คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ผู้ถูกเลือก(5)จบบท
ความตื่นเต้นกับภารกิจสุดพิเศษที่ได้รับทำให้เมิร์ฟหนุ่มวุ่นวายกับการเตรียมตัวทั้งวัน
จนลืมที่จะไปหากร็อดที่บ้านตามที่บอกไว้ ว็อกเกอร์หยิบของหลายอย่างออกมาจากตู้เก็บของ
แล้วก็ยัดลงไปในย่ามหลังใบใหญ่ ก่อนจะหยิบเอาบางชิ้นออกมาและหยิบใส่เข้าไปอีก อย่างตัดสินใจไม่ถูก
"ก๊อกๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆ " เสียเคาะประตูบ้านดังรัวขึ้นจนกลายเป็นการทุบ
พร้อมกับมีเสียงกร็อดร้องเรียกชื่อเขาอยู่ที่หน้าบ้าน
ว็อกเกอร์รีบไปเปิดประตูบ้านก่อนที่เพื่อนของเขาจะทุบจนบานประตูหลุดออกมา
" เฮ้ เจ้ามัวทำอะไรอยู่น่ะ ไหนบอกว่าจะไปหาข้าที่บ้านไง" กร็อดว่าเมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูให้
"ข้าขอโทษน่ะ พอดีว่าข้ากำลังยุ่งอยู่"ว็อกเกอร์ตอบ
"ยุ่งเหรอ.."กร็อดมองดูข้าวของที่ถูกรื้อออกมาจากตู้ พร้อมกับย่ามหลังใบใหญ่ที่วางบนพื้น
"แล้วนี่เจ้าทำอะไรน่ะ ยังกับจะเดินทางไกลยังงั้นแหละ"
"ก็
."ว็อกเกอร์กำลังจะเล่าเรื่องที่เขาได้รับงานมาให้อีกฝ่ายฟังแต่ก็นึกขึ้นได้ว่ารับปากกับพ
่อมดลมว่าจะไม่บอกใครจึงยั้งปากไว้ทัน"ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่จะทำความสะอาดของพวกนี้เท่านั้นเอง
มันสกปรกมากแล้ว เลยว่าจะจัดการเสียที"
"แน่ใจหรือว่าไม่มีอะไร" กร็อดทำหน้าสงสัย"แล้ววันนี้ ที่น็อกซ์เรียกเจ้าไปพบน่ะ
เรื่องอะไรเหรอ"
"ไม่มี
ไม่มีอะไรเลย"ว็อกเกอร์ปฎิเสธ
"เจ้ามีอะไรปิดบังข้าอยู่ใช่ไหม"กร็อดพูด
"ไม่มีจริงๆ" ว็อกเกอร์สั่นหน้า
"โกหกชัดๆ "กร็อดพูด" สีหน้ากับแววตาเจ้ามันบอกชัดๆว่าเจ้ามีเรื่องปิดบังข้าอยู่
ว็อกเกอร์ พวกเราเป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะ เจ้าไม่ไว้ใจข้าหรือ ถึงไม่ยอมเล่าให้ข้าฟังน่ะ"
"เอ่อ..คือ"ว็อกเกอร์มีท่าทางอึดอัดใจ เขาไม่อยากผิดคำพูดกับวาโลคาน
แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกว่าเขาไม่เชื่อใจเพื่อน กร็อดเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดเพียงคนเดียวของเขา
และเขาก็ไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกไม่ดีกับเขา "น็อกซ์ต้องการให้ข้าทำงานชิ้นหนึ่งให้เขา"
"งาน ..งานอะไรเหรอ"กร็อดถามอย่างสนใจ
ว็อกเกอร์เล่าเรื่องภารกิจที่เขาได้รับจากน็อกซ์ให้กร็อดฟังยกเว้นเรื่องกุญแจศิลาที่เขาไม่ได้เล่าให้ฟัง
เท่านั้น ซึ่งถ้าจะว่าไป
เขาก็ไม่ได้ผิดคำพูดที่ให้กับวาโลคานเพราะเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องกุญแจสักคำและกร็อดเองก็ไม่ได้สนใจที่จะถ
ามต่อด้วย เพราะกำลังตื่นเต้นที่ได้รู้ว่า
เพื่อนของตนกำลังจะเดินทางออกจากเบรนวู้ดไปยังดินแดนอันแสนไกลทางใต้
เนื่องจากกร็อดเองก็เหมือนกับว็อกเกอร์อยู่อย่างหนึ่งตรงที่มีความฝันอยากออกไปยังโลกภายนอกสักครั้งหนึ่ง
บ้าง และนั่นก็ทำให้เมิร์ฟอื่นๆมองว่าพวกเขาเป็นคนแปลก
"ฟังดูน่าตื่นเต้นมากเลย"กร็อดว่า" ขอข้าไปกับเจ้าด้วยได้ไหม"
"ไม่ได้หรอก"ว็อกเกอร์ปฎิเสธ "ข้าต้องไปคนเดียวเท่านั้น"
"แต่น็อกซ์ไม่ได้พูดนี่นา ว่าห้ามเจ้ามีเพื่อนร่วมทางไปด้วย"กร็อดพูด"
อีกอย่างถ้าเจ้ากลัวเขาจะว่า เราก็ไม่ต้องบอกเขาสิ"
"แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้อยู่ดี" ว็อกเกอร์พูด"แล้วแม่ของเจ้าล่ะ
นางคงไม่มีทางยอมให้เจ้าไปแน่"
"ก็แล้วใครว่าข้าจะบอกนางเล่า"กร็อดพูด"
ข้าจะบอกแม่ว่าข้าจะไปเยี่ยมญาติบางคนที่อยู่ทางใต้ของเบรนวู้ดและพักอยุ่กับพวกนั้นสักพักหนึ่ง
นางคงไม่ว่าอะไรแน่"
"เจ้าลืมไปแล้วหรือ ว่าตอนนี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่
และพวกญาติของเจ้าก็มาชุมนุมกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว"ว็อกเกอร์เตือน "เจ้าจะบอกว่า
ไปเยี่ยมใครอีก"
"ยังมีญาติอีกหลายคนของข้าที่ไม่ได้มาที่บ้านในปีนี้"กร็อดพูด" เอาเถอะน่า
ข้าหาเรื่องอ้างกับแม่ได้ก็แล้วกัน "
ว็อกเกอร์ฟังเพื่อนพูดก่อนจะนิ่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ๆ จะว่าไปแล้วเขาก็เห็นว่าการเดินทางไกลแบบนี้
ถ้าหากมีเพื่อนร่วมทางไปด้วยสักคนก็คงจะดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็ช่วยให้ไม่เหงาได้บ้าง
แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังมีเรื่องที่ยังเป็นห่วงอยู่ "แต่การเดินทางครั้งนี้ อาจมีอันตรายก็ได้นะ
ข้าว่า เจ้าอย่าไปเสี่ยงจะดีกว่า กร็อด"
"ถ้าอย่างนั้น ข้ายิ่งต้องไปด้วยใหญ่ "กร็อดพูด "เพราะถ้าหากเจ้าเจออันตรายระหว่าง
เราจะได้ช่วยกันได้ไงเล่า"
"แต่ข้าว่าเจ้าจะเป็นตัวถ่วงข้ามากกว่าน่ะสิ"ว็อกเกอร์พูดกับตัวเอง
"เมื่อกี้ เจ้าว่าอะไรนะ"
"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"ว็อกเกอร์สั่นหน้า
"ดี ถ้างั้นตกลงตามนี้นะ เดี๋ยวข้าจะกลับไปเตรียมของ แล้วพรุ่งนี้เช้า
ข้าจะไปดักรอเจ้าที่นอกหมู่บ้าน จากนั้นเราจะออกไปผจญภัยด้วยกัน" กร็อดสรุปอย่างร่าเริง
จนว็อกเกอร์อดรู้สึกไม่ได้ว่าเพื่อนของเขาคงคิดว่าการเดินทางอันแสนไกลครั้งนี้
เป็นเรื่องง่ายๆเหมือนกับการเดินไปตลาดยามเช้าอย่างไรอย่างนั้น
อันที่จริงแล้วเขาและเพื่อนไม่มีทางรู้ได้เลยว่าการเดินทางครั้งนี้มีความสำคัญมากเพียงไรและมีสิ่งใดรอพว
กเขาอยู่บ้าง
เช้ามืดของวันต่อมา ในป่าหมอกลงหนา อากาศเย็นยะเยือก
ขณะที่เมิร์ฟทั้งหมู่บ้านกำลังหลับสบายใต้ผ้าห่มที่แสนอบอุ่น
ว็อกเกอร์ถือตะเกียงดวงเล็กเดินดุ่มๆตามทางเดินไปยังบ้านของน็อกซ์เพียงลำพัง
บนหลังของเขามีย่ามหลังสีเขียวใบใหญ่สะพายอยู่
เขาแต่งตัวด้วยเสื้อและกางเกงสีน้ำตาลอมเขียวคาดด้วยผ้าคาดเอวลายประจำตระกูลและคลุมทับชุดของเขาด้วยเสื้
อคลุมสั้นสีดำพร้อมฮู้ดคลุมศรีษะ เขาใส่รองเท้าหนังแพะคู่โตสีดำสนิท
เมิร์ฟหนุ่มเลือกเดินบนพื้นดินเพราะเงียบกว่าเดินตามทางเดินบนต้นไม้ วันนี้เขาตื่นเร็วกว่าทุกวันมาก
แต่อันที่จริง จะว่าไปแล้วตลอดคืนที่ผ่านมานี้ เขานอนแทบไม่หลับมากกว่าเนื่องจากความตื่นเต้น
ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงไก่ป่าร้อง ว็อกเกอร์ก็ลุกขึ้นจากที่นอนในทันที
เมื่อมาถึงต้นโอ๊คใหญ่ที่บ้านของน็อกซ์หัวหน้าพวกเมิร์ฟตั้งอยู่
ว็อกเกอร์เห็นแสงไฟลอดออกมาจากช่องหน้าต่างของบ้านหลังนั้น บันไดของบ้านชักลงไว้แล้ว
แสดงว่าเจ้าของบ้านตื่นนานแล้วคงเตรียมตัวรับการมาของเขาเรียบร้อยแล้ว
ว็อกเกอร์ก้าวขึ้นบันไดจนถึงชานบ้านและเคาะประตูสามที
"เข้ามาสิ"เสียงของน็อกซ์ดังออกมา
ว็อกเกอร์เปิดประตูและก้าวเข้าไป น็อกซ์และวาโลคานกำลังรอเขาอยู่ที่โต๊ะตัวเดิมที่เขาเห็นเมื่อวานนี้
เทียนไขแท่งใหญ่ส่องสว่างอยู่บนโต๊ะ
และยังมีเหยือกน้ำชาใบใหญ่พร้อมกับถ้วยชาอีกสามใบและขนมปังอบร้อนควันฉุยวางอยู่ด้วย
"เจ้ามาเร็วดีนี่นา"น็อกซ์กล่าวชม" กินอะไรเสียก่อนสิ"
"ข้ากินมาจากที่บ้านแล้วครับ"ว็อกเกอร์พูด
"อย่างนั้นก็ดื่มชาสักถ้วยก็แล้วกัน"น็อกซ์ว่าพร้อมกับรินชาใส่ถ้วยและส่งให้เมิร์ฟหนุ่ม
ว็อกเกอร์กล่าวขอบคุณก่อนรับมาดื่ม
วาโลคานกล่าวขึ้นว่า "เจ้าเตรียมตัวมาพร้อมแล้วใช่ไหม"
"ครับ ท่านผู้เฒ่า"ว็อกเกอร์ตอบพร้อมกับวางถ้วยชาลง
วาโลคานหันไปพยักหน้าให้น็อกซ์
ฝ่ายนั้นหยิบสร้อยด้ายถักเส้นหนึ่งพร้อมกับล็อกเก็ตขึ้นมาและส่งให้กับเมิร์ฟหนุ่ม
"รับไปสิ" น็อกซ์กล่าว
ว็อกเกอร์รับสร้อยนั้นมา ทันทีที่มือสัมผัสกับตัวล็อกเก็ต เขาก็รู้สึกชาวูบไปทั้งตัว
แต่นั่นก็เพียงแค่ชั่วขณะเดียวเท่านั้น เขาพลิกดูของที่เขาได้รับมา
ตัวล็อกเกอร์เป็นผลึกใสสีขาวรูปวงรีภายในมีพลอยสีน้ำเงินเม็ดเดียวกับที่เขาเห็นเมื่อวานบรรจุอยู่
เพียงแต่วันนี้เมื่ออยู่ในผลึกแก้ว ดูมันจะมัวลงกว่าเดิมและไม่มีประกายเหมือนอย่างเมื่อวาน
"ล็อกเก็ตนั่นจะช่วยพรางตา ไม่ให้กุญแจเป็นที่สังเกตแก่คนทั่วไป
แต่ถ้าเมื่อใดที่มีอันตรายเข้ามาใกล้ กุญแจศิลาจะเปล่งแสงเตือน"วาโลคานอธิบาย
เมื่อเห็นสีหน้าที่แสดงความสงสัยของเมิร์ฟหนุ่ม" สวมสร้อยนี้เอาไว้กับตัว
และอย่าให้มันคลาดสายตาเจ้าเด็ดขาด จนกว่าจะไปถึงแอสการ์ธ และส่งมันถึงมือเวอร์ธังแล้ว"
ว็อกเกอร์ทำตามที่อีกฝ่ายหนึ่งบอก เขาสวมสร้อยเส้นนั้นไว้ที่คอ
"เอาสิ่งนี้ไปด้วย มันจะเป็นประโยชน์กับเจ้าเมื่อออกสู่โลกภายนอกแล้ว
"น็อกซ์พูดขึ้นพร้อมกับส่งถุงหนังใบใหญ่ให้กับว็อกเกอร์
"ในนี้มีเหรียญทองคำอยู่ทั้งหมดสองร้อยเหรียญ
น่าจะพอสำหรับค่าใช้จ่ายการเดินทางและก็ยังมีนี่"
เมิร์ฟเฒ่าเดินไปที่ตู้ใบใหญ่และหยิบผ้าคลุมบางๆผืนหนึ่งออกมาส่งให้กับว็อกเกอร์"ผ้าผืนนี้
เจ้าสามารถใช้มันพรางตัวเองได้ในทุกที่ตามที่เจ้าต้องการ"
เมิร์ฟหนุ่มวางถุงทองคำลงบนโต๊ะและมองผ้าผืนนั้นอย่างตื่นเต้น นี่เขาจะได้มีของวิเศษไว้ใช้ด้วยหรือนี่
ว็อกเกอร์รับผ้าผืนนั้นมาและลองใช้มันคลุมแขนซ้ายของเขา ปรากฎว่าแขนซ้ายของเขาหายวับไปในพริบตา
"วิเศษไปเลย.. นี่มันยิ่งกว่ามายากลชั้นยอดเสียอีก" เขาอุทานด้วยความตื่นเต้น"ข้าขอบคุณ
ท่านผู้เฒ่าน็อกซ์มากครับ"
"ไม่เป็นไรหรอก"น็อกซ์กล่าว "เก็บเอาไปเสียสิ แล้วก็อย่าลืมถุงทองคำด้วยล่ะ"
ว็อกเกอร์พับผ้าสอดไว้ในอกเสื้อด้านในและเก็บถุงทองคำใส่ลงย่ามหลังก่อนจะถามผู้เฒ่าทั้งสองอย่างมีความหว
ังว่าอาจจะได้ของวิเศษอะไรเพิ่มอีกว่า" พวกท่านมีอะไรจะมอบให้ข้าอีกไหมครับ "
"ไม่มีแล้ว"วาโลคานกล่าว"เพียงแค่นี้ เจ้าก็ไปถึงแอสการ์ธได้แล้ว"
"ข้าขอถามท่านอีกสักอย่าง ได้ไหม"ว็อกเกอร์พูดกับวาโลคาน
"เรื่องอะไร"นกเค้าแมวชราพูด
ว็อกเกอร์หยิบเส้นขนออกมาจากกระเป๋าเสื้อ" แล้วขนเส้นนี้ใช้อย่างไรหรือครับ"
"ถึงเวลา เจ้าก็จะรู้เองน่ะแหละ"นกเค้าแมวชรากล่าว
"แล้วทำไม ท่านไม่บอกเสียตอนนี้ล่ะ"น็อกซ์สงสัย
"ข้าต้องเก็บเรื่องประหลาดใจเอาไว้ให้เจ้า บ้างสิ"วาโลคานกล่าวยิ้มๆ"เอาล่ะ
ใกล้สว่างแล้ว
เจ้าไปเถอะ ขอให้โชคดีล่ะ "
"ขอให้เจ้าเดินทางโดยปลอดภัยนะ"น็อกซ์กล่าวบ้าง
เมิร์ฟหนุ่มกล่าวขอบคุณและอำลาทั้งสองก่อนจะเดินออกมาจากบ้าน จากชานบ้านบนต้นไม้ ไกลไปทางทิศตะวันออก
ว็อกเกอร์มองเห็นแสงสีทองของยามเช้าเริ่มปรากฏให้เห็น แต่ที่เบื้องล่างนั้นไอหมอกยังปกคลุมพื้นดินอยู่
เขาสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งครั้งก่อนจะก้าวลงบันไดบ้าน
..
เมื่อแสงแดดส่องลงถึงพื้นดิน ว็อกเกอร์ก็เดินจนพ้นเขตหมู่บ้านมาถึงจุดนัดพบ พอดี
เมิร์ฟหนุ่มนั่งลงบนโขดหินและวางย่ามหลังลงบนพื้น ก่อนจะมองดูรอบๆบริเวณนั้น
แต่ก็ไม่เห็นร่างของกร็อดอยู่เลย หลังจากรออยู่ครู่ใหญ่ ว็อกเกอร์ก็สงสัยว่า
เพื่อนของเขาอาจจะไม่มาหรือไม่ก็มาไม่ได้ เป็นแน่ เขาถอนหายใจเก่อนจะหยิบย่ามขึ้นมาผูกไว้กับไหล่สองข้าง
น่ากลัวว่าเขาคงต้องเดินทางคนเดียวเสียแล้ว ว็อกเกอร์คิด แต่ก่อนที่เขาจะออกเดินต่อนั้นเอง
เขาก็เห็นร่างอ้วนกลมของกร็อดกำลังวิ่งมาตามทางเดินในป่า กร็อดแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีเขียวเข้ม
พร้อมกับเสื้อคลุมติดหมวกปิดหน้าสีน้ำตาลเข้ม มีย่ามหลังใบใหญ่ติดมาด้วย
กร็อดร้องตะโกนเรียกเพื่อนเสียงดังเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะไปแล้ว
"ว็อกเกอร์! รอข้าด้วยสิ"
ว็อกเกอร์ยิ้มออกเมื่อเห็นเพื่อน เขานั่งลงและรอจนอีกฝ่ายวิ่งมาถึง ซึ่งก็อีกเพียงครู่เดียว
กร็อดก็มายืนหอบหายใจอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แม้อากาศยามเช้าจะค่อนข้างหนาวเย็น
แต่ใบหน้าของกร็อดก็เต็มไปด้วยเหงื่อ เมิร์ฟอ้วนปาดเม็ดเหงื่อออกจากใบหน้า ก่อนจะนั่งลงที่โขดหินข้างๆ
"เหนื่อยเป็นบ้าเลย" กร็อดพูด" ข้า..รีบวิ่งมาจากบ้าน เลยนะนี่ แทบตายแน่ะ"
"ก็แล้วทำไมเจ้าต้องวิ่งมาด้วยเล่า"ว็อกเกอร์ถาม
"ก็กลัวว่าจะไม่ทันเจ้าน่ะสิ เมื่อเช้าข้าตื่นมา ก็สว่างแล้ว
พอคว้าของได้ก็เลยรีบมานี่แหละ"กร็อดว่า
"ขนาดนี้ เจ้ายังตื่นสายอีกนะ"ว็อกเกอร์ส่ายหน้าก่อนจะถามต่อ"
ว่าแต่เจ้าบอกแม่เจ้าเรียบร้อยแล้วหรือ"
"เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องห่วงน่า ข้าน่ะโตแล้ว แม่ไม่ซักไซ้อะไรมากนักหรอก"กร็อดตอบ
"ถ้าอย่างนั้น ก็ไปกันได้แล้ว "ว็อกเกอร์ชวนพร้อมกับลุกขึ้น
"ให้ข้าพักหายใจสักครู่ก่อนไม่ได้เหรอ"กร็อดต่อรอง
ทีแรกว็อกเกอร์จะไม่ยินยอมตามคำขอแล้ว
แต่เมื่อเห็นสภาพเหนื่อยหอบของอีกฝ่ายก็นึกเห็นใจขึ้นมา"ก็ได้ แต่ครู่เดียวเท่านั้นนะ"
เขาพูด
"ครู่เดียวเท่านั้นแหละ" กร็อดบอก ก่อนจะหยิบถุงหนังใส่น้ำที่แขวนอยู่ข้างเอวขึ้นมาดื่ม
"เจ้าเอาอะไรมาบ้างนะ" ว็อกเกอร์สงสัยเมื่อเห็นของที่อีกฝ่ายหอบมา นอกจากย่ามหลังใบใหญ่แล้ว
เขายังเห็นถุงหนังใบใหญ่อีกสองใบและถุงใบย่อมกว่าอีกสามใบรวมอยู่ด้วย
"เสบียงไง" กร็อดกล่าว "ของที่ข้าเอามานี่น่ะ พอกินไปได้ตั้งเป็นเดือนเชียวนะ
มีทั้งขนมปังแห้ง เนยแข็ง เนื้อแห้ง ลูกเกด และก็อีกสารพัดเลย"
"ไม่เห็นจะต้องขนมาขนาดนี้เลย"ว็อกเกอร์พูด"โลกภายนอกน่ะ
ไม่ถึงกับหาอะไรกินไม่ได้ซักหน่อย ไม่อย่างนั้น พวกมนุษย์จะอยู่กันได้อย่างไร"
" เจ้าอย่าลืมสิ ว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราออกจากเบรนวู้ดนะ
ใครจะไปรู้ว่าข้างนั่นมีอะไรรออยู่บ้าง อีกอย่างนะถึงยังไง
ข้าก็ไม่ยอมไปอดตายที่ข้างนอกนั่นเด็ดขาด"กร็อดยืนกราน
"เอาล่ะ เอาล่ะ ข้ายอมเจ้าแล้ว" ว็อกเกอร์พูด
ที่จริงแล้วเขาก็รู้สึกว่าที่กร็อดพูดนั้นก็นับว่ารอบคอบพอใช้
เขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะหาอาหารจากโลกภายนอกได้ดีเพียงไร ถ้ามีเสบียงติดตัวไปมากๆ
ก็น่าจะทำให้อุ่นใจเรื่องปากท้องได้
"เฮ้ พวกเจ้าจะไปไหนกันน่ะ"เสียงทักจากบนยอดไม้ดังขึ้น
เมิร์ฟทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นจินกับมินสองอีกาคู่หูเกาะอยู่
ก่อนที่ทั้งสองตัวจะบินลงมาเกาะที่รั้วไม้เก่าๆข้างทางเดิน
"กร็อด เจ้าขนของเยอะแยะเชียว จะไปไหนกันเหรอ"จินถาม
"ไม่ใช่เรื่องของอีกาอย่างเจ้า" กร็อดตอบ
"แล้วมันเป็นเรื่องของเจ้าหรือเปล่าล่ะ"มินพูดขึ้นบ้าง "
เจ้าเองก็ไม่มีส่วนกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกันนั่นแหละ"
"หมายความว่าไง" กร็อดข้องใจ
"ก็หมายความว่า เจ้าเองก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการเดินทางไปแอสการ์ธของว็อกเกอร์
ด้วยเหมือนกันน่ะสิ"จินตอบ
"พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรกัน ว่าข้ากำลังจะไปที่ไหน"ว็อกเกอร์พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ
"มีอะไรบ้างที่พวกเราไม่รู้น่ะ"จินตอบ
"ถูกต้อง"มินเสริม
"พวกแกแอบฟังที่เราคุยกันเมื่อวานใช่ไหม เจ้าพวกนกไร้มารยาท"กร็อดพูด
"เราไม่ได้แอบฟังนะ"มินตีหน้าซื่อ"
พวกเราแค่บังเอิญบินไปเกาะอยู่ตรงช่องลมบ้านของว็อกเกอร์ แล้วก็บังเอิญว่าช่องลมนั้นเปิดอยู่
เราก็เลยได้ยินว็อกเกอร์เล่าเรื่องภารกิจให้ฟังเท่านั้น"
"ช่างบังเอิญได้เหมาะเหลือเกินนะ"กร็อดกล่าวประชดอย่างหมั่นไส้
ว็อกเกอร์มองอีกาทั้งสองตัวและถามทั้งคู่ว่า" ในเมื่อพวกเจ้าก็รู้แล้วว่าเราจะไปไหน
แล้วพวกเจ้าตามเรามาที่นี่ทำไมกันหรือ"
"เราอยากไปด้วยน่ะสิ" จินตอบ
"ช่ายยย.."มินสนับสนุน" เราอยากออกไปผจญภัย"
"ให้พวกเจ้าไปกับข้าเนี่ยน่ะ ฝันไปเถอะ ไม่มีทางเสียหรอก"กร็อดพูด
"เราไม่ได้ขอร้องเจ้าซักหน่อย"จินว่า" และก็อีกอย่างนะ
เจ้าไม่มีสิทธิตัดสินใจว่าใครจะไปด้วยได้หรือไม่ได้
เพราะนี่เป็นการเดินทางของว็อกเกอร์เขาต่างหาก"
"ขอพวกเราไปด้วยเถอะนะ ว็อกเกอร์"มินขอร้อง "เราอยากไปเห็นดินแดนภายนอกบ้าง"
"ใช่.. ขอร้องเถอะนะ"จินอ้อนวอน
"แต่ข้าว่า ถ้าไปกันมากเกินไปมันจะไม่สะดวกนะ และที่สำคัญ พวกเจ้ากับกร็อดไม่ถูกกันด้วย
ข้ากลัวว่าจะทำให้การเดินทางมีปัญหาน่ะสิ"ว็อกเกอร์พูด
"พวกเราสัญญาจะไม่ก่อเรื่องเด็ดขาด"จินรับปาก
"แล้วเราก็จะไม่ทะเลาะกับเจ้ากร็อดนั่นด้วย"มินพูด
"ให้เราไปด้วยเถอะนะ การเดินทางไกลแบบนี้ ถ้ามีผู้ร่วมทางหลายคนก็ยิ่งอุ่นใจนะ"จินพูด
"อืม
ที่เจ้าว่ามาก็จริงอยู่ "ว็อกเกอร์ทำท่าคิดก่อนจะหันไปถามความเห็นของเพื่อน
"เจ้าล่ะว่าไง กร็อด จะให้สองคนนี่ไปกับเราหรือเปล่า"
"ถ้าเป็นลำพังข้าคนเดียว ข้าไม่มีทางยอมเด็ดขาด "กร็อดว่า"
แต่นี่เป็นการเดินทางของเจ้านี่ ก็แล้วแต่เจ้าก็แล้วกัน"
ว็อกเกอร์มองอีกาทั้งสองตัวที่ตอนนี้ทำสายตาวิงวอนอย่างเต็มที่ จนเขาเริ่มใจอ่อน"เอาล่ะ
ถ้าอย่างนั้นให้พวกเจ้าไปด้วยก็ได้"
"วิเศษไปเลย" จินกับมินร้องอย่างดีใจ
"แต่พวกเจ้าต้องรักษาคำพูดนะ
ห้ามก่อเรื่องแล้วก็ห้ามกวนโมโหเพื่อนข้าด้วย"ว็อกเกอร์บอก"พวกเจ้าจะให้สัญญาได้ไหม"
"พวกเราขอสาบานด้วยขนหางทั้งหมดของเรา"ทั้งสองกล่าวพร้อมกันอย่างหนักแน่น
"ขนหางของพวกเจ้าต่อให้มีมากกว่านี้อีกสามเท่าก็ไม่พอกับคำสาบานหรอก"กร็อดแอบพูดกับตัวเองเบาๆ
โดยไม่ให้จินกับมินได้ยิน
เมื่อการสนทนาได้ข้อสรุปแล้ว ว็อกเกอร์ลุกขึ้นยืน พร้อมกับขยับย่ามหลังของตนให้เข้าที่ "เอาล่ะ
ในเมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ข้าว่าเราออกเดินทางต่อเถอะ พวกเราเสียเวลากันไปมากแล้ว"
กร็อดที่ยังนั่งอยู่กับที่เอ่ยถามขึ้น" ถ้าจะไปกันตอนนี้เลย ข้าก็ไม่ว่าหรอกนะ
ว่าแต่เจ้ารู้แล้วหรือว่าจะไปทางไหนน่ะ ว็อกเกอร์"
"จริงสินะ"ว็อกเกอร์นึกขึ้นได้ เขาหยิบแท่งไม้บอกทางออกมาจากอกเสื้อ และถือมันไว้ในมือซ้าย
แท่งไม้เคลื่อนไปมาสองสามครั้ง ก่อนจะชี้ตรงไปยังทิศใต้ ว็อกเกอร์มองไปยังทิศที่ไม้บอกทางชี้ไป
ก่อนจะบอกผู้ร่วมทางอีกสามคนว่า
"เราจะไปทางทิศใต้กัน "
(ต่อบทที่3)
ความคิดเห็น