ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    : Thanks : ขอบคุณที่รักกัน

    ลำดับตอนที่ #8 : 8.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 971
      6
      21 พ.ค. 61

    7.    
        “หมอ..จะตอบได้รึยัง .. ฮึก”

            “เอ่อ..ตอบๆ แล้ว อย่าร้องซิ”
        .
        .
        .


         แม้ว่าจะเตรียมใจมาแล้ว แต่พอโดนคนที่ตัวเองคาดหวังบอกรักกันซึ่งๆ หน้า ยูซูรุก็อดจะเขินอายไม่ได้ แก้มขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงสุกปลั่ง รีบปีนลงจากตัวหมอไปนั่งก้มหน้างุดๆ พันปลายผ้าห่มเล่นอยู่คนเดียว
     
      เห็นแล้วก็อดจะยิ้มไม่ได้ ชายหนุ่มขยับตัวเข้าไปใกล้อีกนิด รั้งร่างบางๆ มากอดเสียจนแน่น จูบขมับเจ้าตัวน้อยอย่างนึกเอ็นดู

        “มาขู่ให้คนอื่นบอก ตัวเองยังไม่ยอมบอกเลยนะ”

        “เอ๋!?” ยูซูรุทำตาโต

        “ไม่ต้่องมาทำหน้างง ยูยังไม่ได้บอกเลย” เสียงนุ่มทุ้มกระซิบอยู่ริมหูเท่านั้น “รักผมรึเปล่า”

        “หมอ..” คนตัวเล็กครางในลำคอ ตอนที่คั้นเขาก็ว่าเขินแล้ว มาเจอเสียงนุ่มๆ ตาอ้อนๆ แบบนี้ยิ่งเขินเข้าไปใหญ่

        “ว่าไง รักรึเปล่า” หมอถามย้ำ “ถ้าไม่ตอบ ผมจะร้องไห้แล้วนะ”

        ยูซูรุทำหน้าง้ำ หมอแกล้งล้อเค้านี่นา จ้องตากันอยู่ครู่หนึ่งความลับก็ค่อยๆเเย้มออกมาจากกลีบปากบางสวย

        “ก็..ถ้าไม่รักจะยอมให้กอดอยู่แบบนี้หรอ”

        “ว่าไงนะ ตอบไม่เห็นตรงคำถามเลย”

        “หมอ!!” ยูซูรุเผลอขึ้นเสียง หันหน้าไปมองคนเจ้าเล่ห์เขาชัดๆ เสียทีหนึ่ง บ้าจริง ตอบไปขนาดนั้นแล้วจะเอายังไงอีก

        “ตกลงรักรึเปล่า” คนหล่อเขาก็ใจเย็น ส่งเสียงนุ่มถามต่ออยู่อย่างนั้นแหละ ดูสบายใจเสียจริง “รักมั้ยครับ”

        “รัก..” เจ้าตัวน้อยตอบอุบอิบ พูดแล้วก็ซุกๆ หน้าลงกับอกกว้าง เขินจะตายอยู่เเล้วนะ

        “ไม่ค่อยได้ยินเลย เฮ้อ” หมอเปรยเสียงเศร้า แกล้งเอาเปรียบเเก้มนุ่มๆ ไปหลายที

        “ถ้าหมอถามอีก ผมจะตอบว่าไม่รักแล้วนะ” ยูซูรุขู่เบาๆ เหมือนลูกแมวน้อยขนฟูน่ารัก

        “ดุจังเลยครับ” หมอว่ากลับมาแค่นั้น แต่เล่นเอาคนฟังเกิดอาการพูดต่อไม่ถูก ก็ปากหมอนะซิอยู่ใกล้ปากเขาแค่นี้เอง

        อ่า...ปากแดงๆ แบบนี้น่าจูบชะมัด

        ยูซูรุเอียงคอคิดลามกอยู่ในใจ ก่อนจะลองขยับหน้าเข้าไปใกล้อีกนิด หมอกำลังจะจูบเค้ารึเปล่านะ จูบซิ ทำไมไม่จูบซักทีหละ

        ดวงตาคมมองใบหน้าครุ่นคิดนั้นอย่างอารมณ์ดี เจ้าตัวน้อยมันคิดอะไรอยู่น๊า คิ้วพันกันวุ่นเชียว แล้วดูปากเล็กๆ นั่นซิ กำลังเชิญชวนเค้าอยู่รึเปล่า

        หลังจากเล่นสงครามจิตวิทยากันอยู่พักใหญ่ เด็กซนๆ อย่างยูซูรุก็โถมตัวเข้ากอดหมอเต็มแรง
    แต่ในใจนั่นคือกะให้หมอล้มลงไปบนเตียงอยู่แล้ว เจ้าตัวน้อยยึดมือใหญ่ไว้แม่นมั่น ดวงตากลมมันวาวพร้อมรอยยิ้มพึงใจ

        “ยูจะกดผมหรอ” โชถามเสียงขำ ดูหน้าเจ้าตัวเล็กซิ เด็กลามกชัดๆ

        “อื้อ” พยักหน้าตอบไปอย่างคนตรงไปตรงมา

        ปากเเดงๆ ของหมอที่จ้องมานาน เสร็จหละคราวนี้!!

        ยูซูรุก้มลงไปช้าๆ รสสัมผัสของอีกฝ่ายช่างอบอุ่นนัก ลิ้นเล็กๆ โดนตามใจปล่อยให้เคลื่อนไหวอย่างซุกซน
    มือใหญ่ที่ถูกปล่อยเป็นอิสระแล้วค่อยๆ เลื่อนลงมาประคองเอวบางเบาๆ ก่อนจะจับพลิกให้ลงไปอยู่ด้านใต้อย่างไม่รู้ตัว

        “รักหมอนะฮะ..รักหมอ” เสียงหวานพึมพำได้แค่นั้น กลีบปากบางก็โดนดูดกลืน

        เนิ่นนานที่ต่างมอบความอ่อนโยนให้แก่กัน แต่ไม่รู้ยูซูรุจะรู้รึยังว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะโดนกดอยูมะรมมะร่อแล้ว!!
    .
    .
    .

        ทั้งที่เหตุการณ์มันน่าจะดำเนินต่อไปในทางอย่างนั้น แต่กลับกลายเป้นว่าหมอแค่ล้มตัวลงข้างแล้วรั้งยูซูรุมากอดเเนบอก คำกระซิบบอกให้ฝันดีดังชัดอยู่ริมหู จุมพิตราตรีสวัสดิ์ก็แผ่วเบาตราตรึงอยู่บนหน้าผาก

        หมอหลับไปอีกรอบ

        ทั้งที่ใจตรงกันแล้ว แต่ทำไม...

        หรือ...ตัวเรามันน่ารังเกียจ

        ยูซูรุซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นอย่างปวดร้าว ทั้งที่อยู่ใกล้แค่นี้ แต่ทำไมเขากลับเข้าไม่ถึงหมอเลยนะ
    .
    .
    .
        “จัดการให้ด้วย”

        “ก็ถ้าใช้วิธีสะอาดๆ ทำไม่ได้ ก็แล้วแต่นาย ทำยังไงก็ได้ไม่ให้เค้ามายุ่งกับยูอีก”

        “รู้แล้ว แค่นี้นะ”

        โชเดินกลับเข้ามาในห้องหลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ รอยยิ้มอ่อนปรากฏอยู่บนดวงหน้าขาวจัด เทวดาตัวน้อยๆ
    ของเขากำลังซุนหน้าเข้าหาหมอนอย่างน่ารัก แถมยังมัวนตัวซุกผ้านวมเสียจนกลมดิก

        จะทำให้รักไปจนถึงไหนน๊า
      
        “ยูครับ”
       
        “ยู”
       
    “อือ หมอ...” คนขี้เซายันตัวขึ้นมาขยี้ตาป้อยๆ ใบหน้ามึนเสียจนโชหลุดขำ
     
      “ผมจะไปเรียนแล้วนะ”
     
      “กอดก่อน” ยูซูรุกางแขนอ้อน ยิ้มหวานทั้งที่ตาก็ยังไม่เปิดดี
     
      โชนั่งลงตรงขอบเตียงก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกอดคนตัวบางไว้แน่นๆ จุมพิตรับรุ่งอรุณที่หน้าผากมนไปหนึ่งที ก่อนจะไล้มือจัดกลุ่มผมนุ่มๆ ให้เข้าที่เข้าทาง “วันนี้ไปทำงานมั้ย”
     
      ใบหน้าหวานที่ซุกแนบอยู่ตรงอกส่ายดุ๊กดิ๊ก บอกเสียงอู้อี้ “คิดว่าจะไม่ทำแล้ว”
     
      ชายหนุ่มระบายยิ้มบาง แงะเจ้าตัวน้อยออกมาจากอกแล้วจัดการหาเศษหาเลยกับเเก้มนุ่มๆ ไปอีกหนึ่งที “ไว้เย็นนี้มาคุยกัน ตอนนี้ผมขอไปเรียนก่อนนะ”
     
       ยูซูรพยักหน้าหงึกก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตามเดิม
     
      โชจัดการดึงผ้านวมมาห่มให้อย่างเบามือ เขาเห็นรอยยิ้มเล็กๆ ระบายอยู่บนใบหน้าหวาน มองเเล้วชวนให้อยากจะโดดเรียนเ แ
    ล้วนอนกอดหมอนข้างนุ่มๆ แบบนี้ไว้ทั้งวันจริงๆ
    .
     
       เสียงประตูปิดลงพร้อมดวงตากลมกระพริบปริบ น้ำตาเม็ดน้อยไหลอาบข้างเเก้มเงียบๆ
    .
    .
    .

        ยามสาย การจราจรในเมืองใหญ่ยังดูติดขัด แต่กลับไม่ได้กระทบมาถึงคนที่อยู่บนชั้นสูงของคอนโดหรูใจกลางเมืองเลย มากิเดินออกจากห้องนอนมาทิ้งตัวปุลงบนโซฟาตัวนุ่ม คว้าหมอนอิงมากอดแล้วก็กดรีโมทเปิดดูโทรทัศน์อย่างคนว่างงานทั่วไปเขาทำกัน

        ที่จริงมันก็น่าเบื่อ แต่ไม่มีอะไรทำจริงๆ นี่นา เดี๋ยวเจ้าคนลามกที่อยู่ด้วยกันก็จะออกไปทำงานแล้ว ว่าไปก็แอบเหงานิดๆ แหะ

        เสียงเคาะประตูก๊อกๆ ดังจนมากิต้องลุกจากหน้าทีวี คิ้วเรียวขมวดมุ่นพลางสาวเท้าเร็วๆ ไปยังต้นเสียง ใครกันนะมาหาเอาป่านนี้

        “ยูซูรุจัง” มากิอุทานแล้วรวบคนตัวเล็กมากอด ใครปล่อยเด้กขี้เเยมายืนร้องอยู่หน้าห้องเขากัน

        หลังจากจูงมือเล็กๆ นั้นเข้ามานั่งบนโซฟา เจ้าตัวน้อยก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ตาโตๆ บวมเสียจนดูไม่ได้เชียว

        “เป็นอะไร” เสียงอ่อนโยนถามพลางลูบหลังปลอบ อย่าบอกนะว่าเพราะเรื่องเมื่อคิืน หรือเจ้าหมอหล่อนั้นมันทำอะไรลูกน้องเขา  มากิกำลังคิดไปไกลแต่เสียงคนขี้ร้องก็ขัดออกมาเสียก่อร

        “หมอไม่ยอมมีอะไรด้วย!!”

        “ห๋า!?” คนเป็นนายอุทานตาโต “ร้องเพราะเรื่องแค่นี้เองหรอ” แล้วปล่อยให้เราคิดไปไกล

        “มากิจัง เรื่องแค่นี้ที่ไหนมันเรื่องใหญ่เลยนะ” ยูซูรุหยุดปาดน้ำตาเเล้วโผเข้าซุกอกเล็กๆ นั่นแน่น

        “อะ อืมๆ” มากิพยักหน้ารับอย่างงงๆ เงยหน้ามาก็เห็นคนตัวโตที่สวมสูทผูกไทด์เรียบร้อยกำลังจ้องตาถลน เลยได้แต่ทำปากมุบมิบว่า ‘ยูซูรุ’

        ไฮต์ทำหน้าโล่งอกโอเว่อร์จนมากิหลุดขำดีที่เจ้าตัวน้อยมองไม่เห็น ร่างสูงชี้นิ้วไปที่ประตูเป็นเชิงบอกว่าจะออกไปทำงานแล้ว ร่างบางพยักหน้าแต่ไม่วายทำปากมุบมิบอีกว่าสายมากแล้ว
    แต่มีหรือที่ประธานหนุ่มสุดหล่อเขาจะสนใจแถมยังทำหน้าตาระรื่นแล้วก็ส่งจูบลอยลมมาให้จนใบหน้าหวานต้องสะบัดพรืดหลบพัลวัล

        มากิมองตามคนรักไปจนปิดประตูห้องเรียบร้อย เเอบสะดุ้งนิดหน่อยเพราะลืมว่ายังมีคนเศร้ากอดเขาไว้แน่น (สร้างโลกส่วนตัวเพลิน)

        “ไหนเล่ามาซิว่ายังไง” เจ้านายคนสวยดันคนตัวเล็กให้นั่งให้เรียบร้อย ดึงทิชชูที่อยู่ข้างมือมาส่งให้

        “ก็..ก็เมื่อคืนหมอบอกว่ารัก ฮึก” ยูซูรุทำหน้าเขินนิดๆ ทั้งที่ยังสะอื้น “แต่ พอจูบกันเสร็จหมอก็หลับไปเลยอ่ะ ไม่เห็นจะทำอย่างว่ากันต่อ”

        มากิพยักหน้ารับเบาๆ พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ดีให้ข้อคิดสอนเด็กน้อย “หมอเค้าคงเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาสมควรละมั่ง ยูจังยังเด็กอยู่เลย”

        ยูซูรุมองหน้ามากิ เด็กอะไรกัน อายุเขาอ่อนกว่ามากิไม่กี่เดือนเอง แถมก็ไม่ได้ไร้เดียงสาอะไรขนาดนั้นซักหน่อย

        “หมอรังเกียจผมรึเปล่า” มือเล็กๆ กระตุกแขนเสื้อ ช้อนตาถามอย่างน่าสงสาร เฮ้ย! อย่ามาทำหน้าอ้อนผิดคนซิ

        “หมอรังเกียจผมแน่ๆ เลยมากิจัง ฮือ” ยูซูรุปล่อยโฮอีกรอบ เล่นเอาอีกคนไปต่อไม่ค่อยจะถูก เดี๋ยวก็ร้องตามซะเลย แถวนี้ไม่มีไฮต์รอปลอบด้วยซิ ทำไงดีหละ

        “อย่าคิดมากซิ หมอเค้าคงเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาจริงๆ ละมั้ง ถ้าเค้ารังเกียจเค้าไม่บอกว่ารักเราหรอก”

        “แล้วคุณไฮต์ละฮะ คุณไฮต์บอกรักคุณมากิแล้วทำเลยรึเปล่า”

        อูย!! มากิถึงกับหน้าแดงวูบ ไหงอยู่ๆ ก็เข้าตัวเองซะงั้นหละ

        “ของผมกับไฮต์มันผิดขั้นตอนนิดหน่อยหนะ ช่างมันเถอะ”

        “เฮ้อ....” แล้วสองคนก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกันซะอย่างนั้น
        เจ้าของบ้านหันมามองคนตัวเล็กแล้วยิ้มให้ “นี่ยูซูรุ คนรักกันมันไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องมีเซ็กส์กันซักหน่อย แค่ห่วงใย
    แค่ดูแล รู้ว่ามีกันและกันก็มีความสุขมากแล้วนะ ปล่อยให้เรื่องนั้นมันเป็นเเค่ส่วนประกอบหนึ่งเถอะ”

        มากิลูบผมนุ่มๆ นั้นอย่างเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยปากต่อเหมือนพี่กำลังสอนน้อง “รู้มั้ยตอนที่ผมกับไฮต์มีเซ็กส์กันครั้งแรก ไฮต์เค้ายัง...ไม่ได้รักผมเลย... เราทำกันเพราะอารมณ์เท่านั้น ... รู้มั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน ...
    ถ้ายังไม่พร้อมกันท้ังสองฝ่ายก็อย่าดึงดันเลยนะ มันไม่มีความสุขหรอก”

        เด็กน้อยพยักหน้า “แต่ผมกังวล... ผมไม่เห็นมีอะไรดีซักอย่าง ผมกลัวหมอจะเบื่อ”

         “คิดมาก หมอรักยูซูรุเพราะเป็นยูซูรุนั้นเเหละ เข้าใจมั้ย”

        เจ้าตัวน้อยส่ายหน้าดิก เล่นเอามากิแทบล้ม

        “เอ่อ ... เอาเป็นว่า ถ้ารักแล้วไม่ว่ายังไงมันก็รักละกันนะ เดี๋ยวไปหยิบขนมมาให้กินดีกว่า”

        ร่างบางลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว ในหัวก็ครุ่นคิดเต็มไปหมดจะอธิบายให้เจ้าตัวเล็กๆ นี่มันเข้าใจยังไดhน๊า หรือจะตามไฮต์มาให้คำปรึกษา แต่ลามกอย่างไฮต์คงไม่มีความคิดอะไรเหมือนหมอหรอก เฮ้อ... มากิกลุ่มใจ

        “มากิจัง!!” อยู่ๆ ยูซูรุก็ตะโกนเรียก เล่นเอามือที่กำลังเทคุ้กกี้ออกจากโหลแทบทำหล่น

        “มีอะไรยูจัง”

        “ผมจะพิสูจน์รักแท้” ยูซูรุลุกขึ้นทำหน้ามุ่งมั่น มากิเหมือนจะเห็นกองไฟลุกโชนออกมาจากด้านหลังเหมือนในการืตูนทีวี

        “จะทำยังไง” เจ้าของบ้านคนสวยยกจานคุกกี้กับแก้วน้ำหวานมาวาง
    โฮสต์ตัวเล็กยกขึ้นมาดูดปรื๊ดเดียวหมดไปเกือบครึ่งแก้วแล้วพูดต่อ

        “ผมขอลาออกจากงาน”

        “เอ่า อยู่ๆ ก็งานเข้าซะงั้น แล้วผมจะหาเด็กใหม่จากไหนอ่ะ”

        “นั้นมันเป็นเรื่องของมากิ”

        ดู ดู๊ ดูพูดกับเจ้านาย มากิได้แต่กระพริบตาปริบอย่างอ่อนใจ

        “ผมจะอยู่ห่างหมอซักพัก”

        “เอ๋!?”

        “อื้อ” ยูซูรุพยักหน้ากับตัวเองก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตามเดิม “ผมจะไปอยู่ที่โบสถ์ซักพัก
    ถ้าอยู่ห่างกันบางทีหมออาจจะคิดอะไรได้แล้วตัวผมเองก็คงคิดอะไรได้”

        “เอางั้นหรอ ระวังจะคิดถึงเค้าจนร้องไห้ตาบวม”

        ยูซูรุทำหน้าตูม อย่ามารู้ทันกันซิ มากิหัวเราะคิกคักแล้วปล่อยให้เจ้าตัวน้อยเอ่ยเเผนการณ์ต่อไป

        “มากิจัง ถ้าหมอมาตามผมก็อย่าบอกนะครับว่าไปไหน ปล่อยให้หมอหาไปซักพักแล้วค่อยบอก”

        “ได้... แล้วถ้าหมอไม่ไปตามหละ”

        “นั่นซิ” ไฟที่ลุกโชนเป็นเเบ๊คกราวน์เมื่อครู่มอดดับลงในพริบตา ยูซูรุเตรียมเข้าทรงพญาโศกอีกครั้ง

        “ล้อเล่นน๊า หมอต้องตามอยู่แล้ว” มากิเห็นแล้วสงสานเลยไม่แกล้งต่อ

        “ถ้าหมอรักผมจริงๆ หนะนะ”
     
       “หมอเค้ารักอยู่เเล้ว” เจ้านายคนสวยยิ้มให้ “เเล้วจะไปเมื่อไหร่”

        “วันนี้เลย”

        “เฮ้ย!!

        “ยิ่งเร็วยิ่งดี ผมก็ทนอยู่ห่างจากหมอนนานๆ ไม่ได้หรอก” ยูซูรุพูดเองก็เขินเอง แก้มนิ่มแดงแปร๊ดน่ารักเชียว

        “แล้วไม่บอกหมอไว้หน่อยหรอ”

        “มากิจัง!!” ยูซูรุร้องเสียงดัง หน้างอปวดหัวกับเจ้านายตัวเองจริงๆ “ถ้าบอกเค้าจะเรียกว่าแผนหรือครับ”

        “แหะๆ โทษที”


    """""""""""""" BE CON"""""""""""""""""""



        ยูซูรุน่ารักเนาะ ตลกดี!! พิมพ์ไปก็ขำไปกับความคิดเจ้าเด็กน้อย (รอลุ้นกันว่าคุณหมอจะไปตามง้อยังไง แล้วหมอคุยโทรศัพท์กับใคร หึหึ!)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×