ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOVE MATCH เกมรักพิชิตใจนายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ++นายต้องเป็นเจ้าบ่าวของฉัน (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.27K
      35
      22 พ.ค. 61

    love match เกมรัก พิชิตใจนายมาเฟีย

     

    บทนำ

    ผลัก!

    เลิกเถอะน่า เขาร้องบอกด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ หลังจากสามารถผลักฉันลงไปกองกับพื้นได้ในเวลาไม่ถึงสองวินาทีด้วยซ้ำ!

    ไม่!” เรื่องอะไรจะยอม ถ้ายอมก็เสียชื่อลูกสาวเจ้าของโรงฝึกยูโดอันดับหนึ่งในอินชอนน่ะสิ

    เธอชนะฉันไม่ได้หรอกน่า เขาพูดพร้อมเอานิ้วจิ้มหน้าผากฉันจนหน้าหงาย

    หน็อยยย มันจะมากไปแล้วนะ

    ฉันโกรธผู้ชายตรงหน้าจริงๆ หมอนี่น่ะดูท่าทางก็เหมือนพวกอ่อนแอ แต่ทำไมถึงล้มยากนัก แถมเขายังทำเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายดาย เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางทีมันก็อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาก็ได้ เพราะเขาเป็นถึงหลานชายของแก๊งมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลในอินชอน

    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันน่าเจ็บใจนี่หน่าที่ลูกสาวเจ้าของโรงฝึกยูโดอย่างฉันจะต้องมาแพ้ผู้ชายหน้าสวยตรงหน้า

    เลิกมาท้าฉันสู้สักทีเถอะน่า มันน่ารำคาญ และถ้าฉันรำคาญเธอมากๆ เข้า ฉันอาจจะหักคอเธอก็ได้ เขาพูดพร้อมทำท่าจะเดินกลับไปบ้านตัวเอง

    สักวันฉันจะต้องล้มนายให้ได้!” ฉันประกาศก้อง สักวันฉันจะทำให้นายล้มลงไปกองกับพื้นเพราะฉันให้ได้!”

    เขาหันมามองหน้า ก่อนจะส่ายหัวด้วยท่าทางรำคาญใจเต็มที

    หน็อยยย ทนไม่ไหวแล้ววว

    ฉันวิ่งตรงไปหาเขา ตั้งใจว่าจะกระโดดล็อกคอเขาให้ได้ ฉันคิดว่าเขาคงไม่รู้ตัวแน่ๆ แต่ในวินาทีที่ฉันกำลังจะแตะตัวเขาได้อยู่แล้วนั่นเอง จู่ๆ เขาก็เบี่ยงตัวหลบ ทำให้ฉันเซถลา จนกระทั่งเอาหน้าจูบประตูบ้านตัวเองและหงายหลังกลับมาก้นกระแทกพื้นอย่างแรง

    โครม

    โอ้ยยย ฉันร้องลั่น ทั้งหน้าทั้งก้นเจ็บระบมไปหมด

    มันเจ็บจนน้ำตาแทบเล็ดเลยนะ

    เป็นเด็กผู้หญิงก็ไปหัดทำกับข้าวเถอะน่า เขาพูดพร้อมเอามือตบหัวฉันเบาๆ

    ถ้าแน่จริงมาพนันกันมั้ยล่ะ ฉันร้องบอก มือข้างหนึ่งบีบจมูกตัวเองแน่น เพราะมันชุ่มไปด้วยเลือดกำเดา แต่คำพูดของฉันไม่ได้สร้างความสนใจให้เขาเลยสักนิด เพราะเขายังเดินไปยังทางที่จะกลับบ้านเขา (ซึ่งก็แค่เดินผ่านประตูที่เชื่อมระหว่างบ้านสองหลังเท่านั้น)

    ถ้าฉันล้มนายได้นายต้องเป็นเจ้าบ่าวของฉัน!” อะไรดลใจให้ฉันพูดออกไปแบบนั้นก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าพอพูดออกไปแล้วหัวใจมันก็รู้สึกแปลกๆ

    เขาเองก็คงเหมือนกัน เพราะเขาถึงกับเดินสะดุดเกือบคะมำหน้าจูบพื้น

    ยัยบ้าเอ๊ย พูดบ้าอะไรวะ ใครจะเป็นเจ้าบ่าวของเธอ!” เขาหันมาตีหน้ายักษ์ตวาดใส่ฉันเสียงดังลั่น

    โอ้ ในที่สุดนายก็สนใจฉันแล้วใช่ไหม

    นายไง ถ้าฉันทุ่มนายลงกับพื้นได้ล่ะก็ นายต้องยอมเป็นเจ้าบ่าวของฉัน ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้

    และมันก็สนุกมากเมื่อเห็นหน้าหวานๆ ของเขาบิดเบี้ยว แยกเขี้ยวใส่ฉัน แต่หูกลับแดงก่ำกลบโหมดโหดซะมิด เขาทำเสียงคำรามขู่ก่อนจะตะโกนด้วยเสียงอันดังสนั่น

    บ้าฉิบ! ถ้าพูดว่าฉันจะเป็นเจ้าบ่าวของเธออีกล่ะก็ ฉันจะหักคอเธอซะ!”

    ใบหน้าแดงก่ำของเขาดูไปดูมามันก็น่ารักน่าแกล้งดีเหมือนกันแฮะ ปกติเขาจะตะโกนด่าด้วยท่าทางกวนๆ หรือไม่ก็เย็นชาเป็นก้อนหินแช่แข็ง แต่ตอนนี้เขากลับโหวกเหวกโวยวายลั่นอย่างกับถูกผีเข้า

    นายกลัวล่ะเซ่ ฉันพูดพร้อมเอามือกอดอกมองเขาอย่างขำๆ เพราะทันทีที่ฉันพูด เขาก็แทบจะดิ้นตายตรงนั้นเลย

    ว้าวววว เป็นภาพที่หาดูยากจริงๆ

    ใครกลัวเธอ ยัยหัวแกละ!”

    นาย!” ฉันร้องพลางเอานิ้วชี้หน้าเขาอย่างเจ็บใจ ตั้งแต่เล็กจนโต ตั้งแต่จำความได้ นายนี่ก็ล้อฉันเรื่องผมแกละมาตลอด แถมบางทีเขายังชอบมาดึงผมฉันเล่นด้วย เพราะฉะนั้นฉันจึงไม่ชอบมากๆ เวลาใครมาเรียกฉันแบบนี้

    แล้วที่สำคัญ ฉันก็เลิกทำผมทรงนั้นมาตั้งนานแล้วด้วย!

    เธออย่าคิดว่าเป็นหลานสาวของเพื่อนปู่ฉัน แล้วฉันจะกลัวเธอนะ ยัย หัว แกละ!”

    ฉันพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อนสงบสติอารมณ์ไม่กลัวแต่ก็...ขี้ขลาด

    เขาแยกเขี้ยวใส่ฉันพร้อมย่างสามขุมเข้ามาหาอย่างเอาเรื่อง

    ก็ถ้าไม่กลัวทำไมไม่กล้ารับคำท้าของฉันล่ะ ฉันร้องพร้อมถอยหลังหนี ถ้าแน่จริงก็รับคำท้าสิ แล้วฉันจะยอมถอนคำพูด

    ฉันน่าจะหักคอเธอทิ้งไปตั้งนานแล้ว แชอึนยอง!”

    ฉันวิ่งอ้อมไปหลบหลังต้นไม้ แต่โผล่หน้าออกมาเพื่อพูดกับเขาต่อและตอนนี้นายก็จะไม่ทำ แต่สิ่งที่นายจะทำคือรับคำท้าของฉัน!”

    บ้าฉิบ! ผู้ชายที่ไหนเขาอยากได้เธอไปเป็นภรรยา ยัยหัวแกละทอมบอย

    นายกลัวต่างหากเลยหาข้ออ้าง นายกลัวว่าจะแพ้ฉัน ฉันร้องออกไปพร้อมวิ่งหนีอีกเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้

    ฉัน ไม่ กลัว ใคร หน้า ไหนทั้งนั้น!”

    แต่นายกลัวฉัน ยอมรับมาเถอะน่า

    ฉันไม่ได้กลัวเธอ

    กลัวสิ นายกลัว ถ้านายไม่กลัวจะแพ้ฉันนายก็สัญญามาสิ

    บ้าเอ๊ย! ก็ได้วะ!”

    เห็นไหม มันง่ายนิดเดียว ก็แค่รับคำท้าเอง ฉันร้องตะโกนพร้อมกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ที่ซ่อนอยู่

    งั้นก็รีบมาจัดการเร็วๆ จะได้จบเรื่อง

    ใครว่าล่ะ เราต้องเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร

    อะไรวะ!”

    เป็นตัวหนังสือไง ลงชื่อนาย ฉันลงชื่อ สัญญามีสองแผ่น ฉันกับนายเก็บไว้คนละแผ่น

    เออ อันนั้นรู้แล้ว! แต่สัญญาบ้าบออะไรของเธอ ถ้าอยากสู้กันก็ทำให้มันจบๆ ไปเดี๋ยวนี้เลย ฉันง่วง!” เขาตะโกนอย่างหัวเสีย

    ไม่ได้หรอก มันไม่ยุติธรรมกับฉัน ตอนนี้ฉันยังแตะตัวนายไม่ได้ด้วยซ้ำ ขืนสู้กันตอนนี้ฉันก็แพ้อย่างไม่ต้องสงสัยน่ะสิ

    แล้วจะเอายังไง!”

    รอเดี๋ยวนะ ฉันบอกเขาก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้าน เปิดคอมพิวเตอร์ พิมพ์สัญญาอย่างเร่งด่วน ก่อนจะสั่งพิมพ์ออกมาสองแผ่น ที่ส่วนท้ายของกระดาษมีที่ไว้สำหรับลงชื่อ ฉันอ่านทบทวนสัญญาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าถูกใจแล้วทุกอย่าง จึงเดินเอากระดาษสองใบนั้นพร้อมปากกาออกไปให้เขาที่ยืนด่าลั่นอยู่ข้างนอก

    ทำบ้าอะไรอยู่วะ!”

    เลิกโวยวายสักทีเถอะน่า นี่ สัญญา ฉันบอกพร้อมยื่นสัญญาทั้งสองแผ่นไปให้

    เธอกำลังกวนประสาทฉันใช่ไหมแชอึนยอง!”

    เปล่าๆ ไม่เลย ฉันจริงจังมากเลยต่างหาก แค่นายเซ็น ฉันจะยอมถอนคำพูดทุกคำเลย อย่างเช่นคำว่า กลัว ขี้ขลาด แล้วก็ เด็กติดแม่

    เธอ!”

    โอ๊ะๆ นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ยยยย ไม่นะ ฉันไม่เคยพูดเลยนะว่านายน่ะอ้อนคุณป้าขนาดไหน

    หน้าของเขาแดงเรื่อขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมันพร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ เขาดึงกระดาษในเมื่อฉันไป จัดการลงชื่อที่ท้ายกระดาษทั้งสองใบโดยที่ไม่อ่านรายละเอียดสัญญาสักนิด

    นายไม่คิดจะอ่านเลยเรอะ?

    ไม่จำเป็น ยังไงซะ ฉันก็ไม่มีทางเป็นเจ้าบ่าวของเธอเด็ดขาด เขาพูดจบก็กระแทกกระดาษและปากกาลงตรงหน้าฉัน เซ็นซะ ยัยหัวแกละ!!”

    ฉันทำตามคำพูดเขาแต่โดยดี นายจะมาโทษว่าฉันไม่บอกไม่ได้นะ

    บอกอะไรอีกวะ!”

    ฉันไม่ตอบ แต่ยื่นสัญญาไปตรงหน้าเขาแทน

    นะ นี่มันอะไรวะเนี่ย!!!” เขาร้องลั่น พร้อมทำท่าจะดึงสัญญาไปฉีกทิ้ง แต่ฉันตั้งตัวไว้ก่อนแล้ว จึงรีบดึงสัญญาหนึ่งแผ่นกลับมาและวิ่งหนีให้พ้นระยะเอื้อมของเขา ซึ่งตอนนี้ได้แต่นั่งหน้าเหวอ ดึงกระดาษสัญญาของตัวเองที่เราสองคนได้ลงชื่อไว้แล้วขึ้นมา และเขาก็ทำให้มันกลายเป็นเศษกระดาษในพริบตา เธอตายแน่!”

    หยุดนะ!” ฉันร้องลั่น

    เธอทำสัญญาบ้าบออะไรของเธอ!”

    ไม่ได้บ้าบอนะ ก็แค่...ขอเวลาหน่อยเท่านั้นเอง ฉันร้องบอกเสียงแผ่ว

    โมฆะ เข้าใจไหมโมฆะ!”

    ไม่ได้นะ ถึงสัญญาของนายจะ...กลายเป็นเอ่อ...เศษกระดาษไปแล้ว แต่ของฉันยังอยู่ แถมยังมีลายเซ็นนายด้วย ฉันรีบร้องบอก ซึ่งมันทำให้เขาถึงกับสบถยาวเป็นชุด แถมยังเร็วอย่างกับร้องแร็พยังไงนายก็ต้องรักษาสัญญา

    เขาหันมามองฉัน เขาทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พูด เขาสบถลั่นอีกชุด ก่อนจะเดินกลับบ้านเขาไป ตอนนั้นฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าท่าทีแบบนั้นมันหมายถึงอะไร แต่อีกสองวันต่อมาฉันก็ได้รู้

    เพราะอีกสองวันต่อมาเมื่อฉันวิ่งไปที่บ้านเขา ฉันก็ได้รู้ว่า เขาย้ายบ้านไปแล้ว ย้ายไปอยู่กับพ่อและแม่ของเขาที่โซล

    ฉันกำสัญญาในมือแน่น ไม่รู้ทำไมน้ำตาถึงไหล ไม่รู้เพราะเสียใจที่เขาไปโดยไม่บอก หรือเจ็บใจที่โดนทิ้ง แต่ไม่ว่าจะเพราะความรู้สึกไหนก็ตาม มันก็ทำให้ฉันตั้งปฏิญาณกับตัวเองว่าฉันจะตามหาเขาก่อนที่สัญญาจะหมดลงและฉันจะต้องชนะ

    ยูนมยองมุน นายหนีฉันไม่พ้นหรอก ฉันมีเวลาเจ็ดปีที่จะตามล่านาย และนายจะต้องเป็นเจ้าบ่าวของฉัน แชอึนยองคนนี้!”

     

    เจ็ดปีต่อมา โรงเรียนมัธยมแดซอง

    ฉันมองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น ไม่ได้ตื่นเต้นเพราะสถานที่นี้ใหม่และแปลกตาหรอกนะ แต่ที่ทำให้ฉันตื่นเต้นก็คือคนที่รอฉันอยู่ที่นี่ต่างหาก

    เอาล่ะ ไม่ต้องตื่นเต้นนะ เด็กแดซองเป็นเด็กน่ารักทุกคน ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนบอกเมื่อพาฉันเดินเข้ามาที่หลังเวทีในโรงยิม

    วันนี้เป็นวันเปิดภาคการศึกษา ตั้งแต่วันนี้ฉันก็กำลังจะเป็นนักเรียนชั่วคราวของที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเทอมระหว่างเข้าค่ายเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมแข่งในอีกสามเดือนข้างหน้าต่อจากนี้ นักกีฬาจากทั่วประเทศจะเข้ามาเก็บตัวที่โซล เพื่อสะดวกในการแข่งขัน

    ฉันได้เป็นตัวแทนของอินชอนมาสองปีแล้ว และทุกครั้งฉันก็มักเลือกโรงเรียนที่ฉันได้ข่าวว่าเขาอยู่ แต่ก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เพราะพอฉันขอเข้าไปเรียนที่โรงเรียนนั้นก็จะปรากฏว่าเขาย้ายโรงเรียนไปแล้ว และการที่จะขอเปลี่ยนโรงเรียนทีหลังเป็นเรื่องค่อนข้างยากมาก ฉันจึงได้แต่ทำใจ

    แต่ปีนี้ ฉันต้องยิ้มแก้มแทบปริ ที่รู้ว่าเขายังเรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้

    เดี๋ยวอาจารย์จะเรียกเธอขึ้นไปแนะนำตัวต่อหน้านักเรียนทั้งโรงเรียน แต่ไม่ต้องตื่นเต้นนะ ทำตัวตามสบาย ผู้อำนวยการโรงเรียนยังคงปลอบฉันต่อไป

    ฉันเดินตามผู้อำนวยการโรงเรียนขึ้นบันไดข้างเวที ทันทีที่ฉันก้าวเท้าออกจากม่าน เสียงซุบซิบก็ดังขึ้นทันที

    เงียบๆ กันหน่อย เทอมนี้เราจะมีนักเรียนพิเศษเข้ามาเรียนที่โรงเรียนของเรา ครูหวังว่าทุกคนจะให้การต้อนรับเธออย่างดี อาจารย์พูดจบก็โบกมือเรียกฉัน

    ฉันเดินเข้าไปหา และอาจารย์ก็บอกให้ฉันแนะนำตัว

    อะ แฮ่ม! สวัสดีทุกคน ฉันชื่อแชอึนยอง เป็นตัวแทนนักกีฬายูโดจากอินชอน จะมาเก็บตัวที่โซลเป็นเวลาสามเดือน ฉันหวังว่าทุกคนที่นี่คงจะต้อนรับฉันนะคะฉันพูดพร้อมโปรยยิ้มหวาน

    เสียงโห่ร้องเป่าปากของพวกผู้ชายดังลั่น แต่นั่นไม่ได้ดึงความสนใจฉันเท่าไร เพราะตอนนี้ในสายตาฉันจับจ้องอยู่ที่คนคนเดียวเท่านั้น

    เขากำลังนั่งหลับสัปหงกอยู่ที่เก้าอี้แถวหลังสุด ด้านซ้ายของเขาคือผู้หญิงท่าทางน่ารักๆ ที่พยายามดันหัวเขาออกจากไหล่เธอ ด้านซ้ายของเขาคือหนุ่มหน้าตาดี ที่กำลังนั่งเก๊กท่ายิ้มหวานให้ผู้หญิงแถวหน้า  ที่พยายามกดรัวมือถือเพื่อถ่ายภาพให้เร็วที่สุด และถัดไปอีกสามคนก็เป็นหนุ่มหน้าตาดีไม่แพ้กัน

    แต่ถึงจะมีหนุ่มหล่อนั่งเรียงกันห้าคน แต่ในสายตาฉันมีเพียงเขาเท่านั้น ฉันจำเขาได้ในทันทีที่เห็น หน้าตาเขาแทบไม่เปลี่ยนไปเลยจากเมื่อเจ็ดปีก่อน ผมของเขายังคงชี้โด่เด่เหมือนไม่ได้หวีมาสิบชาติเหมือนเดิม จะดูต่างไปบ้างก็เพราะรูปร่างที่ดูเป็นผู้ชายมากขึ้นล่ะมั้ง

    ก็นะ มันตั้งเจ็ดปีแล้วนี่

    เอาล่ะกลับไปนั่งที่เก้าอี้ได้แล้ว อาจารย์คนหนึ่งพูดขึ้น แต่ฉันยังไปไม่ได้

    ขออีกแป๊บนะคะฉันหันไปบอกอาจารย์ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ สายตาจับจองมองคนหลับไม่รู้เรื่อง

    อย่างน้อยฉันก็ต้องประกาศเจตนาของฉันให้เขารับรู้ หึ หึ

    ยูนมยองมุน นายจะต้องเป็นเจ้าบ่าวของฉัน!!!”

    โครม!

    เสียงใครบางคนหงายหลังจากเก้าอี้ดังสนั่น

    ...................................................................................................................................


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×