ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ] รักวุ่นๆ ชุลมุนยกแก๊ง[KYUMIN]

    ลำดับตอนที่ #53 : Part 21 : แผนการสุดโรแมนติก ภาค2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.23K
      8
      16 ต.ค. 52



    Part 21 : แผนการสุดโรแมนติก




    ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้คยูฮยอนดูอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก คิบอมกับฮยอกแจพยายามจะพูดคุยด้วยก็ไม่ค่อยได้คำตอบซักเท่าไหร่ จนมาถึงช่วงพักระหว่างคาบ คยูฮยอนก็เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาขึ้นเอง
     
                    “ถ้าดงเฮไม่ยอมหมั้นกับนายนายจะทำยังไง”    คยูฮยอนพูดขึ้นกับคิบอมแต่ดูเหมือนเป็นการพูดกับตัวเองซะมากกว่า เพราะคยูฮยอนไม่ได้มองหน้าคู่สนทนาเลยซักนิด
     
                    “หมั้นเหรอ ดงเฮไม่ได้ไม่ยอมหมั้นกับฉันซักหน่อย”    คิบอมตอบกลับมาหน้าตาเหรอหรา ไม่ได้รู้เลยว่าเรื่องที่คยูฮยอนเป็นการสมมติให้ฟังเท่านั้น
     
                    “ฉันไม่ได้หมายถึงแก แค่สมมติน่ะ สมมติ”    เมื่อได้ยินเพื่อนรักตอบกลับคยูฮยอนจึงรีบสวนกลับไปทันที ไม่รู้ว่าคิบอมไม่ได้ตั้งใจฟังเขาหรือไม่เข้าใจจริงๆ เขาก็พูดคำว่าถ้านำหน้าไปแล้วนะ
     
                    “ถ้าดงเฮไม่ยอมหมั้นน่ะเหรอ อืม....ฉันก็ไม่รู้ดิ แล้วทำไมมาถามเรื่องแบบนี้ล่ะ หรือว่าซองมินไม่ยอมหมั้นกับแก”    คิบอมส่ายหน้าไปมาเพื่อตอบคำถาม ก่อนจะถามกลับอย่างรู้ทัน ถามมาแนวนี้คงคิดเป็นอื่นไกลไปไม่ได้หรอก
     
                    “อืม....แต่ฉันก็ไม่ได้เครียดอะไรหรอก แค่อยากถามเฉยๆ”    คยูฮยอนเงียบไปซักพักก่อนจะพยักหน้า ที่จริงเขาก็ไม่ได้คิดมากเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ยังไงเขาก็ยังอยากหมั้นกับซองมินอยู่ดี เลยลองมาปรึกษาหรือระบายให้เพื่อนฟังดู เผื่อฮยอกแจกับคิบอมจะช่วยเขาได้บ้าง
     
                    “นี่คิดจะหมั้นกันแล้วเหรอ”    ฮยอกแจถามขึ้นบ้าง ทั้งคิบอมและคยูฮยอนต่างก็มีคู่กันหมดแล้วก็เหลือแต่เขานี่แหละที่อ้างว้างอยู่คนเดียว
     
                    “จริงๆ ทางผู้ใหญ่เข้าวางแผนกันไว้หมดแล้ว เหลือก็แต่ซองมินนี่แหละที่ไม่ยอม”
     
                    “แล้วทำไมถึงไม่ยอมล่ะ”    คิบอมถาม
     
                    “ซองมินบอกว่ายังเด็กเกินไปและที่สำคัญเราเป็นผู้ชายเลยไม่อยากหมั้น”    คยูฮยอนตอบออกมาเสียงเศร้าๆ พอพูดเรื่องนี้แล้วก็เริ่มทำให้เขากลับมาคิดหนักอีกครั้ง ทำไมซองมินถึงไม่ยอมหมั้นกับเขาซักที
     
                    “นายขอพี่ซองมินแล้วเหรอ”    ฮยอกแจถามขึ้นบ้าง เขาเองก็อยากจะช่วยเพื่อนเหมือนกัน
                    “ฉันไม่ได้ขอแบบจริงจังอะไรหรอก เหมือนฝ่ายผู้ใหญ่จะเป็นคนพูด แล้วซองมินก็ปฏิเสธออกมาเลย เหตุผลก็อย่างที่บอก”
     
                    “ไม่ได้ขอแล้วพี่ซองมินจะไปยอมหมั้นได้ยังไง นายไม่รู้เหรอว่าพวกเคะน่ะเขาชอบอะไรที่มันโรแมนติก”    แล้วในที่สุดฮยอกแจก็ได้เสนอความคิดเห็น เขาคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ในหนังหรือละครก็มีออกเยอะแยะไป แต่ก็อย่างว่า คยูฮยอนไม่ใช่คนโรแมนติกเท่าไหร่นัก คงไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้
     
    “แล้วฉันต้องทำยังไง”    สิ่งที่ฮยอกแจบอกมาก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะคยูฮยอนเองไม่ค่อยทำอะไรที่มันโรแมนติกกับซองมินเท่าไหร่นัก ออกแนวจะกวนประสาทกันซะมากกว่า
     
    “นายก็ต้องทำอะไรที่มันโรแมนติก อย่างเช่น พาไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่ร้านอาหารหรู นั่งรถเล่นชมวิว นอนดูดาวด้วยกัน หรือจะพาไปนั่งชิงช้าสวรรค์ หรือไปเล่นสเกตกันอะไรประมาณนี้แหละ”    ฮยอกแจยกตัว
    อย่างมายาวเหยียดแล้วทำหน้าเพ้อฝัน อย่างกับว่าอยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง แล้วอยู่ๆหน้าของฮันคยองมันก็ลอยขึ้นมาในหัวอย่างไม่มีสาเหตุ
     
    “นายนี่รู้ดีจังเลยนะฮยอกแจ พี่ฮันคยองเขาทำแบบนี้กับนายบ่อยหรือไง”    ได้ฟังที่ฮยอกแจบอกมาคิบอมเลยอดที่จะแซวไม่ได้ ตั้งแต่ที่ฮันคยองเข้ามาวุ่นวายกับฮยอกแจ ดูเพื่อนของเขาเปลี่ยนไปจริงๆ
     
    “พูดมากจริงเลยนาย! อย่างนายฮันคยองน่ะเหรอจะทำแบบนี้”    ฮยอกแจทำเสียงดุใส่คิบอมก่อนจะบ่นออกมา จะว่าไปแล้วเขาก็กินข้าวเย็นกันฮันคยองออกจะบ่อย แต่ไม่เคยพาไปร้านหรูๆซักครั้ง
     
    คิบอมไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่หัวเราะออกมาดังลั่น เพราะท่าทางของฮยอกแจมันบ่งบอกแล้วว่าเป็นเคะเต็มตัว
     
    “อย่ามาทำเสียเรื่องนะคิบอม ตอนนี้ฉันกำลังช่วยคยูมันอยู่”    ฮยอกแจออกปากดุอีกครั้ง เห็นคิบอมหัวเราะแบบนี้แล้วรู้สึกหมั่นไส้ มันพาลให้คิดถึงฮันคยองไปด้วย
     
    “นายสองคนน่ะพอได้แล้ว ฉันเริ่มเครียดแล้วนะ แล้วยังไงต่อฮยอกแจ”    คยูฮยอนต้องห้ามไว้ก่อนที่คิบอมกับฮยอกแจจะได้เถียงกันอีกรอบ
     
    “ฉันรู้ว่านายคงไม่เคยทำอย่างที่ฉันบอกไปกับพี่ซองมินใช่มั้ย ลองไปทำดูนะ มันอาจจะช่วยนายได้”  พูดเสร็จฮยอกแจก็ยิ้มกว้าง คิดว่าคำแนะนำของตัวเองต้องได้ผลแน่ๆ
     
    “แล้วฉันจะลองดูแล้วกัน”    คยูฮยอนทำท่านึกซักพักก่อนจะตอบออกมา เขาจะทำแบบนี้ได้จริงๆเหรอ แล้วซองมินจะสงสัยหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็เขาไม่เคยทำอย่างที่ฮยอกแจว่าเลยซักอย่าง
     
    “ใกล้หมดเวลาพักแล้ว เดี๋ยวฉันไปห้องน้ำก่อน”    ฮยอกแจเหลือบไปเห็นนาฬิกาอีกไม่กี่นาทีก็ใกล้จะหมดเวลาพักระหว่างคาบแล้ว เลยรีบลุกออกไปเข้าห้องน้ำก่อนที่อาจารย์ประจำวิชาจะเข้ามาสอน
     
    เมื่อฮยอกแจเดินเข้ามาภายในห้องน้ำก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที จริงๆแล้วไม่ได้ตั้งใจจะมาเข้าห้องน้ำ แต่ตั้งใจจะออกมาโทรหาคนที่ไม่ติดต่อมาเลยตั้งแต่เช้าซึ่งมันผิดปกติ แต่ที่ไม่อยากโทรในห้องเพราะกลัวจะโดนคิบอมล้อเอาอีก
     
    “ปิดเครื่องทำไมล่ะเนี่ย”    ฮยอกแจบ่นกับโทรศัพท์มือถือเพราะโทรกี่ทีก็ไม่ติด
     
    ในเมื่อโทรไม่ติดฮยอกแจก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วตรงไปยังห้องเรียน เพราะคาบต่อไปใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ขืนไปช้าคงโดนทำโทษแน่
     
     
     
    เมื่อออดเลิกเรียนดังขึ้น ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง คิบอมกับคยูฮยอนไปรับดงเฮกับซองมินที่ห้องเรียน ส่วนฮยอกแจก็ลงไปรอฮันคยองตามปกติ
     
    “นานแล้วนะ”    ฮยอกแจยกมือถือขึ้นมาดูนาฬิกาหลายต่อหลายรอบ เพราะเขานั่งรอฮันคยองอยู่นานแล้ว โทรไปกี่รอบก็ยังไม่ติด หรือว่าวันนี้จะไม่มารับ แต่น่าจะโทรมาบอกกันซักนิด เขานั่งรอจนเพื่อนกลับกันไปหมดแล้วตอนนี้
     
    “หิวนะเนี่ย ไม่มาก็ไม่บอกกันซักคำ”    ฮยอกแจบ่นอีกรอบก่อนจะเดินออกไปหน้าโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน ข้าวกลางวันเขาก็ไม่ได้กิน ตอนนี้หิวจนปวดท้องไปหมดแล้ว ต้องรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด เพื่อไปหาของกิน
     
     
     
    “ออกไปเที่ยวกันมั้ย”    กลับมาถึงบ้านได้เพียงไม่นานคยูฮยอนก็เอ่ยปากชวนซองมินออกไปข้างนอก คนหน้าหวานเลยหันมามองแล้วขมวดคิ้วใส่
     
    “ไปไหน เพิ่งมาถึงบ้านเองนะ”
     
    “เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้วนะ”    คยูฮยอนนั่งลงข้างๆซองมิน ยังไงเขาก็ต้องพาซองมินออกไปข้างนอกให้ได้ อุตส่าห์เก็บเอาเรื่องที่ฮยอกแจบอกมาคิด และก็วางแผนไว้เรียบร้อยแล้วด้วย วันนี้เขาจะขอซองมินหมั้นและซองมินต้องตอบตกลงด้วย
     
    “ไปวันเสาร์หรืออาทิตย์ก็ได้นี่”    ซองมินตอบกลับมาเหมือนไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก ตอนนี้เขากำลังสนใจรายการทีวีที่กำลังดูอยู่มากกว่า
     
    “แต่ฉันอยากไปเที่ยวสวนสนุกตอนกลางคืน แล้วก็อยากไปวันนี้ด้วย”    คยูฮยอนพูดด้วยท่าทางที่เหมือนเด็กเอาแต่ใจ จนซองมินต้องหันมาขมวดคิ้วใส่อีกรอบ
     
    “ทำไมอยู่ๆถึงอยากไปได้ล่ะเนี่ย”    ซองมินไม่ได้ว่าอะไรมากมายนักเพียงแค่ส่ายหน้าไปมาเบาๆ
     
    “ตกลงไปนะ”    คยูฮยอนยังคงไม่ลดละเลิกความพยายาม ยังไงแผนเขาวันนี้ก็ต้องสำเร็จ
     
    “วันนี้นายอ้อนเป็นเด็กๆเลยนะ ไปก็ได้”    แล้วในที่สุดซองมินก็ตอบตกลง รู้สึกแปลกจริงๆที่อยู่ๆคยูฮยอนก็มาชวนออกไปเที่ยว แล้วดูเหมือนว่าจะปฏิเสธไม่ได้ซะด้วย
     
    เมื่อซองมินตอบตกลงคยูฮยอนก็ยิ้มกว้างแสดงความดีใจออกมาอย่างปิดไม่มิด รีบลุกขึ้นทำท่าจะพาซองมินไปขึ้นรถ แต่ก็โดนซองมินขัดขึ้นซะก่อน
     
    “ไม่เปลี่ยนชุดเหรอ”
     
    “ไม่ต้องหรอก ไปชุดนี้แหละ”    แล้วคยูฮยอนก็ลากซองมินไปขึ้นรถทันที ตอนนี้หกโมงเย็นเวลากำลังดี
     
     
     
    ระหว่างที่อยู่บนรถดูคยูฮยอนมีความสุขอมยิ้มน้อยๆอยู่คนเดียวเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ จนซองมินยังแอบสงสัยไม่ได้ว่าแฟนตัวเองเป็นอะไรไปถึงได้ดูอารมณ์ดีขนาดนี้
     
    “จะมาเล่นอะไรตอนกลางคืนล่ะเนี่ย”    เมื่อเข้าใกล้สวนสนุกซองมินก็มองตาไม่กระพริบเพราะแสงไฟตอนกลางคืนที่ถูกเปิดไว้ตามทางถูกจัดไว้อย่างสวยงาม จนดูละลานตาไปหมด
     
    “สวยใช่มั้ยล่ะ”    คยูฮยอนเห็นซองมินเกาะกระจกรถมองออกไปข้างนอกเหมือนเด็กๆ เลยทำให้อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
     
    “ใช่ สวยมากเลย”    ซองมินหันมายิ้มให้ก่อนจะกลับไปมองนอกหน้าต่างเหมือนเดิม แล้วรถก็เลี้ยวเข้ามาภายในสวนสนุก
     
    เมื่อหาที่จอดรถได้แล้วคยูฮยอนกับซองมินก็ตรงเข้าไปในสวนสนุกทันที วันนี้คนเยอะอยู่พอสมควร มือของทั้งสองคนเลยประสานกันไว้แน่น ตอนนี้ซองมินเลยดูกลายเป็นเด็กไปในพริบตา ทั้งที่ตอนอยู่ที่บ้านคยูฮยอนยังอ้อนเหมือนเด็กแต่ตอนนี้กลับดูเป็นผู้ใหญ่มาก
     
    “จะเล่นอะไรกันดี”    ซองมินมองไปรอบๆ แล้วก็เกิดอาการเลือกไม่ถูกว่าจะเล่นเครื่องเล่นไหนก่อนดี
     
    “ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์กันมั้ย”    คยูฮยอนมองไปที่ชิงช้าสวรรค์แล้วเอ่ยปากถาม อย่างที่ฮยอกแจบอกไว้พาไปนั่งชิงช้าสวรรค์
     
    “เอาสิ”    เมื่อซองมินตอบตกลงคยูฮยอนก็พาเดินตรงไปยังชิงช้าสวรรค์ทันที
     
    วันนี้คนเยอะพอสมควรและคนที่ยืนรอซื้อบัตรเครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์นั้นมีค่อนข้างมาก ระหว่างที่ยืนรอคยูฮยอนพยายามนึกพาคำพูดดีๆ เพื่อขอซองมินหมั้น
     
    ระหว่างที่ยืนรอซองมินก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย แล้วสายตาก็หันไปเห็นรถไฟเหาะจึงเกิดอาการอยากจะเล่นขึ้นมา แถมคนที่ยืนรอยังน้อยกว่าชิงช้าสวรรค์พอสมควร
     
     
    ซองมินหันไปมองคยูฮยอนที่ดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะเอาแต่มองไปข้างหน้าแล้วก็มองขึ้นไปจุดสูงสุดของชิงช้า ไม่ได้หันมามองเขาเลยแม้แต่นิด ไม่รู้ว่าอยากขึ้นชิงช้าสวรรค์อะไรขนาดนั้น
    แต่เขาอยากจะเล่นรถไฟเหาะมากกว่า
     
    “เดี๋ยวฉันมานะ”    ซองมินบอกกับคยูฮยอนแล้ววิ่งไปต่อแถวซื้อบัตรรถไฟเหาะทันที แล้วไม่นานซองมินก็ได้บัตรเครื่องเล่นรถไฟเหาะสองใบมาอยู่ในมือ ก่อนจะวิ่งกลับมาหาคยูฮยอน
     
    “คยู ไปเล่นรถไฟเหาะกัน”    ซองมินชูบัตรเครื่องเล่นให้คยูฮยอนดูแล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบคว้าข้อมือของคยูฮยอนเตรียมจะลากไปที่รถไฟเหาะเพราะใกล้จะถึงคิวของเขาแล้ว
     
    “ไปซื้อมาตอนไหนเนี่ย! เราจะขึ้นชิงช้าสวรรค์กันนะ”    คยูฮยอนบอกเสียงดัง แต่ขากลับเดินตามซองมินไปเพราะคนตัวเล็กเล่นลากซะเต็มแรง
     
    “ก็ชิงช้าสวรรค์คนมันเยอะ เล่นรถไฟเหาะก่อนก็ได้หนิ ไหนๆก็ซื้อบัตรมาแล้ว นะๆๆ”    ซองมินทำท่าอ้อนยกใหญ่ ก็เขาอยากจะเล่นรถไฟเหาะนี่นา สนุกกว่าชิงช้าสวรรค์ตั้งเยอะ
     
    “ถ้าเราเล่นรถไปเหาะ แล้วฉันจะขอ....”    พูดไปได้เพียงแค่ไม่กี่คำคยูฮยอนก็หยุดพูดทันที เมื่อกี้เขาเกือบจะหยุดปากออกไปว่าจะขอซองมินหมั้น 
     
    “จะขออะไรก็ไปขอบนนั้นก็ได้ ถึงคิวเราแล้วคยู”    เมื่อเห็นว่าคยูฮยอนไม่พูดต่อ ซองมินจึงพูดขึ้นเบ้หน้าไปมองบนรถไฟเหาะแล้วลากคยูฮยอนไปขึ้นเครื่องเล่นทันที
     
     
    เมื่อซองมินอยากจะเล่นคยูฮยอนเลยขัดอะไรไม่ได้เพราะวันนี้เขาไม่อยากจะขัดใจซองมิน เลยทำได้แค่ถอนหายใจตอนที่นั่งอยู่บนเครื่องเล่นเท่านั้น พอรถไฟเริ่มเคลื่อนที่ซองมินก็ร้องออกมาด้วยความสนุกสนานจน
    คยูฮยอนยังอดยิ้มด้วยไม่ได้
     
    “ซองมิน!!”    คยูฮยอนตะโกนขึ้นมาระหว่างที่รถไฟเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็วสูง เขาแค่อยากจะลองพูดบนนี้ดู อยากรู้ว่าซองมินจะมีปฏิกิริยายังไงบ้าง
     
    “อ๊ากก!!”    ซองมินร้องออกมาเสียงดัง เสียงที่คยูฮยอนเรียกไม่ได้เขาหูเลยซักนิด
     
    “หมั้นกับฉันนะ!!!”    คยูฮยอนตะโกนขึ้นอีกรอบ มันดึงพอสมควรทำให้ซองมินหันมามอง
     
    “ห๊ะ!! อะไรนะ”
     
    “หมั้นกันนะ!!”
     
    “อั้นอะไร!!”
     
    “นายไม่อยากหมั้นกับฉันเหรอ!!”
     
    “นายถามฉันเหรอ!! ไม่สนุกเหรอหรือนายเป็นอะไร!!”
     
                    บทสนทนาก็พูดกันอยู่นั้นเหมือนจะไม่ใช่เรื่องเดียวกันคยูฮยอนเลยเลือกที่จะหยุดพูดดีกว่า ในเมื่อคยูฮยอนไม่ได้ตอบอะไรกลับมาซองมินก็ไม่ได้ใส่ใจนักเพราะเขาเองก็ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเหมือนกัน
     
    หลายต่อหลายรอบที่ซองมินบังคับให้คยูฮยอนเล่นไปเหาะ แถมยังพาไปเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวอีกหลายอย่างจนคยูฮยอนเริ่มจะมึนหัว ผ่านไปเกือบชั่วโมงถึงจะได้หยุดพักกัน
     
    “ซื้อไอติมกินกันคยู”    ลงจากเครื่องเล่นอันสุดท้ายยังไม่ทันไรซองมินก็ลากคยูฮยอนไปหาของกิน ใช้พลังไปเยอะท้องมันเลยหิวเป็นธรรมดา
     
    ซองมินสั่งไอศกรีมโคนสองอันก่อนจะยื่นมาให้คยูฮยอนหนึ่งอัน แล้วสองทั้งก็ไปนั่งพักที่ม้านั่ง ท่าทางของซองมินนั้นดูมีความสุขมาก ดูเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจ คยูฮยอนก็ได้แต่มองไปแล้วยิ้มไป
     
    “กินเหมือนเด็กเลย เลอะหมดแล้ว”    คยูฮยอนจิ้มที่แก้มซองมินให้หันมามองแล้วใช้นิ้วเช็ดไอศกรีมที่เปื้อนตรงแก้มออก แต่ยังมีเนื้อไอศกรีมติดอยู่ที่จมูกด้วย คยูฮยอนจึงเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของซองมิน ใช้ริมฝีปากสัมผัสปลายจมูกที่มีไอศกรีมติดอยู่ก่อนจะดูดแล้วเลียเบาๆ
     
    “ที่นี่มันสวนสนุกนะ”    ซองมินผลักคยูฮยอนออกเบาๆ ใบหน้าหวานขึ้นสีเล็กน้อย พร้อมกับมองไปรอบๆ ว่ามีใครมองพวกเขาอยู่หรือเปล่า
     
    “ตรงนี้ไม่มีคนซักหน่อย”    คยูฮยอนยิ้มกว้างตอบกลับมา แล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นี่ถือว่าเป็นการเอาคืนที่ซองมินทำแผนแรกเขาเสียก็แล้วกัน
     
    “แต่มันก็ไม่เหมาะอยู่ดีนั่นแหละ”    ซองมินพูดอย่างงอนๆ แล้วก็กลับไปสนใจไอศกรีมที่ใกล้ละลายของตัวเองเหมือนเดิม
     
    “กินเสร็จเราไปเล่นสเกตกันนะ”    เมื่อไอศกรีมในมือตัวเองหมดแล้วคยูฮยอนก็เริ่มสานต่อแผนการ มาสวนสนุกแต่พาไปนั่งชิงช้าสวรรค์ไม่สำเร็จ อีกทางเลือกคือไปเล่นสเกตด้วยกัน
     
    “สเกตเหรอ....เอาสิ....จริงสิคยู ตอนนั้นนายจะขออะไรฉันเหรอ”    ซองมินพยักหน้าหงึกหงักแล้วรีบกินไอศกรีมของตัวเองให้หมด รู้สึกว่าวันนี้คยูฮยอนจะดูแปลกๆไป ตั้งแต่ที่ชวนออกมาเที่ยวตอนเย็นๆแบบนี้ แถมยังชิงช้าสวรรค์กับสเกตนี่อีก แล้วก็คำพูดที่ว่าจะขออะไรเขานี่ด้วย
     
    “เปล่าไม่มีอะไรหรอก ไปกันเหอะ”    คยูฮยอนส่ายหน้าปฏิเสธ ลุกขึ้นจับมือซองมินให้เดินตามไปด้วยกัน
     
     
     
    ลานสเกตตอนนี้คนยังน้อยอยู่เพราะผู้คนส่วนใหญ่สนใจกับเครื่องเล่นด้านนอกกันซะมากกว่า เมื่อซองมินกับคยูฮยอนได้รองเท้าสเกต ซองมินก็วิ่งนำหน้ามาก่อน พร้อมกับลงเล่นทันที ดูจะร่าเริงกว่าคนชวนมาซะอีก
     
    “ระวังล้มนะ”    คยูฮยอนร้องเตือนเพราะซองมินเล่นได้ผาดโผนสุดๆ วิ่งไปวิ่งมาเหมือนนักสเกตมืออาชีพทั้งที่เพิ่งเคยไปแค่ไม่กี่ครั้ง
     
    “ไล่ให้ทันสิ”    ซองมินหันมาท้าแล้วมีหรือที่คนอย่างคยูฮยอนจะยอม วิ่งไล่กันไปมาอย่างกับที่นี่คือสนามเด็กเล่นที่มีกันอยู่สองคนเท่านั้น
     
    “จะหนีไปไหน”    คยูฮยอนคว้าแขนซองมินไว้ได้ แต่เพราะพื้นน้ำแข็งมันรื่นมากๆเลยเกือบทำให้ซองมินเสียหลัก เซไปเซมา คยูฮยอนเลยดึงมากอดไว้ซะเลย
     
    พอโดนดึงเข้ามากอดซองมินก็มีอาการดิ้นเล็กน้อยเพราะไม่ชอบทำอะไรประเจิดประเจ้อให้คนอื่นได้เห็น แต่คยูฮยอนกลับยิ้มร่าเริง
     
    “ฟังที่ฉันจะพูดนะ”    คยูฮยอนจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตของซองมิน น้ำเสียงที่พูดนั้นดูจริงจังขึ้น บรรยากาศตอนนี้แหละกำลังดี เขากำลังจะขอซองมินหมั้นหวังว่าคงไม่มีอะไรมาขัดขวางหรอกนะ
     
    คยูฮยอนคุกเข่าลง จับมือทั้งสองข้างของซองมินไว้ สายตาของเขายังคงจ้องมองเข้าไปในดวงตาของซองมินด้วยความมุ่งมั่น
     
    “จะทำอะไรน่ะคยู”    ซองมินมองไปรอบๆว่ามีใครมองอยู่หรือเปล่าแล้วเอ่ยถามออกมาเบาๆ วันนี้คยูฮยอนดูแปลกไปจริงๆ ถ้าจะให้เขาทายว่าทำให้คยูฮยอนถึงได้ทำตัวแปลก เขาทายว่ามันต้องเกี่ยวกับเรื่องการหมั้นแน่ๆ
     
    “ซองมิน...”
     
    โครม!!~
     
    เพียงแค่คำเดียวที่คยูฮยอนเอ่ยออกมา ร่างทั้งร่างของเขาก็ล้มลงไปกระทบกับพื้นน้ำแข็งพร้อมกับร่างอีกร่างที่นอนหมดสภาพอยู่ข้างๆ
     
    “คยู! เป็นอะไรมั้ย”    ซองมินร้องอย่างตกใจก่อนจะรีบเข้าไปดูคยูฮยอนที่ถูกคนที่กำลังเล่นสเกตอยู่ชนจนล้มไม่เป็นท่าทั้งคู่ ดีที่ว่าคยูฮยอนจับมือซองมินไว้ไม่แน่นนัก ไม่งั้นคงได้ล้มลงไปทั้งคู่แน่ๆ
     
    คยูฮยอนค่อยๆดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาตามแรงพยุงของซองมิน พอยืนได้ก็ทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องคนที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บตัว แถมยังทำเขาเสียเรื่องอีก แต่ซองมินพูดห้ามไว้และดึงคยูฮยอนออกไปจากลานสเกต
     
    คนที่ชนคยูฮยอนจนล้มกล่าวขอโทษหลายต่อหลายรอบ เพราะยังเล่นสเกตไม่แข็งเท่าไหร่และเขาก็เป็นคนต่างที่ชาติที่มากับคณะทัวร์ แต่ดูท่าคยูฮยอนจะไม่หายโกรธง่ายๆ
     
    “ที่นี่คนเริ่มเยอะแล้ว เราไปที่อื่นกันดีกว่านะ”    ซองมินดึงคยูฮยอนให้ออกไปด้านนอก ขนาดขึ้นจากลานสเกตแล้วคยูฮยอนก็ยังด่าคนที่มาชนเขาไม่เลิก แถมยังมีพวกคณะทัวร์เข้ามามันทำให้ลานสเกตดูแคบไปถนัดตาทันที
     
    “ไม่เป็นไรนะ”    ซองมินเกาะแขนของคยูฮยอนไว้แน่น พลางมองสำรวจว่าคยูฮยอนเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า เพราะที่ล้มไปเมื่อกี้ก็ไม่ใช่เบาๆเหมือนกัน ถึงได้ดูโกรธขนาดนั้น
     
    “ไม่เป็นไรหรอก”    คยูฮยอนจัดเสื้อให้เข้าที่ก่อนจะหันมายิ้มให้
     
    “ว่าแต่เมื่อกี้นายจะบอกอะไรฉันใช่มั้ย”    รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนใบหน้าของซองมิน แต่น้ำเสียงและสีหน้ามันกลับดูเจ้าเล่ห์ชอบกล เรื่องที่เขาคิดไว้คงไม่ผิดแน่ คยูฮยอนคงกำลังหาบรรยากาศที่มันโรแมนติกอยู่แน่ๆ
     
    “เอ่อ....เปล่าหรอกไม่มีอะไร....จะไปไหนกันต่อดี”    คยูฮยอนรีบปฏิเสธออกมาและเปลี่ยนเรื่องทันที เขาไม่อยากให้ซองมินรู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองทำตัวเป็นพิรุธตรงไหนหรือเปล่า
     
    “ข้าวเย็น เรายังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย”    ซองมินเสนอขึ้นมา ถ้าคยูฮยอนคิดจะทำอะไรที่มันโรแมนติก มันก็หนีไม่พ้นดินเนอร์หรูๆอยู่แล้ว
     
    “ใช่ข้าวเย็น!”    คยูฮยอนทำท่าเหมือนว่าเพิ่งจะนึกได้เลยยิ้มกว้างออกมา ดินเนอร์หรูๆใต้แสงเทียนอย่างที่ฮยอกแจบอก
     
    ซองมินเห็นท่าทางของคยูฮยอนแล้วก็นึกขำขึ้นมา ทีนี้ก็รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงแล้วล่ะว่าคยูฮยอนต้องการจะทำอะไรกันแน่
     
    เมื่อตกลงกันได้แล้วว่าจะไปไหนต่อ คยูฮยอนก็ขับรถไปตามทางเรื่อยๆพลางมองหาร้านอาหารไปด้วย เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าร้านไหนดีร้านไหนไม่ดี เพราะส่วนใหญ่จะทานอาหารเย็นที่บ้าน นานๆทีถึงจะได้ออกมาทานข้างนอกซักครั้ง
     
     
     
    ด้านซองมินก็ไม่ได้เสนอความคิดเห็นว่าอยากจะทานอาหารร้านไหน นั่งมองบรรยากาศข้างทางด้วยความสบายใจ เพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าคยูฮยอนจะทำอะไรต่อ แล้วมันจะโรแมนติกแค่ไหนกัน คยูฮยอนขับรถอยู่นานกว่าจะเจอร้านอาหารที่เข้าตา เป็นร้านอาหารอิตาลี การตกแต่งร้านเรียบง่ายแต่ก็ดูหรูหรา และข้างๆร้านมีร้านขายดอกไม้เปิดอยู่ เหตุผลนี้แหละที่คยูฮยอนเลือกร้านนี้
     
    “นายเข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันตามเข้าไป”    หลังจากหาที่จอดรถเสร็จเรียบร้อย คยูฮยอนเดินมาส่งซองมินที่หน้าร้าน
     
    “อืม”    ซองมินพยักหน้าแล้วเดินเข้าร้านอาหารไป เขาไม่อยากถามนู้นถามนี่เดี๋ยวแผนคยูฮยอนจะแตกซะก่อน นานๆทีคยูฮยอนจะทำอะไรที่มันโรแมนติกกับเขาบ้าง ต้องให้ความร่วมมือเต็มที่
     
    “รับอะไรดีค่ะ”
     
    “เอ่อ...”    คยูฮยอนไม่รู้จะตอบพนักงานยังไง เขาเองไม่มีความรู้เรื่องดอกไม้เท่าไหร่นัก แถมยังไม่เคยซื้อดอกไม้ให้ใครด้วย
     
    “ให้คนรักหรือเปล่าคะ”
     
    “ครับ”
     
              “แนะนำเป็น ดอกกุหลาบสีแดงกับสีขาวดีมั้ยคะ กุหลาบแดงและขาวรวมกัน สื่อความหมายให้รู้ว่า สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สิบเอ็ดดอกหมายถึงเธอเป็นสมบัติของฉันเพียงผู้เดียว สิบสองดอกหมายถึงขอเธอเป็นคู่ฉันเพียงคนเดียว จะรับแบบไหนดีคะ
     
    “ขอเป็นสิบสองดอกแล้วกันครับ”    คยูฮยอนใช้เวลาคิดซักพักก่อนจะตอบออกมา จริงๆทั้งสิบเอ็ดและสิบสองดอกก็เป็นความหมายที่เขาอยากจะสื่อถึงซองมิน แต่ตอนนี้เขากำลังจะขอหมั้น ขอเธอเป็นคู่ฉันเพียงคนเดียวน่าจะดีกว่า
     
    “ผูกเป็นโบว์สีอะไรดีคะ”    พนักงานหยิบดอกกุหลาบสีขาวและแดงทั้งหมดสิบสองมากันเข้าช่อ เมื่อจัดเสร็จก็หันไปถามคยูฮยอน
     
    “สีชมพูแล้วกันครับ”    คยูฮยอนเดินดูโบว์ของทางร้านก่อนจะหยิบโบว์สีชมพูไปวางที่เคาน์เตอร์ สีนี้เป็นสีที่ซองมินชอบ และหวังว่าซองมินจะชอบดอกไม้ช่อนี้เช่นกัน
     
     
    คยูฮยอนจัดการซ่อนดอกไม้ไว้ด้านหลังก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน เห็นซองมินนั่งอยู่ริมหน้าต่างหน้าตานั้นเคร่งเครียด สายตากำลังจับจ้องอยู่ที่โต๊ะข้างที่กำลังถกเถียงกันอยู่
     
    “คุณน่ะเลิกทำตัวงี่เง่าได้แล้วนะ!!”    ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆลุกขึ้นตวาดใส่ภรรยาตัวเองเสียงดังด้วยความโกรธจัด
     
    “งี่เง่าอย่างนั้นเหรอ! ฉันกำลังท้องกำลังไส้อยู่แท้ๆ! คุณยังควงอิหนูที่ไหนไม่รู้ข้ามหน้าข้ามตาฉัน คุณน่ะมันเลว!!~”    ฝ่ายภรรยาเองก็ไม่ได้ลดน้อยถอยไปกว่ากันเลย ลุกขึ้นตวาดสามีกลับ
     
    “นั่นมันชีวิตของผม ผมให้เงินคุณกับลูกได้ใช้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว มาอย่าเจ้ากี้เจ้าการกับผมนะ!!~”
     
    “โทษนะครับ!”    ซองมินที่นั่งฟังอยู่นานแล้วก็เริ่มอดรนทนไม่ไหว มีที่ไหนกันผู้ชายไปมีชู้แล้วยังจะมาว่าภรรยาที่กำลังท้องอีก แบบนี้เขาทนไม่ได้หรอก
     
    “อะไรของคุณ!!”    ชายคนนั้นหันมาตวาดใส่ซองมิน เรื่องนี้เป็นของเขาและภรรยาเท่านั้น
     
    “คุณเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องจริงๆเลยนะครับ คุณผู้หญิงอุ้มท้องลูกของคุณอยู่ แต่คุณยังไปมีชู้คบผู้หญิงอื่น แล้วแบบนี้คุณจะเป็นพ่อคนได้ยังไงกันครับ ผมว่าคุณก็น่าจะรู้นะครับว่าผู้หญิงน่ะลำบากขนาดไหน เด็กในท้องนั้นก็เป็นลูกของคุณ แต่คุณกลับพูดเหมือนว่าไม่ได้ใส่ใจลูกและภรรยาของคุณเลย แบบนี้มันใช้ไม่ได้เลยนะครับ”    ซองมินพูดออกมายาวเหยียด จนคู่สามีภรรยานิ่งเงียบไป ฝ่ายภรรยานั้นดูเหมือนอยากจะขอบคุณซองมิน แต่ฝ่ายสามีกำลังโมโหสุดๆที่โดนเด็กมัธยมพูดตอกหน้าแบบนี้
     
    “มีอะไรกันหรือเปล่า”    พอซองมินพูดจบคยูฮยอนก็เดินมาถึงที่โต๊ะพอดี หน้าตาซองมินตอนนี้บูดบึ้งมากๆ
     
    “ก็ผู้ชายคนนี้น่ะสิด่าภรรยาตัวเอง ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ”    ซองมินบอกกับคยูฮยอน และเหมือนจะเป็นการหาพวกไปด้วยในตัว เมื่อกี้เขาพูดจนไม่มีช่องว่างให้คุณสามีที่ใช้ไม่ได้คนนั้นได้พูดเลย หน้าตาของเขาตอนนี้เลยดูน่ากลัวมากๆ
     
    “ไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นทำไม เรื่องในครอบครัวเขาเราไม่เกี่ยว”    คยูฮยอนไม่ได้เข้าข้างซองมินเลยซักนิดกลับต่อว่าซะมากกว่า
     
    “นายรีบพาเพื่อนนายออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!! ถ้าไม่อยากมีเรื่อง เด็กไม่มีมารยาท!!”    คุณสามีที่ไม่ได้เรื่องตะโกนด่าพร้อมกับชี้หน้าซองมินไล่ออกไปนอกร้าน มีพนักงานหลายคนมายืนดูแต่ไม่มีใครเข้ามาห้ามเลยซักคน
     
     
    ซองมินตอนนี้โกรธจนจะควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ และโกรธคยูฮยอนที่ไม่ยอมเข้าข้างตัวเอง เลยหันไปค้อนใส่ชุดใหญ่ก่อนจะกลับมาจ้องหน้าคุณสามีที่ไม่ได้เรื่อง
     
    “นึกว่าอยากอยู่นักหรือไง!!”    พูดจบซองมินก็เดินบึงบังออกจากร้านไป คยูฮยอนหันไปมองคู่สามีภรรยาก่อนรีบตามซองมินไป งานนี้ซวยจริงๆ อุตส่าห์จะมาดินเนอร์นอกบ้านแต่ดันมาเจอเรื่องแบบนี้ ที่สำคัญคยูฮยอนทำให้ซองมินโกรธเข้าซะแล้ว
          



                                                                      ------------------------------------------------------------ 
    kr...Talk
    ขอกราบขอโทษแฟนฟิคทุกคนเลยค่ะ
    ที่หายหัว+ตัวไปนานมาก ก็เค้าติดสอบgat patกันอ่ะ
    ก็เลยไม่ได้มาอัพเลย แถมพอสอบเสร็จจะอัพเน๊ตบ้านเค้าก็ดันเล่นไม่ได้
    ไม่ได้เล่นมาตั้ง3-4วัน จะลงแดงตายเลยค่ะ
    ไม่รู้จะไถ่โทษงัยดี มีอะไรจะว่าจะด่ากันก็ได้นะ
    แบบอยากรู้ความรู้สึกคนอ่านจิงๆ

    ตอนนี้ก็เลยเล่นคยูมินซะหวานเลย เมื่อไหร่นู๋มินจะยอมหมั้นนะ

    อย่าลืมไปคอนเอสเจเยอะๆนะ
     
    แล้วก็อย่าลืมอ่านอีก2เรื่องใหม่ของไรเตอร์กันด้วยนะ



     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×