คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #241 : [Off] 高等学校 โรงเรียนมัธยมปลาย
高等学校 โรงเรียนมัธยมปลาย
การเข้าศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย สำหรับผู้ที่ยังไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นจะต้องมีการเรียนปรับพื้นความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 6 เดือน - 1 ปี ก่อนที่จะเข้าเรียนร่วมกับนักเรียนญี่ปุ่นในหลักสูตรปกติ และเมื่อเข้าเรียนตามระบบปกติแล้วผู้เรียนจะได้เรียนวิขาต่าง ๆ ที่เป็นพื้นฐานสำหรับการใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัย และเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเรียนการสอน ชั้นเรียนของทุก ๆ ชั้นปีจะถูกแบ่งตามระดับความสามารถของนักเรียน และเมื่อจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นด้วย
โงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่เปิดรับนักเรียนต่างชาตินั้นมีจำนวนไม่มาก ส่วนมากจะเป็นโรงเรียนประจำ ซึ่งนักเรียนจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตในโรงเรียนได้อย่างเต็มที่ แค่ค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องกฎระเบียบ และมีการกำหนดกิจวัตรประจำวันได้อย่างชัดเจน และเนื่องจากหอพักจะเป็นหอที่อยู่ภายในบริเวณโรงเรียน จึงมีความปลอดภัย และมีอาจารย์ดูแล 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นทางโรงเรียนจะเป็นผู้จัดเตรียมอาหารทั้ง 3 มื้อไว้พร้อมสรรพจึงไม่จะเป็นต้องกังวลในเรื่องนี้ ทำให้นักเรียนจะเป็นต้องเปิดกว้างยอมรับความแตกต่างทางด้านความคิด และพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ
นอกจากการเรียนทางวิชาการแล้ว นักเรียนยังจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ นอกเหนือจากห้องเรียน ซึ่งสามารถเข้าร่วมตามความสนใจ โอกาสจากการเรียนไปด้วยร่วมกิจกรรมได้ด้วยนี้ ทำให้เรามองเห็นความถนัดของตนเองและสามารถนำจุดนั้นไปใช้เป็นแนวทางการเรียนในระดับสูงต่อไปได้
คุณสมบัติของผู้สมัคร
หลักสูตร 3 ปี (เข้าเรียนเดือนเมษายน) และ 3 ปีครึ่ง (เข้าเรียนเดือนตุลาคม)
- ต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป และจบการศึกษาหรือคาดว่าจะจบการศึกษาระดับมัธยมต้น (9 ปี) จากโรงเรียนประเทศของตน
หลักสูตร 1 ปี (เข้าเรียนเดือน เมษายน) และ 1 ปีครึ่ง (เข้าเรียนเดือน ตุลาคม)
- ต้องมีอายุ 17 ปีขึ้นไป และต้องจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาต้องปลาย (12 ปี) หรือกำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 หรือ กำลังศึกษาระดับมัฑยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนประเทศของตน
- ต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นอย่างน้อย 1 ปี
ประโยชน์ของการเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ญี่ปุ่น
1. การใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมร่วมกับนักเรียนญี่ปุ่น ผ่านประสบการณ์ตรง ทำให้สามารถเรียนรู้ และฝึกฝนการใช้ภาษาได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
2. นอกจากภาษาญี่ปุ่น ยังสามารถเรียนวิชาความรู้ทั่วไปที่จำเป็นเพื่อเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลับอย่างจริงจัง ซึ่งการเรียนร่วมกันในระบบเดียวกันกับนักเรียนญี่ปุ่นนี้ จะทำให้มีความเข้าใจถึงเนื้อหาได้อย่างถ่องแท้ และเพิ่มโอกาสในการสอบเข้าได้มากขึ้นด้วย
3. โรงเรียนมีคณาจารย์ที่ให้คำปรึกษาและแนะแนวเป็นรายบุคคลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ สำหรับการเรียนต่อระดับสูง เพื่อให้เหมาะกับมหาวิทยาลัย หรือ วิทยาลัยอาชีวศึกษาที่นักเรียนแต่ละคนอย่างจะเข้าเรียน
4. ได้ประสบการณ์ในการแลกเปลี่ยนความคิดทางด้านศิลปะประวัติศาสตร์ พร้อมสัมผัสกับวัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ ให้กว้างขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในสังคมโลกาภิวัฒน์
5. ฝึกฝนให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย รู้จักการปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และสามารถพึ่งพาช่วยเหลือตนเองได้
การศึกษาต่อหลังจบการศึกษา
เมื่อจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย นักเรียนสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของญี่ปุ่นได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับสมัครของมหาวิทยาลัย เช่น คัดเลือกโดยการวิธีการสอบคัดเลือกเช่นเดียวกับนักเรียนญี่ปุ่น หรือคัดเลือกโดยใช้ยื่นผลการสอบ EJU (Examination for Japanese University Admission for Students) หรือ เข้าโดยใช้ระบบเสนอชื่อนักเรียนเพื่อเข้าสัมภาษณ์ในมหาวิทยาลัยที่ทางโรงเรียนมีการติดต่ออยู่โดยไม่ต้องสอบข้อเขียน
การสอบและการคัดเลือก
โรงเรียนที่รับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ญี่ปุ่นนั้นมีอยู่ไม่มาก หลาย ๆ แห่งจะรับเฉพาะนักเรียนที่มีผู้ปกครองหรือผู้ดูแลรับผิดชอบอยู่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งการรับสมัครมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละโรงเรียน และอาจจะไม่สามารถยื่นสมัครจากนอกประเทศญี่ปุ่นได้ด้วย จึงควรสอบถามกับทางโรงเรียนนั้นโดยตรง
การสมัครในประเทศไทยกับ Jeducation
นักเรียนสามารถสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ Jeducation เป็นตัวแทนในประเทศไทยได้ คือ Meitoku Gijuku High School และ Oisca senior High School โดยจะมีการจัดสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อทุก ๆ ปี ๆ ละ 2 ครั้ง
ช่วงเวลาการสมัครและสอบ *การสอบไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
ภาคเรียนที่เข้าเรียน |
รับสมัคร |
สอบคัดเลือก |
เมษายน |
ส.ค. - ก.ย. |
เดือน ต.ค. - พ.ย.
ของปีก่อนหน้า |
ตุลาคม |
มี.ค. - เม.ย. |
เดือน พ.ค. - มิ.ย. |
วิชาที่ใช้ในการสอบนั้น นอกเหนือจากการสอบวิชาพื้นฐาน ได้แก่ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ (โจทย์ภาษาอังกฤษ) และการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีการสัมภาษณ์เพื่อดูความสามารถ และความมุ่งมั่นของนักเรียน รวมทั้งความพร้อม การสนับสนุนของผู้ปกครอง ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน
ข้อดีของการสมัครไปเรียนกับเจเอ็ดดูเคชั่น
1. วางใจในคุณภาพการเรียน การสอนของโรงเรียน ว่าได้มาตรฐานปลอดภัย และมีทีมอาจารย์ที่ค่อยดูแลบุตรหลาย และให้คำปรึกษาได้อย่างเป็นดี
2. สะดวก เพะราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสมัคร และสอบถึงประเทศญี่ปุ่น
3. ไม่จำเป็นต้องมีค้ำประกันที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
4. มีทีมงานดูแล ประสานงานระหว่างผู้ปกครอง และโรงเรียนขณะนักเรียนนักศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น
5. จัดปฐมนิเทศก่อนเดินทาง ให้คำแนะนำในการเตรียมพร้อมก่อนเดินทาง และการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อแจ้งความจำนงในการสอบ และรับใบสมัครได้ที่ jeducation นอกจากนี้ สามารถสอบถามรายละเอียด เช่น แผนการเรียน สถานที่ ข้อบังคับ ค่าใช้จ่าย และชมรูปถ่ายหรือวิดีโอที่ถ่ายจากสถานที่จริงประกอบการตัดสินใจ นอกจากนั้นในแต่ละปีโรงเรียนจะมีการจัดสัมมนาในประเทศไทย ซึ่งผู้ปกครองสามารถคุยกับอาจารย์ผู้สอน หรือผู้ปกครองที่ส่งลูกไปเรียนแล้วโดยตรงได้ และยังมีการจัดสอบฝนวันเดียวกันด้วย
ความคิดเห็น