ตอนที่ 2 : ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
ชื่อปิ่นหทัย ไชยนิยมค่ะ เจ้าหล่อนรายงานตัวเสียงเจื้อยแจ้วกับบรรดารุ่นพี่ในวอร์ด หมอชี้ปังลงมาว่าความงามระดับมิตรภาพของหล่อนน่าจะไปยิ้มรับแขกอยู่ตรงหน้า โอพีดี หรือจุดรับผู้ป่วยนอกเท่านั้น
ปิ่นหทัย หนูนั่งตรงหน้าห้องตรวจนะ อรุณรุ่งพยาบาลสาวรุ่นพี่บอก
ค่ะ เจ้าหล่อนรับคำแข็งขัน
อ้อ! โรงพยาบาลเราเป็นโรงพยาบาลระดับห้าดาว ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานบริการชั้นเยี่ยม ผ่านหมดแล้วทั้งคิวซี และไอโซฯ พี่จึงหวังว่าหนูคงจะสนองรับนโยบายอันดีของโรงพยาบาลเราอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องนะจ๊ะ อรุณรุ่งบอกหล่อนเสียงอ่อนเสียงหวาน ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เจ้าหล่อนก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมาย ที่ผมต้องช่วยให้ลงคานในเร็ววัน
ในรายของอรุณรุ่งคงไม่ยากนักหรอก เพราะเธอมีแฟนแล้วเป็นดีเทลขายยาชื่อว่า อีตาเสวก แต่นายนี่ไม่ใช่คู่แท้ของเจ้าหล่อนหรอก ผมเอาหัวตัวเองเป็นประกันสิ
ค่ะ ปิ่นหทัยเธอสนองรับนโยบายอย่างแข็งขัน ด้วยยิ้มหวานๆบนใบหน้า
อรุณรุ่งพยักหน้าอย่างพอใจ มีรุ่นพี่สาวอีกคนที่หล่อนยังไม่รู้จักเดินเข้ามาพอดีพอดิบ เธอเป็นสาวร่างอวบ ผิวขาวปานหยวก สไตล์หมวยๆ หากเป็นหมวยที่ตาโตชะมัด
ปิ่นหทัยจ๊ะ นี่พี่ขุมพลอยจ๊ะ อรุณรุ่งแนะนำรุ่นพี่คนสวยซึ่งกำลังบ่นเป็นหมีกินผึ้งเข้ามาไม่ได้สนใจว่าวันนี้มีสมาชิกใหม่นั่งหน้าใสอยู่ตรงนี้อีกหนึ่งคน
สวัสดีค่ะ เจ้าหล่อนพนมมือไหว้ชดช้อยงดงาม ผมยกตำแหน่งนางงามมิตรภาพให้เธอเลยครับ
อ้อ สวัสดี แหว่ พี่สาวคนสวยรับไหว้ แล้วแลบลิ้นใส่หล่อน ปิ่นหทัยถึงกับชะงักว่านี่มันเป็นการทักทายอย่างใหม่ของที่นี่หรือไง
อ้อ! ไม่ต้องตกใจหรอกหนูปิ่น พอดีว่าช่วงนี้ตาแดงระบาด พี่ก็เลยกันไว้ก่อน ขุมพลอยให้เหตุผลถึงการทักทายของหล่อน
ขณะที่ปิ่นหทัยกำลังนึกสะอึกอยู่ในใจ ว่ามันอะไรกันนี่ ขุมพลอยพยาบาลสาวเจ้าหล่อนยังเชื่อว่าการแลบลิ้นจะทำให้ไม่ติดตาแดงได้จริงๆหรือ ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นคนในแวดวงการแพทย์แท้ๆ
เดี๋ยวว่างๆ พี่มาคุยนะจ๊ะ ขอตัวไปเช็คหุ้นก่อน ขุมพลอยยิ้มหวานหยดย้อยส่งท้ายพลางขอตัวกับปิ่นหทัย ผู้ที่ยืนงงค้างเนิ่นนาน จึงได้นั่งสงบลงเสียที
ที่นี่มีอะไรแปลกๆอีกเยอะจ๊ะหนู ทำใจหน่อยนะจ๊ะ อรุณรุ่งบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ในขณะที่ปิ่นหทัยกำลังคิดว่า เธอคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่เลือกมาอยู่ที่นี่ แต่ในเมื่อเลือกแล้วก็คือเลือกเลย อย่างน้อยหล่อนอาจจะต้องปรับตัวอีกสักระยะ เพื่อให้คุ้นชินกับที่นี่
โรงพยาบาลเอกชนหรูระดับห้าดาวใหญ่ที่สุดในจังหวัด คนเข้ามารับบริการล้วนแต่คนมีเงินมีทองทั้งนั้น ที่หล่อนต้องทำแน่ๆก็คือ ทำใจ
มันก็คงดีกว่าทำงานงกๆอยู่ในโรงพยาบาลรัฐบาลที่ปัจจุบันสวัสดิการแทบไม่แตกต่างจากการทำงานโรงพยาบาลเอกชนอย่างนี้
จะดีกว่าหน่อยตรงโรงพยาบาลเอกชนจะมีแอร์คอนดิชันเนอร์และอุปกรณ์เครื่องมือที่แสนจะทันสมัย ซึ่งก็แลกกับค่ารักษาที่แพงหูฉี่ ทำให้อะไรๆที่ดูเหนื่อยหนัก น่าหน่ายคลี่คลายลงนิด...เพียงนิดเท่านั้น
แต่งานหนักไม่แพ้กับโรงพยาบาลรัฐบาล ยิ่งอยู่ในรูปธุรกิจ การจ้างงานยิ่งต้องใช้ให้คุ้มค่าเหนื่อย ว่ายังงั้นเหอะ
คนที่พอจะมีเงินหน่อยก็เลือกที่จะใช้บริการของโรงพยาบาลเอกชนมากกว่าโรงพยาบาลของรัฐบาลเพราะมันสะดวกกว่าหลายร้อยเท่า
ปิ่นหทัยจ๊ะ หนูต้องเช็คคนไข้ก่อนเข้าพบคุณหมอว่าแต่ละเคสมาตรวจด้วยอาการของโรคใด..จะได้ส่งแพทย์เฉพาะทางได้ถูก อรุณรุ่งแนะ เจ้าหล่อนพยักหน้ารับคำ
และแน่นอนเมื่อคนไข้ออกมาถามถึงรายละเอียดของอาการที่เขาเป็น หนูต้องมีคำตอบที่ดีและเป็นที่น่าพึงพอใจให้กับคนไข้นะจ๊ะ นาริสา พยาบาลสาวใหญ่รุ่นพี่ผู้เป็นหัวหน้าพยาบาลทั้งหมดแนะนำย้ำกับหล่อน
ค่ะ เจ้าตัวรับคำอย่างแข็งขัน
ก่อนจะนั่งปั้นหน้าสวย เพราะถึงเวลาที่ต้องเริ่มงานแล้ว เช้านี้หล่อนได้นั่งหน้าห้องตรวจหมายเลขหนึ่งของหมอมิ้ง หรือชื่อเต็มๆคือนายแพทย์น้ำมนต์ หมอหนุ่มที่ดูท่าว่าโสด..แท้จริงในใจกลับมีใครเข้าไปครอบครองแล้ว เขายิ้มแย้มทักทายเจ้าหล่อนอย่างอารมณ์ดี
และหล่อนก็ยิ้มให้เขาเช่นกัน เอ! ผมว่าหรือจะเล็งศรรักปักอกปิ่นหทัยกับนายหมอคนนี้ดี เอาน่าดูไปอีกพักหนึ่ง อย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ในลูกศรที่ผมยิง คือการร้าวฉานภายหลัง ดังนั้นก็ต้องมีการตรวจสอบ วิเคราะห์ สังเคราะห์ให้ดี ว่าทั้งคู่จะไปกันรอด ก่อนที่ผมจะเล็งศรรักไปปักอกพวกเขา
เพราะงานที่พบปะผู้คนมากมาย คงจะมีคนไข้หลายรายเชียวล่ะที่มาตกหลุมเสน่ห์ของใบหน้างามๆ รอยยิ้มหวานๆและตาโตๆของเธอได้
นั่นไงหนุ่มคนแรกมาแล้ว ท่าทางหมอนี่ไม่เลวเลยแหละ ดูเขาก่อนดีกว่า
มาพบหมอเป็นอะไรคะ? เจ้าหล่อนถาม มือวางแป้นคอมพิวเตอร์พร้อมคีย์ข้อมูลเข้าสู่ระบบ
นี่! ก็อีกเรื่องที่ผมออกจะหนักใจ ยุคนี้อะไรๆก็เป็นไอทีไปเสียโหม้ด ไอ้การตรวจสอบมาตรฐานและคุณภาพการทำงานของกามเทพอย่างผมก็ไม่ละไม่เว้น
ต้องมีการรายงานความคืบหน้าเป็นระยะๆ เช็คผลงานทุกไตรมาส และภาระกิจทั้งหมดทั้งมวลของผมจะต้องจบภายในหนึ่งปี ก่อนที่ขุมพลอย สาวหมวยคนดุจะอายุครบสามสิบปี เลขอันตรายที่สาวๆเขากลัวกัน
โลกมนุษย์เขาถือกันนักกันหนากับอาถรรพ์เลขสามของสาวๆ ว่าผ่านพ้นไปแล้ว จะหาทางลงคานลำบากยากเย็นนักแล และถ้าภาระกิจนี้ของผมไม่ผ่านพีเอสี่ในห้าคู่ ร่างแมนๆ ใบหน้าแสนหล่อเหลาของผม..คงต้องสูญสลายไปตามธรรมชาติแน่ๆ
ผมจะมาปรึกษาหมอครับ เขาบอก ก้มหน้าเล็กน้อยอย่างเขินอาย
เรื่องอะไรคะ? เจ้าหล่อนถาม นัยตาใสแป๋วจ้องมองอมยิ้มอย่างเป็นมิตร
เดี๋ยวผมคุยกับหมอเองดีกว่า เขาบอก ยังคงก้มหน้างุดอยู่
อืม! งั้นก็ไม่ทราบจะให้พบคุณหมอท่านไหน ต้องแจ้งประวัติอาการเบื้องต้นก่อน เจ้าหล่อนอธิบาย หนุ่มขี้อายที่ก้มหน้างุดไม่ยอมเงยสักที
เอ่อ..คือ ผม เขาชักลังเล เงยหน้ามาสบตาโตๆของพยาบาลสาวแว๊บหนึ่ง ก่อนหลบวูบอีกที
บอกมาเถอะคะ ไม่ต้องกลัว หล่อนย้ำกับเขา ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
คือ ผมพึ่งทำหมันมานะครับ เขาบอก ยิ้มเจื่อนๆ
อ้อ! ค่ะ แล้วไงคะ? เจ้าหล่อนพยายามดันความเขินอายลงไป ยังยิ้มเย็นๆให้กำลังใจคนไข้หนุ่มผู้ซึ่งแบกใบหน้ามีปัญหามาขอคำปรึกษา Service Mind หล่อนพยายามท่องคำนี้ไว้ให้ขึ้นใจเป็นแม่นมั่น
แต่มีปัญหาคือผมคิดว่าหมอทำไม่ค่อยดีนะครับ เพราะว่าเอ้อ! ไอ้นั่นของผมนะ ผมรู้สึกว่ามัน ไม่ค่อยจะ
ครานี้หนุ่มขี้อายตั้งหน้ามาเล่าเป็นชุดๆ หยุดความอายของตัวเองลงในบัดดล เป็นพยาบาลสาวมือใหม่เสียเองที่นั่งหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก
และก่อนที่หน้าเธอจะแดงจนกลายเป็นแม่สีไป ปิ่นหทัยรีบผายมือเชิญชายหนุ่มเข้าห้องตรวจ
เชิญห้องเบอร์หนึ่งค่ะ เจ้าตัวรีบบอกระรัวเร็ว ขณะที่หนุ่มนั่นชะงัก ค้างมือค้างไม้ที่ยกประกอบคำอธิบาย
เอ่อ ผมยังเล่าอาการเบื้องต้นไม่หมด คือว่ามันมีอาการ เขาทำท่าจะเล่าต่อ
เชิญพบหมอค่ะ เจ้าหล่อนย้ำคำเดิมด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนเลื่อนไป
พบหมอได้เหรอครับ ผมยังเล่าอาการไม่หมดเลย เขาถามเจ้าหล่อนสีหน้ายังไม่หายคลางแคลงใจ ก็เธอบอกให้เขาเล่าไง
เชิญคุยกับคุณหมอเองดีกว่าค่ะ เจ้าหล่อนยังยืนยันคำเดิม หนุ่มนั่นจึงลุกขึ้นเดินไปอย่างงงงัน ตกลงเธอจะไม่ให้เขาเล่าจริงหรือ? อุตส่าห์ข่มความอายสุดฤทธิ์แล้วนะนี่
เฮ้อ! ไม่ได้เรื่องเลยมาดูหนุ่มคนต่อไปดีกว่า ท่าทางหมอนี่คมเข้มดีแฮะ ผมชอบ ใส่แว่นตาดำ สวมหมวกแก๊ป เอ๊ะ!น่าสงสัย หวังว่าหมอคงไม่ได้มาปล้นหรอกนะ เพราะนี่เป็นโรงพยาบาลไม่ใช่ธนาคารนะครับ
ปิ่นหทัยเองเธอก็คงสงสัยไม่แตกต่างจากผมเท่าไร เจ้าหล่อนเบิ่งตาโตพยายามมองให้ชัดๆ ว่าหนุ่มคนนี้เป็นอะไรกัน เหตุใดต้องปิดบังอำพรางตนถึงขนาดนี้ด้วย
มาหาหมอเป็นอะไรคะ? เจ้าหล่อนเจื้อยแจ้วเสียงหวาน
ตาแดงครับ อ้อ! เห็นลักษณะที่ใส่แว่นดำมาจึงคลายสงสัย
และเพื่อหลีกเลี่ยงการติดต่อ เมื่อมันเป็นโรคระบาด หล่อนจึงจัดการให้คนไข้ได้พบกับคุณหมอโดยตรง กำลังนึกในใจว่าหล่อนควรจะแลบลิ้นใส่เขาอย่างที่ขุมพลอยทำกับหล่อนดีหรือไม่?
เชิญห้องเบอร์สองค่ะ ครานี้ไม่ต้องซักไซ้ให้ยุ่งยาก
หากในหูเองก็ได้ยินเสียงดังล้งเล้งของหนุ่มในห้องเบอร์หนึ่งคุยกับหมอเรื่องการทำหมันของเขา..เพราะกังวลว่าการทำหมันจะไม่ได้ผล และทำให้ภรรยาตนเองตั้งครรภ์อีก
แม้จะเรียนกายวิภาคศาสตร์มาหลายปีดีดัก หากแต่ถ้อยคำในเชิงลึกที่คุณพี่ขุดขึ้นมาปรึกษากับคุณหมอ ทำเอาเจ้าหล่อนอายม้วนต้วนหน้าแดงอยู่นอกห้องตรวจเพียงลำพัง
จิตใจสาวโสดวัยยี่สิบสี่ของปิ่นหทัย ผู้กำลังจดจ่ออย่างตั้งใจในการปฎิบัติหน้าที่ตามที่นาริสากำชับนักกำชับหนา
หากว่าหล่อนต้องกลายเป็นคุณหมอ แล้วคุณพี่มาเอ่ยถ้อยคำที่เรียกว่า ไม่รู้ไปสรรหาความช่างสงสัยเช่นนี้มาจากไหนมาถามหล่อน หล่อนจะตอบอย่างไรกัน?
จะมีหมอผู้หญิงสักกี่คนที่เลือกที่จะเรียนมาทางด้านนี้ คงจะเพราะกลัวที่จะเจอะเจอกับคนไข้ขี้สงสัยประเภทนี้เป็นแน่
ให้เป็นหล่อน หล่อนเองก็ทำหน้าไม่ถูก แม้จะบอกตัวเองรอบแล้วรอบเล่า ว่านี่มันเป็นหน้าที่ หล่อนเรียนรู้มาแล้ว และได้รับความไว้วางใจ ถึงขนาดที่เรื่องอย่างนี้คนไข้อุตส่าห์มาเล่าให้ฟัง
หล่อนต้องเป็นที่ปรึกษาที่ดี และมีคำตอบที่เหมาะสมให้กับคนไข้ ได้คลายความกังวลใจ ซึ่งมันเป็นเรื่องของจิตวิทยามากกว่าการรักษาโดยตรง
มันเป็นอาชีพ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ต้องชินนะจ๊ะ ปิ่นหทัย ทำใจจ๊ะ ทำใจ เรื่องธรรมชาตินะจ๊ะ เจ้าหล่อนพยายามบอกกับตัวเอง...ก่อนจะดันความอายลงไป พยายามไม่ฟังมาก ก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานบันทึกเพื่อให้นาริสาตรวจสอบภายหลัง
เสียงประตูห้องตรวจเปิดออก หล่อนไม่กล้าแม้จะเงยหน้าขึ้นไปกลัวว่าคุณพี่จะยังปรึกษาคุณหมอมาไม่กระจ่าง และนั่นต้องเป็นหน้าที่ของหล่อนที่ต้องอธิบายเชิงลึก กลัวการซักถามคุณพี่ผู้กังวลกับการทำหมัน ด้วยเขินอาย หล่อนก้มหน้า หลบสายตา ภาวนาอย่าให้เขาสงสัยอะไรอีก เขาได้ความกระจ่างมาแล้ว จากผู้เชี่ยวชาญมากกว่าหล่อน
ออกไปสิคะ คงไม่มีอะไรต้องคุยกับฉันแล้ว เจ้าหล่อนนึกภาวนาในใจ..ก้มหน้างุดๆอยู่กับสมุดรายงานตรงหน้า หากในรัศมีสายตา คุณพี่เดินมาหยุดตรงหน้าเจ้าหล่อน
คุณพยาบาลครับ เสียงเรียกทำเอาปิ่นหทัยสะดุ้งเฮือก ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำตัวยุ่งๆเข้าไว้
มีอะไรหรือคะ? หล่อนหลบตา เหนียมอายกระมิดกระเมี้ยน ถามเขาไปใจคอไม่ค่อยดีเลย
อืม! ผมกลัวติดลูกจะทำอย่างไรดี? คุณพี่เอ่ยสิ่งที่ค้างคาใจและสงสัย
โอ้ มายก็อด นี่มาถามหล่อนอย่างนี้ได้อย่างไร หล่อนเป็นสาวเป็นนางนะ แล้วที่ปรึกษาหมอมาตั้งนาน ไม่ได้ความกระจ่างเลยหรือไรพี่เอ๋ย หากด้วยจรรยาบรรณ
ควรใช้ถุงยางอนามัยนะคะ แนะนำไป หากยังก้มหน้างุดๆไป ไม่กล้ามองหน้าสบตาคุณพี่เลย
อะไรนะครับ?..คุณพยาบาล.. เขาถามหล่อนเสียงดังแทบเป็นตะโกน โง่หรือแกล้งโง่กันนี่ เจ้าหล่อนนึกบริภาษในใจ
เอ่อ ก็ใช้ถุงยางอนามัยไงคะ ตอบเสียงเข้มขึ้น อย่างน้อยถ้าเขาคิดจะมาลองดีหรือล้อเล่นเอากับหล่อนเขาจะได้เกรงใจ
ถุงยางอนามัยนี่นะครับ ป้องกันได้ น้ำเสียงสูง..ยังเจือแววสงสัยคลางแคลงใจไม่หาย
ขณะที่ปิ่นหทัยชักเลือดขึ้นหน้า นี่เขาคิดจะมาลองภูมิกับหล่อนเช่นนั้นหรือ แล้วคำถามที่ถามนี่ ถามมาได้ยังไง ในเมื่อเขาปรึกษากับหมอเรื่องนี้ตั้งเนิ่นนาน
ไม่รู้จริงๆเลยหรือไง คิดจะแกล้งอะไรหล่อนอย่างนั้นหรือ อ๋อ! เห็นหน้าใสๆเป็นเด็กคิดจะล้อเล่นกับหล่อนหรือไง? ปิ่นหทัยตั้งสติ คนไข้ลามปาม เขาไม่เกรงใจหล่อน แล้วหล่อนควรจะเกรงใจเขาอยู่หรือไง? ต้องการคำอธิบายอะไรกันอีก
เอ๊ะ คุณนี่ .ไม่รู้เลยหรือไงว่า เจ้าหล่อนเงยหน้าขึ้นมา ด้วยโมโหโกรธาเล็กๆ
ตาโตๆของเจ้าหล่อนเบิกขึ้นด้วยความโมโห ถ้าคุณคิดจะลองดีกับฉันล่ะก็ คุณก็จะได้เจอดีอย่างที่คุณต้องการ หล่อนนึกในใจ แต่ก็ต้องชะงักงันคำพูดทั้งหมดทั้งมวล
หากจะว่าอะไรได้เล่า เพราะเมื่อเงยหน้าขึ้นมามองชัดๆ หล่อนไม่เห็นหรอกว่าไอ้สายตาภายใต้แว่นดำของคุณพี่นั้น ฉงนฉงายเพียงใด ว่าถุงยางอนามัยป้องกันการติดตาแดงได้จริงหรือ?
ปิ่นหทัยเหมือนจะลืมหายใจ แทบมุดดินหนีอาย หากเท่าที่ทำได้คือยิ้มแหยๆ ก่อนจะบอกคุณพี่ว่า
เชิญรอรับยาด้านนอกค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
