ตอนที่ 9 : ตอนที่ 9
ตอนที่ 9
เจ้าบ้าเอ๊ย! ดันมาปิดโทรศัพท์อะไรในตอนหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้
ตติยะเดินไปเดินมาเป็นหนูติดจั่น มีคำสั่งอย่างลับๆให้ช่วยกันตามหารถของลูกสาวท่านเสรี ที่หายตัวออกจากบ้านไป คนรู้เห็นเหตุการณ์อย่างเขาถึงนั่งก้นไม่ติด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รีบผวากดรับอย่างดีใจ
ทำอะไรอยู่เอ่ย? เสียงหวานกังวานใสของแพรชมพูดังมาตามคลื่น
ไม่ใช่เวลาที่จะมีอารมณ์มาสวีทกับแฟนซักนิด กำลังทำงานจ๊ะ กลั้นใจตอบไป
กระใจพี่เต้ยนี่จะทำงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยหรือไงคะ? น้ำเสียงเริ่มกระเง้ากระงอดงอแง
ชายหนุ่มเงียบ ไม่รู้จะต่อถ้อยคำต่อไปยังไง?
รู้ว่างอนไปก็ดูท่าจะไม่ได้ประโยชน์ เพราะช่วงนี้ตติยะทำงานหนักเหลือเกิน เพราะหวังสร้างผลงาน
พอดีเพื่อนพิ้งเขาจะทำละครเวที เลยได้บัตรฟรีมาสองใบค่ะ
จ๊ะ ตอบสั้นๆไม่รู้จะพูดอะไรออก ความห่วงกังวลในเรื่องหนึ่ง ทำให้ตติยะลืมไปเสียสนิทว่าแฟนสาวของเขานั่นเป็นผู้หญิงอ่อนไหวขนาดไหน
รอบค่ำวันพรุ่งนี้ พี่เต้ยไปดูกับพิ้งนะคะ?
เอ่อ...อ่า....
อย่าบอกนะคะว่าไปไม่ได้ เสียงแหวดังขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังจะขัดใจ
ตติยะหน้าแหย ราวกับว่านาทีนี้ แพรชมพูกำลังมายืนตีหน้ายักษ์อยู่ตรงหน้า
พี่ยังไม่แน่ใจจ๊ะ เสียงอ่อยๆตอบกลับไป
งั้นพี่เต้ยว่างวันไหนล่ะคะ พิ้งจะได้ไปเลื่อนตั๋ว เค้ามีแสดงแค่สามวันเอง
เอ่อ พี่ยังบอกพิ้งตอนนี้ไม่ได้
ทำงานหรือทำอะไรกันแน่คะ พิ้งชักไม่ไว้ใจแล้วนะ น้ำเสียงฉุนกึกอย่างสงสัยทำให้ตติยะรีบระล่ำระลักตอบ
ทำงานจ้า...ทำงานจริงๆ เขาแทบจะกราบกรานขอให้เธอเชื่อ
แน่ใจนะคะว่าไม่ได้มีคนอื่น? ตั้งคำถามอย่างไม่ไว้วางใจ
แสงกะพริบจากสายเรียกซ้อนทำให้ตติยะลนลาน
อย่าเหลวไหลสิพิ้ง แค่นี้ก่อนนะ ตอนนี้พี่กำลังยุ่ง เสร็จแล้วพี่จะโทร.กลับ พูดจบไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาต ตติยะก็กดตัดสายไปเสียดื้อๆ
คนอยู่อีกข้างของปลายสายถึงกับนิ่งตาค้างไป
เป็นอะไรไปน่ะยัยพิ้ง ปลัดกระทรวงฯท่านเพิ่มพงษ์ถามบุตรสาวคนเดียวที่ยืนกะพริบตาปริบๆเป็นตุ๊กตาบาร์บี้
พราวน้ำตากลิ้งลงมาบนแก้มใส
เป็นอะไรไปลูก? ท่านเพิ่มพงษ์ถามอย่างตกอกตกใจ
พี่เต้ยค่ะ.....ฮือ...... พูดได้เท่านั้น คนสวยเจ้าน้ำตาก็ร้องไห้โฮ ทำเอาว่าที่พ่อตาของตติยะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันฮึ่มฮั่มรอชำระความ โอบกอดธิดาคนเดียวปลอบอกปลอบใจกันยกใหญ่
ว่าไงจ่าดำเกิงได้ข่าวคราวอะไรบ้างรึยัง?
ตอนนี้พบรถลูกสาวท่านเสรีแล้วครับ
อยู่ที่ไหน? ถามแทบจะลืมหายใจ
บ้านพักตากอากาศของท่านที่หัวหินครับ ตติยะถอนใจอย่างโล่งอก
แปลว่าณัฏฐ์วศาอยู่ที่หัวหิน แต่เจ้าวลัญช์เพื่อนของเขาล่ะ? อยู่กับเธอด้วยรึเปล่า? ทำไมเขาถึงติดต่อมันไม่ได้ ไอ้หมอนั่นคงไม่คิดหาเหาใส่หัวใส่หัวตัวเองหรอกกระมัง
ว่าแต่ว่า มันหายหัวไปไหนของมัน? โทร.หาก็มีแต่ว่าให้ฝากข้อความ
ดูซิลูกคนนี้ ปล่อยให้พ่อแม่เป็นห่วง? คุณยุวลักษณ์ส่ายหน้าอย่างระอาใจ ระคนโล่งอก เมื่อมาถึงหน้าบ้านพักตากอากาศที่หัวหิน แล้วพบรถของณัฏฐ์วศาจอดอยู่ที่นี่จริง
นี่ถ้าไม่เอะใจ แล้วให้ลุงมิ่งคนที่คอยดูแลบ้านมาดู ป่านนี้ทั้งเธอและสามีคงจะยังคงกระวนกระวายใจเพราะการหายไปของลูกสาวอยู่แน่ๆ เดือดร้อนตำรวจลูกน้องของสามีที่ต้องเสียเวลาไปด้วย
มันน่าหยิกให้เนื้อเขียวจริงๆ เธอคาดโทษเมื่อเห็นสีหน้านิ่งเฉยของท่านเสรีด้วยเกรงใจ
ถึงเวลาจริงๆเคยทำได้มั้ยคุณ? ท่านเสรีถามอย่างรู้ดี
ท่านเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงเหมือนกัน แต่เมื่อเจอตัวแล้วก็โล่งใจขึ้นมานิด ถึงจะรู้มาตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ลุงมิ่งโทร.ไปบอก แต่ก็ทัดทานภริยาขอให้เดินทางมาตอนเช้าแทน
ฝนตกหนัก เสาโทรศัพท์ล้มคุณหนูเลยโทร.บอกท่านไม่ได้กระมังครับ เหตุผลของคนดูแลบ้านทำให้ท่านทั้งสองเบาใจ
ก็นั่นแหละ เหลวไหล ไปไหนมาไหนไม่ยอมบอก โทรศัพท์มือถือก็ไม่ยอมเอามาด้วย คุณนายยังบ่นออดๆอยู่ ผู้เป็นสามีถอนใจอีกครั้ง
ขอบใจมากลุงมิ่ง ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันกับคุณนายจะจัดการเอง
ท่านเสรีหันไปกล่าวขอบอกขอบใจผู้ที่เป็นธุระให้
ลุงมิ่งจึงขี่จักรยานกลับบ้าน ท้องฟ้าวันนี้โปร่งสดใส ผิดกับหลายวันที่ผ่านมาลิบลับ คงอย่างนี้กระมังที่เขาบอกว่าฟ้าหลังฝนมักจะสดใสเสมอ วันนี้จึงน่าจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น ลุงมิ่งคิดแล้วผิวปากปั่นจักรยานไปตามเส้นทางที่เปียกชุ่มฉ่ำอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ไปสิคุณ คิดถึงลูกสาวสุดรักสุดสวาทแทบขาดใจแล้วไม่ใช่เหรอ? สามีถามกระเซ้า
เลยถูกค้อนไปเสียวงใหญ่
กุญแจอยู่ไหนคะนี่? มือแตะที่ประตู แล้วก็ต้องเบิ่งตาโตเมื่อผลักเข้าไปด้านในได้ แปลว่าไม่ได้ล็อก
เลินเล่อจริงเชียว ลืมล็อกประตูได้ยังไง? บ่นพร้อมดันบานประตูให้เปิดกว้าง
สายตาของทั้งสองมองกวาดไปทั่วบ้าน
เออเฮอะ หวังว่าคงไม่มีใครย่องมาขนอะไรออกไปเสียก่อนนะ ดูซิมีอะไรหายไปมั่งรึเปล่า?
ท่านเสรีพูดกลั้วหัวเราะหวังให้ภรรยาคลายหน้ายุ่งๆนั่น
จะเอาอะไรก็เอาไปเถอะค่ะ สมบัติพวกนี้ของนอกกาย ที่มีค่าและสำคัญสำหรับฉันก็มีแต่ยัยลูกแก้วคนเดียวเท่านั้น คนเป็นแม่ว่า แล้วเดินตรงไปยังประตูห้องนอนของบุตรสาว
เฮอะ...รักแต่ลูก แล้วพ่อล่ะ? ถ้าไม่มีพ่อน่ารักๆอย่างผม คุณก็ไม่มีลูกสาวดื้อๆอย่างยัยลูกแก้วเหมือนกันนา ท่านเสรีพยายามขอมีเอี่ยว เดินตามภรรยามาที่หน้าประตูห้อง
ป่านนี้แล้วยังไม่ตื่น ดูซิ แล้วอย่างนี้จะเอาไปขายใครได้
นายบดินทร์ไง? สามีเย้า เลยเจอค้อนอีกวงใหญ่ นึกไม่สบายใจถึงเรื่องที่บดินทร์มาตามหาลูกสาวถึงบ้าน พอรู้ว่าไม่อยู่หายไปตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็หน้าซีดเผือด
เธอรู้เหรอว่าลูกแก้วหายไปไหน?
บดินทร์ส่ายหน้าดิก รีบยกมือไหว้ร่ำลาแล้วผลุนผลันออกไปอย่างมีพิรุธ
จะเป็นใครก็ได้ที่เป็นคนดีและรักลูกเราจริง แต่ขอไม่ใช่นายนั่นได้มั้ยคะ บอกตรงๆว่าฉันไม่ปลื้มเลย ยิ่งนานวันยิ่งไม่มั่นใจ ไอ้ข่าวที่เขาว่าๆก็ดูท่าจะเป็นจริงเสียด้วย ท่านเสรียิ้มบางๆให้ภรรยา ยื่นมือมากุมมืออวบอูมนั่นบีบเบาๆ
เขารักใครชอบใครมันก็เป็นสิทธิ์ เป็นชีวิตของเขา คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราน่ะ ทำได้เพียงคอยชี้แนะให้และยอมรับการตัดสินใจของเขาเท่านั้น น้ำเสียงเย็นหูราบเรียบนั่นทำให้คุณยุวลักษณ์พลอยเย็นลง คล้อยตาม พยักหน้าช้าๆ อย่างยอมรับ
แต่ฉันก็หวังว่าลูกจะเลือกสิ่งดีๆให้ตัวเอง ไม่งั้นฉันคงทำใจยอมรับลำบากค่ะ โดยเฉพาะเรื่องคู่ครอง คนที่จะมาดูแลลูกต่อจากเราไปตลอดชีวิต ถ้าไม่แน่ใจยังไงฉันก็คงปล่อยไปไม่ได้
มือจับลูกบิดผลักเข้าไปข้างในห้อง แล้วก้าวเข้ามายืน ท่านเสรีเดินตามเข้ามา
แล้วภาพบนเตียงนอนของณัฏฐ์วศาก็ทำเอาท่านทั้งคู่แทบช็อกหงายหลังล้มทั้งยืน
ร่างเปลือยเปล่าที่ตะกองกอดกันหลับใหลไม่ได้สติ เหมือนผ่านค่ำคืนอันเหนื่อยหนักหน่วงมากระนั้น
คุณ ท่านเสรีผวาเข้าไปประคองร่างที่เซแซดๆของภริยา ตาของคุณยุวลักษณ์เบิกโพลงแทบไม่กะพริบ มันค้างไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พยายามจะหลับตาลงแล้วลืมขึ้นมาใหม่ เพื่อจะพบว่าภาพที่เห็นนั้นมันไม่ใช่...แต่ไม่ว่าจะกะพริบตาอีกกี่ที ทำยังไงก็ตาม มันก็ยังเป็นภาพเดิม ไม่แปรเปลี่ยนเพี้ยนผิด
อะไรกันนี่? เสียงหวีดแหลมเสียดหูดัง ทำให้คนที่นอนหลับผวาตื่นขึ้นมา
วลัญช์สีหูสีตามองคนที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า แล้วเกิดอาการช็อกตามไปด้วย
เธอ? ท่านเสรีพูดออกเพียงแค่นั้น ภริยาที่ยึดแขนท่านเป็นที่พึ่ง เป็นลมไปเสียแล้ว
เอ่อ สุดจะหาถ้อยคำมาอธิบาย เมื่อหันกลับไปร่างเปลือยเปล่าของลูกสาวท่านกำลังงัวเงียสีหูสีตาตื่นขึ้นมาด้วย
ลูกแก้ว
คุณพ่อ คุณแม่ ณัฏฐ์วศาอุทานอย่างตระหนก ก่อนจะเหลียวขวับมามองผู้ชายข้างๆ
นาย หัวใจวาบขึ้นมาก่อนกระตุกวูบอย่างแรง รีบดึงรั้งผ้าห่มขึ้นคลุมร่างไว้
ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยทั้งคู่ แล้วตามฉันออกไปข้างนอก น้ำเสียงเข้มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนตวาด ประคองร่างคุณยุวลักษณ์ออกไปพัดวีให้ยาดมเรียกสติที่โซฟาหวายในห้องรับแขก
คนเพิ่งตื่นใหม่ จำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
แต่ภาพที่ต้อนรับการตื่นของเธอวันนี้ ช่างชวนให้ขนลุกเสียจริงๆ ณัฏฐ์วศาช็อกไปแล้ว ดวงตาปริบๆที่กะพริบมองผู้ชายที่นั่งอยู่เคียงข้าง พร่าไปหมด รู้สึกคอแห้งจนเปล่งเสียงแทบไม่ออก
กำลังรอฟังอยู่ เขาจะอธิบายว่ายังไงกับสภาพของเธอและเขาในยามนี้
อย่าเข้าใจผิดนะคุณ ผมแค่....
เผียะ ก่อนที่จะพูดจบ ฝ่ามือเรียวฟาดเข้าไปเต็มแก้มจนหน้าหัน
คนเลว คนฉวยโอกาส ฉันไม่น่าไว้ใจคุณเลย น้ำตาพราวพร่างเต็มหน่วยตากลมดำขลับนั่น
วลัญช์พูดไม่ออก ไม่รู้จะอธิบายยังไง สภาพเธอและเขามันชวนให้เข้าใจเป็นอื่นไปไม่ได้
แต่สาบานจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหลวงพ่อพระประธานวัดไหน เขาเพียงแค่กอดเธอไว้เท่านั้น...เอ่อ..อาจจะเผลอไผลไปลูบไล้เนื้อนวลนั่นเข้าบ้าง แต่ก็ไม่ได้ล่วงเกินอื่นใด ถึงขนาดที่เธอจะต้องปิดหน้าแล้วร้องไห้สะอื้นตัวโยนคล้ายกำลังสูญเสียอย่างหนัก เช่นภาพตรงหน้าในตอนนี้เลย
กำปั้นเล็กๆระดมทุบกระหน่ำลงมาอย่างไม่ยั้ง พร้อมเสียงสะอื้นไห้เต็มสองหู นี่คงเข้าใจว่าเขากับเธอไปกันถึงไหนต่อไหนแล้ว ที่วลัญช์ทำได้ในเวลานี้คือแค่ปัดป้องเพียงเท่านั้น
ซวยจริงๆตู....โชคดีนะนี่ที่ขอย้ายไปอยู่ชายแดนเสียแต่เนิ่นๆ
ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์แล้วได้บาปเป็นยังไง เขาเพิ่งเข้าใจในวินาทีนี้
น้ำตาของผู้หญิงสองคน ช่างบีบรัดหัวใจของผู้ชายสองคนในห้องนั้นอย่างเหลือเกิน
คุณแม่ มือบางสั่นระริกของณัฏฐ์วศายื่นไปหา แต่คุณนายกลับปัดทิ้งอย่างไม่ไยดี
ไม่ต้องมาแตะต้องตัวฉัน...ฉันไม่มีลูกสาวใจง่ายอย่างเธอ น้ำเสียงหยามเหยียดนั่นทำเอา ผู้หญิงข้างๆยิ่งสะอื้นตัวโยนเข้าไปอีก เสียใจ ร่ำไห้ประหนึ่งใจจะขาด
วลัญช์ฝืดคอเหลือแสนรู้สึกน้ำลายเหนียวหนึบ มองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างกลืนไม่เข้า คายไม่ออก และคิดว่าทุกๆคนที่อยู่ในที่นี่ ก็คงรู้สึกไม่ต่างจากเขาเช่นกัน
แต่จะพูดยังไงดีล่ะ? จะอธิบายยังไง?
เธอจะว่ายังไง? สีหน้าตึงๆของท่านเสรี พร้อมน้ำเสียงห้วนๆถามขึ้นมาท่ามกลางเสียงสะอื้น
ผมพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างครับ? พูดจาอย่างที่จะแก้ไขสถานการณ์ให้มันดีขึ้น
ว่าแต่ว่า รับผิดชอบอะไรวะวลัญช์? แกแค่เป็นห่วง และดูแลผู้หญิงคนนี้ แต่ดูท่าเรื่องราวมันจะลุกลามใหญ่โตจนกู่ไม่กลับเสียแล้ว
ดวงตาวาววับคลอน้ำตาหันขวับมามองหน้าเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ถ้าเธอทำได้
เขากลัวสายตาแบบนี้จริงๆ
ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรฉันทั้งนั้น เสียงเค้นออกมาอย่างเจ็บแค้น
เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงดี? ว่ามันไม่มีอะไร...ไม่มีอะไร...ไม่มีอะไรจริงๆ
ยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ทำงามหน้าถึงขนาดนี้แล้ว ท่านเสรีตวาดบุตรสาว
ฮือ.................. คนข้างๆเขาเล่นบทโศกอย่างกะโดนพร่าผลาญพรหมจารีไปแล้วจริงๆ
ณัฏฐ์วศานี่เธอเป็นสาวยุคไหนกันแน่?
ผู้ชายทำอะไรหรือไม่ทำอะไรกับร่างกายเธอ...เธอไม่รู้เลยหรือไง?
บางที...เธออาจไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ก็ได้ ถึงไม่รับรู้ความผิดปกตินั่น วลัญช์คิดแล้วก็หันไปมองหน้านองน้ำตาย่นคิ้วอย่างครุ่นคิดหนัก นี่เขาต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่ไม่ได้ทำ กับผู้หญิงที่โดนทิ้งมาจากผู้ชายคนอื่นๆงั้นเหรอ?
ฮือ...ฮือ...ฮือ.... กำปั้นน้อยๆระรัวทุบลงมาบนตัวเขาอีกหลายที
หยุด เสียงตวาดของท่านเสรี หยุดอาการบ้าคลั่งของผู้หญิงข้างๆลงไปได้ชะงัก
เงียบเดี๋ยวนี้นะยัยลูกแก้ว เราใช่เด็กสามขวบเสียเมื่อไหร่ ทำอะไรลงไปก็ต้องยอมรับสิ
ไม่นะคะพ่อ...ลูกไม่ได้.... น้ำเสียงเครือเจือสะอื้นปฏิเสธ พร้อมส่ายหน้าระรัวน้ำตารินร่วงเป็นสาย วลัญช์รู้สึกปวดหัวเหลือกำลัง อยากยุติสถานการณ์ตรงหน้านี้ให้จบลงโดยเร็วที่สุด
เรียกพ่อกับแม่เธอมาพบฉัน แล้วมาตกลงกันว่าจะเอายังไง ให้เร็วที่สุด คำพูดเด็ดขาดของท่านเสรี ทำเอาวลัญช์ตาถลนแทบจะหลุดออกมานอกเบ้า...เรียกมาคุย...คุยอะไรล่ะ?
ไม่นะคะ คำปฏิเสธในทันทีกล่าวออกมาก่อนที่เขาจะทันประมวลผลเสียอีก
ไม่อะไร? ท่านตวาดถามบุตรสาวเสียงกร้าว
พ่อแม่ทะนุถนอมเลี้ยงมา ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ไห้ตอม ยอมมานอนกับผู้ชายอื่นง่ายๆ แล้วจะบอกว่าให้เขาฟรีๆงั้นเหรอ? คำพูดเจ็บแสบของท่าน ทำเอาผู้หญิงที่นั่งข้างๆ ปริ่มว่ากำลังจะขาดใจ
เอ่อ...ท่านครับ เขาพยายามจะอธิบาย
อย่าบอกนะว่าเธอจะปัดความรับผิดชอบ ดวงตาลุกวาวของท่านผู้บังคับบัญชาทำให้วลัญช์อ้ำอึ้งเหตุผลที่จะยกขึ้นมา
ให้เวลาสามวัน ฉันคิดว่าเธอคงเป็นลูกผู้ชายพอ เท่านั้นท่านก็ลุกเดินหนีไป
เขาไร้ซึ่งคำอธิบายแล้วจริงๆ นอกจากยอมรับชะตากรรม
มีอะไรเร่งด่วนนักหนาถึงให้พ่อกับแม่มากรุงเทพฯกะทันหัน? พอลงจากเครื่องบินมา คุณรฐาก็ไม่ให้เวลาลูกชายได้หายใจหายคอ
ผมอยากให้พ่อกับแม่ไปเจรจากับผู้ใหญ่ให้หน่อย
ผู้ใหญ่ที่ไหน? คุณโชติและคุณรฐาเกิดอาการตกใจจนตาแทบทะลุออกนอกเบ้าพร้อมๆกัน เรียกพ่อเรียกแม่มา แล้วบอกว่าให้ไปเจรจากับผู้ใหญ่ จะคิดเป็นอื่นได้ยังไงนอกจากเรื่องผู้หญิงที่ไม่เคยได้ยินระแคะระคายถึงหูมาก่อนเลย วลัญช์เองก็รู้ว่าอธิบายไปก็เสียเวลาเปล่าๆ จึงจูงแขนท่านทั้งสองเดินไปด้วย
แกไปรักไปชอบผู้หญิงที่ไหนทำไมไม่เห็นบอกพ่อแม่ก่อน
เขาถอนหายใจ...
จะให้ไปบอกตอนไหนล่ะ? ในเมื่อเขาเองก็ยังตั้งตัวไม่ทัน ถ้าท่านทั้งคู่จะช็อกก็ไม่น่าแปลกใจหรอก
แล้วนี่ลูกเต้าเหล่าใคร หัวนอนปลายเท้าเป็นยังไง? ว่าที่คนกำลังจะกลายเป็นแม่สามี เริ่มสำแดงฤทธิ์ให้สมบทบาท
เรื่องมันยาวครับ
ก็เล่ามาสิ ฉันกับพ่อแกกำลังตั้งใจฟังอยู่ มารดาเร่งเร้า
ไว้เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในรถก็แล้วกัน? วลัญช์ถอนใจอย่างเหนื่อยล่วงหน้า เมื่อกลับไปนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนนี้
เธอเป็นลูกของเจ้านายครับ เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน
อย่าบอกนะเจ้าว่าน ว่าไปทำลูกสาวเขาท้อง คุณรฐาแผดเสียงสูงจนแสบแก้วหู
คนนิ...ไม่ใช่ปลาทองเสียหน่อย ไอ้มากสุดที่เขาทำก็แค่ลูบๆคลำๆคงไม่ถึงกับทำให้ท้องได้หรอก
เปล่าครับ
แล้วทำไมเค้าถึงเรียกผู้ใหญ่ฝ่ายเรามาพบ กะทันหันอย่างนี้ฉันจะไปเตรียมตัวทันได้ยังไงกัน? มารดาบ่นพึมพำ
วลัญช์ขับรถไปด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่กฏหมายอนุญาต จนกระทั่งเลี้ยวเข้าคฤหาสถ์หลังใหญ่โตที่เขาน่าจะรู้จักมันเสียก่อนหน้านี้ว่ามันตั้งอยู่ที่ใด เรื่องจะได้ไม่ต้องลุกลามใหญ่โตมาจนถึงขนาดนี้
ตายแล้วเจ้าว่าน แล้วฉันจะมีปัญญาหาสินสอดมาขอลูกสาวเค้ามั้ยนี่?
คุณรฐาตาโตเมื่อเห็นอัครสถานของว่าที่ลูกสะใภ้ที่ยังไม่เคยเห็นหน้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อยากจะช่วยเค้า
ตัวเองเลยซวยเลย
รีบมาอัพต่อนะคะ
มาอัพอีกนะคะ