คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #96 : :: Chapter 63 : เิพราะรักนะ เพราะชั้นรักนายจริงๆ ::
“อ๊างง งงงง.. ค..คิบอม...”
เสียงหวาดหวีดร้องก้องคับห้อง ดงเฮร่อนสะโพกส่ายรองรับทุกอย่างที่เป็นของ ชายหนุ่มเข้ามาในร่างกายด้วยใบหน้าขึ้นสีจัดอย่างคนเพิ่งผ่านบทรักมาด้วยความร้อนแรง จังหวะที่ชายหนุ่มบนร่างทรุดตัวลงมาทับพร้อมกับปลดปล่อยความรักทั้งหมดที่มีมอบให้ ร่างเล็กก็ฉวยโอกาสกดจูบแรงๆ ลงที่ไหล่หนา ผิวอุ่นๆ จนร้อนผะผ่าวของคิบอมขึ้นสีเข้ม เป็นรอยเพราะคนสวยที่อยากตีตราจอง
เพราะเขาไม่เคยได้จองร่างกายและหัวใจคิบอมอย่างที่อีกฝ่ายทำแบบนั้นใส่ช่องทางคับแคบของตัวเอง รอยจุมพิตเข้มๆ นี้จึงเป็นทางเดียวที่จะประกาศให้ใครต่อใคร ทั้งโลกได้รับรู้ว่าคิมคิบอมเป็นของลีดงเฮ
คิบอมดูหมดแรงไปจริงๆ ชายหนุ่มทิ้งตัวลงมาทับทั้งที่ยังแช่ร่างเอาไว้ในกาย เขาแบบนั้นด้วยท่าทางเหนื่อยล้า ใบหน้าคมสันนี้ดูเคร่งเครียดและมีร่องรอยของการใช ้ความคิดอย่างหนักอยู่ตลอดเวลาไม่เหมือนคิบอมคนเดิม
“ลิ้มบอม” คนมีแรงขึ้นมาเล็กน้อยเรียกคิบอมเสียงเบา
“...”
“นี่... อ..อ้าว หลับเหรอ” ลมหายใจสมํ่าเสมอของคิบอมทำเอาคนสวยงงไปหมด ปกติถ้าไม่ถึงสองรอบ
คิบอมแทบจะไม่ยอมข่มตาหลับ แล้วนี่ทำไม? “สงสัยเหนื่อยจัด ไปทำอะไรของเค้ามานะ” ว่าจบก็พลิกร่างกายแข็งแรงให้ลงไปนอนสบายๆ บนพื้นที่อีกฝั่ง มือขาวดึงผ้า
ห่มมาคลุมกายให้ชายหนุ่มจนถึงหน้าอกแข็งแรง ไม่มีความรู้สึกอยากหลับสักเท่าไหร่จึง ได้นอนควํ่าเท้าคางมองใบหน้าหล่อเหลาของคิบอมด้วยสายตาซุกซนไปเพลินๆ “พรุ่งนี้ก็จะไปแล้ว แถมไม่อยู่ตั้งสองเดือน จะคิดถึงกันมั่งมั๊ยเนี่ย” พึมพำ เสียงเบา บิดแก้มอูมอย่างหมั่นเขี้ยว “นอนน่ารักจริงๆ”
“เดี๋ยวนี้ชอบทำหน้าเครียดประจำเลย” งึมงำต่อไปเสียงเบายิ่งกว่าเดิม สีหน้า สลดลงนิดหนึ่ง น้อยอกน้อยใจคิบอมอีกแล้ว “มีอะไรไม่คิดจะบอกกันมั่งเลยเหรอ”
“ถึงช่วยไม่ได้แต่ก็เป็นห่วงนะลิ้มบอม บอกกันบ้างอะไรบ้างสิ ถ้าชั้นไม่อยู่สัก คนแล้วจะมีใครคอยตามใจฮะ อย่าได้ไปทำนิสัยแบบนี้กับใครเชียวนะ”
“เป็นห่วง เป็นห่วง เป็นห่วง รักมากรู้ใช่มั๊ย”
ดวงหน้าหวานซบลงที่อกหนา ดงเฮหลับใหลไปพร้อมกอดก่ายคิบอมไว้ด้วย ความอ่อนโยน รู้ดีว่าคิบอมชอบมีเขาอยู่ใกล้ตัวไม่ยอมให้ห่างไปไหน ดงเฮเองก็เช่นกัน
รักมากนะ รู้ใช่มั๊ย ?
ช่วงเย็นของวันนี้ดงเฮแต่งตัวออกจากห้องคิบอมไปเงียบๆ พร้อม Post it หนึ่งใบ ที่แปะไว้ใกล้ตัวชายหนุ่ม ในตู้เย็นมีข้าวกล่องทำไว้ให้ทานแล้วเรียบร้อย จุมพิตหนักๆ บนแก้มนุ่มของคิบอมด้วยรอยยิ้มและรีบออกไปจากห้องเพราะเสียงโทรศัพท์ของคิมฮีซอล ที่คอยตามจิกยิกๆ ให้กลับไปทำอาหารเย็น
ชายหนุ่มตื่นขึ้นเพราะเสียงรบกวนดังลั่นห้อง แขกที่ไม่ได้รับเชิญกดออดรัวถี่เสีย จนออกไร้มารยาท หรืออาจเพราะกดอย่างมีมารยาทอยู่หลายครั้งแล้วแต่เจ้าของห้องยัง ไม่ขยับนั้นก็ไม่ทราบ คิบอมแต่งตัวกันอุจาดไม่เร่งรีบอะไรนัก คิดว่าคงไม่ใช่ดงเฮเพราะ เจ้าตัวมีคีย์การ์ด หรือถ้าลืมอีกคราวนี้โดนทำโทษแน่ๆ
แท่งเหล็กขีดยาวสีเงินถูกจับและบิดลง คิบอมมองบุคคลเบื้องหน้าด้วยสายตา ตะลึงงัน
“เซอร์ไพรส์!!”
“ม..แม่ครับ...” ชายหนุ่มเข่าแทบทรุดเมื่อมารดากระดี๊กระด๊าเบียดตัวเขาเข้า ห้องไป คิบอมมองแผ่นหลังของพ่อที่เดินตามไปด้วยความหวั่นใจ
เคยคิดอยู่แล้วว่าสักวันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ดังนั้นห้องต่างๆ คิบอมจึง จัดการไม่ให้เหลือร่องรอยของการใช้ชีวิตร่วมกับดงเฮไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน จะ เหลือก็แต่ห้องนอนที่ทำอะไรไม่ได้เพราะวอลเปเปอร์ของคนสำคัญคือสิ่งที่เขาหวงแหนและ รู้ดีว่าดงเฮคงจะเสียใจเมื่อรู้ว่ามันไม่อยู่ที่เดิม
“ทำไมจู่ๆ ถึงมากันล่ะครับ ไม่โทรบอกผมก่อนเลย กำลังนอนเพลินๆ”
คิบอมไม่มีท่าทีพิรุธใดๆ
“ก็ผ่านมาแถวนี้น่ะจ้ะ เลยโทรไปถามคุณพ่อบ้านว่าคอนโดคิบอมมี่อยู่ไหน กำลังจะขับรถผ่านพอดี๊พอดีก็เลยให้พ่อเค้าเลี้ยวมา แม่ทำอาหารให้คิบอมทานดีมั๊ยเอ่ย” ผู้เป็นแม่มีความสุขกับการประกอบอาหารอยู่เสมอ คิบอมยิ้มๆ ให้หล่อนพลางเหลือบมอง จองฮวานที่กำลังใช้สายตามองไปรอบๆ ห้องลูกชาย
“อ้อ เมื่อกี้เพื่อนผมแวะเอาข้าวมาฝากแล้วครับ แม่ไม่ต้องลำบากหรอก”
คิบอมรีบพูดทันทีที่ยูรินเห็นข้าวกล่องสีชมพูหวานจ๋อยอยู่ในตู้เย็น
“เพื่อน? ฮั่นแน่! หนูดงเฮของแม่แน่ๆ เลย” มันถูกใจ คิมยูรินก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ใบหน้าหวานๆ ของคนในโทรศัพท์ลูกชายมันยังตรึงใจหล่อนไม่รู้คลาย
“ก็... ใช่ครับ” คิบอมยิ้มเก้อๆ
“แล้วเพื่อนแกมาค้างกันบ่อยหรือเปล่า” คำถามแรกที่หลุดออกมาจากปากของ พ่อทำเอาคิบอมน้ำลายหนืดคอไปหมด
“มีบ้างครับ แต่พักนี้ไม่ค่อยได้มา” ไอ้ที่มาพักจนแทบจะอยู่ด้วยกันก็มีแค่คน เดียวนั่นละ
“สะอาดเรียบร้อยดีนะ” จองฮวานมีสีหน้าพอใจลูกชายไม่น้อย ไม่ได้รู้เลยว่าที่ เป็นแบบนี้ได้เพราะว่าที่สะใภ้คนสวยทั้งนั้น
“คิบอมมี่มาทานสิจ๊ะ แม่อุ่นข้าวกล่องให้แล้ว แอบชิมแล้วด้วย ฝีมือสะใภ้แม ่ไม่เบาเลยนะ อร๊อยอร่อย”
“เหรอครับ” คิบอมยิ้มกริ่ม ยิ่งถูกชมถูกพูดถึงดงเฮมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขา รู้สึกว่ายูรินคงพออกพอใจในตัวลูกสะใภ้ที่เขาหามาให ้นั่งลงบนเก้าอี้แล้วนั่งทานไปพลาง สลับกับพูดคุยกับพ่อของเขาบ้างอะไรบ้างไปพลาง
“อา... แย่จริงๆ กระเป๋า” ดงเฮย่นหน้าทันทีที่คิดได้ว่าลืมกระเป๋าเดินทางของ ตัวเองไว้ที่คอนโด ไม่มีใบนั้นก็ไม่รู้ว่าจะยัดเสื้อผ้าทั้งหมดใส่ไปได้ยังไง
“พี่ครับ รบกวนกลับไปที่คอนโดอีกรอบนะครับ ผมลืมของ”
“ครับ”
จองฮวานพูดให้ฟังถึงความเป็นไปในหลายๆ เรื่องของธุรกิจที่เขาต้องรับผิดชอบ ต่อในอนาคต คิบอมฟังสลับกับให้ความเห็นเมื่อบิดาเอ่ยถาม เช่นเคยที่คิบอมไม่เคยทำ ให้เขาผิดหวัง ทัศนคติของชายหนุ่มกับการมองในเชิงธุรกิจถอดแบบออกมาจากเขาไม่ผิดเพี้ยน
พอถูกถามเกี่ยวกับงานวันเกิดของญาติผู้น้องอย่างคิมเรียวอุคคิบอมก็ตอบว่า ราบรื่นดีเหมือนทุกป ีจองฮวานพูดถึงทิฟฟานี่ที่แทยอนคอยกระเตงไปไหนมาไหนด้วย ความรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนักกับหลานสาว คิบอมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ว่ากันไป ส่วนหลานสาวคนนี้มีทีท่าว่าจะรักชอบผู้หญิงด้วยกันแล้วก็ชักทำหน้าไม่ถูก ไหนจะยัง หลานชายคนเล็กที่ดูท่าอ้อนแอ้นสะบัดสะบิ้งตั้งแต่เด็กอย่างนู้น
การไปต่างประเทศในทุกๆ เดือนของเขาพอจะทำให้เข้าใจโลกนี้ขึ้นมาบ้างถึงทุก อย่างที่เปลี่ยนไป เข้าใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมรับได้เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว เช่นคิมแทยอนหลานสาวของเขา
ผ่านไปหลายสิบนาทีคิบอมไม่ได้ยินเสียงของมารดาอย่างที่คุ้นเคยก็เริ่มรู้สึก สังหรณ์ใจแปลกๆ กระสับกระส่ายร้อนรนจนกระเดือกอาหารแสนอร่อยตรงหน้าต่อไม่ลง
“ชั้นว่าชั้นจะพาแม่แกกลับแล้ว อยู่นี่ก็ดูแลตัวเองดีๆ” จองฮวานเอ่ยขึ้นก่อนหัน มองรอบๆ พอไม่พบร่างที่แสนหวงแหนก็เอ่ยปากเรียก “ยูริน”
คิบอมกลืนน้ำลายเมื่อมีเพียงความเงียบกลับมา จองฮวานขมวดคิ้วลุกไปตาม ภรรยาในส่วนห้องทำงาน คิบอมรีบเดินไปทางห้องนอนของตัวเองทันทีพร้อมลมหายใจที่ แล่นไปไม่ทั่วปอด
คิบอมเปิดประต ูสีหน้าตกใจของมารดาหันขวับมาทางเขา มือบางนั้นปิดปาก ตัวเองแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่หล่อนเพิ่งได้พบเห็นในห้องนอนน ี
ลูกชายหน้าชา มารดากำลังยืนอยู่ต่อหน้ารูปของเขากับดงเฮในชุดนักศึกษา ที่ผู้ชาย... ล้วนแต่งกายด้วยกางเกงขายาวต่างกับผู้หญิง
คนๆ นี้ คนๆ เดียวกันกับคนทั้งหมดในรูป
คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าแฟนของลูกชาย ลูกสะใภ้ที่คิบอมหามา ให้ ไม่ใช่ผู้หญิง
“แม่...”
“ยูริน กลับกันได้แล้ว”
จองฮวานเอ่ยพร้อมกับแทรกตัวผ่านคิบอมเข้าไปกุมมือภรรยาให้เดินไปพร้อมกัน แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องชะงักลงเมื่อสายตาอันคมกริบสอดส่องไปทั่วทั้งห้องนอน วินาทีนี้ชายหนุ่มหน้าถอดสี ก้มหน้านิ่งด้วยลมหายใจอันแสนติดขัด หลบ สายตาผิดหวังของมารดาที่มองมาด้วยความรู้ทรมานอัดอั้นทั้งหัวใจ
คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อเห็นรองเท้าสองคู่ของชายและหญิงถอดวางอยู่เบื้องหน้า ดงเฮถอดรองเท้าข้างๆ แล้วเดินไปด้านใน คิบอมคงมีแขกเพราะงั้นมาเงียบๆ ไปเงียบๆ คงจะดีกว่า
“แกมันวิปริตไปแล้วคิบอม!!!”
เสียงตวาดลั่นทำเอาดงเฮสะดุ้ง มือถือกระเป๋าเท้าเดินไปที่ห้องคิบอมตามต้น เสียง ดวงตากลมลอบมองเข้าไปในห้องนอน เห็นร่างคุ้นเคยที่นั่งอยู่ปลายเตียงลุกขึ้น เถียงชายอีกคนที่มีท่าทางละม้ายคล้ายกันด้วยสีหน้าครํ่าเครียด
“ผมไม่ได้รักผู้ชายไปทั่วนะพ่อ! ผมรักที่เค้าเป็นเค้า!! แค่เป็นเค้าเท่านั้นเรื่องอื่นผมไม่สน!”
พ่อ...? พ่อคิบอมงั้นเหรอ
“ชั้นก็ไม่สนว่าแกจะรักเค้าเพราะอะไร แต่มันผิด! แกมันบ้า ไปรักกันลงได้ยังไง นั่นผู้ชายนะคิบอม เค้ามีทุกๆ อย่างเหมือนกับแก เหมือนที่แกมี ผู้ชาย!!!”
ใครคนนั้นสะดุ้งเฮือก มือขาวกำกระเป๋าในมือแน่น หวั่นเกรงความเด็ดขาด ของบิดาคนที่เขารักจนตัวสั่นแทน ไหนจะสงสารคิบอมที่ต้องถูกพ่อแท้ๆ ของตัวเองตะโกน ใส่หน้า ซํ้ายังรับไม่ได้ที่ตนเป็นผู้ชายอีก
ทุกอย่างกำลังประดังเข้ามาโจมตีความรู้สึกของลีดงเฮให้ฟุ้งกระจุย
“แต่ผมรักของผม เหมือนที่พ่อรักแม่” คิบอมพยายามวอนขอความเห็นใจ เสียงพ่นลมตอบกลับมาแทบจะในทันที
“รักของแกมันประหลาด ใครเค้ายอมรับกันที่ไหน!”
“ไว้พ่ออารมณ์เย็นกว่านี้แล้วเราค่อยมาพูดกัน” คิบอมเลือกที่จะเดินออกไปจาก ห้องด้วยความคิดที่ว่าเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนไปจากลีดงเฮแม้พ่อและแม่จะไม่มีวันยอมรับได ้ก็ตาม
“คิมคิบอม! ถ้าแกออกไปพ้นประตู ชั้นกับแกขาดกัน!!!” คิบอมหันมองพ่อบังเกิดเกล้าอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นคนแอบฟังทุก
คำพูดน้ำตาร่วงผล็อย รู้ดีถึงความบอบช้ำในหัวใจของคิบอม ไม่อยากเลย... ไม่อยากให้คิบอมต้องลำบากใจเพราะเรื่องของเขาเลยจริงๆ “เลิกกับเด็กนั่นซะ!!!” “ไม่ครับ” “คิมคิบอม!” “คุณคะ...” ดงเฮได้ยินเสียงสะอื้นของหญิงสาวอีกคน คาดว่าคงเป็นแม่ของคิบอมที่
พยายามปรามอารมณ์กรุ่นโกรธของสามีทั้งน้ำตา
ลิ้มบอม...
[ฟังอยู่หรือเปล่าเนี่ย หนูด๊อง]
“อ..อืม ฟังอยู่ๆ”
[เงียบๆ นะวันนี้]
“ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอ่า” ตอนแรกที่เห็นชื่อของเขาว่าโทรเข้ามาก็นึกว่าคิบอมคงจะเล่าเรื่องอะไรบางอย่าง
หรือระบายความรู้สึกที่อัดอั้นออกมาให้ฟังบ้าง แต่ไม่เลย ทั้งที่ถูกบิดาพูดตัดเป็นตัดตาย ถึงขนาดนั้นคิบอมก็ยังทำตัวปกติพูดคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อยเหมือนทุกครั้ง ไม่พูดแม้กระทั่งปัญหาที่กำลังเผชิญและทำเหมือนต้องการแบกรับมันไว้คนเดียว
ทั้งที่เป็นเรื่องของเราสองคน
“คิบอม”
[อื๋อ?]
“วันนี้น่ะ เค้ากลับไปที่ห้องอีกครั้งนึง เค้าได้ยินที่คิบอมทะเลาะกับพ่อ” เสียงผะแผ่วพูดด้วยความรู้สึกละล้าละลัง เหมือนกับลมหายใจถูกลิดรอนออกไปทุกครั้งที่เอ่ย ออกมาในแต่ละคำ
[
รู้...?]
“อืม รู้ ได้ยินหมดทุกอย่าง พ่อกับแม่นายรับไม่ได้ที่เค้าเป็นผู้ชาย”
[ดงเฮ มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวลมากถึง...]
“กังวลสิ” เสียงหวานขัดประโยคคิบอม “เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญ มันเป็น เรื่องของเรานะคิบอม ถ้าชั้นไม่พูดมันออกมาใจคอนายก็จะไม่บอกชั้นเลยใช่มั๊ย”
ไม่ได้ชวนทะเลาะ ดงเฮน้อยอกน้อยใจจนกลั้นน้ำตาแทบไม่ไหว หวาดกลัวที่ จะต้องเลิก หวาดกลัวที่จะไม่ได้เป็นคนสำคัญ หวาดกลัวว่าจะกลายเป็นคนที่ถูกทิ้ง
[ผมไม่อยากให้คุณกังวล ไม่อยากให้ร้องไห้]
“รู้ แต่นายเป็นแบบนี้มันยิ่งทำให้ชั้นรู้สึกว่าเราเริ่มห่างกันไปเรื่อยๆ”
[...]
“อยากเป็นคนที่ไม่ว่าเรื่องอะไรนายก็สามารถพูดกับชั้นได้ทั้งหมด ไม่อยากให ้เก็บไว้คนเดียว ชั้นอยากจะเป็นคนที่คู่ควรกับคิบอมจริงๆ นะ”
[...รู้ตัวใช่มั๊ยว่าผมเสียคนดีไปไม่ได้]
“อืม”
[ถ้าคุณเข้าใจทุกอย่างต้องสัญญาว่าจะไม่ทิ้งผมไป]
“ทำไมต้องทิ้ง เค้ารักลิ้มบอม ถ้าลิ้มบอมไม่ผลักไสหรือหมดรักในตัวเค้าต่อให ้จะเกิดอะไรขึ้นเค้าสัญญาว่าจะไม่หน ีจะอยู่ข้างๆ ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่ยากมากแค่ไหน ทั้งตัวทั้งหัวใจก็ให้ไปจนไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ทุกอย่างของชั้นเป็นของคิมคิบอมทั้งหมดแล้วจริงๆ”
คนฟังสาบานว่าชั่วทั้งชีวิตจะขอจดจำประโยคเหล่านี้ไม่ให้ผิดเพี้ยนแม้แต่คำ เดียวไปจนวันตาย รักคนๆ นี้ รักมากเหลือเกิน
[พ่อผมยื่นคำขาดให้เลิก] ในที่สุดคิบอมก็ยอมเปิดปากเล่าเรื่องราวทั้งหมด [คอนโดขายแล้ว ผมถูกบังคับให้กลับมาอยู่บ้าน คงจะไม่ได้ออกไปไหน พรุ่งนี้ก็คงไปส่ง คุณไม่ได้]
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่คอนโด...”
[ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมให้ฮันกยองซื้อไว้แล้ว]
“แล้วจะทำยังไงต่อไป”
[อืม ก็คงทำทุกอย่างล่ะมั้ง อย่าห่วงเลยนะ]
“เค้าเชื่อใจลิ้มบอมอยู่แล้วอ่ะ แต่มันอดเป็นห่วงไม่ได ้พ่อกับแม่ของคิบอม ท่านว่ายังไงบ้าง”
[พ่อผมเขาเด็ดขาดของเขาอยู่แล้ว ผมไม่พูดด้วยหรอก อารมณ์แบบนี้ผมจะไม่ พูด เขาก็จะไม่พูด แต่ถ้าพูด นั่นคือทะเลาะ ส่วนแม่น่ะเหรอ... ตอนกลับมาบ้านเรา คุยกันนะ ผมถามว่ารังเกียจผมมั๊ยที่เป็นแบบนี้ แม่บอกว่าไม่ แต่ท่านก็ตอบว่าผิดหวัง]
“...”
[ตอนนั้นรู้สึกทรมานเป็นบ้า แต่พอแม่ผมบอกว่าเขายอมรับตัวผมได้ทุกอย่าง มันก็ทำให้ผมรู้สึก.. ตื้นตัน เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ทั้งกอดทั้งอ้อนแม่เลยล่ะวันนี้] คิบอมขำตัวเอง
“ดีจังเลยนะ”
[แบบนี้แหละ ในขณะที่พ่อผมใช้อารมณ์กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาไม่พอใจ แม ่ผมก็คือคนที่แก้ไขทุกอย่างจนเขาพอใจ คนที่ทำให้เขามีความสุขได้ก็มีแต่แม่เท่านั้น]
“พูดแล้วอยากเห็นหน้าท่านเลย”
[ผมว่าผมเห็นบางอย่างของแม่ในตัวหนูด๊องนะ]
“ฮะๆ งั้นเหรอ”
[แต่ว่า
] น้ำเสียงชายหนุ่มสลดลงไปเมื่อคิดถึงคำพูดของมารดาที่ทำให้เขา ต้องนึกถึงมันอยู่ตลอดเวลา
คิบอม... เลือกให้ด ีตัดสินใจอีกครั้ง หากลูกจะเลือกเขาแม่ไม่ว่า เพราะ นั่นคือความสุขของลูกในตอนนี้...และทั้งชีวิตของลูก คิบอม ทั้งชีวิตนะ นั่นหมายถึง มันจะไม่สามารถกลับมาแก้ไขอะไรได้อีก ให้เวลาตัวเองได้คิดให้ด ีให้แม่แน่ใจว่าเขาคือ ความสุขทั้งชีวิตของลูก คิบอมของแม่จะไม่มีวันเสียใจกับสิ่งที่เลือกในวันนี้
“...”
“เรามีหน้าตามีในสังคม รู้ใช่มั๊ยว่าสิ่งที่ลูกเลือกมันจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง”
“...”
“แค่ให้แม่แน่ใจว่าลูกจะมีความสุขกับเขาจริงๆ แม่จะทำทุกอย่างให้พ่อยอมรับ ให้ได ้หรืออย่างน้อยก็ไม่กล้ามีปากเสียงเลยล่ะ” มารดายิ้มให้
ได้ฟังคำพูดของยูรินจากปากคิบอมแล้วดงเฮถึงกับพูดไม่ออก ความต้องการ ของเธอทำให้เขาต้องย้อนมองตัวเอง
ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าคิบอมจะเลือกสิ่งไหนระหว่างผมและครอบครัวของเขา รู้ดีว่าเห็นแก่ตัวที่ในใจนั้นอยากให้คิบอมอยู่เคียงข้างผมตลอดไป แต่เพราะรัก... เพราะ รักคำเดียว
ถ้าหาก... ถ้าหากทุกสิ่งที่เป็นอยู่คือการมีลีดงเฮคนนี้อยู่ข้างๆ ไม่ใช่อนาคตที่ คิบอมเคยฝันไว้ทั้งหมด
ถ้าผมไม่ใช่สิ่งที่คิบอมพึงจะมีหากเป็นผู้ชายปกติธรรมดาที่รักชอบผู้หญิง แล้ว เขาจะทนได้เหรอ ถ้าสักวันที่อยู่ด้วยกันไปคิบอมค้นพบว่ามันไม่ใช่ชีวิตอย่างที่คิบอมต้อง การ หากผมไม่ใช่คนที่คู่ควรจะก้าวเดินไปด้วยกันในวันนั้น เมื่อวันที่เขาอยากมีลูก อยากมีเด็กตัวน้อยๆ ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขามาวิ่งเล่นอยู่ในบ้าน ทว่าผมซึ่งเป็น ภรรยา... กลับมีให้เขาไม่ได ้
ถึงตอนนั้นมันก็คงสายเกินไปแล้ว ผมไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวรั้งเขาเอาไว ้แม่ของเขาพูดถูกต้องหมดทุกอย่าง ถ้ารักครั้งนี้มันไม่ยาวนานอย่างที่เราคิดไว ้คนที่ต้อง เจ็บปวดที่สุดก็คือคิมคิบอม ผู้ชายที่ผมรักเขาหมดใจ
“แม่นายพูดถูกนะคิบอม”
[ฮ..ฮะ?] คิบอมเริ่มใจเสีย รู้ดีว่าคำพูดถัดมาของคนอย่างลีดงเฮมันจะเป็นยังไง
“เราควรจะห่างกันสักพัก...”
[ดงเฮ! เราตกลงกันแล้วไง ไม่มีทาง ผมไม่ยอมหรอก!]
“ฟังชั้นก่อนสิ ขอร้องล่ะ”
[ฮึ่ย
] ชายหนุ่มฮึดฮัดหงุดหงิดใจเป็นที่สุด
“ถ้าคิบอมมีเวลาคิดว่าความรักของเรามันควรอยู่ในจุดไหน นานไปมันจะจืด จางลงหรือผูกพันรักกันยิ่งกว่าเดิม ชั้นจะเป็นคนที่เคียงข้างนายได้ตลอดไปหรือเปล่า อนาคตที่มีชั้นจะเป็นสิ่งที่นายต้องการตลอดไปใช่มั๊ย”
[ก็ต้องใช่สิดงเฮ ที่ผ่านมามันยังไม่มากพออีกเหรอที่คุณจะรู้ว่าผมรักคุณมาก แค่ไหน]
ดงเฮยิ้มเศร้าให้กับคำพูดนั้น ในใจของเขาตอบมาเป็นเสียงเดียว
มากส ิมากพอและมากจนเกินไป มากมายจนมันถึงจุดเดือด แต่มันจะคาย ความรักออกมาในเร็ววันอย่างที่เขากลัวไหม หนึ่งปีสองปีสิบปียังจะต้องการเขาอยู่หรือเปล่า
“ชั้นไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว ถ้าสักวันนึงชั้นไม่ใช่คนที่นายต้องการ วันนั้นมันคงสายเกินไปแล้วนะคิบอม”
[ไม่ต้องพูดแล้วดงเฮ ผมไม่ยอมหรอก]
คิบอมพูดเสียงแข็ง แน่วแน่แล้วว่าเขาจะไม่ยอมให้ลีดงเฮได้จากไป ห่างกาย และหนีกันไปง่ายๆ แน่
“คิบอม มันคุ้มมั๊ย?”
[ถ้าหมายถึงทุกอย่างที่ผมต้องสู้เพื่อให้มีลีดงเฮอยู่ข้างๆ ผมคิดว่ามันน้อยไปซะ ด้วยซํ้า สิ่งที่ผมได้รับมาจากหนูด๊องมันมีค่าซะจนมันไม่กล้าเอามันไปแลกกับอะไร รู้แต่ว่าต้องรักษามันให้ดีก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นมันไม่จำเป็นที่เราจะต้องห่างกัน หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ]
“ถ้าอย่างนั้นจะไปกลัวอะไร ถ้าชั้นเป็นสิ่งที่นายต้องการไม่ว่าเวลาจะผ่านไป นานแค่ไหนมันก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไม่ใช่หรือไง ชั้นแค่อยากให้เวลานายได้คิดจริงๆ จังๆ ในช่วงเวลาที่เราห่างกัน สองเดือนเอง ถ้าชั้นกลับมาแล้วนายยังยืนยันว่าลิ้มหน้าหวาน คือสิ่งที่นายยังต้องการ ลีดงเฮก็จะเป็นของคิมคิบอมตลอดไป”
[
]
“ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือคิบอมจะได้ทำตามที่แม่คิบอมต้องการนะ ท่านอยากให ้คิบอมคิดให้ดี ใช้เวลาที่เราห่างกันถามใจตัวเองจริงๆ จังๆ”
[
]
“...”
[ทำไมนะ ... ทั้งแม่ ทั้งคุณถึงได้อยากให้ผมคิดกันนัก]
คิบอมหัวเราะขึ้นจมูกสังเวชตัวเอง เจ็บปวดที่หัวใจ รู้สึกเหมือนกับเขาสูญเสียหัวใจดวงนี้ไปเกือบทั้งดวงแล้ว
[นี่มันบ้าบออะไรวะ]
“สิ่งที่แม่ของคิบอมกับชั้นต้องการคือสิ่งเดียวกัน คืออยากให้ผู้ชายเอาแต่ใจคนนี้มีความสุข ...เพราะรักนะ เพราะชั้นรักนายจริงๆ”
ถ้านายแน่ใจ ถ้านายแน่ใจว่านายจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกชั้นเป็นคู่ชีวิตของนาย ต่อให้ใครจะกีดกันและสุมกองเพลิงแห่งความเจ็บปวดให้มอดไหม้ความสุขทั้งหมดของชั้น จนไม่เหลือซากก็ตามที ชั้นสัญญาว่าชั้นจะไม่กลัว สัญญาว่าจะอยู่กับนาย แม้จะโดนสังคมประณามถูกคนทั้งโลกเบือนหน้าหนีหรือต่อให้ใครจ้องจะทำร้ายชั้นก็รู้ว่านายจะปกป้องชั้นไว้ด้วยความรักทั้งหมดที่มี
แค่นายแน่ใจเท่านั้นนะลิ้มบอม
เพราะโลกที่ไม่มีภูผาน้ำแข็ง ดวงตะวันดวงนี้ก็อาจจะอับแสงและไร้ประกายจน ไม่เหลือซึ่งความสวยงามแห่งอรุณรุ่งเลยก็เป็นได้ ้
กีฬาสีๆๆ
เหนื่อยๆๆๆ
ไม่มีเวลาปั่นฟิค แง่มๆๆๆๆ
ความคิดเห็น