ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -My Sweetheart..You're Everything -KiHae HanHyuk SJ-

    ลำดับตอนที่ #2 : :: Intro ::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.96K
      32
      28 ม.ค. 52

     

     

     

     

    Intro

     

     

     

                “ด๊อง แน่ใจนะว่าจะแต่งตัวแบบนี้ไปแน่ๆ” เสียงเข้มถามอย่างอ่อนโยนผิดวิสัย แต่ก็คงจะเป็นเพราะกับคนๆ นี้เท่านั้น

     

     

    “ทำไมล่ะครับ พี่ฮีซอลว่ามันตลกหรอ?” ถามตาแป๋วกับญาติผู้พี่แล้วขยับเชิ้ตขาวตัวโปร่งให้เข้าที่

     

     

    “ก็ไม่ แต่แต่งตัวธรรมดาๆ ไปดีกว่ามั้ย พี่ว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ร่างบางที่ดูสูงโปร่งกว่าแนะ แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าเบาๆ แล้วยิ้มหวาน

     

     

    “ได้ไงล่ะครับ น้องพี่ออกหล่อซะขนาดนี้ ไปเรียนวันแรกก็ต้องมีอะไรแปลกๆ กลบเกลื่อนความหล่อซะหน่อยสิครับ” ร่างบางหัวเราะคิกๆ ผมซอยประบ่าที่ดูยาวปรกใบหน้าหวานเกินชาย อีกทั้งลักษณะท่าทางที่ดูอ่อนโยนนั่นอีก หากไม่ติดที่ว่าเขามีแผงอกที่แบนราบ คงจะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงแน่ๆ

     

     

    “เฮ้อ เอาเถอะ ยังไงพี่ก็ห้ามไม่ได้นี่นา ซนจริงนะเราน่ะ”

     

     

    “แฮ่ๆ”

     

     

     

    ลีดงเฮ นักเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายเดินผ่านเข้าประตูโรงเรียนมาตามปกติที่ไม่ปกติ ...หากเป็นดั่งเช่นทุกวัน เมื่อไรที่หนุ่มหน้าหวานคนนี้เดินผ่านพวกปากมอมข้างตึกนิเทศน์นั้นจะต้องมีเสียงแซวๆ จากรุ่นพี่ปีสุดท้ายอยู่เสมอ แต่วันนี้กลับเงียบกริบ ก็เพราะว่าหน้าหวานที่เดินมานั้น...

     

     

    แว่นสายตาอันเบ้อเริ่มที่ถูกเปลี่ยนเลนส์ให้เป็นพลาสติกธรรมดาสวมอยู่บนใบหน้า เรือนผมที่ระบ่าก็ถูกมัดหางม้าไว้ให้ดูดีไปอีกแบบที่ไม่เคยมีใครได้ยล เชิ้ตที่โคร่งกว่าตัวทำให้รูปร่างดูสูงใหญ่ ละม้ายคล้ายคลึงกับคนทั่วไป ไม่มีตรงไหนให้หน้าสนใจจนมองข้าม

     

     

    ดงเฮยิ้มกว้างกับตัวเอง อุตส่าห์ให้ช่างเสริมพื้นรองเท้าเพิ่มความสูงให้ตัวเองก็เพื่อวันนี้โดยเฉพาะ ใครจำได้ก็ให้มันรู้กันไปสิ!

     

     

    ติ๊ดๆ ติ๊ดๆๆ~

     

     

    “สวัสดีครับ” เสียงหวานตอบรับปลายสาย

     

     

    [ด๊องอยู่ไหนแล้วเนี่ย มาช้าจังเลย เรากินขนมรอจนอ้วนหมดแล้วนะ] เสียงบ่นเจื้อยแจ้วมาตามโทรศัพท์เครื่องจิ๋ว ดงเฮอดไม่ได้ที่จะแซวกลับไป

     

     

    “ก็อ้วนเป็นทุกเดิมอยู่แล้วนี่นา ซองมินจะกลัวอะไรอีกล่ะ”

     

     

    พูดจบก็ต้องหัวเราะคิกๆ

     

     

    [ด๊องอ้ะ บ้า เค้าอวบน่ากอดต่างหากล่ะ]

     

     

    “งั้นเหรอ โอ๋ๆ น่ากอดจังเลยน้า หมูน้อยเนี่ย ฮิๆ”

     

     

    [เชอะๆๆ ด๊องนะด๊อง จะกินขนมของด๊องให้หมดเลยวันนี้] เสียงเง้างอดตามประสาคนช่างอ้อน

     

     

    “งั้นก็ดีเลยซองมิน ด๊องจะได้ไม่อ้วนไง”

     

     

    ปลายสายยังคงเอื้อนเอ่ยไปเจื้อยแจ้ว ดงเฮตอบรับเพื่อนสนิทไปอย่างไม่ขาดสาย ทางเดินที่เชื่อมจากตึกเรียนไปยังโรงอาหารนั้นว่างเปล่าไร้ผู้คน

     

     

    “แค่นี้ก่อนนะซองมิน ด๊องเก็บกระเป๋าแล้วจะไปหา บอกฮยอกด้วยนะว่าเหลือขนมไว้ให้มั่ง”

     

     

    [ขนมฮยอกเสร็จเรานานแล้วละ อิๆ แค่นี้นะ]

     

     

    ดงเฮยิ้มขำๆ กับโทรศัพท์ หย่อนกระเป๋าลงบนเก้าอี้ในห้องก่อนจะหยิบสมุดเล่มสีฟ้าไปวางไว้หน้าชั้นเรียน

     

     

    “สร้อยใครเนี่ย?”

     

     

    มือบางๆ หยิบสร้อยสีเงินจี้ไม้กางเขนสวยน้ำดีที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาดูอย่างสงสัย จำไม่ได้ว่าเพื่อนในห้องใส่สร้อยแบบนี้กันด้วย ดูท่าจะแพง ราคาไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นวอนแน่ๆ

     

     

    “ส่งมาให้ฉันซะ”

     

     

    เสียงนิ่งๆ ไม่คุ้นหูดังขึ้นจากทิศของประตูห้องเรียน

     

     

    นี่ไอ้ฮันเอาของเขามาซ่อนซะไกลแบบนี้ มิน่าล่ะ ถึงหาไม่เจอสักที นี่ถ้าไม่คาดคั้นและขู่ว่าจะเตะมันละก็ เพื่อนบ้านั่นก็คงไม่ปริปาก

     

     

    ร่างสูงขบเขี้ยวหมั่นไส้เพื่อนรักในใจเบาๆ มองผู้ชายหน้าหวานตาสวยภายใต้กรอบแว่นอย่างพินิจ หน้าคุ้นๆ

     

     

    “นายจะเอาไปขายกินหรือไง”

     

     

    เสียงหวานกวนประสาทที่กำลังไม่ค่อยจะนิ่งดีนัก คิ้วขวาเขากระตุกแปลกๆ

     

     

    “นั่นของฉัน”

     

     

    “จะเชื่อได้ไง ถ้าเกิดเจ้าของตัวจริงไม่ใช่นาย ฉันที่เป็นคนเจอก็ซวยแย่ดิ”

     

     

    นายหน้าหวานหลับหูหลับตาพูด หน้าตาก็น่ารักดูดีอยู่หรอก แต่พูดมากชะมัด

     

     

    ร่างสูงสาวเท้าเข้าไปใกล้แล้วดึงสร้อยเส้นสวยมาจากมือร่างบาง พลิกด้านหลังของจี้กางเขนที่สลักตัว K ไว้อย่างประณีตให้หน้าหวานดูให้เต็มตา

     

     

    “ฉันคิมคิบอม และ K นี่ก็ย่อมาจากชื่อฉัน เชื่อรึยัง”

     

     

    เจ้าของสร้อยเก็บของรัก(สร้อยนะจ๊ะ) ใส่ในกระเป๋าเสื้อโดยที่อีกฝ่ายได้แต่แกล้งยักไหล่อย่างไม่แยแส ก่อนไล้สายตาเรียวคมสำรวจร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้าและแค่นหัวเราะ

     

     

    “หึ”

     

     

    “หัวเราะอะไร” น้ำเสียงดูฉุนปนหงุดหงิด มองเขาแล้วยังมีหน้ามาเยาะใส่อีก

     

     

    “ไม่พอใจกับส่วนสูงของตัวเองหรือไง เสริมมากี่เซ็นล่ะ หรือมาเป็นนิ้ว”

     

     

    ร่างสูงถามสีหน้าขบขัน สายตาจับจ้องที่ร้องเท้าหนาพิเศษ แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยรู้จักกันดีอย่างดงเฮมองว่าสายตานั้นคือดูถูกเขา!

     

     

    “ไอ้ทุเรศ!

     

     

    คนถูกบริภาษหน้าตึง อารมณ์สนุกๆ เมื่อครู่หายวับไปในธุลี

     

     

    “นายว่าไงนะ”

     

     

    เสียงเย็นเยียบทำเอาดงเฮแอบกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ เมื่อร่างสูงดูท่าจะไม่พอใจเขา

     

     

    “ก็นายนั่นแหละ มาดูถูกฉันก่อน! ยะ อย่าเข้ามานะ”

     

     

    ร่างบางปัดป่ายอกกว้างที่เขาแอบอิจฉาให้ออกไปพ้นตัว

     

     

    “ฉันไปดูถูกนายตอนไหน ฮะ ไอ้หน้าหวาน”

     

     

    คิบอมยอมหยุดเดินเข้าใกล้ร่างบาง อารมณ์เดือดเมื่อครู่ค่อยๆ หายไปทีละนิดเมื่อเห็นคนตรงหน้าดูหวาดกลัวเขาพิกล เขาไม่ใช่ฆาตกรฆ่าคนซะหน่อย เอ แต่คนหน้าหวานก็ไม่แน่นะ

     

     

    “นายมาด่าว่าฉันเตี้ย!

     

     

    เขาเลิกคิ้วสูงอย่างงงๆ รอยยิ้มขำเริ่มเผยออกมาจนร่างบางแอบระแวงในใจว่าแก้มป่องๆ นั่นจะแตกออกมาได้หรือเปล่าถ้าเกิดยิ้มนั้นกว้างกว่านี้ (ปัญญาอ่อนแล้วด๊อง =_=;)

     

     

    “ฉันเปล่าสักหน่อย ก็แค่ถามๆ ไปอย่างนั้น นายนั่นแหละที่คิดไปเอง”

     

     

    “อ้าว”

     

     

    พอเห็นหน้าเหวอๆ ของอีกฝ่าย คนที่มีมาดนิ่งอยู่เป็นนิตย์ก็ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก

     

     

    ดงเฮที่รู้สึกหมั่นไส้คิบอมขึ้นมาตงิดๆ เดินอ้อมไปอีกทางเพื่อจะออกจากห้องเรียนด้วยสีหน้าบูดๆ

     

     

    โครม!

     

     

    “โอ๊ย!

     

     

    หน้าหวานที่เดินรีบเร่งไม่สนใจสิ่งกิ่งขวางเดินชนกับโต๊ะที่อยู่ข้างประตูเข้าอย่างจัง ร่างบางๆ จึงล้มลงไปกองอย่างเสียมิได้

     

     

    “อ๊า เจ็บๆๆ”

     

     

    ดงเฮครวญ คิบอมที่เหมือนนึกขันกับปฏิกิริยาของหน้าหวานหลุดขำออกมาเบาๆ ดงเฮจ้องเขาตาเขียวปั้ด

     

     

    “อะไรไอ้แก้มป่อง ไม่ต้องมาสมน้ำหน้าฉันเลยนะ” ดงเฮแว้ดตามผิดนิสัย ตามปกติเขาไม่ค่อยที่จะโวยวายออกนอกหน้าเท่าไหร่นัก ชอบที่จะอยู่เฉยๆ เสียมากกว่า

     

     

    หน้าหวานรู้สึกรำคาญแว่นตานี่ขึ้นมาตงิดๆ จึงดึงมันออกอย่างหงุดหงิดใจ

     

     

    เมื่อไร้สิ่งพรางตัวตามที่เจ้าของต้องการ คิบอมเลยได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหน้าหวานนั่นชัดๆ เป็นครั้งแรก

     

     

    ดวงตากลมโตดูมีเสน่ห์แบบที่พบหาได้ยากในบุรุษเพศ จมูกโด่งรั้นได้รูปสวย ริมฝีปากบางที่ขมุบขมิบบ่นงึมงำอยู่คนเดียวนั้นดูน่าเป็นเจ้าของนัก สายตานิ่งเฉยของคิบอมจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าหวานอย่างไม่ขาดสาย

     

     

    คิบอมสลัดหัวอย่างเรียกสติ เขาเผลอไผลให้กับความหวานของร่างบางคนนี้ไปได้ยังไง แม้ว่าปัจจุบันความรักของเพศที่สามนั้นจะเป็นที่ยอมรับของคนทุกชนชั้นไปแล้วเรียบร้อย แต่เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าข่าย ไม่ได้รังเกียจ แต่คิดว่าตัวเองไม่น่า...

     

     

    “ไอ้คนแล้งน้ำใจ ไร้มนุษยธรรม คอยดูนะ นายต้องถูกพระเจ้าลงโทษ ต้องถูกม้าแยกร่าง ต้อง...”

    นั่นสิ เขาจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ก็ในเมื่อเขาแค่ชื่นชมในรูปลักษณ์ภายนอกของคนๆ นี้ ไม่ได้นึกถึงข้างในที่ยังไม่เคยรู้จักนี่นา แล้วยังจะคำพูดแปลกๆ พิลึกพิลั่นนั่นอีก อย่างนายหน้าหวานคนนี้ คงไม่มีอิทธิพลที่จะทำให้เขาเบี่ยงเบนได้หรอก

     

     

    “ลุกขึ้นมาซะ”

     

     

    เขาพูดทิ้งท้ายก่อนเดินผ่านร่างบางหน้าหวานที่คะมำอยู่บนพื้นแล้วออกจากห้อง B ไปอย่างไม่สนใจแบบที่เคยทำกับทุกๆ สถานการณ์ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ประสาทรับรู้การได้ยินยังคงจดจ่ออยู่กับคำพูดต่อว่าที่ดังตามมาอย่างไม่ลดละ...

     

     

    “ไอ้แก้มป่อง! คนใจร้าย ใจดำ เห็นแก่ตัวเอ๊ย ไอ้แก้มแตก!!

     

     

    ...อย่าไร้สาระน่า คิมคิบอม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “พูดแล้วยังแค้นไม่หายเลยนะฮยอก คิดดูสิ เป็นต้นเหตุให้เราเจ็บตัวแล้วยังเมินเดินไปอีก แค้นๆๆ” คนกำลังอารมณ์เดือดสาธยายเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนสนิททั้งสองฟัง คนแรกเท้าคางฟังอย่างตั้งใจ อีกคนก็นั่งฟังตาแป๋ว.. เคี้ยวขนมในปากตุ้ยๆ

     

     

    ฮยอกแจ เพื่อนสนิทที่ดงเฮเคยล้อเล่นว่าระบุประเภทเป็นลูกครึ่งคน - ไก่ พยักหน้ารับตามคำเอ่ยของเพื่อนหน้าหวานดาวเคะมัธยม

     

     

    “ฮึ่ย เรายังโมโหแทนเลยนะเนี่ย คิดว่าใหญ่นักหรือไง ไอ้หมอนี่ไงที่เราเคยเล่าให้ฟัง ที่เพื่อนมันเป็นรองประธานชมรมเทควันโดน่ะ คราวนั้นมันเล่นฉันซะอ่วมไปเลย ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น”

     

     

    ฮยอกแจว่าบ้าง ไอ้โหดฮันนั่นใช้ตำแหน่งรองประธานมาหาเรื่องเขาได้อย่างกวนระสาทเป็นที่สุด!

     

     

    “น่ารักจังเลยเนอะ”  ซองมินเพ้อฝันส่งตาหวาน

     

     

    “น่ารักอะไรซองมิน?” หน้าหวานถามน่ารัก เคะหน้าสวยที่ทำใจเมะละลายเป็นแถบๆ หากให้เลือกระหว่างคนสองคนนี้ สู้เอาหัวโขกกำแพงให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า ลำบากใจ!

     

     

    “เออ นั่นสิ”

     

     

    คนหน้าไก่สำทับ ผู้คนโดยรอบต่างก็ลอบมองสิ่งสวยงามที่พระเจ้าสร้างให้อย่างใจดีถึงสามคน แต่แทนที่พวกเขาจะเขินอาย กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว แต่ก็นะ ก็คนทั้งสามน่ารักน่ามองขนาดนี้ คลาดสายตาได้ยังไงไหว พวกเมะๆ ทั้งหลายก็ต่างรอเชยชมเคะอย่างพวกเขาคนนี้อยู่อย่างห่างๆ ไม่มีแม้สักคนที่กล้าทำอะไรอุกอาจ ได้แต่แอบมองอยู่เงียบๆ ราวกับจะทำให้สิ่งสวยงามนั้นต้องแปดเปื้อนหากตนเข้าใกล้

     

     

    “ก็... ถ้าทำให้สองคนนั้นรักกับพวกเธอได้ก็น่าจะดีน้า” ซองมินพูดตามที่คิดเรื่อยเปื่อยตามประสา ผิดกับเพื่อนรักทั้งสองที่พอได้ฟังแล้วแทบอ้วก

     

     

    “แหยะ ซองมินอ่ะ ให้ไอ้แก้มแตกนั่นน่ะเหรอมารัก นอนคุยกับต้นไม้ทั้งชาติยังจะดีกว่าเลย”

     

     

    “เออ ไอ้โหดนรกนั่นเราก็ไม่เอา หม้อแล้วยังมั่วอีก”

     

     

    “แหม แต่ถ้าทำให้คนแบบนั้นหลงรักเราจนหัวปักหัวปำ ยอมสยบแทบเท้าเราได้ก็ดีเนอะ” ซองมินฝันเฟื่องต่อไปแบบไม่ใส่ใจ ฮยอกแจที่หมั่นไส้เลยชิงพายฟักทองมาแล้วยัดใส่ปากซะ

     

     

    “ฮย๊อกแจ๊~

     

     

    ทั้งสองชุลมุนแย่งพายฟักทองของโปรดของน่ารัก ไม่ได้สนใจเพื่อนอีกคนที่ประกายนัยน์ตาลุกวาวอย่างตื่นเต้น

     

     

    เป็นอย่างที่ซองมินบอก มันดีไม่น้อยเลย...

     

     

    งั้นฉันจะทำให้นายหลงรักฉัน! คิมคิบอม!

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ______________________________________________________________________________________


    ฮี่ๆๆ  วายเรื่องแรกเลยนะเนี่ย~

    อยากรู้มานานละว่าถ้าโดนตัวแดงแล้วมันจะเป็นยังไง -V- 

    แต่อย่าเพิ่งเอาไปฟ้องเว็บน้า TOT

    เอามาให้อ่านๆ ดูก่อนค่ะ  ส่วนตอนต่อไปคงดูจากเม้นท์

    เพราะไม่ค่อยมั่นใจกับวายเท่าไหร่ ไม่รู้จะสนุกหรือเปล่า

    ช่วยๆๆๆๆๆๆ เม้นท์ๆๆๆๆๆๆ  โหวตๆๆๆๆๆๆๆ  กันหน่อยน้าคร้า >O<

    เม้นท์เพื่อคิเฮ โหวตก็เพื่อคิเฮ ฮุ่ยเล่ฮุ่ย~ V=O=V

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×