ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End] Trick.o.treaT จะรักจะหลอกช่วยบอกหน่อย (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #12 : 12. Nothing you can't do!!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 695
      2
      26 พ.ย. 53

     Woooooohooooo กลับมาอีกครั้งเเล้วครับ กับเรื่องราวน่ารักน่าหยิกของหนูไทกิกับรุ่นพี่โยชิ
    (สาบานว่านานได้ถึงหนึ่งปีกว่าที่ไม่ได้อัพ ออเฟียส สลดดดด)





    12 


    ผมนั่งเครื่องบินติดต่อกันเป็นเวลา 18 ชั่วโมง นั่งนานกว่านี้อีกนิด เห็ดคงผุดขึ้นมาตามเนื้อตามตัวผมเเล้วล่ะ ในที่สุดคุณกัปตันก็ใจดี เอาเครื่องลงจอดที่สนามบินจอห์น เอฟ เคเนดี้ อย่างนิ่มนวลไม่ให้กระทบกระเทือนเนื้อก้นที่นั่งขดตัวลีบมาในชั้นประหยัดของผม 


    ตม.มองหน้าผมสลับกับรูปในพาสปอร์ตเเล้วก็ขมวดคิ้ว หน้าเหมือนรักเเรกของเเกรึไง มองอยู่นั่นอ่ะ ในที่สุดพี่เเกก็ปั๊มตราเเล้วยื่นกลับมาให้ พร้อมพ่นสำเนียงอเมริกันใส่หน้าผมเต็มที่


    “Have a nice trip!” 


    หมอคงนึกว่าผมมาเที่ยว ใช่ซิก็ผมกรอกในเอกสารคนเข้าเมืองว่ามาเที่ยว ทริปผมคงจะไนซ์อ่ะนะถ้าผมหาไอ้รุ่นพี่หน้าหมานั่นเจอ ตอนนี้ไม่หล่อแล้วฮะ หงุดหงิด นึกจะบินหนีข้ามฝั่งโลกก็ไม่บอกกันซักคำ ผมก็ไม่ใช่พระเอกหนังเเขกนะฮะ จะได้ตามเเม่งไปได้ทุกที่ 


    พอเดินออกมาข้างนอก โห คนเเม่งจะเยอะไปไหนเนี่ยนิวยอร์ค ผมลากกระเป๋าไปตามเเผนที่ในมือที่เพื่อนของเเม่ปริ๊นท์มาให้ ผมต้องไปหารถตู้เวียนที่จะพาไปยัง Hostel  ที่จองไว้ ซึ่งมันก็อยู่ชั้นล่างสุดของสนามบิน เดินหลงไปหลงมาในที่สุดก็เจอ ผมควักเอกสารที่จองรถไว้แล้วให้เจ้าหน้าที่ เขาก็ยื่นป้ายคิวมาให้ เเล้วบอกให้นั่งรอก่อนเดี๋ยวเรียก


    อย่า!  อย่านึกว่าผมเก่งเเล้วสามารถฟังภาษาอังกฤษเร็วไฟเเลบนั่นออก ผมหันไปมองคนข้างๆ เเล้วทำตามครับ จะได้ไม่เสี่ยว


    พอคุณลุงที่ผมเลียนแบบลุก ผมก็ลุกตามแล้วลากกระเป๋าไปยังรถตู้ที่สภาพไม่น่าดูเท่าไหร่ คนขับรถช่วยยกกระเป๋าไปเก็บให้ด้านหลัง แล้วก็ชี้ๆ ให้ผมขึ้นไปนั่ง 


    เป็นชั่วโมงฮะ กว่าจะเข้าถึงตัวเมือง เเน่นอนว่าผมทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว ไอ้ตอนตัดสินใจมาเเม่งขาดสติสุดๆ คุณนายนากามารุเเกก็ไม่ห้ามลูกเลย ภาษาอังกฤศอันอ่อนด้อยของผมกับมหานครนิวยอร์ค Nothing you can’t do โอเคเเปลว่าไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ที่นี่ นั้นเเปลว่าผมจะหลงก็ไม่มีใครห้ามครับ ประเด็นคืออย่าหลงจนกลับประเทศไม่ได้ก็พอ T^T


    คิดอะไรเพลิน ก็มาถึงโฮสเทลที่จองไว้ โอ้โหเล็กกว่านี้ได้อีกครับ มันเป็นประตูเเคบๆ แขวนป้ายไว้นิดหน่อยพอให้ไม่หลง เมื่อผมลากกระเป๋าเข้าไปก็เจอเคาร์เตอร์เล็กๆ พนักงานเป็นผู้หญิงผมสีบลอนซ์เธอยิ้มให้ผมเเล้วกล่าวทักทาย เเน่นอนว่าผมฟังออกแค่ Good Evening หลังจากนั้นขอ Talking Dic ด่วนๆ เลยฮะ 


    ผมยื่นเอกสารการจองให้เธอ ขอบคุณคุณนายนากามารุที่ตระหนักถึงความอ่อนด้วยทางภาษาของผม เลยให้เพื่อนของเธอที่เปิดบริษัททัวร์จัดการเอกสารทุกอย่างให้ ผมเเค่จับคู่มันยื่นให้ถูกกับสถานที่ก็พอครับ อย่า! อย่าคิดว่าผมเก่งถึงขนาดจับคู่ถูกด้วยตัวเอง เเน่นอนว่าทุกแผ่นต้องมีภาษาญี่ปุ่นตัวเล็กๆ เขียนกำกับไว้ด้วย ฮา...  แล้วงานนี้ผมจะรอดมั้ย มาตามดูกันครับ 


    คืนนั้นผมนอนในห้องเดี่ยวที่เเคบมากแถมยังต้องใช้ห้องน้ำรวมด้วย แม้จะเป็นโรงเเรมเล็กๆ แต่ราคาค่าห้องนี่สามารถนอนห้องกว้างๆ ในญี่ปุ่นได้เลยฮะ นิวยอร์คนี่ค่าครองชีพสูงจริงๆ ผมหลับไปตั้งเเต่หัวค่ำเพราะว่าคงเพลียจากการนั่งเครื่องบินมาราธอน


    วันรุ่งขึ้น ตื่นซะสายเลย ชักเริ่มไม่เเน่ใจแล้วว่าตั้งใจมาหาคนจริงๆ รึเปล่า ผมจัดการเอาของใช้ส่วนตัวมาใส่ถุงรวมกันแล้วเดินออกไปใช้ห้องน้ำที่อยู่ห่างจากห้องตัวเองออกไปอีกนิด คงเป็นเพราะคนอื่นๆ ออกไปกันหมดแล้วผมเลยได้ใช้ห้องน้ำทันทีไม่ต้องรอคิว หลังจากเเต่งตัวเรียบร้อยไทกิน้อยในโลกกว้างก็เริ่มออกเดินทางครับ 


    ขั้นเเรกไปหาทางลงรถไฟใต้ดินก่อน เเน่นอนว่าหน้าผมกับแผนที่นิวยอร์คเเถมจะผสานเซลล์กันอยู่เเล้ว ผมเดินตามคำบอกไม่นอนก็เจอทางลงจริงๆ เย้ๆ ตื่นเต้นเเละภูมิใจเล็กน้อยฮะ เหอะๆ เเค่หาสถานีรถไฟเจอเท่านั้น


    หลังจากลงไปงมวิธีการซื้อบัตรและเรียนรู้การขึ้นรถไฟเเต่ละสายอยู่อีกเกือบชั่วโมง ย้ำฮะ ว่าเกือบชั่วโมงจริงๆ เพราะหลังจากไปขอแผนที่สถานีรถไฟใต้ดินมาจากนายสถานีผมก็เเทบเป็นลมล้มพับเป็นพจมานเพิ่งโดนหญิงเเม่ตบมายังไงยังงั้น


    อย่างเเรกภาษาอังกฤษอันอ่อนด้อยของผมเอง และอย่างที่สองสถานีเมิงเยอะไปไหนครับนิวยอร์ค!


    เเต่เนื่องจากผมเป็นเด็กที่เกิดเเละเติบโตมาในโตเกียว เพราะฉะนั้นผมกับรถไฟเราต้องเป็นเพื่อนกันให้ได้ ไอ้พี่โยชิเตรียมตัวเตรียมใจโดนผมต่อยหน้าไว้ได้เลย ผมไปถึงบ้านมันเเน่!!


    ผมไม่หลงครับ เก่งมั้ย!? แต่ต่อมโง่ก็ยังไม่หายไปจากสมองไทกิครับ พอขึ้นมาจากใต้ดินทุกทิศก็ดันเหมือนกันหมด มันเป็นย่านอพาร์ทเม้น อพาร์ทเม้น และอพาร์ทเม้นเเล้วก็เสือกสร้างด้วยเเบบแปลนเดียวกันฮะ โห...ช่วยมีความคิดเป็นของตัวเองบ้างได้ไหมเนี่ย อะไรจะเหมือนกันขนาดนั้น ผมพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด โอเคเริ่มเดินหาที่ละตึกแล้วกัน มันมีเเค่สี่ทิศเอง ไม่เป็นไร มีเวลาอยู่นิวยอร์คตั้งอาทิตย์ ยังไงมันก็ต้องเจออีตึกเลขที่ 302 เข้าซักวันละว่ะ 


    โอ๊ะ!  แต่สมองของผมยังเหลือเซลล์ฉลาดอยู่บ้างสงสัยได้รับมาจากไอ้หน้าหมา หึหึ เจอคนเอเชียเดินมาฮะ หมอนั่นก้มหน้าก้มตาแต่ดูจากสีผิวและสีผมเเล้วเดาว่าประเทศบ้านเกิดของเราคงใกล้เคียงกัน เดินไปถามดีกว่า ถ้าพูดญี่ปุ่นได้ละก็โป๊ะเชะ! เลย 


    เดินดุ่มๆ เลยผม เดี๋ยวแม่งข้ามถนนไปละซวย ในที่สุดผมก็วิ่งไปหยุดหน้าหนุ่มผู้โชคดีที่สุดในจักรวาลพอดี 


    “ขอโทษครับ แฮ่ก!” เอ่า เวรหอบ เลยพูดไม่รู้เรื่องเลย


    “คนญี่ปุ่นหรือครับ”


    “ใช่ค..เฮ้ย!!!!!!!!!!!”


    “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยย!!”


    มันจะตกใจทำไมเนี่ย มันหน้าที่ผมไม่ใช่หรือที่ต้องตกใจ


    “รุ่นพี่/ไทจัง!!!!!” เออดี พูดพร้อมกันอีก


    จะโผล่มาไม่ให้เตรียมตัวเตรียมใจกันเลยวุ้ย บทจะหาง่ายก็ง่ายเว่อร์ ช่วยให้หานานกว่านี้อีกหน่อยไม่ได้หรือไง แล้วไอ้รุ่นพี่บ้ามาเดินท่อมๆ ทำไมเเถวนี่เนี่ย ทำไมไม่ไปซ่อนตัวอยู่ในตึก รอให้ผมได้ตกระกำรันทดให้สุดชีวิตแล้วเอ็งค่อยโผล่มาเป็นพระเอกสิ


    หงุดหงิดฮะ หาเจอง่ายไป ผมทำใจไม่ได้!!


    “ไทจังตัวจริงใช่มั้ย”


    ครับตัวจริง ไม่ได้ตรอมใจตายเเล้วถอดวิญญาณมาหาพี่


    “มาได้ยังไง..” 


    ผมนั่งเครื่องบินสายการบิน ANA  มาครับ ถามมาได้ คิดว่าผมมีปีกงอกแล้วเหาะมาเองหรือไง! พี่เห็นปีกที่หลังผมไหมละ


    พาลครับพาล พูดอะไรมาก็ไม่เข้าหูหมดเเหละ


    “มาเจอกันไกลขนาดนี่แล้วยังจะใจร้ายไม่พูดกับพี่อีกหรอ” 


    นี่มันนึกว่าผมมาเที่ยวชิวๆ ที่นิวยอร์คหรือไง ผมก็มาตามรุ่นพี่นั่นเเหละ เเต่เเม่งยังทำใจไม่ได้เว้ย คาดคั้นจังเลย! เดี๋ยวโดดจูบปากให้ตั้งตัวไม่ทันเลย


    เออ ว่าเเล้วก็ทำตามที่คิดดีกว่า 


    ฮะ ฮะ มันเหวอไปเลย เป็นไงหละ เจอท่าเขย่งล็อกคอแล้วก็จูจุ๊บของผม อึ้งเเด๊ก!!


    “หายกันนะฮะ” ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย อยากจะกัดลิ้นตาย ตกลงที่ทนนั่งเมื่อยตูดข้ามทวีปมาเพื่อมาจูบมันคืนหรอ?


    “อ่าว ... ที่โกรธพี่นี่เพราะ พี่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้เราจูบพี่กลับหรอ”


    ไอบ้า ไอหลงตัวเอง อย่ามาทำหน้าระรื่นได้ใจไปหน่อยเลย เมื่อกี่้ผมลืมตัวหรอก เเล้วลืมตัวทำไมต้องไปจูบมัน


    ผมขมวดคิ้ว 


    “ผมมาเอาจูบผมคืนต่างหาก” นี่! เอาสีข้างถูเข้าไป 


    “ใจร้าย” อย่า อย่ามาทำหน้างอน อย่ามาทำตาอ้อน ไอ้รุ่นพี่หน้าหมาเอ็งยังไม่สิ้นสภาพการเป็นนักโทษ 


    “อยู่ๆ ก็หนีมาไม่เห็นบอก”


    “ไทจังสนใจฉันด้วยหรอ” 


    แหมะ! ถ้าไม่สนนี่ผมจะไถตังค์แม่เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินบินตามพี่มาถึงนี่หรอ 


    “ก็ ... พี่จะไม่กลับไปแล้ว”


    “ไทจังว่าไงนะ”


    “ก็มาสะบอกว่าพี่จะมาเรียนที่นี่ไม่กลับญี่ปุ่นเเล้ว!” ฮึก น้ำตาจะไหล น้อยใจมันหงะ


    ผมเห็นรุ่นพี่ยิ้มกว้าง แล้วมันก็ทำหน้าเหมือนจะกลั้นหัวเราะ เเต่มันก็กลั้นไม่อยู่ฮะ 


    “ขำอะไร” ไม่ได้โกรธที่มันหัวเราะฮะ เเต่มันไม่เเบ่งปันเลยอ่ะ อยากจะขำด้วยคน


    “โดนเพื่อนหลอกเเล้วเราหนะ”


    “ว่าไงนะ”


    “ก็พี่มางานวันเกิดคุณตา เดี๋ยววันจันทร์พี่ก็กลับแล้ว พี่ยังเรียนไม่จบม.ปลายเลย”


    อ่าว ... ซวยเลยกู จะเอาเงินที่ไหนไปคืนเเม่หละทีนี้ 


    “ตกลงที่มานี่..มาตามพี่หรอ”


    เออ... ผมมาชิวมั้ง มาดูเทพีเสรีภาพแล้วก็กลับ


    “พักที่ไหนหละ ย้ายมาอยู่ห้องพี่ดีกว่า พี่นอนคนเดียว เหงา”


    “ผมพักโฮสเทลเเถวเชลซี”


    “ป่ะ งั้นไปย้ายของกัน”


    ว่าแล้วมันก็ลากผมมุดกลับลงไปในใต้ดินครับ ปรึกษาบ้างได้มั้ย ประโยคคำถามมันต้องการคำตอบนะเว้ย ไม่ใช่พูดเองเออเองเเบบนี้




    ไอ้รุ่นพี่สุดหล่อมันไปเจรจากับเจ๊ผมบลอนซ์แป๊บเดียวก็ได้เงินค่าห้องกลับมา แต่ไม่ได้ค่ามัดจำที่จ่างล่วงหน้าตอนจองผ่านเนต ผมนึกเสียดายเงินแต่จะว่าไปก็คุ้มฮะ ไปอยู่กับรุ่นพี่คอยดูเหอะผมจะกิน จะอ้อนให้มันซื้อของให้จนหมดตัวเลย 


    เมื่อกี่๊ผมคิดอะไรออกไปเนี่ย ทำไมผมต้องอ้อนมันด้วยอ่ะ ?


    ไม่นานผมกับคนตัวสูงๆ ก็กลับมาถึงอพาร์ทเม้นสุดไฮโซในย่าน Upper Eastside ของมัน เเละเเน่นอนว่าอยู่คนเดียวด้วย โห..ชีวิตคนรวยนี่มันดีจริงๆ


    “ของคุณตาหนะ ท่านซื้อไว้นานเเล้ว บ้านจริงๆ ท่านอยู่นอกเมืองมันสบายกว่า”


    “ครับ” ตอบเเค่นั้นฮะ เพราะมัวตื่นเต้นกับห้องสไตล์ตะวันตก มันไม่กว้างขวางเท่าไหร่ เเต่ก็เเยกเป็นส่วนๆ แถมตกเเต่งได้อบอุ่นมากๆ 


    “อารมณ์ดีแล้วใช่มั้ย”


    เอ๊ะ!  หมายความว่าไง


    “ก็ตั้งเเต่เจอกัน ไทจังเอาเเต่คิ้วขมวดหนะสิ พี่เพิ่งเห็นเรายิ้มตอนนี้เอง”


    ก็ใช่ซิ จะไม่ให้คิ้วขมวดได้ไง หงุดหงิดเอ็งอยู่นี่นา


    “กลับวันไหนล่ะ”


    “วันจันทร์ฮะ”


    “ไฟลท์อะไร”


    ผมไปรื้อๆ ตั๋วเครื่องบินจากในกระเป๋าเป้แล้วยื่นให้มันดู


    พี่โยชิยิ้มกริ่ม อารมณ์ดีอะไรอีกเนี่ย


    “ไฟลท์เดียวกันเลย”


    อะไรจะสมพงขนาดนั้น กลับไปจัดงานเเต่งกันเลยเมะ


    “อืม พี่ไปเปลี่ยนเป็น Business class  ให้ดีกว่าจะได้นั่งด้วยกัน”


    “ผมไม่มีเงิน” ช่วยสำนึกนิดนึงว่าบ้านผมไม่ได้รวยเหมือนบ้านพี่


    “อุตส่าห์ลงทุนมาตามกันทั้งที พี่ก็ต้องมีของตอบเเทนหน่อยซิ ค่าตั๋วพี่จ่ายให้”


    “หึ พี่เตรียมจ่ายอย่างอื่นไว้ด้วยเลย รับรองอาทิตย์นึงต่อจากนี้ไป พี่จ่ายหนักแน่”




    ;;;;;;;;;;;;;;;; Be Con ;;;;;;;;;;;;;;;; 

    กรี๊ดดดดดดดดดดดด!! เค้างอนกันน่ารักเนาะ น้องไทจังบินมาเอาจูบคืนถึงนิวยอร์คคคคค มารอดูพี่โยชิโดนน้องอ้อนกันเถอะ ที่นี่เร็วๆ นี้เเหละค่ะ 


    ปล. ช่วงนี้เห็นสปีดการอัพของออเฟียสแล้วไม่ต้องตกใจ (สติยังครบ ไม่ได้กินยาผิดเเต่ประการใด) คือเราอยากให้ทุกเรื่องจบก่อนเราเรียนจบ (ทำได้มั้ยอ่ะ) เพราะคิดว่าหลังจากนั้นคงไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่


    เอาหละเรามาสู้ๆ ไปพร้อมกันค่ะ คริคริ ออเฟียสปั่น คนอ่านเม้นนะค่ะ เย้ๆ 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×