คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #243 : [Off] 大学 มหาวิทยาลัย
大学 มหาวิทยาลัย
การศึกษาระดับปริญญาตรี
การศึกษาระดับปริญญาตรีที่ประเทศญี่ปุ่น โดยทั่วไปแล้วะใช้เวลาเรียน 4 ปี เช่นเดียวกับประเทศไทย ยกเว้ยคณะแพทยศาสตร์ ทันแพทยศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์ ใช้เวลาเรียน 4 ปี ระบบการศึกษาจะมีทั้งการฟังบรรยายวิชาพื้นฐาน วิชาเอก มีการสัมมนากลุ่มย่อย รวมถึงการทำปริญญานิพนธ์เพื่อจบการศึกษา
คุณสมบัติผู้สมัคร
คุณสมบัติผู้สมัครโดยทั่วไป ต้องมีคุณสมบัติตามข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้และมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์
1. เป็นผู้ที่ผ่านการรับรองในต่างประเทศว่ามีวุฒิเทียบเท่าการศึกษาหลักสูตร 12 ปี
2. เป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับรองแล้วว่าเทียบเท่าโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
3. เป็นผู้ที่สอบผ่านหลักสูตรของต่างประเทศที่รับรองว่าสามารถเข้าศึกษาต่อปริญญาตรีได้ เช่น International Baccalaureate, Abitur หรือ Baccalaureate
4. เป็นผู้สำเร็จการศึกษาหลัดสูตร 12 ปี จากโรงเรียนนานาชาติที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรต่างประเทศ (WASC, ACSI, ECIS)
5. เป็นผู้ที่ได้รับการพิจารณาคุณสมบัติให้เข้าศึกษาจากมหาวิทยาลัย
(* ในข้อ 1 - 3 นั้น กรณีศึกษาไม่ครบระยะเวลา 12 ปี จำเป็นต้องศึกษาในหลักสูตรเตรียมศึกษาต่อสถาบันที่ได้รับรองการรับรองก่อน)
คุณสมบัติทางด้านความรู้ภาษาญี่ปุ่น
มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นส่วนใหญ่ดำเนินการสอนเป็นภาษาญี่ปุ่นนักศึกษาต่างชาติจึงจะเป็นต้องมีความสามารถที่จะใช้ และเข้าใจภาษาญี่ปุ่นได้มากพอที่จะเข้าเรียนร่วมกับนักศึกษาญี่ปุ่นได้ คือ การสอบวักระดับภาษาญี่ปุ่น (JLPT) ระดับ 2 ขึ้นไป หรือมีผลการสอบเพื่อศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น (EJU) วิชาภาษาญี่ปุ่น 200 คะแนนขึ้นไป ดังนั้น นักศึกษาต่างชาตอส่วนใหญ่จึงเริ่มจากการเรียนปรับพื้นฐานทางด้วยภาษาในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นก่อนอย่างน้อย 1 - 2 ปี
ช่วงเวลาการรับสมัครและสอบเข้า
โดยทั่วไป สถาบันการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นจะเปิดเรียนเดือนเมษายนของทุกปี และปิดเดือนมีนาคมของปีถัดไป ส่วนมากจะแบ่ง 2 ภาคการศึกษา คือภาคต้น ตั้งแต่เดือนเมษายน - เดือนกันยายน และภาคปลาย ตั้งแต่เดือนตุลาคม - เดือนมีนาคม
กำหนดการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีกำหนดการที่แตกต่างกันไป ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลการสมัครของคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการจะเข้าศึกษาล่วงหน้า
วิธีการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น
การเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่ประเทศญี่ปุ่นสามารถทำได้หลายทางได้แก่
1. เข้าเรียนในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นและสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น
เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นหรือพื้นฐานยังไม่เพียงพอ โดยเข้าเรียนในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น ระยะเวลา 1 - 2 ปีหรือในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ญี่ปุ่น มีข้อดีคือ นักศึกษามีเวลาในการปรับพื้นฐานทางภาษาปละปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และมีอาจารย์ให้คำแนะนำปรึกษาเรื่องการศึกษาต่อ นอกจากนั้นสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น และในโรงเรียนมัธยมปลายบางแห่ง จะมีระบบ Recommend แนะนำนักเรียนที่มีผลการเรียนดีและต้องการต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งการสอบด้วยระบบนี้ส่วนใหญ่จะไม่ต้องสอบข้อเขียน แต่สอบสัมภาษณ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สมัครจากประเทศไทยแล้วไปสอบที่ญี่ปุ่น
ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยจำนวนมากที่จัดให้มีการสอบคัดเลือกพิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่อย่างไรก็ตามผู้สมัครต้องไปสอบที่ประเทศญี่ปุ่น หลักงานสอบเสร็จแล้วหากยังไม่ทราบผลจะต้องบินหลับมาประเทศไทย เมื่อทราบผลตอบรับจากมหาวิทยาลัยแล้วจึงดำเนินเรื่องเพื่อขอยื่นวิซ่านักศึกษาเข้าประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในกรณีนี่ อาจจะต้องมีผลคะแนน EJU หรือผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นในการยื่นสมัครสอบกับทางมหาวิทยาลัย
สมัครโดยตรงจากประเทศไทยและได้รับอนุญาตเข้าศึกษาโดยไม่ต้องไปสอบที่ญี่ปุ่น
ข้อมูลในเดือนธันวาคม 2011 มีมหาวิทยาลัย 73 แห่งที่ใช้ผลสอบ EJU เป็นเกณฑ์ในการอนุญาตให้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีโดยไม่ต้องไปสมัครที่ญี่ปุ่น (ดูรายชื่อได้ที่ http://www.jasso.go.jp/eju/baij_e/html) การสมัครวิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ความรู้ภาษาญี่ปุ่นแล้วโดยทั่วไปควรจะสอบผ่านการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น JLPT ระดับ 2 ขึ้นไป หรือมีผลการสอบเพื่อศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น EJU วิชาภาษาญี่ปุ่น 200 คะแนนขึ้นไป
ขั้นตอนการสมัคร
1. ค้นหาข้อมูลเกี่ยวมหาวิทยาลัยที่ต้องการจะเข้าศึกษา โดยค้นหาจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ (สามารถค้นหารายชื่อวิทยาลัยได้จาก http://www.g-studyinjapan.jasso.go.jp/univ_search หรือ http://www.jpss/jp/en)
2. ตรวจสอบวิชาที่ต้องสอบ EJU ภาษาของโจทย์ที่ใช้สอบ และครั้งที่ให้สอบตามที่สถานศึกษากำหนด
3. สมัครสอบ EJU (ส่วนใหญ่ผลการสอบจะต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปี) *ดูข้อมูลเรื่องการสอบ EJU อ่านรายละเอียด
4. ขอรับเอกสารของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีระเบียบการสมัครของสถาบัน แบะในสมัครรวมอยู่ด้วย (ประมาณเดือนสิงหาคม - กันยายน)
5. ส่งใยสมัครและเอกสารประกอบไปยังมหาวิทยาลัย พร้อมโอนเงินค่าสมัครภายในระยะเวลาที่กำหนด
6. มหาวิทยาลัยจะพิจารณาจากเอกสารการสมัคร และผลการสอบ EJU
7. มหาวิทยาลัยบางแห่งมีการสอบสัมภาษณ์ทางอินเตอร์เน็ต หรือที่ศูนย์ประสานงานของมหาวิทยาลัย
8. มหาวิทยาลัยแจ้งผลให้ผู้สมัครทราบว่าผ่านการคัดเลือกหรือไม่
9. หากผ่านการคัดเลือก ทางมหาวิทยาลัยจะแจ้งผลตอบรับ กำหนดการ ขั้นตอนการเข้าศึกษาและการชำระค่าเล่าเรียน (ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม) ให้แก่นักศึกษา
10. เมื่อชำระค่าเล่าเรียนเรียบร้อยแล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะเป็นตัวแทนนักศึกษาในการยื่นจอสถานภาพการพำนักที่สองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น (บางมหาวิทยาลัยจะให้นักศึกษายื่นส่งด้วยตนเอง กรณีนี้นักเรียนต้องเดินทางไปญี่ปุ่น ดังนั้นควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่าทางมหาวิยาลัยที่สมัครจะดำเนินการเรื่องนี้ให้หรือไม่)
11.เมื่อประกาศผลจากกองตรวจคนเข้าเมืองแล้ว มหาวิทยาลัยจะส่งใบรับรองสถานพำนักให้กับนักเรียน
12. นำใบรับรองสถานภาพการพำนักไปยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย
13. เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย
หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ
การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่การเรียนการสอนเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันมีการเปิดหลักสูตรนานาชาติซึ่งสอนเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น เพื่อเพิ่มจำนวนนักศึกษาต่างชาติในประเทศญี่ปุ่นตามโครงการ Global 30* และเป็นการเปิดประเทศให้นานาชาติได้รู้จักญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ถึงกระนั้นมหาวิทยาลัยที่จัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีเป็นภาษาอังกฤษนั้น ยังถือว่ามีอยู่ค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นหลักสูตรระดับบัณฑิตวิทยาลัย
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.jassp.go.jp/study_j/documents/degree_english.pdf หรือhttp://www.uni.internattional.mext.go.jp/global30.index.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก องค์การสนับสนุนนักเรียนแห่งประเทศญี่ปุ่น JASSO
ความคิดเห็น