ตอนที่ 3 : เป็นแฟนคนเถื่อน : 1
เป็นแฟนคนเถื่อน : 1
Rach Part :
“ฮัลโหล เชน” คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเพื่อนสนิทของผม และยังเป็นแฟนใหม่ของแฟนเก่าผมด้วย ฟังดูซับซ้อนนะครับ แต่เอาเป็นว่าความสัมพันธ์ของพวกเรานั้นดีมาก มารุตชอบแซวว่าเชนเป็นกิ๊กผม แต่รู้อะไรไหม ถ้าผมจะมีกิ๊กน่ะ ผมไม่คบผู้ชายที่ตัวสูงเท่า ๆ กันหรอก ผมชอบคนตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ มากกว่า
แหะ ล้อเล่นครับ
กิ๊กเกิ๊กอะไรไม่เคยมีอยู่ในหัว มีแค่มารุตคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่แล้วครับ
นี่ อย่าเอาไปฟ้องแฟนผมนะ รู้แล้วก็เงียบไว้เลย
(“คุณรัชช์ เสาร์นี้ว่างไหม?”) เสียงที่คุ้นหูดังมาตามสาย เป็นเสียงที่ผมได้ยินบ่อย ๆ เพราะเราเจอกันเกือบทุกวัน
“ว่างนะ ทำไมเหรอ?” ผมตอบกลับไปพลางเหลียวหน้าเหลียวหลังมองอย่างหวาดระแวง ไม่รู้ว่ามารุตจะโผล่ออกมาตอนไหน ถ้าเกิดเขาออกมาแล้วเอาคืนเรื่องที่ผมถีบเขาจนตกเตียงล่ะก็ผมแย่แน่ ๆ
(“จำไม่ได้เหรอว่าเสาร์นี้วันอะไร?”) เชนย้อนถามกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูคล้ายกับว่ากำลังน้อยอกน้อยใจอยู่
“วันเสาร์ โอ๊ะ! จริงด้วย” ผมยืนคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นมาได้
(“นั่นแหละ พี่เร็กซ์ชวนให้ไปจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่สนาม LW คุณรัชช์ไปนะ”) เสาร์นี้เป็นวันเกิดของเชน ผมลืมไปได้ยังไงกัน
“โอเค กี่โมง?” ผมต้องไปอยู่แล้ว วันเกิดเพื่อนทั้งทีใครจะพลาดได้ล่ะจริงไหม?
(“3 ทุ่มครับ”)
“ได้เราจะไป” จัดที่สนาม LW ก็ดี ผมจะได้แวบไปแอบดูเขาแข่งรถกันด้วย ไม่ได้ลงแข่งรถนานแล้วก็มีแอบคิดถึงบ้างเหมือนกัน อยากกลับไปแข่งอีกแต่ถ้าทำแบบนั้นได้ทะเลาะกับมารุตแน่ เพราะฉะนั้นขอไม่เสี่ยงดีกว่า
(“เจอกันวันเสาร์นะครับ”) เชนพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้น
“Bye” ผมบอกลาอีกฝ่ายแล้วกดตัดสาย
“จะไปไหนครับ?” เสียงทุ้มต่ำที่ได้ยินอยู่ทุกวันดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“เสาร์นี้วันเกิดเชน คุณกลางชวนให้ไปจัดงานที่สนามแข่ง” ผมสะดุ้งเบา ๆ ด้วยความตกใจ ไม่รู้ตัวเลยว่ามารุตมายืนซ้อนอยู่ข้างหลังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“รู้เลยว่าใครอยากกินมากที่สุด” มารุตกลอกตาไปมาทำหน้าเพลีย ๆ
“ไปไหม?” ผมเอ่ยชวน
“ไปสิ ใครจะปล่อยให้คุณไปคนเดียวล่ะ?” เขาว่าหน้าดุ
“เป็นห่วงเหรอ?” ผมอมยิ้มถามทั้งที่ก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
“ทั้งเป็นห่วงและหวง” เขาพูดพร้อมตวัดแขนกอดเข้าที่เอวของผมแล้วดึงเข้าหาตัว สถานการณ์สุ่มเสี่ยงอีกแล้ว
“ไปหาอะไรกินกัน” ผมรีบหาทางเอาตัวรอด
“อยากกินคุณ” แต่เหมือนคุณแฟนจะไม่ยอมปล่อยผมไปง่าย ๆ
“รุต~” ผมโอดครวญให้อีกฝ่ายเห็นใจ
“ได้ไหม?” มารุตไม่ได้สนใจกับท่าทีของผมกลับกันเขายังมองผมด้วยสายตาออดอ้อนและเว้าวอนอีกด้วย
“มะ…” ผมกำลังจะอ้าปากปฏิเสธแต่ก็ต้องหยุดชะงักลง
Rrrrr~
“ใครวะ แม่ง!” มารุตสบถเสียงดังอย่างหัวเสีย
“ไปรับเลย” ผมดันอกอีกฝ่ายให้ถอยออกห่างจากตัวผม มารุตเดินหน้าบึ้งกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อหยิบโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องดังลั่นห้อง
รอดแล้ว
“มาวิน โทรมาทำไมวะ?” เขาเดินกลับมาพลางก้มมองโทรศัพท์ในมือไปด้วย
“มีอะไร?” กดรับเสียงเซ็ง ๆ แล้วเปิดสปีกเกอร์โฟนให้ผมได้ยินด้วย หน้าตาดูหงุดหงิดมากเลย
(“พูดกับพี่มึงดี ๆ หน่อยไอ้น้อง”) เสียงที่ดังรอดออกมาจากโทรศัพท์เป็นเสียงของพี่มาวิน ผมแอบแปลกใจเหมือนกันที่พี่มาวินโทรมาแต่เช้าแบบนี้
“กูลูกคนเดียว” หยาบคายตลอด ใครพูดยังไงก็ไม่ฟังด้วยนะ
(“แค่พูดกับพวกกูดี ๆ มึงจะตายเหรอมารุต?”) เสียงของคุณกลางดังแทรกขึ้นมา
“มีอะไร โทรมาทำไมแต่เช้า?” มารุตทำหน้าเบื่อหน่ายใส่แม้อีกฝ่ายจะมองไม่เห็นก็ตาม
(“จะชวนไปกินข้าว”) คุณกลางเอ่ยขึ้นมาเสียงนิ่ง
“ตอนนี้เนี่ยนะ?” มารุตร้องถามเสียงสูง ผมหันมองนาฬิกาก็พบว่ามันเพิ่งจะหกโมงกว่าเอง
(“มื้อเช้าไง”) ได้ยินอย่างนั้นเราทั้งคู่ต่างก็มองหน้ากันอย่างแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ถูกชวนไปกินข้าวเช้าอย่างนี้
“ที่ไหน?” มารุตเอ่ยถามด้วยความสงสัย ผมก็เงียบรอฟังคำตอบ
(“กูแชร์โลเคชั่นไปแล้ว ร้านนี้นิลกาฬแนะนำมา”) เมื่อมารุตได้ยินที่พี่มาวินบอกเขาก็กดเข้าแอพลิเคชั่นไลน์ทันที
“ร้านโจ๊ก?” มารุตพึมพำเสียงเบาเมื่อเปิดดูแผนที่และข้อมูลของร้าน
(“เออ เชนบอกอร่อย ตอนไอ้นิลจีบเชนก็พาไปกินโจ๊กร้านนี้นี่แหละ”) คุณกลางเล่าออกมาขำ ๆ
เดี๋ยวนี้คุณกลางกับเชนสนิทกันมาก คุยอะไรก็ถูกคอกันไปหมด ชอบนั่นชอบนี่เหมือนกัน หลัก ๆ ก็สายกิน กินเก่งกันทั้งคู่ ชอบหาร้านอาหารแล้วชวนกันไปกินบ่อย ๆ แถมยังมาลากผมไปด้วย แต่ผมกินนิดกินหน่อยก็ออกแก้มแล้ว ถึงทุกคนจะบอกว่าไม่อ้วน แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองอ้วนอยู่ดี
“มิติใหม่เหรอ? จีบโดยพาไปกินโจ๊ก?” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่นแววตามีแต่ความสงสัยเต็มไปหมด
(“กูก็ไม่รู้ แต่กูนัดนิลกาฬไว้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”) คุณกลางว่าออกมาเสร็จสรรพ
“กูต้องไปเหรอ?” มารุตย้อนถามกลับเสียงเซ็ง ๆ
(“ไม่ต้องก็ได้ แต่พาน้องกูมา”)
ยังไงนะครับ? ขออีกที
“ยุ่งอะไรกับเมียกูนักหนา?” มารุตขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์
(“ก็น้องกู! มึงจะทำไม?”) คุณกลางร้องโวยกลับมา
“รำคาญ!”
(“มารุต! ไอ้เด็กเวร!”)
ติ๊ด!
“โอ๊ย!” เสียงทุ้มต่ำร้องออกมาเสียงหลงเมื่อถูกผมหยิกเข้าที่เอวสอบ
“พูดจาไม่น่ารักเลย” ผมว่าเสียงดุ ผมไม่ชอบให้มารุตพูดจาแบบนี้ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม เพราะมันจะทำให้คนอื่นมองเขาไม่ดี ผมไม่อยากให้ใครคิดว่าแฟนผมเป็นพวกนิสัยเสียหรือคนหยาบคาย เพราะจริง ๆ แล้วแฟนผมน่ารักจะตาย
“ขอโทษครับ~” เขาเอนมาซบหน้าลงกับบ่าของผมอ้อน ๆ
“ไปอาบน้ำเลย” ผมยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มลื่นมือเบา ๆ ก่อนจะดันร่างสูงใหญ่ออกจากตัว
“ครับผม!” อีกฝ่ายรับคำเสียงขันแข็งแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ผมเดินตามเขาเข้าไปติด ๆ ปล่อยให้มารุตไปอาบน้ำส่วนตัวเองก็เดินมาเลือกเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้อีกฝ่าย
มารุตใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เดินเปลือยอกออกมาจากห้องน้ำ แต่แทนที่จะรีบแต่งตัวเขากลับเดินมาหาผมแล้วแกล้งเบียดตัวเองเข้ากับร่างกายของผม มารุตชอบเล่นอะไรแบบนี้ เขาชอบแกล้งผมอยู่บ่อยครั้ง แต่หลายครั้งก็เป็นเขาเองนั่นแหละที่มักควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยได้ ผมยกมือขึ้นหยิกเอวหนาแรง ๆ ด้วยความหมั่นไส้ ใช่เวลาเล่นไหมเนี่ย เดี๋ยวคนอื่นเขาก็รอกัน มารุตเบ้หน้าออกมาแต่ไม่มีเสียงร้องโอดครวญเหมือนก่อนหน้านี้ ริมฝีปากเรียวได้รูปพุ่งมาแตะที่ผิวแก้มผมแผ่วเบาหนึ่งทีก่อนที่คนตัวสูงจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ผมเตรียมไว้มาสวมใส่
กว่าจะได้ออกจากห้องก็ถูกคนเป็นแฟนลวนลามไปหลายรอบ เป็นแฟนมารุตนี่ผมเปลืองตัวมาก ๆ เลยนะ แต่จะว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้ เพราะผมเองก็ดันติดสัมผัสของมารุตเหมือนกัน
“คุณเล็ก” ใช้เวลาราว ๆ เกือบครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงร้านโจ๊กที่คุณกลางแชร์โลเคชั่นมาให้ ในร้านคนเยอะมาก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมองหาพี่ชายตัวเอง แต่ก็ยังช้ากว่าคุณกลางที่เอ่ยเรียกผมขึ้นมาก่อน
“คุณกลาง” ผมเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วก็ถูกคุณกลางดึงเข้าไปกอดเอาไว้แน่น
“ทำเหมือนไม่ได้เจอกันนานทั้งที่เพิ่งเจอกันไปเมื่ออาทิตย์ก่อน” เสียงพี่มาวินดังแทรกขึ้นมา ผมได้แต่ยิ้มแหย ๆ เพราะที่อีกฝ่ายพูดมามันก็ถูก
“มาวิน เสือก” คำพูดที่ฟังดูเหมือนจะไม่เข้าหูทำให้พี่ชายของผมหันไปตวัดสายตาพร้อมขยับปากต่อว่าแฟนของตัวเองเสียงดังฟังชัด
“กูผิดเหรอ?” พี่มาวินชี้นิ้วเข้าหาด้วยเองด้วยสีหน้าเหลอหลา
“สาระแนไม่เข้าเรื่อง” แล้วก็โดนคุณกลางว่าเข้าให้อีก
“อย่าเพิ่งทะเลาะกัน สั่งข้าวก่อน” ดีที่พี่นิลเบรกเอาไว้สถานการณ์เลยกลับมาสงบอีกครั้ง พอหาที่นั่งกันได้ก็เตรียมสั่งอาหารทันที
“กูเอาโจ๊กใส่ทุกอย่าง เกาเหลากับข้าวเปล่าด้วย” คุณกลางเป็นคนแรกที่เอ่ยสั่งก่อน
“สั่งเผื่อผัว?” พี่นิลที่เป็นคนเขียนใบรายการอาหารเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย
“เปล่า กินเอง” คุณกลางตอบกลับหน้าตาย
“เมียประเสริฐ ไม่เคยจะนึกถึงผัวเลย” พี่มาวินหันไปมองค้อนใส่แฟนตัวเองทันที แต่แววตาดูน้อยอกน้อยใจมากกว่าจะโกรธเคืองนะครับ
“มึงยังอยากมีปากไว้กินข้าวไหม?” แต่ไม่ว่าพี่มาวินจะมีแววตาหรือสีหน้ายังไงคุณกลางก็หาได้สนใจไม่ แถมยังเล่นบทโหดใส่แฟนอีกด้วย
“ขอโทษจ้า~” ใด ๆ ในโลกล้วนแพ้เมีย
“คนอื่นเอาอะไร?” พี่นิลหันมาถามมารุตกับผม
“เอาโจ๊กใส่ทุกอย่าง 2” มารุตสั่งออกมาเสร็จสรรพ
“สั่งกินเอง?” เชนหันมาเลิกคิ้วถาม
“เปล่า สั่งเผื่อเมีย” มารุตตอบกลับหน้าตายก่อนจะหันมายกยิ้มหวานให้ผม ผมอมยิ้มบาง ๆ กับคำตอบของอีกฝ่าย มารุตมักทำเรื่องเล็ก ๆ ให้มันกลายเป็นเรื่องที่น่าประทับใจได้ตลอด จะว่าปลื้มใจก็ว่าได้
“เอารางวัลผัวดีเด่นไป!” พี่มาวินยกนิ้วโป้งให้ด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูตลก
“มึงนั่งเงียบ ๆ บ้างได้ไหม?” แล้วก็โดนคุณกลางตวัดตามองดุ ๆ
“ขอโทษครับ~ ทำอะไรก็ผิด หรือผิดที่เป็นกูวะ?” คนถูกดุบ่นพึมพำเสียงเบา
“ผิดที่เป็นมึงนี่แหละ!” ไม่ว่าจะบ่นเสียงเบาแค่ไหนแต่ก็ไม่มีทางรอดพ้นหูของคุณกลางไปได้
“โอเค กูหายข้องใจละ” น่าสงสารเขาเหมือนกันนะครับ แต่พี่มาวินก็คงมีความสุขที่มีคุณกลางคอยด่าคอยว่าอยู่แบบนี้ เพราะถ้าเขาไม่พอใจหรือเบื่อหน่ายก็คงเลิกหาเรื่องให้คุณกลางด่าว่าไปเองนั่นแหละ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่นี่อาจเป็นวิธีการแสดงความรักของพวกเขาก็ได้
หลังจากที่สั่งอาหารและจดเมนูเสร็จเรียบร้อยพี่นิลก็เอากระดาษไปยื่นให้เจ้าของร้าน ที่ต้องเขียนใบเพราะในร้านคนเยอะมาก เยอะแบบแน่นไปหมดเลย มันไม่เหมือนร้านโจ๊กข้างทางทั่วไปเพราะร้านนี้เป็นร้านโจ๊กหรูที่ติดแอร์ และร้านค่อนข้างจะใหญ่ คนนั่งกันเต็มร้านเลย แถมลูกค้าก็ยังมาเรื่อย ๆ เชนบอกว่าร้านนี้อร่อยทุกอย่าง ไม่ผิดหวังแน่นอน
“ใครสั่งไข่ลวกมา?” เมื่ออาหารยกมาเสิร์ฟคุณกลางที่นั่งอยู่ริมนอกก็แจกจ่ายอาหารตามที่แต่ละคนสั่ง แต่ก็ต้องมาชะงักเมื่อเจอกับถ้วยไข่ลวก 2 ฟอง พวกเรามองหน้ากันด้วยความสงสัย แต่พี่นิลกลับหันมองไปทางพี่มาวินแทน
“กู” และพี่มาวินก็พูดขึ้นมาพร้อมยื่นมือไปรับถ้วยไข่ลวกมา
“มึงจะโด๊ปเหรอ?” มารุตถามติดตลก ผมเริ่มจะชินกับการที่เขาเรียกทุกคนว่ามึงและแทนตัวเองกับทุกคนว่ากู แม้เขาจะอายุน้อยที่สุดในกลุ่มแต่มารุตกลับไม่เคารพใครเลยสักคน แม้แต่พี่ชายของผม น่าหนักใจเหมือนกันนะ แต่ถ้าจะให้มารุตเรียกคุณกลางว่าพี่เร็กซ์ อืม มันคงขนลุกแปลก ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทั้งสองคนอาจมองหน้ากันไม่ติด
“เออ ว่าจะปั้มลูกสักครึ่งโหลต้องโด๊ปหน่อยเดี๋ยวปั้มลูกไม่ไหว” พี่มาวินว่าด้วยสีหน้าจริงจังขัดกับแววตาที่ดูขี้เล่นและสนุกสนาน
“มาวิน ไอ้เหี้ย” คุณกลางที่นั่งอยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการสำลักน้ำลายตัวเองขึ้นมา หันไปมองหน้าคนเป็นแฟนแล้วยกมือขึ้นฟาดหลังอีกฝ่ายดังป๊าบทันที
“ด่าคำนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้กูเป็นผัว จนตอนนี้ได้กูเป็นผัวไปแสนล้านรอบแล้วก็ยังไม่เลิกด่า” พี่มาวินว่ากลั้วเสียงหัวเราะไม่ได้สะทกสะท้านกับคำด่าหรือแรงฟาดที่หลังแต่อย่างใด ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณกลางถึงได้ด่าพี่มาวินทุกวัน ก็เป็นซะอย่างนี้ จะไม่ให้โดนด่าได้ยังไง
“กูจะด่าจนมึงแก่ตายไปเลย กวนส้นตีนดีนัก” ตวัดตามองเคือง ๆ แล้วหันไปหยิบน้ำขึ้นมาจิบแก้อาการสำลัก
“เอ๊า! กูผิดอะไรวะ?” พี่มาวินหัวเราะร่วน ดูชอบอกชอบใจที่ถูกด่า
“น่าสงสารเนอะ” พี่นิลหันมามองด้วยสายตาเย้ยหยันผิดกับคำที่พูดออกมา หน้าตาก็ไม่ได้ดูสงสาร กลับกันกลับดูสะใจและเหมือนจะสมน้ำหน้าอยู่หน่อย ๆ
“ที่ไหนมีรับแลกเปลี่ยนเมียบ้างกูจะเอาเมียไปเปลี่ยน” ไม่วายหาเรื่องให้โดนด่าอีกจนได้
“ให้กูเปลี่ยนผัวบ้างไหม?” คุณกลางเริ่มหงุดหงิด เช้านี้โดนแหย่ไปหลายรอบแล้ว
“ขอโทษครับ~ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับ~” พี่มาวินรีบซบแขนคุณกลางทำเสียงงุ้งงิ้งทำตัวออดอ้อนเสียยกใหญ่
“พี่นี่ก็วอนหาเรื่องเนอะ” เชนส่ายหน้าเบา ๆ ซึ่งผมเองก็เห็นด้วย
“มึงคิดว่ากูกำลังกวนตีนเมียอยู่ใช่ไหม?” พี่มาวินหันไปคุยกับเชนแต่ก็ยังไม่ยอมผละใบหน้าออกจากต้นแขนของคนเป็นแฟน
“ใช่” เชนพยักหน้า
“เออ มึงคิดถูกแล้ว วันไหนไม่โดนเมียด่าแล้วชีวิตมันเงียบเหงา” พี่มาวินพูดแล้วก็หัวเราะคิกคักกับตัวเองอย่างอารมณ์ดี ผมกับเชนหันมองหน้ากันงง ๆ งงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมาก ๆ อะไรของเขาก็ไม่รู้
“มึงจะหยุดได้ยัง?” คุณกลางว่าพร้อมยกมือขึ้นจิกผมของพี่มาวินจนหน้าหงาย ท่าจะเจ็บน่าดู
“หยุดแล้วจ้า~” พี่มาวินยิ้มแห้ง คุณกลางถลึงตาดุใส่ไปทีก่อนจะปล่อยมือออกจากผมของพี่มาวิน สถานการณ์กลับมาสงบอีกครั้งเมื่อพวกเราลงมือกินมื้อเช้ากัน
“ไม่อยากกินไข่” ผมเขี่ยไข่ที่อยู่ในชามโจ๊กของตัวเองออกจากข้าว ผมไม่ค่อยชอบไข่ที่อยู่ในโจ๊กเท่าไหร่ มันไม่สุกแล้วมันแหยะ ๆ
“เอาไข่มาแล้วเอาตับไป” มารุตหันมาตักไข่ในชามของผมออกแล้วตักตับในชามของตัวเองมาใส่ชามของผมแทน เขารู้ว่าผมชอบกินตับ
“ทำไมโจ๊กมันหวานวะ?” การกระทำของเราทั้งคู่ไม่ทีทางรอดพ้นจากสายตาของคนอื่นได้เลย คุณกลางเป็นคนที่เอ่ยแซวขึ้นมาเป็นคนแรก
“อย่าแซวสิครับ” ผมหันไปมองค้อนใส่พี่ชายตัวเอง
“รัชช์ดูร่าเริงขึ้นเยอะเลยนะ” พี่นิลพูดยิ้ม ๆ
“แล้วเมื่อก่อนผมไม่ร่าเริงเหรอครับ?” หันไปมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย ผมเมื่อก่อนกับตอนนี้ต่างกันมากหรือไงนะ?
“น้อยกว่าตอนนี้” เชนเป็นฝ่ายตอบออกมา
“คนมีความรักก็มักมีความสุขสินะ” คุณกลางหันมามองหน้าผมก่อนจะยกยิ้มกว้างออกมา
“คุณกลาง” ผมได้แต่ร้องเรียกอีกฝ่ายด้วยความอ่อนใจ แซวได้แซวไป อย่าให้ถึงทีผมบ้างนะ จะแซวให้เขินจนหน้าแดงเลย
“เออ จะว่าไปพวกเรานี่ก็ตลกดีเนอะ เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและน่าปวดหัวดี” คุณกลางหัวเราะร่วนก่อนจะพูดขึ้นมาทำเอาพวกเราชะงักมองหน้ากันเลิ่กลั่กเลย
“แถมยังเกลียดขี้หน้ากันอีก” เชนว่าขำ ๆ
“พวกมึงน่ะชอบมีปัญหา” คุณกลางมองหน้าพี่มาวินกับพี่นิลสลับกันไปมา
“เออ มึงเลยวิน ชอบมีปัญหา” มารุตได้ทีก็รีบซ้ำเติมใหญ่
“อย่าทำเหมือนมึงไม่เคยอยากต่อยไอ้นิล” พี่มาวินชักสีหน้าทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจใส่
“บ้า กูออกจะเรียบร้อย กูไม่ชอบความรุนแรง” มารุตร้องเสียงหลงรีบปฏิเสธจนลิ้นแทบพันกัน
ปลอมมาก
“แต่รุตเคยต่อยเรานะ” ผมเอ่ยขัดขึ้นมา ตรงไหนที่เรียกว่าเรียบร้อย เผลอไม่ได้หรอก ปล่อยให้อยู่คนเดียวทีไรก็ชอบมีเรื่องกับชาวบ้านเขาไปทั่ว
“คุณ~ ผมขอโทษ” มารุตรีบหันมาซบหน้ากับแขนผมทันที
“สมน้ำหน้า” พี่นิลว่าเสียงเยาะ ๆ
“โธ่ พ่อคนดี มึงนี่แสนดีที่หนึ่ง ไปซ้ำเติมเขา มึงก็ใช่ย่อย” แล้วก็โดนพี่มาวินขัดกลับ
“เรื่องมันผ่านมาแล้วก็แล้วกันไปสิ” พี่นิลนิ่งไปนิดก่อนจะกระแอมไอเบา ๆ
“เราจะคุยเรื่องแบบนี้ตอนกินข้าวกันจริง ๆ เหรอ?” เชนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าปั้นยาก ท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของอีกฝ่ายบอกเล่าความรู้สึกในตอนนี้ได้เป็นอย่างดีเขียวล่ะ
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เราไม่เดือดร้อนนี่” คุณกลางไหวไหล่เบา ๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
“แหม เมีย มึงนั่งกินไปเงียบ ๆ เถอะ ไม่ต้องขุดคุ้ยเรื่องอะไรขึ้นมาอีก” พี่มาวินหันไปมองค้อนใส่ทันที
“วิน เดี๋ยวขากลับซื้อปาท่องโก๋กลับไปกินที่ห้องด้วยนะ อยากกิน” แต่กลับโดนคุณกลางพูดสวนขึ้นมาทันควันเหมือนไม่ได้ฟังที่พี่มาวินพูด
“ได้ฟังที่กูพูดไหมเนี่ย?” พี่มาวินขมวดคิ้วแน่น
“ห๊ะ อะไร?” คุณกลางละสายตาจากชามเกาเหลาขึ้นมามองหน้าแฟนตัวเองงง ๆ พวกเราที่เหลือถึงกับหลุดยิ้มแห้ง บทจะด่าก็ด่าจนน้ำตาไหล แต่บทจะเมินก็เมินจนอีกฝ่ายท้อ เป็นพี่มาวินนี่ก็น่าสงสารเหมือนกันนะครับ
“น้ำเต้าหู้ก็อร่อยนะพี่เร็กซ์ ลองกินดู” เชนพูดเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้สถานการณ์มันแย่ลงไปกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นพี่มาวินอาจช้ำในก็เป็นได้ แค่นี้ก็นั่งนิ่งเป็นเสาหินแล้ว
“เออ ๆ เดี๋ยวซื้อไปฝากพวกเด็กที่สนามด้วย” คุณกลางหมายถึงพวกลูกน้องที่ทำงานอยู่ที่สนามแข่งรถ LW น่ะครับ ทุกคนต้องปลื้มใจแน่ ๆ ที่ซ้อเร็กซ์มีน้ำใจแบบนี้
“รุต อิ่มแล้ว” ผมกินโจ๊กไปได้ไม่ถึงครึ่งชามก็กินต่อไม่ไหวแล้ว ยกมือขึ้นดันชามโจ๊กไปตรงหน้ามารุตเพื่อส่งให้อีกฝ่ายจัดการต่อ เวลาผมกินข้าวไม่หมดก็ให้มารุตกินต่อทุกครั้ง ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแฟนคนดีของผมถึงได้โตวันโตคืนขนาดนี้ เพราะผมเองแหละ
“ทำไมกินน้อยจัง?” เขามองโจ๊กที่อยู่ในชามแล้วหันมาขมวดคิ้วมองผม
“ไม่ค่อยหิว” ช่วงนี้ผมกินน้อย กินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็อิ่มแล้ว อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงควบคุมอาหารด้วยล่ะมั้ง ความอยากอาหารเลยน้อยลง
“เดี๋ยวซื้อน้ำเต้าหู้ไปด้วยเนอะ เผื่อหิว” มารุตบอกด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“อื้อ” ผมพยักหน้ารับเบา ๆ
“เชนจะเอาอะไรอีกไหม?” หลังกินเสร็จพี่นิลก็หันไปถามแฟนตัวเอง
“สั่งเกาเหลาไปกินตอนเที่ยงไหม?”
“ได้ แล้วเดี๋ยวไปหุงข้าวเอาเนอะ”
“โอเค”
ผมอมยิ้มกับบทสนทนาของทั้งคู่ แม้มันจะดูเป็นการพูดคุยกันธรรมดาทั่วไป แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันน่ารักมาก การพูดคุยของพี่นิลและเชนดูเป็นธรรมชาติ แค่บทสนทนาสั้น ๆ แต่กลับดูอบอุ่นมากขนาดนี้ ไม่ต้องเดาเลยว่าทั้งสองคนนั้นรักกันมากขนาดไหน ความรู้สึกของคนเรามันสื่อออกมาผ่านสายตา สีหน้า น้ำเสียง คำพูด หรือแม้กระทั่งท่าทาง ผมดีใจที่เห็นพวกเขามีความสุข เพราะทั้งสองคนก็ถือว่าเป็นคนสำคัญของผมเหมือนกัน ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะมาลงเอยกันได้ แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ ทุกคนสมหวังและมีความสุข เป็นอย่างนี้ผมก็อดที่จะดีใจไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ
------------------------------
มารุต อย่าแซวคู่นิลเชนสิ
ยังยืนยันคำเดิมว่ารัชช์ควรเป็นของเรา
มาวินเกิดมาเพื่อกวนประสาทเมียโดยเฉพาะ สมฉายาคู่รักประสาทแดกมาก
นิลเชนก็เรื่อย ๆ เนอะ
ภาคนี้เราวางพล็อตไว้หมดแล้ว อาจไม่ได้ตรงตามที่หลาย ๆ คนขอมา
แต่
มีแนวโน้มว่าพอจบภาค 2 แล้วจะมีต่อภาค 3 (เมื่อไหร่ก็ไม่รู้)
แต่
โปรดรออย่างใจเย็น เรื่องนี้จะไม่ค่อยได้อัพบ่อยเพราะว่าลัดคิวเรื่องอื่นมาเยอะแล้ว
ยอมรับตรง ๆ เลยว่าปั่นไม่ทันค่ะ
บัย~
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

68 ความคิดเห็น
-
#25 OoNuizqBk (จากตอนที่ 3)วันที่ 18 ธันวาคม 2562 / 10:38โอ๊ยชอบทุกคู่ภาค2เพิ่งเริ่มอยากอ่านภาค3แล้ววว5555#250
-
#24 kmmmmmm (จากตอนที่ 3)วันที่ 14 ธันวาคม 2562 / 20:13น่าร้ากกกก#240
-
#23 ENJOY_EVERYDAY (จากตอนที่ 3)วันที่ 14 ธันวาคม 2562 / 12:15สามคู่ชู้ชื่น 55555 มีทั้งกะหนุงกะหนิง ฟรุ้งฟริ้ง ๆ มีทั้งแบบฮาร์คอร์ และมีแบบเรื่อย ๆ แต่อบอุ่น ๆ น่ารักทุกคู่เลย#230
-
#22 ips. (จากตอนที่ 3)วันที่ 14 ธันวาคม 2562 / 11:36น่ารักทุกคู่ คิดถึงคุณรัชช์คนดี#220
-
#21 Hyubi (จากตอนที่ 3)วันที่ 14 ธันวาคม 2562 / 10:20รอติดตามมมม#210