ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    a-prilLab

    ลำดับตอนที่ #7 : pls smile na boss

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 217
      0
      22 เม.ย. 63

    目を閉じずに感じて 君は一人じゃない。
    {   ลืมตาของคุณดูสิ คุณไม่ได้อยู่คนเดียวหรอกนะ   }



    ____________________________________________________________________________________________



    白い桜の花の季節は遠く夢の中にだけ

    舞い散る花びらの囁いた忘れられない言葉



    a pplication



    "  เข้าใจแล้วล่ะค่ะงั้นฉันจะไปจัดการให้นะคะ--- ว้าย!  "
    "  คุณก็เป็นหนึ่งในคนที่ฉันยิ้มได้หนิคะ...เอ่อ..คุณคงไม่เข้าใจที่ฉันพูดเท่าไหร่เพราะฉะนั้นอย่างไปสนใจมันเลยเถอะค่ะ  "

      บทที่ต้องการ : [ 8 ]  secretary  


     

    ชื่อ TH | ENG :  อามาเทราสึ  ชิโนบุ  Amaterasu  Shinobu

               ความหมายของชื่อ  -  อามาเทราสึ  =  เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ผู้ปกครองสวรรค์
                                -  ชิโนบุ  =  ผู้หญิงผู้เห็นอกเห็นใจและสนับสนุน
               ส่วนมากไม่ค่อยมีใครเรียกนามสกุลที่ยาวและกว่าจะพูดจบคงปาไปครึ่งนาทีแล้ว เพราะฉะนั้นเลยมีแต่คนเรียกเธอว่า ชิโนบุ ไม่ก็ ชิโนะ เลยเสียมากกว่าซึ่งเธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วยเพราะเข้าใจดีว่ามันคงออกเสียงยากและยาว

    โค้ดเนม TH | ENG :  โฮเทย์  Houtei

              ที่มาของชื่อ  -  โฮเทย์คือชื่อของเทพแห่งของความสุข เสียงหัวเราะและความรู้แจ้งของญี่ปุ่นที่เธอตั้งชื่อนี้เพราะเธออยากจะเป็นคนที่มีความสุขและทำให้คนรอบตัวมีความสุขเหมือนกับชื่อนี้ 

    แก๊ง | ทีม :  Noir Mafia

    อายุ :  20

    ชั้นปี :  2

    ส่วนสูง / น้ำหนัก :  150.4  /  42

    วันเกิด :  24  กันยายน

    กรุ๊ปเลือด :  A

    รูปร่างหน้าตา : 

    '  เด็กเกรดไหนน่ะเรา  '

    "  ฉ-ฉันเรียนอยู่มหาลัยปี 2 แล้วนะคะ..  "

    '  จริงดิ..  '

    - - - - - - - - - - - -

    บทสนทนาที่กล่าวไปนั้นเป็นสิ่งที่ชิโนบุเจอมาตั้งแต่ม.ปลายแล้วจริงๆเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับประโยชน์คำถามอะไรพวกนี้เท่าไหร่หรอก.... จริงๆนะ  เพราะด้วยรูปร่างที่เล็กราวกับเด็กในวัยมัธยมที่ยังโตไม่เต็มที่ บางคนก็บอกว่าเธอเหมือนกับตุ๊กตาตัวเล็กๆที่ควรค่าแก่การทะนุถนอมเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่เล็กแล้วเธอมักจะถูกดูแลเป็นพิเศษจนบางครั้งก็แอบน้อยอกน้อยใจว่าทำไมไม่ให้เธอดูแลตัวเองบ้างเพราะเธอตัวเล็กเหรอไม่ยุติธรรม!  ชิโนบุเป็นผู้หญิงผิวขาวอมชมพูโดยธรรมชาติเนียนนุ่มราวกับผิวของเด็กน้อยแถมยังเป็นคนที่ผิวบางและยังแดงง่ายอีกด้วย ที่หัวเข่าจะมีรอยแผลเป็นจางๆจากการที่ตอนเด็กๆเธอสะดุดล้มเพราะความซุ่มซ่ามของตนเองบ่อยๆ   โครงหน้าออกเป็นทรงกลมเล็กน้อยนั้นประกอบไปด้วยพวงแก้มนุ่มออกสีแดงระเรื่ออย่างคนสุขภาพดี เครื่องหน้าต่างๆของชิโนบุนั้นยังดูเหมือนเด็กน้อยวัยแรกแย้มก็ไม่ปาน สิ่งที่โดดเด่นและเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดของหญิงสาวคงไม่พ้นดวงตากลมโตสีบานเย็นหวานที่ขับความเสมือนตุ๊กตา ดวงตาที่เป็นเม็ดมณีของใบหน้านั้นดูบริสุทธิ์และอ่อนโยนเกินกว่าจะคิดว่าเธอจะมาป็นเลขาบอสมาเฟียได้ ล้อมดวงตาไปด้วยแพขนตาหนางอนขึ้น จมูกที่ไม่ได้โด่งมากเหมือนกับชาวยุโรปนั้นรั้นขึ้นชวนให้น่าบีบจมูกแกล้งเล่นไม่น้อย  ริมฝีปากรูปกระจับบางออกสีชมพูอ่อนๆ ชุ่มชื่นจากการทาลิปมันอยู่บ่อยๆ เธอมักจะทาลิปทิ้นสีออกส้มพีชเพื่อให้ปากดูมีสีสันเสียบ้างแม้ชิโนบุเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยแต่งหน้าจัดเท่าไหร่ในชีวิตประจำวันแต่เธอก็ถือว่าเป็นคนที่มีความสามารถด้านการแต่งหน้าในระดับหนึ่งที่ได้มาจากการฝึกแบบลับๆ /เลเยอร์คอสเพลย์ถ้าจ้างคนมาแต่งหน้ามันก็หลายตังนะคะ ชิโนบุกล่าวในใจ/ ใบหน้าที่แสนน่ารักน่าชังนั้นมีสดใสที่สุดก็ยามที่ยิ้มและหัวเราะเหมือนกับเด็กๆ   เรือนเกศาตรงยาวแสกข้างนุ่มสลวยสีดำราวกับน้ำหมึกตัดกับผิวขาวนวลของหญิงสาวนั้นยาวจรดแผ่นหลังเล็กเธอมักจะติดกิ๊บเล็กๆไว้เพื่อไม่เห็นเส้นผมปรกบดบังใบหน้า บางครั้งเธอก็จะมัดเป็นหางม้า หรือถ้าต้องไปทำธุระสำคัญจริงๆเธอก็จะดัดลอนคลายๆตรงปลายผม ในวันที่อยู่บ้านหรือทำงานจนดึกดืนเธอมักจะมัดผมขึ้นเป็นทรงดังโงะที่กลางหัว  หญิงสาวเป็นผู้หญิงที่ดูแลตัวเองอยู่เสมอทั้งสกินแคร์ครีมทาผิวเครื่องสำอางต่างๆ

    ในด้านของการแต่งกายของชิโนบุนั้นค่อนข้างๆเรียบง่ายแต่ก็ไม่ได้เรียบไปจนดูจืด เธอเป็นคนที่แต่งตัวได้ดีและเข้ากับตัวเอง ชิโนบุรู้ตัวว่าตัวเองไม่เหมาะกับสีเข้มๆเท่าไหร่เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของหญิงสาวจะไปเป็นในทางสีเบจและโทนสว่างเสียมากกว่า  เสื้อเชิ้ตสีขาวคือเสื้อที่ชิิโนบุใส่คุ้มที่สุด บางทีก็จะใส่เสื้อแขนยาวทรงโอเวอร์ไซส์แล้วแต่อารมณ์เธอในวันนั้น ชิโนบุชอบใส่เสื้อสเวตเตอร์ไม่ก็เสื้อคลุมไหมพรมในวันที่อากาศหนาวๆ ส่วนท่อนล่างเด็กสาวจะชอบใส่กางเกงเสียมากกว่าเพราะเพื่อความคล่องตัวและรองเท้าผ้าใบสีขาว  แต่เมื่อในวันที่ต้องทำงานเธอก็จะใส่เสื้อยืดกับกระโปรงทรงสอบและเสื้อสูท หรือไม่ก็เป็นเสื้อเชิ้ตตัวเดียวกับกระโปรงทรงสอบ รองเท้าเป็นส้นเตี้ยเพื่อที่จะไม่ได้เทอะทะจนเกินไป  ในส่วนของเดรสเธอไม่ค่อยได้ใส่เท่าไหร่ถ้าไม่ใช่โอกาสสำคัญๆจริงๆ แถมเธอยังรู้สึกว่าพอใส่เดรสแล้วเธอดูตัวเล็กมากขึ้นไปอีก 2 - 3 เซนด้วยซ้ำไปเธอจึงไม่ค่อยมั่นใจในการใส่เดรสเท่าไหร่   สุดท้ายชุดกิโมโนถ้าไม่ได้อยู่ที่บ้านเกิดเธอก็จะไม่ค่อยได้ใส่เท่าไหร่แม้จะอยากใส่ใจจะขาด

    EX;         


    ลักษณะการพูด :   น้ำเสียงของหญิงสาวนั้นเล็กใส่แต่ก็มีความหวานนุ่มเช่นเดียวกัน ทั้งการพูด ท่าทางและน้ำเสียงที่ใช้นั้นมันลื่นหูและน่าฟังเอามากๆ รู็จักใช้คำพูดให้เหมาะกับสถานการณ์นั้นๆ เธอมักจะแทนตัวเองด้วยความว่า " ฉัน " กับทุกคนแต่ก็จะใช้คำว่า " หนู " กับคนที่อาวุโสกว่ามากๆและที่บ้าน ในการแทนคนอื่นนั้นเธอจะแทนคำว่า " คุณ " กับคนในที่ทำงาน คนอายุมากกว่ารวมถึงคนที่เธอชอบอย่าง [7] ด้วยเพราะอีกฝ่ายก็เป็นทั้งหัวหน้าและคนอายุมากกว่าและจะมีหางเสียงตลอด  เธอจะแทนอีกฝ่ายด้วยคำว่า " นาย / เธอ " กับเพื่อนหรือคนนอกที่ทำงานที่อายุเท่ากัน  CV.

    (  เธอไม่ใช่คนพูดหยาบยกเว้นเหลืออดจริงๆที่เธอจะเป็นคนออกปากด่าเอง--- )

    ex.1/ 

    ร่างเล็กๆที่กำลังถือกองเอกสารจำนวนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนนั้นได้เหม่อคิดไปถึงเรื่องเรื่อยเปื่อยจนเดินชนหญิงสาวคนหนึ่งจนล้มลงไปจ้ำม้ำที่พื้น เอกสารในอ้อมแขนนั้นกระจัดกระจายไปทั่ว

    "  ว้าย!--  ขอโทษนะคะเป็นอะไรรึเปล่าคะ  "

    แม้ตัวเองจะเจ็บแต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่กลับไปสนใจหญิงสาวที่ยืนมองด้วยท่าทางเลิกลั่กแล้วก้มไปเก็บเอกสารช่วยชิโนบุ

    "  ไม่เป็นไรหรอกค่ะแล้วคุณ..  "

    "  ฉันไม่เป็นไรค่ะแค่นี้เองคุณไม่เป็นไรแน่นะคะ  "

    มือเล็กเก็บเอกสารรวมเข้าในกองเดียวกันอย่างชำนาญ รอยยิ้มสดใสประดับขึ้นมาใบหน้าอีกครั้งแล้วยืนขึ้นรับเอกสารจากอีกฝ่ายมารวมไว้ คนที่ถูกถามพยักหน้า  เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจที่อีกฝ่ายไม่ได้เป็นอะไรมาก ชิโนบุค่อมศรีษะให้อีกคนอีกครั้งก่อนจะขอตัวเดินไปส่งเอกสาร

    "  งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ ต้องขอโทษอีกทีด้วยนะคะ  "

     ex.2/

    "  ทำไมพวกเธอถึงชอบเล่นผมฉันจังเลยเนี่ย "  ชิโนบุนั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาให้เพื่อนสาวอีกสองคนเปียผมเล่น ลอบถอนหายใจออกมาน้อยๆเป็นเชิงง้องอนจนทำให้คนที่เล่นผมเธอถึงกับเปลี่ยนมาเป็นกอดคอของคนตัวเล็กแทน

    "  โธ ชิโนะไม่งอนสิ  "

    "  ไม่ได้งอนซะหน่อย  "  น้ำเสียงใสที่พูดออกมันนั้นดูอู้อี้จะจากที่โดนเพื่อนทั้งสองกอดโยกไปมา  "  อย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กสิ "

    "  ชิโนะน้อยแสนน่ารักไม่งอแงนะ  "

    "  อลิส!  "

    ex.3/

    เสียงถอนหายใจดังขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะต้นเหตุของเสียงถอนหายใจของเธอนั้นไม่เข้าใจความหมายที่เธอจะสื่อซักที 

    "  ไม่เข้าใจจริงๆเหรอแกล้งบื้อนะ  "  ชิโนบุนั่งขมวดคิ้วเป็นปมอยู่ที่โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยกองเอกสาร มือประสานกันไว้ใต้คางก่อนจะถอนหายใจแรงๆออกมาอีกรอบ ก่อนจะวนลูบการกระทำแบบเดิมซ้ำเป็นเดจาวู

    "  หรือเขาจะชอบคนอื่นกัน...ไม่น่านะดูจากสภาพแล้ว  "  สิ่งที่เธอคิดน้ันเครียดกว่าเอกสารต่างๆที่เคยทำมาแล้วเสียอีก ถ้าคนที่เธอเป็นเลขาให้นั้นไม่ทำหน้ามึนเวลาเธอเทคแคร์ดูแลเป็นพิเศษกว่าคนอื่น เธอก็คงไม่มานั่งคิดแบบนี้หรอก

    "  ต-แต่มันก็มีความเป็นไปได้  "  เสียงพูดคุยตอบไปมาคนเดียวเกิดขึ้นที่โต๊ะของหญิงสาวสัญชาติเอเชีย เล่นเอาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็อดหันมามองเธอด้วยความสงสัยว่าเธอคุยกับใคร แม่ซื้อเหรอ ?  หญิงสาวกอดอกทำเสียงฮึมฮัมออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วยกกองเอกสารบนโต๊ะมานั่งทำเพื่อไล่ความคิดที่มันเริ่มฟุ้งไปเรื่อยๆ

    ถึงมันจะอดคิดไม่ได้ก็เถอะ.......

    ex.4/

    ชิโนบุนั่งอ่านเอกสารที่ [ 7 ] ฝากเธอมอบหมาบให้คนในทีมทำมา ดวงตาสีหวานกวาดมองเอกสารจำนวนหนึ่งตรงหน้าก่อนจะส่งกลับไปให้อีกฝ่าย เธอเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ก่อนจะระบายยิ้มออกมาบางๆ

    "  รบกวนไปทำมาใหม่ด้วยนะคะ  "  น้ำเสียงทุกอย่างที่พูดมันยังดูเหมือนเดิม ก่อนจะหันกลับไปจดจ่อกับงานของตนเองต่อ 

    "  มันต้องแก้ตรงไหนล่ะมาบอกให้ไปทำใหม่แบบนี้ทั้งที่อ่านไปแค่หน้าเดียวอ่ะนะ  "  ชายหนุ่มตรงหน้าดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่มือข้างนึงเท้าแขนไว้กับโต๊ะส่วนมืออีกข้างของชายหนุ่มถือเอกสารบึกที่เธอบอกให้อีกฝ่ายไปทำมาใหม่  ชิโนบุผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะเอ๋ยปากพูดอย่างไม่ใส่ใจ

    "  งานที่ทำสักแต่เสร็จฉันเอาไปให้คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งของเราคนนั้นอ่านไม่ได้หรอกค่ะ  "  ถ้าคนในแก๊งพูดถึงเลขาของหัวหน้าแก๊งนัวร์อย่างชิโนบุแล้วคงไม่พ้นเรื่องความเนี๊ยบของงานที่แม้จะผิดพลาดจุดเดียวเจ้าหล่อนก็ดันเห็น ไม่รู้เพราะเนี๊ยบเกินไปหรือคนอื่นไม่เห็นกันแน่  

    "  ฉันว่าแค่สรุปเกี่ยวกับที่เราเพิ่งไปดูมามันก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่นะคะ  "  เธอเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะหัวเสียไม่น้อยก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินปึงปังกลับไปโต๊ะทำงานของตัวเอง  เธอถอนหายใจออกมาก่อนจะบ่นงึมงัมกับตัวเอง

    "  เพราะแบบนี้ไงคะถึงบอกให้ส่งเป็นไฟล์เอกสารมาทางอีเมลก่อนค่อยปริ้นมาให้  "

    ex.5/

    "  คุณ [7] คะกาแฟค่ะ  "   มือเล็กวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ ก่อนที่สายตาจะไปสังเกตเห็นกองเอกสารที่ดูระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ ชิโนบุตัดสินใจเกินไปจัดกองเอกสารให้กลับมาเป็นระเบียบอีกครั้ง  "  กาแฟหวานไปมั้ยคะ  "

    หญิงสาวเอียงคอถามอีกฝ่ายอย่างสงสัยเมื่อได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าเธอก็ถึงกับยิ้มแป้นออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะขอตัวออกไปทำงานต่อ อย่างน้อยวันนี้ชิโนยุก็มีกำลังใจในการทำงานเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าแล้วล่ะ


    อุปนิสัย : 

              ❁   shinobu   amaterasu   

    like a hamster ?                            

              ชิโนบุเป็นหญิงสาวที่ร่าเริงและสดใส เธอเปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ดวงน้อยๆที่สร้างบรรยากาศสดใสให้กับคนรอบๆตัว  Happy virusเดินได้ดีๆนี่เอง  สาวเจ้าเป็นคนที่ใครๆเห็นก็บอกว่าน่ารักน่าเอ็นดูไม่ว่าจะน่าตาหรือนิสัย ลักษณะการพูดที่น่าฟัง รวมถึงท่าทางต่างคนก็บอกว่าเธอเป็นคนที่น่าเข้าหา ใบหน้าใสมักจะมีรอยยิ้มประดับอยู่เสมอ เธอคิดว่ารอยยิ้มจะทำให้คนรอบข้างสบายใจเลยชอบยิ้มอยู่เสมอ  เมื่อถึงยามที่ได้พูดหญิงสาวก็เหมือนกับหนูแฮมสเตอร์ตัวเล็กๆ พวงแก้มยุ้ยเสริมความน่ารักในตอนที่พูดใช่ย่อย ชิโนบุเป็นคนพูดเก่งอยู่ด้วยแล้วไม่อึดอัดสามารถต่อบทสนทนาได้อย่างไม่ขาดตอน ยิ่งถ้าถามเรื่องที่เธอชอบแล้วล่ะก็เธอจะพูดจ้อไม่หยุด เธอเป็นคนที่รู้จักพูด มีวาทศิลป์ที่ดี รู้จักการเลือกใช้คำในการพูดการจา เธอชอบเข้าหาผู้คนทำให้เธอรู้จักหรือคุ้นหน้าคนเยอะแม้จะจำชื่อไม่ได้แต่ก็เป็นคนที่จำหน้าคนเก่ง มีเสน่ห์ที่ดึงดูดคนอายุน้อยกว่ามาเข้าหา เป็นคนที่เด็กน้อยชอบเข้ามาเล่นด้วยแถมยังเข้ากับเด็กได้อีกด้วยแต่คนนอกที่มองเข้ามานั้นก็จะคิดว่าเป็นเพื่อวัยเดียวกันเล่นกันแทน--  ถึงจะมีเด็กเข้าหาอยู่บ่อยๆแต่พอเจอคนที่ตัวสูงร่างยักษ์มาหาที่ไรก็ตัวสั่นเป็นลูกเจี๊ยบทันทีแต่เธอจะเป็นแบบนี้เฉพาะกับคนแปลกหน้าเท่านั้น ท่าทางที่พูดเก่งนั้นจะพลันหายเป็นท่าทางที่เจียมเนื้อเจียมตัวทันที

              ชิโนบุนั้นเป็นที่ระบายและรับฟังของคนอื่นที่ดีรวมถึงการที่ปลอบใจคนอื่นนั้นเธอเก่งเป็นที่ 1 เลยล่ะ เก่งในการให้กำลังใจและชื่นชมคนอื่นอยู่เสมอ เธอเป็นคนที่ไว้ใจได้ดังนั้นความลับอะไรที่ฝากฝังเก็บไว้กับเธอนั้นจะถูกปิดปากเงียบทันทีเพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องเป็นกังวลว่าความลับจะรั่วไหลไปไกลได้เลย เธอชอบบอกว่าตัวเองเป็นเหมือนกับถังขยะเพราะงั้นระบายเรื่องแย่ๆกับเธอได้เลยจึงมีบางครั้งที่เผลออินไปกับเรื่องราวของอีกฝ่ายหากเป็นเรื่องเศร้าบางทีชิโนบุก็จะร้องไห้ตามไปเลยก็ได้ เป็นที่ปรึกษาที่ดีพร้อมให้คำแนะนำกับคนอื่นเสมอรวมถึงเรื่องความรัก แม้ตัวเองจะเอาตัวไม่รอดเพราะ [ 7 ] นั้นบื้อเอาการแต่ถามว่าเธอจะทำยังไงกับนายคนนี้ต่อ คงต้องบอกว่า "  ฉันก็หมดมุกแล้วล่ะค่ะ "  ชิโนบุเป็นคนที่เข้าใจมุขยากทำให้เวลาที่เพื่อนเล่นมุขแล้วขำกันลั่นเธอก็จะทำแค่ยิ้มแล้วหัวเราะแหะ แต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายของมุกนั้นอยู่ดี ส่วนเรื่องมุขของชิโนบุคงต้องเรียกได้เลยว่าโนแจม เพราะมันโคตรฝืดเลยล่ะถ้าเทียบก็คงเหมือนมุกคนแก่ที่เขาเล่นกันไปแล้วเมื่อสามชาติเศษด้วยเหตุนั้นเธอเลยเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าเล่นมุกเท่าไหร่เพราะกลัวบรรยากาศจะแห้งไปเสียก่อน  สกิลความสามารถในการพูดคนเดียวนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลยบางทีก็เผลอพูดความที่คิดออกมาโดยไม่รู้ตัวจนเป็นท่าทีที่น่าเอ็นดูใช่ย่อย

              god of Ambush                            

              ความซุ่มซ่ามนั้นคือสิ่งที่ใครๆก็พูดถึงเธอ ชิโนบุเป็นผู้หญิงที่ซุ่มซ่ามมาตั้งแต่เด็กๆแล้วเพราะฉะนั้นคงไม่แปลกที่จะมีรอยแผลเป็นจางๆที่หัวเข่าที่เกิดมาจากที่ล้มหน้าขมำตอนที่วิ่งไปดูพลุตอนงานเทศกาลที่หน้าบ้านแต่ก็ดันไปสะดุดขาตัวเองเอาเสียได้ สรุปแทนที่จะได้ดูพลุก็ต้องมาร้องไห้ให้คุณย่าทำแผลให้แทน แถมความซุ่มซ่ามที่กู้ไม่กลับแล้วตอนนี้นั้นก็ลามมาถึงตอนโตที่เข้าออกห้องพยาบาลเป็นว่าเล่น บางทีก็ลื่นพื้นบ้าง ทำมีดปาดมือบ้างเพราะเหม่อ  ชิโนบุเป็นคนขี้เหม่อชอบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเผลอไปชนคนอื่นเขาจนของกระจัดกระจายไปทั่ว เพราะรู้นิสัยของตัวเองเวลาโดนใช้ให้ถือขอสำคัญเลยจะชอบไปขอให้คนอื่นช่วยอยู่เสมอเพราะไม่ไว้ใจตัวเองให้ไปถือของสำคัญแบบนั้น  มีสกิลปฐมพยาบาลเบื้องต้นติดตัวมาจากความซุ่มซ่ามไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นเรื่องดีหรือยังไงดีได้อย่างเสียอย่างล่ะมั้ง  เป็นคนมือเบาค่อนข้างมากดังนั้นเวลาทำแผลหรืออะไรก็สบายใจได้เลยว่ามันจะไม่เจ็บถ้าเป็นคนถึกหน่อยก็จะงงว่าเธอทำอยู่เหรอ เวลาทำแผลนั้นชิโนบุจะจดจ่อชนิดที่ว่าใครเรียกก็ไม่ได้ยินเพรากลัวจะเผลอพลาดไปทำให้อีกฝ่ายเจ็บแต่ก็จะเป็นเฉพาะกับแผลของคนอื่นเท่านั้น พอเป็นของตัวเองนั้นทันทีก็ที่มีคนเรียกก็จะรีบหันควับไปหาทันทีจนบางทีก็มือลั่นทาแอลกอฮอล์ไปตรงแผลเอาเสียเลย  

              ความมือเบานั้นพวงมาด้วยเรี่ยวแรงที่น้อยนิดเหมือนกับส่วนสูง-- เธอใช้ชีวิตกับการที่ต้องทะเลาะกับกระปุกแยมเสมอเพราะเธอเปิดมันเองไม่เคยได้ซักที แถมเธอยังเป็นผู้หญิงที่เหนื่อยง่ายอีกด้วยเพราะตอนเด็กๆนอกจากชั่วโมงพละแล้วชิโนบุก็ไม่ได้ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอีกเลย ถามพูดถึงการวิ่งนั้นเธอน่ะวิ่งไปหอบไปแถมยังช้าเป็นเต่าอีกด้วย ชิโนบุที่ได้เกรดดีทุกวิชานั้นยังต้องยอมแพ้ให้กับวิชาพละอย่างไม่หาทางสู้ต่ออีกด้วย ชิโนบุขอยกธงขาวยอมแพ้ต่อสิ่งนี้  ขี้เป็นห่วงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ หากให้แยกเปอร์เซ็นต์ของความเป็นห่วงแล้วล่ะก็ 90 เปอร์เซ็นต์นั้นไม่ใช่เรื่องของเธอเลย จริงอยู่ที่เธอเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีแต่กลับถึงเวลาคับขันจริงๆเธอมักจะถามไถ่ความปลอดภัยของคนอื่นก่อนเสมอ ขี้กังวลพอสมควรแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปมากเท่าไหร่มักจะเก็บไว้ในใจ แม้จะเป็นที่ปรึกษาให้กับคนอื่นได้ดีแต่เพราะนิสัยที่ไม่ชอบทำให้ใครเป็นห่วงเท่าไหร่นักเลยไม่ค่อยจะระบายความรู้สึกหรือปรึกษาใครเท่าไหร่

              fragile but strong                  

              ชิโนบุเป็นผู้หญิงที่มีอารมณ์ที่อ่อนไหวแต่ก็แข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน เธอมักจะทำตัวเองให้เข้มแข็งอยู่เสมอแม้จะรู้สึกแย่แค่ไหน  แม้สีหน้าหรืออะไรจะบอกว่าไม่ไหวแล้วแต่เธอก็ยังจะฝืนทำเป็นว่าไหวอยู่ดี ของเสียของเธอคงเป็นคนที่ชอบฝืนตัวเองอยู่เสมอ ไม่ไหวบอกไหว  แม้ตัวเองจะไม่สบายเปื่อยเป็นผักแค่ไหนก็จะขอมาทำงานที่ต้องทำให้เสร็จก่อนค่อยไปพักจนมักจะโดนคนรอบๆตัวดุอยู่บ่อยๆ  แต่ชิโนบุก็มีฤทธิ์ดื้ออยู่เหมือนกันไม่จะโดนไล่ไปพักผ่อนสาวเจ้าก็ดื้อรั้นบอกว่าไหวๆอยู่ตลอด แต่ถ้าเอาเข้าจริงถ้า [ 7 ] บอกให้ไปชิโนบุก็พร้อมจะทำตามคำสั่งด้วยท่าทีที่ง่อยๆ  เธอไม่ใช่คนที่เก็บอารมณ์ท่าสีหน้าได้ดี รู้สึกอะไรก็แสดงออกไปอย่างไม่รู้ตัว ทั้งเวลาดีใจก็จะยิ้มแป้นเหมือนกับเด็กๆ เวลาเสียใจแม้จะไม่ร้องไห้ออกมาก็จะซึมเป็นแมวอดข้าว  ชิโนบุเป็นผู้หญิงที่ถือว่าเป็นคนที่มีความใจเย็นสูงไหลเป็นน้ำที่นิ่งสงบอันดับต้นๆของแก๊งค์ เธอมักจะเป็นคนที่ไปไกล่เกลี่ยเวลาคนในแก๊งค์ทะเลาะกันมักจะชวนให้ทั้งสองมานั่งกอดเข่าคุยกันปรับความเข้าใจกันแม้ว่าเจ้าหล่อนจะไม่ได้วิ่งไปห้ามตอนเขาตีกันตอนแรกเพราะถึงเธอจะไปก็ทำอะไรไม่ค่อยได้หรอก ในตอนที่ทั้งสองสงบกันแล้วเธอจะเป็นคนโน้มน้าวให้ทั้งสองมานั่งทำความเข้าใจเป็นด่านสุดท้ายเอง เธอไม่ชอบที่จะเห็นคนรอบตัวมาทะเลาะกันเองมากนัก

              แน่นอนว่าชิโนบุเป็นคนโกรธยาก น้อยครั้งที่เธอจะรู้สึกโกรธแต่ตั้งแต่มาเมืองนี้เธอก็ยังไม่เคยโกรธให้ใครเห็นเลยคงเป็นเพราะชิโนบุเป็นคนที่มีความอดทนสูงมากพอสมควร หากเธอโกรธจริงๆหญิงสาวก็จะทำเพียงแค่นิ่งเงียบและไม่คุยหรือยุ่งกับคนนั้นน้ำเสียงที่เคยดูสดใสเวลาพูดด้วยก็จะเปลี่ยนมานิ่งแทนจนน่าแปลกใจ เธอไม่ใช่คนที่โกรธแล้วจะอาละวาดแต่เพียงมันจะดูน่าอึดอัดเองเพราะโดยปกติแล้วบรรยากาศรอบตัวของเธอนั้นจะผ่อนคลายมากๆไม่มีความอึดอัดเลยแม้แต่น้อยแต่พอท่าทางการกระทำนั้นดูเฉยชากว่าเดิมก็เสริมให้บรรยากาศที่ควรจะสดใสนั้นเปลี่ยนเป็นความอึดอัดแบบแปลกๆแทน สิ่งที่เห็นได้ชัดอีกหนึ่งอย่างของชิโนบุนอกจากบรรยากาศที่เปลี่ยนไปแล้วก็คือใบหน้าที่เรียบนิ่งตึงใส่คนๆนั้นมันเครื่องหมายชั้นดีที่ทำให้รู้ว่าเธอโกรธอีกฝ่ายอยู่

              ชิโนบุไม่เคยปฏิเสธว่าตัวเองก็มีความขี้กลัวอยู่เหมือนกัน การเข้ามาอยู่ในเมืองนี้ทำให้เธอต้องปรับตัวอะไรหลายๆอย่างอยู่เหมือนกันแต่ในเมื่อมันเป็นงานเธอก็ต้องข่มความกลัวเอาไว้ในใจ แต่ถ้าถึงในสถานการณ์ที่กระตุกต่อมความกลัวของชิโนบุแล้วหากได้ลองจับมือของหญิงสาวจะรู้ได้เลยว่ามันเย็นเฉียบแล้วสั่นไหวเพียงไหนแต่เพราะพออยู่ในสถานการณ์นั้นชิโนบุจะมีนิสัยที่ชอบกำมือตัวเองไว้แน่นแถมถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆแล้วก็คงไม่มีใครมาสังเกตมือของเธอเท่าไหร่หรอก และชิโนบุก็ไม่เคยปฏิเสธว่าลึกๆแล้วบางครั้งเธอก็มีความกลัวให้กับ [ 7 ] อยู่ ทำไงได้อีกฝ่ายเป็นถึงบอสของนัวร์มาเฟียที่ได้ชื่อว่าไร้ความปราณีจึงเป็นเรื่องปกติที่ถึงแม้จะชอบเขาแค่ไหนก็มีบางมุมที่รู้สึกกลัวเหมือนกัน แต่การมาทำงานกับเขาก็ทำให้เธอมีความกล้าหาญมากขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่าเลย หากเธอยังเป็นแค่เด็กขี้กลัวเธอก็คงไม่มีวันมายืนข้างๆอีกฝ่ายจนบางทีก็ชวนเขาคุยรวมถึงเตือนหรือดุเขาในบางเรื่องด้วยเพราะเธอคิดว่าถ้าไม่นับเรื่องที่เป็นคนที่ค่อนข้างไร้ความปราณีแล้วเขาก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่เธอหลงรักไปแล้ว

              สิ่งที่เธอไม่อยากให้ใครเห็นก็คือน้ำตาเพราะเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรร้องไห้ออกมาให้คนอื่นรู้สึกไม่สบายใจเวลามองมา หรือรู้สึกแย่ตามเธอไปดังนั้นสิ่งที่เธอมักจะทำคือกลั้นมันเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา เธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่อ่อนแอเป็น เจ็บปวดเป็น เศร้าเป็นแค่เพียงไม่อยากทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีเท่านั้น การฝืนยิ้มเป็นสิ่งที่ชิโนบุทำอยู่บ่อยๆเวลามีคนถามเธอว่า " เป็นอะไรมั้ย "  เธอไม่อยากให้ใครคิดมาเรื่องเธอหรือเป็นห่วงเธอนักแต่ถึงกระนั้นมันก็มีความย้อนแย้งในใจอยู่เหมือนกัน ว่าในขณะที่ไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วงก็มีความรู้สึกที่ต้องการความอบอุ่นยามที่เธอโดดเดียว ความรู้สึกมนุษย์เป็นสิ่งที่เข้าใจยากเธอรับรู้ข้อนั้นดี

              ขี้ตกใจเหมือนกับกระต่ายเพราะเหตุนี้ทำให้เจ้าหล่อนโดนเพื่อนแหย่เล่นบ่อยมาก เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยระวังตัวเวลาอยู่กับเพื่อนหรือคนที่ไว้ใจจึงเป็นจุดอ่อนที่ทำให้โดนแหย่เล่นบ่อยครั้ง แถมเวลาเธอโวยวายกลับมามันน่ารักใช่ย่อยเลยการที่เธอพยายามให้ตัวเองดูน่ากลัวหรือดูดุน่ะมันน่าเอ็นดูเอาเสียมากๆ

              girlzzzzz                           

             เธอเป็นผู้หญิงที่ถึงจะตัวเล็กแต่ก็อบอุ่นมากๆ อ่อนโยนและใส่ใจคนอื่นอยู่เสมอแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนมาใส่ใจเรื่องนี้ด้วย ชิโนบุเป็นผู้หญิงที่ละเอียดอ่อนและค่อยเป็นค่อยไป เธอชอบที่จะเทคแคร์ดูแลคนอื่นอยู่เสมอ แม้จะดูป้ำๆเป๋อๆไปบ้างแต่เรื่องความใจอกใจดีนั้นไม่แพ้ใครเลยจริงๆ  เธอจริงใจต่อคนรอบข้างของเธอเสมอ อย่างน้อยเธอก็เป็นคนที่เติมความสดใสเข้ามาในแก๊งค์นัวร์ที่ภายนอกดูโหดร้ายล่ะนะ  เธอเป็นผู้หญิงที่มีพลังงานบวกแผ่ให้คนรอบข้างบางทีเวันดีคือดีเธอก็เกิดอารมณ์ชาลาล่าขึ้นมาง่ายๆ เธอไม่ใช่คนที่ถือตัวเอนไปทางติดดินด้วยซ้ำ เรียบง่ายและไม่ติดหรู ชิโนบุมีความเป็นกุลสตรีในตัวสูงเพราะโดนเลี้ยงดูโดยคุณย่าตั้งแต่ยังเล็กการที่โดนสอนอะไรที่ผู้หญิงจ๋ามันจึงเป็นเรื่องปกติเอาเสียมากๆ เธอเป็นคนที่รักความสะอาดและชอบทำงานบ้านเอาเสียมากๆ สำหรับเธอมันเหมือนกับงานอดิเรกถ้าไม่มีอะไรทำจริงๆอยู่ที่ทำงานชิโนบุก็สามารถถือไว้กวาดมากวาดได้ เธอรู้สึกว่ามันทำให้เธอไม่ต้องคิดมากแถมยังผ่อนคลายเอามากๆด้วย  หรือเย็บปักถักร้อยนี่เรียกได้เลยว่าชำนาญ เซียนการสนด้ายเข้าเข็ม---  ชิโนบุมีค่อนข้างมีฝีมือในการทำอาหารญี่ปุ่นและชอบที่จะทำมัน รวมไปถึงทางด้านในการทำขนมส่วนพวกอาหารยุโรปหากมีสูตรวิธีการทำเธอก็พอทำได้  มีทัศนคติที่ดีและมองโลกในความเป็นจริง

              work work work work work    

            ชิโนบุเป็นคนที่ขยันและทำงานเก่ง ทุกงานที่ได้ผ่านมือเธอก่อนไปถึง [ 7 ] นั้นมันจะต้องเนี๊ยบทุกระเบียบนิ้ว งานใดๆที่ได้มอบหมายให้กับชิโนบุนั้นจะออกมาดีจนน่าพอใจทุกเมื่อ  ใครๆก็บอกว่าเธอเป็นคนเข้มงวดกับเรื่องงานเป็นที่หนึ่งนี่เธอไม่เถียง เพราะเธอชื่อว่างานที่ทำออกมาดีนั้นมันมักจะได้ผลรับที่ดีเช่นเดียวกัน และอีกสิ่งที่หลายๆคนถูกใจในการทำงานของชิโนบุนั้นก็คือการเรียนรู้ที่เร็วและไม่จำเป็นต้องมาสอนซ้ำสอง ในตอนแรกที่มาชิโนบุยอมรับว่าตัวเองเป็นพวกโลวเทคโนโลยีในระดับหนึ่ง ตอนที่มาเธอก็ยังงงๆว่าโปรแกรมพวกนี้มันทำยังไงนะแต่เธอเป็นพวกที่กล้าถามเรื่องที่ตัวเองไม่เข้าใจเลยจะเดินไปถามวิธีการใช้กับคนนู้นคนนี้ เธอเป็นคนที่กระตือรือร้นในการทำสิ่งใหม่จึงไม่แปลกใจที่วันถัดมาชิโนบุจะมาพร้อมกับหนังสือวิธีการใช้แถมตอนกลับบ้านไปก็ยังไปฝึกใช้อีกต่างหาก หญิงสาวเป็นคนที่ขยันทำงานและจะไม่สบายใจเวลามีงานไม่เสร็จถ้าไม่เสร็จไม่กลับแต่ก็รู้ลิมิตตัวเอง เลิกงานคือไม่พูดเรื่องงานนะคะไม่รับรู้ เธอจะฝืนตัวเองทำงานเฉพาะงานเร่งเท่านั้น  แยกแยะเวลางานกับเวลาพักออกอย่างชัดเจนดังนั้นถ้าเลิกงานแล้วชิโนบุจะไม่ขอรับรู้อะไรเรื่องงานแล้วพอมีคนมาถามเธอมักจะยิ้มและบอกให้อีกฝ่ายไปพักผ่อนเถอะ

              เธอเป็นคนฉลาดรู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แถมยังเปิดรับความรู้ใหม่เสมอๆนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้คนที่โลวเทคแบบเธอกลับกลายมาเป็นคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้สบายและคล่องอีกด้วย ชิโนบุเป็นคนที่จัดระเบียบตารางการใช้ชีวิตได้ดี เวลาไหนควรทำอะไรงานเก่างานใหม่งานเร่งอันไหนต้องทำก่อน แถมเรื่องจัดเอกสารการบัญชีอะไรต่างๆขอแค่โยนมาให้ชิโนบุหญิงสาวก็พร้อมทำ แต่เธอคนไม่รับงานฝากทำจากคนอื่นแม้จะใจดีแค่ไหน งานใครงานมันแค่นี้ก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเลยค่ะ  ชิโนบุผู้หญิงที่มีหัวศิลป์เธอชอบที่จะวาดรูปแถมเรื่องการออกแบบนี่เธอมักจะออกความคิดเห็นได้อยู่เรื่อยๆ  เธอค่อนข้างมีความสุขกับการทำงาน และในขณะเดียวกันสิ่งเล็กๆน้อยๆก็ทำให้เธอมีความสุขได้

              japan                               

              ชิโนบุชื่นชอบวัฒนธรรมและประเทศญี่ปุ่นจริงๆนะ คลั่งใคล้เรื่องราวต่างๆทั้งสิ่งลี้ลับ ความสวยงาม เทศกาลต่างๆ ชุดกิโมโน หรือแม้กระทั้งประวัติศาสตร์เธอชอบมากๆเลยล่ะ เธอรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์เอามากๆ ชิโนบุชอบอ่านมังงะแนวรักโรแมนติกเอาเสียมากๆ จนบางทีก็แอบเป็นคนที่ขี้เพ้อ หากชิโนบุอ่านมังงะแล้วเผลอคิดไปถึง [ 7 ] ว่าถ้าสถานการณ์ในเรื่องมันเป็นเธอกับ [ 7 ] มันจะเป็นยังไงหากอยู่ห้องเธอก็คงจะกรี๊ดอัดหมอนไปแล้ว เธอชอบอ่านนิยายและดูอนิเมะและชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากพอๆกับอ่านมังงะเลยล่ะ ความตั้งแต่วัยเด็กของเธอคือการเป็นเลเยอร์คอสเพลย์มืออาชีพ จากการที่เธอเคยไปเที่ยวแล้วเธอผู้คนแต่งตัวตามตัวละครที่เธอชอบมันเหมือนเป็นแรงกระตุ้นความฝันเบื้องลึกของเด็กสาวด้วย  เพราะงั้นการเสพตัวการ์ตูนที่ชอบแล้วมันมโนคีพคาร์แรคเตอร์หน้ากระจกจึงเป็นสิ่งที่เธอทำบ่อยพอทำแล้วก็เขินแล้ววิ่งไปมุดเตียงแทน แต่พอมาที่เมืองนี่แล้วเธอกลับต้องทำแบบลับๆแต่เพราะความเขินของตัวเอง  ตลอดมาชิโนบุมักจะฝึกแต่งหน้าแล้วลองเขียนแบบตัดเย็บเสื้อเองเสมอจนกลายเป็นงานอดิเรก  เธอน่ะเป็นโอตาคุน้อยดีๆนี่เอง

              like him                         

              ชิโนบุไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองชอบ [ 7 ] ตั้งแต่ตอนไหนแต่รู้ตัวเองทีเธอก็เผลอใจสั่นกับท่าทางเล็กๆน้อยๆของเขาไปเสียแล้ว  มีหลายรอบที่เธอเขินออกนอกหน้านอกตาแต่เจ้าคุณเขาก็ดันซื่อบื้อจนเกินไปจนไม่รู้ว่าเธอเขินอยู่จนแอบเอามานั่งคิดนั่งกังวลกับตัวเอง  ชิโนบุเป็นคนซื่อสัตย์เอาเสียมากๆเธอไม่เคยโกหกให้กับเขาหรือแก๊งค์เลยแม้แต่น้อยเพราะไม่เคยโกหกเลยเป็นคนโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย  เธอชอบที่จะดูแลผู้ชายคนนี้แม้อีกฝ่ายจะไม่รู้ว่าใจจริงเธอคิดยังไงกับเขาก็ตาม  เธอสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นคนที่ให้เธออารมณ์ดีได้แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตาม  การที่ชอบ [ 7 ] ถามว่ามีบางครั้งที่เจ็บมั้ยมันก็มีจนบางทีเธอก็เคยท้ออยากจะเลิกชอบเหมือนกันเพราะการกระทำบางอย่างของเขาก็กระเทือนหัวใจเล็กๆของเธอเหมือนกันนะแต่วิถีของคน move on ไม่ได้คือชอบเขาต่อไปไงคะ--  เธอยังไม่กล้าที่พูดความรู้สึกตัวเองออกไปตรงๆเลยทำได้แค่ยืนอยู่ในสถานะคนแอบชอบเขาตรงนี้ สำหรับชิโนบุการที่ได้ยืนข้างๆเขาแบบนี้มันก็มีความสุขไปอีกแบบด้วยซ้ำ


     

    ประวัติ : 

    "  ฉันไม่ต้องการเด็กผู้หญิง  "

    น้ำเสียงเย็นเฉียบของหญิงสาววัยกลางคนในชุดกิโมโนสีเรียบพูดกับชายหนุ่มและหญิงสาวตรงหน้า บรรยากาศในห้องมันดูเย็นยะเยือกเอาเสียมากๆ  ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนนั้นเรียบนิ่งจนเดาความคิดไม่ได้ อามาเทราสึ ไคจิ ผู้เป็นพ่อของเด็กหญิงที่เพิ่งเกิดในเบาะนอนที่อยู่ไม่ไกลนักหน้าซีดไม่ต่างกับหญิงสาวข้างกาย 

    "  ต-แต่คุณแม่คะ..  "

    "  ไม่มีแต่อะไรทั้งสิ้น  "

    "  ฉันจะให้พวกแกถอนหมั้นกันพรุ่งนี้  "  สิ้นคำพูดของหญิงในชุดกิโมโน ไคจิก็รีบค้านทันที

    "  จะให้เด็กคนนี้โตมาแบบครอบครัวไม่สมบูรณ์หรือครับ เธอเป็นหลานสา---  "

    "  มันไม่ใช่หลานฉัน  "  เนื้อเสียงที่แต่เดิมเย็นชาอยู่แล้วก็ยิ่งเย็นชาหนักไปกว่าเดิม ความไร้ปราณีแสดงออกมาทางสายตาของเธอ

    "  แกจะเอาไปทิ้งหรือทำอะไรก็เชิญแต่ลูกสาวฉันห้ามไปยุ่งเกี่ยวใดๆทั้งสิ้น  "  ว่าเสร็จหญิงวัยกลางคนก็ลุกเดินออกไปทันที ผู้เป็นแม่ของเด็กสาวร่ำไห้ออกมาโดยที่มีไคจิปลอบอยู่ข้างๆ เธอคลานเขาไปอุ้มเด็กสาวที่นอนอยู่ที่เบาะมาอยู่ในอ้อมแขน

    "  ชิโนบุแม่ขอโทษลูก แม่ขอโทษ  "  ผู้เป็นแม่พร่ำขอโทษเด็กสาวในวัยไม่กี่เดือนพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มไม่หยุด เธอรับรู้ดีหากผู้เป็นแม่เอ๋ยปากเด็ดขาดเรื่องอะไรแล้วจะไม่มีวันผ่อนปรนแน่นอน ไคจิเข้ามาลูบหลังภรรยาที่ร้องไห้อยู่ 

    "  ผมจะเลี้ยงเธอเองคุณไม่ต้องห่วงนะ  "  ใบหน้าของชายหนุ่มพยายามระบายยิ้มออกมาเพื่อให้คนที่เป็นที่รักสบายขึ้นแม้เขาอยากจะอาละวาดแล้วก็ตามที หญิงสาวใบหน้าสะสวยที่กำลงัร้องไห้อยู่สะดุ้งเฮือกเมื่อคนที่เป็นแม่เรียกตัวไปแล้วไล่ไคจิและเด็กสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรบนโลกออกไปอย่างไม่ใยดี สำหรับหญิงในชุดกิโมโนแล้วตระกูลอามาเทราสึเป็นตระกูลที่หล่อนไม่ชอบมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งจะมาขอแต่งงานกับลูกสาวของหล่อนแล้วล่ะก็ยิ่งพาลให้เธอไม่ชอบไปกันใหญ่

    ไคจิไม่เอ๋ยปากพูดอะไรอีกให้มากเพราะดูจากใบหน้าของหญิงวัยกลางคนแล้วหากเขาพูดอีกหล่อนคงจะเกิดความรำคาญใจเป็นแน่ ชายหนุ่มอุ้มร่างลูกน้อยขึ้นมาอย่างใบมือ ก่อนจะค้อมศรีษะให้กับหญิงสาวพอควรแล้วพาเด็กสาวขึ้นรถไป แม้ใจจะเจ็บปวดและอยากจะขอโทษเด็กน้อยที่เขาให้กำเนิดขึ้นมาที่ให้มาเจอเรื่องราวแบบนี้เพียงไหน แต่ในฐานะพ่อเขาจะไม่ให้เด็กคนนี้ขาดหายอะไรในชีวิตเด็ดขาด 

    //////////

    ตั้งแต่จำความได้ชิโนบุไม่เคยเห็นแม่ของตนเองเลยตลอดมามีเพียงแค่พ่อและย่าที่เลี้ยงดูเธอมาเธอเกิดและโตที่จังหวัดมิยางิ   อามาเทราสึ ไคจิ คุณพ่อผู้แสนใจดีของเธอทำงานเป็นหัวหน้าวิศวกรไฟฟ้าอยู่ที่โตเกียวทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยมากนักแต่ชายคนนี้ก็จะกลับบ้านทุกครั้งที่มีเวลาหรือในช่วงงานเทศกาลแถมยังส่งเงินค่ากินค่าอยู่มาไม่ขาด สถานะที่บ้านของเธอนั้นอยู่ในระดับปานกลางไปในทางดีเพราะตำแหน่งการทำงานที่สูงของไคจิ ถึงอย่างนั้นคุณย่าของเธอก็เลี้ยงดูเธอแบบมัธยัสถ์ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็นให้เท่าไหร่ เพราะเหตุนั้นตั้งแต่เด็กชิโนบุจึงหัดเก็บเงินและคิดหน้าคิดหลังก่อนซื้ออะไร บ้านของชิโนบุเป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆและหน้าบ้านคุณย่าก็ได้ทำการเปิดร้านขายขนมเล็กๆด้วย  แม้เธอจะไม่เคยเห็นแม่มาตั้งแต่จำความได้แต่ชิโนบุก็ไม่ได้อยากจะไซร้ถามอะไรมากเพราะสีหน้าที่ไม่สบายใจของผู้เป็นพ่อ ที่แสดงออกมาในยามที่เธอเอ๋ยปากถาม

    .

    "  พ่อคะคุณแม่ล่ะคะ  "  ชิโนบุวัย 5 ขวบเริ่มที่จะตั้งคำถามนี้ด้วยใบหน้าที่ซื่อบริสุทธิ์แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็มีเพียงแค่สีหน้าลำบากใจของคุณย่ากับใบหน้าฝืนยิ้มขอคนเป็นพ่อ เด็กสาวในวัยนั้นไม่สามารถรู้ได้ว่าการยิ้มของพ่อมันเป็นรอยยิ้มที่ฝืนปั้นขึ้นมาให้เด็กสาวสบายใจ

    "  พรุ่งนี้ไปงานเทศกาลที่ศาลเจ้ากับพ่อมั้ยลูก  "  และคำถามที่เด็กน้อยถามก็ถูกปัดตกไปอีกครา

    ทุกวันปีใหม่เด็กสาวมักจะถามอยู่เสมอว่าผู้เป็นแม่หายไปไหนจนถึงอายุ 18 พ่อขอเธอตัดสินใจที่จะบอกแม้เด็กสาวจะไม่ได้ไซร้ถามทุกวันแถมจะถามเฉพาะวันปีใหม่ที่บรรดาญาติมาอยู่กันครบขาดแต่ผู้เป็นมารดาของชิโนบุเอง  ตอนที่ได้รู้ชิโนบุในวัยนั้นก็รู้สึกแย่เหมือนกันแต่ก็เลือกที่จะยิ้มขึ้นมาเพื่อให้ผู้เป็นพ่อสบายใจขึ้นอีกเฮือกหนึ่ง

    "  พ่อไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นก็ได้ค่ะ พ่อไม่ได้ผิดซักหน่อยแถมพ่อกับคุณย่ายังเลี้ยงให้หนูโตได้เท่านี้เลยนะ  "  รอยยิ้มอันสดใสประดับขึ้นมาบนใบหน้าของเด็กตัวเล็กดังทุกที

    .

    .

    "  เอ..  "  หลังจากที่พ่อกลับโตเกียวไปได้ไม่กี่วันเธอก็เริ่มกลับมาคิดกับตัวเองแล้วว่าควรทำอย่างไรกับตัวเองดีหลังจากนี้เพราะเธออยากจะเปิดโลกใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง ใจหนึ่งก็อยากเป็นเลเยอร์คอสเพลย์อยู่ที่ญี่ปุ่นแต่ใจหนึ่งก็ต้องการเงินแถมเธอยังต้องเรียนมหาลัย ใช่! มหาลัยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้หากอยากได้เงินเดือนเยอะๆให้คุณย่ากับพ่อเธอต้องเรียนมหาลัยให้จบจนนึกถึงเมืองๆหนึ่งขึ้นมาในหัว

    ใช่สิ..เขาว่ากันว่าเมืองนั้นมันดีนี่นา

    .

    .

    ชิโนบุในวัย 18 ปีก็ได้เริ่มมาอยู่ที่เหมือนนี้ ตอนแรกเธอก็ไม่คิดหรอกว่าเมื่อนี้มันจะอันตรายไม่น้อยแบบนี้...อ่า..เด็กน้อยช่างไม่รู้อะไรเสียแล้วแต่เจ้าหล่อนก็ดันมาไกลจนเกินกว่าจะถอยไปแล้ว สิ่งที่อยู่รอดได้ในช่วงแรกๆคือการทำตัวเองให้ จาง ที่สุด  ตอนที่เธอเรียนก็ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของแก๊งค์ไดโนซอร์ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็คงจะทำตัวจางๆต่อไปเพื่อชีวิตที่สงบสุข จนมีคนรู้จักมาแนะนำงานให้คงเป็นความสะเพร่าของเธอที่ไม่รู้ว่างานที่เพื่อนแนะนำมันคือการเป็นเลขาของบอสนัวร์มาเฟีย น่าแปลกที่ตั้งแต่เธอเจอ [ 7 ] ครั้งแรกมันก็เหมือนกับเด็กสาววัยแรกแย้มที่เกิดอาการรักแรกพบกับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก 

    โดคิ โดคิเลยล่ะค่ะ


    /loading--


     

    ชอบ :

         -  [ 7 ] :  ถ้าถามเหตุผลว่าทำไมเธอก็คงจะบอกว่า ไม่รู้ ได้เต็มปากแม้เจ้าตัวจะบื้อไปหน่อย แต่การกระทำที่ไม่รู้ตัวนั้นมันมีเสน่ห์สำหรับเธอมาก สำหรับเธอแล้วมักจะมีปฏิกิริยาที่ไม่เหมือนกันเลยซักรอบ เดี๋ยวเขิน เดี๋ยวงอนถามว่าเขาสนมั้ย ก็ไม่----

         -  ทะเล :  เพราะมิยางิจังหวัดที่เธออยู่มีแต่ภูเขาทำให้เธอไม่เคยไปทะเลเลยซักครั้ง อยากได้เห็นแล้วเธอก็คงจะเหมือนเด็กๆที่ได้ไปทะเลครั้งแรกก็เป็นได้

         - วัฒนกรรมญี่ปุ่น :  มันคงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะคลั่งไคล้เรื่องนี้แต่มันดันคลั่งมากไปหน่อย หากเจอเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลญี่ปุ่นที่น่าสนใจแล้วชิโนบุก้คงจะหาให้มันลงลึกไปอีกเยอะๆเลย

         - ชุดกิโมโน :  เธอชอบในขั้นสะสมไปแล้ว หากได้เจอผ้าลายสวยๆแล้วล่ะก็ดวงตสีหวานของเธอคงเป็นประกายไม่น้อยแถมยังอดใจไม่ได้ที่จะขอลงแรงจ่ายตังไปหน่อยซักชุดสองชุดเดี๋ยวก็ได้ใส่เองแหละ ---

         - โมจิ  :  ความเหนียวนุ่มยืดๆคือสิ่งที่คู่ควรกัน ถ้าได้กินแล้วยากที่ชิโนบุจะหยุดปากได้เธอคงเคี้ยวแก้มตุ่ยเป็นแน่

         - แมว  :  เอาจริงๆแล้วเธอชอบสัตว์เลี้ยงเกือบทุกตัวเลยนะแต่แมวนี่คือสิ่งที่อยู่เหนือสรรพสิ่งทั้งปวง แมวคือนายท่าน! หากเป็นไปได้ชิโนบุคงจะเดินเข้าไปเล่นกับทุกตัวถ้ามีโอกาส ดวงตาของเด็กสาวคงจะมีแต่ความเอ็นอกเอ็นดูที่มีให้กับนายท่าน---

         - แต่งหน้า  :  เมื่อก่อนเธอก็เคยคิดอยากจะเป็นช่างแต่งหน้าเหมือนกันแต่พอคิดสภาพตัวเองแต่งหน้าคนอื่นก็....น่าจะไม่ไหว

         - คอสเพลย์  :  การที่ได้ตัดชุดแต่งหน้าด้วยตัวเองมันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอสนุกสนานไปกับมัน แค่คิดว่าตัวเองไว้คอสเพลย์ให้คนอื่นถ่ายรูปก็ตื่นเต้นจนใจแทบทะลุออกจากร่างแล้ว

         - ทำความสะอาด  :  บางคนอาจจะมองว่ามันแปลกแต่สำหรับชิโนบุมันภชถือเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่งเพราะมันไม่ต้องคิดอะไรให้มาก

         - ชาเขียว  :  เธอชอบรสชาติและกลิ่นหอมๆของมันเธอมักจะดื่มก่อนทำงานแทนกาแฟเสมอๆ

         - นัวร์มาเฟีย  :  ตอนแรกเธอไม่คิดว่าตัวเองจะผูกพันธ์กับแก๊งขนาดนี้แม้ตอนแรกจะเกร็งๆแต่ตอนนี้มันกลับเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเธอไปแล้วเสียอย่างนั้น


    ไม่ชอบ :

         - หนู / แมลงสาบ  :  จิตวิญญาญแม่บ้านไม่ถูกใจต่อสิ่งนี้ ทันทีที่เห็นใบหน้าของชิโนบุจะน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน กับเจ้าสองตัวนี้จะเธอจะขอทำอะไรก็ได้ใช้กาวดักหนูต่างๆนานาอะไรก็ได้แต่ขอให้เจ้าสองตัวนี้ออกไปจากเขตที่เธออยู่เถอะ

         - เห็ด  :  ชิโนบุไม่ชอบเห็ดเพราะสัมผัสยึ่ยๆแปลกๆของมันหากมีในจานข้าวก็คงจะเขี่ยมันออกและแก้ตัวไปว่าตัวเองแพ้เห็ด---

         - ห้องที่รกเกินเหตุ  :  มันเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้หนูและแมลงสาบมาชุมนุมเป็นไปได้เธอก็คงอยากจะทำความสะอาดประเดี๋ยวนี้

         - คนที่มาดูถูกแก๊งนัวร์  :  คงจะไม่มีใครชอบที่คนอื่นมาพูดจากดูถูกถากถางแก๊งตัวเองหรอกจริงๆมั้ย ? หากเจอชิโนบุคงจะยิ้มรับเงียบๆพร้อมกับหงุดหงิดในใจ

         - กลับจากที่ทำงานคนสุดท้าย  :  อ่านจะน่าขำไปหน่อยแต่เธอกลัวผี เธอคงจะวิ่งออกมาโดยอย่างไวหลังจากเก็บของเสร็จแล้ว---

         - เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  :  เธอไม่ชอบรสชาติและกลิ่นมันเสียเลย เธอเลยไม่มีความคิดที่จะกินมันแม้แต่น้อยแต่เธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนที่ดื่มหรอกนะ


    เกลียด : 

         - หนู / แมลงสาบ  :  คงจะเหมือนที่ว่าไปเธอไม่ได้กลัวแต่จะเกลียดมันไปเลย--

     

    กลัว : 

         -  งู : สำหรับเธอเธอคิดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายต่อมนุษยชาติเป็นอย่างมากถ้ามองไกลคงไม่เป็นอะไรหรอกยังทนได้แต่ถ้าพาเธอไม่สวนสัตว์แล้วเอามาห้อยคอ ชิโนบุก็คงขอเป็นลมล้มตึงไปตรงนั้นเลย---

         - ผึ้ง : ถ้าไม่นับเรื่องมีน้ำผึ้งอร่อยๆกับช่วยผสมพันธุ์ดอกไม้แล้วเธอก็คงมองผึ้งฟีลเตอร์เดียวกับงูไปเสียแล้วแถมตอนเด็กๆเธอยังคุยโดยต่อยด้วย ส่วนทางด้านปฏิกิริยาแม้มันจะไม่หนักหนาเท่างู ชิโนบุก็ไม่กล้าที่จะขยับตัวไปไหนอยู่ดี

         - สัตว์จำพวกกบ : จุดๆนี้สัตว์จำพวกนี้เธอมองฟีลเตอร์เดียวกับงูไปแล้ว ชิโนบุมีความรู้สึกที่ว่า มีทำไม เกิดมาทำไม ไม่มีประโยชน์อะไร เกิดมาทำไม!!  กับเจ้าสัตว์จำพวกนี้ชิโนบุคงจะคออยู่ไกลมันที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วล่ะ

         - ผี / สิ่งลี้ลับ  :  ถึงเธอจะชอบอ่านเรื่องราวลี้ลับของญี่ปุ่นแค่ไหนก็ตาม ความกลัวก็ไม่มีทางที่จะหายไปง่ายๆ ยิ่งท่าเธอกลับจากทีทำงานดึกๆคนเดียวมีหวังได้รีบวิ่งออกจากที่ทำงานแหงๆ แถมถ้าให้เธอไปบ้านผีสิงคงได้กรี๊ดตั้งแต่ก่อนเข้า


    แพ้ : -


     

    งานอดิเรก :  สะสมชุดกิโมโน , หัดแต่งหน้า , อ่านมังงะ , อ่านนิยาย , ทำความสะอาด


     

    ความสามารถพิเศษ :  สนด้ายเข้าเข็ม , วาดภาพ , ทำอาหาร , จัดสวนถาด , งานเย็บปักถักร้อย , จัดเอกสาร 


     

    สเปคคนที่ชอบ :  ไม่มีตายตัว ขอเพียงแค่เป็นคนที่เข้าใจกันและกัน จริงใจต่อกันและไม่เจ้าชู้


     

    เพิ่มเติม :

         [ 7 ]  สำหรับเธอ [ 7 ]  คือคนพิเศษเธอทั้งเป็นห่วง ทั้งอยากจะดูแลเขาตลอดเวลา เขาเป็นเหมือนคนที่ให้ความสุขและกำลังใจเล็กๆกับเธอโดยไม่รู้ตัว เธอไม่ได้มองเขาเป็นเจ้านาย 100 เปอร์เซน เธอมองเขาป็นผู้ชายคนหนึ่งแม้จะมีตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องไร้ปราณีกับแต่ละคนแต่สำหรับเธอแล้วเขาก็คือผู้ชายที่เธอทั้งรัก ทั้งชอบ ทั้งให้ความสำคัญกับเขาเป็นอย่างมาก ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้คิดอะไรกับเธอก็เถอะ-----   ถึงเธอจะรู้สึกว่า [ 7 ] เหมือนจะชอบ [ 2 ] ก็ตามชิโนบุก็ไม่ได้แสดงอาการหึงหวงออกไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในจุดนั้นแถมไม่มีเหตุผลอะไรที่สามารถจะไปหึงหวงได้ จึงทำได้แค่แอบมานั่งซึมคนเดียวเท่านั้น  มีบางครั้งชิโนบุก็แอบเจ็บจนอยากจะร้องไห้เลยล่ะ


     


     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


     


    roleplay .


     

    สวัสดีค่ะ ดิฉันคือหัวหน้าอาจารย์ฝ่ายปกครองของสถานศึกษาแห่งนี้ ก่อนอื่นเลย ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร เรียนอยู่ชั้นปีไหนแล้วคะ?


    :   "  สวัสดีค่ะ  "  ชิโนบุโค้งตัวทำความเคารพอีกคนอย่างมีมารยาทก่อนจะระบายออกมาประดับบนใบหน้าใส  "  อามาเทราสึ ชิโนบุ ค่ะตอนนี้อยู่ชั้นปีที่ 2 ค่ะ  " เธอชอบด้วยน้ำเสียงใสชัดเจน 


     

    นักศึกษาของที่นี่จะสังกัดอยู่ในแก๊งมาเฟียเป็นส่วนมาก ถ้าหากคุณเป็นสมาชิกของแก๊งมาเฟีย ดิฉันอยากทราบว่าคุณสังกัดอยู่ในแก๊งใดคะ?


    "  นัวร์มาเฟียค่ะ  "  น้ำเสียงที่พูดดูภูมิอกภูมิใจไม่น้อยกับการที่ได้สังกัดอยู่ที่นัวร์มาเฟีย


     

    คุณคิดอย่างไรกับเมืองและสถานศึกษาแห่งนี้คะ?


    : เมื่อได้ยินคำถามเด็กสาวก็นิ่งสงบไปซักพักก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน  "  หากให้เทียบแล้วก็คงจะแตกต่างกับเมืองอื่นไม่น้อยเลยล่ะค่ะ  "  ใบหน้าของเธอยังมีรอยยิ้มบางๆประดับอยู่ไม่จาง  "  มันต้องใช้เวลาปรับตัวและทำความเข้าใจเกี่ยวกับที่นี่ค่อนข้างมากเลยล่ะค่ะ  "


     

    ทัศนคติที่คุณมีต่อแก๊งของคุณเป็นอย่างไรเหรอคะ?


    "  ไร้ปราณีค่ะ  "   เธอตอบอย่างไม่ลังเล   "  ก็เราจะมีชื่อเสียงทางด้านนั้นหนิคะมันก็แอบน่ากลัวอยู่เหมือนกันนะคะว่ามั้ย  "  เธอหัวเราะแหะๆออกมาเล็กน้อย


     

     

    คำถามข้อสุดท้ายค่ะ คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนคะ?


    "  อืมม...  "  กับคำถามนี้ชิโนบุต้องคิดกับตัวเองซักพัก  "  สำหรับฉัน..ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ยังเหมือนเด็กค่ะ..ฉันยังต้องมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมากโขเลย "


     



    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


     

    talk with Vrissa .



     

    สวัสดีค่ะ ไรต์มีนามปากกาว่าวริสซ่านะคะ หรือจะเรียกวริสก็ได้ คุณผู้ปกครองชื่ออะไรกันบ้างคะ?


    :  เราเมษาค่ะยินดีที่ได้รู้จัก!


     

    ตามเนื้อเรื่องคือมีฉากโรแมนซ์ค่อนข้างเยอะ แต่บรรยากาศชาวแก๊งก็ยังคงอยู่ค่ะ จะว่าอะไรไหมคะ ถ้าตลค. จะมีฉากกุ๊กกิ๊กสวีทวี้ดวิ้ว(?) เยอะหน่อย?


    : ไม่ว่าอะไรแน่นอนค่ะ ความกุ๊กกิ๊กสวีทวี้ดวิ้วเราชอบ-----


     

    ถ้าหากเป็นบทที่ไม่ได้กำหนดว่าจะมีคู่หรือไม่ คุณผู้ปกครองอยากให้น้องมีคู่รึเปล่าคะ?

     

    : ตามบัญชาท่านเลยค่ะ//


     

    ถ้าอยากให้น้องมีคู่ ไม่ทราบว่าอยากให้คู่ของน้องเป็น NORMAL หรือ LGBT คะ? (แต่บอกไว้ก่อนว่าไรต์ไม่ค่อยถนัดแนวยูรินะ ;-;)


    : ได้หมดเลยค่ะ!


     

    เรายังไม่ได้คิดว่าจะมีการตายของตัวละครไหนรึเปล่า อาจจะน้อยก็จริง แต่ถ้าหากตลค. ของคุณผู้ปกครองโดนบทนี้ จะรับได้ไหมคะ?


    :  รับได้ค่ะ/เกียมใต


     

    ถ้าน้องไม่ติดบทที่ต้องการ จะให้ยัดบทให้หรือรับกลับคะ? (แต่โอกาสที่จะไม่ติดก็น้อยนะ .___.)


    : ยัดบทเลยค่ะลอดช่องสิงคโปรได้หมด(?)


     

    สุดท้ายนี้ก็ขอให้คุณผู้ปกครองมีวันที่ดีและสดใส ขอบคุณที่ฝากน้องๆ เอาไว้กับเรา ขอให้น้องติดบทที่ต้องการกันทั่วทุกคนนะคะ (´▽`) //รักส์


    : สาธุเลยค่ะ!//


             
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×