ลำดับตอนที่ #76
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #76 : (Trans) Yoochun....He looks like a wind
"ตอนที่ผมเป็นนักเรียนมัธยมปลาย
ผมเริ่มทำงานพิเศษหลายอย่าง
ช่วงนั้นครอบครัวผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ
ผมเลยคิดว่า ยิ่งผมรู้สึกแย่กับมันเท่าไหร่
ผมก็ไม่อยากให้น้องชายของผมต้องอยู่ในสภาพเดียวกับผมมากเท่านั้น
ผมใช้เงินจากการทำงานพิเศษทั้งหมดของผม
เพื่อเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นให้กับน้องชายของผม
แล้วก็ไปรับเขาที่โรงเรียนบ่อยๆครับ
จริงๆแล้ว ทำไมถึงเป็นผมทีทำสิ่งที่
มันสมควรจะเป็นสิ่งที่เขาได้รับจากพ่อแม่ก็ไม่รู้สินะครับ"
Q: แล้วทำอย่างไร ถึงผ่านช่วงเวลายากลำบากในวัยเด็กมาได้?
-ผมฟังเพลงทุกๆวัน และพยายามที่จะไม่ใช่ชีวิตอย่างเศร้าหมองครับ
ผมได้ค้นพบอะไรเกี่ยวกับดนตรีมากเลยทีเดียว
จากดนตรีที่ตอนอยู่เกาหลีไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับมันเลย
ช่วงนั้นคงเป็นครั้งแรกที่ผมรู้ว่า
ดนตรีเป็นสิ่งสำคัญที่คอยค้ำจุนหัวใจของผมเสมอมา
เพลงที่ผมฟังเสมอๆ ตอนที่ผมยากลำบากมากเลยก็คือ เพลงของเอริกแคลปตันครับ
แม้แต่ตอนนี้ผมได้ฟังเพลงนี้ที่ได้ไร ผมจะคิดถึงช่วงเวลานั้น แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาครับ
Q: จากเพลงใหม่ของโทโฮชินกิ "Lovin' You" อยากทราบคำว่าความรักของยูชอนค่ะ
-ไม่ครับ ผมไม่รู้จักหรอกครับ คำว่าความรักหน่ะ
"เหมือนกับตอนที่ผมได้ดนตรีมาเยียวยาจิตใจ
ผมเองก็อยากมอบความกล้าให้กับคนที่กำลังยากลำบาก
และคนที่กำลังมีความทุกข์ทั้งหลายด้วยบทเพลงของผมได้
มันจะมีความสุขแค่ไหนกันนะ ... ผมคิดแบบนั้นครับ"
Q: ในเนื้อเพลง ของเพลง Shine มีท่อนที่ว่า
"อยากจะแกล้งทำตัวน่ารักๆให้เธอดู" แล้วยูชอนล่ะ ทำท่าทางน่ารักคิขุเก่งรึเปล่า?
-ตอนนี้คงเป็นแบบนั้นล่ะครับ
ตอนอยู่กับสมาชิกในวงคนอื่นๆ ผมทำท่าทางแบบนั้นออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ว่า ตั้งแต่เดบิวมา ผมสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองขึ้นมาตลอดครับ
ก่อนหน้านี้ คาแรกเตอร์ตัวผมแตกต่างกับตอนนี้อย่างสิ้นเชิง
Q:ยูชอนนั้น ในเวลาปกติ ชั้นรู้สึกว่าในแววตาของคุณจะมีความเหงาซ่อนอยู่เสมอ
แต่ว่า ไม่ใช่แต่ความเหงาหรอกนะ แต่ยังมีความรู้สึกอบอุ่นมากมายรวมอยู่ด้วย
แล้วก็ตามความรู้สึกส่วนตัวของชั้นแล้ว จากสมาชิกทั้งห้าคน คุณเป็นคนที่ให้ความรู้สึกเหมือนแจจุงอยู่นิดหน่อย
- อา~~ จุดนั้นผมเข้าใจครับ ผมเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
ผมเองก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดในดวงตาของพี่แจจุงเหมือนกันครับ
พี่แจจุงนั้น เป็นคนที่จะไม่ให้คนรอบข้างได้เห็นใบหน้ายามยากลำบาก และ
ทั้งตอนที่ตนเองรู้สึกโดดเดี่ยวแน่ๆ แต่ว่าเวลาที่พี่แจจุงอยู่คนเดียว หรืออยู่กันสองคน
พี่แจจุงจะแสดงอารมณ์ต่างๆที่เก็บไว้ออกมาครับ
ทุกๆครั้งผมจะคิดว่า
"พี่แจจุงเป็นคนที่พยายามอย่างมากอยู่เสมอ
แล้วก็ยังพยายามอย่างสุดความสามารถในฐานะยองอุงแจจุงของทงบังชินกิด้วย"
ผมเองก็คล้ายกันครับ เพราะงั้น ผมเข้าใจดีเสมอ
Q: วันหยุดครั้งหน้าจะทำอะไรเหรอ?
-ไปสตาบัคส์ครับ อยากดื่มกาแฟไป อ่านหนังสือไป อยากรู้สึกถึงการมีเวลาว่างหน่ะครับ
Q: ต่อไปข้างหน้า อยากกลายเป็นผู้ใหญ่แบบไหนในฐานะของปาร์คยูชอน?
-ในฐานะปาร์คยูชอน ผมอยากเป็นคนธรรมดาๆ ที่ไม่มีการเสริมเติมแต่งอะไรทั้งนั้น
ถ้ามิคกี้ยูชอนทำหน้าตาเหน็ดเหนื่อย และหนีจากตารางงานทั้งหลาย
ในช่วงเวลาที่ผมเป็นปาร์คยูชอน ผมอยากจะกลายเป็นคนที่มีความอดทน
เท่าๆกับความยากลำบากที่ได้เจอตอนเป็นมิคกี้ครับ
Q: ถ้าเกิดใหม่ได้อีกครั้ง อยากจะเกิดเป็นอะไร?
-ผมไม่อยากเกิดใหม่อีกครั้งหรอกครับ
Q: หลังจากจบตารางงานที่โอกินาว่าแล้ว จะกลับเกาหลีกันเหรอคะ?
-ครับ ที่เกาหลีก็มีตารางงานเยอะเหมือนกัน
แต่ว่าก็มีเวลาที่เป็นส่วนตัวของผมด้วย
ผมอยากใช้เวลาส่วนตัวของผมให้ดีที่สุด
เพื่อที่จะได้คิดทบทวนเกี่ยวกับความรู้สึกต่างๆในตอนนี้ครับ
Q:อยากจะทบทวนจิตใจของตัวเองหมายถึงอะไรเหรอคะ?
-หลังจากเดบิว ตลอดมานั้นมีเรื่องที่คิดว่ายากลำบากมากอยู่ก็จริงครับ
แต่ว่า ผมจะสร้างเวลาที่เอาไว้คิดอะไรหลายๆอย่างคนเดียว
เกี่ยวกับงานที่ต้องทำในวันข้างหน้า
ตอนนี้ผมอาจจะยังให้คำตอบไม่ได้
เพราะผมคิดว่าเวลาในการคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญครับ
Q:สุดท้ายนี้ อยากถามเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของคุณยูชอนค่ะ
หลังจากที่คุณมาที่ญี่ปุ่นบ่อยๆแล้ว คิดว่าไม่มีโอกาศได้เห็นใบหน้าหัวเราะของคุณยูชอนเท่าไหร่เลยค่ะ
แต่ว่า ชั้นก็คิดว่าหมู่นี้ คุณแสดงอารมณ์ออกมามากขึ้น
ต้องมีโอกาศอะไร ถึงจะเปลี่ยนมาหัวเราะอะไรแบบนี้รึเปล่าคะ?
-ผมคิดว่า ไม่ใช่เพราะมีโอกาศให้ได้หัวเราะหรอกครับ
แต่เพราะผมเริ่มคุ้นเคยกับหลายๆอย่างที่นี่ได้มากขึ้นแล้วมากกว่า
ตอนแรกๆนั้นไม่ชินเลยล่ะครับ ทั้งสถานที่ และคนๆหลายๆคนที่ไม่รู้จัก
แต่ว่า สองปีผ่านไป ทุกคนก็สนิทกันมากขึ้น
ชีวิตที่ญี่ปุ่นก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับบ้านมากขึ้น
ตอนนี้ก็ใช้ภาษาญี่ปุ่นได้สะดวกมากขึ้นด้วย
Q: ยูชอน ชอบเสียงเปียนโน?
-ชอบมากๆเลยล่ะครับ พอผมพูดกับเพื่อนๆ หรือสมาชิกในวง
ก็จะมีคำตอบมาอย่างพวก "นั่นมันพิลึกไม่ใช่เหรอไง"
แต่ผมมีความรู้สึกว่า เปียนโนมันกำลังพูดคุยกับผมอยู่จริงๆนะครับ
Q: ความรักที่มีให้กับเพื่อนๆในวง เป็นความรู้สึกแบบไหน?
-ปีที่แล้วนั้นงานยุ่งมากเลย แล้วก็มีเรื่องลำบากใจหลายๆเรื่องครับ
แต่พอผมกลับเข้าห้องมาแล้ว ก็มีสมาชิกทั้งสี่คนรออยู่ก่อนแล้ว
พอได้ยินเสียงทั้งสี่คน โดยเฉพาะชางมินกับจุนซูที่นั่งเล่นเกมส์กันอยู่
ได้ยินเสียงจุนซูพูดว่า "ว้า~~"
แค่นั้นมันก็สร้างความมั่นคงให้กับหัวใจของผมได้แล้วหล่ะครับ
ตอนนั้นเองที่ทำให้ความได้แน่ใจถึงสายสัมพันธ์พิเศษระหว่างสมาชิกในวงทุกคน
Q: เพลงนี้ชื่อเพลงว่า "รักนิรันดิ์" คุณเห็นด้วยรึเปล่าที่ว่า
รักนิรันดิ์คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่แล้วล้ำลึกเหนือสิ่งอื่นใด
-ผมคิดว่า รักนิรันดิ์ คือสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับความยืนยาวของช่วงเวลา
แม้ว่าจะเพียงหนึ่งวัน หรือหนึ่งปี แต่ก็เป็นความคิดที่อยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเธอคนนั้น
โดยไม่รู้สึกเสียใจ ความรู้สึกนั้นแหล่ะครับ ที่เรียกว่า "รักนิรันดิ์"...
Q: ตอนที่คุณร้องเพลง เคยสบตากับคนดูรึเปล่า?
-ผมก็จะสบตาอยู่แบบนั้นแหล่ะครับ
Q: ไม่รู้สึกเขินเหรอ?
-แน่นอนสิครับ แต่ล่ะครั้งก็แต่ต่างกันออกไป
แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผมจะจ้องต่อไปแบบนั้น แล้วก็ร้องเพลงไปด้วยครับ
"ผมคิดว่า นักร้องอยู่ในคำว่าดนตรีครับ
คำว่าดนตรีมันเกิดขึ้นข้างในหัวใจ
ผมเองก็ใช้ชีวิตไป โดยคิดว่านักร้องก็เป็นอาชีพธรรมดาๆอาชีพหนึ่ง
เพราะงั้น ผมคงจะทำงานด้านดนตรีต่อไปตลอดชีวิต"
-แจจุงพูดถึงยูชอนเมื่อเร็วๆนี้
แจจุง: ยูชอนดูสดใสขึ้นมากครับ
ผมจะมีช่วงที่คิดว่า เขานี่คิดอะไรเป็นผู้ใหญ่จังเลยนะ บ่อยๆครับ
ตอนนี้รู้สึกว่า เขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นแล้ว
-จุนซูพูดถึงยูชอนเมื่อเร็วๆนี้
จุนซู: ยูชอนเคยเหงามากๆ ตอนสมัยก่อนที่เขาย้ายมาจากอเมริกาใหม่ๆครับ
ตอนที่เจอกับครั้งแรก ผมรู้สึกว่าเรายังไม่เปิดใจให้กัน
แต่ว่า ตอนนี้เขาสดใสขึ้นมากเลยครับ
คงเป็นเพราะได้รับความรักจากคนมากมายนั่นเอง
ทำให้เค้ายอมเปิดใจให้กับคนอื่นๆได้
Q: เมื่อพูดถึงคำว่า "คำมั่นสัญญา" คุณจะนึกถึง?
-โกหกทั้งนั้น
"หลังจากที่ได้มาเป็นนักร้องแล้ว ถ้าผมเศร้าเสียใจ หรือมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก น้ำตาผมก็ยังไหลออกมาครับ
แต่ว่า ผมก็ได้เรียนรู้วิธีการ ระงับมันไม่ให้ไหลออกมาไปพร้อมๆกันด้วย"
-ชางมินพูดถึงยูชอน
ชางมิน: เขาเป็นคนที่เหมือนแค่สัมผัสก็จะแตกสลายได้
แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นคนที่พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง
Q: ตอนนี้สิ่งที่อยากทำมากที่สุดคือ?
-แค่วันเดียวก็ยังดี ผมอยากกลับไปเกาหลีครับ
-
ผมไม่สามารถทราบเป็นคนๆได้ว่า แต่ละคนๆ ใครบ้างที่กรุณารักคนแบบผม
แต่เมื่อผมได้อธืษฐาน ผมขอกับพระเจ้าว่า
"พระเจ้าครับ ขอให้คนที่กรุณามอบความรักให้แก่ผมทุกคนมีความสุข"
ไม่ว่าจะเป็นคืนนี้ คืนพรุ่งนี้ และไม่ว่าเมื่อไหร่
ขอบคุณมากๆครับ ที่กรุณารักผม
รักนะครับ รักทุกคนเสมอ...
"ผมไม่สามารถแสดงความรู้สึกในใจออกมาได้
แต่ขอให้ทุกคนจดจำ ช่วงเวลาที่เราได้ใช้ร่วมกันนี้ไว้นะครับ"
Credit:: Katharine@dnbn + www.TVfXQTH.net
Thai Trans:: Emmy@tvfxqth.net
source kizxtory.invisionplus.net
ผมเริ่มทำงานพิเศษหลายอย่าง
ช่วงนั้นครอบครัวผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ
ผมเลยคิดว่า ยิ่งผมรู้สึกแย่กับมันเท่าไหร่
ผมก็ไม่อยากให้น้องชายของผมต้องอยู่ในสภาพเดียวกับผมมากเท่านั้น
ผมใช้เงินจากการทำงานพิเศษทั้งหมดของผม
เพื่อเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นให้กับน้องชายของผม
แล้วก็ไปรับเขาที่โรงเรียนบ่อยๆครับ
จริงๆแล้ว ทำไมถึงเป็นผมทีทำสิ่งที่
มันสมควรจะเป็นสิ่งที่เขาได้รับจากพ่อแม่ก็ไม่รู้สินะครับ"
Q: แล้วทำอย่างไร ถึงผ่านช่วงเวลายากลำบากในวัยเด็กมาได้?
-ผมฟังเพลงทุกๆวัน และพยายามที่จะไม่ใช่ชีวิตอย่างเศร้าหมองครับ
ผมได้ค้นพบอะไรเกี่ยวกับดนตรีมากเลยทีเดียว
จากดนตรีที่ตอนอยู่เกาหลีไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับมันเลย
ช่วงนั้นคงเป็นครั้งแรกที่ผมรู้ว่า
ดนตรีเป็นสิ่งสำคัญที่คอยค้ำจุนหัวใจของผมเสมอมา
เพลงที่ผมฟังเสมอๆ ตอนที่ผมยากลำบากมากเลยก็คือ เพลงของเอริกแคลปตันครับ
แม้แต่ตอนนี้ผมได้ฟังเพลงนี้ที่ได้ไร ผมจะคิดถึงช่วงเวลานั้น แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาครับ
Q: จากเพลงใหม่ของโทโฮชินกิ "Lovin' You" อยากทราบคำว่าความรักของยูชอนค่ะ
-ไม่ครับ ผมไม่รู้จักหรอกครับ คำว่าความรักหน่ะ
"เหมือนกับตอนที่ผมได้ดนตรีมาเยียวยาจิตใจ
ผมเองก็อยากมอบความกล้าให้กับคนที่กำลังยากลำบาก
และคนที่กำลังมีความทุกข์ทั้งหลายด้วยบทเพลงของผมได้
มันจะมีความสุขแค่ไหนกันนะ ... ผมคิดแบบนั้นครับ"
Q: ในเนื้อเพลง ของเพลง Shine มีท่อนที่ว่า
"อยากจะแกล้งทำตัวน่ารักๆให้เธอดู" แล้วยูชอนล่ะ ทำท่าทางน่ารักคิขุเก่งรึเปล่า?
-ตอนนี้คงเป็นแบบนั้นล่ะครับ
ตอนอยู่กับสมาชิกในวงคนอื่นๆ ผมทำท่าทางแบบนั้นออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ว่า ตั้งแต่เดบิวมา ผมสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองขึ้นมาตลอดครับ
ก่อนหน้านี้ คาแรกเตอร์ตัวผมแตกต่างกับตอนนี้อย่างสิ้นเชิง
Q:ยูชอนนั้น ในเวลาปกติ ชั้นรู้สึกว่าในแววตาของคุณจะมีความเหงาซ่อนอยู่เสมอ
แต่ว่า ไม่ใช่แต่ความเหงาหรอกนะ แต่ยังมีความรู้สึกอบอุ่นมากมายรวมอยู่ด้วย
แล้วก็ตามความรู้สึกส่วนตัวของชั้นแล้ว จากสมาชิกทั้งห้าคน คุณเป็นคนที่ให้ความรู้สึกเหมือนแจจุงอยู่นิดหน่อย
- อา~~ จุดนั้นผมเข้าใจครับ ผมเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
ผมเองก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดในดวงตาของพี่แจจุงเหมือนกันครับ
พี่แจจุงนั้น เป็นคนที่จะไม่ให้คนรอบข้างได้เห็นใบหน้ายามยากลำบาก และ
ทั้งตอนที่ตนเองรู้สึกโดดเดี่ยวแน่ๆ แต่ว่าเวลาที่พี่แจจุงอยู่คนเดียว หรืออยู่กันสองคน
พี่แจจุงจะแสดงอารมณ์ต่างๆที่เก็บไว้ออกมาครับ
ทุกๆครั้งผมจะคิดว่า
"พี่แจจุงเป็นคนที่พยายามอย่างมากอยู่เสมอ
แล้วก็ยังพยายามอย่างสุดความสามารถในฐานะยองอุงแจจุงของทงบังชินกิด้วย"
ผมเองก็คล้ายกันครับ เพราะงั้น ผมเข้าใจดีเสมอ
Q: วันหยุดครั้งหน้าจะทำอะไรเหรอ?
-ไปสตาบัคส์ครับ อยากดื่มกาแฟไป อ่านหนังสือไป อยากรู้สึกถึงการมีเวลาว่างหน่ะครับ
Q: ต่อไปข้างหน้า อยากกลายเป็นผู้ใหญ่แบบไหนในฐานะของปาร์คยูชอน?
-ในฐานะปาร์คยูชอน ผมอยากเป็นคนธรรมดาๆ ที่ไม่มีการเสริมเติมแต่งอะไรทั้งนั้น
ถ้ามิคกี้ยูชอนทำหน้าตาเหน็ดเหนื่อย และหนีจากตารางงานทั้งหลาย
ในช่วงเวลาที่ผมเป็นปาร์คยูชอน ผมอยากจะกลายเป็นคนที่มีความอดทน
เท่าๆกับความยากลำบากที่ได้เจอตอนเป็นมิคกี้ครับ
Q: ถ้าเกิดใหม่ได้อีกครั้ง อยากจะเกิดเป็นอะไร?
-ผมไม่อยากเกิดใหม่อีกครั้งหรอกครับ
Q: หลังจากจบตารางงานที่โอกินาว่าแล้ว จะกลับเกาหลีกันเหรอคะ?
-ครับ ที่เกาหลีก็มีตารางงานเยอะเหมือนกัน
แต่ว่าก็มีเวลาที่เป็นส่วนตัวของผมด้วย
ผมอยากใช้เวลาส่วนตัวของผมให้ดีที่สุด
เพื่อที่จะได้คิดทบทวนเกี่ยวกับความรู้สึกต่างๆในตอนนี้ครับ
Q:อยากจะทบทวนจิตใจของตัวเองหมายถึงอะไรเหรอคะ?
-หลังจากเดบิว ตลอดมานั้นมีเรื่องที่คิดว่ายากลำบากมากอยู่ก็จริงครับ
แต่ว่า ผมจะสร้างเวลาที่เอาไว้คิดอะไรหลายๆอย่างคนเดียว
เกี่ยวกับงานที่ต้องทำในวันข้างหน้า
ตอนนี้ผมอาจจะยังให้คำตอบไม่ได้
เพราะผมคิดว่าเวลาในการคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญครับ
Q:สุดท้ายนี้ อยากถามเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของคุณยูชอนค่ะ
หลังจากที่คุณมาที่ญี่ปุ่นบ่อยๆแล้ว คิดว่าไม่มีโอกาศได้เห็นใบหน้าหัวเราะของคุณยูชอนเท่าไหร่เลยค่ะ
แต่ว่า ชั้นก็คิดว่าหมู่นี้ คุณแสดงอารมณ์ออกมามากขึ้น
ต้องมีโอกาศอะไร ถึงจะเปลี่ยนมาหัวเราะอะไรแบบนี้รึเปล่าคะ?
-ผมคิดว่า ไม่ใช่เพราะมีโอกาศให้ได้หัวเราะหรอกครับ
แต่เพราะผมเริ่มคุ้นเคยกับหลายๆอย่างที่นี่ได้มากขึ้นแล้วมากกว่า
ตอนแรกๆนั้นไม่ชินเลยล่ะครับ ทั้งสถานที่ และคนๆหลายๆคนที่ไม่รู้จัก
แต่ว่า สองปีผ่านไป ทุกคนก็สนิทกันมากขึ้น
ชีวิตที่ญี่ปุ่นก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับบ้านมากขึ้น
ตอนนี้ก็ใช้ภาษาญี่ปุ่นได้สะดวกมากขึ้นด้วย
Q: ยูชอน ชอบเสียงเปียนโน?
-ชอบมากๆเลยล่ะครับ พอผมพูดกับเพื่อนๆ หรือสมาชิกในวง
ก็จะมีคำตอบมาอย่างพวก "นั่นมันพิลึกไม่ใช่เหรอไง"
แต่ผมมีความรู้สึกว่า เปียนโนมันกำลังพูดคุยกับผมอยู่จริงๆนะครับ
Q: ความรักที่มีให้กับเพื่อนๆในวง เป็นความรู้สึกแบบไหน?
-ปีที่แล้วนั้นงานยุ่งมากเลย แล้วก็มีเรื่องลำบากใจหลายๆเรื่องครับ
แต่พอผมกลับเข้าห้องมาแล้ว ก็มีสมาชิกทั้งสี่คนรออยู่ก่อนแล้ว
พอได้ยินเสียงทั้งสี่คน โดยเฉพาะชางมินกับจุนซูที่นั่งเล่นเกมส์กันอยู่
ได้ยินเสียงจุนซูพูดว่า "ว้า~~"
แค่นั้นมันก็สร้างความมั่นคงให้กับหัวใจของผมได้แล้วหล่ะครับ
ตอนนั้นเองที่ทำให้ความได้แน่ใจถึงสายสัมพันธ์พิเศษระหว่างสมาชิกในวงทุกคน
Q: เพลงนี้ชื่อเพลงว่า "รักนิรันดิ์" คุณเห็นด้วยรึเปล่าที่ว่า
รักนิรันดิ์คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่แล้วล้ำลึกเหนือสิ่งอื่นใด
-ผมคิดว่า รักนิรันดิ์ คือสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับความยืนยาวของช่วงเวลา
แม้ว่าจะเพียงหนึ่งวัน หรือหนึ่งปี แต่ก็เป็นความคิดที่อยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเธอคนนั้น
โดยไม่รู้สึกเสียใจ ความรู้สึกนั้นแหล่ะครับ ที่เรียกว่า "รักนิรันดิ์"...
Q: ตอนที่คุณร้องเพลง เคยสบตากับคนดูรึเปล่า?
-ผมก็จะสบตาอยู่แบบนั้นแหล่ะครับ
Q: ไม่รู้สึกเขินเหรอ?
-แน่นอนสิครับ แต่ล่ะครั้งก็แต่ต่างกันออกไป
แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผมจะจ้องต่อไปแบบนั้น แล้วก็ร้องเพลงไปด้วยครับ
"ผมคิดว่า นักร้องอยู่ในคำว่าดนตรีครับ
คำว่าดนตรีมันเกิดขึ้นข้างในหัวใจ
ผมเองก็ใช้ชีวิตไป โดยคิดว่านักร้องก็เป็นอาชีพธรรมดาๆอาชีพหนึ่ง
เพราะงั้น ผมคงจะทำงานด้านดนตรีต่อไปตลอดชีวิต"
-แจจุงพูดถึงยูชอนเมื่อเร็วๆนี้
แจจุง: ยูชอนดูสดใสขึ้นมากครับ
ผมจะมีช่วงที่คิดว่า เขานี่คิดอะไรเป็นผู้ใหญ่จังเลยนะ บ่อยๆครับ
ตอนนี้รู้สึกว่า เขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นแล้ว
-จุนซูพูดถึงยูชอนเมื่อเร็วๆนี้
จุนซู: ยูชอนเคยเหงามากๆ ตอนสมัยก่อนที่เขาย้ายมาจากอเมริกาใหม่ๆครับ
ตอนที่เจอกับครั้งแรก ผมรู้สึกว่าเรายังไม่เปิดใจให้กัน
แต่ว่า ตอนนี้เขาสดใสขึ้นมากเลยครับ
คงเป็นเพราะได้รับความรักจากคนมากมายนั่นเอง
ทำให้เค้ายอมเปิดใจให้กับคนอื่นๆได้
Q: เมื่อพูดถึงคำว่า "คำมั่นสัญญา" คุณจะนึกถึง?
-โกหกทั้งนั้น
"หลังจากที่ได้มาเป็นนักร้องแล้ว ถ้าผมเศร้าเสียใจ หรือมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก น้ำตาผมก็ยังไหลออกมาครับ
แต่ว่า ผมก็ได้เรียนรู้วิธีการ ระงับมันไม่ให้ไหลออกมาไปพร้อมๆกันด้วย"
-ชางมินพูดถึงยูชอน
ชางมิน: เขาเป็นคนที่เหมือนแค่สัมผัสก็จะแตกสลายได้
แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นคนที่พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง
Q: ตอนนี้สิ่งที่อยากทำมากที่สุดคือ?
-แค่วันเดียวก็ยังดี ผมอยากกลับไปเกาหลีครับ
-
ผมไม่สามารถทราบเป็นคนๆได้ว่า แต่ละคนๆ ใครบ้างที่กรุณารักคนแบบผม
แต่เมื่อผมได้อธืษฐาน ผมขอกับพระเจ้าว่า
"พระเจ้าครับ ขอให้คนที่กรุณามอบความรักให้แก่ผมทุกคนมีความสุข"
ไม่ว่าจะเป็นคืนนี้ คืนพรุ่งนี้ และไม่ว่าเมื่อไหร่
ขอบคุณมากๆครับ ที่กรุณารักผม
รักนะครับ รักทุกคนเสมอ...
"ผมไม่สามารถแสดงความรู้สึกในใจออกมาได้
แต่ขอให้ทุกคนจดจำ ช่วงเวลาที่เราได้ใช้ร่วมกันนี้ไว้นะครับ"
Credit:: Katharine@dnbn + www.TVfXQTH.net
Thai Trans:: Emmy@tvfxqth.net
source kizxtory.invisionplus.net
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น