ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Drunk off that love, my head up, there's no for getting you

    ลำดับตอนที่ #11 : One smile can change the world .

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 156
      0
      30 มี.ค. 63

    Application



    " ชะ — ช่วยด้วยครับ สมุดผม — มีใครเห็นสมุดของผมมั้ยครับ หายไปไหนก็ไม่รู้ อ๋า อยู่ไหนเนี่ย "

    " ขอให้ปล่อยวางทุกอย่างและไปสู่สุขติอย่างสบายใจไร้ทุกข์นะครับ "


    บท : Behide 

    * หรือไม่ก็ยัดเข้าบทไหนก็ได้ค่ะ ตั้งแต่ภารโรง เบ๊จำเป็น สัปเหร่อ บาทหลวงยันแม่บ้าน ตัวน้องคนนี้หย่อนมาลองดู เลยจิ้มเลือกบทนี้มาแบบคุกกี้เสี่ยงทาย 

    หน่วย : คาคุชิ

    ชื่อ - นามสกุล : ยะสึระกิ อินงะ ( Yatsuraki Inga )​

    ชื่อเล่น : อิน ( In )​

         * มีฉายาที่เพื่อนชอบเรียกคือ ไอ้หมา ไม่ก็ เด๋อ

    เพศ : ชาย

    อายุ : 14

    อาชีพ : นักเรียนมัธยม ( ม . 2 )

    ฐานะทางบ้าน : ปานกลาง และกำลังจะแร้นแค้น

    ลักษณะทางกายภาพ :: 

    เด็กหนุ่มวัยกระเตาะเจ้าของรูปร่างเล็กจ้อยเหมือนสัตว์ตัวเล็ก เรือนร่างบอบบางผอมผ่ายดูน่าทะนุถนอมคล้ายเครื่องแก้วราคาแพง เรือนผมฟูฟ่องสีขาวสะอาดยาวปรกนัยน์ตากลมข้างหนึ่ง ดวงตากลมโตฉายแววสดใสเป็นประกายล้อมกรอบด้วยแพขนตาหนาเรียงตัวสวย คิ้วเรียวโค้งโก่งดังคันศร ปลายจมูกโด่งทรงหยดน้ำเชิดขึ้นรับกับริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มที่มักขยับพูดเจื้อยแจ้ว แว่วน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะเสนาะหู พวงแก้มกลมอวบอิ่มแดงระเรื่อสุขภาพดี ผิวกายขาวสะอาดเฉกเช่นหิมะบริสุทธิ์ บอบบาง เสมือนแตะตรงไหนก็สามารถสร้างรอยช้ำตามเนื้อตัวของเด็กคนนี้ได้อย่างไม่ยาก ข้อมือเล็กขึ้นรูปกระดูกตรงข้อชัด นิ้วเรียวยาวและเล็บขาวสะอาด รูปร่างของอินงะจัดว่าตัวเล็กมาก แต่ถึงกระนั้นก็มีความแข็งแรงซุกซ่อนอยู่ไม่น้อย

    การแต่งกายจะเน้นความสุภาพเป็นส่วนใหญ่ มักเห็นเจ้าตัวโผล่มาบ่อยครั้งในชุดเสื้อแขนขายาวมิดชิด นอกจากเครื่องแบบนักเรียนสีดำที่เห็นได้บ่อยก็มีเสื้อไหมพรมสีอ่อนกับกางเกงขายาวที่จะเห็นอินงะอยู่ในลุคแบบนี้ เจ้าตัวไม่ชอบใส่เครื่องประดับอะไรมากนัก จะใส่แหวนนิ้วดันเล็กเกิ​นรูแหวนอีก นาฬิกาก็ดันซุ่มซ่ามทำแตกยับ ส่วนจะเจาะหูก็ไม่กล้า กลัวเจ็บร้องไห้โฮเลยใส่แค่จี้ห้อยคอสีเงินรูปนางฟ้าไว้เป็นสัญญลักษณ์​เตือนใจ

    บุคลิกภาพ​เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นคนที่ค่อนข้างขี้อาย เจ้าตัวชอบทำตัวเองให้ดูตัวเล็กเสมอแม้ว่าจะไม่ได้ผลเลยก็ตามที ท่าทางแสดงออกนุ่มนวล การเดินแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินเสียง เก็บไม้เก็บมือเข้าหากันและตัวอ่อนเสมอยามเดินผ่านกับผู้เป็นผู้ใหญ่ มักก้มหัวทักทายแสดงท่าทางความเคารพอยู่เสมอ มองดูแล้วก็ดูหงุ๋มหงิ๋มเหมือนเจ้าสัตว์ตัวจ้อยก็ไม่ปาน ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มซื่อตรงประจำตัว บรรยากาศรอบข้างให้ความรู้สึกน่าเข้าหาน่าชิดใกล้ ดูไร้พิษภัยเหมือนหมาขนฟูติดกระเป๋า บวกกับรูปร่างของเด็กวัยสิบสี่ปีที่ดูเล็กจ้อยก็ยิ่งทำให้ดูน่าทะนุถนอมมากกว่าเดิม เจ้าตัวไม่ต่างอะไรจากตุ๊กตากระเบื้องเคลื่อนที่ได้เท่าไหร่นัก 


    ส่วนสูง/นํ้าหนัก : 155 / 42

    กรุ๊ปเลือด : ㅇ

    ลักษณะการพูด : เป็นคนมีน้ำเสียงเล็กนุ่มนวลประหนึ่งวิ่งเล่นอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ อินงะเป็นคนที่พูดเสียงค่อนข้างเบาต้องใช้ความตั้งใจฟังอย่างสูง น้ำเสียงของเขาเนิบช้าแฝงแววความตะกุกตะกักเล็กน้อยจากลักษณะขี้อายของตน ไม่ได้ฟังดูอืดอาดแต่กลับเป็นการย้ำถ้อยย้ำคำให้ฟังเข้าใจได้ชัดเจนเสียมากกว่า คำพูดคำจาของเขาสุภาพอ่อนน้อมแสดงความมีมารยาทของเจ้าตัวออกมาอยู่เสมอ แทนตัวเองว่า ผม เรียกแทนคนอื่นว่า คุณ เสมอไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนตามด้วยคำลงท้ายคำพูดเสมอ 


    ex . 1

    " สะ สวัสดีครับทุกคน ผมยะสึระกิ อินงะนะครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ " เด็กหนุ่มร่างเล็กก้มโค้งหัวทักทายเพื่อนหน้าใหม่ที่ถูกบรรจุเข้ามาในหน่วย รอยยิ้มเปี่ยมสุขของเขาถูกยกขึ้นมาแต้มบนดวงหน้าจิ้มลิ้มของอินงะให้ดูสดใส มือเล็กกอบกุมเข้าหากันแน่นพลางบีบคลายความตื่นเต้นที่แล่นริ้วขึ้นมาแน่นพล่านทั่วจิตใจ

    ดวงตากลมเป็นประกายเจิดจ้า

    ต่อจากนี้ไปเขาจะมีเพื่อนเพิ่มมากขึ้นแล้ว


    ex . 2

    " อ๋า ระวังหน่อยสิครับ " 

    เสียงของเด็กน้อยอุทานดังลั่น มือเล็กประคองกล่องบรรจุหนังสือเล่มเก่าไว้แน่นเมื่อเห็นเพื่อนคาคุชิด้วยกันเล่นสนุกกันจนเกือบสะดุดล้มหน้าทิ่มพื้น แต่ยังดีที่อีกฝ่ายทรงตัวอยู่ได้ทำให้อินงะอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่ได้

    รีบก้าวขาไปเดินอยู่ข้างอย่างรวดเร็ว กวาดสายตามองสำรวจทั่วร่างกายของอีกฝ่าย เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย " ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ? "

    " ไม่ได้เป็นอะไร ดีที่เมื่อกี้ไม่ได้ล้ม " เจ้าตัวหัวร่อร่าเสียงดังส่ายหัวไปมาพรืดใหญ่จนเส้นผมสีเข้มตัดกับอินงะสะบัดไปไกลอากาศ คิ้วเรียวของเด็กหนุ่มขมวดมุ่นเข้าหากัน

    คนเป็นห่วงก็เป็นห่วงไปเถอะ

    ใจจะหาย 

    ส่วนคนที่โดนเป็นห่วงก็ไม่ใส่ใจอะไรเลย


    ex . 3

    ร่างเล็กใช้ความเงียบสงัดเป็นตัวแทรกตนเข้ามาท่ามกลางบรรยากาศอึดอัด เฝ้ามองบรรยากาศเย็นสบายกับแผ่นหลังอ้างว้างที่เหยียดตรงอยู่เพียงคนเดียวในพื้นที่เบื้องหน้าด้วยแววตาสั่นไหวชั่วครู่ ก่อนที่จะตัดสินใจก้าวเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย สะโพกเล็กทิ้งตัวนั่งชันเข่าลงบนผืนหญ้านุ่มเคียงข้างอีกฝ่าย

    " วันนี้อากาศดีจังเลยนะครับ " เสียงนุ่มว่าเรียบเรื่อย ปลายนิ้วยกขึ้นค้างกลางอากาศรับแมลงติดปีกตัวจ้อยอย่างผีเสื้อบินถลาลงมาเกาะบนปลายนิ้ว ปีกสีม่วงสวยกระพือกลางอากาศเนิบช้า สลัดผงสีอ่อนประจำตัวโปรยปรายลงมาเกาะลงบนผิวเนื้อขาวให้หลุดหัวเราะ " เพราะอากาศดี มันก็สมควรที่จะมีแต่รอยยิ้มมากกว่าความโศกเศร้านะครับ "

    ริมฝีปากบางคลี่เป็นรอยแย้มยิ้มหวาน

    สะท้อนภาพในดวงตาสีนิลชัด

    " ถ้าคุณไม่รังเกียจอะไร หรือคิดว่าผมเป็นแค่เด็กน้อย ผมสามารถให้ยืมอ้อมกอดได้นะครับ "

    สองแขนโอบกอดร่างของอีกฝ่ายพลางลูบฝ่ามือไปตามแผ่นหลังกว้างแผ่วเบาอย่างปลอบประโลม  หวังว่าสายลมที่พัดผ่านแผ่วเบานั้นจะพัดพาความเจ็บปวดของอีกฝ่ายให้จางหายออกไปด้วย


    ex . 4

    " ให้ตาย " อินงะอดที่จะพึมพำกับตัวเองไม่ได้ มือไม้สั่นระริกมองภาพตรงหน้าด้วยอารามบอกไม่ถูก ปากเล็กอ้าหุบหลายครั้งเหมือนปลาที่พะงาบอยู่บนพื้นดินอย่างขาดน้ำ 

    สภาพห้องฝุ่นเขรอะ กับเพื่อนร่วมงานที่นอนตัวชื้นเหงื่อทั้งอย่างนั้น

    คิ้วขมวดมุ่น แก้มกลมพองขึ้นแสดงความไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก เด็กตัวเล็กรีบเดินไปดึงแขนเสื้อของอีกฝ่ายด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดแม้จะขยับเพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถทำให้คนที่นอนกองกับพื้นตาปรือขึ้นมามองได้

    " ง่วง "  อีกฝ่ายว่าอย่างนั้น น้ำเสียงแฝงความเหนื่อยล้าอยู่เต็มถ้อยคำจนอินงะรู้สึกใจอ่อนยวบเป็นขี้ผึ้งลนไฟ ทว่าเขาไม่อาจทนกับสภาพสกปรกของอีกฝ่ายได้จึงทำแข็งใจกระตุกเสื้อปลุกอีกคนขึ้นมาอีกรอบ

    " ไปอาบน้ำก่อนครับแล้วค่อยนอน จากนั้นคุณจะนอนนานเท่าไหร่ก็ได้เลย "

    ขอแค่ไม่คลุกฝุ่นคลุกเหงื่อแบบนี้ก็พอ


    ex . 5

    " ฟู่ " ลมหายใจร้อนพรูออกมาผ่านริมฝีปากบางเฉียบ มือเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อเม็ดโตที่ผุดพรายมาบนหน้าผากขาวของตนออก ก่อนจะทิ้งร่างอ่อนยวบนั่งลงบนพื้นดินเหมือนผักเหี่ยวเฉาทันทีหลังเสร็จสิ้นภารกิจเก็บกวาด

    " เสร็จงานซักที " เด็กน้อยว่าด้วยดวงตาปรือปรอย ลำตัวเล็กพยายามนั่งตั้งตรงทว่าฝืนไม่ไหวจนโงนเงนไปมากลางอากาศ ประจวบเหมาะกับบรรยากาศสายลมเย็นยามค่ำคืนที่พัดพามาคล้ายเป็นเพลงกล่อมให้อินงะรู้สึกเคลิบเคลิ้ม

    ให้ตาย ปกติเวลาแบบนี้มันคือเวลานอนของเขาแล้ว

    เด็กวัยรุ่นควรนอนก่อนสี่ทุ่มไม่อย่างนั้นจะไม่โตนะ 


    นิสัย : 


    แหล่งผลิตความสดใสชูวิ้บชูวับของทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว — นำเสนอยะสึระกิ อินงะ เด็กน้อยหัวชมพูสารพัดประโยชน์หน่วยคาคุชิ ที่นอกจากเป็นฮีลลิ่งเคลื่อนที่ได้ ยังมีศักดิ์เป็นเบ๊คุณภาพอีกด้วย เป็นบุคคลที่มนุษย์หญิงสาวเห็นจะต้องมีคำเรียกว่า น้องงงงง ผุดขึ้นมาทันทีที่ได้สบแววตาใสแจ๋วไร้มลทินของเขา ความสดใสราวพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งที่สาดส่งลงมาทำให้คนอื่นมีความรู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก เวลาที่มองไปยังเด็กคนนี้ก็จะมีความรู้สึกเหมือนเป็นฟีลเตอร์ดอกไม้ฟรุ้งฟริ้งระเบิดบู้มมาเป็นแบล็คกราวแบบขยับดุ๊กดิ๊กขึ้นลงได้ ตัวของอินงะเป็นเด็กอายุสิบสี่ปีเจ้าของบุคลิกสุภาพเรียบร้อย ท่าทางดูหน่อมแน้มเก็บไม้เก็บมือเหมือนผู้หญิง ไม่ค่อยมีหน้ามีตาโดดเด่นเท่าไหร่นักเพราะเจ้าตัวขี้อายมากจนถึงที่สุด ไม่มีภูมิต้านทานต่อสายตาของคนอื่นเลยแม้แต่น้อย แข้งขาสั่นได้เสมอถ้าเกิดว่าตกเป็นเป้าสายตาคนอื่น เจ้าตัวจะล่กมาก มือไม้พันกัน ทำอะไรไม่ถูก ดีไม่ดีคือเลิ่กลั่กมากจนเดินสะดุดเท้าตัวเองหน้าทิ่มพื้น ขุดเอาคาร์แร็กเตอร์เปิ่นโก๊ะตามฉบับนางเอกนิยายตาหวานมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า ซุ่มซ่ามและข้อเข่าเสื่อมบ่อย อยู่ดีไม่ว่าดีเดินสะดุดยอดหญ้าล้มกลิ้งผ่านหน้าคนอื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ แสดงท่าทีน่าอายต่อหน้าคนอื่นในบ่อยครั้งมาก เสร็จแล้วเจ้าตัวก็จะมาปิดหน้าคร่ำครวญคนเดียวด้วยความหน้าบางถึงขีดสุด ขี้เขินชนิดที่ว่าคนเอานิ้วจิ้มแก้ม หน้าแดงแปรดตั้งแต่หน้าจรดปลายเท้า ภูมิต้านทานอะไรไม่มีทั้งนั้น เด็กคนนี้เป็นเพียงผ้าที่ยังไร้มลทิน สู้ไม่หวาดไหวกับผู้ใหญ่ที่เจนจัดสนาม น้องเป็นเด็กดี น้องเป็นเด็กน่ารัก น้องเป็นคนเก่ง ทุกคนต้องชมน้องที่เวลาน้องได้ยินเรื่องอะไรที่เด็กไม่ควรฟังน้องจะปิดหูไม่รับรู้ทันที

    เป็นหนึ่งในเหยื่อที่แกล้งได้สนุกมาก อินงะค่อนข้างเป็นเด็กซื่อบื้อ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเด็กโง่ แต่ด้วยอายุที่น้อยเจ้าตัวจึงถูกอบรมสั่งสอนมาให้เป็นเด็กที่เหมือนลูกหมาตัวโน้ย คือเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่และมีความอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ บอกว่าเป็นสัตว์กินพืช ก็คือสัตว์กินพืชที่ไม่มีอะไรแอบแฝงเลย น้องไม่มีความรว้ายรว้าย ไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกของตนอยู่ได้ แสดงออกมาทุกอารามจนสามารถสังเกตเห็นได้ชัด มีรีแอคชั่นที่จ้างน้องร้อยน้องจะเล่นล้าน เวลาสนใจอะไรตาจะเบิกตาโตเป็นประกายวิ้งวิ้งจนคนมองรู้สึกแสบตา อ้าปากกว้างเห็นฟันขาว เวลาอยากได้ก็มองตาละห้อย ถ้าเป็นอีกฝ่ายมีหูมีหางก็จะเห็นหูกระดิกยิก หางตีพื้นพั่บ ๆ แต่อินงะดันเป็นพวกไม่มีความกล้ามากพอ ไม่กล้าขอ ไม่กล้าเอ่ยปาก มีความขี้เกรงอกเกรงใจสารพัดสิ่งจนบางทีคนอื่นก็อยากจะจับน้องแล้วบอกใส่หน้าว่า โอ๊ย หนูลูก — ตะโกนใส่ไม่ได้นะ น้องเป็นสัตว์กินพืชขี้ตกใจกับขี้กลัว มักสะดุ้งเฮือกเป็นเด็กขวัญอ่อนทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังหรือเจอการกระโจนเข้าใส่หน้า ก็น้องตั้งตัวไม่ทัน อย่าทำน้อง

    บุคคลที่มีความนุบนิบนุ่มนิ่มในตัว ละเอียดอ่อน ทุกอย่างสำหรับน้องต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่เร่งรีบ น้องถือคติว่าน้ำใจเป็นหลัก การงานเป็นรอง น้องเป็นลูกเสือจิตอาสา มีจิตใจที่ดีงามราวนางงามพระรามแปด ชอบให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้ นางงามสาธารณะเป็นมิตรกับเด็กและสรรพสัตว์ เดินผ่านเศษขยะเล็กเท่าไม้จิ้มฟันก็ยังเก็บไปทิ้ง มีคนทำกระเป๋าตังค์ตกก็รีบเก็บกลับไปคืนเจ้าของ น้องจะรู้สึกแฮปปี้มากเกิดว่าได้ทำตัวมีประโยชน์ ให้ความรู้สึกเป็นสายไหมนุ่มฟูในสายตาคนอื่นจนอยากจะเป็นก้อนแล้วยัดเข้าปาก—แค่ก เป็นคนซื่อตรง ไร้เล่ห์เหลี่ยมการหลอกลวง เวลาอยู่ด้วยให้ความรู้สึกสบายใจและมีบรรยากาศที่เป็​นกันเอง อินงะเป็นผู้รับฟังที่ดี บ่อยครั้งที่จะมีคนจับเขามานั่งพ่นระบายความในใจที่อัดแน่นอยู่ในใจให้น้องฟังลากยาวเป็นชั่วโมง เป็นคนอื่นคือสัปหงกหลับคาที่ไปแล้ว แต่น้องก็ยังตั้งใจฟังเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกเสียน้ำใจ แม้ว่าน้องจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างในฐานะที่เป็นเด็กอายุน้อย แต่ถึงอย่างนั้นตัวอินงะก็เก่งกาจในหน้าที่ฮีลลิ่งชั้นดีของคนอื่น คอยปลอบโยนคนอื่นและให้กำลังใจทุกคนด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ ใส่ใจในทุกระดับประทับใจ ดูแลคนอื่นเก่ง และขี้เป็นห่วง เห็นแผลเป็นไม่ได้ต้องกระวีกระวาดลากคนอื่นมานั่งแปะทายาแปะพลาสเตอร์แม้จะเป็นแผลขี้ปะติ๋วเท่าขี้มดก็ตามที คนอื่น​มักบอกว่าไม่ต้องใส่ใจ แต่น้องก็จะบอกคนอื่นว่า—ถึงเป็นแผลแค่เล็กน้อยแต่ก็ต้องรู้จักเป็นห่วงตัวเองนะครับ อย่างน้อยเหยาะยาบรรเทาอาการไว้ซักหน่อยก็ดีจะได้ไม่ช้ำมาก คือน้องมองการไกลสำหรับทุกคนเป็นอย่างดี 



    เป็นเด็กน้อยที่ขยันขันแข็งต่อหน้าที่การงานมาก มุมานะตั้งใจในทุกการกระทำ​ หรืองานที่ได้รับมอบหมาย น้องจะทำให้ดีที่สุดอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ขนาดรถน้ำต้นไม้ที่ยังต้องเพ่งมองหยาดน้ำที่ตกกระทบใบตาไม่กระพริบ มีความกระตือรือร้นและพลังงานที่เหลือล้นในแต่ละวัน หลังจากพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้ามาแค่ครึ่งดวงนั่นคือเวลาตื่นนอนของน้อง อินงะตื่นเช้ามาก ด้วยความที่มีระเบียบวินัยในตัวเอง ใช้ชีวิตแบบเป็นตารางเวลา มีความคิดเป็นระบบที่แสดงถึงความละเอียดอ่อนรอบคอบ เจ้าตัวจะตื่นขึ้นมาจัดการตัวเองให้เสร็จสรรพก่อนแล้วเผื่อเวลาเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ

    ใครก็ว่าน้องเป็นเจ้าหนูจำไม น้องแค่มีความสงสัยใคร่รู้ตามภาษาเด็ก เวลาสนใจอะไรก็เอานิ้วเขี่ยจิ้มจึกอยากรู้อยากเห็น สงสัยอะไรก็จะนั่งจ้องอยู่อย่างนั้นทั้งวันแต่ไม่เปิดปากถาม —ต้องย้ำอีกรอบว่าน้องเป็นคนขี้อาย พอขี้อายก็ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง น้องไม่กล้าถามเพราะน้องกลัวเป็นสิ่งที่คนอื่นเขารู้กัน ส่วนน้องบ้านนอกคอกนาไม่รู้อยู่คนเดียวเลยปิดปากเงียบ น้องคิดว่าจะศึกษาด้วยตัวเองมากกว่า พยายามของน้องเหลือล้นเชียวนะ ความอดทนและความใจเย็นของน้องก็มีมาก ทำไมน้องจะหาคำตอบไม่ได้กันเล่า เสียอยู่อย่างเดียวคือน้องไร้ความเชื่อมั่นในตัวเอง ความคิดอย่างแรกที่ผุดขึ้นมาเลยคือตัวเองทำไม่ได้แน่ กดความสามารถและคุณค่าของตัวเองลงไปอยู่จุดที่ต่ำสุดจนน่ามะเหงกหัวซักที ความจริงน้องเป็นคนเก่งมีความสามารถ แต่น้องแค่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง หากว่าได้รับแรงผลักดันมากหน่อยก็จะดีขึ้น แต่พอไม่มีแรงผลักดันน้องก็จะกลับมาเหี่ยวเฉาเป็นผักกาดต้มเหมือนเดิม

    อาฮึ่ม น้องมีเรื่องจะเสนอ ว่าน้องมีอ่อนโยนมากกว่าผู้ใด ใจกว้างดั่งมหาสมุทรผู้โอบกอดโลก ละมุนละม่อมนุ่มนวลมากกว่าสายไหมจิตใจของน้องมีความเข้าอกเข้าใจในตัวคนอื่น และน้องเองก็สามารถสร้างรอยยิ้มแต่งแต้มบนหน้าให้กับผู้อื่นได้อีกด้วย น้องปลอบคนเก่ง ไม่ค่อยแสดงออกคำพูดแต่แสดงออกทางการกระทำซะมากกว่า อยากการทรีตเล็กทรีตน้อย พาคนอื่นไปทำกิจกรรมนู่นนี่นั่นให้ลืมความเศร้า แบ่งขนมนมเนยที่น้องชอบให้อีกฝ่ายหรือเบสิคสุดก็กอดมันซะเลย— ฮึ่ม น้องเป็นคนที่สามารถเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ในทุกเพศทุกวัย น้องอัธยาศัยดี มีความเป็นมิตร ไหลโอนอ่อนไปตามสถานการณ์รอบด้านได้อย่างเรียบเรื่อย ส่วนตัวน้องอันที่จริงเป็นคนพูดเก่งมาก แต่แค่ขี้อาย กับคนไม่รู้จักแทบจะไม่เปิดปาก อ้อมแอ้มถามคำตอบคำ ​แต่พออยู่กับเพื่อนสนิทขึ้นมาเมื่อไหร่จะเปิดปากพูดเจื้อยแจ้วไม่ยอมหยุด เห็นตัวแค่นี้แต่ขี้โม้ไม่เบาเลยนะ

    อาวุธที่ร้ายกาจของน้องคือรอยยิ้มและดวงตาอันใสซื่อ มีบุคคลมากมายพ่ายแพ้ต่อมันมานักต่อนัก— ลักษณะอาการคือเจอการที่น้องแสดงนิสัยขี้อ้อน ช้อนตาขึ้นมองก็ทำเอาใจอ่อนยวบยาบเป็นขี้ผึ้งลนไฟ เป็นอาวุธแอคแทคดาเมจเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าที่จะถูกน้องใช้เพื่อขนมหวานแสนรักของน้อง น้องยอมรับก็ได้ว่าน้องตะกละ เห็นขนมเป็นที่หนึ่งในทุกสิ่ง บางทีก็เผลอตัวถลาเข้าไปนัวเนียถูแก้มไถกับคนอื่นแบบไม่รู้ตัว ไอ้น่าเอ็นดูก็น่าเอ็นดูอยู่หรอกแต่มันก็ดูอยากบี้— อืม น่าบีบอยู่มากพอตัว

    เวลาว่างน้องมีงานอดิเรกที่ปุ๊กปิ๊ก น้องเป็นเด็กช่างฝัน มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอแม้ว่ามันจะเลวร้าย ความร่าเริงสดใสของน้องก็ยังจะคงอยู่ให้คนอื่นเฝ้ามองแผ่นหลังเล็กจ้อยนั่นในทุกการเติบโต กลับมาเรื่องงานอดิเรกของอินงะ เวลาว่างเจ้าตัวชอบเขียนไดอารี่ ตัดกระดาษเป็นรูปทรงน่ารัก หรือว่าฝึกสมาธิด้วยการวาดรูประบายสี บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องปัญญาอ่อน แต่นี่มันเป็นความชอบของน้อง— ความคิดของอินงะซื่อตรงต่อจิตใจ จนหลายคนรู้สึกนึกคิดอิจฉา ชอบอะไรก็ทำอย่างนั้น ไม่ชอบอะไรก็ไม่คิดที่จะทำ อาจจะเพราะว่าน​้องยังคงเป็นเด็กอยู่ก็ได้



    ทุกครั้งที่น้องได้รับความใจดีจากคนอื่นน้องจะส่งคำขอบคุณตอบกลับอีกฝ่ายไป และหวังว่าซักวันตัวเองจะตอบแทนบุญคุญนั้นได้ อินงะชอบเวลาเป็นที่รัก แต่ไม่ชอบติดหนี้ค้างคาใจ เจ้าตัวจะรู้สึกไม่สบายใจเป็นพิเศษ ยังไงก็ต้องหาทางมาตอบแทนบุญคุญให้ได้แม้ว่าคนอื่นจะโบกไม้โบกมือเป็นพัลวันว่าไม่ต้องก็ตามที ใครเคยทำอะไรให้เขาอินงะก็จะจดจำเอาไว้เสมอ เช่นเดียวกับคนที่เคยทำให้เขาไม่ชอบใจเขาก็จะจำไว้เช่นกัน ความจำของเขาดีมากเลยทีเดียวเชียว ใครที่อินงะไม่ชอบก็จะไม่ยุ่งด้วย เป็นรูปแบบความคิดที่ง่ายมากสำหรับคนอื่น ไม่สนใจ ไม่มอง แต่กระนั้นก็ไม่ได้โกรธเคืองหรือปะทุษร้ายใส่ อินงะถูกสั่งสอนมาให้มีความอดทนและความใจเย็นเหนือผู้อื่น มีเหตุผลมากกว่าอารมณ์จนดูเป็นผู้ใหญ่อย่างน่าชื่นชม​ วิธีการแก้ปัญหาคือการเจรจาต่อรอง​อย่างประณีประณอมเท่านั้น ไม่เอาความรุนแรง ไม่เอาเลือด ไม่เอาลุงตู่— แค่ก เจ้าตัวขยาดความรุนแรงเป็นที่สุด ทั้งชีวิตน้องไม่เคยตบตีใคร ขนาดมดเดินตัดหน้ายังไม่ฆ่า หยุดยืนรอให้มดเดินสิ้นขบวนก่อนค่อยเดินต่อ อีกอย่างน้องเหลาะแหละไม่ใช่เรื่องตลก เรี่ยวแรงน้อยแสนน้อย จะให้ไปชนกับใครคือไม่ชนะแน่นอน

    โกรธยาก และแสนอ่อนไหว เปรียบเสมือนแก้วที่พร้อมแตกร้าวได้อย่างเต็มที่หากเจออะไรกระทบกระทั่งจิตใจอย่างรุนแรง คุณสมบัติหลักของนางเอกนิยายคือร้องไห้เหมือนแม่เสีย ร้องไห้ได้อย่างง่ายดายหากว่ารู้สึกเศร้าหรือเจ็บ หกล้มเข่าถลอกก็ร้องได้เพราะว่าเจ็บ ดูหนังเศร้าสะเทือนอารมณ์ก็ร้องไห้โฮหมดทิชชู่ไปเป็นม้วน น้องเก็บงำอารมณ์ไม่เป็น อย่าว่าน้อง น้องกำลังพยายามเข้มแข็งอยู่ — ส่วนเรื่องโกรธยาก น้องโกรธยากจริงจนคนอื่นคิดว่าน้องจิตใจดีมากเกินไป ความซื่อของน้องทำให้น้องเชื่อคนง่าย บ่อยครั้งที่มักถูกแกล้งแรง ๆ หรือว่าโดนหลอก น้องก็ยังไม่เคยคิดที่จะมีความกราดเกรี้ยวอะไรกับคนที่ทำ — ถึงแม้ว่าน้ำตาจะคลอหน่วงแล้ว อีกนิดจะไหลแหมะลงมาตามข้างแก้มแล้ว

    อีกนิดจะกลายเป็นกุลสตรี— อินงะเก่งด้านงานบ้านงานเรือน เขาทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ อาจจะเป็นเพราะเป็นคนที่ประณีตบรรจง​กับทุกสิ่งอย่าง มือไม้เบาจับวางทุกยาวราวกลัวว่าจะมันเจ็บปวด ด้วยความที่เป็นคนที่ทำงาน​อยู่เบื้องหลังเลยต้องเน้นความละเอียดอ่อนมากกว่าปกติ อินงะเก่งงานสายบุ๋นมากกว่าบู๊ จะให้เขาไปจับดาบฟันอสูรมีหวังเขาเองที่จะเป็นฝ่ายถูกอสูรเขมือบหัว เด็กน้อยมีจินตนาการที่ล้ำเลิศ มโนล้ำเลิศไปสามโลกแปดบ้าน คิดเองเออเองเก่งและช่างคิดไปไกลพอคิดเองปุ๊ปก็กลัวเองปั๊ป ให้มันได้อย่างงี้สิ ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร แต่ความจริงคือมีไอเดียบรรเจิดกับความคิดแสนสร้างสรรค์หลายอย่างผุดขึ้นมาในความคิดของเจ้าตัวเชียวนะ ว่าวันนี้จะมีแผนการเก็บกวาดอะไรยังไงแบบนั้นเลย

    รักความสะอาด เป็นระเบียบในตัวเอง เต็มไปด้วยกฎที่เคร่งครัดต้องทำอย่างมุ่งมั่น ปฎิเสธในความซกมก ต่อต้านในความสกปรก ถ้าเป็นคนรู้จักไม่อาบน​้ำก่อนเข้านอน เตรียมใจไว้ได้เลยว่าจะโดนอินงะยื้อแย่งฉุดกระชากให้ไปอาบน้ำในที่สุด ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนต้องถูกซักจนหอมฟุ้งในทุกระเบียดนิ้ว แม้กระทั่งตัวของเขาก็จะต้องอาบน้ำในจนสะอาดหอมกลิ่นแป้งเด็กนั้นคือคำนิยามของเขา



    ถือเป็นคนปกติในดงคนไม่ปกติที่สุดแล้ว ต้องยอมรับว่าน้องอ่อนแอ ความบ้าเลือดบ้าดีเดือดคือไม่มีอยู่ในตัวเลย ถามว่าน้องอยากจะเข้าร่วมตี้รุมตีบอสด้วยรึเปล่า สิ่งที่เห็นก็คือน้องจะส่ายหน้าพรืดจนเส้นผมปลิวไสวปรกเต็มใบหน้าทันที ท่าทางเหลาะแหละดูน่าขย้ำคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะสามารถมีชีวิตอยู่รอดท่ามกลางดงอสูรแบบนี้ได้ทั้งที่อ่อนแอขนาดนี้ แต่ความเป็นจริงคืออินงะเอาตัวรอดเก่ง เชื่อในความเป็นไปได้อยู่เสมอ รู้จักพลิกแพลงสถานการณ์ ซึ่งนั่นก็เป็นตัวบ่งบอกได้ว่าแท้จริงเด็กคนนี้ฉลาดไม่เบา เขาไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเอง แต่แค่ไปอยู่ในร่มเงาของคนที่แข็งแกร่งให้แผ่บารมีออกมาปกป้องตัวเองเท่านั้นก็พอใช่รึเปล่าล่ะ? — เขาแสดงภาพลักษณ์ของตนว่าเป็นเหยื่ออ่อนแอ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถขย้ำคอเขาได้โดยง่าย สัตว์กินพืชตัวนี้รู้จักวิธีหนีตายที่ทำให้ผู้ล่าไม่กล้าเฉียดเข้ามาใกล้ได้เป็นอย่างดี แน่ล่ะ เพราะเขาไม่ได้มีฝีมือด้านดาบ ไม่สามารถร่วมต่อสู้ได้ สิ่งที่ทำได้คือการซุกซ่อนอยู่ใต้เงาคนอื่นเพื่อทำงานตัวเองและทำได้เพียงแค่หวังภาวนาให้เหล่านักล่าปลอดภัยเท่านั้น

    แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่อิงงะจะมีสีหน้าและแววตาที่ฆ่าคนได้ กล่าวได้ว่าเจ้าตัวไร้พิษไร้ภัยมาโดยตลอด ลำพังแค่ปกป้องตัวเองยังจะเอาตัวไม่รอด ท่าทางเด๋อด๋าดูน่ารัก​น่าเอ็นดู หนำซ้ำยังดูน่าทะนุถนอมไว้ในอ้อมกอดราวลูกแมวตัวจ้อยช่างร้องเมี๊ยวเสียอีก จะเอาที่ไหนมาข่มขู่ชาวบ้าน หลายคนแอบคิดระแวงเด็กหนุ่มไว้ว่าความจริงแค่สร้างภาพสร้างตัวตนขึ้นมา แท้จริงนี่ก็เป็นตัวตนของอินงะ เด็กน้อยที่เต็มไปด้วยสีสันละลานตา ยังคงเหลือไปด้วยความรักสนุกสนาน ขี้เล่น ความซุกซนตามภาษาเด็กน้อย ปลดปล่อยตนล่องลอยไปกับสายลมที่พัดแผ่วเบา

    ไร้ความน่าเกรงขาม ถ้าจะให้เขาทำหน้าที่เป็นผู้นำนั้นนอกจากจะไปไม่รอดแล้วยังไม่มีใครให้ความเคารพอีกเป็นแน่แท้ ผู้นำที่ถูกคนอื่นยีหัวเล่นไม่น่าเกรงขามเอาซะเลย อินงะเป็นเด็กน้อยที่พยายามทำตัวเองให้ดูใจกล้า ขู่ฟอดฟ่อเป็นแมวพองขนขึ้นต่อหน้าคนอื่น สุดท้ายก็คุมชาวบ้านไม่อยู่อยู่ดี — ซึ่งคนอื่นก็ไม่มี ไม่มีกระทั่งความรู้สึกที่ว่าหวาด​กลัวผุดขึ้นมาในใจซักเสี้ยว หนำซ้ำตัวน้องเองยังเป็นพวกช่างเลือกเหลือเกิน จิตวิญญาณแม่บ้านเหมือนตอนเลือกระหว่างเป็ดโปรกับมาจิคลินเทือกนั้น ลังเลเก่ง จะจิ้มอันนี้หรืออันนี้ดีนะ ดังนั้นแม้ว่าตัวอินงะจะไว้ใจได้และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่สูง แต่เพราะรัศมีบารมีที่ไม่มีเลยกับความขี้ลังเลที่ไร้ความเด็ดขาดของเขาก็ทำให้อินงะไม่เหมาะกับตำแหน่งอะไรที่ใหญ่โตเลย

    พยายามทำตัวเองไม่ให้ดูเป็นตัวน่ารำคาญ แต่ก็อดไม่ไหวที่จะบ่นและทำตัวจุกจิกไปอยู่บ่อยครั้ง เวลาที่เห็นอะไรที่ทำให้รู้สึกขวางหูขวางตาตัวเอง ปากบ่นไปมือก็ช่วยจัดของนู่นนี่นั่นไป พอเห็นสีหน้าของคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนใจอยู่ดี จุดอ่อนที่สำคัญของอินงะอยู่ตรงคำว่าขี้ใจอ่อนและขี้สงสาร เจ้าตัวตามมารยาเล่ห์เหลี่ยมไม่ค่อยทันนักหรอก แค่ตีสีหน้าให้ดูน่าสงสารก็จะล่กแล้ว— ใจอ่อนเป็นเทียนเหลวไม่บ่นอะไรต่ออีก อินงะคือบุคคลที่ไร้ความน่ากลัว รังสีข่มขู่ไม่มี ลำพังแค่จะดุคนอื่นยังไม่กล้าทำเพราะกลัวเขารู้สึกไม่ดี โถ น้อง ถ้าพูดไปถึงเรื่องใช้กำลังนะ ฝันไปเลย แค่ตีเบา ๆ ยังไม่คิดจะทำด้วยซ้ำ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดิบดีว่าอินงะเป็นเด็กดีขนาดไหน


    งานอดิเรก : รดน้ำต้นไม้ , จดบันทึกไดอารี่ , ทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูสิ่งสกปรก , ถักไหมพรม , ถักนิตติ้ง , เล่นกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง , วาดรูประบายสี


    สิ่งที่ชอบ/สิ่งที่ไม่ชอบ : 

    - ขนมหวาน ( สวรรค์บนโลกของน้อง รู้สึกสุขใจทุกครั้งที่ได้ลิ้มลองรสชาติหวานฉ่ำที่แผ่ซ่านไปทั่วในโพรงปาก)​

    - นมสตอเบอร์รี่ ( ชอบมากกว่าทุกนม รู้สึกนุบนิบตอนกิน)​

    - ตุ๊กตา ( เป็นเพื่อนคลายเหงาในเวลาว่างของอินงะ เลยทำให้เขาจัดพวกมันมาอยู่ในหมวดหมู่ความชอบด้วย)​

    - ความสะอาด ( หึ แน่นอน ทุกอย่างต้องเรียบร้อยและหอมฟุ้งสำหรับอินงะ)​

    - การจดบันทึก ( ในเวลาว่าง เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดลงบนหน้ากระดาษทำให้เขารู้สึกสบายใจมากเป็นพิเศษ)​

    - ครอบครัว ( เป็นที่รักยิ่งเลย คนคอยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก จะไม่รักก็แปลก )​

    - เหล่าสัตว์น้อยใหญ่และธรรมชาติ ( เพื่อนที่เคียงข้างเขาในเวลาเหงาและปล่าวเปลี่ยว )

    - ลูกพีช ( เหตุผลของความชอบคือมันดูนุบนิบน่ารักดีแบบบอกไม่ถูก )​

    - สีขาว ( สีแห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ทำให้รู้สึกสบายตาเวลาเมียงมอง )​

    - การได้ทำตัวมีประโยชน์  (  จะรู้สึกรักตัวเองขึ้นมาเลย ในเมื่อได้ทำตัวเองให้มีคุณค่าต่อสังคม สร้างความสุขแก่ตนเองและคนอื่น )​

    - ลูกข่าง (  ตามภาษาเด็กน้อยที่ยังชื่นชอบการละเล่นตามภาษาอยู่ มักพกลูกข่างไปไหนมาไหนตลอด เวลาเบื่อก็เอามาเล่น )​

    - ภาพวาดงานฝีมือ ( รู้สึกว่าคนที่สามารถรังสรรค์มันออกมาอย่างมีอารมณ์ร่วมคือคนที่สุดยอดมากเลย )​

    - สีเทียน ( เป็นแท่งสีปุ๊กปิ๊กที่ทำให้ความรู้สึกน่ารักมาก ๆ บ่อยครั้งที่อินงะจะใช้มันวาดระบายสีเหมือนเด็ก ๆ บ่อย ๆ )


    /


    - แครอท ( ผลไม้สีส้มทำให้อินงะรู้สึกแหยะมากเป็นพิเศษ ชอบแอบเขี่ยมันออกนอกจานเสมอ บ่อยครั้งที่เจ้าตัวจะหลุดแสดงหน้าเบะปากงอแงออกมาเวลาโดนครอบครัวบังคับกิน )​

    - การตกเป็นเป้าสายตา ( ไม่ชอบการถูกจ้องมองมากจะทำให้เจ้าตัวทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นระวิงพันกันมั่วซั่ว )​

    - ความสกปรก ( ทุกอย่างต้องหอมฟุ้ง! )​


    สิ่งที่เกลียด : 

    - เลือด ( ยังมีความรู้สึกแหยะอยู่ ตามภาษาคนที่ไม่ชอบความสกปรกเลอะเทอะอย่างเขา)


    สิ่งกลัว : 

    - ซากศพ ( เป็น​ความฝังใจ​มาตั้งเเต่​แรกเริ่มทำงาน เห็นศพมนุษย์ศพอสูรกลายเป็นเศษเนื้อ ตั้งแต่นั้นก็ทำให้ใจหวิวมือสั่นทุกครั้งที่เห็น แต่ก็ไม่ได้กลัวจนถึงขั้นสิ้นสติอะไร แค่รู้สึกแหยะมากกว่า )​

    - แมลงสาบ ( แม้จะใจดีกับสรรพสัตว์ทั้งหลายแหล่ แต่พอเป็นน้องปีกน้ำตาลตัวนี้ก็เหมือนหยุดทุกความเอ็นดูขึ้นมาซะอย่างนั้น ผวาเฮือกทุกการขยับตัว )

    - ความเจ็บปวด ( ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกกลัวกันทั้งนั้น แค่สะดุดล้มเข่ากระแทกพื้นเจ้าตัวยังน้ำตาร่วงเผาะอาบแก้มเป็นระลอกคลื่นเลย )

    - ความตาย ( เช่นกันกับความเจ็บปวด อินงะมีวิธีต่อต้านต่อความตายที่จะคืบคลานเข้ามาหาตัวเองด้วยการสั่นกลัวและหลั่งออกพร้อมกับน้ำตา )​


    แพ้ : -​


    ประวัติ : 


    ยะสึระกิ อินงะ บุตรชายคนสุดท้องจากตระกูลยะสึระกิ การเติบโตเต็มไปด้วยความรักเอาใจใส่จากคนในครอบครัว เด็กหนุ่มจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยมีพี่ชาย ก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้นกันระหว่างพี่ชายและผู้เป็นพ่อทำให้อีกฝ่ายระเห็จหนีออกไปจากบ้าน เมื่อไร้พี่ชาย คนที่พ่อคาดหวังให้รับตำแหน่งสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลคอยประคองตระกูลยะสึระกิต่อคนเป็นพ่อก็เหมือนแก่ลงไปประมาณสิบปี ในระหว่างนั้นเศรษฐกิจทางบ้านของเขาก็เริ่มย่ำแย่ขึ้น ตัวพ่อของเขานั้นเริ่มแก่ตัวลง การบริหารอะไรก็ไม่ได้ดีเท่าเดิม เริ่มเลอะเลือนหลงลืมไปหลายอย่าง คนอื่นภายในครอบครัวเริ่มเคร่งเครียดเช่นเดียวกับตัวอินงะที่แม้จะไม่เข้าใจอะไรก็อยากแบ่งเบาภาระคนในครอบครัว ตอนนี้พวกเรากำลังบริหารมรดกเก่าแก่จากรุ่นทวดที่เคยสะสมเอาไว้ไผทีละนิด ต่อให้มีเยอะขนาดไหนแต่นานวันก็ต้องหมดไป กระทั่งอินงะเหมือนได้เจอกับโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับอาชีพในองค์กรหนึ่ง มันไม่มีทางเลือกเยอะมากนักกับความยากจนที่ไม่เข้าใครออกใคร อินงะตัดสินใจบรรจุตัวเองมาทำงานในหน่วยคาคุชิเพื่อช่วนแบ่งเบางานและหาเงินเลี้ยงครอบครัว ตอนแรกนึกว่าจะเป็นภาระหน้าที่ธรรมดา แต่พอเห็นสภาพการฆ่าฟัน ซากศพล้มตายต่อหน้าต่อตาก็ทำเอาหลอนไปเป็นวัน ครั้งแรกของการทำงานอินงะอาเจียนออกแทบหมดไส้หมดพุง เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอมนุษย์อย่างอสูร — ปีศาจร้ายน่าเกลียดน่ากลัวที่ไม่เคยคิดว่าจะมีชีวิตอยู่จริงบนโลก หลังจากนั้นอินงะก็พยายามข่มใจตนทำใจให้สงบเยือกเย็นลงแม้จะไม่ได้ผลเลยก็ตาม ทำงานตามหน้าที่โดยท่องเอาไว้ว่าเพื่อเงิน เพื่อเงิน เพื่อเงิน คอยทำงานเล็กน้อยอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอดโดยไม่ย่อท้อ เฝ้ามองแผ่นหลังแข็งแกร่งของเหล่านักล่าอสูรขณะที่ตนทำหน้าที่เก็บกวาด หวังว่าซักวันหนึ่งเขาจะสามารถเป็นแบบคนพวกนั้นได้

    — มีพี่ชายเป็นนักล่าอสูรแต่เจ้าตัวไม่ได้รู้อะไรบ้างเลย อยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อมมือแต่ดันจำหน้าคนเป็นพี่ไม่ได้


    ปราณ : -​

    ดาบนิจิริน : -​

    เครื่องแบบ : -​


    ความสามารถพิเศษ1 :

    - ความว่องไวของร่างกาย : เป็นคนที่เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว ร่างกายคล่องแคล่วว่องไวและดูคล่องตัว สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางตรงหน้าได้อย่างรวดเร็ว เป็นความสามารถที่ได้มาจากการทำงานในหน่วยคาคุชิที่ต้องใช้เวลารวดเร็วในการเก็บกวาด

    - ร่างกายเบาหวิว : สัมผัสของอินงะเบาราวปุยนุ่น ฉกขโมยทุกอย่างได้อิสระแต่แน่นอนว่าไม่เขาไม่เคยคิดที่จะทำอะไรแบบนั้น แทบไม่มีเสียงในทุกการเคลื่อนไหว งานย่องเบาคือทำได้แบบไม่มีคนจับได้แน่นอน 


    ความสามารถพิเศษ2 : 

    - ดึงดูดผู้คน : มีความรู้สึกผ่อนคลายเบาสบาย​แผ่ออกมาจากตัวทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกต้องการอยากจะเข้าหา

    - งานบ้านงานเรือน / งานละเอียดอ่อน / งานฝีเข็ม : ทำได้แทบทุกอย่างแถมทำได้ดีมากด้วย บ่อยครั้งที่เจ้าตัวไปนั่งปักลายบนเสื้อผ้า เวลาว่างบางทีก็นั่งถักไหมพรม​เป็นเสื้อ ถักนิตติ้งเป็นผ้าพันคอ

    - แยกแยะประเภทสมุนไพร : เคยได้รับการสอนจากรุ่นพี่นักล่าอสูรในหน่วยพิฆาตอสูรที่มีโอกาสได้พบปะกัน อินงะเลยมีความสามารถแยกสมุนไพรพิษ สมุนไพรไม่มีพิษออกได้ด้วยการมองหรือการดมกลิ่น

    - การปฐมพยาบาล : ทำแผลเป็น มีความรู้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วยในสถานการณ์คับขันยกเว้นแต่แผลใหญ่ที่ต้องผ่าตัดหรือเย็บแผล อันนั้นไม่รอด หน้าซีดปากสั่นรอแพทย์อย่างเดียว


    รสนิยมทางเพศ/สเป็คที่ชอบ : อันที่จริงยังเด็กอยู่ ไม่มีความคิดที่ว่าจะมีคนรักหรืออะไรยังไง แต่ถ้าจะชอบ — ต้องแนวรุ่นพี่ที่ดูแลตัวเองได้ แถมดูแลเขาได้ด้วย คอยปกป้องน้องทีนะ เพราะน้องอ่อนแออ้อแอ้ไปตีบวกกับใครเขาไม่ไหว เป็นบังเกอร์ให้น้องพักพิงได้ดี น้องจะดูแลเอาใจใส่ทำขนมนมเนยไปให้กินเป็นอย่างดี ??’?


    บุคคลที่เกี่ยวข้อง :: 

    - ยะสึระกิ ชินสุเกะ : เป็นพี่ชายของอินงะ ซึ่งคนน้องจำหน้าคนพี่ไม่ได้ ส่วนคนพี่ก็คิดอยากจะแกล้งน้อง มองน้องดิ้นรนใช้ชีวิตอย่างไม่ปกป้อง ไม่ได้มีความผูกพันอะไรมากขนาดนั้นกับคำว่าพี่ชายค้ำคอเลยตามดูไม่ปล่อยให้น้องตาย พอมองน้อง เอ้อ ก็น่าเอ็นดูดี ช่วยนิดช่วยหน่อยก็ได้

    - ครอบครัวยะสึระกิ : ครอบครัวที่รักยิ่งและตอนนี้กำลังเข้าสู้สภาวะยากจน อินงะต้องกอบกู้เอกราชความเป็นไปของปวงประชากรในบ้าน


    เหตุผลที่มาเข้าร่วมหน่วยนี้ : เหตุผลที่เข้าร่วมคือครอบครัวกำลังจะยากจนและแร้นแค้น ในฐานะลูกที่ดี น้องจะหาเงินให้คุณพ่อคุณแม่มาใช้กินนอนกิน ( /ชูแขน)​ กับอย่างน้อยก็ได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน


    เทคนิคในการฆ่า : -​

    * จิตใจเด็กน้อยไม่เคยแตะต้องดาบหรือรบราฆ่าฟัน ไม่มีความคิดที่อยากจะฆ่าอสูรอยู่ในหัวเลย ได้แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหล่านักล่าอสูรคนอื่น ส่วนเขามีหน้าที่แค่คอยตามเก็บกวาดก็เป็นพอ


    ความรู้สึกที่มีต่ออสูร : เป็นความรู้สึกที่เหมือนมองเพื่อนร่วมโลกด้วย​กัน ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจและรู้สงสารเมื่อต้องมองเพื่อนร่วมโลกถูกเข่นฆ่า เด็กน้อยจะสะเทือนใจมากพิเศษ ทุกครั้งหลังจากเก็บกวาดตามหน้าที่ เจ้าตัวจะกลับมาสวดมนต์ภาวนาขอวิญญาณอสูรเหล่านั้นไปสู่สุคติเสมอ


    ในยามสังหารอสูร : -​


    ข้อมูลเพิ่มเติม :

    - มีสัตว์เลี้ยงเป็นลูกเสือขาวพาดลายดำ ตั้งชื่อว่า ' ชิโระ '​ ที่แปลว่าสีขาว

    - เป็นน้องชายของชินสุเกะที่ไม่ได้เจอหน้าพี่ชายมานานมากจนลืมไปหมดแล้ว พอตามเข้ามาทำงานเบื้องหลังก็มักจะเห็นผู้ชายหน้าหล่อมาตามส่องตามกวนจนน่าประหลาดใจ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่านั่นเป็นพี่ชายเจ้าตัว มีสิทธิ์ที่คนจะมีนามสกุลซ้ำกันตั้งเยอะแยะ อีกอย่างความทรงจำของอินงะก็ค่อนข้างเลือนลางเนื่องจากอีกฝ่ายถูกไล่ออกจากบ้านตั้งแต่เขายังเด็ก มีก็แต่ชินสุเกะที่ยังจำน้องชายของตัวเองได้

    - เป็นตัวละครที่ปั่นออกมาได้กาวมากเช่นกัน ได้แรงบันดาลใจมาจากสาวน้อยเวทย์มนต์น้องเลยออกมาในรูปแบบนี้ จะเป็นยังไงก็อยู่ที่ไรท์ขีดเส้นทางให้น้องเลือกเดินเลยค่ะ ไม่เหมาะกับบทนี้ก็เอาไปยัดบทนั้นก็ได้ ได้ทุกอย่างที่จะต้มยำทำแกงน้องเลย ซึ้งใจอย่างหนึ่งคือเป็นตัวละครแรกที่ไม่ใช่เด็กมีปม เสาหลักที่ปั่นคือคนหนึ่งมีปมเป็นเด็กมีปัญหา อีกคนมีปมเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ อีกคนก็มีปมเกี่ยวกับเรื่องของความเป็นผู้หญิง พี่ชายก็มีปมโดนไล่ออกจากบ้าน เป็นเด็กที่เติบโตมาอย่างมีคุณภาพที่สุดแล้วค่ะ /ผายมือ แต่ในอนาคตไม่รู้เหมือนกันว่าน้องจะสุขภาพจิตเสียและกลายเป็นพวกประสาทแดกเหมือนเสาหลักหมอ— แค่ก ไม่ได้พาดพิงใคร จะกลายเป็นคนประสาทกินรึเปล่า 

    - มักพกกระเป๋าเป้ติดตัวตลอดเวลา ในนั้นจะมีของกู้ชีพสารพัดประโยชน์ตั้งแต่ขนมขบเคี้ยวอย่างช็อคโกแลตแท่งเล็ก , อุปกรณ์เย็บผ้าขนาดพกพา , พลาสเตอร์ติดแผล , หยูกยาต่างๆ , ผ้าเช็ดหน้า , ทิชชู่เปียก ที่บางทีก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวยัดเข้าไปได้ยังไงกัน

    - ปลาบปลื้มเสาหลักตะวันมากเป็นพิเศษ ชื่นชมความเป็นผู้ใหญ่และสงบเสงี่ยมของอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก เป็นอินสปายเรชั่นในการใช้ชีวิตของน้อง พยายามทำตัวให้ดูน่าเกรงขามเหมือนเสาหลักตะวัน แต่แน่นอนว่าทำไม่ได้

    - ตัวอินงะเองอย่างที่รู้กัน เจ้าตัวเป็นเด็กอนามัยมาก วันไหนที่ไม่มีงานคือนอนก่อนสามทุ่มเป็นอย่างต่ำ แหกตาอยู่ดึกดื่นไม่ค่อยจะไหว ร่างกายอ่อนเพลียตามภาษาเด็กที่ต้องการได้รับการพักผ่อน 

    - ไม่แน่ใจว่าหน่วยคาคุชิจะมีดาบนิจิรินรึเปล่า จากในอนิเมะเราก็ไม่เห็นว่าจะมีเลยเลือกที่จะไม่ใส่มานะคะ เพราะน้องไม่มีปราณด้วย หากความคิดไรท์จำเป็นต้องมีก็รบกวนบอกด้วยนะคะ แฮ่ 

    - แบกเหล่าสาวน้อยขึ้นหลังได้แต่ว่าถ้าเป็นผู้ชายตัวโตขึ้นมาหน่อยจะเกินความสามารถอินงะไปมาก เขาอ่อนแอก็จริงแต่ไม่ได้ผอมแห้งแรงน้อยจนถึงขั้นจับดาบไม่ขึ้น อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งเลยเวลาที่ต้องไปลงสนาม จะรับหน้าที่แบกนักล่าอสูรผู้หญิงมากกว่าเพศเดียวกัน ก็ผู้หญิงตัวเบามากกว่าผู้ชาย เขาแบกขึ้นอยู่แล้ว ให้อุ้มท่าเจ้าสาวก็ได้ถ้าบางทีไม่กลัวกระเทือนแผลพวกเธอล่ะนะ 


    คุยกับนักเขียน

    ไรท์ ; สวัสดีค่าไรท์มีชื่อว่าใบหม่อนนะคะ มีนามแฝงว่าสมายด์ อยากทราบชื่อของทางนั้นจังเลยค่ะ!

    ♥ ; ควินน์คนเดิมเพิ่มเติมคือคนที่ห้าค่ะ /เหม่อ ไม่รู้ว่ามาถึงจุดนี้ได้ยังไง


    ไรท์ ; ชื่อน่ารักจังค่ะ/// ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณที่เข้ามาสมัครน้า แต่ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้เหรอคะ? //เลิกลั่กๆ

    ♥ ; ติดไยบะค่ะ แหะ เอาง่ายเลย ตอนนี้คือหนีมาปั่นตัวละครพักฟื้นหัวใจ ฮุก


    เข้าใจแล้วค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่าขึ้นชื่อว่า Yaiba ต้องมีคนตายอย่างแน่นอนรวมถึงการมีฉากที่รุนแรง คือในเรื่องนี้น่ะค่ะจะยอมรับได้มั้ยถ้าเกิดลูกๆของทางนั้นจะต้องโดนทรมาณ?และนอนแบบไม่ฟื้นขึ้นมาอีกTT

    ♥ ; ไม่มีปัญหาเลยค่ะ จากสภาพก็ดู — เอ่อ น่าจะรอดยากอยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นเราปล่อยให้ไรท์ต้มยำทำแกงน้องได้ตามใจชอบเลย ลูกของเราเป็นของไรท์ตั้งแต่เรายัดน้องเข้าเรื่องแล้วค่ะ


    ดังนั้นแล้วเพื่อเป็นการฮีล?หัวใจ อยากจะให้น้องในเรื่องทำอะไรในเนื้อเรื่องดีคะ? ใช้ดาบฟันลุงข้างบ้านก็ได้ค่ะ//โดนตรบ รีเควสมาได้เลยค่า

    ♥ ; ขอโมเม้นต์พี่น้องจำหน้ากันได้ให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยหน่อยค่ะ อยากเห็นน้องออดอ้อนพี่ เอิ้ก ส่วนพี่ก็ยิ้มละมุนละไมนุ่มนวลเป็นคุณชาย ฟีลเตอร์ดอกไม้ดุ๊กดิ๊กปะทะกับฟีลเตอร์น้ำหยดลงบนไม้ไผ่ 


    ถ้าเกิดมีส่วนที่ต้องปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมไรท์จะแจ้งให้ทราบอักทีนะคะ โชคดีค่า ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ 3

    ♥ ; รับทราบค่ะ ขอบคุณมากนะคะ น้องน่าจะเป็นตัวสุดท้ายฝั่งคนดีกู้โลกแล้วค่ะ จะบอกว่าแอบไม่ถนัดกับสายศีลธรรมเท่าไหร่เลย เราขอปักหลักรอใบสมัครฝั่งอสูรนะคะ ชอบนักเป็นตัวร้ายเนี่ย กร้าก

                 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×