ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : หมีกินไก่!!!!!!
Chapter 6 : หมีกินไก่!!!!!!
บนเวทีเยซองกับซีวอนขึ้นไปกล่าวเปิดงานแทนคังอินที่หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ เยซองและซีวอนกล่าวประวัติคร่าวๆของคิบอมกับคยูฮยอน ก่อนจะให้ฮยอกแจขึ้นมาบนเวที
เมื่อฮยอกแจก้าวขึ้นมาบนเวที ผู้คนในงานต่างงงกับการปรากฏตัวของใครก็ไม่รู้ ที่หน้าตาคล้ายไก่ละเริ่มมีเสียงซุบซุบนินทา
“คือตอนนี้สมาชิกใหม่ของแก๊งเรายังไม่สามารถมาพบกับทุกคนได้ เนื่องจากต้องไปทำภารกิจบางอย่าง เลยให้ฮยอกแจเพื่อนสนิทของทั้ง 2 คนขึ้นมาเล่าเรื่องราวของทั้ง 2 ไปพลางก่อนๆ” พูดจบเยซองพูดจบก็ส่งไมค์ให้ ฮยอกแจ ทุกคนในงานเริ่มหันกลับมาฟังตามปกติ
“เอ่อ...สะ...สวัสดีครับ ผมชื่อฮยอกแจครับเป็นเพื่อนสนิทของคิบอมกับคยูฮยอน” ฮยอกแจเริ่มพูดไปเรื่อยๆ โดยมีเยซองกับซีวอนยืนประกบอยู่ ช่วงแรกก็พูดดีอยู่หรอก ชมเพื่อนอย่างนู้นอย่างนี้แต่หลังกลับกลายเป็นนินทาซะงั้น
“เมื่อกี้นะครับ ผมเห็นไอ้คิบอมมันเดินควงกับดงเฮด้วยล่ะ อี๋อ๋อกันน่าดูเลย...”
ยิ่งพูดยิ่งออกท่าออกทาง ซีวอนเห็นท่าไม่ดีเลยแย่งไมค์มาจากฮยอกแจส่งให้เยซองแล้วลากฮยอกแจลงเวทีไป
“ไอ้สิ่งที่ควรพูดกลับไม่พูดแต่ไอ้สิ่งที่ไม่ควรล่ะพูดจัง! รออยู่นี้แหละนายเดี๋ยวฉันจะกลับมาเคลีย! พี่คังอินก็หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ ไม่มาช่วยกันบ้างเลย!” ซีวอนในมาดโหดครับท่านผู้อ่าน
คิบอมแล้วดงเฮหลังจากที่หนีออกมาจากงานด้วยกัน ก็เดินกันไปทางที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ
“ดงเฮรู้มั้ยครับทำไมผมถึงมาเรียนที่นี่” คิบอมหันไปมองดงเฮแล้วยิ้ม
“ทำไมหรอ” ดงเฮหันไปมองหน้าคิบอมแล้วเอียงคอก่อนจะยิ้ม
“ก็เพราะดงเฮไงครับ ผมอยากรู้จักดงเฮ ผมเลยสอบเข้ามาเรียนที่นี่”
“จริงหรอดีใจจัง” ดงเฮเข้ามาควงแขนคิบอมแล้วซบลงที่แขนแกร่งนั้น
“แล้วดงเฮไม่เกลียดผมหรอที่ผมเข้ามาอยู่แก๊งหนุ่มหล่อ”
“ไม่หรอก คิบอมน่ารักออกอย่างนี้ เราเกลียดไม่ลงหรอก...เอาเป็นว่าต่อไปนี้คิบอมเรียกเราว่าด๊องก็ได้นะ จะได้ดูสนิทสนมไง”
ดงเฮหันไปหอมแก้มคิบอม ก่อนซบลงที่แขนของคิบอมเหมือนเดิม รอยยิ้มของผู้ที่กุมชัยชนะปรากฏขึ้นเมื่ออีกคนเล่นตามเกมอย่างว่าง่าย
“คิบอม...ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย” ดงเฮทำท่าออดอ้อนคิบอม
“ว่ามาเลยครับ สำหรับด๊องแล้วผมตอบได้ทุกทำถามเลย” คิบอมตอนนี้ที่หน้ามืดตามัวหลงดงเฮจนโงหัวไม่ขึ้น ดงเฮพูดอะไรมาก็พร้อมจะทำตามทุกอย่าง
“คือ...เราอยากรู้ว่าแก๊งหนุ่มหล่อให้นายทำอะไรหรือป่าว” ดงเฮจ้องไปที่หน้าของคิบอม
“เอ่อ...คือ...” คิบอมรู้สึกอึดอัดทันทีเมื่อได้ยินคำถาม เรื่องนี้เค้าไม่ควรพูดโดยเฉพาะกับคนในแก๊งหน้าหวานอย่างดงเฮ แต่ถ้าเขาไม่พูดดงเฮอาจจะโกรธได้
“ไหนคิบอมบอกว่าจะบอกเราทุกอย่างไง คนผิดสัญญา งอนแล้วนะ” ดงเฮพองลมที่แก้มแล้วเบ้ปาก คิบอมเห็นอย่างแล้วยิ่งร้อนรน
“เอ่อ...ด๊องอย่าเพิ่งงอนผมสิ ผมจะบอกแล้ว” คิบอมพูดอย่างร้อนรน ดงเฮเห็นท่าทางของคิบอมแล้วยิ่งได้ใจ
“ว่าไง บอกมาเลย” จากหน้าบึ้งเมื่อกี้นี้กลายเป็นยิ้มในทันที ดงเฮเลื่อนหน้าเข้ามสใกล้ๆคิบอมแล้วยิ้มหวานให้
“เอ่อ...คือ...พี่คังอินให้ผมกับคยูมาสืบเรื่องเกี่ยวกับแก๊งหน้าหวาน สืบความเป็นไปในแก๊ง สืบว่าไม่ใครเข้าออกหรือสุงสิงกับแก๊งนี้หรือป่าว” คิบอมพูดออกไปจนหมดทุกอย่าง ในใจตอนนี้คิดแค่เพียงว่า คนตรงหน้ายังจะโกรธเขาอยู่หรือป่าว
“หรอ...เราชอบคิบอมที่สุดเลย” ดงเฮกอดคอคิบอมก่อนที่ทั้ง 2 คนจะเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของดงเฮ
“เข้าไปข้างในก่อนมั้ย วันนี้เราอยู่คนเดียว คิบอมเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยสิ”
ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบจากปากคนที่โดนชวน ดงเฮก็ลากคิบอมเข้าไปในบ้านเสียแล้ว คิบอมไม่เพียงจะพูดคำใดออกมา แม้แค่แรงยังไม่มีจะขัดขืน หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะ ดงเฮให้คิบอมนั่งรออยู่ที่โซฟาแล้วตัวเองเดินเข้าครัวเพื่อเอาน้ำมาเสิร์ฟแขก
หลังจากที่น้ำ 2 แก้วถูกวางลงที่โต๊ะความเงียบก็เริ่มปลกคลุม มีเพียงเสียงรายการโทรทัศน์ ที่ดังโหวกเหวกโวยวาย
“ด๊องชอบเราหรือป่าว...คือ...แบบคนรักน่ะ”ความเงียบระหว่างคน 2 คนถูกทำลายลง คิบอมรวบรวมความกล้าแล้วถามออกไป
“อืม...ชอบสิ” ด้วยมารยาหญิง(หรือป่าว)ของดงเฮทำให้ตอบออกไปอย่างนั้นพร้อมกับยิ้มที่มอบให้คิบอม
คิบอมได้ฟังดังนั้นก็ยิ่งดีใจ หัวใจมันพองโตแทบจะระเบิดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ใบหน้าตี่เต็มไปด้วยรอบยิ้มที่มาจากใจจริง แต่ทั้งรอยยิ้มละความรู้สึกของคนข้างๆ มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดน่ะสิ
คิบอมเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ดงเฮ มือหนาดันตัวดงเฮให้นอนลงโดยไม่มีการขัดขืนใดๆ ริมฝีปากของดงเฮเลื่อนลงไปหมายจะประกบกับริมฝีปากบางตรงหน้า
~ Love ~ oh baby my girl~คือ เดน นา เอ จอน บู นุน บู ซี เดอา รึม ทา อุน นา เอ ชิน บู ชี นี จู ชิน ซอน มุล~
เสียงโทรศัพท์ของดงเฮดังขึ้นขัดจังหวะความสุขของใครบางคน ดงเฮผละออกจากคิบอมทันที มือคว้าไปที่โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะชื่อของฮีชอลที่โชว์อยู่หน้าจอทำให้ดงเฮต้องรีบของตัวออกไปคุย
“แป๊บนะ เดี๋ยวมา” ดงเฮหันไปบอกคิบอมที่หน้าตาแสดงออกอย่างเห็นได้ว่าอารมณ์เสีย ก่อนจะเดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก
“ฮัลโหล”
“ด๊อง!! นายอยู่ไหน!! แล้วมินล่ะอยู่ที่ไหน โทรไปก็ปิดเครื่อง ไม่รู้เลยหรือไงนะว่ามีคนเค้าเป็นห่วง ถ้าโดนไอ้คยูบ้านั่นทำอะไรขึ้นมาล่ะจะเป็นยังไง...” เสียงที่พูดเหมือนกับว่าตัวเองหายใจทางผิวหนัง ไม่คิดว่าจะเปิดโอกาสให้คนฟังพูดบ้าง แล้วไม่รู้ว่าเจ๊แกเข้าใจอะไรผิดหรือป่าว โทหาดงเฮ พูดถึงแต่ซองมิน
“เอ่อ...พี่ฮีชอลครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านอยู่กับคิบอม ส่วนมินผมไม่รู้หรอกครับว่าอยู่ที่ไหน”
“นายพาคิบอมไปที่บ้านเลยหรอ มันเสี่ยงไปหน่อยหรือป่าว” ถึงจะรู้ว่าดงเฮเอาตัวรอดเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็นห่วงน้องอยู่ดี
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับพี่ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ได้ข้อมูลดีๆมาเพียบ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเล่าให้ฟัง”
“อืม...ได้ งั้นนายช่วยพี่โทหามินทีนะ”
“ครับ” ดงเฮวางสายก่อนจะเดินเข้าบ้าน
คิบอมที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่เห็นดงเฮเดินเข้ามาก็ยิ้มให้
“ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่า” คิบอมลุกขึ้นและเดินออกไป
“งั้นฉันไปส่งหน้าบ้านนะ” ดงเฮเดินตามคิบอมออกมาหน้าบ้าน
“บายนะครับ ฝันดีนะ” คิบอมยิ้มให้ดงเฮก่อนจะเดินเข้ามาหอมแก้มแล้วกระซิบที่ข้างหูก่อนจะเดินจากไป ทำเอาหนุ่มหน้าหมวยหน้าแดงยืนยิ้มลูบแก้มตัวเองปรอยๆรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากที่ฮันคยองหลุดออกมาจารุ่นน้องได้ก็วิ่งตามหามินอย่างบ้าคลั้ง แต่กลับมาเจอฮีชอลที่นั่งอยู่ข้างซีวอน ฮันคยองมอง 2 คนนั้นอย่างเจ็บปวด ในขณะเดียวกันฮีชอลก็หันมาเห็นฮันคยองที่ยืนมองเขากับซีวอนอยู่ จึงเขยิบออกห่างซีวอนเพราะไม่อยากให้คนที่ตนชอบต้องเข้าใจผิด ฮันคยองเป็นไม่สนใจกับสิ่งที่ได้เห็นและวิ่งออก ตามหาซองมินต่อไป
ซองมินที่นอนหลับสบายอยู่บนอกของคยูฮยอนซุกหน้าหาไออุ่นไปที่อกกว้าง คยูฮยอนที่ตื่นมาได้ซักพักกอดซองมินแน่นยิ่งขึ้น มองดูคนน่ารักตรงหน้า ไม่อยากจะปลุกให้ตื่นเลยจริงๆ คยูฮยอนลูบผมนุ่มๆของซองมินเบาแล้วหอมไปที่ผมนั้น
“มิน! นายอยู่ไหนน่ะ”
เสียงของผู้ที่ไม่ประสงค์อยากจะให้มาดังขึ้น ทำให้คนในอ้อมกอดงัวเงียตื่นขึ้นมา
คยูฮยอนดึงซองมินเพื่อจะหาที่หลบ แต่กลับโดนคนที่ไม่อยากจะเจอดึงซองมินที่งัวเงียเพราะเพิ่งตื่นจนเซเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด
“พี่ฮัน” ซองมินที่เริ่มได้สติการแรงดึงเงยหน้าขึ้นไปมองผู้มาเยือนก็ยิ้มออก
“นายทำอะไรมิน”ด้วยความโกรธ ฮันคยองตรงเข้าไปต่อยคยูฮยอนเข้าเต็มๆที่มุมปาก จนเห็นเลือดสีแดงไหลออกมา
“พี่ฮันคยองอย่าทำเค้า มินไม่อยากให้มีเรื่อง” ซองมินเดินเข้าไปจับแขนฮันคยองไว้
“อย่ามายุ่งกับแฟนฉันอีก! เข้าใจมั้ย!” ฮันคยองยอมเชื่อฟังซองมินแต่โดย ชี้หน้าคยูฮยอนก่อนจะโอบเอวซองมินพากลับเข้างาน
“มินไปรู้จักกับหมอนั่นได้ไงบอกพี่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ” มาถึงในงานฮันคยองก็ลากซองมินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อนเค้นเรื่องคยูฮยอน
“มินว่าเราออกไปที่งานดีกว่านะ มินหิวแล้ว” ซองมินพยายามเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากตอบถาม
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง” ฮันคยองจ้องซองมินเขม็ง
“เราปะ...”
“จะบอกไม่บอก” ฮันคยองเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ซองมิน สายตาบ่งบอกว่าต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้
“บอกแล้วๆ...คือ...พี่ฮีชอลให้คนในแก๊ง.............................................” แล้วซองมินก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฮันคยองฟัง (จนได้)
“หมอนั่นคิดอะไรอยู่นะ ถึงให้ทำอะไรบ้าๆแบบนี้”
“แล้วพี่ฮันสัญญาได้มั้ยว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร” ซองมินชูนิ้วก้อยให้ฮันคยอง
“ได้สิ...พี่สัญญา” ฮันคยอง เกี่ยวนิ้วก้อยของตัวกับนิ้วเล็กๆที่ชูอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มให้คนน่ารักที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟน
“นี่ก็ 3 ทุ่มแล้วพี่ว่ากลับบ้านกันเถอะ งานก็ใกล้เลิกแล้วด้วย เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ฮันคยองดูนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะจูงมือซองมินออกจากห้องน้ำ
ฮันคยองกับซองมินเดินคุยกันมาเรื่อยจนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านซองมิน ทำไมความสุขมันผ่านไปเร็วแบบนี้นะ
“หลับฝันดีนะครับ” ฮันคยองก้มลงหอมแก้มซองมินเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะเดินกลับไป
และก็เป็นประจำที่ซองมินจะยืนลูบแก้มตัวเองอยู่หน้าบ้านจนแม่บ้านต้องออกมาเรียก ทำยังไงก็ไม่ชินซักที
คยูฮยอนหลังจากที่โดนแย่งซองมินไปก็โมโหยกใหญ่ พาลเดินเตะทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหูขวางตา
“ไอ้บ้าเอ้ย!! เซ็งโว้ยยย!!!” คยูฮยอนที่เดินหลับหูหลับตาโวยวายจนไปชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง
“ไอ้บ้า!!มองไม่เห็นคนหรือไง ถอยไปสิว่ะ!!” คยูฮยอนต่อว่าเสาไฟฟ้าที่คงจะด่าเค้ากลับไม่ได้เพราะมันไม่มีปาก ไม่น่าเชื่อว่าขนาดไม่ได้กินเหล้ายังเมาได้ นายสามารถมากเลยคยู
“ไม่ตอบใช่มั้ย!!”
พลั่ก!
คยูฮยอนต่อยเสาไฟฟ้าไปเต็มๆแรง ไม่รู้เพราะเสียสติไปแล้ว หรือเพื่อจะระบายอารมณ์กันแน่ จนนิ้วเรียวเต็มไปด้วยรอยถลอกและเลือดที่ค่อยๆไหลซึมออกมาจากรอยแผล
“โธ่เว้ย!! เซ็ง!” ถึงจะเจ็บแค่ไหนก็ยังไม่วายเดินเตะข้าวของที่ขวางหน้าไปตลอดทางจนถึงบ้าน
-- เช้าวันต่อมา ที่โรงเรียน
“ถอยไป!! บอกให้ถอยไปไงวะ!!” คังอินเดินเหวกฝูงชนนักเรียนชั้นปี 1 ใครขวางจับโยนซะกระเด็น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้อารมณ์เป็นยังไง เยซองกับซีวอนก็ได้แต่เดินตามมาอย่างเงียบๆ จนถึงเป้าหมาย
“คิมคิบอม!! โจคยูฮยอน!! เมื่อวานพวกนายหายหัวไปไหนก๊านนนนน!!!!!!!!!” คังอินผลักประตูห้อง B1 ออกอย่างแรงแล้วแผดเสียงไปทั่วห้อง เดินไปยังโต๊ะของตัวปัญหาทั้ง 2ทำเอาคนที่ไม่รู้เรื่องวิ่งออกจากห้องกันแทบไม่ทัน
คิบอมกับคยูฮยอนมองหน้าคังอินแว๊บหนึ่งก่อนคิบอมจะก้มหน้าอ่านหนังสือเหมือนเดิม ส่วนคยูฮยอนก็กลับไปให้ความสนใจกับเกมในโทรศัพท์ที่กำลังเล่นอยู่
“ฉันถามพวกนายไม่ได้ยินหรือไง!!!!!!!!!!!!” คังอินที่ตอนนี้ความโมโหพุ่งถึงขีดสุดเดินเข้าไปลากตัว
คิบอมกับคยูฮยอนออกจาห้องเรียน ตรงไปยังสนามฟุตบอล เยซองและซีวอนรีบวิ่งตามไปเพราะกลัวจะเกิดอันตรายกับน้อง โดยมีตัวป่วนอย่างฮยอกแจตามไปด้วย
เมื่อมาถึงสนามฟุตบอลคังอินโยนคิบอมกับคยูฮยอนลงไปนอนกองกับพื้นอย่างแรงแล้วตวาดเสียงดัง
“เมื่อวานนาย 2 คนหายหัวไปไหนห๊า!!! นั่นมันงานของนายนะโว๊ยย!!! แต่คนสำคัญกลับไม่อยู่ที่งานมันใช้ได้ที่ไหน!!!” คังอินตวาดเสียงดังจนคนที่ผ่านไปผ่านมาเริ่มเข้ามามุง
และหนึ่งในนั้นคือพวกที่หัวหน้าแก๊งอย่างคังอินไม่อยากจะเจอซักเท่าไหร่ ผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์ถูกแหวกออกเหมือนทะเลแหวก ชินดงบอดี้การ์ดร่างอ้วนประจำแก๊งหน้าหวาน (ถ้าจำกันได้ในงานเลี้ยงเมื่อวาน) เดินแหวกฝูงชนมา ตามาด้วยฮีชอลและลีทึก
“แก๊งนายคงได้ยุบเร็วๆนี้แน่เลย มีสมาชิกแก๊งไปไม่ได้เรื่องแบบนี้” ฮีชอลมองคังอินด้วยสายตาเหยียดหยาม ทำให้คังอินยิ่งโมโหมากขึ้น
“อย่ามาทำเป็นพูดดีไปหน่อยเลย!” คังอินตะคอกฮีชอลกลับ แต่เมื่อสายตาไปปะทะกับลีทึกอารมณ์โกรธก็เริ่มลดลง ส่วนลีทึกกลับนึกถึงเรื่องเมื่อวาน จนต้องหลบสายตาและไปแอบอยู่หลังฮีชอล
“ทำไม ยอมรับความจริงไม่ได้หรือไง” ฮีชอลไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุดง่ายๆ
คังอินที่โดนยั่วจนอารมณ์พุ่งปรี๊ด ยืนก้มหน้านิ่ง มือกำหมัดแน่น พยายามระงับสติอารมณ์ไม่ให้ทำร้ายคนตรงหน้า
“ผมว่าพี่หยุดยั่วโมโหพี่คังอินดีกว่า” สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ ซีวอนที่เห็นท่าไม่ดีเดินมาห้ามฮีชอล
“นายมันก็พวกเดียวกันนั่นแหละ ไม่ต้องมาพูดมาก!”
“นี่ผมเตือนด้วยความหวังดีนะ”
“ดูดิ๊แค่เด็กปี 1 ยังคุมไม่อยู่ งานเมื่อวานก็ดูเหมือนจะเละไม่เป็นท่า คนสำคัญของงานก็ไม่อยู่ ไม่ใช่เด็กนายแอบ...” ยังไม่ทันที่ฮีชอลจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ซีวอนก็ฉุดแขนฮีชอลวิ่งออกไปจากที่ ที่คาดว่าจะเกิดเหตุฆาตกรรมหมู่ขึ้น ส่วนชินดงก็ไม่รอช้าวิ่งตามไปติดๆ ลีทึกที่ทนมองหน้าคังอินไม่ได้ก็วิ่งปิดหน้าปิดตาตามออกไป
คิบอมกับคยูฮยอนที่หยุดออกจากวงสนทนาชั่วคราว ใช้โอกาสตอนที่ฮีชอลกำลังยั่วโมโหคังอินหนีออกไป
“ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!” คังอินที่ไม่เหลือใครให้ระบายอารมณ์ หันมาไม่เจอคิบอมกับ คยูฮยอน ก็ทำให้อารมณ์โมโหพุ่งสูงขึ้นไปอีก หน้าแดงจัดเหมือนเหล็กที่กำลังลนไฟ
“ฉันไม่เล่นกับแกนะคังอิน” คังอินหันไปมองเยซองที่มองอย่างหวาดๆก่อนเจ้าตัวจะพูดแล้ววิ่งหน้าตั้ง จากไป
“อ้าว! พี่เยซอง!” ฮยอกแจที่ยังคงยืนเซ่อเมื่อเห็นเยซองวิ่งไปแล้ว แล้วตัวเค้าจะอยู่ต่อไปอีกทำไมล่ะ
คังอินที่ไม่เลยใครให้ระบายอารมณ์เห็นฮยอกแจตั้งท่าจะวิ่งหนี ก็วิ่งไล่ฮยอกแจทันที ด้วยความตกใจฮยอกแจจึงวิ่งวนไปรอบสนามบอลโดยมีคังอินวิ่งไล่ตาม คนอื่นๆที่หลุดออกมาได้มองดู 2 คนนั้นก็ต้องหัวเราะออกมา
เหมือนจริงๆ เหมือนมากๆ
...เหมือนหมีที่ไล่ตะครุบไก่ไง...
-----------------------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น