ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    my. Hidden Room *S t o r a g e

    ลำดับตอนที่ #250 : Novel Translate :: Harem Ch 24

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.82K
      123
      22 พ.ค. 61

    และแล้ว MV ตัวเต็มก็ได้เผยแพร่ต่อสาธารณชนในงานเทศกาลซีซี ขณะที่เวยป๋อของโอวหยางซีและเหยาเฉิงกำลังคราคร่ำด้วยบรรดาแฟนๆนั้น ทางด้านจางซินหรานก็กำลังวิ่งเต้นหาสังกัดใหม่เสียให้วุ่น


    เย่จือโจวเมื่อได้ฟังข่าวก็ชะงักกึกจนนมในมือแทบทะลักออกจากแก้วเมื่อกี้ว่าย้ายไปที่ไหนนะ?”


    หวงตู้ครับฉิงเซียวยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ก่อนจะหยุดครุ่นคิดสักพัก แล้วช่วยแนะนำต่อด้วยความหวังดียังไงก็อย่าถามคำถามนี้ต่อหน้าอาสองนะครับ ถ้าเห็นคุณสนใจคุณจางขนาดนี้ มีหวังปรี๊ดแตกแหงเพราะถ้าอาสองเกิดโมโหขึ้นมา คนที่จะซวยก็หนีไม่พ้นลูกน้องอย่างพวกเขานี่แหละ


    เย่จือโจวได้ยินก็รีบวางแก้วนมลงแล้วถามอย่างสงสัยผมจำได้ว่าคุณจางเซ็นสัญญากับที่นี่ไม่ใช่เหรอครับ คนๆนั้นยอมเสียค่าปรับค่าผิดสัญญาตั้งหลายล้านจริงเหรอ? อีกอย่างผมว่าข้อบังคับของมู่เทียนก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แล้วทำไมถึงต้องย้ายสังกัดด้วยล่ะ?”


    ยังอยู่ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ แล้วยิ่งกับหวงตู้? ที่เป็นสังกัดเก่าตอนชาติที่แล้วเนี่ยนะ? ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?


    ค่าปรับทั้งหมดทางหวงตู้จ่ายให้เรียบร้อยแล้วครับ ส่วนเหตุผลที่ออกนั้น...” ฉิงเซียวเปรยตามองเขาเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็อึกๆอักๆ


    ยิ่งมองท่าทีของชายหนุ่มตรงหน้าเย่จือโจวก็ยิ่งไม่เข้าใจทำไมมองผมแบบนั้น หรือว่าเป็นเพราะผม?”


    เปล่านะครับฉิงเซียวส่ายหัวอย่างแรง นึกคำพูดก่อนจะตั้งต้นอธิบายช้าๆคืออาสองไม่ค่อยชอบคุณจางเท่าไหร่ พวกผมได้ยินก็เลย....”


    “...เป็นเพราะผมจริงๆสินะใบหน้าเขาแข็งค้างจนแทบจะเป็นหน้าตายอยู่มะรอมมะร่อ


    เห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าปั้นยาก ฉิงเซียวก็รีบรวบรวมความกล้าพูดขึ้นอีกครั้งคุณเหยา ตอนนี้คนที่อยู่เคียงข้างคุณคืออาสอง เพราะฉะนั้นคุณไม่จำเป็นต้องไปสนใจเรื่องหยุมหยิมพรรค์นี้ก็ได้ครับ อีกอย่างถ้าอาสองรู้เข้า คุณ....”


    ดี!” จู่ๆใบหน้าไร้อารมณ์ก็พลันเบิกบานราวกับมีดอกไม้บานสะพรั่ง ไม่มีท่าทีสำนึกเลยแม้แต่กระผีกเดียว เย่จือโจวลุกขึ้นอย่างแน่วแน่พลางหันขวับไปทางห้องเล่นเกมอย่างอารมณ์ดีไหนๆก็ไหนๆมาเล่มเกมฉลองกันดีกว่า! โอวหยางซีจะได้ออกมาเล่นด้วยได้!”


    ฉิงเซียวกลืนคำพูดที่ยังพูดไม่จบลงคอดังเอื้อก หลังจากไอค่อกแค่กแล้วเขาก็ได้แต่ถอนหายใจ อารมณ์ขึ้นๆลงๆของคุณเหยาเนี่ย... ในฐานะผู้ช่วยมือทองแล้ว ค่อนข้างรับมือยากเลยทีเดียว


    ***


    ทางด้านจางซินหรานไม่เพียงแต่วิ่งเต้นจนเปลี่ยนสังกัดใหม่เท่านั้น เธอยังอาศัยบารมีของหลิวเฟยเฟย ดาราสาวชื่อดังในขณะนี้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองอีกด้วย


    พอรู้ตัวอีกทีโลกนี้ก็เปลี่ยนไปรวดเร็วจนเย่จือโจวเกือบปรับตามแทบไม่ทันเสียแล้ว


    กระทู้เด็ดเผ็ดร้อนในเวยป๋อตอนนี้อันดับหนึ่งยังเป็นเรื่องการเผยแพร่ MV ตัวเต็มของโอวหยางซี ในขณะที่อันดับสองที่ตามมาติดๆคือรูปภาพของหลิวเฟยเฟยและจางซินหรานที่ถ่ายคู่กันอย่างสนิทสนม พร้อมแคปชั่นใต้รูปว่าน้องสาวคนใหม่ของฉันคนนี้น่ารักที่สุดในโลกเลย ฮ่าฮ่าฮ่า


    เหล่าแฟนคลับต่างตื่นตกใจกับการย้ายค่ายกะทันหันของจางซินหราน ทฤษฎีต่างๆผุดขึ้นเต็มยิ่งกว่าแมลงวันแพร่พันธุ์เสียอีก ไม่มีใครสักคนกล้าแสดงความยินดี จะมีก็แต่สายตาตั้งคำถามว่าทำไมถึงได้ตัดสินใจแบบนั้นกัน


    เย่จือโจวเองก็หาคำตอบว่าทำไมตัวเอกถึงลงมือทำเรื่องนี้ไม่ได้ เขาเคลื่อนตัวไปที่เครื่องคอมแล้วแฮคเข้าระบบของหวงตู้ ทว่าสิ่งที่เขาค้นเจอกลับยิ่งทำให้เขาตะลึงงันเข้าไปใหญ่ หวงตู้ยอมเซ็นสัญญาเกรด A กับจางซินหราน ให้ค่าตัวพอๆกับหลิวเฟยเฟย หรือแม้กระทั่งให้มีผู้จัดการคนเดียวกันด้วยซ้ำ! ผู้จัดการคนที่เคยช่วยหลิวเฟยเฟยกับเหยาเฉิงขยี้จางซินหรานจมดินเมื่อชาติก่อนคนนั้นนั่นแหละ


    จากศัตรูกลายมาเป็นสหายร่วมรบ สมองของตัวเอกกำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย?


    ไม่ต้องรอให้หาคำตอบจนเจอ จางซินหรานก็เป็นฝ่ายติดต่อมาหาเขาเสียเอง หญิงสาวถามเขาว่าจะมาร่วมการถ่ายทำวาไรตี้โชว์ที่เมือง S ตอนสุดสัปดาห์นี้ไหม


    เสียงจากปลายสายทั้งห้วนทั้งเย็นชา ราวกับเป็นเจ้าแม่ผู้อยู่เหนือกว่าคนอื่นก็ไม่ปาน เย่จือโจวได้ยินก็กลอกตาพลางตอบกลับเสียงแข็งไม่แพ้กันฉันได้รับคำเชิญร่วมรายการจากฮ่าวเกอเหมือนกัน ก็คงจะไปล่ะมั้ง ไหนๆก็เพื่อโปรโมตละครด้วย


    ก่อนหน้านี้ไม่นานหลี่ฮ่าวเพิ่งขายลิขสิทธิ์ละครให้กับสถานีโทรทัศน์ของเมือง S ดังนั้นเหตุผลที่ต้องเข้าร่วมวาไรตี้โชว์ก็เพื่อโฆษณาละครไปในตัว และเพราะแบบนั้น เขาถึงต้องเข้าร่วมการถ่ายทำไปโดยปริยาย


    โอเคพอได้รับคำตอบน่าพึงพอใจจากอีกฝ่าย จางซินหรานก็เริ่มผ่อนคลายลง


    หญิงสาวเอ่ยประโยคกำกวมเหมือนจะสื่อถึงใครบางคนถ้างั้นฉันจะรอเธอในรายการนะ แล้วจะเสนอโอกาสดีๆให้เธอด้วย อ๊ะ แต่ไม่ต้องขอบอกขอบใจกันก็ได้ว่าแล้วกระแทกปุ่มวางสายทันที ทำเหมือนกับเขาไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอดีๆขอเธออย่างนั้นแหละ


    เย่จือโจวสะพรึงมองโทรศัพท์ในมือด้วยอาการพูดไม่ออก ยัยตัวเอกนี่ชาติก่อนทำงานวงการบันเทิงมากว่าสิบปีจริงๆเรอะ? แฟนๆในเวยป๋อครุกกรุ่นกันยิ่งกว่าน้ำกับไฟแถมต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันตั้งแต่ละครจบอีก หล่อนไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงคิดว่าเหยาเฉิงจะไม่ปฏิเสธหล่อนเด็ดขาดน่ะฮะ? แล้วอะไรนะโอกาสดีๆเรอะ? ก็แค่ขุดหลุมกับดักหลุมเบ้อเร่อไว้รอเขาไม่ใช่รึไง?


    **


    ห้องแต่งตัวสำหรับนักแสดงของหวงตู้ จางซินหรานวางโทรศัพท์ลง มือยื่นมาโปะเครื่องสำอางค์หน้ากระจก เหยียดยิ้มแพรวพราวบนใบหน้า ก่อนจะเดินทอดน่องไปยังห้องแต่งตัวข้างๆแล้วเคาะสองสามที หญิงสาวพิงประตูแล้วเอ่ยเย้าแหย่หลิวเจี๋ยจ๋า ตัวเต็มของ MV ที่ฉันเคยให้พี่ดูออกแล้วนะ อยากดูมั๊ย?”


    หลิวเฟยเฟยที่กำลังแต่งหน้าอยู่เมื่อได้ยินสีหน้าก็พลันสดใสขึ้นทันตา เธอวางลิปสติกลงแล้วตอบกลับไปน้องสาวคนนี้รู้ใจพี่สาวดีจริงๆเลย แล้วไหนล่ะคลิป? เห็นบอกว่าจะแนะนำพระเอกเอ็มวีให้รู้จักด้วย อย่าหลอกกันนะรู้มั๊ย?”


    แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่มีทางหลอกพี่หรอกซินหรานคลี่ยิ้มพลางหยิบมือถืออกมา แสงจากหน้าจออ่อนๆวาววับบนดวงตาคู่สวยฉันสัญญาว่าจะแนะนำอย่างดี จนรู้จักกันแบบสนิทสนมเลยล่ะ


    ***


    วันอาทิตย์ นักข่าวหลายสำนักได้รับการคอนเฟิร์มว่านักแสดงสาวซุนฮ่านหย่า ผู้ได้รับบทนางเอกของละครแนวพีเรียด ฟางฮัวจิ้นสือถูกจับกุมข้อหาเสพยาเสพติด วัดถัดมา ทางค่ายผู้จัดทำก็ออกมาประกาศเรื่องถอนชื่อซุนฮ่านหย่าออกจากทีมนักแสดง โดยตำแหน่งที่ว่างจะถูกแทนที่ด้วยนักแสดงสาวสุดฮ็อตอย่างหลิวเฟยเฟย 

    ไม่นานนัก หลังการสืบคดีเรื่องก็สาวไปถึงตัวเอกหญิงคนที่สามของละครว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาเช่นกัน ส่งผลให้โดนถอนชื่อ จนบทตกไปเป็นของจางซินหราน ผู้ที่บังเอิญตอบรับบทอย่างพอดิบพอดี...


    หลังได้ยินข่าว ในที่สุดเย่จือโจวก็โยนท่าทีสบายๆทิ้งแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย


    คดียาเสพติดมันเหมาะเจาะเกินไป


    ซุนฮ่านหย่าแต่เริ่มเดิมทีก็เดบิวต์เข้าวงการมาในฐานะนักแสดงเด็ก จากนั้นก็ไต่เต้าขึ้นเป็นนักแสดงหญิงระดับประเทศอย่างราบรื่น แต่ถึงจะไม่นับเรื่องนั้นหญิงสาวก็ถือว่าเป็นคนใสซื่อและมีน้ำใจคนนึง ชาติก่อนตอนที่ตัวเอกถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ก็มีซุนฮ่านหย่านี่แหละที่คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ จะเรียกว่าเป็นผู้มีพระคุณกับตัวเอกก็ว่าได้ โชคไม่ดีที่แฟนหนุ่มของเจ้าหล่อนแอบใช้ยาอย่างลับๆ พอโดนตำรวจจับก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด


    อ้างอิงตามเนื้อเรื่องเดิมภายหลังจากที่ตัวเอกเกิดใหม่ ก็ช่วยเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของแฟนหนุ่มต่อหน้าซุนฮ่านหย่าเพื่อตอบแทนบุญคุณ จากนั้นทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน


    ตอนนี้ถ้านับเวลาดีๆซุนฮ่านหย่าก็เพิ่งเริ่มคบกับแฟนหนุ่มได้ไม่นาน หรือก็คือคดีเสพยามันไม่ควรถูกเปิดโปงตอนนี้สิ! หลังจากทบทวนไปมาหลายรอบในที่สุดก็เหลือเพียงแค่คำตอบเดียว....นี่จะต้องเป็นฝีมือของจางซินหรานแน่นอน


    แม้กระทั่งคนสำคัญที่เคยช่วยเหลือเมื่อชาติก่อนหล่อนยังสามารถลากลงหลุมได้อย่างไม่ใยดี จิตใจของตัวเอกนี่มัน....จะดำสนิทเกินไปหน่อยแล้ว


    เย่จือโจวอธิบายอารมณ์ของตัวเองไม่ถูก เขาก็เข้าใจความเกลียดชังของตัวเอกที่มีต่อเหยาเฉิงกับหลิวเฟยเฟยอยู่หรอก  สองคนนี้เล่นคบชู้สู่ชายกันสนุกสนานจะถูกเกลียดก็ไม่แปลก แต่กับคนดีๆแบบซุนฮ่านหย่านี่สิ.... ยัยนี่ใช่คนเดียวกับที่เป็นตัวตั้งตัวตีเดินหน้าเพื่อช่วยเหลือสตรีและเด็กจริงๆเรอะ? นี่หล่อนเป็นตัวเอกกับเค้าจริงๆเรอะ??


    แค่มองข่าวการเปลี่ยนตัวนักแสดงก็ทำให้เขารู้สึกขยะแขยงแล้ว เมื่อคิดอย่างรอบคอบดูอีกครั้ง เขาก็สังเกตุได้ว่าจางซินหรานยังคงได้รับสิ่งที่ควรได้เหมือนในเนื้อเรื่องเดิมอยู่ดี ถ้าไม่นับเรื่องเปลี่ยนบริษัท รวมถึงที่เป็นตัวเอกหญิงคนที่สามแทนที่จะเป็นคนที่สอง ถึงจะถูกเขาก่อกวนจนเละ แต่บทดั้งเดิมก็ยังดำเนินไปรูปแบบเดิม เขาเคยคิดว่าถ้ากีดกันตัวเอกไม่ให้เกาะแข้งทองคำได้ก็จะสามารถหยุดหล่อนไม่ให้เข้าสู่วงการบังเทิงได้อีกครั้ง แต่เขาคิดผิด! ถึงยังไงหนทางย่อมมีอยู่เสมอ มิหนำซ้ำแต่ละทางยังมุ่งสู่จุดหมายเดียวกันเสียด้วย


    ทว่าจู่ๆความว้าวุ่นใจทั้งหลายทั้งมวลก็พลันยุติลงพร้อมกับที่เขารู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง ถ้าหากตัวเอกถูกฟ้าลิขิตให้เล่นละครพีเรียดเรื่องนี้จริงๆ ถ้าอย่างนั้นเหตุการณ์ต่อไปก็ต้องเป็น...


    เย่จือโจวรีบหันไปมองฉากเนื้อเรื่องทั้งหมด ก่อนจะลูบใบหน้าด้วยสีหน้าฝืดเฝื่อน เมื่อชื่อเสียงของตัวเอกโด่งดังเป็นพลุแตกจากละครเรื่องนี้ หลิวเฟยเฟยที่ขณะนั้นเป็นถึงราชินีแห่งวงการบันเทิงก็เริ่มมีข่าวฉาวกับเหยาเฉิง ทำให้ไม่นานนักรูปสุดวาบหวิวของทั้งคู่ก็หลุดไปสู่นักข่าว เหยาเฉิงถูกประนามว่าเป็นของเล่นของหลิวเฟยเฟย ทำให้เขาหมดโอกาสโลดแล่นบนโลกมายาไปตลอดชีวิต


    ฉับพลันเขาก็นึกถึงโทรศัพท์ที่โทรมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ตัวเอกพูดไว้ว่าจะเสนอโอกาสดีๆให้เหยาเฉิงไม่ใช่รึไง... ถ้าอย่างนั้นการที่หล่อนเข้าใกล้หลิวเฟยเฟย และเรื่องของซุนฮ่านหย่าที่ถูกหลิวเฟยเฟยแย่งบทนางเอกไปจะต้องเกี่ยวข้องกันแน่นอน...


    ดูเหมือนเขาเองก็จะถูกทำให้ต้องยุ่งกับหลิวเฟยเฟยในอีกไม่นานแล้วสิ


    ***


    วันอาทิตย์ เย่จือโจวที่มาถึงสถานที่ถ่ายทำก็ถูกกองทัพแฟนๆที่กำลังตื่นเต้นสุดขีดล้อมหน้าล้อมหลัง เสียงกรี้ดกร้าดดังอึกทึกเต็มถนนจนรถราแทบสัญจรไม่ได้ โชคยังดีที่บอดี้การ์ดที่โอวหยางชุนส่งมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีเยี่ยม ช่วยกั้นบรรดาแฟนคลับจนเหลือทางพอให้เขาเดินเข้าไปทางประตูหน้าสถานีโทรทัศน์ได้ในที่สุด


    หลังจากเสียงกรี้ดกร้าดที่ดังขึ้นเป็นระลอกๆจบลง จางซินหรานและสมาชิกผู้เข้าร่วมรายการที่พอจะโด่งดังบ้างก็มาถึงสตูดิโอทีละคนสองคน เมื่อสตาฟของทางสถานีเข้ามา ทุกคนก็เริ่มพูดคุยกันอย่างสนิทสนม


    จางซินหรานยืนอยู่ท่ามกลางเหล่านักแสดงหญิง สายตาของเธอมองไปทางเย่จือโจวเป็นพักๆ เขาไม่มองมาทางเธอหรือแม้แต่จะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาทักทายกันก่อนด้วยซ้ำ ทั้งๆที่เธออยากจะแกล้งทำเป็นเมินเขาแท้ๆ! ทว่าพอนึกถึงหลิวเฟยเฟยที่อยู่โรงแรมข้างๆ หญิงสาวก็ได้แต่ทำหน้าบึ้งตึง แล้วฝืนหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความหาเย่จือโจวแบบไม่เต็มใจ


    เย่จือโจวที่กำลังอธิบายเทคนิคเล่นเกมให้หลี่ฮ่าวฟังรู้สึกว่าโทรศัพท์สั่นเล็กน้อย เป็นข้อความจากจางซินหรานนี่เอง ให้ลบทิ้งไปเลยก็ดูเร็วเกินไป เขาจึงปิดมือถือแล้วโยนเข้ากระเป๋าเสื้อตามเดิม


    จางซินหรานลอบสังเกตท่าทีของชายหนุ่ม ก่อนจะช็อคกับท่าทางไม่แยแสนั่น เธอกดปุ่มโทรออกจึงรู้ว่าคนตรงหน้าปิดมือถือไปเสียแล้ว ใบหน้าของเธอพลันงอง้ำ ก่อนหน้านี้แค่ไม่กี่เดือนชายหนุ่มยังตามตื้อเธอเป็นบ้าเป็นหลังอยู่เลยไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ถึงขนาดกล้าเมินเธอเลย! จะมั่นใจอะไรนักหนาไม่ทราบยะ? คอยดูเถอะ อีกไม่นานนายนั่นแหละต้องเป็นฝ่ายคุกเข่ามาขอร้องอ้อนวอนฉัน!


    หญิงสาวโยนมือถือลงกระเป๋า ปรับอารมณ์ของตัวเองแล้วเข้าร่วมวงสนทนาของเพื่อนๆนักแสดงต่อ ถ้ามองจากมุมของคนอื่นจะเห็นว่าเธอกำลังพูดคุยอย่างออกรส แต่จริงๆแล้วดวงตาคู่สวยกลับสอดส่ายไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงที่หลี่ฮ่าวที่กำลังคุยอะไรสักอย่างอยู่เหมือนกัน ความคิดดำมืดผุดขึ้นในจิตใจเธอ


    กล้าไม่สนใจฉันงั้นเหรอ? แล้วนายจะต้องเสียใจ! หนีไม่พ้นหรอกน่า


    **


    ช่วงเช้ามีเพียงการติดตั้งเวที ส่วนตอนบ่ายก็เป็นการซักซ้อม สำหรับการถ่ายทำจริงๆจะเริ่มขึ้นในตอนเย็น


    การซ้อมช่วงบ่ายดำเนินไปได้อย่างราบรื่น หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกลับโรงแรมเพื่อไปพักผ่อน เย่จือโจวอาศัยโอกาสตอนที่จางซินหรานไม่ทันระวังส่งกระแสพลังวิญญาณแทรกเข้าไปในตัวหญิงสาว


    เวลาหนึ่งทุ่มตรง การถ่ายทำของจริงเริ่มต้นขึ้น นักแสดงแต่ละคนสามารถแสดงได้อย่างลื่นไหล สอดคล้องกันและสงบราบรื่น ดียิ่งกว่ารอบฝึกซ้อมกันช่วงบ่ายเสียอีก ดีจนเย่จือโจวเกือบจะเชื่อแล้วว่าตัวเอกอาจจะไม่ได้มีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่จริงๆ


    แต่ก็แค่เกือบจะเท่านั้น หลังจากการถ่ายทำสิ้นสุดลง ทุกคนต่างพากันชักชวนไปเลี้ยงกันที่ห้องอาหารบนชั้นสี่ เย่จือโจวมองเครื่องดื่มในมือหลี่ฮ่าวแล้วเลิกคิ้วนายเอามาทำไมน่ะ? ฉันไม่ชอบดื่มน้ำแอปเปิ้ลสักหน่อย แค่นี้ก็ไม่รู้รึไง?” เหยาเฉิงคนเดิมอาจชอบดื่ม แต่เขารู้สึกว่ามันดูหญิงๆเกินไปหน่อย เลยไม่ค่อยชอบมากนัก


    อ้าว ไม่ชอบหรอกเหรอ ได้ยินบางคนบอกว่านายชอบนี่นา เห็นวางอยู่บนโต๊ะพอดีก็เลยหยิบมาเผื่อหลี่ฮ่าวเกาหัวแกรกๆ ดันแก้วไปอีกทาง แล้วเอ่ยปนหัวเราะช่างมันแล้วกัน ว่าแต่นายชอบดื่มอะไรล่ะ เดี๋ยวฉันไปหยิบมาให้


     “ไม่ต้องๆเย่จือโจวคลี่ยิ้มบาง หยิบแก้วน้ำแอปเปิ้ลแล้วยืนขึ้นฉันไปเอาเองดีกว่า นายนั่งกินก่อนเถอะเขาตบบ่าหลี่ฮ่าวไปทีนึง ก่อนจะขับเคลื่อนพลังวิญญาณที่อยู่ในตัวของตัวเอกเพื่อระบุหาตำแหน่งอีกฝ่าย แล้วเดินไปทางนั้นช้าๆ


    เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง แต่ละคนต่างล่ำลาแยกย้ายไปยังห้องของตัวเอง เย่จือโจวยืนอ้อยอิ่งอยู่สักพัก พอถึงเวลาที่คำนวณไว้ เขาก็เดินขึ้นบันใดแล้วขับเคลื่อนพลังวิญญาณเพื่อระบุตำแหน่งอีกครั้ง ชายหนุ่มเดินผ่านและกำจัดร่องรอยของตัวเองบนกล้องวงจรปิดไปตลอดทาง ก่อนจะเปิดประตูห้องริมสุดของชั้น 6 แล้วแทรกตัวเข้าไปโดยง่ายดาย


    เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะแนะนำเหยาเฉิงให้ฉัน? แล้วนี่กลับมาคนเดียวได้ไง? แถมยังหน้าตาดูไม่ได้นั่นอีก!” หลิวเฟยเฟยจ้องจางซินหรานที่กำลังทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกให้ตายสิ เสียเวลาจริงๆเลย รู้มั๊ยคนดังอย่างฉันกว่าจะหาวันหยุดได้มันลำบากขนาดไหน พอกันที เธอเนี่ยไร้ประโยชน์ชะมัด เดี๋ยวฉันหาทางเจอเขาเองก็ได้


    จางซินหรานที่ไม่รู้ว่าดึงปกคอเสื้อลงเป็นครั้งที่เท่าไหร่ ดึงปกคอเสื้อลงยิ่งกว่าเดิม รู้สึกอากาศในห้องร้อนและชวนหงุดหงิดเป็นที่สุดหลิวเจี๋ย ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้นะ เขาปิดโทรศัพท์แล้วก็โดนคนอื่นล้อมไว้ไม่ปล่อย ฉันหาโอกาสชวนเขามาไม่ได้จริงๆ


    เอายาไปไม่ใช่เรอะ? นี่เธอไม่ได้เอาให้เขากินรึไง!?”


    ใส่แล้ว อยู่ในแก้วน้ำ แต่เขาไม่ยอมกินเองต่างหาก!”


    แค่ด่าว่าเธอไร้ประโยชน์ฉันยังรู้เสียเวลาเลย! ยัยโง่เอ๊ย แค่เอาน้ำไปเสริฟเฉยๆก็ยังทำไม่ได้


    จางซินหรานได้ยินก็เดือดดาลและหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวตะโกนเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่ต้องให้ฉันบอกจนปากฉีกรึไงว่าตานั่นโดนคนอื่นจอแจไม่ปล่อย หาโอกาสดีๆไม่ได้! ครั้งหน้ายังไงก็ต้องสำเร็จแน่นอน รอหน่อยไม่เป็นเหรอ


    โดนอีกฝ่ายตะโกนใส่ทำให้เส้นอารมณ์ของนักแสดงสาวขาดผึง หลิวเฟยเฟยวางกระเป๋าที่หิ้วไว้อย่างดีลงบนโต๊ะเสียงดังยังจะมีหน้ามาพูดจายอกย้อนอีกนะ? ปากก็พูดไปว่าหมอนั่นเป็นเหยื่อชั้นเลิศ แล้วไงล่ะ มีใครสนใจคนอย่างเธอบ้าง บอกว่าเขาชอบเธอบ้างล่ะ ยอมทำตามที่พูดทุกอย่างบ้างล่ะ โกหกมาได้หน้าด้านๆ เทพบุตรแบบเหยาเฉิงน่ะเหรอจะชอบคนอย่างเธอ? อย่ามั่นหน้าให้มันมากนักเลย!”


    หลิวเฟยเฟยเป็นคนนิสัยเหมือนเด็กๆ เอาแต่ใจและร้ายกาจ ถึงจะไม่เจ้าเล่ห์นักแต่ก็ละโมบและมักมากไม่มีใครเกิน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมีพ่อเป็นถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่เปรียบเสมือนจักรพรรดิล่ะก็ เส้นทางการเป็นนักแสดงแถวหน้าของเธอรวมถึงฐานะนักแสดงอันดับหนึ่งของหวงตู้คงไม่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบขนาดนี้หรอก ในเนื้อเรื่องเดิม แม้ว่าตัวเอกจะสามารถเล่นงานเหยาเฉิงได้ แต่ก็ไม่สามารถสั่นคลอนหลิวเฟยเฟยเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างดีก็แค่ทำให้ชื่อเสียงมีรอยด่างพร้อยนิดๆหน่อยๆเท่านั้น จนกระทั่งเกาะแข้งเกาะขาสองแฝดได้นั่นแหละ ถึงจะสามารถกำจัดหลิวเฟยเฟยให้สิ้นซากได้สักที


    ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของหลิวเฟยเฟยซ้อนทับกับถ้อยคำที่เคยหยามเกียรติเธอเมื่อตอนที่โดนทรยศในชาติก่อน จางซินหรานอดกลั้นความโกรธขึ้งไว้ไม่อยู่ หญิงสาวตบโต๊ะเสียงดังแล้วกรีดร้องถ้าอย่างนั้นแล้วหล่อนล่ะ? คิดว่าเหยาเฉิงจะชอบคนอย่างหล่อนรึไงกัน? ที่ชอบน่ะก็แค่อำนาจบารมีในมือหล่อนแค่นั้นแหละ! เป็นแค่มือที่สามยังจะมีหน้ามาพูดโน่นพูดนี่อีกเหรอ? จะบอกให้นะ ฉันจะไม่มีวันยอมให้หล่อนได้สมใจเลยแม้แต่อย่างเดียว นักแสดงอันดับหนึ่งของหวงตู้บ้าบออะไรกัน? ถุย! ก็แค่ไอ้สวะกับนังร่านนั่นแหละว้า สักวันฉันจะทำให้พวกแกสองคนเกลือกกลั้วแนบพื้นไม่ต่างจากหมาข้างถนนให้ได้เลยคอยดู!”


    หลิวเฟยเฟยได้ยินที่อีกฝ่ายด่าตะคอกก็ตัวแข็งเป็นหิน แต่พอได้สติ มือเรียวทั้งสองข้างก็จิกไปบนผมของจางซินหรานแทบจะทันทีแก นังแพศยา กล้าด่าฉันเหรอ! ฉันจะฆ่าแก!”


    แกสิแพศยา!”


    หญิงสาวสองคนสบถถ้อยคำสาปแช่งแล้วปลุกปล้ำกันบนพื้น ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าเย่จือโจวยืนมองอยู่ที่มุมห้อง ไม่รู้ว่าเพราะพลังวิญญาณหรืออะไร จู่ๆกำปั้นของจางซินหรานก็หันเหเป็น......สิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง หญิงสาวรวบตัวกอดหลิวเฟยเฟยไว้แล้วจุมพิตอย่างดูดดื่ม ใบหน้าหลิวเฟยเฟยพลันเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ แล้วใช้หลังมือตบต่อยจางซินหรานไปหลายที พอพยายามจะไสตัวลุกขึ้น ร่างกายก็ถูกสวมกอดอีกครั้ง หญิงสาวเปิดปากกรีดร้อง


    ภาพตรงหน้าไม่น่ามองเลยจริงๆ เย่จือโจวรู้สึกคิดผิดที่อัดคลิปไว้ชอบกล ว่าแล้วเขาก็ปิดกล้องมือถือ ค่อยๆเปิดประตูเบาๆแล้วเคลื่อนตัวออกไป ว่าไงนะ? อยากดูต่องั้นเรอะ? ฝันไปเถอะ!


    **


    คลิปถูกตัดต่อให้ดูน่าชมยิ่งขึ้นก่อนจะอัพโหลดสู่โลกออนไลน์ เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลิงค์ก็ถูกส่งไปถึงโอวหยางซี เขาคิดอยู่สักพัก แล้วจึงส่งต่อให้โอวหยางชุน


    ค่าโอกาสเกิดความรักต้องลดลงแน่นอน ส่วนหลิวเฟยเฟย ผู้หญิงเสียสตินั่นก็แค่รอวันถูกแข้งทองคำกำจัดเท่านั้นแหละ ให้คนอื่นมาจัดการเรื่องยุ่งยากให้นี่มันดีจริงๆเลย แค่นี้คืนนี้ก็หลับฝันดีแล้ว ยอดเยี่ยมที่สุด!


    พอถ่ายโฆษณาเสร็จสักพัก โอวหยางซีก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการ ดูเหมือนว่าป้าสองจะส่งลิงค์คลิปอะไรสักอย่างมาให้เขา ชายหนุ่มจึงกดปุ่ม ‘play’ ทันทีโดยที่ไม่ต้องคิด แต่แทนที่จะเป็นเทคนิคการเล่มเกมอย่างที่คาดไว้ กลับเป็นภาพของผู้หญิงสองคนกำลังตบตีกันอยู่เต็มหน้าจอ เสียงร้องกรี้ดกร้าดดังลั่น


    เขาตาลีตาเหลือกกดปุ่มหยุด ก่อนจะกระแอมไอเล็กน้อยแล้วหันไปยิ้มเป็นเชิงขอโทษให้บรรดาทีมงานรอบๆ ชายหนุ่มกล่าวล่ำลาอย่างสุภาพ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วจึงเคลื่อนตัวไปยังรถของผู้จัดการที่จอดรออยู่ เขาจัดการปิดประตู ล็อคให้เรียบร้อย ปรับระดับเสียง แล้วเปิดคลิปดูอีกครั้ง


    ภาพในคลิปค่อนข้างมืดนิดหน่อย แต่ก็พอเห็นเป็นผู้หญิงสองคนกำลังตบตีกันอยู่ลางๆ พอได้ฟังเนื้อหาที่ทั้งสองทะเลากันอยู่เขาก็เบิกตากว้าง จางซินหรานกับหลิวเฟยเฟยงั้นหรือ? ไม่พอยังตบตีกันเพื่อแย่งป้าสองของเขาด้วย? หลิวเฟยเฟยปิ๊งป้าสองจริงสิ? ช่างกล้าหาญชาญชัยดีแท้!


    สองสาวตะลุมบอนกันอย่างดุเดือด ก่อนที่จางซินหรานจะทึ้งเสื้อผ้าตัวเองจนหลุดลุ่ยแล้วโอบรัดหลิวเฟยเฟย ประพมจูบไปที่ซอกคอ ต้นขาก็เกยก่ายข้างเอวของอีกคนไว้....


    โอวหยางซีหน้าแดงก่ำพลางกดปิดคลิป รู้สึกกระดากกระเดื่อนจนต้องขยี้ตา


    เขาไม่คิดเลย...ว่าผู้หญิงที่ป้าสองเคยหลงรักจะร้ายกาจถึงขนาดนี้ ผิดกับตอนแรกที่คิดว่าเป็นเด็กสาวที่พอจะมีหัวคิดอยู่บ้างแท้ๆเชียว


    [ค่าโอกาสเกิดความรักของโอวหยางซีและตัวเอกลดลงเหลือ 70% โฮสต์โปรดรักษาความพยายามไว้]


    ลดเหลือ 70% เลยเหรอ?


    แค่เห็น ความง่วงที่เกาะเย่จือโจวอยู่ก็ปลิวว่อนหายเป็นปลิดทิ้ง หลังจากขบคิดอยู่สักพัก เขาก็ส่งข้อความไปหาโอวหยางซีหลานชาย คลิปนี้ถูกถ่ายตอนที่จางซินหรานแอบลอบวางยาฉัน ระวังตัวไว้ให้ดี ถ้าผู้หญิงคนนี้เกิดปิ๊งเธอแล้วแอบใส่อะไรให้เธอกินบ้างล่ะก็... จะต้องทำบางอย่างตอนที่เธอไม่รู้สึกตัว จากนั้นก็จะตั้งท้องลูกของเธอ แล้วก็ใช้ลูกข่มขู่เธอให้แต่งงาน ถ้าเธอปฏิเสธไม่แต่งด้วย แม่ใจยักษ์ก็จะทำร้ายลูกของเธอ แต่ถ้าเธอยอม ผู้หญิงคนนี้ก็จะทำตัวเป็นปลิงเกาะติดเธอตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะ.... น่ากลัวเนอะ?”


    โอวหยางซีได้อ่านข้อความก็ขนลุกซู่น่ากลัว! ผมไม่ยอมให้ลูกผมมีแม่น่ากลัวแบบนั้นแน่!”


    [ค่าโอกาสเกิดความรักของโอวหยางซีและตัวเอกลดลงเหลือ 50% โฮสต์โปรดรักษาความพยายามไว้]


    โอ้โห แค่เขาพิมพ์อะไรหน่อยเดียวก็ได้ผลขนาดนี้ซะแล้ว เย่จือโจวคิดสักพัก ก่อนจะใส่ไฟเพิ่มส่วนลุงสองของเธอก็เกลียดผู้หญิงคนนี้เข้าไส้


    [ค่าโอกาสเกิดความรักของโอวหยางซีและตัวเอกลดลงเหลือ 40% โฮสต์โปรดรักษาความพยายามไว้]


    ช่างเป็นเด็กดีอะไรขนาดนี้นะ รู้จักเชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่.... เย่จือโจวหรี่ตาแล้วส่งข้อความต่อเอ จำได้ว่าพี่เธอก็ไม่ค่อยชอบผู้หญิงนิสัยหยาบคายด้วยสิ


    [ค่าโอกาสเกิดความรักของโอวหยางซีและตัวเอกลดลงเหลือ 30% โฮสต์โปรดรักษาความพยายามไว้]


    เขาลูบคางตัวเอง แล้วเพิ่มประโยคสุดท้ายส่วนฉันก็ไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้เหมือนกัน


    เขารออยู่พักนึง ก่อนที่โอวหยางซีจะตอบกลับมารู้แล้วล่ะ...ก็ป้าสองชอบลุงสองของผมม๊ากมากเลยนี่นา ^_^”


    “....ที่จริง จางซินหรานแอบชอบเธอแหละโอวหยางซีถึงกับทำโทรศัพท์หลุดมือแล้วสั่นสะท้านด้วยความกลัวเมื่อเห็นข้อความน่าสะพรึง


    **


    ช่วงบ่ายของวันถัดมา เย่จือโจวไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากโอวหยางชุนเลยแม้แต่อย่างเดียว ชายหนุ่มทำได้เพียงรู้สึกผิดหวัง รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าโอวหยางชุนเป็นคนรักของเขาจริงๆหรือไม่  เขาพยายามกดความรู้สึกอึมครึมลงไป มากขึ้นและมากขึ้น ก่อนจะรู้สึกผิดหวังยิ่งกว่าเดิม


    เพียงหนึ่งคืน คลิปวีดีโอก็ได้ถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง แน่นอนว่าเพื่อนๆหลายคนที่มาถึงสตูดิโอถ่ายทำย่อมเห็นคลิปนั้น และเห็นเย่จือโจวกำลังนั่งหดหู่อยู่มุมสตูเป็นลำดับถัดมา พวกเขาจึงรีบแห่แหนเข้ามาให้กำลังใจคนกำลังดราม่า


    โดยเฉพาะหลี่ฮ่าวที่โอเวอร์ยิ่งกว่าใคร ชายหนุ่มยื่นกระดาษโน๊ตเล็กๆมาให้เขาด้วยสายตาพยายามตัดใจ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเสี่ยวเฉิง อย่าเสียใจไปเลย ไม่มีใครคิดหรอกว่าจางซินหรานจะร้ายกาจถึงขั้นคิดจะขายนายแบบนี้... นี่เป็นไอดีเกมหลักของฉันที่สะสมของมาห้าปีเต็ม เอ้า ฉันยกให้นายหมดเลย! เพราะงั้นเลิกเศร้าซะนะ!”


    เย่จือโจวปรายตามองคนตรงหน้าแล้วแค่นเสียงหัวเราะตัวฉันเล่นสามเดือนยังเทพกว่านายซะอีก


    หลี่ฮ่าวที่ถูกปัดความภาคภูมิใจทิ้งอย่างไม่ใยดีโดนดาเมจเต็มๆจนทรุดไปกองกับพื้นว่าก็ว่าเถอะ ฉันเองก็มองผู้หญิงคนนั้นไม่ออกเหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงตัวเล็กๆแบบจางซินหรานจิตใจจะเหมือนอสรพิษขนาดนี้ จริงๆแล้วฉันเคยตกหลุมรักหล่อนด้วยนะเออ


    ว่าแล้วชายผู้จิตใจใสซื่อก็ส่ายหัวอย่างแรงคนเรารู้จักคนอื่นมาตั้งนมนานแต่ไม่เคยรู้นิสัยใจคอที่แท้จริง เฮ้อ ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าแฟนๆรู้ข่าวจะเกิดอะไรขึ้น...มีหวังในเน็ตได้เกิดการจราจลขึ้นแหง


    จริงดังว่า โลกออนไลน์ขณะนี้ราวกับเกิดการจราจลขนาดย่อมๆขึ้น แฟนๆของจางซินหรานเหมือนถูกสายฟ้าฟาดกลางวันแสกๆจนไปไม่เป็น ส่วนแฟนๆของหลิวเฟยเฟยที่ชื่อเสียงไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วก็หัวรุนแรงไม่แพ้กัน พอเห็นไอดอลของตนถูกจางซินหรานทำร้าย ก็พ่นถ้อยคำสาปแช่งใส่อีกฝ่ายและแฟนๆของทางนั้นโดยไม่สนว่าเรื่องจริงใครจะผิดจะถูก


    จากนั้นแฟนๆที่กำลังเดือดได้ที่ของเหยาเฉิงก็เข้ามาผสมโรงด้วย กองทัพแฟนๆที่รู้สึกสะอิดสะเอียนผู้หญิงสองคนที่กล้าคิดจะฮุบไอดอลของพวกเธอพร้อมลุยเต็มสูบ เดี๋ยวก็ฆ่าให้ตายซะเลยนี่ ย๊ากก!


    เมื่อแฟนคลับของเหยาเฉิงปรากฎตัว แฟนๆที่ผ่านทางมาก็หันมาเข้าร่วมด้วย จากนั้นก็ตามด้วยแฟนๆของโอวหยางซี


    ขณะที่โลกอินเทอร์เน็ตดำมืดและถมึงทึงเข้าไปทุกทีๆ ในโลกแห่งความจริงตัวหลักทั้งสองคนในคลิปกลับอิรุงตุงนังกันอยู่เหมือนเดิม


    หลิวเฟยเฟยและจางซินหรานที่นึกถึงมือและเท้าของพวกตนที่กอดก่ายกันวุ่นวาย รวมถึงเสื้อผ้าจวนจะหลุดมิหลุดแหล่ก็รู้สึกคลื่นไส้แทบอาเจียน พอดวงตาคู่งามสองคู่สบกัน ไฟโทสะก็คุกกรุ่นพร้อมจะลงมวยกันได้ทุกเมื่อ แต่ทันใดนั้น โทรศัพท์จากบริษัทของพวกเธอก็ดังขึ้น ไม่พูดพร่ำทำเพลง เสียงสวดจากปลายสายก็เอ็ดตะโรสองสาวไม่หยุด ทั้งคู่งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงถูกด่าว่าด้วย ก่อนจะรู้สึกผิดสังเกต แล้วรีบหยิบมือถือโทรไปหาผู้จัดการแทบจะทันที


    เมื่อได้ฟังข้อสรุปสั้นๆ หัวสมองของหญิงสาวก็ขาวโพลน


    ที่ทะเลาะกันเมื่อคืนก่อนถูกอัดไว้ด้วย? ใครกัน? จำได้ว่าล็อคประตูไว้แล้วนี่นา!


    ไม่มีเวลาให้ทั้งคู่คิดหาตัวการ เหล่านักข่าวที่ตามกลิ่นเรื่องเด็ดมาก็เริ่มมาวนเวียนแถวโรงแรม รวมทั้งปาปารัสซี่ที่ปลอมเป็นพนักงานโรงแรมเพื่อแอบเข้าห้องของพวกเธออีกด้วย เมื่อเห็นทั้งหมดนี่ สองคนที่เคยตบตีกันแทบตายก็หันมาผนึกกำลังกันชั่วคราว โชคยังดีที่บริษัทส่งคนมาไกล่เกลี่ยสถานการณ์ ถึงจะใช้ความพยายามมากโขแต่ก็สามารถพาทั้งคู่ออกมาจากโรงแรมแล้วนั่งรถของเมือง B กลับมาได้


    ขณะที่สองสาวกำลังหนีหัวซุกหัวซุนขึ้นรถอยู่นั้น ทางด้านเย่จือโจวก็กำลังดับเครื่องรถยนต์ ชายหนุ่มนั่งเซ็งอยู่บนห้องสวีทแสนสบายบนชั้น 35 ของมู่เทียน คฤหาสน์เล็กๆของเขาตอนนี้ถูกนักข่าวล่อมหน้าล้อมหลัง เขาไม่กล้ากลับไปหรอก


    เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ยังไม่มีการติดต่อจากโอวหยางชุนเหมือนเดิม ความโกรธในใจเขายิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ ถึงจะพยายามกดมันไว้เท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ผล เขาจึงส่งข้อความหาโอวหยางซีลุงสองของเธอติดต่อเธอมาบ้างมั๊ย


    โอวหยางซีตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่คำตอบที่ได้กลับไม่น่าพอใจนัก


    ไม่กี่นาทีต่อมา โทรศัพท์ก็สั่นอีกครั้ง เขารีบหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน แต่คนที่ส่งมาก็ยังเป็นโอวหยางซีคนเดิมป้าสอง คิดถึงลุงสองเหรอครับ? ไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงซุบซิบบนโลกออนไลน์หรอก ยังไงลุงสองก็ต้องหาทางทำอะไรสักอย่างแน่นอน


    โถพ่อคุณ จะทึ่ม+ใสซื่อไปถึงไหน!


    ชายหนุ่มปามือถือทิ้งด้วยความโมโห ก่อนจะได้สติแล้วตอบกลับข้อความอย่างรู้สึกผิดส่งคลิปไปให้พี่ชายนายดูด้วย แล้วก็อย่าลืมกำชับว่านายเกลียดผู้หญิงในคลิปคนนี้สุดๆ” 


    โอวหยางซีไม่แย้งอะไรแล้วส่งคลิปไปให้โอวหยางตี้อย่างว่าง่าย


    5 นาทีต่อมา ระบบก็เด้งข้อความ [ค่าโอกาสเกิดความรักของโอวหยางตี้และตัวเอกลดลงเหลือ 20% โฮสต์โปรดรักษาความพยายามไว้]


    ดิ่งจาก 85% เหลือ 20% เลย!? ฝาแฝดคู่นี้จะมีอิทธิพลต่อกันไปถึงไหนเนี่ย!


    ชายหนุ่มวางมือถือลงข้างตัวอีกครั้ง สายตาเหม่อมองไปบนเพดาน ปล่อยให้หัวใจปวดบวม ดูเหมือนโอวหยางชุนจะไม่ได้ส่งคลิปไปให้โอวหยางตี้... ถ้างั้นเขาหายหัวไปอยู่ไหนล่ะ! ขึ้นว่าอ่านคลิปแล้วแท้ๆ... 


    แต่แล้วจู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เย่จือโจวพ่นลมออกจากจมูกแล้วกลิ้งไปมาผมไม่ดื่มนม ต่อให้หิวตายก็ไม่ดื่มเด็ดขาด อะไรที่โอวหยางชุนใช้คุณให้เอามาให้ ผมไม่ต้องการทั้งนั้นทุกวันๆฉิงเซียวถูกสั่งให้จัดหาอาหารมาให้เขา จัดการให้เขาเข้านอน และห้ามไม่ให้เขาเล่นเกมตอนกลางคืน จนสุดท้ายแล้วฉิงเซียวจึงต้องทำหน้าที่ดูแลเขาอย่างเสียไม่ได้ ซ้ำร้ายยังทำให้เวลาเล่นเกมอันมีค่าของเขาหายไปอีก ตัวมารชัดๆ!


    เหยาเฉิง อยากถูกตีก้นนักใช่มั๊ย?”


    เสียงทุ้มแสนคุ้นหูที่ดังขึ้นเบื้องหลังบานประตูทำให้เขาชะงัก ผุดลึกขึ้นแล้วตรงดิ่งไปที่ประตู   กระพริบตาปริบๆพลางยกมือขึ้นขยี้ตา ก่อนจะเหวใส่อย่างเดือดดาลรู้จักกลับบ้านสักทีนะ!”


    เมื่อเห็นร่างเล็กๆ อารมณ์โกรธขึ้งของโอวหยางชุนก็ปลิวหายไปอย่างรวดเร็ว เขาวางกระเป๋าลงแล้วเคลื่อนตัวไปนั่งลงข้างเตียง ก่อนจะดึงมือคนอ่อนวัยกว่ามากุมไว้ “ฉันไม่อยู่แค่แป๊บเดียวเธอกลับก่อเรื่องไว้ซะยกใหญ่ บอกให้ทำตัวดีๆไม่ใช่เหรอหืม?”


    เขาปัดมือทิ้ง จากนั้นจึงใช้มือทั้งสองประคองใบหน้าโอวหยางชุน เย่จือโจวขบฟันดังกึกกลับมาได้เวลาพอดี ผมอยากตรวจสอบบางเรื่องให้แน่ใจน่ะ


    โอวหยางชุนเอื้อมแขนไปโอบเอวชายหนุ่มด้วยสีหน้าว่างเปล่าทว่ามีประกายขบขันในดวงตานิดๆอยากตรวจสอบอะไร? ของขวัญ?”


    น่าตื่นเต้นกว่าของขวัญอีกครับ” ร่างโปร่งเหยียดยิ้ม ก่อนจะปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา ดัดให้หมุนควงสว่างแล้วสอดแทรกผ่านเยื่อแก้วหูของอีกคน เย่จือโจวค่อยๆขุดลึกเข้าไปในสมองช้าๆ ระวังไม่ให้เกิดอันตราย


    แต่ถึงเขาจะสืบค้นสมองของอีกฝ่ายเท่าไหร่ กลับไม่เจออะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว


    ชายหนุ่มเรียกพลังวิญญาณกลับคืนสู่ร่างอย่างเหม่อลอย เป็นไปได้ยังไงกัน? ถ้าคนๆนี้คือหยุนเคอจริง ยังไงก็ต้องมีพลังวิญญาณแน่ๆ เพราะพลังวิญญาณเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งที่ใกล้เคียงกับจิตวิญญาณ หากจิตวิญญาณยังเป็นจิตเดิม พลังวิญญาณก็จะไม่มีวันสูญสลาย  อีกอย่างก่อนหน้านี้พลังนั้นยังก่อกวนพลังวิญญาณเขาให้กระสับกระส่ายได้อยู่เลย... แต่ทำไมตอนนี้ถึงไม่มีอะไรเลยล่ะ?


    หรือว่าคนๆนี้...จะไม่ใช่หยุนเคอ?


    ความคิดนั้นทำให้ความยินดีเล็กๆในใจเขาดับวูบ เหลือไว้เพียงแค่หลุมดำไร้ก้นบึ้งแห่งความสิ้นหวังเท่านั้น ทั้งที่การเคลื่อนไหวและจังหวะลมหายใจเหมือนกันขนาดนี้แท้ๆ...แล้วทำไมถึงยังไม่ใช่อีกล่ะ? ชายหนุ่มรวบรวมความกล้าอีกครั้ง เขาต้องเชื่อสิ จะไม่ใช่ได้อย่างไร คนๆนี้จะไม่ใช่ได้อย่างไร!


    เสี่ยวเฉิง?”


    ถึงน้ำเสียงจะแตกต่าง ทว่าบรรยากาศรอบๆไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียวโอวหยางชุนจือโจวกุมใบหน้าของคนข้างตัวไว้ แล้วประคองเข้ามาใกล้ ก่อนจะหลับตาลงอย่าปิดบังผม ขอให้ผมได้เห็นอีกสักครั้ง ขอให้ผมได้มองใกล้ๆอีกนิดนึง


    โอวหยางชุนกดความรู้สึกที่อยากดึงคนอ่อนเยาว์ตรงหน้ามาจูบไว้แล้วชะงักมือ เขาหักห้ามใจก่อนจะโอบกอดแผ่นหลังเล็กๆนั่น คนรักของเขาช่างเอาแต่ใจราวกับเด็กๆเหลือเกิน


    เย่จือโจวสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ตั้งสติ แล้วปลดปล่อยพลังวิญญาณแบบไม่มีกั๊ก ปล่อยให้มันไหลเวียนไปทุกส่วน หลังจากเขาตัดสัญชาตญาณแห่งความสุขและความใกล้ชิดออกไปแล้ว ก็เริ่มตั้งใจหาเศษเสี้ยวพลังวิญญาณที่ยังหลงเหลืออยู่ทันที ชายหนุ่มค่อยๆดัดคลื่นพลังโดยระมัดระวังยิ่งขึ้น ก่อนจะสั่งให้มันแทรกผ่านสมองของโอวหยางชุน


    โอวหยางชุนคิดว่าเป็นเพราะเขาห่างหายไปนานเกินไป คนรักก็เลยอยากเอาแต่ใจบ้างอะไรบ้าง จึงยอมนั่งนิ่งๆโดยดี ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกปวดหนึบแสนคุ้นเคยก็ค่อยไล่ขึ้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจ ร่างสูงขมวดคิ้ว คราวนี้ปวดหัวด้วยเรื่องอะไรอีกล่ะ? เขาเงยหน้าขึ้นเห็นเห็นคนรักของตนกำลังหลับตาตั้งสมาธิทำอะไรสักอย่าง พอเห็นร่างบางน่าทะนุถนอมนั่น เขาก็เริ่มลังเล จากนั้นจึงตัดสินใจนั่งนิ่งๆตามเดิม ทิ้งเรื่องผละไปหายามากินไว้ก่อนแล้วกัน


    ทีละคืบสองคืบ ผ่านชั้นสมองชั้นแล้วชั้นเล่า เขาก็ยังหาไม่เจอแม้แต่วี่แววของพลังวิญญาณที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเลย ทว่าทันทีที่เย่จือโจวกำลังจะถอดใจนั้นเอง คลื่นพลังพลิ้วไหวสายหนึ่งที่คล้ายคลึงกับจุดกำเนิดพลังวิญญาณก็โผล่ขึ้นมาจากอีกทางฟากหนึ่งของสมอง ชายหนุ่มใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นจนแทบจะควบคุมพลังไว้ไม่อยู่ เขาค่อยๆกดพลังลงไปเบาๆ คลื่นพลังอันแสงเจือจางนั้นก็ราวกับจับชีพจรอันแสนคุ้นเคยได้ แล้วค่อยๆปรากฎให้เห็นเด่นชัดขึ้น


    เจอแล้ว! พลังวิญญาณประเภทจู่โจมเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน! ถึงจะยังเป็นพลังสายบางๆที่รอการเติบโตและพร้อมจะหายไปได้ทุกเมื่อ แต่ก็ยังมีอยู่! พลังวิญญาณที่หล่อหลอมเข้ากับเขามาเป็นสิบๆปียังอยู่ตรงนี้!


    ไม่ทันไรขอบตาของเขาก็เริ่มร้อนผ่าว มือที่เคยประคองใบหน้าโอวหยางชุนค่อยๆเลื่อนลงไปโอบคอของอีกฝ่าย หน้าผากของเย่จือโจวสัมผัสกับไหล่กว้าง ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบลงมา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือโดยไม่รู้ตัวคนบ้า...”  แขนทั้งสองข้างกระชับแน่นขึ้น แล้วโถมน้ำหนักร่างกายไปยังคนตรงหน้าทำไมถึงได้อ่อนแอแบบนี้...” ชาติที่แล้วเขาต้องลงทุนลงแรงฝึกฝนพลังนั่นไปตั้งขนาดไหน ทำไมถึงยังวูบไหวรวนเรขนาดนี้ได้อีก ไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์จริงๆเลย


    โอวหยางชุนกัดฟันทนอาการปวดศีรษะด้วยใบหน้าซีดขาว พอเห็นคนอ่อนวัยกว่าปล่อยมือ เขาก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ตอนที่เห็นเด็กนั่นกอดเขาแล้วร้องไห้ เขาก็รับรู้ได้เลยว่าตัวเองแพ้ทางคนหนุ่มตรงหน้าเข้าเสียแล้ว เลยต้องพูดปลอบด้วยน้ำเสียงแข็งกว่าเดิมอย่าร้อง


    ก็ยังน่ากลัวอยู่ดีเขายังคงจำภาพตอนที่คนรักสิ้นลมในอ้อมแขนได้ทุกวินาที เขาขึ้นเสียงและน้ำตาไหลพรากโดยที่มิอาจควบคุมได้ ไม่สนภาพลักษณ์ของตนเองอีกต่อไปชาตินี้คุณแก่กว่าผมตั้งเยอะ ยังไงก็ต้องตายก่อนผมใช่ไหมล่ะ คุณมันคนใจร้าย ผมเกลียดคุณที่สุด...”


    โอวหยางชุนรับฟังประโยคแรกด้วยสีหน้าดำคล้ำ ทว่าเมื่อได้ยินประโยคต่อๆมาใจเขาก็อ่อนยวบ ร่างสูงเก้ๆกังๆปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มอ่อนเยาว์ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่ากลัวไปเลย...ฉันอายุมากกว่าเธอแค่ 12 ปีเองตั้งแต่เกิดมาไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะมีวันเป็นกังวลเรื่องอายุของตัวเองด้วย จนกระทั่งได้มาสนใจคนๆนี้ แม้แต่เรื่องเล็กๆแค่ไม่กี่อย่างก็ล้วนมีค่า...ราวกับเป็นโชคชะตา


    เขาโอบคนหนุ่มไว้ในอ้อมแขน ประทับจุมพิตลงบนเรือนผมเงางาม แล้วเอื้อนเอ่ยคำสัญญาเสี่ยวเฉิง ฉันจะพยายามมีชีวิตอยู่ให้นานกว่าเธอ เพราะฉะนั้นอย่าร้องเลยนะ


    คนขี้โกหก!” ตอนที่ร้องไห้งอแงและดื่มด่ำกับใบหน้าหล่อเหลาของคนรักไปพลาง เย่จือโจวก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาเอื้อมมือไปดึงกางเกงของผู้อาวุโสกว่าลงไม่สิ ต้องตรวจสอบดูให้แน่ใจก่อนจำได้ว่าคนรักของเขามีปานที่ก้น ดังนั้นถึงเกิดใหม่ปานนั่นก็อาจติดตัวมาด้วยก็ได้


    โอวหยางชุนเกร็งตัวทันที มือทั้งสองพยายามคว้ามือของอีกคนที่สะเปะสะปะตามกางเกงเขาไม่หยุด เขาเริ่มรู้สึกว่าลมหายใจสะดุดและเริ่มถี่รัวเสี่ยวเฉิง ตอนนี้เธอยังไม่สบายอยู่ เพราะงั้นไม่ได้” 


    ทำไมล่ะครับ?” ก็แค่อยากเช็คปานให้เห็นกับตา ถึงกับต้องให้รอเลยเหรอ? ชายหนุ่มปาดน้ำตาทิ้ง อารมณ์คุกกรุ่นเริ่มปะทุขึ้นอีกครั้งคุณไม่รักผมแล้วเหรอครับ! คุณ เพราะว่าคุณแก่กว่าผมก็เลยให้คนอื่นดูไปแล้วใช่มั๊ย!”


    พอนึกว่าร่างกายของคนรักเคยถูกสายตาของคนอื่นจับจ้องจนพรุนแล้ว เย่จือโจวถึงกับโกรธจนน้ำตาไหลอาบลงบนกางเกงขายาวผมไม่สนหรอก! ผมจะต้องเห็นเดี๋ยวนี้!”


    โอวหยางชุนกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก กำมือแน่น คนที่เขารักกำลังขึ้นคร่อมพลางกอดเขาแน่น ซ้ำยังยืนยันจะถอดกางเกงเขาให้ได้อีก....ถ้ายังทนได้ เขาก็ไม่ใช่ผู้ชายแล้ว!


    ไม่เคยมีใครเห็นร่างสูงพลิกตัวกลับแล้วกดชายหนุ่มลงบนเตียง ก่อนจะประพรมจูบจนน้ำตาและลมหายใจค่อยๆติดขัดนอกจากเธอคนเดียว


    เดี๋ยว....อื้อ....กางเกง...อ๊ะ! ผมแค่อยากถอดกางเกงเฉยๆ ไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย!”


    เช้าวันถัดมา เย่จือโจวตื่นขึ้นมาอย่างงงๆ พอเห็นข้างกายมีคนนอนอยู่ เขาก็ตกใจเล็กน้อยพลางผุดตัวลุกขึ้น ทว่าตอนที่เขากำลังจะขยับนั่นเอง ความรู้สึกเจ็บแปลบที่เอวก็แล่นขึ้นมา ส่งผลให้ร่างบางร่วงกลับไปบนเตียงอีกครั้ง


    เป็นอะไรไป?” โอวหยางชุนได้ยินเสียงดังก็ลืมตาขึ้นมาบ้าง ก่อนจะงัวเงียคว้าคนตรงหน้ามากกกอดในอ้อมแขน ลูบแผ่นหลังเบาๆแล้วจุมพิตบนหน้าผาก เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแบบคนไม่ตื่นดีฝันร้ายหรือ?”


    ร่างของเย่จือโจวถูกโอบกอดอย่างอ่อนโยน ทั้งอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักใคร่ พอเขานึกถึงเรื่องเมื่อคืน ใบหน้าก็พลันแดงก่ำ เขายิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเอื้อมมือไปกอดกลับบ้าง ฝังใบหน้าเข้ากับอ้อมแขนแข็งแรงของอีกฝ่าย


    เป็นเขาจริงๆด้วย เป็นหยุนเคอจริงๆ แม้แต่ปานที่ก้นก็ยังมี.... เขาเจอคนรักของเขาแล้ว!


    แสงอาทิตย์อ่อนๆยามเช้าที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา และเขาที่กำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของคนรักทั้งรอยยิ้ม ไม่มีอะไรจะเป็นสุขไปมากกว่านี้อีกแล้ว



    ____________________________________


    รายชื่อนักแสดงของเรื่อง ฟางฮัวจิ้นสือถูกเปลี่ยนอีกแล้ว!


    เพราะข่าวใหญ่สะท้านทั้งวงการของหลิวเฟยเฟยและจางซินหราน ทำให้บัญชีออฟฟิเชียลในเวยป๋อของละครถูกถล่มเละทั้งจากแฟนๆนิยายต้นแบบ และจากแฟนๆของเหล่านักแสดง และเมื่อถูกบรรดาผู้ลงทุนกดดันมากๆเข้า จึงต้องถอนชื่อหลิวเฟยเฟยและจางซินหรานออกโดยทันที


    คนที่มาแทนที่อีกคนดันถูกถอนชื่อออก แล้วพวกเขาจะไปหาคนมาแทนจากไหนได้อีกเล่า? กำหนดการถ่ายทำก็ยิ่งใกล้เข้ามาทุกทีๆ พวกเขาจะเสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว!


    เย่จือโจวได้ยินข่าวก็นึกถึงซุนฮ่านหย่าที่โดนหางเลขจากเรื่องของแฟนโดยที่ตัวเองไม่รู้อะไรด้วยขึ้นมาทันที จึงแอบช่วยลบล้างความผิดอย่างลับๆ แน่นอนว่าผลที่ได้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ไม่กี่วันหลังจากนั้น ซุนฮ่านหย่าก็ได้รับการตัดสินว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการที่แฟนแอบเสพยาเสพติดในที่พักของเธอ และได้รับการปล่อยตัว เขายังใช้โอกาสนี้แบ่งพลังวิญญาณเป็นส่วนเล็กๆ แล้วใช้มันยุยงความไม่พอใจของแฟนนิยายต้นแบบให้พุ่งสูงปรี้ด ไม่นานนัก กองทัพแฟนๆที่ใช้ชื่อว่า ทวงคืนบทนางเอกให้ซุนฮ่านหย่า ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น


    ทางผู้จัดทำจึงไม่รีรอที่จะนำซุนฮ่านหย่ากลับมา รวมถึงนักแสดงสาวที่ได้รับบทนางเอกคนที่สามก็ได้รับการฟอกขาว บริสุทธิ์ทุกข้อกล่าวหา และได้กลับมาเล่นละครเช่นเดียวกัน


    เมื่อนักแสดงลงล็อคเรียบร้อยแล้ว ทางผู้จัดที่กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกก็รีบเปิดกล้องถ่ายทำก่อนเวลาที่กำหนด และมุ่งหน้าถ่ายทำเพียงอย่างเดียวเพื่อที่จะไม่ต้องสะดุดปัญหาใดๆอีก


    หลังจากบัญชีดำคลี่คลาย ความโกรธแค้นก็เริ่มเย็นลงเช่นกัน เป็นเหตุให้จุดสนใจกลับไปสู่จางซินหรานและหลิวเฟยเฟยอีกครั้ง ทว่ากลับต้องผิดหวัง เมื่อสองสาวลี้ภัยไปต่างประเทศเพื่อรอให้เรื่องซากันทั้งคู่ คันปากอยากเมาท์แทบตายแต่ทำไมได้นี่มันช่างเซ็งซะเหลือเกิน


    เย่จือโจวเองก็รู้สึกเซ็งไม่แพ้กัน เขาตื่นเช้าบนเตียงพร้อมกับความรู้สึกสองอย่าง หนึ่งคือความเจ็บปวด สองคือความสุข ซึ่งความเจ็บปวดอย่างแรกนั้นก็เป็นเพราะโอวอยางชุนคนเฒ่าที่เพิ่งจะสละความบริสุทธิ์ทิ้ง ไม่ได้รู้จักการบันยะบันยังห่วงสังขารเลยสักนิด! ส่วนความสุขก็มาจากการที่ได้รู้ว่าคนรักของเขายังมีชีวิตอยู่ ช่วงเวลานี้จึงช่างงดงาม ถ้าไม่คว้าโอกาสดีๆขนาดนี้ไว้มันก็น่าเสียดายจริงไหม ซึ่งคนอย่างเย่จือโจวไม่มีทางปล่อยให้มันเสียของแน่นอน


    ไม่นานนัก แฟนๆของเหยาเฉิงก็รู้สึกตัวสักทีว่าไอดอลที่เชื่อใจไม่ได้ของพวกเธอ นอกจากไปถ่าย MV กับไปออกรายการเรียลลิตี้โชว์แล้วนั้น...ก็หายหัวไปอีกซะแล้ว! ส่วนท่านจักรพรรดิแห่งวงการอย่างโอวหยางซีก็ดูจะยุ่งมากกับการเป็นสุนัขผู้ซื่อสัตว์ ทุกๆวันไอดอลเฉิงของพวกเธอจะอัพเวยป๋อที่ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างโพสต์ล่าสุดนี่ก็เป็นการอัดวีดีโอที่ผ่านด่านเกมของเซอเคิลของหลี่ฮ่าวได้


    เกม เกม เกม แล้วก็เกม! คุณไอดอลเจ้าขา ข้าวปลาไม่กินหรือไงกันคะ! ลุกขึ้นแล้วไปทำกับข้าวเลยไป๊! ตารางงานโหลงเหลงอย่างกับป่าช้าขนาดนี้ จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อของกินมิทราบค้า! ยัยผู้หญิงสารเลวที่คิดจะฮุบคุณก็หนีไปต่างประเทศแล้ว ไม่คิดจะโต้กลับบ้างเลยรึไง!


    ความรู้สึกที่เหล่าแฟนๆมีต่อไอดอลที่ไม่ได้ความคนนี้ไม่ต่างจากความรู้สึกที่แม่มีต่อลูก พวกเธอเป็นห่วงว่าเขาจะกินข้าวครบมั๊ย นอนพอรึเปล่า เป็นห่วงแม้กระทั่งว่าเขาจะไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองตกเป็นเป้าการกลั่นแกล้งอยู่


    ไอดอลคะ รู้ตื่นรู้เบิกบานสักทีเถอะค่า! ดูไอดอลคนอื่นบ้างสิค้า! หัดเรียนรู้จากคนพวกนั้นบ้างสิ!!


    แต่ก็นั่นแหละ ไอดอลสุดที่รักของพวกเธอก็ยังทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นเคย จนกระทั่งแฟนคลับเดนตายของเหยาเฉิงโผล่ออกมาผสมโรงหัวข้อนี้อีกคน


    ไม่รู้หรือไงจ๊ะ? จริงๆแล้วเฉิงเฉิงของพวกเรารวยมากเลยล่ะ...วันก่อนที่พวกนักข่าวไปบุกบ้าน ดูเหมือนบ้านเขาจะเป็นคฤหาสน์เล็กๆใจกลางเมือง แต่ลองคิดดูนะ คฤหาสน์เล็กๆในเมือง B แถมยังใจกลางเมือง ราคามันก็คง...


    เท่านั้นแหละตาสว่างเลย!


    ใช่แล้วๆ หลังจากไอดอลของพวกเธอเดบิวต์ก็เอาแต่เล่นเกมทั้งวันทั้งคืน แล้วมันจะพอประทังชีวิตได้ยังไง? แถมยังส่งเงินให้ลุงป้าเป็นล้านๆอีก ค่าตัวนักแสดงธรรมดาคงไม่เยอะขนาดนั้นหรอกมั้ง?


    ด้วยความสงสัยครุ่นคิดว่าเหยาเฉิงมีชีวิตรอดไปวันๆได้ยังไงก็เริ่มกังวลไปไกล! ก่อนจะตะลึงพึงเพิดกันไปตามๆกันเมื่อสังเกตได้ว่าชุดที่ไอดอลเฉิงใส่แต่ละชุดราคาไม่ใช่น้อยๆ นาฬิกาก็ระดับ Limited Edition ชุดที่ใส่ก็ของแบรนด์ยอดนิยม ไหนจะเคสมือถือสั่งทำพิเศษอีก และที่สุดของที่สุดก็ตอนที่มีแฟนคลับคนนึงเผลอไปชนไอดอลของพวกเธอบนรถบัส แล้วอะไรรู้มั๊ย บัตรประจำตัวประชาชนของเขาเลี่ยมเพชรด้วยล่ะเออ...


    บ้าจริง ไปเอาเงินมาจากไหนตั้งเยอะแยะน่ะฮะ!


    ไหนๆก็ขุดมาตั้งขนาดนี้แล้ว ขุดไปให้ลึกอีกกกก


    [ไร้แม้ผ้ากันเปื้อนหรือมิตรแท้] : จะบอกเรื่องเด็ดๆให้นะ ตอนนั้นฉันเห็นไอดอลเฉิงที่ตลาดหลักทรัพย์ในเมือง S กำลังซื้อหุ้นอยู่เลย ประเด็นคือ เขาซื้อหุ้นไหนหุ้นนั้นต้องพุ่ง ขายหุ้นไหนทิ้งหุ้นนั้นดิ่งลงเหว นี่มันระดับเทพเจ้าชัดๆ! ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ว่าเขาเป็นนักแสดงก็เลยซื้อตามไปสองสามครั้ง ได้เงินมาเป็นล้านล่ะคุณ ฉันว่าเงินล้านที่ส่งให้ป้าต้องมาจากการเล่นหุ้นแน่นอน แต่ก็แล้วแต่จะคิดกันนะ


    บรรดาแฟนคลับต่างตกตะลึง จากนั้นก็ยิ้มแก้มปริ ต่อด้วยภาคภูมิใจ แล้วก็หายโมโหในที่สุด


    ทอดหุ้นกินไปเลยไป! คุณไอดอลเอ๊ย เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงไม่ใช่รึไงกันคะ! หน้าที่ของคุณคือร้องเพลงแล้วกวาดเงินแฟนๆให้หมดตัวไปเลยซี่! แล้วนี่อะไร เอาแต่เที่ยวเล่นในตลาดหลักทรัพย์กับเล่นเกมอยู่นั่นแหละ! ไม่ได้เรื่องเล้ย! ถ้าไม่เอาใจแฟนๆเดี๋ยวก็สาปให้ฟ้าผ่าใส่ซะเลยนี่!


    ทว่าเย่จือโจวนั้นไม่ถูกฟ้าผ่า กลับกัน จางซินหรานที่เพิ่ง log in เข้าเวยป๋อต่างหาก ที่รู้สึกว่าโดนฟ้าผ่าเข้ากลางวันแสกๆของจริง


    คฤหาสน์ใจกลางเมือง นาฬิกาลิมิเต็ด กอบโกยกำไรเป็นล้านๆ... นี่ใช่เจ้าขยะเหยาเฉิงที่เธอรู้จักจริงๆหรือ?


    พอคิดให้ดีๆ เหยาเฉิงไม่คิดจะติดต่อกับเธอตั้งแต่ละครจบ นิสัยใจคอเองก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ตอนเข้ามู่เทียนก็มีคดีดำต่อกันเป็นพรวนแต่ก็โดนลบล้างเสียขาวสะอาด ไหนจะได้แสดงใน MV ของโอวหยางซี แล้วโด่งดังสุดๆอีกเล่า! ในชาติก่อนเขาต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนตั้งเท่าไหร่...แต่ตอนนี้แทบไม่เห็นต้องดิ้นรนอะไรเลย?


    การไต่เต้าขึ้นถึงระดับนี้ ไม่ใช่สิ่งที่มือสมัครเล่นจะสามารถทำได้...


    ราวกับเป็นคนละคน!


    แต่เดี๋ยวก่อนนะ เป็นคนละคนงั้นเหรอ? หรือว่า...เหยาเฉิงเองก็กลับมาเกิดใหม่พร้อมกับเธอด้วย!?

    หญิงสาวสั่นสะท้านกับความคิดนั้น พร้อมๆกับเหงื่อเย็นๆที่เริ่มไหลลงกลางหลัง


    ....To Be Continue

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×