ตอนที่ 2 : ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
เธอเป็นคนสวย....ที่เขากล้าพูดว่าเธอเป็นคนสวย เพราะตอนนี้ภายในดิสโก้เธคเปิดไฟสว่าง ความงามของผู้หญิงตรงหน้า จึงประจักษ์ต่อสายตาของเขาอย่างชัดเจน
เธอยืนกะพริบตาปริบๆจ้องหน้าเขาอย่างไม่วางตา อาจจะเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปหลายแก้วนั่น หรืออาจจะเพราะเธอมีบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลอยู่ในตัว ถึงได้ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเขาในทันที
แต่ที่ณัฏฐ์วศากำลังนิ่งอึ้งตะลึงงันมองตาค้างอยู่ เพราะผู้ชายคนนี้หล่อเข้มชวนมองซ้ำจริงๆ ถึงจะดูรกรุงรังไปก็เหอะและเธอก็ไม่คิดว่าจะพบเขาอีก ในสถานการณ์อย่างตรงหน้านี้
ขอตรวจบัตรประชาชนหน่อยครับ
บัตรประชาชน บ้าสิ เธอไม่ได้เอามา เพิ่งกลับมาถึงประเทศไทยได้สองวันเอง ไอ้บัตรที่ว่านั่นมันหมดอายุไปตั้งปีชาติแล้วกระมัง จะพกมาด้วยทำไมกัน
หน้าตาอย่างฉันคุณคงไม่คิดว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะหรอกใช่มั้ย? คนพูดยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วยครับ น้ำเสียงเข้มมิได้นึกสนุกต่อคำไปกับเธอด้วย
ณัฏฐ์วศาเม้มริมฝีปากน้อยๆ ก่อนเปล่งเสียงออกมาจากริมฝีปากที่วาดลิปสติกสีแดงเฉิดเจิดจ้า
ไม่มี คำตอบออกจากปากอย่างฉุนเฉียวแกมถือตัว
ถ้าอย่างนั้น ผมก็คงต้องเชิญตัวคุณไปโรงพัก เขาทำท่าผายมือเชื้อเชิญ
นายรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นลูกใคร? เสียงที่ลอดไรฟันมาทำให้วลัญช์ทำหน้าเซ็ง
ช่างเป็นคำถามที่น่าเบื่อชะมัด เขาต้องได้ยินมันทุกครั้งสิน่า ที่ขอตรวจบัตรประชาชนของนักเที่ยวในสถานบันเทิง ลูกผู้ใหญ่ผู้โตทั้งหลาย ที่เอาพ่อแม่มาสำแดงเดชเบ่งอำนาจอวดกัน
แต่บังเอิญเขาไม่ใช่ตำรวจที่อยู่ภายใต้สังกัดของใคร เขาทำงานด้วยใจ ด้วยความซื่อตรง และความภาคภูมิในความเป็นตำรวจ....ผู้กองหนุ่มกระตุกยิ้มเล็กน้อย ดวงตาวาววับจับอยู่ที่หน้าเธอ นี่ไงเล่า พวกมีปัญหาของจริง
ถ้าคุณเองยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นลูกใคร ผมก็คงจนด้วยเกล้าที่จะตอบ คำพูดนั้นยียวนกวนประสาทยิ่งนัก
รู้มั้ยว่านายกำลังพูดอยู่กับใคร? น้ำเสียงแหวตวาดแว๊ดอย่างฉุนเฉียวกับถ้อยคำกวนโทสะนั่น
วลัญช์ยิ้มที่มุมปาก อย่าบอกผมนะว่าคุณเป็นอัลไซเมอร์ขนาดที่จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร? เห็นทีผมคงต้องพาคุณไปนั่งนึกต่อที่สน.แล้วล่ะ เขายักคิ้วให้ พร้อมยิ้มอย่างยียวน
การตรวจค้นที่ตรงนี้ ดูเป็นการโจ่งแจ้งเกินไป และโดยเฉพาะถ้าเธอเป็นเป้าหมายที่ต้องสงสัย เธอนั่นแหละที่กำลังตกอยู่ในอันตราย เขาจึงอยากพาเธอไปในที่ที่ปลอดภัย ก่อนที่จะถูกเก็บเสียก่อน
ฉันไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์นะ เสียงแหวอย่างไม่พอใจ พร้อมดวงตาขุ่นๆจ้องมองเขาอย่างไม่ลดละ
งั้นก็กรุณาบอกผมได้มั้ยล่ะครับว่า คุณเป็นใคร?
คนสวยกำหมัดแน่น ถ้าไม่มีสายตาของคนอื่นๆพากันจ้องมองอยู่อย่างสนใจ เธอคงจะตั๊นหน้าหมอนี่ไปซักหมัดแล้วยอมไปเสียค่าปรับที่โรงพักแทนแน่ๆ
แต่ตอนนี้ตำรวจกำลังเข้าตรวจค้นทั้งดิสโก้เธค เรื่องจะเอาท่านรองฯเสรีผู้เป็นบิดามาเบ่ง มีหวังว่า บิดาจะโดนตำหนิเสียเปล่าๆ
ฉันเพิ่งกลับจากอเมริกาได้แค่สองวัน แล้วบัตรประชาชนนั่นมันก็หมดอายุไปตั้งชาติหนึ่งแล้ว ไม่ได้เอามาด้วยหรอก
ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องเชิญตัวคุณไปที่สน.อยู่ดี
นี่นาย....นาย... ชี้หน้าเขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกับใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้ของเขา
คอยดูนะ ฉันจะให้พ่อย้ายนายไปอยู่ไกลๆเลย เธอคาดโทษเขาอยู่ในใจ
ใบหน้าสวยยื่นเข้าไปใกล้ กระซิบให้ได้ยินแค่สองคน
ฉันณัฏฐ์วศาเป็นลูกสาวของรองอธิบดีเสรี ทีนี้จะปล่อยฉันไปได้รึยัง?
เจ้าตัวถอยออกห่าง สายตาจับจ้องที่หน้าเขา เลิกคิ้วโก่งน้อยๆ อย่างถือดีเหนือกว่า
แต่ได้ยิ้มกว้างจากผู้ชายตรงหน้าตอบกลับมาแทนสิ่งที่เธอคาดหวัง
ถ้าอย่างนั้น คุณก็ควรอย่างยิ่งต้องเคารพในกฏหมาย เพราะท่านรองเสรีฯเป็นตำรวจที่ตงฉินมาก
คำพูดของเขาทำให้ ณัฏฐ์วศาสะอึก ขบฟันเม้มปากแน่น
กรุณาให้ความร่วมมือกับตำรวจนะครับ เขากล่าวยิ้มๆเชิงเยาะ
ผู้กองครับ เราพบนี่ตกอยู่ใต้โต๊ะ
จ่าเนตรชูตลับแป้งในมือให้ดู เขาใส่ถุงมือหยิบมันขึ้นมาราวกับเป็นวัตถุต้องสงสัย
ของใครครับ? สาวๆทั้งหกนางไม่มีใครยอมรับ ที่น่าสงสัยเป็นพิเศษคือพวกเจ้าหล่อนใส่สีดำกันหมดทั้งหกคนนี่นะสิ และความสวยของใครก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
ยกเว้นคนหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษในสายตาวลัญช์ และดูจะเป็นคนที่มีปัญหาและน่าสงสัยเป็นที่สุด
พวกเธอพากันส่ายหน้ากันหมด สายตาของวลัญช์จึงกลับมายังโจทย์ตรงหน้าเขา ของคุณรึเปล่า?
ไม่ใช่ น้ำเสียงกระด้างเน้นชัดถ้อยชัดคำกล่าวขึ้น
จ่าเนตรเดินเข้าไปกระซิบข้างหูผู้กองหนุ่ม วลัญช์เบิกดวงตานิดๆ ก่อนจะพยักหน้า
ถ้าไม่มีใครยอมรับเป็นเจ้าของ ผมขอเชิญพวกคุณทั้งหมดไปที่กองปราบฯด้วย เขาบอกอย่างสุภาพ กลุ่มสาวๆทั้งหกนางเหลียวมองกันเลิ่กลั่กหน้าตาตื่น
ข้อหาอะไรมิทราบ? ดูเหมือนตัวปัญหายังก่อกวนไม่หยุด
วลัญช์ถอนใจเบาๆ อย่าให้ผมต้องสวมกุญแจมือคุณเลยนะ มันจะดูไม่ดีคุณณัฏฐ์วศา โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเถอะ พูดจบเขาก็เดินผ่านหน้าเธอไป กลุ่มตำรวจกรูเข้ามาล้อมพวกเธอไว้ พร้อมกับนำทางให้เดินตามหลังคนที่ออกคำสั่งไปด้วย
เต้ยนายดูแลที่นี่ก่อนนะ วลัญช์บอกตติยะที่ยังติดภารกิจตรวจค้นนักเที่ยวคนอื่นๆอยู่ ก่อนจะนำกลุ่มหญิงสาวที่น่าสงสัยออกไปจากที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของพวกเธอ
สายตาของนักเที่ยวในดิสโก้เธคพากันจ้องมองกลุ่มสาวสวยไฮโซฯในชุดดำราวกับตัวประหลาด
สาวสวยตั้งกลุ่ม โดนคุมตัวจากตำรวจ มันหมายความว่ายังไง? ขายหน้าชะมัด
และพอเห็นเขาเดินตามมา ณัฏฐ์วศาก็หยุดลง หันกลับไปเผชิญหน้าเมื่อเดินมาถึงหน้าดิสโก้เธค
มันจะมากไปแล้วนะ พวกเราทำอะไรผิดถึงต้องคุมตัวเหมือนนักโทษด้วย
วลัญช์พ่นลมหายใจยาวรู้สึกเหนื่อยใจที่ต้องมาต่อล้อต่อเถียงกับเธอไม่สิ้นสุด
ในฐานะพลเมืองดี พวกคุณน่าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
ในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย การที่คุณจะจับกุมใครก็ควรจะแจ้งข้อหาให้เขาทราบด้วย
น้ำเสียงฉุนเฉียวนั่นตะโกนดังใส่หน้าเขา เธอเป็นผู้หญิงเจ้าอารมณ์ไม่น้อย หรือว่ากลัวความผิดกันแน่ ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับผู้หญิงเจ้าปัญหาเรื่องมากและยังหัวหมอเสียด้วย วลัญช์ปลอบตัวเองให้ใจเย็น
เราพบยาไอซ์ในตลับแป้งนั่น และคิดว่ามันจะต้องเป็นของพวกคุณคนใดคนหนึ่ง
คำพูดนั่นทำให้ณัฏฐ์วศานิ่งเงียบไป อึ้งอย่างคาดไม่ถึง
พวกเธอทั้งหกคน ล้วนเป็นลูกหลานไฮโซฯบ้านมีฐานะและอันจะกินกันทั้งนั้น ในกลุ่มนี้ จะมีใครซักคนที่เสพยางั้นหรือ? สายตาณัฏฐ์วศามองหน้าเพื่อนอีกห้าคน เพียงออ แนน ลุลี จิราลักษณ์ ชาริตา ที่หน้าตาเลิ่กลั่กกันหมด
ไม่จริงนะ เป็นไปไม่ได้ พวกเราไม่ใช่เด็กมีปัญหา ไม่มีใครเสพยาแน่ๆ อย่ามากล่าวหาพร่อยๆ
ผมไม่ได้พูดว่าพวกคุณในนี้ใครซักคนเสพยา แต่เท่าที่สายรายงานมา คือจะมีการส่งมอบยาต่างหาก จำนวนยาไอซ์ในตลับแป้งนั่น มันขายได้หลายตังค์เชียวล่ะ และจะส่งให้เจ้าของนอนในคุกจนแก่หง่อมถึงจะได้ออกมาเห็นแสงสีตะการตาข้างนอกอย่างนี้อีกได้ คำตอบทำเอาคนฟังอ้าปากค้างเผยอ
ไม่จริง น้ำเสียงเบาหวิวหลุดออกมาจากปากสีชมพูรูปกระจับงาม
จริงไม่จริงเดี๋ยวไปตรวจลายนิ้วมือที่กองปราบฯก็รู้ผล และถ้าคุณทุกคนแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยานั่น ก็ไม่ต้องกลัวไป กฏหมายและตำรวจ คุ้มครองผู้บริสุทธิ์อยู่แล้ว
เชิญ เสียงเข้มเฉียบขาดว่า แล้วผายมือให้เธอ เดินนำหน้าไปอย่างแสนจะหยิ่งจองหอง
ตรวจลายนิ้วมือ...ตำรวจก็จะรู้ว่าเธอเป็นเจ้าของตลับแป้งนั่น
ลุลีกลอกสายตาไปมาอย่างสับสน ตำรวจมากมายขนาดนี้คุมตัว จะรอดไปได้ยังไง แปลว่าเธอต้องโดนจับเพียงคนเดียวงั้นสิ...ไอ้พวกบ้าเอ๊ย!
หายหัวไปไหนของมันกันหมดไม่ยอมออกมาช่วย เห็นทีเธอต้องช่วยตัวเองเสียแล้ว มือตะปบที่เอวเหมือนจะให้แน่ใจว่าอาวุธที่ซ่อนมายังอยู่ ก่อนควานหามีดพับที่ซ่อนเก็บไว้ในเข็มขัดเส้นโต และคนที่ใกล้ที่สุดที่จะช่วยให้เธอรอดไปได้ คือศีรษะได้รูปสวยที่ปกคลุมด้วยเส้นผมเงางามดั่งแพรไหมยาวถึงกลางหลังของคนตรงหน้านี่
ณัฏฐ์วศาพยายามจะกลั้นโทสะที่พุ่งพล่านขึ้นมา กำลังจะก้าวเดินตามไป แต่แล้วก็ต้องผงะหน้าหงายเมื่อถูกกระชากผมอย่างแรงจากเบื้องหลัง กรี๊ด.....
เสียงหวีดร้องหลงนั่น ทำให้วลัญช์หันขวับมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องตกตะลึงตาค้าง โดยสัญชาตญาณเขาชักปืนขึ้นมาเล็งไปยังเป้าหมาย
ตอนนี้ณัฏฐ์วศากำลังถูกล็อกตัวโดยเพื่อนของเธอ หญิงสาวในชุดดำรูปร่างสูงโปร่งปราดเปรียว
อย่าเข้ามานะ คมมีดวาววับสะท้อนแสงไฟจ่ออยู่ที่คอของผู้หญิงเรื่องมาก
ทำอะไรน่ะลุลี ปล่อยลูกแก้วเดี๋ยวนี้ แนนแหวเข้าใส่เสียงดัง พวกเธอถูกตำรวจคนอื่นๆกันตัวออกไปห่างด้วยเกรงอันตราย ลุลีส่ายหน้าน้อยๆ ดวงตามีแววเหี้ยมเกรียม
ไม่...ฉันไม่ยอมถูกจับ เสียงที่เค้นออกมา ทำให้คนตกเป็นตัวประกันรับรู้ว่า เธอรอดยากแน่ๆ
ณัฏฐ์วศานิ่งอึ้งไป คิดไม่ออกว่าทำไมลุลีถึงได้เอามีดมาจ่อคอเธออย่างนี้ นอกเสียจากว่า....
เธอเป็นเจ้าของตลับแป้งนั่น บางอย่างกระจ่างขึ้นมา
อย่าพูดมาก ปลายมีดคมกริบวาววับสะท้อนแสงแปลบเป็นเงากดที่คอหอยจนรู้สึกเจ็บ
ตำรวจตีวงล้อมออกห่าง เมื่อคนร้ายมีตัวประกัน และกระชากร่างบางนั่นเหลียวซ้ายขวาอย่างระแวงระวัง
อย่าทำอะไรเพื่อนคุณนะ วลัญช์ตะโกนต่อรองถ่วงเวลา เหตุการณ์คับขันเข้าตาจนคุ้นๆอย่างนี้เกิดขึ้นบ่อย
เชื่อก็โง่แล้ว ไอ้ตำรวจซื่อบื้อเอ๊ย ลุลีคำรามในใจ
ถ้าไม่อยากเห็นมีดปักคอยัยนี่ล่ะก็ ออกไปให้ห่างจากตัวฉัน
วลัญช์ยังเล็งปืนไปที่ร่างทั้งสอง ระยะประชิดขนาดนั้น การชาร์ตเพื่อช่วยตัวประกันถือว่าเสี่ยงมาก เพราะคมมีดนั่นจิ้มลงไปที่ลำคอของตัวประกันจนเลือดสีแดงไหลเป็นทางตามแนวคอระหงนั่นแล้ว
ทางเดียวที่ทำได้ คือเกลี้ยกล่อมและประวิงเวลาไว้ก่อน คุณต้องการอะไร? เขาเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอ
ดวงตาของลุลีส่ายล่อกแล่กอย่างไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ เธอต้องการหนี และจะหนีไปอย่างปลอดภัยก็ต้องพาณัฏฐ์วศาไปด้วย
ตัวของคนในอ้อมแขนริ่มสะท้านนิดๆเพราะความกลัว ความรู้สึกเจ็บที่คอ และความกลัวที่แล่นลิ่วจับกุมหัวใจทำให้ณัฏฐ์วศาทำอะไรไม่ถูก น้ำตาเริ่มซึมเอ่อคลอครองที่ดวงตากลมสวย
อย่าทำอะไรฉันเลยนะลุลี พยายามร้องอ้อนวอน แต่ดูเหมือนว่าคมมีดยิ่งกดลงมาที่ลำคอของเธอแรงขึ้น จนหลุดเสียงร้อง โอ๊ะ ออกมา
กลัวตายด้วยเหรอ? น้ำเสียงกระด้างที่แปร่งหู ทำให้เธอไม่เข้าใจ
เธอคงไม่คิดจะฆ่าฉันหรอกใช่มั้ย?
ก็ไม่แน่หรอก ลำแขนที่กดล็อกตัวเธอกดแน่นขึ้น กระชากตัวประกันหันซ้ายหันขวาอย่างระวังตัว
เราไม่มีเรื่องอะไรที่ขุ่นเคืองหมางใจกัน
เฮอะ เสียงแค่นหัวเราะเหมือนเยาะในความคิด
และทันทีที่ความคิดกระหวัดกลับไปถึงใครอีกคนหนึ่งที่หักหลัง พราวน้ำตาก็เกาะวับขึ้นดวงตาที่ทอประกายกร้าวแฝงแววร้าวรานของลุลีเช่นกัน
เธอคงไม่รู้ตัวสิว่า ฉันเกลียดเธอ
เกลียด ....คนฟังถึงกับสะอึก
ระหว่างเธอกับลุลีนับว่ารู้จักกันน้อยมาก แต่เป็นเพื่อนในกลุ่มเพราะว่าลุลีสนิทสนมกับแนน อะไรหรือคือสาเหตุที่ทำให้ลุลีเกลียดเธอ
ฉันจำได้ว่าไม่เคยทำอะไรให้เธอ
เธอไม่รู้ตัวหรอก กระชากร่างบางนั่นอย่างไม่ปรานีปราศรัย มองหาทางรอดจากสถานการณ์ที่เรียกว่าทางรอดแทบเป็นศูนย์
ฉันต้องการรถยนต์น้ำมันเต็มถัง ลุลีตะโกนยื่นข้อเสนอไป
เธอคิดจะหนีเหรอ? ณัฏฐ์วศาถามอย่างตะหนก
หรือเธอคิดว่าฉันจะยอมตายอยู่ที่นี่ล่ะ? น้ำเสียงห้วนถามประชด คมมีดกดปักลงไปในคออีก
ณัฏฐ์วศาสะอึกจนหน้านิ่วเพราะความเจ็บจากบาดแผล กัดฟันข่มความเจ็บกลั้นใจต่อรอง
ฉันเชื่อว่าตำรวจไม่ทำอะไรเธอแน่ มอบตัวเถอะ
แล้วไงล่ะ? ต่อจากนั้นฉันก็ไปกินข้าวแดงในคุก สู้คดีเป็นผู้ต้องหายาเสพติด ไอ้ยาไอซ์นั่นนะมันมัดตัวฉันดิ้นไม่หลุดแน่ๆ ฉันจะไม่เห็นเดือนเห็นตะวันอีกหลายสิบปี ออกมาอีกทีก็แก่หง่อม ในขณะที่ปล่อยให้เธอกับมันลอยหน้าพากันเดินสู่ประตูสวรรค์งั้นสิ ทำมาจนถึงขนาดนี้ ฉันไม่ยอมเสียคนเดียวหรอก
คำพูดประโยคนั้นแปร่งหูนัก ณัฏฐ์วศาไม่เข้าใจว่าลุลีกำลังพูดถึงเรื่องอะไร เธอกำลังพูดเรื่องอะไร?
เรื่องที่ผู้หญิงหน้าโง่อย่างเธอไม่รู้ไงล่ะ?
มีดที่กดลงมาบาดลึกจนทำให้ณัฏฐ์วศาสะอึก รู้สึกของเหลวเหนียวเหนอะกำลังไหลจากบาดแผลไปตามร่องอก
โอ๊ย! อุทานออกมาอย่างเจ็บปวด
วลัญช์เริ่มใจคอไม่ดีกับภาพที่เห็น ขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้นานไป อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวประกัน
เลือดสีแดงฉานที่ไหลเป็นทางจากลำคอของณัฏฐ์วศา บอกให้รู้ว่าเธอกำลังอ่อนแรงเต็มทีแล้ว
ผู้กองครับ ตัวประกันกำลังแย่นะครับ จ่าเนตรที่เล็งปืนจ่อไปยังร่างนั่นเริ่มใจเสียไปด้วย
บอกให้หน่วยคอมมาโดเตรียมตัว
ชาร์ตเหรอครับ มันอันตรายและเสี่ยงเกินไปนะครับ จ่าอาวุโสหวั่นเกรงกับคำสั่ง
มันไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว บางทีเราต้องเสี่ยง เขากระซิบบอก ก่อนจะยอมวางปืนลง
ในขณะที่สายตาของตัวประกัน มองเขาอย่างวิงวอนให้ช่วยเหลือเธอ ไอ้ตำรวจงั่งเอ๊ย! มัวทำอะไรของนายอยู่
โอเค พวกเรายอมตกลงตามข้อเสนอของคุณ แต่ปล่อยตัวประกันก่อนได้มั้ย?
ฉันจะเอานังนี่ไปด้วย เสียงตวาดตอบกลับมา
เธอกำลังอ่อนแรงเต็มทีแล้ว จะเป็นภาระคุณเปล่าๆ วลัญช์พยายามต่อรอง
ฉันไม่โง่หรอกน่า....อย่ามัวเสียเวลาพูดมาก ฉันจะปล่อยมันเมื่อแน่ใจแล้วว่าฉันปลอดภัย ถ้าไม่อยากเห็นตัวประกันตายตรงนี้ ก็รีบไปเตรียมรถมา ลุลีตวาดกร้าวเสียงก้องดังกลับไป
ลุลีกำลังจะหนีได้ครับเจ้านาย เสียงดังมาจากในความมืดของคนที่ซุ่มดูอยู่ห่างๆ
มึงไม่เห็นไอ้ชุดดำที่กำลังย่องมาเป็นโขยงนั่นหรือไง? ลูกพี่มันตบหัวลูกน้องดังฉาด....ค่าที่โง่นัก
เก็บมันซะ น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมออกคำสั่ง ก่อนฝีเท้าของคนเป็นเจ้านายจะเดินห่างออกไป
คนได้รับคำสั่งกลืนน้ำลายเอื๊อกลงคออย่างตัดสินใจกับคำสั่งที่ฟังดูช่างโหดร้ายเหลือเกิน
ก่อนที่จะตายฉันควรจะได้รู้ใช่มั้ยว่าเธอเกลียดฉันเรื่องอะไร? น้ำเสียงแผ่วกลั้นใจถามออกมา
ลุลีตวัดสายตามองใบหน้าสวยคนที่อยู่ในอุ้งมือของเธอแว๊บหนึ่ง ใบหน้าของณัฏฐ์วศาซีดเผือดเต็มที
อย่าทำสำออยหน่อยเลยน่า ถ้าคิดจะเป็นเมียบดินทร์ล่ะก็ นอกจากสวย รวย โง่แล้ว เธอยังต้องมีความอดทนให้มากๆเชียวล่ะ ไม่งั้นคงขาดใจตายถ้ารู้ว่าผัวเธอไปเที่ยวกกใครต่อใครได้ไม่เลือกหน้า
คำพูดของลุลีทำให้ณัฏฐ์วศาแข็งใจต่ออีกเฮือก เงยหน้าขึ้นมอง เธอหมายความว่าไง? หรือเธอกับแบงค์
ใช่...ฉันก็เป็นเมียมัน นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายจากดวงตาที่แข็งกร้าว และพราวไปด้วยน้ำตาที่ไหลเป็นทางอย่างขมขื่น ณัฏฐ์วศารับรู้ได้ถึงความเศร้าเสียใจและสิ่งที่อีกฝ่ายสะกดกลั้นอยู่ สติใกล้จะหลุดห้วงเต็มทีแล้ว
เปรี้ยง เสียงปืนดังขึ้น ร่างที่ซ้อนอยู่ข้างหลังเธอสะอึกเฮือก คมมีดปักฉึกลงไปที่คอ ก่อนที่ลุลีจะทรุดฮวบลง พร้อมๆกับร่างของเธอ
ดวงตาที่ใกล้ปิด ภาพตรงหน้า ไอ้นายผู้กองซื่อบื้อยังยืนนิ่งตะลึงงันตาค้างอยู่
นายเบื๊อกเอ๊ย!....นี่นะหรือที่พึ่งของประชาชน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โห นางเอกช่างเก่งจิงๆอ่ะ
วีนพระเอกได้ตลอดเลย
ขนาดจะเป็นลมอยู่แล้ว
ยังไม่วายแอบด่าพระเอกอีกหน่อย
สนุกดีค่ะ แล้วมาอัพไวๆนะคะ