คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #229 : [Lesson] คำช่วย 助詞(じょし)
คำช่วย 助詞
คำช่วย 助詞 หรือ Particle ในภาษาอังกฤษ เป็นคำที่ไม่มีการผันรูปและไม่อาจอยู่โดดๆ ต้องตามท้ายคำอื่น ๆ ในประโยค ทำหน้าที่บอกความสัมพันธ์ระหว่างคำกับคำบ้าง เพิ่มเติมความหมายให้ชัดเจนขึ้นบ้าง หรือเชื่อมประโยคเข้าด้วยกัน เป็นต้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 8 ประเภท ตามหน้าที่ในประโยค คือ
1. 格助詞เป็นคำช่วยที่อยู่ติดกับคำนาม หรือ นามวลี เพื่อชี้หน้าที่ความสัมพันธ์ระหว่าง คำนามนั้น ๆ กับคำอื่นในประโยค เช่น が、を、で、へ、に、よりเป็นต้น
花が咲きます。Hana ga saki masu. ดอกไม้บาน
ご飯を食べます。Go han wo tabe masu. รับประทานข้าว
はさみで切ります。Hasami de kiri masu. ตัดด้วยกรรไกร
学校へ行きます。Gakkou he iki masu. ไปโรงเรียน
2. 副助詞 เป็นคำช่วยที่วางหลังคำนาม หรือ นามวลี กริยาวิเศษณ์ เพื่อเน้น หรือ ขยายความเพิ่มเติมคำนามส่วนหน้า โดยมีความสัมพันธ์ไปจนถึงภาคแสดง เช่น 場かり、ほど、くらい、だけ、までเป็นต้น
彼はお金のことばかり考えています。Kare ha okane nokoto bakari kanga etei masu. เขาคิดอยู่แต่เรื่องเงิน
私は山田さんほど上手じやありません。Watashi ha yamada san hodo jouzu jiya arimasenn. ฉันไม่เก่งเท่าคุณยะมะดะ
肉を200グラムくらい買いました。Niku wo 200 guramu kurai kaimashita. ซื้อเนื้อประมาณ 200 กรัม
友達の中で森さんだけが独身です。Tomodachi no nakade mori san dake ga dokushinn desu. ในบรรดาเพื่อน ๆ มีคุณโมริเท่านั้นที่เป็นโสด
3. 係助詞 เป็นคำช่วยที่วางไว้หลังคำอื่น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มเติมความหมาย และมีความสัมพันธ์ไปจนถึงภาคแสดงด้วย เช่น は、も、しか、こそ、さえ、でもเป็นต้น
教室には男の学生しかいません。Kyoshitsu ni ha otokono gakusei shika imasen. ที่ห้องเรียนมีแต่นักเรียนผู้ชายเท่านั้น
山田さんは日本人です。田中さんも日本です。Yamada san ha nihon jin desu. Tanaga san mo nihon jin desu. คุณยะมะดะเป็นคนญี่ปุ่น คุณทะนะกะก็เป็นคนญี่ปุ่น
明日、天気さえよければ、ゴルフに行きます。Ashita, tenki sae yokereba, gorufu ni ikimasu. พรุ่งนี้ถ้าเพียงแต่อากาศดีจะไปตีกอล์ฟ
4. 接続助詞 เป็นคำช่วยที่ทำหน้าที่เชื่อมประโยค เช่น が、から、ので、ば、でも、ながらเป็นต้น
このかばんはきれいですが、高いです。Kono ga ban ha kirei desu ka, kaidesu. กระเป๋าใบนี้สวยแต่แพง
安いですから、買います。Yasui desu kara, kai masu. เพราะว่าถูก จึงซื้อ
急いでいけば、間に合います。Isoi de ike ba, mani aimsu. ถ้ารีบไปก็จะทัน
ラジオを聞きながら、選択をします。Rajio wo kiki nagara, sentaku wo shimasu. ซักผ้าไปพลางฟังวิทยุไปพลาง
5. 並立助詞 เป็นคำช่วยที่เชื่อมนามเรียงกัน เช่น と、とか、や、かเป็นต้น
机の上にえんぴつとペンがあります。Tsukuw no ueni enn pitsu to penn ga arimasu. บนโต๊ะมีดินสอและปากกา
かばんの中に本やノートや辞書などがあります。Kaban no naka ni hon ya noto ya jisho na doga arimasu. ในกระเป๋ามีหนังสือ สมุด พจนานุกรม เป็นต้น
明日かあさって行きます。Ashita ka asatte ikimasu. จะไปพรุ่งนี้ หรือไม่ก็มะรืนนี้
6. 準体助詞 เป็นคำช่วยที่มีความหมายเทียบเท่ากับคำนาม คือ の
彼は歌を歌うのが好きです。Kare ha uta wo uta u no ga suki desu. เขาชอบการร้องเพลง
彼が生まれたのは京都です。Kare ga umare ta no ha kyouto desu. ถ่นที่เขาเกิดคือเกียวโต
7. 終助詞 เป็นคำช่วยวางไว้ท้ายประโยค แสดงความหมายต่าง ๆ เช่น คำถาม เน้นย้ำ หรือไม่สนใจ เป็นต้น เช่น の、ね、よ、か、かした、な เป็นต้น
どこへ行くの。Doko he ikuno. จะไปไหนหรือ
今日はいい天気ですね。Kyou ha ii tenki desu ne. วันนี้อากาศดีนะ
あの店はおいしおですよ。Ano mise ha oi shii desu yo. ร้านโน้นอร่อยนะ
お酒を飲むな。O sake wo nomu na. ห้ามดื่มเหล้า
8. 関東助詞 เป็นคำช่วยที่วางไว้หลัง คำ วลี หรือท้ายประโยคก็ได้ มีความหมายเชิงอุทาน ยืนยันหรือเน้นย้ำ มี 4 คำ คือ な(なあ)、ね(ねえ)、さและ や
こわいですな。大きな飛行機事故が起こる。Kowai desu na. ooki na hikoukijoko ga o koru. น่ากลัวนะ อุบัติเหตุทางเครื่องบินครั้งใหญ่
あのねえ、みんな聞いてよ。Ano ne e, minn na kiiteyo. นี่แน่ะ ทุกคนฟังหน่อยนะ
子供だってさ、ちゃんと説明してやれば分かるよ。Kodomo da tte sa, cyan to setsunei shiteya reba wakaru yo. เด็กน่ะนะ ถ้าอธิบายให้ชัดเจนก็จะเข้าใจอยู่หรอก
太郎や、そこにあるはさみを取ってちょうだい。Tarou ya, sokoni aru ha sami wo totte cyou dai. ช่วยหยิบกรรไกรที่อยู่ตรงโน้นให้หน่อย
ในประโยคหนึ่ง ๆ จะมีคำช่วยได้ตั้งแต่หนึ่งคำถึงหลาย ๆ คำ การกระทำความเข้าใจประโยคให้ถ่องแท้นั้น นอกจากความหมายของคำแล้ว ยังต้องพิจารณาคำช่วยแต่ละคำว่าทำหน้าที่อะไร และทำให้คำที่คำช่วยไปติดอยู่นั้นมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องไปถึงส่วนใดของประโยคอีกบ้าง ต่อไปนี้จะขอยกคำช่วยหลัก ๆ ที่ใช้ในไวยากรณ์เบื้องต้นมาอธิบายเป็นรายตัว เพื่อใช้ศึกษาอย่างละเอียด
คำช่วยต่าง ๆ
คำช่วยที่คล้ายคลึงกัน
สรุปคำช่วย
คำช่วยเกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องมือ วัตถุดิบ
ความคิดเห็น