ตอนที่ 5 : ตอนที่ 5 ฉันไม่ควรปิดกั้นตัวเอง
ตอนที่ 5
ไม่ยักกะรู้ว่า...คุณซ่อมรถเป็นด้วย หล่อนว่า ทำหน้าตาคล้ายไม่ค่อยเชื่อนัก แต่อีกฝ่ายก็ทำให้หล่อนเห็นมาแล้ว
ไอ้ซ่อมจริงๆ ก็ไม่เป็นหรอกครับ...แต่ก็พอดูได้ เมื่อกี้ก็แค่สายไฟหลุด เขาว่า ยิ้มอย่างไม่เห็นมันเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตนัก...ในขณะที่ลอร่าเหลือบสายตามองผู้ชายที่นั่งมาข้างๆอย่างพอใจนิดๆ
บางทีหล่อนอาจจะปรามาสดูถูกเขาเกินไป...ภายในท่าทางเชยๆ หน้าตาเฉิ่มๆของเขา ยังมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้หล่อนประหลาดใจได้...อย่างการทำอาหารเป็น หรือว่าการซ่อมรถได้อย่างเมื่อครู่นี้ ...อืม! จริงๆเขาเป็นตั้งอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยนี่นา...คงไม่ธรรมดานักหรอก
หล่อนนึกเสียใจ ที่อยู่ๆก็ทอดทิ้งเขาเสียเฉยๆ เลยชวนขึ้นรถมา
แล้วคุณจะกลับยังไงล่ะ ? หล่อนถามเขา และมันคงเป็นคำถามเดียวกับที่เขาอยากถามหล่อน
ก็...อาจจะแท็กซี่... คำตอบของอีกฝ่าย ตามมาด้วยการฉายรอยยิ้มจางๆ
หล่อนเกิดรู้สึกผิดขึ้นมา ที่ลากเขามาแล้วทิ้งลอยทะเลเสียดื้อ
เออ!...กลับด้วยกันสิคะ....เดี๋ยวฉันไปส่ง หล่อนชวนยิ้มเจื่อนๆรู้สึกผิด
ในขณะที่ใบหน้าอีกฝ่ายฉงนใจนัก เลิกคิ้วสูงพิจารณามองมา คล้ายดังจะถามว่าหล่อนพูดจริงหรือ แต่เมื่อเห็นหล่อนยิ้มแล้วพยักหน้ายืนยัน เขาก็ยิ้มตอบมา แล้วพยักหน้าให้เช่นกัน ก่อนจะเปิดประตูด้านข้างคนขับขึ้นมานั่ง
บางทีนะบางที...ถ้าหล่อนได้เรียนรู้เขามากกว่านี้...มีเวลาที่จะพิจารณาผู้ชายข้างๆมากขึ้นกว่านี้ หล่อนอาจจะเห็นอะไรดีๆในตัวเขาก็ได้....นายลุงเชยที่หล่อนพยายามจะปั้น
วันเสาร์อาทิตย์ปกติคุณจะทำอะไรคะ? หล่อนถามคำถามเป็นไกด์นำทาง
วันหยุดโดยมากผมจะอยู่บ้าน อ่านหนังสือ...หรือถ้ามีงานค้างที่มหาวิทยาลัยก็อาจจะอยู่ที่นั่น คำตอบของเขายังเดาทิศทางที่แน่นอนไม่ได้
แล้ววันหยุดที่จะถึงนี้ล่ะคะ....คุณว่างมั้ย ? ถามพลางเหลือบสายตามองหน้าเขา
วันหยุดนี้หรือครับ? เขาทวนคำถามหล่อน
ตั้งใจจะไปซื้อต้นไม้มาปลูก เพิ่มสีเขียวและออกซิเจนให้บ้าน แต่เมื่อหล่อนถามเช่นนี้ บางที อาจจะเป็นโอกาสอย่างที่ใครๆว่า ให้ได้ใช้เวลาและทำความรู้จักกับหล่อนมากขึ้น
ผู้หญิงที่ตั้งใจไว้แต่แรกว่า คงจะไม่ใช่ในแบบที่เขาชอบ หล่อนเป็นผู้หญิงแปลกๆ บางทีดูเหมือนจะใส่ใจสนใจเขา แต่บางทีกลับคล้ายเบื่อหน่ายเขาขึ้นมาเฉยๆ เหม่อลอยขึ้นมาจมอยู่กับความคิดตัวเองเป็นพักๆ เหมือนว่าหล่อนเองก็มีเรื่องต้องคิดใคร่ครวญอยู่ในใจ หาใช่สนใจอยู่แต่เขาไม่
มีอะไรหรือครับ?.... หันหน้ากลับมาถามอีกฝ่ายอย่างสงสัย
ฉันอยากได้เพื่อนดูหนัง...ชอปปิ้ง...ถ้าคุณว่างนะคะ หล่อนกล่าววัตถุประสงค์ขึ้นมา
ผมตั้งใจว่าจะไปซื้อต้นไม้มาปลูกที่บ้านเสียหน่อย...เอ! เอายังไง... เขาทำท่าคิดครวญขึ้นมา
ขณะที่ลาร่ากลับรู้สึก กระตุกวูบขึ้นมาในใจ...เขากำลังปฏิเสธหล่อนอย่างนั้นหรือ...ผู้ชายข้างๆคนนี้ มีสิทธิ์อะไรมาปฏิเสธหรือลังเลในคำชักชวนของหล่อน...ดูสภาพเขาสิ...ผู้ชายอย่างนี้กล้าปฏิเสธหล่อนอย่างนั้นรึ
ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร น้ำเสียงห้วนและกระด้างขึ้นมา
ว่างนะว่างครับ...แต่ผมเองก็มีธุระด้วย...เอาเป็นว่าพบกันครึ่งทางดีมั้ย...ผมไปเป็นเพื่อนคุณดูหนังชอปปิ้งวันหนึ่ง ส่วนคุณก็ไปส่งผมซื้อต้นไม้อีกวันหนึ่ง ... เขาเสนอทางเลือก
นี่เขากล้าต่อรองกับหล่อนด้วยหรือ...หันหน้าขวับไปมอง...แต่สีหน้าท่าทางและแววตาอีกฝ่าย ไม่ได้แสดงออกให้หล่อนรู้สึกว่าเขากำลังทำเช่นนั้น...ก็แค่เพื่อนเสนอกับเพื่อน แลกเปลี่ยนกันเท่านั้น
ก็.... หล่อนอ้ำอึ้งขึ้นมา อย่างไม่มีทางเลือก
ได้ค่ะ.... หันกลับมามองเส้นทางตรงหน้า ตอบไปยิ้มๆ
เขาไม่ใช่ชานนท์ที่จะได้ตะพืดตะพือตามใจหล่อนไปเสียทุกเรื่อง...และเขาเองก็ไม่ได้จีบหล่อนอยู่ ถึงจะได้ไม่กล้าขัดใจ...หล่อนเองต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องการยืมมือเขา...สำหรับปฏิบัติการณ์กู้หน้า...กู้ศักดิ์ศรีตนเอง
แม้ไม่รู้ว่าที่ทำไปนั่นเพราะอะไร...จะใช่แรงยุจากบรรดาผองเพื่อน หรือว่าแค่อยากเอาชนะใครบางคน...สับสนเหลือเกิน...บางทีผู้ชายง่ายๆข้างๆหล่อน กลับทำให้หล่อนรู้สึกว่า เขาอ่านยากกว่าผู้ชายอย่างชานนท์
เป็นไงจ๊ะ ดินเนอร์มื้อเย็น? ปูเปรี้ยวโทรศัพท์มาถาม น้ำเสียงอีกฝ่ายมีแววล้อเลียนยินดีฟังออกชัดเจน
รู้ได้ยังไง? ลอร่า ชะงักมือที่กำลังยีหัวตัวเองเพื่อเช็ดให้แห้ง หลังจากพึ่งสระผมมาเสร็จ
มีสปาย คนตอบหัวเราะขำ
ใช่สิ...เพื่อนทั้งฝูงของเขาเห็นนี่นา...ว่าหล่อนมาชวนเขาออกไปทานข้าวเย็น...และหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักก็มีนายตะวันที่ตอนนี้กำลังเล็งเป้าหมายตายัยปูเปรี้ยวอยู่
ก็.... คนตอบพยายามนึกคำตอบ
ดีอะนะ... อย่างน้อยก็ตอนที่เขาทำให้รถของหล่อนวิ่งต่อไปได้...เห็นไม่เช่นนั้น หล่อนคงหงุดหงิดอีกยาวนาน
ฟังดูไม่รู้สึกดีอย่างที่เธอว่าสักนิด... ปลายสายว่า น้ำเสียงออกแววกังวล
เอ! แล้วเธอนี่จะมารู้อกรู้ใจอะไรฉันขนาดนั้นล่ะจ๊ะ ? กระเซ้าถามเพื่อนสาวกลับไป
เราคบหากันมากี่ปีแล้วล่ะลอร่า...แค่เธออ้าปากฉันก็เห็นไปถึงไหนๆแล้ว ท้ายเสียงกระเซ้าปูเปรี้ยวหัวเราะร่า
โทร.มาถามแค่นี้หรือ?...
ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอ... เพื่อนสาวตอบ
เป็นห่วง... คนฟังรู้สึกดี
ไหนการันตีว่าเขาดีนัก...ทั้งยุทั้งผลักทั้งดันให้ฉันกับเขาไปด้วยกัน...แล้วห่วงอะไรอีกล่ะจ๊ะ?... ถามขำๆ
ห่วงสิ...ห่วงว่าเธอจะมามัวเปรียบเทียบเขากับนายชานนท์จนปิดโอกาสของตัวเอง...
ความห่วงใยของปูเปรี้ยว ดูจะไม่ผิดสักนิด...หล่อนรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
ที่เงียบไป...คิดอย่างนี้อยู่เหมือนกันใช่มั้ยนี่ ? คำถามดั่งจับผิดได้
ก็ใช่... ยอมรับโดยดุษฏี
ก็หล่อนเคยมีแฟนที่โก้หรู หน้าตาหล่อเหลาสมาร์ท ใครเห็นก็พากันมองตามจนเหลียวหลัง เหมาะสมกันอย่างที่ใครก็อิจฉา เดินสวยเริดเชิดหยิ่งเคียงข้างเขาไปอย่างภาคภูมิใจ
ในขณะที่กับใครอีกคน...หล่อนรีบก้าวเท้ายาวๆให้เขาก้าวตามเสีย เดินก้มหน้างุดไม่กล้าสบหน้าสบตาใครๆ ก็หล่อนอายนี่นา...ที่ต้องเดินกับลุงเชยอย่างเขา...สาวสังคมอย่างหล่อน หน้าที่การงานระดับไหน...ใครๆก็รู้จักอย่างกว้างขวาง
แค่ว่าชานนท์หายไปจากข้างกายหล่อน...ดันไปโผล่อยู่ข้างๆใครอีกคนที่สวยเด่นดังกว่าเท่านั้นยังไม่พอ...หล่อนกลับมาเดินต๊อกต๋อยเคียงข้างอยู่กับผู้ชายที่เทียบกับเขาไม่เห็นฝุ่น...นึกแล้วให้ถอนหายใจขึ้นมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
ลอร่าจ๋า....อย่าใจร้ายกับเขาและใจร้ายกับตัวเองให้มากเกินไปหน่อยเลย เพื่อนสาวเกริ่นกล่าวประโยค
หมายความว่ายังไง?... หล่อนสงสัย
แฟนใหม่ไม่จำเป็นว่าต้องเด่นกว่า ดังกว่า หล่อกว่าแฟนเก่าหรอกนะ...
แล้วงั้นจะมีใหม่ไปทำไม...ถ้าได้มามันไม่ดีกว่าเก่า...สู้อยู่คนเดียวไม่ดีกว่ารึ?... หล่อนโต้เถียงกับอีกฝ่ายขึ้นมาตามความเห็นของตัวเอง
แล้วเธอทำอย่างที่ว่าได้มั้ย...ตอนนี้เธอต้องการใครสักคนที่จะมาเป็นเพื่อน...คนที่ไม่จำเป็นต้องหล่อกว่าดังกว่าเด่นกว่า แต่เขาต้องดีกว่า... ปูเปรี้ยวว่า
แล้วอะไรล่ะ...ที่จะทำให้หล่อนรู้ว่าดีกว่า...สงสัยนัก...และปูเปรี้ยวคงเดาความสงสัยของหล่อนออกด้วย
อย่างน้อยเขาก็ต้องทำให้เราภาคภูมิใจมากกว่า รักเรามากกว่า...ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีค่า มีความหมาย มีความสำคัญ...เพราะถ้าเขารู้สึกเช่นนั้น...เชื่อเถอะว่าเขาจะไม่ทำให้เราเสียใจ...เลือกใครที่รักเราดีกว่านะ น้ำเสียงราบเรียบนั้นแนะนำอย่างน่าฟัง...ลอร่าคิดตาม ก่อนจะหัวเราะขื่นๆขันขึ้นมา
แต่เขาก็ยังไม่ได้รักฉัน...ขนาดว่าฉันชวนไปดูหนังชอปปิ้งเขายังคิดตั้งนาน... หล่อนว่า นึกคัดค้านขึ้นมาในใจ
แต่สุดท้ายเขาก็ไปใช่มั้ย? คำถามของอีกฝ่าย เดาได้ไม่ยาก
ใช่...แต่เขาก็มีข้อแลกเปลี่ยน ไม่เห็นเหมือนชานนท์ที่เขาตามใจฉันไปหมด...แต่อีตาลุงเชยนี่ดันยื่นข้อเสนอว่าเขาจะไปชอปปิ้งกับฉันวันหนึ่ง...แล้วอีกวันฉันต้องไปซื้อต้นไม้กับเขา ตอบไปอย่างไม่เต็มเสียงนัก หล่อนนึกหงุดหงิดขึ้นมาที่ยอมตามใจเขา...ทั้งๆที่ความจริง...เขาไม่น่าจะมามีข้อเสนอต่อรองใดๆกับหล่อนได้...ปูเปรี้ยวหัวเราะชอบใจ
ลอร่าเอ๊ย! นายชานนท์นี่ทำให้เธอเสียนิสัย...เขาตามใจเธอเสียเคยตัว...แล้วเป็นไงล่ะ...พอเขาทิ้งเธอไปดื้อๆ กับทิ้งพิษสร้างกำแพงมากมายให้เธอตั้งป้อมปราการเอากับผู้ชายคนอื่นๆ โดยใช้เขาเป็นบรรทัดฐาน...อย่างนั้นเท่ากับผลักให้เธอขึ้นคานโดยไม่รู้ตัวนะ...คนแต่ละคนก็แตกต่างกันไปแต่ละแบบ...ดูสิเราสี่คนคบกันมาตั้งกี่ปี...มีชีวิต ทัศนคติ อุดมคติ วีถีคล้ายๆกัน แต่จริงๆลงลึกในรายละเอียดก็ยังมีข้อแตกต่างกันมากมาย...อย่าได้หวังจะเจอผู้ชายเฟอเฟ็คที่ได้ดั่งใจเธอทั้งหมดเลย...ยอมรับมั้ยล่ะว่าหลายครั้งเธอเองก็เคยหงุดหงิดไม่พอใจตัวเองเหมือนกัน... เพื่อนสาวแนะแนวทางคิด
อืม! นั่นสินะ... คนฟังเริ่มคิดได้คล้อยตาม
เขากับเราก็คงคิดไม่แตกต่างกันหรอก...อย่างนายชานนท์ที่เขาเองเคยพอใจเธอมากๆ วันหนึ่งเขาก็ยังปันใจไปให้ใครอีกคน ทั้งๆที่เธอกับเขาคบกันมายาวนานตั้งเท่าไหร่...ทำไมเขาถึงไม่ตัดสินใจลงหลักปักฐานแต่งงานกับเธอไปเสียแต่เมื่อนานนมแล้ว...แต่กับยัยเชอรี่ที่เจอกันมาแค่ไม่กี่เดือน...เขาถึงได้แน่ใจและมั่นใจที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับยัยคนนี้แทน คำพูดของเพื่อน สะกิดสะเก็ดแผลในใจขึ้นมาใหม่...ปวดแปล่บขึ้นมา
ฮึ...ฉันก็คงยังไม่ดีพอสำหรับเขามั้ง?... ว่าพลางหัวเราะขื่นๆ
ขอโทษนะ...ถ้าทำให้เธอเสียใจขึ้นมาอีก...แต่ฉันกำลังจะบอกเธอว่า...มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีวิวัฒนาการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม เพราะมนุษย์รู้จักยืดหยุ่นปรับตัวเองให้เข้ากับธรรมชาติ...หนาวก็หาเสื้อผ้าหนาๆมาใส่ ร้อนก็เปิดพัดลมให้มันเย็น...นั่นแหละมนุษย์จึงอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงวันนี้ได้...
การที่เราจะรักใครสักคนก็เช่นกันนะ มันไม่มีคนสมบูรณ์ที่สุดในโลกสำหรับใครหรอก...แต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันไป...แต่ทุกคนก็สมบูรณ์แบบในตัวเอง...ทั้งเธอและเขาก็สมบูรณ์แบบในแบบของใครของมัน...จะหวังให้เขาต้องปรับตัวเข้าหาเราทั้งหมดมันคงไม่ได้...จะคิดเปลี่ยนใครบางคนให้เป็นดังใจเราทั้งหมดคงไม่ดี...ความเป็นอีโก้มันติดตัวมนุษย์ทุกคนมาแต่เกิด...ความรักที่ไม่เป็นตัวของตัวเองมันอยู่ได้ไม่นานหรอกนะ...
เธอมีสิทธิ์เลือก มีอิสระที่จะคิดตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง..ทั้งคุณปรมินทร์และชานนท์ก็เช่นกัน...ฉันอยากให้เธอใช้โอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์กับตัวเองที่สุด...ไม่อยากให้เธอมองข้ามหรือละทิ้งมันไปเพียงเพราะตั้งอุดมคติ หรือใช้บรรทัดฐานจากใครบางคนเป็นกำแพงที่สร้างขึ้นมาปิดกั้นขังตัวเองอยู่ภายในนั้น... คำแนะนำยาวเหยียดของปูเปรี้ยว ทำให้หล่อนฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้...หัวเราะอย่างขำขันที่เพื่อนสาวกลายเป็นนักธรรมเอกเทศนาเรื่องความรักได้ราวกับผู้รู้แจ้งเห็นจริงๆ ทั้งที่ปูเปรี้ยวเองก็ยังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเช่นกัน
พูดอย่างกับเธอเป็นศาสดาด้านความรัก...แต่ยอมรับนะเธอพูดได้น่าฟัง ว่าพลางถอนหายใจอย่างโล่งขึ้น
ฉันไม่ได้พูดให้เธอฟังเฉยๆ ฉันอยากให้เธอลองคิดดูด้วย... เพื่อนสาวว่า
ฉันจะทุบกำแพงที่เธอว่า แล้วลองพิจารณาเขาก็แล้วกันนะ หล่อนให้คำมั่นกับอีกฝ่าย
ใช่...ต้องอย่างนั้นสิลอร่า...บ่อลองจะฮู้อะหยัง ถ้าผิดพลาดครั้งคิดว่าเป็นครู... สิ้นเสียง สองสาวหัวเราะประสานเสียงกันขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี
ขอบใจเธอมากนะ...ที่เป็นห่วงเป็นใยและให้แต่สิ่งดีๆ ปรารถนาดีกับฉัน... ว่าพลางอมยิ้ม ถึงหล่อนจะไม่ได้แฟนที่ดี แต่หล่อนก็ยังมีเพื่อนที่ดี...พอที่จะทดแทนกันได้...และที่พิเศษมากมายไปกว่านั้น...ก็คือเพื่อนที่ดีจะอยู่กับเราไปจนถึงวันตาย
จ้า...เธอคิดได้อย่างนี้ฉันก็ดีใจด้วย...อย่าลืมนะลอร่า...เลือกคนที่เขารักเราดีกว่า ...เพราะคนที่เขารักเรา เขาจะเห็นเรามีค่า มีความหมาย มีความสำคัญกับเขา...และคนอย่างนี้เขาจะไม่มีวันทำให้เราเสียใจ... เพื่อนสาวส่งท้าย ก่อนวางสายโทรศัพท์ไป...ลอร่าอมยิ้ม ครุ่นคิดตามหล่อนสบายใจขึ้นมามากมาย กับการได้สนทนากับปูเปรี้ยวในคืนนี้
เสียงโทรศัพท์บอกว่าหล่อนได้รับข้อความ...ลอร่าไม่รอช้ารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อยๆ และไมตรีจิตดีๆที่มีให้...คืนนี้ผมคงนอนฝันดี...และหวังว่าคุณก็เช่นกัน Good Night & Sweet Dream
ข้อความที่ส่งมา พาให้หล่อนยิ้มหวานออกมาได้...กำลังคิดในใจอย่างขำขัน...ลุงเชยโรแมนติกอย่างนี้ก็เป็นด้วยหรือ ?...นั่นสินะ บางทีอาจเป็นอย่างที่ปูเปรี้ยวว่าก็ได้...เลือกคนที่เห็นเรามีค่าและสำคัญ...เขาคนนั้นจะไม่มีวันทำให้เราเสียใจ...อย่างน้อยถึงไม่ได้พอใจเขานัก...แต่เขาก็ทำหล่อนรู้สึกดี...และอมยิ้มออกมาได้ในวินาทีนี้
ในขณะที่ปรมินทร์นั่งทำหน้ายุ่งเหยิง มองผองเพื่อนที่นั่งยิ้มหน้าตาแป้นแล้นตรงหน้าครบทีม ทั้งตะวัน พิสันต์และกานต์....ก่อนส่ายหน้าอย่างไม่รู้จะหาทางออกเช่นไร
ฉันไม่เคยทำอย่างนี้กับใคร เขาเปรยขึ้นมาหน้ายุ่ง
นายก็หัดทำบ้างสิวะ...อยากได้สิ่งที่ดีเราต้องเป็นฝ่ายเข้าไปหามันรู้มั้ย? ตะวันแนะนำ พลางส่งโทรศัพท์คืนเพื่อน
ไม้ดัดไม่เป็นธรรมชาติฉันท์ใด...ความรักที่ไม่ได้เกิดจากหัวใจก็คงไม่ต่างจากไม้ดัดฉันท์นั้น เขาว่า
เออๆ ขืนรอโชคชะตา...ก็ชาติหน้าตอนบ่ายๆนะแก หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา... ตะวันกำลังจะเทศนาสั่งสอนอีกฝ่าย...แต่กานต์กลับดึงรั้งแขนเสื้อไว้
หายากนะกะโหลกกะลา...เอาแค่ให้มันหากระจกมาส่องก็พอ... เขาแย้ง
เออๆ นั่นแหละ...แล้วหัดดูตัวเองบ้าง...แกไม่ใช่หล่อลากขนาดหนุ่มคลีโอแฟนเก่าเขานะ บุญหัวแค่ไหนแล้วที่เขาอุตส่าห์มาชวนไปทานข้าวเย็น ชวนไปดูหนังไปชอปปิ้ง ซึ่งกำลังบอกชัดๆว่าเขากำลังพิจารณาและให้โอกาสแกอยู่...ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสก็หัดคว้าโอกาสเสียบ้าง...หรือถ้าโอกาสมันริบหรี่นัก...ก็หัดสร้างโอกาสให้กับตัวเอง...รู้รึเปล่าว่าโอกาสถ้ามันผ่านไปแล้ว ก็ยากที่มันจะย้อนกลับมาหาใครอีกเป็นครั้งที่สอง พิสันต์ช่วยยันคำพูดของตะวันให้มีน้ำหนัก
ในขณะที่ปรมินทร์ปั้นหน้ายากไม่ชอบใจขึ้นมา...เขาไม่ชอบถูกเปรียบเทียบ หล่อนจะเคยมีแฟนเก่าเป็นหนุ่มคลีโอนั่นมันก็เป็นเรื่องของหล่อน...อดีตของหล่อนที่ผ่านมาแล้ว...
ถึงจะสะดุดตาสะดุดใจ และนึกพอใจหล่อนอยู่บ้าง...แต่เขาก็เป็นเขา...และเป็นผู้ชายในตอนนี้ที่หล่อนจะคบหา ไม่ชอบถูกนำเปรียบเทียบกับใคร...เพราะความหวาดหวั่นในใจ...ที่ว่าจะสู้อีกฝ่ายไม่ได้...และตะกอนใจที่ใครบางคนที่ทิ้งเขาไป...ทำให้เขาไม่ยอมรับในถ้อยคำของผองเพื่อน
ถ้าเขาจะชอบฉันก็ให้เขาชอบอย่างที่ฉันเป็นฉันนี่แหละ...เพราะฉันมันพวกไม้แก่ดัดยาก...ขอบใจมากสำหรับความหวังดีที่อุตส่าห์มารบกวนตอนดึกๆของพวกนาย...ฉันมีงานวิจัยอีกเป็นตั้งที่ต้องอ่านให้จบคืนนี้.... เขาไล่เสียดื้อๆ
เออๆ ไม่ต้องไล่หรอก...ที่มานี่ก็เพราะเป็นห่วง กลัวจะพลาดโอกาสดีๆหรอกนะ... พิสันต์หงุดหงิดลุกขึ้นก่อนใครๆ
นั่นสิ...อย่ามาเสียเวลากับพวกวานรได้แก้วเลย...ไปสร้างโอกาสให้ตัวเราเองจะดีกว่า กานต์ลุกเดินตามพิสันต์ไป
อุตส่าห์มานั่งสีซอให้ฟังตั้งนาน...เสียเวลาจริงๆ ตะวันเป็นคนสุดท้าย ที่มองเขาอย่างผิดหวัง ก่อนส่ายหน้าอย่างปลงอนิจัง แล้วเดินลงจากบ้านไปอย่างหัวเสีย
เมื่อกลุ่มคนที่อึกทึกครึกโครมตรงหน้า พากันกลับไปหมด...ความเงียบเข้ามาแทนที่ ความเหงาที่มีเชื้ออยู่ในใจทวีขึ้นมาเรื่อยๆ ช่วยไม่ได้ที่จะพาปรมินทร์ให้กลับไปคิดถึงใบหน้าสวยของใครอีกคนที่เข้ามาวนเวียนในชีวิตในห้วงเวลานี้
หล่อนเป็นผู้หญิงสวย เก่ง ฉลาด และดูจะมีทางเลือกมากมาย...แต่ทำไมเป็นเขากันที่หล่อนมาให้ความสนิทสนมสนใจ...แฟนเก่าหล่อนลงบทสัมภาษณ์ในหนังสือเล่มดังที่เพื่อนๆหยิบติดมือมาให้ดู แต่เขาปฏิเสธเสียแต่ต้น และทำเป็นไม่สนใจ
ก็แค่แวบหางตามองผ่าน...ผู้ชายด้วยกันยังรู้สึก
แล้วหล่อนจะมาชอบผู้ชายเชยเฉิ่มอย่างเขาเป็นจริงเป็นจัง...จะให้เชื่อเช่นนั้นหรือ...
แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า หล่อนทำให้เขาติดตา และตรึงใจหล่อนอยู่ไม่น้อย...
หนังสืองานวิจัยที่เขาอ้างขึ้นมาบังหน้า กองอยู่เป็นภูเขาเลากา แต่มือของปรมินทร์กลับเอื้อมไปหยิบหนังสืออีกเล่มที่ตะวันเอามาให้ดู
ภาพผู้ชายคนเก่าของหล่อน...แตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง...เป็นจริงหรือที่หล่อนจะยอมทิ้งทัศนคติและความชอบเดิมๆมาหาเขา...ผู้ชายที่มีไลฟ์สไตล์ในอีกแบบหนึ่ง...
อย่าปิดกั้นตัวเอง...เมื่อมีโอกาสก็รีบคว้าไว้ซะ เพราะถ้ามันผ่านเลยไป...โอกาสครั้งที่สองยากนักที่จะย้อนกลับมา คำพูดของเพื่อนๆทำให้เขาได้คิด...
นั่นสินะ...เดี๋ยววันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ก็คงจะได้รู้กัน...เขาคิดในใจ ก่อนวางหนังสือในมือลงด้วยความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียในใจพิกล
ทั้งแรงยุและแรงผลักดันของเหล่าผองเพื่อนสาว ปูเปรี้ยว เมวีและยาหยี รวมทั้งกองหนุนที่ไม่ออกตัวให้หล่อนรู้อย่างตะวัน พิสันต์และกานต์ นำพาให้ลอร่ามาจอดรถหน้าบ้านของปรมินทร์ในเช้าวันเสาร์
หนึ่งในเหตุผลจากการชักแม่น้ำทั้งห้าของบรรดาเพื่อนๆแล้ว หล่อนเองก็อยากพิสูจน์ตัวเองอยู่เช่นกันที่ว่าจะปั้นใครสักคนขึ้นมานั้น...หล่อนทำได้จริงๆ...ก้าวขาในชุดสบายๆในวันหยุด แต่ยังเปรี้ยวหรูดูดีลงมาจากรถ มายืนชะโงกหน้า ชะแง้หาเจ้าของบ้าน ที่ป่านนี้ยังเงียบฉี่อยู่ข้างในหรือว่าเขาจะลืมนัดหล่อนไปแล้ว...ก่อนกดกริ่งเรียกคนในให้ออกมารับแขก
ว้าย...! ยกมือขึ้นปิดหน้ากับสิ่งที่เห็น ภาพผู้ชายที่เดินลงจากบ้านมาพาให้ความตั้งใจของหล่อนสลาย แทบหงายหลัง อยากจะขึ้นรถขับหนีไปให้ไกลแสนไกลเปลี่ยนความตั้งใจของตัวเองเสียในวินาทีนี้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
