ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End] Trick.o.treaT จะรักจะหลอกช่วยบอกหน่อย (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #7 : 7. let's see okinawa

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.48K
      8
      5 ก.ย. 51

    7.
    พระเอก ฮามาโนะทาดาโยชิ
        นายเอก นากามารุ ไทกิ
        เเฝดพระ อากิโมโตะ คาโงะ vs ไคโตะ
        แฝดนาย  ฟุคุดะ นาโอซึมิ vs มาซาฮิโระ

        และแล้ววันแห่งความสุขของผมก็มาถึง ตื่นเช้ามาอากาศก็เป็นใจซะด้วย ท้องฟ้านี่ใสปิ๊งเชียว ผมเลยออกอาการดีอกดีใจเป็นพิเศษ เมื่อร่ำไรอยู่นานจนสมควรเเก่เวลาผมก็แบกเป้ใบเก่งเดินบ้างกระโดดบ้างลงบันไดมาจนพื้นไม้ลั่นเอี๊ยด

        เหอะๆ ไม่ทันจะได้เดินไปถึงหน้าบ้านก็ต้องตาโตเป็นไข่ห่านเมื่อเห็นคนหน้าหล่อจัดนั่งยิ้มแต้อยู่กับคุณแม่สุดที่รักแถมกวักมือเรียกผมยิกเชียว

        “พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมร่อนลงไปกอดเอวแม่อย่างออดอ้อนแต่ดูเหมือนไม่ได้รับความสนใจครับ

        “เพิ่งมาซักพักเอง” ลูกชายคนใหม่เขาตอบครับ

        “งั้นก็ออกไปกันเลยเถอะ เดี๋ยวเพื่อนๆ ที่เหลือเค้าจะรอนนานนะ” แม่ผมยิ้มหวานปานจะประกวดนางงามให้พี่โยชิ แล้วหันมาทำตายักษ์หน้ามารใส่ผม “ดูแลตัวเองดีดีด้วย อย่างให้เป็นภาระพี่เค้ารู้มั้ย”

        “รู้แล้วน่า” ผมหละหน่าย แต่เอาเถอะ ยังไงแม่ก็จุ๊บหน้าผากผมก่อนไปอยู๋ดี แถมได้ตังค์มาอีกตั้งหมื่นเยน อิอิ

        ออกมาจากบ้านแล้วก็ถูกจูงขึ้นแท็กซี่ นั่งหลับน้ำลายย้อยมาตลอดทางครับรู้ตัวอีกทีถึงสนามบินแล้ว เย้ย!!

        ผมโดนลากหลุนๆ ไปขึ้นเครื่องครับ ข้าวของทั้งหลายพี่ท่านจัดการโหลดให้เสร็จสรรพ ไม่อยากจะบอกว่าค่าตั๋วก็ไม่ได้จ่ายเองนะครับ มีสุดหล่อเป็นสปอนเซอร์ให้ แถมยังเป็นการนั่ง  first class ครั้งแรกของผมซะด้วย ตื้นตันยังกับรู้ว่าญี่ปุ่นจะได้ไปบอลโลกยังไงอย่างงั้น

        สายการบินประจำชาติเขาร่อนลงที่สนามบินนาฮ่าอย่าง
    นิ่มนวลที่สุด พอเราออกมายืนสูดอากาศกันได้ไม่ถึงนาที รถตู้เมอร์ซิเดสเบนซ์คันงามก็แล่นเข้ามาจอด หลังจากขึ้นไปนั่งเอกเขนกประหนึ่งตัวเองเป็นเจ้าของได้พักใหญ่จึงรู้ว่าเป็นของรุ่นพี่คาโงะกับไคโตะ บ้านพี่เขาเป็นเจ้าของบริษัทอะไรซักอย่าง รวยเว่อร์ๆ

        อิจฉาแฝดจังครับ มีแฟนรวย พอหันไปมองมันหน่อยก็ต้องรีบสะบัดหน้ากลับ จะสวีทกันก็ช่วยเกรงใจท้องฟ้า อากาศ กับคนที่ยังไม่เคยมีความรักบ้างเถอะนะ

        คู่น้องนั่งเบียดกัน คุยอะไรก็ไม่รู้ หนุงหนิงอยู่สองคน ไอคู่พี่นี้แล้วใหญ่ ผลัดกันงับปากไปงับปากมาประหนึ่งว่าริมฝีปากอีกฝ่ายจะไม่บวมขึ้นมาอย่างนั้น

        เห็นแล้วเครียด!!

        พอรถจอดเท่านั้นแหละฮะ ตาผมที่โตอยู่แล้วยิ่งลุกวาวราวไข่ไดโนโนเสาร์ อะไรมันจะสวยขนาดนั้น บ้านไม้สีขาว ตั้งอยู่บนสนามหญ้าสีเขียว มีหาดทรายทอดยาวกับน้ำทะเลสีฟ้าสวยวางอยู่ข้างหน้า

        เกือบจะถลาเข้าไปแล้วครับถ้าไม่ถูกสองแขนเล็กๆ แต่พลังดุจช้างแมมมอสอดข้าวของใครสองคนรั้งไว้ก่อน

        “ไทกิ…เอ่อ พวกเรามีเรื่องจะขอร้องหนะ” รู้แล้วว่าเป็นแฝด แต่ไม่ต้องพูดเหมือนกันและพร้อมกันขนาดนั้นก็ได้

        พวกมันคงเห็นสีหน้าเซ็งเป็ดของผม เลยยิ้มประจบ แล้วเจ้าคนพี่ก็เปิดประเด็น

        “เอ่อ รู้มาว่าบ้านพักมีแค่สองห้องนอน”

        “แล้วเราก็มาด้วยกันสามคู่” เจ้าคนน้องมันต่อ ผมก็พยักหน้าหงึก แต่รู้สึกทะแม่งๆ นี่ผมกับพี่โยชิโดนนับเป็นคู่ด้วยรึ
        
        “ก็ให้พวกรุ่นพี่เค้านอนด้วยกันซิ แล้วพวกนายก็มานอนกับฉัน”

        คราวนี้คนที่ทำหน้าเซ็งเป็ดกว่ากลับเป็นเจ้าแฝดน้อยกลอยใจ

        “ไทกิจัง!!” นาโอซึมิขึ้นเสียง “ไทกิจัง!!!” มาซาฮิโระก็แอ็กโค่เสียงตามพี่มันบ้าง

        “นายไม่เข้าใจรึไง ว่ามาทะเล ใครๆ เค้าก็อยากอยู่กับแฟนกันสองต่อสองทั้งนั้นแหละ”

        “ใช่ๆ นายจะขัดขวางความสุขของเราสองพี่น้องรึไง”

        มันทำท่าจะกอดคอกันร้องเล่นบทดาวพระศุกร์ถูกรังแก ผมเลยต้องรีบพยักหน้าเข้าใจให้เร็วที่สุด หวั่นเหมือนกันนะครับ ขืนน้ำตาเม็ดน้อยของเจ้าพี่หรือเจ้าน้องหล่นลงมาซักหยด รุ่นพี่คาโงะกับรุ่นพี่ไคโตะคงเอาผมเป็นของเซ่นไหว้ปลาทะเลเเถวนี้แน่ๆ

        “คุยอะไรกันอยู่ นาโอะจัง เข้าบ้านกัน” รุ่นพี่คาโงะมาแล้วครับ นึกนินทาได้ไม่กี่ช่วงลมหายใจแท้ๆ แล้วก็ไม่น้อยหน้ารุ่นพี่ไคโตะเดินเข้ามาคล้องคอมาสะจังเอาไว้ก่อนจะรั้งเข้าไปจุ๊บหน้าผากให้ผมอ้วกเล่นหนึ่งที

        “เตรียมห้องไว้ให้แล้ว เตียงดึ๋งดั๋งแบบที่มาสะชอบด้วยนะ”

        และแล้วเพื่อนรักของผมทั้งสองก็จากไปพร้อมบรรยากาศสีชมพูอมม่วงที่คลุ้งไปทั่วบริเวณ กว่ามันจะจางไปได้ก็ต้องอาศัยลมทะเลที่พัดมาอีกสามสี่วูบ

        “ไทจัง เอาของเข้าไปเก็บให้แล้วนะ” พี่โยชิเดินยิ้มหล่อมาเลยครับ “แต่แย่หน่อยที่เราสองคนต้องนอนที่ห้องรับแขก เจ้าสองคนนั้นมันคงอยากจูจี๋กับเพื่อนนาย

        ผมหัวเราะหึในลำคอ สวมมาดตัวร้ายในหนังจีน แต่ก็ทำได้แค่คิดครับเพราะถูกลาก (อีกแล้ว) เข้าไปในบ้าน

        “ไปทาครีมกันแดดซักหน่อย แล้วเดี๋ยวออกมาเล่นน้ำกัน”

        พอได้ยินเรื่องเล่น ผมก็ลอยดิครับ แหมของแบบนี้มันช๊อบ ชอบอยู่แล้ว
    .
    .
    .
        ทั้งที่เคืองเจ้าลิงทะโมนสองตัวนั่นอยู่แต่ก็แอบขอบอกขอบใจมันทั้งคู่เล็กน้อยที่ทำให้ผมชายหาดส่วนตัวในการเล่นบอลและสามารถวิ่งลงทะเลได้ตลอดโดยไม่ต้องไปแย่งกับใคร

        ตอนนี้พวกเรากำลังเมามันอยู่กับการไล่ลูกกลมๆ แล้วทำมันให้เข้าโกด์ลของฝั่งตรงข้ามให้ได้ ฝั่งผมมีสามคนคือ ผมแล้วเจ้าเพื่อนเเฝด และแน่นอนว่าฝ่ายเรากำลังคะแนนนำโด่ง ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่าการเล่นของเราจะโปร่งใสขนาดไหน แค่ให้เจ้าหนูน้อยสองตัวนี้ทำตาใสปิ๊งแล้วปล่อยฟีโรโมนน่าสงสารออกไป ท่านชายงามฝั่งตรงข้ามก็หยุดค้างยอมให้ผมเลี้ยงบอลเข้าไปยิงได้โดยง่ายดาย

        ช่างเป็นการแตะบอลที่สนุกสนานจริงๆ เล่นกันพอให้เหงื่อออกนิดหน่อยก็ถึงคราวลงทะเลครับ พวกรุ่นพี่เค้าถอดเสื้ออยืดกันผลึบผลับ หุ่นแต่ละคนเห็นแล้วน้ำลายไหล เย้ย!! ไหลเพราะอิจฉานะครับ อย่าคิดเป็นอื่นไป

        เจ้าเเฝดน้อยทำท่าจะถอดบ้าง แต่ก็ได้แค่จับชายเสื้อครับ ท่านชายงามหุ่นราวนายเเบบก็เดินขมวดคิ้วเข้ามาหา กระซิบริมหูคำสองคำสองคนนั้นก็ทำตัวว่าง่าย ยอมให้จูงไปลงทะเลเเต่โดยดี

        นี้มันหาดส่วนตัวนะเว้ย ครับ!! มีกันอยู่หกคนแค่นี้ยังจะทำเป็นหวงอีก

        ผมส่ายหน้าไปมา เอือมในความหวานหยด แล้วจัดการถอดเสื้อยืดสีขาวออกบาง เหลือไว้แค่กางเกงเสริฟสีฟ้าสดตัวเดียว

        เมื่อไม่มีใครเหลือให้เล่นด้วย ผมเลยต้องเดินเข้าไปสะกิดตัวพี่โยชิที่นั่งชิวจับน้ำส้มอยู่บนเตียงผ้าใบให้ลงไปเล่นน้ำด้วยกัน ตอนแรกพี่แกก็ปฎิเสธ ผมเลยทำตาปิ๊งเลเซอร์บีมเหมือนเจ้านาโอซึมิดูบ้าง ได้ผลฮะ สุดหล่อเค้าทำหน้ามึนแล้วเดินตามลงมาเล่นด้วยทันที

        เล่นน้ำกันจนรู้สึกได้ว่าตัวเค็มปี๋ เเลท้องฟ้าก็เข้าสู่ช่วงที่เป็นสีส้มแล้ว เลยพากันขึ้น แวะล้างตัวกันที่ลานริมสระน้ำจืด (นอกจากจะมีหาดส่วนตัว ยังอุตส่าสร้างสระน้ำไว้ด้วยครับ รวยจนต้องเอาเงินมาผลาญเล่นจริงๆ)
        อยากจะเอารุ่นพี่ทั้งสามคนไปขึ้นปกหนังสือโป๊จริงๆ สงสัยจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่ๆ คนบ้าอะไรยืนเปลือยอกเรียงสาม ใช้น้ำจากฝักบัวรดจากเหนือศีรษะลงมาจนผมเปียกลู่ กางเกงขาสั้นที่ใส่ก็ดันแนบเนื้อ แถมหยดน้ำยังเกาะพราวบนกล้ามเนื้ออก และหน้าท้องเป็นลอนไร้ไขมันกล้ำกลาย

        “ไทจัง!!! อย่ามองคาจังตาเยิ้มแบบนั้นซิ หึงนะ!!!” นาโอซึมิเป็นคนเรียกสติผมครับ ไอพวกเพื่อนบ้า ผมแค่กำลังคิดอกุศลนิดหน่อย ทำเอาตกอกตกใจหมด

        ทั้งนาโอซึมิและมาซาฮิโระเข้าไปดึงแขนรุ่นพี่คาโงะกับไคโตะให้เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ทำเป็นหวงเว่อร์เห็นแล้วอยากเตะจริงๆ เลย

        รุ่นพี่ทาดาโยชิเองก็จัดการเก็บฝักบัว แล้วส่งซิกเรียกผมกลับเข้าไปในบ้านบ้าง

        ห้องนอนทั้งสองมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องน้ำรวมมีเพียงห้องเดียว ผมเลยได้รับสิทธิ์ให้ไปอาบก่อน

        มื้อค่ำเรามีโปรแกรมว่าจะปิ้งอาหารทะเลกินกันตรงลานหน้าบ้าน ป่านนี้เจ้าพวกที่อาบน้ำเสร็จแล้วคงไปจัดการกับของสดที่แม่บ้านเตรียมไว้แล้วมั้ง

        ผมนั่งเช็ดผมอยู่บนโซฟาหน้าทีวีระหว่างรอพี่โยชิอาบน้ำ ในทีสุดคนหน้าตาดีระดับเทพยังอายก็ออกมา นี่ขนาดหัวหูยังยุ่งอยู่นะ แต่เพราะไอร้อนของน้ำอุ่นละมั้งที่ทำให้ผวขาวหิมะนั้นย้อมสีชมพูอ่อนๆ ได้อย่างน่าดูชะมัด

        “จ้องอะไรหึ”

        “ผมอยากหล่อเหมือนพี่บ้าง” ตอบไปตามใจคิดครับ สุดหล่อเขายิ้มขำ ไม่มีคำว่าเขินหรือถ่อมตนในพจนานุกรมหรอก

        “นายก็น่ารักดีอยู่แล้วหนิ”

        “มาชมกันว่าน่ารัก เดี๋ยวปั๊ดมีเคือง” ผมทำหน้าบู้ใส่ไปทันที “ผมอยากหล่อ อยากเท่ห์ต่างหาก”

        “โอเค ไทกิทั้งหล่อทั้งเท่ห์ที่สุด พอใจยัง” ฝ่ายนู่นขยี้ผมผมเสียจนเละไม่เป็นทรงแล้วก็หัวเราเริงร่าเดินจากไป โว้ย!! หงุดหงิด

        ผมนั่งเหวี่ยงอากาศอยู่สองนาทีก็แพ้แรงเรียกร้องจากกะเพาะอาหารน้อยๆ ของตัวเองจนได้ เลยเดินออกมาตรงลานหน้าบ้าน กลิ่นอาหารเผาหอมลอยมามอมเมาจนเกิดอาการน้ำลายสอขึ้นมาตะงิดๆ

        ตรงเตาปิ้งย่างมีแม่บ้านช่วยจัดการให้อยู่แล้วสองคน ถ้านึกสนุกก็ยืนเข้าไปปิ้งเองบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็นั่งรอกินมากกว่าครับสบายดี

        การเล่นน้ำมาราธอนในวันนี้ดูดพลังงานผมออกไปจนหมด ผมเลยจักการสวาปามทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างเมามันส์ แล้วไม่อยากจะโม้เลยครับ อยู่ๆ ก็มีคนอาสามานั่งข้างๆ แล้วปอกกุ้งปอกปูให้กินอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แหม…แบบนี้ผมหละช้อบชอบ
    .
    .
    .
        เกือบเที่ยงคืนกว่าเราจะแยกย้ายกันนอน ผมทำได้แค่ซุกตัวเข้าไปในผืนผ้านวม ทำตัวให้กลมดิ๊กมากทีสุด ว่าแต่เบาะรองนอนบ้านนี้มันนุ่มจังเลยน๊า…เผลอๆ จะนุ่มกว่าเตียงบ้านผมอีกมั้ง ระหว่างหาชัยภูมิมั่นเหมาะบนหมอนตัวเองก็รู้สึกเหมือนมีวัตถุสีดำทรงกลม มีขนรอบตัวขยับเข้ามาใกล้ ชัดเลยฮะ หัวพี่โยชิกำลังเนียนมาอยู่บนหมอนเดียวกับผม

        “พี่เบียดผมทำไมอ๊ะ”

        “ไม่หนาวหรอ” ทำหน้าเหรอหราได้น่ารักที่สุดไปตามเคยฮะ

        “ไม่เห็นจะหนาวเลย อย่ามาเบียดนะ อึดอัด”

        “เดี๋ยวกลางคืนก็หนาว พี่เป็นคนขี้หนาวนะ เวลามีอะไรอุ่นๆ อยู่ข้างๆ ก็อยากจะซุกตัวเข้าไปใกล้ๆ”

        พูดแล้วอย่าทำหน้าอ้อนให้รู้สึกผิดได้มั้ยครับขอร้อง รู้สึกว่าการที่ทำตัวใจร้ายกับคนหล่ออาจทำให้คนอ่านเกลียดได้ ไม่ไหวเลย

        “อ่ะ..ให้นอนก็ได้”

        ผมละหงุดหงิดกะความใจอ่อนของตัวเองจริงเชียว ยอมแบ่งพื้นที่บนหมอนเล็กๆ ให้ไปได้ไงนะ หมอนตัวเองก็มียังอยากจะมาระรานอยู่ได้

        พอเริ่มข่มตาหลับเท่านั้นแหละครับเสียงอะไรบางอย่างก็ลอยมาเข้าหู เสียงมันเบาๆ หวิวๆ จนผมเองต้องแอบเนียนเข้าไปหาพี่โยชิบ้าง ก็คนมันกลัวนี่!!

        “…อื้อ…เบาหน่อยซิ….อื้อ….”

        “พี่โยชิ” ผมเรียกสุดหล่อ ท่ามกลางความมืดที่รายล้อมรอบตัว

        “หืม”

        “ได้ยินเสียงอะไรมั้ย” ขณะที่ถามผมก็กระดึ๊บตัวเข้าไปชิดพี่แกมากขึ้นอีกนิด

        “อ๊า….ฮื้อ….”

        “ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย”

        “ฟังดีดีซิ”

        “..อื้อ…คาโงะ…อื้อ…เบาๆ…จะตายอยู่..แล้ว…”
        “…ลึก…พอมั้ย…หึ….อื้อ…นาโอซึมิ…”

        “…อย่า…ตรงนั้น…อื้อ…ไคโตะ…อื้อ…ไค..โตะ..อุ๊….”

        “มาา..ซาฮิโระ…อื้ม….น่ารัก….ที่สุด..”

        “อื้อ…ฮึก….”

        พอตั้งใจฟังให้ดีก็เล่นเอาหน้าร้อนฉ่าครับ สงสัยจะเป็นผีผ้าห่มเสียแล้วคราวนี้ ผมนิ่งไปจนพี่โยชิต้องเอื้อมไปเปิดโคมไฟแถวๆ นัั้น

        “เป็นอะไรไปหึ หน้าซีดเชียว”

        อย่าว่าแต่ผมเลย พี่เองก็แก้มเเดงเชียว คงเขินหละซิ อยู่ๆ ก็มาได้ยินหนังสดระยะประชิด ที่มีเพียงผนังกั้นเท่านั้น แถมยังมาพร้อมกันสองเรื่องอีกต่างหาก

        ถึงผมจะไร้เดียงสาแต่ก็ฟังออกนะว่าตอนนี้ในห้องนั้นกำลังดำเนินกิจกรรมอะไรอยู่…

        “เจ้าแฝด…กับรุ่นพี่…ไปไกลกันถึงขนาดนี้แล้วหรอ” ผมได้ยินเสียงตัวเองเพ้อ รู้สึกเหมืนอนเรี่ยวแรงหายไปไหนก็ไม่รู้

        ก็เข้าใจว่ารักกัน…แต่ผมนึกภาพเพื่อนที่แสนจะขี้อ้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาแล้วเเอบทำใจไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าสองคนนั้นจะเดินไปไกลถึงขั้นนี้เเล้ว

        “รับไม่ได้หรอ … หึ” มือที่ปอกปูให้ผมกินเมื่อตอนหัวค่ำวางเเปะลงมาที่เรือนผม แล้วก็ลูบเบาๆ จนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นและห่วงใย

        “ก็ไม่เชิง…แต่รู้สึกว่าเจ้าสองคนนั้นยังเด็กอยู่เลย…”

        พี่โยชิไม่พูดอะไร นอกจากดึงหัวผมเข้าไปซบตรงอก แต่ที่แปลกกว่าผมกลับไม่ขัดขืนอะไรเลย แถมยังรู้สึกดีด้วยซ้ำที่มีคนคอยปลอบยามกำลังสับสนอะไรเช่นนี้

        ว่าแต่อกนี้…อุ่นจัง

        “เพื่อนพี่จะไม่ทิ้งเพื่อนผมใช่มั้ย…”

        เสียงหัวเราะใสๆ ดังอยู่ตรงริมหูนี่เอง “คาโงะกับไคโตะหนะ รักเพื่อนนายจะตาย ไม่ทำให้เสียใจหรอก”

        ผมพยักหน้ารับรู้ ยอมให้มืออุ่นๆ ลูบเรือนผมเล่นต่อไป

        “จะหวงเพื่อนไปถึงไหนห๊ะ เราหนะ”

        ผมไม่ตอบอะไร จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าหลับไปคาแผ่นอกนั้นเอง







    """"""""""""""""""""""""""""""""" be cont""""""""""""""""""""""""""""""""""

    ดูระยะห่างวันที่อัพแล้วรู้สึกเกลียดตัวเองตะงิด ทำไปได้เนาะ เหอะๆ

    ขอโทษนะจ๊ะที่อัพช้า แต่ก็อย่างอนไม่เม้นกันนะ อยากอ่านเม้นเยอะๆ จังเลยน๊าาาา จะได้มีไฟในการแต่ง เม้นน้อยแล้วไฟมอด เหอะๆ ว่าไปนั่นนน



    ตอนนี้ดูไทกิจะหงอยๆ เนาะ ยิ่งตอนจบรู้สึกได้เลยว่าน้องคงสับสนไม่น้อยหละ อยู่ๆ เพื่อนก็.... ซะงั้นนะ


    เเล้วพบกันตอนใหม่จ๊ะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×