คู่อันตรายนายวายร้ายยกกำลังสอง!! ( Sw_Iris & Fayya )

    ลำดับตอนที่ #7 : ท้าทาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 405
      4
      7 ก.ย. 52

    ตอนที่ 5 : ท้าทาย

     

                    นายมาทำอะไรที่นี่? หญิงสาวร้องถามทันที

    นี่สินะที่เขาบอกว่าเกลียดสิ่งไหนได้สิ่งนั้น เพราะหมอนี่เป็นบุคคลที่เธอไม่อยากพบหน้าที่สุดแต่กลับต้องมาเจอกันจนได้ แย่จริงๆ...ทำไมถึงไม่เป็นจียง ทำไมถึงไม่เป็นคนอื่น ทำไมต้องเป็นหมอนี่!!

    ที่นี่ไม่ได้ปักป้ายห้ามฉันเข้า น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยจากริมฝีปากซึ่งเหยียดยิ้มนิดๆราวกับเย้ยหยันเธอ

    แล้วไงล่ะ...ก็ฉันไม่อยากเห็นหน้านายนี่ แล้วเมื่อตะกี้ว่าใครอ่อนแอ ห๊ะ!!” อลิซาเบธโวยวายใส่ชายหนุ่มไม่ยั้งเพราะอัดอั้นมานานแล้ว

    เวลาอยู่กับผู้ชายคนนี้ทีไรมันทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ความสามารถทุกครั้งไป ความรู้สึกที่ถูกกด ถูกมองว่าอ่อนแอกว่า เป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้ และไม่คิดจะยอมรับด้วย

    ก็ว่าเธอไงถามแปลกๆ มีอะไรอีกมั้ย...ฉันจะได้ไป!”

    ริวยะเดินสวนหญิงสาวเข้าไปด้านในผับโซน V.I.P. แน่นอนว่าอลิซาเบธไม่มีทางยอม

    หยุดเดี๋ยวนะ!!!”

    มือบางคว้าชายเสื้อเขาแล้วดึงรั้งทำให้ริวยะชะงักหันกลับมา

    ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้ ฉันไม่ได้อ่อนแอ!!!”

    เธอนี่ดื้อด้านชะมัดเลย เมาหรือเปล่าเนี่ย?

    จริงๆแม้ไม่ถามริวยะก็พอเดาออกในเมื่อกลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งขนาดนั้น

    ฉันจะเมาหรือไม่เมามันก็ไม่เกี่ยวกับนาย ว่าไง...จะถอนหรือไม่ถอน ห๊ะ!!!”

    อลิซาเบธกระชากคอเสื้อชายหนุ่มจนเขาต้องโน้มศีรษะลงมาทำให้นัยน์ตาคมเข้มสีนิลสบกับดวงตาสีฟ้าอ่อนอย่างตรงๆ

    ฉันไม่ถอน!!!”

    น้ำเสียงหนักแน่นนั้นกระตุ้นอารมณ์คุกรุ่นในตัวหญิงสาวจนความกดดันและความขุ่นเคืองปะปนกันไปหมด ความโกรธทำให้ในหัวนั้นมึนงงจนตาสองข้างพร่ามัวก่อนรู้สึกกระอักกระอ่วนแน่นในอก

    อ่อกกก....

    ริวยะถึงกับอึ้งเมื่ออลิซาเบธอาเจียนออกมารดเสื้อเขาที่ดึงรั้งไว้ สองแขนแข็งแกร่งไวพอที่จะประคองร่างบางซึ่งทรุดฮวบก่อนถึงพื้นได้อย่างทันท่วงที

    เฮ้ย...เธอ!!!”

    ไม่มีเสียงขานรับตอบกลับมาจากหญิงสาวที่หมดสติไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ นั่นทำให้ริวยะถึงกับถอนหายใจแรงๆทันที ให้ตายเถอะ...ยัยบ้าเอ้ย!!!

    นี่...มีใครมากับยัยนี่บ้าง? ริวยะร้องถามแขกคนอื่นๆแต่ไม่มีใครเอ่ยรับ ทำให้ต้องตวัดสายตาไปยังพนักงานชายคนหนึ่งจนเขาสะดุ้งเฮือกวิ่งเข้ามารับใช้ทันที

    เอ่อ...มีอะไรให้รับใช้ครับ...คุณเท็นโนะ

    รู้จักที่อยู่ยัยนี่หรือเปล่า ไปหามาและเรียกแท็กซี่ไปส่งที

    ครับ พนักงานชายรับคำสั่งพลางวิ่งออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

    ริวยะประคองอลิซาเบธวางลงบนโซฟาว่างๆตัวหนึ่ง พลางนั่งลงข้างๆดึงกระดาษทิชชูจากโต๊ะมาซับคราบสกปรกบนเสื้อออกไปเท่าที่จะทำได้

    เฮอะ...งานเข้าจริงๆ ชายหนุ่มบ่นพึมพำเบาๆ เป็นจังหวะที่พนักงานชายคนนั้นวิ่งกลับมาพอดี

    เอ่อ...ขอโทษครับคุณเท็นโนะ พอดีคุณอลิซาเบธ จีน รอส ไม่ได้ลงที่อยู่ตัวเองเอาไว้ในใบสมัครสมาชิก V.I.P. มีแต่ที่อยู่ของคุณลี จียงที่อยู่กรุ๊ปเดียวกัน

    เวร!” เขาสบถออกมาเบาๆจนพนักงานชายเหงื่อตกเพราะกลัวบุคคลตรงหน้าไม่พอใจ

    เนื่องจากใครๆก็รู้กิตติศัพท์ว่ามีเท็นโนะ ริวยะ มีพ่อเป็นนักการเมืองใหญ่ แถมตัวเขายังไม่ต้องพึงพาบารมีนั้นก็มีอำนาจจัดการใครๆให้หมอบราบคาบโดยง่าย

    ไม่เป็นไร...ไปไหนก็ไป!”

    แน่นอนว่าพนักงานชายคนนั้นถอยกรูออกห่างทันที ก่อนที่ริวยะจะตัดสินใจอุ้มหญิงสาวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนพลางเดินออกจากผับไปทันที แต่ไม่ลืมเอ่ยบอกพนักงานหน้าร้านว่า

    เคลียร์บิลคุณอลิซาเบธ จีน รอส ในนามของฉันนะ

    ครับ!”

     

    ชายหนุ่มร่างผอมหรี่แอร์ในรถให้เบาลงกว่าเดิมนิดหน่อย ทั้งที่อากาศไม่ได้เย็นมากแต่เขากับหนาวอย่างบอกไม่ถูกเมื่อผู้โดยสารที่เพิ่งขึ้นมาใช้บริการนั่งเงียบกริบตลอดทาง อีกทั้งยังมีท่าทางน่ากลัว นัยน์ตาคมเข้มนั้นเหมือนกับมีดปลายแหลมที่สามารถกรีดหัวใจคนยามสบตาได้ไม่ยาก

    ริวยะถอนหายใจเบาๆพลางเหลือบมองอลิซาเบธที่นั่งโงนเงนไม่ได้สติอยู่ข้างๆอย่างอดสงสารไม่ได้ จนต้องดึงร่างนั้นลงมานอนหนุนตัก ผมสีบลอนด์อ่อนนุ่มไล้นิ้วที่วางอยู่บนหน้าขาของชายหนุ่มจนอดไม่ได้ที่จะลูบมันอย่างแผ่วเบา ไม่นึกเลยว่ายัยสาวซ่าคนนั้นเวลาไม่ได้สติจะเหมือนกับผู้หญิงธรรมดาๆทั่วไป นั่นคือ อ่อนแอ บอบบาง และ น่าทนุถนอม...เหมือนกับ...

    เฮ้ย!!!”

    คนขับรถสะดุ้งเฮือกเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มพยายามสลัดความคิดถึงยูริซึ่งแทรกเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าเรียวงามหันไปมองนอกกระจกแทนบุคคลที่นอนหนุนตักเพื่อสงบสติอารมณ์ไม่ให้ฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่น

    ทันทีที่มาถึงคฤหาสน์หลังงาม บรรดาสาวใช้หลายคนก็ถึงกับตื่นตกใจเมื่อคุณหนูของบ้านอุ้มหญิงสาวแปลกหน้าเข้ามาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

    คุณหนูพาใครมาคะเนี่ย?

    มัทซึริ ฮินาโกะ หญิงสูงอายุที่มีศักดิ์เป็นทั้งหัวหน้าแม่บ้านและคนรับใช้ อีกทั้งยังเป็นพี่เลี้ยงเขาสมัยเด็กๆเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

    ไม่มีอะไรหรอก...พอดีเธอเป็นคนรู้จักบังเอิญเจอกันในผับ ผมเห็นว่าเมาไม่รู้เรื่องและไม่รู้จักที่อยู่เลยพามาพักผ่อนที่บ้านเราก่อน ออ...เดี๋ยวขอผ้าขนหนูกับอ่างใส่น้ำหน่อยนะครับ เขาหันไปสั่งหล่อนที่โค้งศีรษะรับคำก่อนเดินไปจัดการตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดยไม่ซักไซ้อะไรให้มากความ

    ริวยะอุ้มอลิซาเบธไปทางห้องนอนของตัวเองพลางวางลงบนเตียงขนาดใหญ่ ก่อนจะหันไปรับอ่างแก้วที่มีน้ำอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งกับผ้าขนหนูจากป้าฮินาโกะมาไว้กับมือ

    ให้ป้าช่วยมั้ยคะ?

    ไม่เป็นไร...นี่ก็ดึกแล้วป้าไปนอนเถอะครับ

    ค่ะ

    เอ่อ...” เขารั้งเอาไว้จนหล่อนหยุดชะงักพลางหันมาถาม

    คะ?

    ยูริกลับมาหรือยัง?

    เอ่อ...ยังนะคะ แต่อีกเดี๋ยวคงกลับ

    เขาพยักหน้าเบาๆให้ผู้อาวุโสที่ยิ้มน้อยๆก่อนเดินออกไปจากห้อง พลางบิดผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดลงไปบนใบหน้าขาวนวลเนียนนั้น มือข้างหนึ่งไล้ผมสีบลอนด์ที่ปรกหน้าผากให้ขึ้นไปทำให้นึกแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นชัดๆว่าอลิซาเบธก็สวยใช่เล่น ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนเดียวกับยัยบ้าที่ตะโกนโวยวายชอบเตะต่อยคนอื่น

    เมื่อเช็ดเนื้อตัวอย่างใบหน้า ต้นคอ และแขนของหญิงสาวจนสะอาดสะอ้านแล้ว ริวยะเลยเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำความสะอาดตัวเองเช่นกัน เสื้อถูกโยนลงตะกร้าผ้าที่เตรียมรอซักอย่างแม่นยำ ก่อนที่น้ำจากฝักบัวจะไหลลงมารดใบหน้าไล่ลงไปถึงร่างกายกำยำ ความฟุ้งซ่านและความไม่สบายใจถูกชะล้างออกไปกับสายน้ำนั้น

    เพียงไม่นานนักเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยสวมแต่กางเกงผ้าขายาว มือสองข้างใช้ผ้าเช็ดตัวซับแผ่นอกและผมเผ้าที่เปียกปอนจนหมาดแล้วค่อยทิ้งตัวลงบนเตียงโดยไม่ได้ใส่ใจกับหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างๆเพราะในใจพะว้าพะวงถึงใครบางคนที่ยังไม่กลับมากกว่า

     

    ด้านยูริ...หลังจากจียงเข้ามาช่วยเหลือเขาก็ลากเธอไปนั่นมานี่ โดยที่หญิงสาวไม่อาจปฏิเสธได้เพราะยังไม่ทันจะพูดอะไรมือใหญ่ก็ฉุดให้เดินไปโดยไม่รอฟังคำตอบเสียแล้ว

    ที่แรกที่เขาพาเธอมา คือ ศูนย์เกมเซ็นเตอร์ ขนาดใหญ่ที่สุดในย่านนี้

    เดี๋ยว...ทำไมถึงมาที่นี่? ยูริถามทันที

    หญิงสาวมองทางเข้าที่เต็มไปด้วยแสงไฟวิบวับอย่างหวาดๆ ในชีวิตไม่เคยคิดที่จะมาสถานที่แบบนี้สักครั้ง

    ตามมาเถอะน่า แล้วก็รู้เองล่ะ จียงเอ่ยบอกพลางดึงมือบางของหญิงสาวให้เดินตามเขาเข้าไปด้านใน

    ภายในศูนย์เกมเซ็นเตอร์มีแต่เสียงอึกทึกครึกโครมและเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้าไป ทุกสายตาก็เหมือนจับจ้องมองมาอย่างสนใจ แต่แล้วต้องรีบหันกลับไปสนใจเกมที่ตัวเองกำลังเล่นอยู่เมื่อจียงกวาดสายตาไปทั่ว

    นายพาฉันมาที่นี่ทำไม? ยูริร้องถามอีกครั้ง

    ก็มาหาความสนุกน่ะสิ จียงตอบก่อนพาหญิงสาวมาหยุดที่ตู้เกมขับรถแข่ง

    ชายหนุ่มก้าวเข้าไปนั่งประจำที่ พลางขยิบตาให้ยูริซึ่งยืนอยู่ข้างๆ

    คอยดูความเท่ของฉันนะ

    จียงยอดเหรียญเข้าไปในตู้ หน้าจอเกมขนาดใหญ่ค่อยๆปรากฏสนามแข่งเสมือนจริง รถในเกมของชายหนุ่มหักซ้ายหลบขาวเบียดเสียดคันข้างๆอย่างเอาเป็นเอาตายจนหลายรายกระเด็นกระดอนหลุดออกนอกสนามท่ามกลางความหวาดเสียวของยูริ แต่ไม่ใช่สำหรับพวกที่ยืนเชียร์อยู่รอบด้านเลย ทันทีที่จบเกมเสียงปรบมือก็ดังลั่นร้านให้กับผู้ชนะ ผู้ชายหลายคนเข้ามาทักทายเขาและเอ่ยชม จียงกระหยิ่มยิ้มหันมองคนที่เขาพามาอย่างโอ้อวด หากแต่สีหน้าเรียบเฉยของหญิงสาวทำให้คิ้วหนาต้องขมวดเป็นปม

    ยัยนี่เผลอหลับตอนเขาแข่งหรือเปล่าวะเนี่ย?

    เธอได้ดูตอนฉันแข่งหรือเปล่า?

    เอ๋?

    เธอได้ดูตอนที่ฉันแข่งหรือเปล่า? จียงถามย้ำอีกครั้ง ซึ่งสิ่งที่ได้กลับมา คือ การพยักหน้าตอบรับของหญิงสาว

    แล้วทำไมยังทำหน้าเฉยเมยแบบนั้นได้อีก?

    หรือว่าเขายังเท่ไม่พอ...ไม่หรอกน่า...สุดหล่ออย่างเขาน่ะเหรอจะเท่ไม่พอ เพราะถ้าเท่มากกว่านี้สาวๆ อาจหัวใจวายตายได้เลยนะ แต่ไม่เป็นไรการขับรถแข่งอาจไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงอย่างยัยนี่ชอบ เดี๋ยวเล่นเกมอื่นก็ได้ ยังมีอีกตั้งหลายเกมที่เขาจะแสดงความเท่ให้เธอเห็น

    หนึ่งชั่วโมงกว่าที่จียงลากยูริไปตามตู้เกมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รถแข่งแบบฟอร์มูล่าวัน มอเตอร์ไซค์ และเกมต่อสู้อีกสารพัดจนชายหนุ่มรู้สึกเหนื่อยมาก เหงื่อไคลไหลคลอบนใบหน้าจนต้องยกแขนเสื้อซับอย่างหมดฟอร์มเล็กน้อย ทว่า...สีหน้าหญิงสาวก็ยังคงเรียบเฉยอยู่เหมือนเดิม

    ขณะที่จียงกำลังคิดหนักว่าตัวเองทำอะไรพลาด สายตาของยูริก็สะดุดกับตู้เกมคีบตุ๊กตาเครื่องใหญ่จนต้องรีบเดินเข้าไปดูใกล้ๆทันที ในตู้กระจกใสด้านในมีตุ๊กตาหมีน้อยน่ารักน่าชังตัวหนึ่งซึ่งหญิงสาวอยากได้มาก เพราะความอยากรู้อยากลองทำให้ยูริยอดเหรียญลงไปและเริ่มเล่น

    แต่เมื่อพลาดถึงสองครั้ง หญิงสาวก็ต้องถอนหายใจอย่างเสียดาย

    เธออยากได้เหรอ? เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหูทำเอายูริสะดุ้งตกใจ พอหันไปก็ต้องชะงักเมื่อจมูกของเธอสัมผัสแก้มนุ่มของคนพูดที่โน้มหน้าเข้ามาใกล้เหมือนเจตนา

    จียงลอบยิ้มอย่างถูกใจ ก่อนยืดตัวขึ้นและก้าวไปยืนเคียงข้างหญิงสาว ในขณะที่ยูริได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าร้อนผ่าวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

    ตุ๊กตาหมีงั้นเหรอ? จียงพึมพำ พลางหรี่ตามองอย่างหมายมาด

    ถ้าเขาจับเจ้าหมีอ้วนกลมนี่ได้ ยัยนี่ก็จะมองว่าเขาเท่ใช่มั้ย? จียงไม่รอช้าหยอดเหรียญและเริ่มเล่นทันที

    โธ่เว้ย!!!”

    หลายคนในที่นั้นถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงสบถดังลั่นของลีจียงซึ่งคีบตุ๊กตาพลาดเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ แต่ที่จียงรู้แน่ๆ คือ การจับไอ้ตุ๊กตาบ้านี่มันยากกว่าต่อยใครสักคนให้ตายซะอีก

    ทุบกระจกแล้วเอาไอ้หมีบ้านี่ออกมาเลยดีมั้ยวะ...ชายหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิด

    เอ่อ...ฉันไม่อยากได้แล้วล่ะ...พอเถอะ ยูริที่ยืนอยู่ข้างๆตลอดเวลาร้องบอก เพราะรู้สึกเสียดายเงินหลายพันเยนของชายหนุ่ม

    ไม่! ฉันต้องเอามันมาให้เธอให้ได้!!”

    จียงประกาศก้องพลางหันกลับมาสนใจตู้เกมคีบตุ๊กตาอีกครั้ง คราวนี้เขาพยายามตั้งสมาธิแน่วแน่

    ถ้าจับไม่ได้ครั้งนี้จะทุบตู้ทิ้งซะเลย!

    จียงเล็งตุ๊กตาหมีตัวอ้วนกลมที่เขาเฝ้าเพียรจับมาหลายครั้ง เมื่อหมุนที่คีบจนได้มุมที่พอใจก็กดปุ่มคีบตุ๊กตาขึ้นมา

    หมับ!!!

    สำเร็จ!!!... ตุ๊กตาหมีตัวนั้นโดนคีบอย่างแม่นยำแล้วค่อยๆลอยขึ้นช้าๆท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกหลายคู่ มันเลื่อนมายังช่องรับของก่อนปล่อยเจ้าตุ๊กตาหมีลงมา จียงแทบตะโกนร้องด้วยความดีใจ

    กึก!!!

    แต่เขาก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อขาของตุ๊กตาหมีดันติดอยู่ที่ขอบพลาสติกกั้นพื้นที่ช่องรับของและพื้นที่วางตุ๊กตา ไม่มีทางที่เขาจะยอมแพ้!!! จียงเดินไปด้านข้างของตู้พลางดันและเขย่าเล็กน้อยจนเจ้าตุ๊กตาหมีร่วงลงสู่ช่องรับของ จากนั้นก็เดินกลับมาหยิบส่งให้ยูริที่ได้แต่ยืนมองชายหนุ่มอย่างทึ่งๆ

    ตุ๊กตาของเธอ ชายหนุ่มพูดพร้อมยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ

    ขะ...ขอบใจ ยูริรับตุ๊กตาหมีอย่างเสียไม่ได้ เพราะชายหนุ่มพยายามอย่างมากกว่าจะได้มาให้เธอ  เอ่อ...ฉันคิดว่าควรจะกลับบ้านได้แล้ว

    คำพูดนั้นทำให้รอยยิ้มของจียงหายไปทันที เวลาบนนาฬิกาข้อมือ คือ สี่ทุ่มกว่า สำหรับชายหนุ่มมันก็ไม่ดึกมากนัก แต่สำหรับอีกคน...

    ฉันไม่เคยกลับบ้านดึกมาก่อน ป่านนี้ที่บ้านคงเป็นห่วงแย่แล้ว ยูริรีบพูดทันทีเมื่อเห็นลีจียงทำท่าเหมือนจะคัดค้าน

    ก็ได้...งั้นฉันไปส่ง

    ไม่ต้องหรอก ฉันกลับเองได้!” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน

    หากผู้ชายคนนี้ไปส่งเธอที่บ้านและเจอพี่ริวยะเข้าคงเป็นเรื่องใหญ่แน่...

    ฉันไม่ใช่ไอ้ขี้ขลาดที่กลัว เท็นโนะ ริวยะ ถึงขนาดยอมปล่อยให้ผู้หญิงกลับบ้านคนเดียวดึกๆแบบนี้หรอกนะ

    เหมือนเขาอ่านความคิดเธอได้ ทั้งคำพูดและท่าทางจริงจังของชายหนุ่มทำให้ยูริพูดอะไรไม่ออก สุดท้ายจึงยอมให้เขาไปส่งตามที่อาสา

     

    นัยน์ตาสีฟ้าสดใสค่อยๆลืมขึ้นมองเพดานไม้ฉลุลวดลายสวยงาม...นี่เธอกำลังฝันอยู่หรือไงถึงได้เห็นอะไรแปลกตาไปหมด มือบางยกขึ้นกุมศีรษะเพราะปวดขมับเล็กน้อยจากการเมาค้างพลางพลิกตัวไปอีกด้านก็พลันต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ อาการมึนงงแทบจะหลุดหายไปราวกับโดนกระชาก

    เท็นโนะ ริวยะ นอนเปลือยอกอยู่ข้างๆเธอ!!!

    พรวดด!!

    อลิซาเบธสปริงตัวลุกขึ้นนั่งทันที นี่มันเกิดอะไรขึ้น...เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?...

    จำได้ลางๆว่าเธอมีเรื่องกับไอ้หมอนี่ที่ผับคุซาฮาระ...แล้วทำไมถึงมาอยู่ในห้องนอนที่ไหนไม่รู้กับเขาได้ล่ะ..

    อย่าบอกนะว่า...อลิซาเบธก้มลงมองตัวเองทันที เสื้อผ้าก็อยู่ครบถ้วนไม่ได้ยับเยินอะไร เนื้อตัวไม่มีริ้วรอยที่บ่งบอกถึงเรื่องอย่างว่าพลางหันไปมองคนข้างๆ แม้เขาจะเปลือยท่อนบนแต่กางเกงก็เรียบร้อยปกติดี

    อลิซาเบธรีบลุกขึ้นยืนพลางเดินฉับๆออกไปนอกห้องแล้วยืนผิงประตูเพื่อระงับสติอารมณ์...สรุปว่ามันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย...หญิงสาวกรีดร้องในใจเพราะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ดวงตากลมโตกวาดมองรอบด้านซึ่งเป็นทางเดินระเบียงยาวทำจากไม้ดูคลาสสิกแต่แฝงไปด้วยความหรูหรา ไม่ใช่โรงแรม...งั้นก็คงเป็นบ้านเขา? ทางที่ดีควรกลับเข้าไปด้านในก่อนดีกว่า...เดี๋ยวมีคนอื่นมาเห็นเข้า

    ทันทีที่เธอเปิดประตูหมายจะกลับเข้าไปก็พบ เท็นโนะ ริวยะ ยืนอยู่ตรงหน้า ยังไม่ทันได้ขัดขืนเขาก็ดึงตัวเธอเข้าไปอย่างรวดเร็ว

    ทำอะไรของนายน่ะ!” หญิงสาวโวยวายเสียงดัง

    ฉันสิ...ควรถามเธอว่าจะทำอะไร?

    นายนั่นล่ะจะทำอะไร พาฉันมาที่นี่ทำไม...อย่าบอกนะว่าคิดจะฉวยโอกาส ไอ้คนเลว!!” อลิซาเบธด่าทอทันที คิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มขมวดมุ่นอย่างนึกรำคาญพลางตอบไปว่า

    ฉันก็แค่สมเพชที่เห็นเธอเมาไม่เป็นท่าเลยพามาพักที่บ้านเท่านั้น จริงๆอยากปล่อยให้นอนสลบไสลคาผับหรอกนะ แต่เกรงว่าจะมีผู้โชคร้ายคว้าไปทำเมียเสียก่อน!”

    รอยยิ้มเหยียดยาวปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลานั้น คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวโกรธจัดทีเดียว

    ขอให้จริงเถอะ...ว่านายไม่ได้มีความคิดแบบนั้นเหมือนกัน

    นี่แม่คุณ...หลงตัวเองไปหน่อยแล้ว ผู้หญิงอย่างเธอน่ะฉันไม่คิดจะแตะหรอก!”

    หมายความว่ายังไง? อลิซาเบธตวาดถาม แม้เธอไม่ได้ชอบเขาแต่คำพูดนั้นมันเหยียดหยามจนอดไม่ได้ที่จะถามกลับไป

    ก็หมายความว่า...ฉันไม่คิดชายตาแลเธอหรอกต่อให้ผู้หญิงหมดโลกก็ตาม!”

    เท็นโนะ!!!”

    มือบางเงื้อขึ้นในอากาศพลางจะฟาดเข้าไปที่ใบหน้าคมเข้มนั้น แต่ชายหนุ่มรู้ทันคว้าหมับจับเอาไว้ได้

    ฉันไม่ประมาทให้เธอตบได้อีก...แล้ว... ยังไม่ทันทีเขาจะพูดจบ อลิซาเบธก็จับไหล่ชายหนุ่มโน้มลงมาพลางประกบริมฝีปากทันที นั่นไม่ใช่เพราะความพิศวาส แต่เพราะท้าทายในคำพูดที่เขาดูถูกเธอนั่นเอง  และที่สำคัญไอ้ที่จูบไปเมื่อกี้สำหรับคนอเมริกันอย่างเธอก็ถือว่าเป็นแค่การทักทายเท่านั้น

    นัยน์ตาสีนิลเบิกโพลงอย่างตกใจ ก่อนที่สองมือจะผลักร่างเล็กออกไปจากตัว

    ทำบ้าอะไรของเธอ!” เขาโวยวายพลางเช็ดริมฝีปากด้วยข้อมือตัวเอง ในขณะที่อลิซาเบธได้แต่ยิ้มร่าอย่างผู้ชนะ เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของอีกฝ่าย...มันช่างสะใจจริงๆ

    ก็นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่า...ไม่อยากแตะต้องฉัน แล้วรู้สึกไงล่ะ?

    เธอ!!”

    ริวยะขยับจะเข้าไปหาเพราะความโกรธ แต่แสงไฟรถที่สาดเข้ามาขณะเลี้ยวบริเวณหน้าประตูรั้วทำให้เขาต้องชะงักเลยรีบตัดบททันที

    กลับไปได้แล้ว พูดจบเขาก็ดึงค้นแขนหญิงสาวพลางคว้ากระเป๋าเธอแล้วลากออกไปจากห้องนอน

    นี่ปล่อยนะ...ฉันเดินเองได้ อลิซาเบธโวยวายเสียงดังไม่เกรงใจใคร แต่ริวยะไม่สนใจยังคงลากตัวหล่อนออกไปจนกระทั่งถึงหน้าคฤหาสน์ถึงได้ปล่อย เป็นจังหวะที่รถแท็กซี่เลี้ยวเข้ามาจอดพอดี

    ริวยะมองยูริที่เปิดประตูออกมาพลางจะต่อว่าที่เธอกลับช้า แต่เมื่อพบบุรุษที่เปิดประตูอีกฝั่งออกมาก็ถึงกับตกตะลึง

    ไอ้จียง!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×